ชื่ออังกฤษ : The Man Who Knew Infinity
ชื่อไทย : อัจฉริยะโลกไม่รัก
ประเภท : ภาพยนตร์
แนว : ดราม่า
ผู้กำกับ : Matt Brown
ผู้เขียน : Robert Kanigel
ความยาว : 1 ชม. 48 นาที
ฉาย : 12 พฤษภาคม 2016
“อายุ 10 ขวบ ท่องตรีโกณได้ทั้งเล่ม
อายุ 12 สร้างทฤษฎีคณิตของตัวเอง
อายุ 20 ถูกไล่ออกเพราะไม่มีเงินจ่ายค่าเรียน
อายุ 30 ถูกเชิญร่วมกลุ่ม ศาสตราจารย์ทางคณิต มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์
แต่ไม่เคยถูกยอมรับ
จาก ‘อัจฉริยะ’ ที่กลายป็น ‘คนซึมเศร้า’
ที่ถึงจะเก่งแค่ไหน ก็มักจะถูกมองเป็นคนชั้นต่ำอยู่ตลอดเวลา”
และนี่ คือสรุปความสั้นๆ ของ รามานุจัน นักคณิตศาสตร์อัจฉริยะ ชาวอินเดีย ชายหนุ่มที่มีจิตวิญญาณหลอมรวมเป็นหนึ่งกับคณิตศาสตร์ ผู้ที่จะทำให้เราเข้าใจคำว่า “คณิตศาสตร์บริสุทธิ์” เป็นเช่นไร และต้องตั้งคำถามถึงความเป็นไปได้ หาก “เพชร” อย่าง รามานุจัน ได้มาอยู่ในโลกปัจจุบัน…
Source : Twitter @filmfanthailand และ @nattChou
โดยหนังเรื่องนี้ สร้างมาจากเรื่องจริงของ ศรีนิวาสะ รามานุจัน นักคณิตศาสตร์อัจฉริยะชาวอินเดียที่อาภัพที่สุด ซึ่งถูกถ่ายทอดผ่านปลายปากกาของ โรเบิร์ต คานิเกล (Robert Kanigel) จากวรรณกรรมยอดขายอันดับ 1 “รามานุจัน อัจฉริยะไม่รู้จบ THE MAN WHO KNEW INFINITY” ก่อนจะได้ เดฟ พาเทล (Dev Patel) จาก Slumdog Millionaire และ Chappie มาสวมบทบาทของ รามานุจัน และได้ แมท บราวน์ (Matt Brown) มารับหน้าที่กำกับ
เรื่องย่อ
เรื่องราวการเผชิญโลกของ รามานุจัน ชายหนุ่มจากเมืองอีโรด ทางตอนใต้ของอินเดีย เติบโตในครอบครัวยากจน แต่กลับมีความเป็นอัจฉริยะด้านคณิตศาสตร์ โดยที่ตัวเขาเองเชื่อว่าได้รับมาจากพระเจ้า
จนเมื่ออายุ 30 ปี จดหมายของรามานุจันถูกตอบรับจาก จี.เอช.ฮาร์ดี้ และได้ถูกเชิญเข้าร่วมกลุ่มศาสตราจารย์ทางคณิตศาสตร์ ณ มหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ แต่ถึงอย่างนั้น สิ่งที่เขาได้รับจากสิ่งที่เขาเชื่อมั่นมาตลอด กลับไม่เป็นที่ยอมรับ อีกทั้งยังถูกต่อต้าน
การต่อสู้เพื่อพิสูจน์ “ทฤษฎี” และ “ตัวเอง” ของ รามานุจัน ร่วมกับ ฮาดี้ จึงได้เริ่มต้นขึ้น ซึ่งจะนำสู่แรงบันดาลใจของผู้คนในยุคต่อมา เมื่อโลกพบว่า ผลงานเกือบ 4,000 รายการที่เขาค้นพบ คือ “ความเป็นจริง” และ “ความเป็นไปได้” ที่รอคนรุ่นหลังพิสูจน์…
นี่คือหนังดราม่าสร้างจากเรื่องจริง ที่จะทำให้คนที่ไม่เคยสนใจคณิต ได้สัมผัสถึงความงดงามที่ไม่มีสีของ “คณิตศาสตร์บริสุทธิ์” จากเรื่องราวของชายหนุ่มนามว่า “รามานุจัน” 12 พฤษภาคม 2016 นี้ ในโรงภาพยนตร์.
ตัวละคร / นักแสดง
เอส. รามานุจัน (S. Ramanujan) รับบทโดย Dev Patel
ชายหนุ่มผู้เติบโตมาในวรรณะพราหมณ์แต่มีฐานะยากจน จากเมืองอีโรด ทางตอนใต้ของอินเดีย มีความอัจฉริยะด้านคณิตศาสตร์ตั้งแต่เด็ก ใฝ่รู้และสนใจทำการศึกษาทฤษฎีคณิตศาสตร์ต่างๆ ด้วยตนเอง แม้จะไม่ประสบความสำเร็จในระบบการศึกษา แต่ก็สามารถคิดค้นทฤษฎีและสูตรต่างๆ จนต่อมาได้ถูกเชิญเข้าร่วมกลุ่มศาสตราจารย์ทางคณิตศาสตร์ ณ มหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ จาก จี.เอช.ฮาร์ดี้ นักคณิตศาสตร์ชาวอังกฤษที่เล็งเห็นความสามารถ แต่ถึงอย่างนั้น แม้รามานุจันจะเฉลียวฉลาดและกระตือรือร้นขนาดไหน ก็ยังคงไม่เป็นที่ยอมรับ ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง ทั้งความต่างของเชื้อชาติ วุฒิทางการศึกษา ที่สำคัญคือ การเป็นคนเชื่อมั่นในความคิดตัวเอง แต่ไม่สามารถพิสูจน์สิ่งที่ตนค้นพบได้อย่างเป็นรูปธรรม แต่เขาก็พยายามต่อสู้พิสูจน์ตัวเอง (และทฤษฎีสูตรต่างๆที่เขาค้นพบ)ท่ามกลางสภาวะกดดัน ที่ส่งผลให้เขากลายเป็นโรคซึมเศร้า ท่ามกลางความวุ่นวายของสงครามโลกที่ก่อตัวขึ้น จนกระทั่งในที่สุดเขาก็ได้เสียชีวิตลงด้วยอาการป่วยจากวัณโรค ในวัย 32 ปี แต่ก็ได้ทิ้งผลงานการคิดค้นทางคณิตศาสตร์เกือบ 4,000 รายการ (ทั้งที่พิสูจน์แล้วว่าเป็นจริง และยังคงรอการพิสูจน์) แก่อนุชนรุ่นหลังจนถึงวันนี้
จี.เอช. ฮาร์ดี้ (G.H. Hardy) รับบทโดย Jeremy Irons
นักคณิตศาสตร์ ผู้เป็นสมาชิกในราชสมาคมแห่งลอนลอน มหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ ไม่มีพันธะทางครอบครัว จริงจังและสนใจแต่คณิตศาสตร์ และเป็นคนมอบโอกาสในการเดินทางมายังอังกฤษแก่รามานุจัน ด้วยเล็งเห็นถึงแววอัจฉริยะที่แตกต่างในตัวเขา
ลิตเติ้ลวู้ด (Littlewood) รับบทโดย Toby Jones
เพื่อนนักคณิตศาสตร์ของฮาร์ดี้ ผู้เป็นสมาชิกในราชสมาคมแห่งลอนลอน มหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ เช่นกัน ชำนาญเรื่องจำนวนเฉพาะ เป็นชายตัวเล็ก ที่โอบอ้อมอารีย์ และมีส่วนช่วยเหลือรามานุจันอีกคน
จานาคี (Janaki) รับบทโดย Devika Bhise
ภรรยาสาวของรามานุจัน เป็นหญิงที่ใจกว้างและส่งเสริมให้กำลังใจตัวสามี แต่แม่ของรามานุจัน ซึ่งเป็นแม่สามีของเธอไม่ค่อยปลื้ม มักอคติกับเธอ แต่เธอก็อดทน อีกทั้งยังยอมให้รามานุจันเดินทางไปอังกฤษ เพื่ออนาคตที่ดี โดยที่เธอต้องอยู่กับแม่ของรามานุจันตามลำพังก็ตาม ภายหลังรามานุจันเสียชีวิต เธอก็ไม่ได้แต่งงานใหม่ (ตามประเพณีของอินเดีย)
รีวิว : [8/10] ถือเป็นหนังที่ถ่ายทอดเรื่องราวคณิตศาสตร์ที่สลับซับซ้อนให้คนทั่วไปได้เข้าใจง่าย แม้เนื้อเรื่องดูจะมีความพี้คกดดันหลายๆ ด้านตลอดเรื่อง แต่เราก็จะพบว่าสุดท้ายแต่ละปัญหาย่อมมีเหตุมีผล และทางออกที่เหมาะสมกับมัน เราจะได้เข้าใจว่า คณิตศาสตร์ไม่ได้เป็นแค่ศาสตร์ไกลตัว แค่เฉพาะกลุ่มคนที่หลงไหลคลั่งไคล้ แต่เอาเข้าจริงๆ มันแฝงอยู่ในทุกสิ่งรอบตัวเรา แม้กระทั่งความเชื่อและศาสนา (แบบไม่รู้ตัว) ผ่าน รามานุจัน // เอาเป็นว่า… ถือเป็นหนังสาระที่น่าจะมอบอะไรให้ผู้ชมได้รับอย่าง “คุ้มค่า” สมน้ำสมเนื้อกับความเข้มข้นตลอดเรื่อง ที่ต่างมีความสำคัญต่อกันและกัน
คณิตศาสตร์บริสุทธิ์… ความงดงามที่ไม่มีสี….. การยอมรับ…… และการพิสูจน์
ตัวอย่างภาพยนตร์
ข้อมูลอ้างอิง/เพิ่มเติม : IMDb | SFcinemacity.com
By : Admin@no (แอดมินโนเอง)
-
BEYBLADE X : 10 ตัวน่าซื้อ ของมันต้องมีในปี 2024
#beybladex #kctoysbeybladex #beybladexthailand
-
KARATE KID: LEGENDS [เรื่องย่อ / ตัวอย่าง / หนังใหม่ /2025]
#KarateKidMovie #KarateKi #เฉินหลง #JackieChan
-
20 ตัวละครจากเกมยอดนิยมที่ถูกค้นหามากที่สุดในเวปไซต์สำหรับผู้ใหญ่ 2024
#Ranking #website #Games #PC #Console