Mother Gamer เกมเมอร์ เกมแม่ [รีวิว / Review / ตัวอย่าง / หนังใหม่ / ROV]
10 กันยายน 2563 00:34 น.
Share on FacebookTweet about this on TwitterShare on Google+

106207924_173191640894530_938579486862159555_o

Mother Gamer เกมเมอร์ เกมแม่

แนว : Action - Comedy

แสดงนำ : อ้อม-พิยดา จุฑารัตนกุล / ต้นหน ตันติเวชกุล / เติร์ด ลภัส งามเชวง /วี BNK48 วีรยา จาง /บอส ธนบัตร งามกมลชัย /นนท์ ศุภวัจน์ ชวนรุ่งโรจน์ / เตชินท์ ณัฐชนน มณีน้อย

กำหนดฉาย 10 กันยายน2020

 

 

สหมงคลฟิล์ม และ การีนา ร่วมกันสร้างภาพยนตร์ “Mother Gamer เกมเมอร์ เกมแม่” ที่ถือว่าเป็น “ภาพยนตร์เกี่ยวกับอีสปอร์ตเรื่องแรกของไทย”  แนวคอเมดี้-แอคชั่นฟอร์มยักษ์ มีเนื้อเรื่องเป็นการดวลกันระหว่าง “แม่” ซึ่งเป็นครูที่ปิดรับเกี่ยวกับเรื่องระบบโซเชียล ต้องมาปะทะกับ “ลูก” ผู้ซึ่งเป็นโปรเพลย์เยอร์มือฉกาจ โดยภายในเริ่องจะมีการใช้กีฬาอีสปอร์ตเป็นตัววัด

 

เรื่องย่อ

Mother Gamer เกมเมอร์ เกมแม่ (12)

เบญจมาศ (อ้อม พิยดา อัครเศรณี) คุณครูสอนเลขที่เคร่งครัดเจ้าระเบียบ รวมทั้งยังปิดรับเรื่องของโซเชียลทั้งหมด และ โอม (ต้นหน ตันติเวชกุล) ผู้ซึ่งเป็นโปรเพลย์เยอร์มือฉกาจ โดยแม่มีความตั้งใจจะให้ลูกไปสอบชิงทุนเพื่ออนาคตทางการศึกษา ตรงกันข้ามกับลูกที่ต้องการจะไปแข่งขันเกมโดยมีเป้าหมายในการคว้าแชมป์เพื่อไปแข่งขันต่อที่ประเทศเกาหลี

 

 Mother Gamer เกมเมอร์ เกมแม่ (1)

 

เมื่อการเจรจาไม่เป็นผล แม่จึงติดต่อ กอบศักดิ์ (เติร์ด ลภัส งามเชวง) เด็กเกรียนประจำห้องในการตั้งทีมอีสปอร์ตขึ้นมา รวมไปถึง มะปราง (วี BNK48 ) / ไกด์ (บอส ธนบัตร งามกมลชัย) / แบงค์ (นนท์ ศุภวัจน์ ชวนรุ่งโรจน์) และ แม็ก (เตชินท์ ณัฐชนน มณีน้อย) เพื่อรวมทีมและหวังเอาชนะโอมให้จงได้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

mother-gamer-movie-2020

REVIEW 

คอเกม ROV 9/10

คนทั่วไป 8/10

ความSurrealของนักดูหนัง มาบรรจบกับโลกของเกมเมอร์

หากจะบอกว่า  นี่คือ “ภาพยนตร์ไทยที่หลายๆคนคาดหวังในช่วงนี้” ก็คงไม่ผิดไปซักเท่าไหร่ เพราะด้วยทีมงาน และตัวนักแสดงวัยรุ่นชื่อดัง บวกกับพล๊อตที่ใกล้ตัวเด็กยุคนี้อย่าง เกมมือถือชื่อดัง ROV ก็ทำให้เกิดความน่าสนใจจากคนนอกวงการอีสปอร์ท และคนดูหนังทั่วๆไป ว่าจะเอาโลกทั้งสองที่แตกต่าง มารวมเข้ากันแล้วถ่ายทอดออกมายังไงให้สนุก และทัชใจคนดูได้ ซึ่งหลังจากดูจบ แอดมินต้องบอกเลยว่า “พี่เสือ และ ทีมงาน แกทำได้จริงๆ”

 

 

 

 

 

ในส่วนของเนื้อเรื่อง จะพยายามหยิบยกเอามุมมองของคนสองยุค สองวัย ในมุมมอง ผู้ใหญ่ยุคเบบี้บูม ก็จะมองว่า “วัยรุ่น + มือถือ = ติดเกม”  ในขณะที่ในมุมของ วัยรุ่น พวกเขามองว่า  “เกม = ความฝัน+ชื่อเสียง + การยอมรับ +รายได้ ” จุดแตกต่างทางความคิด ความเชื่อ ในเรื่องถูกนำเสนอออกมาด้วยการวางเรื่องที่ คมคาย และ จิกกัด ประเด็นหลายๆอย่าง ทั้งการศึกษาไทย มุมมองของผู้ใหญ่หัวโบราณ ที่แอนตี้เทคโนโลยีและไม่พยายามเข้าใจเด็ก หรือแม้แต่เด็กๆ ที่เรามองว่าพวกเขาเป็นเด็กมีปัญหา ที่แท้จริงแล้ว พวกเขาก็อาจจะรอ “มือที่จะหยิบยื่นโอกาสให้เขาฉายแสงในหนทางที่เขารัก” แม้ว่าหนังจะเดินตามสูตรสำเร็จแนวๆกีฬา แต่หนังถ่ายทอกออกมาได้สนุก ไม่มีช่วงน่าเบื่อ หรือเนือยๆอืดๆเลย เผลอๆนี่ยังว่าเล่าเร็วจัดๆไปด้วยซ้ำ แปปๆจะจบเรื่องแล้ว 

 

ส่วนพาร์ทดราม่าของเรื่อง แอดมินนึกถึงหนังไทยในอดีตอย่างเรื่อง “น้ำพุ” ที่ออกฉายเมื่อปี พ.ศ. 2527 ที่ว่าด้วยเด็กที่มีปัญหาครอบครัว ไม่เข้าใจในตัวลูกชายที่เป็นวัยรุ่น จนนำมาสู่การติดยา…

 

แต่ในหนังไม่ได้เล่นประเด็นหนักโลกขนาดนั้น แต่ต้องยอมรับว่า ปัญหาวัยรุ่น ความไม่เข้าใจของพ่อแม่นั้น เป็นปัญหาที่อยู่คู่กับครอบครัวไทยทุกยุคทุกสมัย และมีการหยิบยกมาทำหนัง ทำนิยายได้เรื่อยๆ ในเรื่องนี้ โชคดี ที่ลูกไม่ได้ติดยา แต่ติดเกมแทน ซึ่งติดจนเป็นโปรเพลเยอร์ สร้างงาน สร้างรายได้ แต่ก็นั่นแหละ ถ้าการเล่นเกม เป็นปัญหาครอบครัว มันก็ต้องมีที่มาจากครอบครัว ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง…หนังไม่ได้หยิบประเด็นนี้มาขยี้นัก แต่พอสัมผัสได้ว่า มันเกิดปัญหาแบบนี้จริงๆ ในเรื่องของการต่อสู้ทางความคิดของคนสองยุค…และถึงแม้ว่าบทสรุปของเรื่อง จะทำออกมาได้ตามสูตร แต่ก็ไม่ติดใจอะไร เพราะมันก็ควรจบแบบนี้แหละ ดีที่สุดต่อทุกตัวละครในเรื่องแล้ว…

 

ในแง่ของการลำดับเรื่อง เรารู้สึกว่ามีความคล้ายการ์ตูน หรือซีรี่ส์จีน “เทพยุทธ์ เซียนกลอรี่” มาจางๆ เรื่องราวของการแข่งขัน ทีม การโยกย้ายบทบาท โครงสร้างทีม eSport ทีมนึง มันไม่แน่นอนจริงๆ ซึ่งหนังพยายามสร้างโลกของหนังให้ผู้ชมได้กระโดดเข้าสู่ดินแดนที่ชี้วัดกันด้วยการแข่งเกม แล้วทำสำเร็จเสียด้วย เพราะงานภาพ วิชวลต่างๆที่หลายๆซีนสื่อ มันทำหน้าที่พาคนดูไปถึงจุดนั้นๆได้จริงๆ ไม่ว่าจะซีนอารมณ์ ครุ่นคิด หรือแม้แต่แอคชั่นต่างๆ แม้ว่าจะดูเล่นใหญ่ เว่อวัง แต่ถ้าเทียบกับโทนหนังโดยรวม ถือว่าไปกันได้โดยไม่รู้สึกฝืน ซ้ำยังดูสนุกด้วย เราไม่ค่อยเห็นหนังไทยขายงานภาพ Surreal แบบนี้มาพักใหญ่ๆแล้ว ตั้งแต่ “ฉลาดเกมส์โกง” โน่นเลย

 

 

ในส่วนของความเป็น “หนังจากการแข่งเกม” ตัวหนังได้พาคนดูเข้าสู้โลกของมันอย่างที่บอก ถ้าคนดูเป็นคอเกม โดยเฉพาะ ROV เราจะว้าวกับการ Pick ตัวมาเล่นในหนัง การเอาตัวฮีโร่ที่มามีบทบาทในนั้น สื่อถึงลักษณะ นิสัย คาแรคเตอร์ตัวละครนั้นๆได้ดี แม้ว่าซีนที่เป็นการแข่งเกมบางอย่าง จะถูกถ่ายทอดออกมาเป็นภาพตัวนักแสดงในหนัง มาออกแอคชั่นท่าทางบนกรีนสกรีน แทนการใช้ภาพเกมจริงๆ คาดว่าน่าจะเป็นเรื่องของเทคนิคของทีมงาน และคาดว่ามีการใส่ Insert ภาพจากเกมแล้ว แต่มันไม่ได้ตามที่ต้องการเลยตัดทิ้ง สังเกตุได้จากบางซีนที่ไม่ Continue กัน ก็เลยต้องหาวิธีถ่ายทอดการต่อสู้ให้เป็นรูปธรรม คนดูจับต้องได้ เลยออกมาเป็นงานภาพสไตล์ Fight Club หรือพวก ท้าชน / เด็กระเบิด อะไรแนวๆนั้นไปแทน ซึ่ง ก็โอเคแหละ…ไม่ได้มีปัญหาดูสนุกและไปกันได้กับความฟุ้งๆของหนัง

 

ถึงจะมีบางเทคนิค ที่คนเล่น ROV จะรู้สึกว่า “ขี้โม้” ไปบ้างก็ยังอยู่ในระดับที่ “รับได้”

 

 

 

ROV _ 5 เทคนิคการเล่น Elsu  (7)

แต่ถ้าคุณคือคนดูที่ไม่เล่นเกม ROV จะไม่เก็ทในหลายๆอย่างเลย ทำไมต้องเล่นตัวนั้น ตัวนี้เก่งยังไง (ในโรงหนังรอบพิเศษ มีรีแอคชั่น ของคนเล่นเกม และคนที่ไม่เล่นชัดเจนมาก) หรือรายละเอียดบางอย่างที่ดูจะ “เฉพาะกลุ่มเกินไป” เนื่องจากทีมงานทำการบ้านมาดีมากๆ หนังเลยมีความเป็น Mania มีความเนิร์ดในเกม ROV จนบางช๊อตบางซีน คนดูทั่วไปก็ไม่เข้าใจ หันหน้ามาถามเพื่อนด้วยคำถามดังกล่าว เลยต้องหักคะแนนไป…

 

 

 

ส่วนนักแสดงในเรื่อง MVP ของเรื่อง แอดมินชอบบทบาทของแม็ก” (เตชินท์) ที่สะท้อนภาพลักษณ์ของเด็กเล่นเกมออกมาได้ เรียล และกล้าเล่นมากๆ ด้วยบทบาท Toxic Player ที่พ่นคำสบทแทบทุกทีที่เข้ากล้อง และเราฮากับบทของเด็กเกรียนคนนี้  มันคือกระจกสะท้อนว่า นี่คือที่สังคมเกมจะขาดไม่ได้ แม้ว่าจะไม่ใช่สิ่งที่ดีหรือถูกต้อง แต่มันมีจริงๆ เลยทำให้หนังมันดูสมจริง ดู Real ขึ้น แม้ว่ามันจะ Surreal ก็ตาม ส่วนนักแสดงคนอื่นๆ เล่นบทบาทได้ดูล้นๆ เว่อวัง ทั้งสีหน้า การแสดงออก มันการ์ตูนไปนิด ซึ่งไม่ใช่ข้อเสีย แต่มันคือข้อดีของหนังเรื่องนี้เลย เพราะเซตติ้งโลกของหนังเรื่องนี้ มันไปในเวย์นั้น…

 

 

Mother Gamer เกมเมอร์ เกมแม่ (15)

อีกคำถาม คือ “น้องวี” วีรยา จาง นางเอกของเรื่อง นี่โอเคมั้ย? ในฐานะที่เป็นแฟนคลับ BNK48 (และมิตรสหายหลายๆท่านที่ได้ชมรอบสื่อ ก็เป็นแฟนคลับของวงเช่นกัน)  ต่างบอกว่า “น้องสอบผ่าน” ในหนัง คือ “วีรยาคนแมน” ที่เราคุ้นเคย และ “เหมือนทีมงานเอาน้องมาแกล้งด้วยบทที่เชื่อว่าเจ้าตัวเองก็คงจะเขินๆเหมือนกัน”

 

เป็นวีรยา “หวานๆ” ที่เราอยากเห็น แต่เจ้าตัวไม่ค่อยได้โชว์ด้านนั้น มีมุมน่ารัก มีมุมกวนๆห้าวๆ แม้ว่าบทจะไม่ค่อยดันให้น้องเด่นนัก แต่เท่านี้ก็ถือว่าลงตัว และเมคเซนส์แล้ว ไม่เยอะจนฝืน ไม่น้อยจนจาง เชื่อว่าดูจบ ต้องมีบัตรจับมือไปแซวน้องด้วยมุกจากหนังในเลนแน่ๆ

 

 

 

ก็ถือว่าเป็นหนังไทยที่ “คอ ROV” ควรไปดู…

คอหนัง สายเสพงานภาพศิลป์ ก็ควรไปดู นัยยะแฝง สี ความหมาย กิมมิคของเรื่อง มีให้ตีความได้พอสมควร

 

และ คนทั่วไป อาจจะพาคุณพ่อ คุณแม่ไปดู เผื่อว่ามุมมองของวงการเกม อาจจะเปลี่ยนไป ก็ได้

เพราะหนังได้ทำหน้าที่นำเสนอความสนุกของการเล่นเกม “ที่ถูกควร” แล้ว นั่นเอง…

 

 

–แอดมิน AK47–

 

 

ตัวอย่าง