ประเภท : Action, Dramatic, Mecha Sci-Fi
จำนวนตอน : 50 ตอนจบ (TV), 3 ตอนจบ (The Movie)
วันออกฉาย : 2 มีนาคมปี 1985 ถึง 22 กุมภาพันธ์ปี 1986 (TV) 28 พฤษภาคมปี 2005 (The Movie I) , 29 ตุลาคมปี 2005 (The Movie II), 4 มีนาคมปี 2006 (The Movie III)
ผู้ผลิต : Sunrise
ลิขสิทธิ์ภาคภาษาไทยโดย : DEX Exprees
Official Site : http://www.z-gundam.net/
Mobile Suit Zeta Gundam หรือในชื่อภาษาญี่ปุ่น 機動戦士Ζガンダム (Kidō Senshi Zēta Gandamu) เป็นผลงานกันดั้มอนิเมชั่นทีวีซี่รี่ย์ ในลำดับที่สองต่อจาก Mobile Suit Gundam 0079 ซึ่งเป็นภาคแรก โดยผู้กำกับและเขียนบทคือคุณ Yoshiyuki Tomino งานออกแบบตัวละครโดยคุณ Yoshikazu Yasuhikoหรือ YAS ออกแบบโมบิลสูทและเครื่องจักรโดยโดยคุณ Kunio Okawara ซึ่งได้ร่วมกับคุณ Mamoru Nagano และคุณ Kazumi Fujita ผลงานกันดั้มอนิเมชั่นทีวีซี่รี่ย์ชุดนี้มีจำนวนตอนทั้งสิ้น 50 ตอนจบ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 มีนาคม ปี 1985 จนถึงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ปี 1986
จนกระทั่งมีการนำเอามาสร้างใหม่อีกครั้งในปี 2005 ซึ่งเป็นปีที่ครบรอบ 25 ปีของกันดั้ม และครบรอบ 20 ปีของเซต้ากันดั้มอีกด้วย โดยเป็นการนำเอาเซต้ากันดั้มฉบับทีวีซี่รี่ย์มาตัดต่อและวาดเพิ่มเติมใหม่ ออกฉายในรูปแบบของภาพยนตร์อนิเมชั่น แบ่งฉายออกเป็นสามภาคคือ
Mobile Suit Zeta Gundam A New Translation : Heirs to the Stars (ฉายเมื่อ 28 พฤษภาคม ปี 2005)
Mobile Suit Zeta Gundam A New Translation II: Lovers (ฉายเมื่อ 4 ตุลาคม ปี 2006)
Mobile Suit Zeta Gundam A New Translation III : Love is the Pulse of the Stars (ฉายเมื่อ 4 มีนาคม ปี 2006)
ซึ่งเนื้อหาโดยย่อๆ ของMobile Suit Zeta Gundam ได้กล่าวถึง “ปีศักราชอวกาศที่ 0087 กองกำลังต่อต้านทีทานส์ ซึ่งเรียกตัวเองว่า “เอวโก้” ได้บุกเข้ายังกริปส์ทู โคโลนี่ซึ่งใช้ในการพัฒนาอาวุธของทีทานส์ และเข้าไปขโมยเอาโมบิลสูทกันดั้มมาร์คทูออกมา 3 เครื่อง โดยอาศัยความร่วมมือของเด็กหนุ่มที่ชื่อว่า คามิว บีดัน เด็กหนุ่มผู้มีความสามารถของนิวไทป์อันลึกล้ำซ่อนอยู่ภายใน เรื่องราวจึงลุกลามขยายใหญ่โตจนกลายเป็นสงครามอวกาศขนาดย่อมอย่างที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน….”
Story
Mobile Suit Zeta Gundam A New Translation : Heirs to the Stars “ผู้สืบทอดแห่งดวงดาว”
ปีศักราชอวกาศที่ 0087 เป็นเวลานานถึง 8 ปี หลังจากที่สงครามระหว่าง สหพันธ์โลก กับ จักรวรรดิซีออนได้ยุติลง ซึ่งเป็นชัยชนะของทางสหพันธ์โลกที่อยู่เหนือกว่าชาวสเปซนอยด์ จึงได้มีการจัดตั้งหน่วยงานทางทหารอิสระที่เรียกว่า “ทีทานส์” (Titans) ขึ้นเพื่อการจัดระเบียบใหม่ ทว่าฝ่ายทีทานส์นั้นได้ปฏิบัติงานอย่างไร้ความมีศีลธรรม เพื่อการขจัดเสี้ยนหนามที่จะมาสั่นคลอนอำนาจรัฐ สามารถจัดการกับชาวสเปซนอยด์ที่ถูกต้องสงสัยว่าเป็นพวกซีออนได้โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องใดๆ ทำได้แม้กระทั่งฆ่าคนบริสุทธิ์ได้อย่างหน้าตาเฉย นั่นได้สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ที่ไม่เห็นด้วยอย่างมาก จนเริ่มมีการเคลื่อนไหวโดยใช้กองกำลังต่อต้านขึ้น ทำให้เกิดการต่อสู้เพื่อปลดแอกและเรียกร้องเสรีภาพของชาวสเปซนอยด์ และหนึ่งในกลุ่มผู้ที่ออกมาเคลื่อนไหวครั้งนี้คือ “เอวโก้” (A.E.U.G. = ANTI-EARTH UNION GROUP)
ณ โคโลนี่อวกาศ กริปส์ทู ทางเอวโก้ได้รับข้อมูลมาว่า ที่นี่ได้ถูกใช้ในการพัฒนาอาวุธและโมบิลสูทรุ่นใหม่ของฝ่ายทีทานส์ “ควาโทร บาจินา” ได้เข้ามาตรวจสอบที่กริปส์ทู และพบว่าฝ่ายทีทานส์มีการพัฒนาโมบิลสูทรุ่นใหม่ขึ้นจริงๆ ตรงตามข้อมูล ซึ่งหนึ่งในโมบิลสูทรุ่นใหม่ก็คือ “กันดั้มมาร์คทู” (Gundam Mk-II)
ฝ่ายทีทานส์ที่ใครๆ ต่างรู้ดีว่ามักใช้กำลังเกินกว่าเหตุกับผู้ที่เห็นต่าง สร้างความไม่พอใจกับผู้ที่เห็นต่างอย่างมาก ซึ่ง “คามิว บีดัน” คือหนึ่งในผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับความโหดร้ายของกลุ่มคนเหล่านี้ เขาได้ไปมีเรื่องกับ “เจริด เมซซ่า” นายทหารหน่วยทีทานส์ เพราะถูกล้อเลียนว่าชื่อเหมือนผู้หญิง ในระหว่างที่ถูกคุมขังเพื่อสวบสวนอยู่นั้น เกิดเหตุการณ์ที่ฝ่ายเอวโก้บุกเข้ามาในกริปส์ทู คามิวได้อาศัยความวุ่นวายนี้ขโมยเอากันดั้มมาร์คทู เบอร์ 3 และเบอร์ 2 ไป ก่อนที่ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของยานอาร์กาม่า ในสังกัดกองทหารอิสระเอวโก้
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในกริปส์ทู ทางฝ่ายทีทานส์ได้ส่งร้อยโท “เอมม่า ชีน” เข้าไปเจรจากับฝ่ายเอวโก้ถึงยังในยานอาร์กาม่า เพื่อให้ส่งตัวของคามิวและกันดั้มมาร์คทู สองเครื่องที่ถูกขโมยไป โดยที่หากไม่ยอมทำตามข้อเรียกร้องจะทำการสังหารคุณแม่ของคามิว ซึ่งแผนการเจรจานั้นล้มเหลว และเจริดที่ได้รับคำสั่งให้ตามมาด้วยได้ทำการสังหารแม่ของคามิวต่อหน้าต่อตา
แต่ความเศร้าของคามิวนั้นยังไม่จบเพียงเท่านี้ ตัวเขายังต้องมาเสียคุณพ่อของตัวเองที่ได้ตามมาบนอวกาศเพื่อขโมยเอาโมบิลสูทของฝ่ายเอวโก้ไปอีกด้วย กองยานของฝ่ายทีทานส์ภายใต้การบัญชาการของ “บาสก์ โอม”และฝ่ายเอวโก้ภายใต้การบัญชาการ “เบล็ก โฟเรอร์” จึงได้เปิดศึกกันในอวกาศ ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะเจรจายุติศึกและแยกย้ายกันไป
ระหว่างที่คามิวกำลังเศร้าเสียใจกลับการสูญเสียครอบครัวไปอยู่นั้นเอง “ฟา ยูรี่” เพื่อนสมัยเด็กของคามิวที่ได้ติดมากลับยานลี้ภัยเทมป์เทชั่น ระหว่างที่นำการช่วยเหลือ เธอก็ได้ตัดสินใจตามเข้าอยู่ในเอวโก้กับคามิวด้วย ซึ่งรวมไปถึง “ไบร์ท โนอา” ด้วยเช่นเดียวกัน ที่โลกเอง “อามุโร่ เรย์” กำลังลังเลว่าจุดยืนของตัวเองในเรื่องความถูกต้องซึ่งสวนทางกับฝ่ายทีทานส์ ที่ทางสหพันธ์โลกของตนสังกัดอยู่เพิกเฉยต่อการกระทำของกลุ่มคนเหล่านั้น แต่เขาก็ได้ตัดสินใจว่าจะช่วยเหลือเอวโก้ในที่สุด
ฝ่ายเอวโก้ได้เริ่มแผนการบุกจาโบร ฐานใหญ่แห่งหนึ่งของฝ่ายทีทานส์ ซึ่งทางทีทานส์ได้วางกำลังเข้าสกัดเส้นทางเหนือชั้นบรรยากาศแต่ไม่สำเร็จ ฝ่ายเอวโก้ได้ยกกำลังฝ่าชั้นบรรยากาศลงมาได้ ทางจาโบรได้เริ่มเข้าสู่สภาพพร้อมรบ ด้วยการบุกเข้ารุกตีอย่างหนักทำให้จาโบรแตกพ่าย “จามิทอฟ ไฮมาน” ผู้นำของฝ่ายทีทานส์ตัดสินใจสละฐานจาโบรโดยการระเบิดฐานด้วยนิวเคลียร์ทิ้ง
ฝ่ายต่อต้านทีทานส์ “คาราบา” ที่เป็นกองกำลังอิสระ นำโดย “ฮายาโตะ โคบายาชิ” ได้ให้ความร่วมมือกับฝ่ายเอวโก้ รวมไปถึงอามุโร่ เรย์ที่ได้พา “คัตสึ โคบายาชิ” ลูกชายของฟลาวด์และฮายาโตะเข้ามาร่วมด้วย ซึ่งระหว่างนั้นเอง ฝ่ายทีทานส์ได้ส่งหน่วยรบเคลื่อนที่เร็วเข้าจัดการ ณ จุดนัดพบกันของอามุโร่ เรย์และเอวโก้ในโอคแลนด์ ซึ่งมีนักบินที่เป็นนิวไทป์เทียมอย่าง “โรซาเมีย บาดัม” เข้าร่วมในทีมนี้ เมื่อถึงจุดนัดพบ แม้จะเกิดการประทะกันขึ้น แต่อามุโร่ เรย์ก็สามารถเข้าร่วมกับทางเอวโก้ได้อย่างปลอดภัย
Mobile Suit Zeta Gundam A New Translation II: Lovers (เลิฟเวอร์)
หลังจากที่จาโบรแตกตามแผนการสำเร็จ ฝ่ายเอวโก้ได้เริ่มแผนการขึ้นไปสู่อวกาศเพื่อไปรวมพลอีกครั้ง ทว่าอามุโร่นั้นได้ตัดสินใจที่จะสู้อยู่บนพื้นโลก เพราะในอวกาศนั้นได้ทำให้จิตใจของเขานั้นเห็นภาพของ “ลาล่า ชุน” คอยหลอกหลอนอยู่ หน่วยรบเคลื่อนที่เร็วของฝ่ายทีทานส์ได้ไล่ตามไปถึงศูนย์อวกาศมาติดๆ แต่ขัดขวางเอาไว้ไม่สำเร็จ
ฝ่ายทีทานส์ได้เริ่มการตอบโต้โดยใช้ไพ่ตายใบใหม่ โดยนำเอาหุ่นรบขนาดใหญ่อย่าง “ไซโคกันดั้ม” ที่มี “โฟร์ มุราซาเมะ” ซึ่งเป็นนักบินนิวไทป์เทียมเข้ามาเสริมทัพ โดยที่ในเวลาถัดมานั้น… คามิวได้มีโอกาสพบกับโฟร์ที่นิวฮ่องกง ทั้งคู่ใช้เวลาเพียงแค่สั้นๆ แต่กับมีความสนิทสนมกันได้อย่างรวดเร็ว
ความสนิทสนมของพวกเขาทำให้จิตใจโฟร์กลับสับสนอย่างรุนแรง เธอที่อยากกจะมีชีวิตในแบบเด็กสาวธรรมดา กลับต้องถูกเงาอิทธิพลจากทีทานส์คอยครอบงำ เธอฝืนใจบังคับไซโคกันดั้มถล่มนิวฮ่องกงอย่างคุ้มคลั่ง ซึ่งภายหลังจากที่คามิวได้รู้ว่าเธอเป็นนักบินของไซโคกันดั้ม จึงได้พยายามเข้าขัดขวางและเรียกสติคืนมา แต่ก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นแม้แต่น้อย… โฟร์ได้พาร่างยักษ์คลั่งหนีไป
จนทั้งคู่ได้มาเผชิญหน้ากันอีกครั้ง โดยครั้งนี้เธอสามารถเข้าใจจิตใจของคามิวที่พยายามสื่อได้ แต่โชคชะตาก็เล่นตลกร้าย เมื่อเธอต้องมาจบชีวิตเพื่อหยุดคาร่าที่ใช้แผนการพุ่งของยานการูด้าใส่ยานอาร์กาม่า ก่อนร่างของเธอจะตกหายไปในท้องทะเล
อีกด้านหนึ่ง “พัพติมัส ซีร็อคโก้” ผู้ได้ฉายาว่า “บุรุษผู้มาจากดาวพฤหัส” ได้เริ่มเข้ามามีอิทธิพลต่ออำนาจในทีทานส์มากขึ้น ประจวบกับทางเอวโก้ได้โมบิลสูทตัวใหม่ “เซต้ากันดั้ม” เข้ามาเสริมทัพ ส่วนในอีกด้านหนึ่ง เบล็ก โฟเรอร์และควอโทร เบอจินาได้ไปเข้าร่วมแผนเจรจาที่โลก แต่โชคร้ายที่เบล็ก โฟเรอร์ถูกลอบสังหาร ทำให้ความหวังของเอวโก้ทั้งหมดทั้งปวงนั้นได้ฝากเอาไว้ที่ควอโทร เบอจินา ฝ่ายทีทานส์ใช้แผนตีโต้กลับบ้าง ด้วยการนำโคโลนี่ร้างไปทิ้งลงดวงจันทร์เพื่อจัดการตัดกำลังและแหล่งสนับสนุนของเอวโก้
การรู้ตื้นลึกของศัตรูคือหนึ่งในกลยุทธ์ทางสงคราม พัพติมัส ซีร็อคโก้จึงได้ส่ง “ซาร่าห์ ซาเบียรอฟ” ให้แกล้งทำทีว่าหนีทัพมาจากฝ่ายทีทานส์เพื่อสอดแนมข้าศึก ซึ่งคราแรกฝ่ายเอวโก้ไม่คิดจะหลงกลง่ายๆ แต่ด้วยความใจอ่อนของคัตสึ ทำให้แผนหลอกสอดแนมได้ผล
แต่แผนการของพัพติมัส ซีร็อคโก้ไม่หยุดเพียงเท่านี้… เพราะเขาได้ส่งซาร่าห์ไปวางระเบิดที่เมืองบนดวงจันทร์ในระหว่างที่อาร์กาม่าลงจอดเติมเสบียง ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะเริ่มประจัญบานกันเต็มรูปแบบอีกครั้ง ซึ่งในศึกนี้ “กองกำลัง AXIS” ภายใต้การนำทัพของ “ฮามาน คาร์น” ได้ให้ความช่วยเหลือฝ่ายเอวโก้เอาไว้
Mobile Suit Zeta Gundam A New Translation III : Love is the Pulse of the Stars (รักคือชีพจรแห่งดวงดาว)
ฝ่ายลูกเรือของเอวโก้ได้เข้าพบกับ “มิเนอร์ว่า เลอ ซาบี้” ผู้นำที่มีอายุน้อยที่สุดของจักรรดิซีออนที่หลงเหลืออยู่ ซึ่งการสืบทอดอำนาจผู้นำให้กับเด็กตัวเล็กๆ แบบนี้ไม่ต่างจากหุ่นเชิดทางการเมืองให้กับฮามานอย่างมาก ทำให้ควาโทรไม่พอใจในการกระทำเช่นนี้ แต่จุดยืนของทั้งคู่คือการร่วมมือกัน ซึ่งฝ่ายหนึ่งต้องการหยุดพวกทีทานส์ กับอีกฝ่ายที่ต้องการพื้นฟูเอกราชของตนเอง จึงทำให้มีศัตรูร่วมกัน
สงครามยังคงดำเนินควบคู่ไปกับการเจรจา พัพติมัส ซีร็อคโก้ได้เป็นตัวแทนของทีทานส์มาเจรจากับทาง AXIS ซึ่งการเจรจาในขั้นแรกเป็นไปด้วยดี ทำให้ฮามานได้ไปเจรจาหย่าศึกต่อจามิทอฟ ไฮมานผู้นำทีทานส์ แต่ครั้งนี้ล้มเหลวไม่เป็นท่า ฮามานจึงได้ใช้กองกำลังเข้าบุกตี “ประตูซีดาน” ที่เป็นฐานกำลังของฝ่ายทีทานส์ โดยใช้ดาวเคราะห์น้อย AXIS พุ่งชนจนแตกพ่าย
เป็นอีกครั้งที่ทุกอย่างต้องมาเริ่มที่โต๊ะเจรจา ซึ่งคราวนี้มีแผนการร้ายซ่อนอยู่ จามิทอฟ ไฮมานถูกพัพติมัส ซีร็อคโก้สังหารลง เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในทีทานส์ แล้วป้ายความผิดให้กับฮามานและฝ่ายเอวโก้
แต่ฮามานเองก็ไม่คิดว่ามันจะทำให้ฝ่ายตนเองเสียเปรียบแต่อย่างใด เธอวางแผนจะให้โคโลนี่เลเซอร์กริปส์ทู จัดการล้างบางทั้งฝ่ายทีทานส์และเอวโก้ไปพร้อมๆ กัน
ศึกชี้ขาดของสามฝ่าย ณ กริปส์ทูก็ได้เริ่มขึ้น… คามิวได้บังคับเซต้ากันดั้มเข้าประทะกับฮามานที่บังคับ “คิวเบเร่ย์” ตัวเขารู้สึกได้ถึงกระแสคลื่นความคิดที่ลอยอยู่ในห้วงอวกาศ ในทุกๆ ครั้งที่ได้ต่อสู้ มักจะพบเจอมโนภาพและความทรงจำคนอย่างน่าหวาดหวั่น ซึ่งความรู้สึกนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับตัวเองเท่านั้น เพราะมีบางคนก็รู้ได้เช่นกัน ซึ่งนั้นคือ “สัญชาติญาณการรับรู้ของมนุษย์สายพันธุ์ใหม่อย่างนิวไทป์” นั่นเอง
สงครามเริ่มรุนแรงขึ้น ทั้งสามฝ่ายตะลุมบอนอย่างดุเดือด คนที่รู้จัก… ศัตรูที่เคยพบพาน ได้สิ้นชีพลงอย่างไร้ค่า สงครามที่ต่างกันเพียงเพราะอุดมการณ์ที่มองต่างมุมกัน ได้คร่าชีวิตของผู้คนไปนับไม่ถ้วน คามิวที่ไม่อาจก้าวข้ามหลีกพ้นความขัดแย้งที่พวกผู้ใหญ่ได้ก่อไว้ จนกลายเป็นเครื่องจักรสังหารเสียเอง
เพราะการใช้พลังที่มากเกินไป ซึ่งท้ายสุด… ตัวเขาก็กลายเป็นคนเสียสติไม่สมประกอบ สงครามของเขาจึงสิ้นสุดแต่เพียงเท่านี้…
แนะนำตัวละคร
กองกำลังอิสระเอวโก้ (A.E.U.G. = ANTI-EARTH UNION GROUP)
คามิว บีดัน (พากย์โดย : Nobuo Tobita)
Kamille Bidan (カミーユ・ビダン)
เด็กหนุ่มตัวเอกของภาคนี้ เขาเป็นผู้ไม่เห็นด้วยต่อการกระทำที่รุนแรงของฝ่ายทีทานส์ จึงได้ขโมยเอากันดั้มมาร์คทูแล้วเข้ามาเป็นสมาชิกของฝ่ายเอวโก้ ร่วมต่อสู้ต่อความไร้ศีลธรรมของทีทานส์ในสงครามกริปส์ แต่นั่นกลับกลายเป็นว่าตัวเขาได้พาตัวเองเขามาสู่สงครามของพวกผู้ใหญ่ ที่โหดร้ายและแสนทารุณ ต้องสูญเสียคนที่รักและรู้จักไปมากมาย ซึ่งในท้ายที่สุดทำให้ตัวเองต้องใช้พลังในการต่อสู้ไปจนหมดสิ้นและกลายเป็นคนที่มีสติไม่สมประกอบหลังจบสงคราม (หากในภาคหนังโรงนั้น… คามิวจะจบสงครามของตัวเองโดยที่ไม่เสียสติแต่อย่างใด)
กล่าวกันว่า… ในจักรวาลกันดั้มยุค U.C. เขาคือ “นิวไทป์ที่มีพลังสูงที่สุด”
ควาโทร บาจิน่า (พากย์โดย : Shūichi Ikeda)
Quattro Bajeerna (クワトロ・バジーナ)
ชายผมทองผู้สวมแว่นดำ หนึ่งในสมาชิกของกองกำลังทหารอิสระเอวโก้ ซึ่งแท้จริงนั้นตัวเขาก็คือ “ชาร์ อัสนาเบิ้ล” แห่งจักรวรรดิซีออนที่ล่มสลายไปในสงครามหนึ่งปีนั่นเอง เพราะต้องการที่จะปลดปล่อยเอกราชให้กับชาวสเปซนอยด์ที่โดนทางสหพันธ์โลกกดขี่มาตลอด เขาจึงต้องหากองกำลังเพื่อกระทำการใหญ่ให้สำเร็จ จึงได้เข้ามามีบทบาทที่สำคัญต่อเอวโก้กับการต่อสู้ในสงครามกริปส์อย่างมาก
(คำว่า “Quattro” ในภาษาอิตาเลี่ยนแปลว่า “หมายเลข 4” ซึ่งในเรื่อง ถือเป็นนามแฝงที่สี่ของตัวเขานั่นเอง)
เอมม่า ชีน(พากย์โดย : Maya Okamoto)
Emma Sheen (エマ・シーン)
นักบินหญิงยศร้อยโทของฝ่ายทีทานส์ที่แปรพักตร์มาอยู่กับฝ่ายเอวโก้ เพราะรับกับความไร้มนุษยธรรมของสังกัดเดิมไม่ได้ เธอยึดถือความถูกต้องชอบธรรมเป็นหลัก เธอจึงมีส่วนสำคัญต่อการรบของฝ่ายเอวโก้ในสงครามกริปส์อย่างมาก แต่สุดท้ายเธอก็ต้องจบชีวิตตอนช่วงท้ายของสงครามที่โคโลนี่เลเซอร์กริปส์ทู เธอได้ยอมเป็นส่วนหนึ่งของพลังเพื่อหยุดยั้งสงครามและสิ้นใจในอ้อมแขนของคามิว
ไบร์ท โนอา (พากย์โดย : Hirotaka Suzuoki)
Bright Noa (ブライト・ノア)
ชายที่เป็นอดีตกัปตันยานม้าไม้ไวท์เบสแห่งกองทัพสหพันธ์โลก เคยผ่านสงครามหนึ่งปีเมื่อ 8 ปีมาก่อน ซึ่งผลงานที่ผ่านมาไม่ได้ช่วยให้ตำแหน่งของตัวเองเลื่อนขั้นขึ้น ทั้งยังถูกอำนาจเหนือระบบของฝ่ายทีทานส์เข้าแทรกแซงจนไม่สามารถจะกระทำอะไรได้ เขาจึงได้ตัดสินใจเข้ากับฝ่ายของเอวโก้ เพื่อโค่นล้มอำนาจของฝ่ายทีทานส์ ได้เป็นผู้บัญชาการยานอาร์กาม่ายานรบหลักของเอวโก้ แล้วร่วมต่อสู้ในสงครามกริปส์จนจบลง
เบล็ก โฟเรอร์ (พากย์โดย : Takaya Tōdō (TV), Kōji Ishii (Movie))
Blex Forer (ブレックス・フォーラ)
ชายที่เป็นผู้นำระดับเริ่มต้นของฝ่ายเอวโก้ มียศเป็นพลเรือจัตวา เขาเป็นคนที่แรกๆ ที่ออกมาต่อต้านการกระทำของฝ่ายทีทานส์ที่เริ่มมีบทบาทชัดเจนขึ้นหลังจากจบช่วงปฏิบัติการสตาร์ดัสท์ (จากภาค Stardust Memory) เขาได้ใช้ตำแหน่งที่เป็นวุฒิสภาสูงในการขอความร่วมมือกับทางหว่อง ลี เจ้าหน้าที่ระดับสูงของบริษัทอนาไฮม์ อิเล็กทรอนิคส์ เพื่อให้การสนับสนุนด้านเงินทุนในสงคราม โชคร้ายตัวเขาได้ถูกลอบสังหารในห้องพัก ช่วงที่เดินทางไปประชุมเพื่อเจรจาหาข้อยุติสงครามที่กำลังดำเนินอยู่
เฮ้นเก้น เบคเคนเนอร์ (พากย์โดย : Jūrōta Kosugi)
Henken Bekkener (ヘンケン・ベッケナー)
ชายที่เป็นกัปตันยานราดิช (Radishthe Irish-class battleship)แห่งกองกำลังอิสระฝ่ายเอวโก้ เป็นคนที่มีอัศยาศัยดี ชื่นชอบร้อยโทเอ็มม่า ขึ้นขั้นขอให้เธอมาร่วมเป็นลูกเรือในสังกัดของเขาด้วย แต่สุดท้ายเขาก็ต้องมาจบชีวิต เพราะตัดสินใจนำยานราดิชไปช่วยเหลือเอ็มม่าที่กำลังถูกศัตรูเล่นงาน จนยานระเบิดไปต่อหน้าต่อตา
คัตสึ โคบายาชิ (พากย์โดย : Keiichi Nanba (TV), Daisuke Namikawa (Movie))
Katz Kobayashi (カツ・コバヤシ)
เด็กหนุ่มที่เป็นลูกบุญธรรมของฮายาโตะและฟลาวโบ ซึ่งเป็นหนึ่งในสามเด็กกำพร้าที่รอดชีวิตและอาศัยอยู่ที่ยานม้าไม้ไวท์เบส ในช่วงสงครามหนึ่งปี เมื่อเริ่มที่จะโตขึ้น… ตัวเขาเริ่มมองหาเป้าหมายของตัวเองว่าอยากเป็นวีรบุรุษเช่นเดียวกับอามุโร่ จึงได้พาตัวเองไปสู่สงครามสงครามกริปส์ในอวกาศ ซึ่งสงครามได้พาให้ตัวเขาไปรู้จักกับซาร่าห์ ซาเบียรอฟ นักบินดัดแปลงของทีทานส์ ซึ่งถือว่าเป็นสาวนางแรกที่ตัวเขาเริ่มสนใจ และเธอคนนี้ได้ทำให้ตัวเขาต้องเสียความรู้สึกที่เชื่อใจต่อมนุษย์ด้วยกันไป จนกระทั่งเขาได้พลาดไปสังหารเธอ และตัวเองต้องมาตายในสงครามอย่างไม่ควรเป็น
หว่อง ลี (พากย์โดย : Kazumi Tanaka)
Wong Lee (ウォン・リー )
ชายที่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของบริษัทอนาไฮม์ อิเล็กทรอนิคส์ ที่ได้ให้เงินทุนสนับสนุนต่อฝ่ายเอวโก้ในการทำสงครามกับฝ่ายทีทานส์ ช่วงสงครามกริปส์ ที่เขาทำเช่นนี้ก็เพื่อรักษาผลประโยชน์ในด้านการค้าขายเทคโนโลยีสงครามเอาไว้
Karaba
อามุโร่ เรย์ (พากย์โดย : Tōru Furuya)
Amuro Ray (アムロ・レイ)
ชายผู้เป็นวีรบุรุษจากสงครามหนึ่งปี นักบินผู้เคยบังคับ “กันดั้มRX-78-2” จนจบสงคราม ตัวเขาได้ถูกทางสหพันธ์โลกกักตัวและสอดส่องพฤติกรรม เพราะไม่ไว้ใจในตัวเขาที่เป็น “นิวไทป์” ซึ่งสงครามครั้งนั้นทำให้เขารู้สึกอ่อนล้า ทั้งยังมีประสบการณ์ที่เจ็บปวดอันเป็นตราบาปที่ได้สังหาร “ลาล่า ชุน” เด็กสาวคนสนิทของชาร์ที่เป็นนิวไทป์ในช่วงสงครามไปอย่างไม่ตั้งใจ จนกระทั่งสุดท้ายก็ได้ตัดสินใจออกไปต่อสู้กับฝ่ายทีทานส์ ในกลุ่มต่อต้านอย่าง “คาราบา” เพื่อช่วยสนับสนุนฝ่ายเอวโก้บนพื้นโลก
ไค ชิเด็น (พากย์โดย : Toshio Furukawa)
Kai Shiden (カイ・シデン)
ชายที่เคยเป็นหนึ่งในลูกเรือยานม้าไม้ไวท์เบสแห่งกองทัพสหพันธ์โลก ร่วมกับอามุโร่และฮายาโตะ ทั้งยังเป็นนักบินของ“RX-77 กันแคนน่อน” ในช่วงสงครามหนึ่งปี ซึ่งตอนนี้เขาได้รับงานเป็นหน่วยข่างกรองอิสระให้กับคาราบารวมไปถึงยังเป็นสายงานให้กับกลุ่มกลุ่มสมาคมการค้าลูโอ้อีกด้วย (ในภาค Unicorn)
ฮายาโตะ โคบายาชิ (พากย์โดย : Kiyonobu Suzuki)
Hayato Kobayashi (ハヤト・コバヤシ)
ชายที่เคยเป็นหนึ่งในลูกเรือยานม้าไม้ไวท์เบสแห่งกองทัพสหพันธ์โลก ร่วมกับอามุโร่และไค ทั้งยังเป็นนักบินของ“RX-75กันแท็งค์” ในช่วงสงครามหนึ่งปี ซึ่งตอนนี้เขาเป็นผู้นำของกลุ่มต่อต้านคาราบา ที่ให้ความสนับสนุนแก่ฝ่ายเอวโก้บนพื้นโลก ตัวเขาได้แต่งงานกับฟลาวโบ
เบลโทจิก้า อิซม่า (พากย์โดย : Maria Kawamura)
Beltorchika Irma (ベルトーチカ・イルマ)
สาวสวยที่เป็นสมาชิกของกลุ่มต่อต้านคาราบา เธอชื่นชอบอามุโร่ที่เป็นวีรบุรุษจากสงครามหนึ่งปี จึงได้เริ่มคบหาดูใจกัน (ตามท้องเรื่องดั้งเดิมนั้น เบลโทจิก้าจะได้ใช้ชีวิตอยู่กับอามุโร่จนมีลูกด้วยกันในภาคฉบับนิยาย “การโต้กลับของชาร์”)
หน่วยงานทางทหารอิสระทีทานส์ (Titans)
เจริด เมสซ่า (พากย์โดย : Kazuhiko Inoue)
Jerid Messa (ジェリド)
ทหารหนุ่มสังกัดฝ่ายทีทานส์ ที่เป็นคู่ปรับของคามิว (เพราะไปล้อเลียนชื่อคามิว) เข้าร่วมสงครามกริปส์ต่อสู้กับฝ่ายต่อต้านอย่างเอวโก้ตั้งแต่ช่วงต้นเรื่อง ตัวเขาก่อวีรกรรมด้วยการสังหารคุณแม่ของคามิวไปต่อหน้าต่อตา ในระหว่างที่อยู่ในช่วงของสงครามนั้น ตัวเขาได้มีโอกาสพบเจอกับผู้หญิงที่ชื่นชอบอย่างมากหน้าหลายตา แต่ผู้หญิงทุกๆ คนที่เขาสนใจก็ต้องมาจบชีวิตในสงครามด้วยน้ำมือของคามิว เขาจึงผูกใจเจ็บอย่างมาก
ซึ่งในสุดท้ายตัวเขาก็ต้องมาตายในการต่อสู้ไปพร้อมๆ กับการระเบิดของยานราดิซฝ่ายเอวโก้ จากฝีมือของคามิว ในช่วงศึกสุดท้ายที่โคโลนี่เลเซอร์กริปส์ทู
บาสก์ โอม (พากย์โดย : Daisuke Gōri)
Bask Om (バスク・オム)
กัปตันยานผู้บัญชาการรบภาคสนามของฝ่ายทีทานส์ ประจำยานโดกอสเซ่ ไกอาร์ เป็นผู้ดำเนินงานในการกวาดล้างกลุ่มผู้ต่อต้าน ทำได้แม้กระทั่งสังหารหมู่ชาวสเปซนอยด์ด้วยการรมแก๊สพิษในโคโลนี่ ทั้งยังเป็นผู้สั่งการให้ใช้คุณแม่ของคามิวเป็นตัวประกันเพื่อต่อรองการส่งคืนกันดั้มมาร์คทูจนคุณแม่ของคามิวต้องตายไปต่อหน้า ซึ่งสุดท้ายตัวเขาก็ต้องมาตายในสงครามกริปส์ด้วยฝีมือของเร็คคอร์ด (ในภาคหนังโรงเขาจะถูกยาซันฆ่าตาย)
จามิกัน ดานินกั้น (พากย์โดย : Keaton Yamada)
Jamaican Daninghan (ジャマイカン・ダニンガン)
ฝ่ายยุทธการของทีทานส์ ยศนาวาตรี ที่ทำงานร่วมกับบาสก์ โอม และตายในสงครามกริปส์ด้วยฝีมือของยาซัน
ไลล่า มิลล่า ริร่า (พากย์โดย : Kimie Sawaki(TV), Mayumi Asano (Movie))
Lila Milla Rira (ライラ・ミラ・ライラ)
หญิงสาวที่เป็นนักบินมือหนึ่งของทางสหพันธ์โลก ที่ถูกส่งมาเป็นกองหนุนให้กับทีทานส์ ซึ่งเป็นผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่เจริดให้ความสนใจ แต่สุดท้ายเธอถูกคามิวฆ่าตายในเหตุการณ์ที่ฝ่ายเอลโก้เคลื่อนกองกำลังมายังฐานจาโบรลงมาที่อยู่บนพื้นโลก
บูรัน บลูทราค (พากย์โดย : Hidetoshi Nakamura)
Buran Blutarch (ブラン・ブルターク)
ชายที่เป็นนักบินมือหนึ่งของหน่วยรบเคลื่อนที่เร็วฝ่ายทีทานส์ ที่ส่งมาเพื่อขัดขวางฝ่ายเอวโก้ที่จะขึ้นไปบนอวกาศ แต่ไปเสียท่าให้กับอามุโร่ที่ศูนย์อวกาศในเคนเนดี้
เมอเรอร์ ฟาโรห์ (พากย์โดย : Yoshiko Sakakibara (TV), Marika Hayashi (Movie))
Mouar Pharaoh (マウアー・ファラオ)
นักบินสาวของฝ่ายทีทานส์ เธอได้ช่วยเหลือเจริดในช่วงที่ฝ่ายเอวโก้บุกโจมตีฐานจาโบร จนได้มาเป็นคู่หูร่วมรบในสงคราม เธอและเจริดที่มาเข้าสังกัดของพัพติมัส ซีร็อคโก้ ซึ่งสุดท้ายเธอก็ต้องมาจบชีวิตเพื่อปกป้องเจริดที่กำลังจะถูกคามิวฆ่าตายในการต่อสู้ โดยเอาตัวเข้าบังบีมเลเซอร์
จามิทอฟ ไฮมาน (พากย์โดย : Masaru Ikeda (TV), Tomomichi Nishimura (Movie))
Jamitov Hymem (ジャミトフ・ハイマン)
ชายผู้เป็นฝ่ายทีทานส์ ผู้นำเดินงานการกวาดล้างจักรวรรดิซีออนที่แตกพ่ายและขจัดกลุ่มผู้ต่อต้านทีทานส์ และเป็นผู้วางแผนสังหารเบล็ก โฟเรอร์ในช่วงการเจรจายุติสงคราม ทว่าภายหลังจากการรุกเข้าตีของฝ่าย AXIS ที่ประตูซีดาน ฐานใหญ่ของทีทานส์ ทำให้เขาต้องเปิดโต๊ะเจรจากับฮามาน คานตัวแทนจากฝ่าย AXIS ซึ่งผลกลับกลายเป็นว่าล้มเหลว และยังถูกพัพติมัส ซีร็อคโก้ฆ่าตาย เพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการทำสงครามครั้งสุดท้ายกับฝ่าย AXIS และเอวโก้
โฟร์ มุราซาเมะ (พากย์โดย : Saeko Shimazu (TV), Yukana (Movie))
Four Murasame (フォウ・ムラサメ)
สาวที่เป็น “นิวไทป์เทียม” นักบินของฝ่ายทีทานส์ เป็นนักบินของ “ไซโคกันดั้ม” เธอไม่มีความทรงจำในอดีตหลงเหลืออยู่ จดจำได้เพียงแค่ชื่อที่เป็นหมายเลขสี่ ซึ่งเป็นเชื่อที่เธอเกลียดที่สุด เธอได้มาเจอกับคามิวที่นิวฮ่องกง แม้เป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ แต่ทั้งคู่ก็มีความสนิทสนมกันได้อย่างรวดเร็ว สุดท้ายเธอก็ถูกยิงตาย เพราะพยายามเข้าไปขัดขวางแผนการนำเอายานการูด้าพุ่งชน โดยที่ร่างของเธอหล่นหายไปในกลางทะเล (ภาคทีวีเธอจะตายเพราะเอาตัวเขาขวางคามิวที่จะโดนเจริดลอบทำร้าย)
โรซาเมีย บาดั้ม (พากย์โดย : Kayoko Fujii(TV), Yū Asakawa (Movie))
Rosamia Badam (ロザミア・バダム)
เด็กสาวที่เป็นนักบินของฝ่ายทีทานส์ ที่ปรากฏตัวในช่วงเวลาที่คามิวกำลังหัวใจอ่อนล้า… โรซาเมียที่เข้าสนิทสนมกับคามิว และเรียกตัวเธอเองว่าเป็น “น้องสาวของคามิว” กลายเป็นความทรงจำเล็กๆ ในช่วงชีวิตหนึ่งของคามิว ก่อนที่จะต้องเผชิญหน้ากับเธอในฐานะนักบินของ “ไซโคกันดั้ม มาร์คทู”
พัพติมัส ซีร็อคโก้ (พากย์โดย : Morita Ryokai)
Paptimus Scirocco (パプテマス・シロッコ)
ชายผู้ได้สมยานามว่า “บุรุษผู้มาจากดาวพฤหัส” ซึ่งเป็นนายทหารยศสูงของฝ่ายทีทานส์ประจำยาน “จูปิทริส” ที่ถูกเรียกตัวมาจัดการกับกลุ่มกบฏที่เขตดูแลของสหพันธ์โลก ซึ่งเขายังเป็นนิวไทป์อัจฉริยะที่เก่งกาจอย่างโดดเด่น มีความสามารถในการใช้งานคนและดึงดูดเพศตรงข้ามให้เข้ามาร่วมมือกับเขาได้ (อย่างเร็คคอร์ดนั่นเอง) ซึ่งการมาของตัวเขาเท่ากับเป็นการเพิ่มความยุ่งยากให้กับกลุ่มต่อต้านอย่างมาก
แต่ด้วยความทะเยอทะยานในตัวเอง เขาได้สังหารจามิทอฟ ไฮมานผู้นำของทีทานส์และตั้งตนขึ้นเป็นใหญ่เสียเอง แต่นั่นก็เป็นความละโมบในช่วงท้ายของชีวิต เพราะเขาต้องมาตายด้วยฝีมือของคามิว
ซาร่าห์ ซาเบียรอฟ (พากย์โดย : Maizun Jayoussi(TV), Chizuru Ikewaki, Kaori Shimamura (Movie))
Sarah Zabiarov (サラ・ザビアロフ )
สาวน้อยคนสนิทของพัพติมัส ซีร็อคโก้ เธอเป็นอดีตนักเรียนนายร้อยที่ห้องปฏิบัติการนิวไทป์เทียมของฝ่ายทีทานส์ ที่มีความสามารถจนพัพติมัส ซีร็อคโก้สนใจจึงดึงเธอมาร่วมงานด้วย ถึงเธอจะเป็นศัตรูกับฝ่ายเอวโก้ แต่ก็ยังมีความเป็นรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่ไม่ค่อยเห็นด้วยต่อการกระทำของฝ่ายตนเอง จิตสำนึกของเธอเริ่มมาชัดเจนมากขึ้นเมื่อได้มารู้จักกับคามิวและคัตสึ แต่เธอก็ไม่อาจที่จะทรยศต่อพัพติมัส ซีร็อคโก้ไปได้ และจำใจที่จะต้องปฏิบัติงานเลวร้ายที่ยากจะปฏิเสธได้ จนกระทั่งเธอต้องจบชีวิตจากน้ำมือของคัตสึ เพื่อปกป้องพัพติมัส ซีร็อคโก้อย่างน่าเศร้า
เร็คคอร์ด ลอนด์ (พากย์โดย : Masako Katsuki)
Reccoa Londe (レコア・ロンド)
หญิงสาวที่เป็นเคยเป็นนักบินของฝ่ายเอวโก้ ที่มีความสามารถในการต่อสู้ไม่แพ้พวกผู้ชาย ในอดีตเธอต้องสูญเสียครอบจากสงครามหนึ่งปี แต่เธอกลับเป็นหญิงสาวที่ต้องการให้พวกผู้ชายยอมรับเธอในฐานะความเป็นผู้หญิง ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องมือที่ใช้ในการทำสงคราม ทว่าหลังจากที่ตัวเธอโดนยาซันจับตัวไปอยู่กับฝ่ายทีทานส์ พัพติมัส ซีร็อคโก้ได้โน้มน้าวให้เธอมาร่วมมือด้วย เพื่อสร้างโลกใหม่ที่ชายและหญิงจะมีความเท่าเทียมกัน ซึ่งสุดท้ายเธอก็ได้แปรพักตร์มาอยู่กับพัพติมัส ซีร็อคโก้เต็มตัวและได้จบชีวิตลงด้วยฝีมือของเอ็มม่า ชีน
ยาซัน กาเบิ้ล (พากย์โดย : Hōchū Ōtsuka)
Yazan Gable (ヤザン・ゲーブル)
ชายที่เป็นนักบินของฝ่ายทีทานส์ เป็นนักบินที่มีฝีมืออยู่ในระดับสุดแกร่งคนหนึ่งของทีทานส์ ซึ่งสามารถจมยานราดิซของฝ่ายเอวโก้ได้ ในช่วงท้ายสงครามเขาได้สังหารบาสก์ โอม ผู้บัญชาการรบของทีทานส์ลงด้วยเหตุผลบางอย่าง
ฝ่าย Axis
ฮามาน คาร์น (พากย์โดย : Yoshiko Sakakibara)
Haman Karn (ハマーン・カーン)
หญิงสาวที่เป็นผู้สำเร็จราชการของ AXISทำหน้าที่แทน “มิเนอร์ว่า เลอ ซาบี้” ทายาทคนสุดท้ายแห่งจักรวรรดิซีออน เธอเป็นลูกสาวของอดีตพลเรือเอก “มหาจารา คาร์น” แห่งจักรวรรดิซีออนเก่า และในอดีตนั้นเธอเคยมีความสัมพันธ์บางอย่างกับชาร์ อัสนาเบิ้ล เธอได้รับหน้าที่ในการฟื้นฟูจักรวรรดิซีออน เพื่อคืนเอกราชให้แก่ชาวสเปซนอยด์ที่ถูกกดขี่ แม้จะเป็นผู้หญิงแต่กลับมีความสามารถในการต่อสู้ที่เก่งกาจ รวมไปถึงมีพลังนิวไทป์ที่สูงจนน่ากลัว
มิเนอร์ว่า เลอ ซาบี้ (พากย์โดย : Miki Itou)
Mineva Lao Zabi (ミネバ・ラオ・ザビ )
เด็กผู้หญิงตัวเล็กผู้เป็นทายาทคนสุดท้ายแห่งจักรวรรดิซีออน เธอเป็นลูกสาวของโดเซิ้ลและซีน่า ซาบี้ ฮามานได้เชิดชูให้เธอขึ้นเป็นผู้นำของจักรวรรดิซีออนคนใหม่ เพื่อพื้นฟูและเป็นตัวแทนความหวังใหม่ในการเรียกร้องนำเอาเอกราชคืนมาให้แก่ชาวสเปซนอยด์ที่ถูกกดขี่มาอย่างยาวนานจากสหพันธ์โลก แต่ด้วยความที่ยังอ่อนต่อโลกและความเหงาที่ไม่มีคุณพ่อกับคุณแม่ ทำให้เธอต้องพึ่งพาฮามานในทุกๆ เรื่องอย่างมาก
Mobile Suits
AEUG (Anti-Earth Union Group) Mobile Suits
RX-178 Gundam Mk-II
โมบิลสูทรหัสเครื่อง RX-178 ซึ่งมีโค๊ดเนมว่า “Gundam Mk-II” เป็นโมบิลสูทที่ได้ต่อยอดการพัฒนามาจาก RX-78-2 Gundam ที่อามุโร่ เรย์เคยใช้ในสงครามหนึ่งปีมาก่อน ให้มีประสิทธิภาพที่มากขึ้น ห้องนักบินแบบใหม่ที่ใช้จอภาพแบบพาโนรามา 360 องศามุมมองเสมือนจริงรอบทิศทาง ที่มีที่นั่งอยู่ตรงกลางของเชิงเส้น โดยGundam Mk-II ถูกสร้างขึ้นอย่างลับๆ โดยทางทีทานส์ มีอยู่ด้วยกันจำนวน 3 เครื่อง ก่อนที่จะถูกฝ่ายเอวโก้แย่งชิงเอาไป
มีนักบินประจำเครื่องคือ คามิว บีดัน, เอ็มม่า ชีน
RMS-179 (RGM-79R) GM II (AEUG Color)
โมบิลสูทรุ่นผลิตจำนวน ต่อยอดการพัฒนาถัดมาจากรุ่น RGM-79 GM ที่ทางสหพันธ์โลกสร้างและนำมาประจำการ โดยเครื่องสีนี้ทางเอวโก้นำมาใช้งานถูกสร้างขึ้นมาให้ใช้ได้ทั้งในเขตอวกาศและพื้นโลก
MSA-003 Nemo
โมบิลสูทในรุ่นสายการผลิตจำนวนมาก เช่นเดียวกันกับ RMS-179 (RGM-79R) GM II ของทางสหพันธ์โลก โมบิลสูทรุ่นนี้สร้างขึ้นโดยทางบริษัทอนาไฮม์ อิเล็กทรอนิกส์ สามารถใช้งานได้ทั้งในเขตอวกาศและพื้นโลก
MSA-005 Methuss
โมบิลสูทในรุ่นแรกๆ ที่สามารถเปลี่ยนโหมดการใช้งานได้ โดยเครื่องรุ่นนี้สามารถแปลงเป็นเครื่องบินรบได้ อยู่ในแผนการสร้าง “Project Zeta” ซึ่งยังคงเป็นเครื่องรุ่นทดลองการใช้งาน สร้างขึ้นโดยทางบริษัทอนาไฮม์ อิเล็กทรอนิกส์ ห้องนักบินแบบใหม่ที่ใช้จอภาพแบบพาโนรามา 360 องศามุมมองเสมือนจริงรอบทิศทาง ที่มีที่นั่งอยู่ตรงกลางของเชิงเส้น สามารถใช้งานในเขตอวกาศ
MSK-008 Dijeh (TV only)
โมบิลสูทสร้างขึ้นโดยทางคาราบา โดยใช้ต้นแบบการสร้างมาจาก RMS-099 Rick Dias ซึ่งยังเป็นเพียงเครื่องรุ่นทดสอบภาคพื้นดิน โดยฝีมือการออกแบบและจัดสร้างจากทีมงานที่เคยเป็นอดีตวิศวกรซีออนเก่า ทำให้มีเค้าโครงความเป็นโมบิลบิลสูทในสายของซีออนให้เห็นอย่างชัดเจน (ปรากฏในภาคทีวีซี่รี่ย์)
มีนักบินประจำเครื่องคือ อามุโร่ เรย์
MSN-00100 Hyaku-Shiki
โมบิลสูทสีทองที่พัฒนาโดยทางบริษัทอนาไฮม์ อิเล็กทรอนิกส์ ในโปรเจคเซต้า ซึ่งเครื่องรุ่นนี้มีโค๊ดเนมอยู่อีกชื่อว่า “Delta Gundam” ถือเป็นหนึ่งในรุ่นทดลองที่ใช้ในการนำร่องสำหรับการสร้างโมบิลสูทรุ่นใหม่อย่าง “เซต้ากันดั้ม” เครื่องรุ่นนี้ถูกนำมาใช้ในก่อนที่จะพังเสียหายไปในสงครามกริปส์
มีนักบินประจำเครื่องคือ ควาโทร บาจิน่า
MSZ-006 Zeta Gundam
โมบิลสูทในสายของกันดั้มที่พัฒนาโดยทางบริษัทอนาไฮม์ อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นกันดั้มตัวแรกที่สามารถแปลงร่างเป็นยานรบแบบ Waverider mode ได้ มีระบบไบโอเซ็นเซอร์ที่ช่วยในเรื่องของการควบคุมเครื่องและสร้างคลื่นไซคิกให้กับนักบินที่เป็นนิวไทป์ได้ ในโปรเจคเซต้าถือเป็นโมบิลสูทที่มีประสิทธิภาพสูงในการสู้รบ ซึ่งเซต้ากันดั้มนี้ยังถูกใช้เป็นต้นแบบในการสร้างโมบิลสูทในรุ่นสลับเปลี่ยนร่างได้ในภายหลัง
มีนักบินประจำเครื่องคือ คามิว บีดัน
RGC-83 GM Cannon II (movies only)
โมบิลสูทรุ่นในรุ่น RGC-80 GM Cannon ที่ผลิตออกมาจำนวนมาก ที่เริ่มใช้ทดแทนเครื่องรุ่นเก่า ภายหลังจากจบสงครามหนึ่งปี ต้นแบบยังคงรูปลักษณ์ของ RGM-79 GM เอาไว้อยู่ เพิ่มประสิทธิภาพด้วยการติดตั้งปืนใหญ่สองกระบอกและเสริมแผ่นเกราะที่ตัวเครื่อง ทางสหพันธ์โลกสร้างและนำมาประจำการ โดยเครื่องสีนี้ทางเอวโก้นำมาใช้งาน ถูกสร้างขึ้นมาให้ใช้ได้ทั้งในเขตอวกาศและพื้นโลก (ปรากฏในภาคหนังโรง)
RGM-79N GM Custom (movies only)
เป็นโมบิลสูทในรุ่นถัดจาก RGM-79C GM Type ที่ทางสหพันโลกได้วางแผนการสร้าง หลังจากที่สงครามหนึ่งปีสิ้นสุดลง เพื่อสำหรับการใช้งานโดยนักบินที่มีทักษะการควบคุมที่สูง โดยมีการรวมเอาข้อดีของโมบิลสูทอย่างGM Type C และ RX-78NT-1 Gundam NT-1 Alex มาใช้งาน ทำให้เครื่องรุ่นนี้มีประสิทธิภาพไม่แพ้หุ่นในสายของกันดั้มเลยทีเดียว โดยเครื่องสีนี้ทางเอวโก้นำมาใช้งานถูกสร้างขึ้นมาให้ใช้ได้ทั้งในเขตอวกาศและพื้นโลก
RMS-099 (MSA-099) Rick Dias
เป็นโมบิลสูทในสายพัฒนารุ่นถัดจาก MS-09 Dom ที่พัฒนาโดยทางบริษัทอนาไฮม์ อิเล็กทรอนิกส์ โดยฝีมือการออกแบบและจัดสร้างจากทีมงานที่เคยเป็นอดีตวิศวกรซีออนเก่า ทำให้มีเค้าโครงความเป็นโมบิลบิลสูทในสายของซีออนให้เห็นอยู่บ้าง แต่เดิมนั้นทางบริษัทอนาไฮม์ อิเล็กทรอนิกส์ตั้งใจจะใช้ชื่อเรียกว่า “ γ กันดั้ม” ( γเป็นสัญลักษณ์กรีก แปลว่า“รังสี”) เครื่องรุ่นนี้ได้เพิ่มประสิทธิภาพของระบบขับเครื่องให้ดีกว่า MS-09 Dom มากขึ้น สามารถใช้งานได้ทั้งในเขตอวกาศและพื้นโลก (คำว่า “Dias” เป็นชื่อของผู้ที่ค้นพบ “แหลมกู๊ดโฮป” ตั้งอยู่ตอนปลายสุดของทวีปแอฟริกา)
มีนักบินประจำเครื่องคือควาโทร บาจิน่า, อามุโร่ เรย์
RX-178+FXA-05D Super Gundam
เป็นยูนิตเสริมของกันดั้มมาร์คทู ที่พัฒนาโดยทางบริษัทอนาไฮม์ อิเล็กทรอนิกส์ ใช้ร่วมกับ FXA-05D G-Defenserสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในเรื่องของความเร็วและยังติดตั้งปืนบีมไรเฟิลหวังผลแบบพิสัยไกล สำหรับการใช้ในการสู้รบอีกด้วย
FXA-05D G-Defenser
เป็นยานขนาดเล็กแบบไฟท์ยูนิตที่พัฒนาโดยทางบริษัทอนาไฮม์ อิเล็กทรอนิกส์ ใช้เป็นยูนิตเสริมประสิทธิภาพให้กับกันดั้มมาร์คทูตามท้องเรื่อง
มีนักบินประจำเครื่องคือ คัตสึ โคบายาชิ
Mega Bazooka Launcher
ปืนเลเซอร์ขนาดใหญ่แบบเคลื่อนที่ได้ สามารถใช้ในเขตอวกาศ ตามท้องเรื่องติดตั้งเพื่อใช้งานกับ MSN-00100 Hyaku-Shiki
MS-14A Gelgoog
เป็นโมบิลสูทของทางฝ่ายจักรวรรดิซีออนเก่าที่หลงเหลืออยู่ เครื่องนี้เป็นรุ่นต่อยอดมาจากในรุ่นของ Zaku ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า เครื่องรุ่นเคยถูกนำมาใช้ในช่วงสงครามหนึ่งปีมาก่อน ใช้งานได้ทั้งในเขตอวกาศและพื้นโลก ทางเอวโก้นำมาใช้งานในสงครามตามท้องเรื่อง
Argama
ยานรบหลักของทางฝ่ายเอวโก้ เป็นยานในสายของรุ่น Pegasus III ที่ได้ทางบริษัทอนาไฮม์อิเล็กทรอนิกส์เป็นผู้ลงทุนในการสร้าง โดยยานลำนี้มีพื้นฐานการออกแบบมาจากยานไวท์เบส ที่เคยใช้ในสงครามหนึ่งปีมาก่อน ตัวยานพร้อมสรรพไปด้านอาวุธครบ ทั้งติดตั้งปืนใหญ่และปืนต่อสู้อากาศยาน ทั้งยังมี Gravity Blocks ขนาดใหญ่ที่สามารถยืดออกไปจนสุด เพื่อช่วยสร้างแรงโน้มถ่วงเทียมไว้ใช้ภายในยานอีกด้วย
มีกัปตันประจำยานคือ ไบร์ท โนอา
Radish
ยานรบหลักของทางฝ่ายเอวโก้ เป็นยานในสายของPegasus III รุ่นที่สองถัดจากยานอาร์กาม่า ซึ่งเป็นยานในรุ่นของ Irish class ที่ได้ทางบริษัทอนาไฮม์อิเล็กทรอนิกส์เป็นผู้ลงทุนในการสร้าง โดยยานรุ่นนี้ได้ปรับเปลี่ยนในเรื่องของระบบนำร่องและเรดาห์ได้ดียิ่งขึ้น ตัวยานพร้อมสรรพไปด้านอาวุธครบ ทั้งติดตั้งปืนใหญ่และปืนต่อสู้อากาศยาน โดยรอบทั้งลำ
มีกัปตันประจำยานคือเฮ้นเก้น เบคเคนเนอร์
Earth Federation Forces / Titans Mobile Suits
RX-178 Gundam Mk-II
โมบิลสูทรหัสเครื่อง RX-178 ซึ่งมีโค๊ดเนมว่า “Gundam Mk-II” เป็นโมบิลสูทที่ได้ต่อยอดการพัฒนามาจาก RX-78-2 Gundam ที่อามุโร่ เรย์เคยใช้ในสงครามหนึ่งปีมาก่อน ให้มีประสิทธิภาพที่มากขึ้น โดยGundam Mk-II ถูกสร้างขึ้นอย่างลับๆ โดยทางทีทานส์ มีอยู่ด้วยกันจำนวน 3 เครื่อง ห้องนักบินที่ใช้จอภาพแบบพาโนรามา 360 องศามุมมองเสมือนจริงรอบทิศทาง ที่มีที่นั่งอยู่ตรงกลางของเชิงเส้น โดยเครื่องของสังกัดทีทานส์จะใช้สีโทนน้ำเงินอมม่วงเป็นหลัก
มีนักบินประจำเครื่องคือ เจริด เมสซ่า
RMS-106 Hi-Zack
โมบิลสูทในรุ่นผลิตจำนวนมากของฝ่ายทีทานส์ เครื่องรุ่นนี้พัฒนาขึ้นมาเองโดยทางสหพันธ์โลก โดยนำเอาโมบิลสูทของจักรวรรดิซีออนอย่าง MS-06F Zaku II มาประยุกต์ขึ้นใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพของระบบท่อขับดันทรัสเตอร์ ส่วนหัวของหุ่นออกแบบให้กล้องหลักเป็นแบบโมโนอายแบบเดียวกับเครื่องรุ่นซาคุ 2 ทั้งยังเป็นเรื่องในรุ่นแรกๆ ที่มีห้องนักบินที่ใช้จอภาพแบบพาโนรามา 360 องศามุมมองเสมือนจริงรอบทิศทาง ที่มีที่นั่งอยู่ตรงกลางของเชิงเส้น ซึ่งโมบิลสูทรุ่นนี้สามารถใช้งานได้ง่ายและเป็นที่นิยมในหมู่นักบินอย่างมากเลยทีเดียว
RMS-108 Marasai
โมบิลสูทในรุ่นผลิตจำนวนมากของฝ่ายทีทานส์ ในรุ่นสายการผลิตต่อยอดมาจากโมบิลสูทรุ่น RMSSeries อย่างRMS-106 Hi-Zackรวมถึง Rick Diasพัฒนาโดยทางบริษัทอนาไฮม์ อิเล็กทรอนิกส์ มีประสิทธิภาพที่สูงกว่า RMS-106 Hi-Zack ในเรื่องของระบบท่อขับดันทรัสเตอร์และระบบแหล่งการจ่ายพลังงาน
แม้จะเป็นเครื่องที่ทางฝ่ายทีทานส์ ในสังกัดของสหพันธ์โลกออกแบบและนำมาใช้ประจำการก็จริง แต่ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกนั้นมีแนวคิดการออกแบบมาจากโมบิลสูทของฝ่ายจักรวรรดิซีออนให้เห็นอย่างชัดเจน
RMS-117 Galbaldy-β
โมบิลสูทในรุ่นพัฒนามาจาก MS-17 Galbaldy α ของจักรวรรดิซีออน ที่เคยใช้ในสงครามหนึ่งปีมาก่อน ซึ่งทางสหพันธ์โลกได้นำมาใช้งาน ประยุกต์ในเรื่องของความคล่องตัวที่มีมากขึ้นเป็นเท่าตัวหากติดตั้งทรัสเตอร์เสริมเข้าไป ดังนั้นทีมวิศวกรจึงได้ลดทอนในเรื่องของความทนทานของเกราะนอกลงไป เพื่อให้เครื่องรุ่นนี้แสดงประสิทธิภาพได้อย่างสูงสุด โดยทางสหพันธ์โลกส่งเครื่องรุ่นนี้ไปประจำการที่ Luna II
NRX-044 Asshimar
โมบิลสูทในรุ่นแรกๆ ที่สามารถเปลี่ยนโหมดการใช้งานได้ โดยเครื่องรุ่นนี้สามารถแปลงเป็นโมบิลอาร์เมอร์ได้ สามารถบินด้วยความเร็วสูงในเขตแรงดึงดูด ใช้กล้องเป็นแบบโมโนอาย ผลิตออกมาแบบจำกัดจำนวนสำหรับนักบินหัวกระทิเท่านั้น
มีนักบินประจำเครื่องคือ บูรัน บลูทราค
ORX-005 Gaplant
เป็นโมบิลสูทที่ออกแบบโดยทางสถาบันวิจัยออกัสตา ในสังกัดของสหพันธ์โลก และยังเป็นโมบิลสูทในรุ่นแรกๆ ที่สามารถเปลี่ยนโหมดการใช้งานได้ โดยเครื่องรุ่นนี้สามารถแปลงเป็นโมบิลอาร์เมอร์ได้ สามารถบินด้วยความเร็วสูงในเขตแรงดึงดูด ติดตั้งปืนบีมไรเฟิลเอาไว้สองข้าง เครื่องรุ่นนี้ถูกสร้างเพื่อให้นักบินที่เป็น “นิวไทป์เทียม” ใช้งาน
มีนักบินประจำเครื่องคือ โรซาเมีย บาดั้ม
MRX-009 Psycho Gundam
โมบิลสูทขนาดใหญ่ที่พัฒนาโดยทางสถาบันมุราซาเมะ สังกัดของสหพันธ์โลก เป็นเครื่องที่สร้างขึ้นเพื่อให้นักบินที่เป็นนิวไทป์เทียมขึ้นบังคับ ห้องนักบินใช้ระบบ “ไซโคมิว”ควบคุมตัวหุ่นผ่านทางกระแสความคิด ซึ่งเป็นระบบเดียวกับที่พัฒนาโดยจักรวรรดิซีออน ในช่วงสงครามหนึ่งปี ติดตั้งเครื่องยนต์ Minovsky craft ทำให้มีความต้านทานแรงโน้มถ่วงของโลกและบินขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศได้ด้วยตัวเอง และยังสามารถเปลี่ยนโหมดการใช้งานเป็นโมบิลอาร์เมอร์ได้ ซึ่งเครื่องรุ่นนี้ถูกทำลายในศึกที่เขาคิลิมันจาโร ในประเทศแทนซาเนีย ทวีปแอฟริกาตะวันออก (ในหนังโรงจะถูกใช้ให้ไปชนกับยานการูด้าของทีทานส์ที่จะพุ่งชนยานอาร์กาม่าของเอวโก้)
มีนักบินประจำเครื่องคือ โฟร์ มุราซาเมะ
MRX-010 Psycho Gundam Mk-II (TV only)
โมบิลสูทขนาดใหญ่ที่พัฒนาโดยทางสถาบันมุราซาเมะ สังกัดของสหพันธ์โลก เป็นรุ่นที่สองต่อจาก MRX-009 Psycho Gundam ที่ถูกทำลายไป ตัวเครื่องมีการเพิ่มคุณสมบัติให้สูงกว่าเดิม ด้วยการติดตั้งปืนลำแสงขนาดเล็กทั่วตัวถึง 20 จุด สามารถจักการกับเป้าหมายในทุกทิศทาง ที่แขนได้ติดตั้งบีมเซเบอร์ขนาดใหญ่ ที่สามารถถอดและติดตามเป้าหมายได้โดยควบคุมผ่านสายเคเบิ้ล และยังมี “Reflector Bits” ใช้ในการสะท้อนบีมเลเซอร์ได้อีกด้วย ซึ่งโดยรวมแล้วเป็นอาวุธรบที่มีความน่ากลัวอย่างมาก
มีนักบินประจำเครื่องคือ โรซาเมีย บาดั้ม
RX-110 Gabthley
โมบิลสูทในรุ่นแรกๆ ที่สามารถเปลี่ยนโหมดการใช้งานได้ โดยเครื่องรุ่นนี้สามารถแปลงเป็นโมบิลอาร์เมอร์ได้ พัฒนาภายใต้การดูแลของพัพติมัส ซีร็อคโก้ที่วางแนวคิดที่จะต่อยอดพัฒนาออกมาแบบรุ่นจำนวนมาก เป็นเครื่องที่มีประสิทธิภาพสูง ทั้งการต่อสู้ในระยะใกล้และไกล แต่อย่างไรก็ตามการออกแบบและขั้นตอนการแปลงร่างมีซับซ้อนเกินไป รวมไปถึงค่าใช้จ่ายสำหรับการผลิตนั้นยังถือว่าสูงอยู่ จึงทำออกมาไม่กี่เครื่องเท่านั้น
มีนักบินประจำเครื่องคือ เจริด เมสซ่า, เมอเรอร์ ฟาโรห์
RMS-154 Barzam
โมบิลสูทในรุ่นสายการผลิตเดียวกันกับGM II, RMS-106 Hi-Zack และRMS-108 Marasai ซึ่งอยู่ในการพิจารณาถึงงบประมาณในการสร้าง เพื่อใช้งานในแบบรุ่นผลิตจำนวนมาก ซึ่งเครื่องรุ่นนี้จะเพิ่มความสามารถในการติดตั้งอาวุธที่หลากหลายประเภท อีกทั้งโมบิลสูทรุ่นนี้ถูกออกแบบภายใต้กรอบพื้นฐานความสามารถเดียวกันกับ RX-178 Gundam Mk-II เพียงแต่รูปลักษณ์ภายนอกนั้นต่างกันสิ้นเชิง และมีข้อเสียในเรื่องของระบบพลังงานที่ตัวเครื่องใช้นั้นมากเกินความจำเป็น จึงทำให้โมบิลสูทรุ่นนี้อยู่ในขอบเขตการผลิตที่ไม่มากนัก
NRX-055 Baund-Doc
โมบิลสูทในรุ่นแรกๆ ที่สามารถเปลี่ยนโหมดการใช้งานได้ โดยเครื่องรุ่นนี้สามารถแปลงเป็นโมบิลอาร์เมอร์ได้ ซึ่งเครื่องรุ่นนี้ถูกพัฒนาขึ้นให้สำหรับนักบินที่เป็นนิวไทป์ควบคุม ภายในห้องนักบินใช้ระบบไซโคมิวควบคุมตัวหุ่นผ่านทางกระแสความคิด
มีนักบินประจำเครื่องคือ โรซาเมีย บาดั้ม, เจริด เมสซ่า
RX-139 Hambrabi
โมบิลสูทในรุ่นแรกๆ ที่สามารถเปลี่ยนโหมดการใช้งานได้ โดยเครื่องรุ่นนี้สามารถแปลงเป็นโมบิลอาร์เมอร์ได้ต่อยอดการพัฒนามาจาก RX-110 Gabthley มีจุดเด่นคือเซ็นเซอร์แบบโมโนอาย 5 ตัวที่ติดตั้งไว้ทั่วรอบหุ่น ช่วยในการค้นหาและติดตามเป้าหมายได้ง่ายขึ้น มีปีกขนาดใหญ่ที่ใช้ในการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง มีอาวุธพิเศษอย่างจรวดยิงเส้นลวดเพื่อใช้ในการส่งแรงกระแสไฟฟ้ากำลังสูง เพื่อทำให้เป้าหมายหยุดชะงักชั่วคราวได้ เครื่องรุ่นนี้ถูกสร้างออกมาจำกัดเพียง 3 เครื่องเท่านั้น
มีนักบินประจำเครื่องคือ ยาซัม กาเบิ้ล
RX-160 Byarlant
โมบิลสูทรุ่นต้นแบบของทางสหพันธ์โลกที่ได้พัฒนาขึ้นในระยะเวลาที่รวดเร็ว ซึ่งมีจุดเด่นคือถังเชื้อเพลิงขนาดใหญ่และระบบทรัสเตอร์ที่สามารถบินในชั้นบรรยากาศได้เองโดยไม่ต้องพึ่งเครื่องเบสแจ็บเบอร์ มีอาวุธเป็นบีมเซเบอร์และบีมไรเฟิลติดตั้งอยู่ที่ต้องส่วนแขน ด้วยพลังงานที่มีอย่างเหลือเฟือจึงลดข้อเสียเปรียบในการต่อสู้แบบยืดเยื้อไปได้
มีนักบินประจำเครื่องคือ เจริด เมสซ่า
PMX-000 Messala
โมบิลสูทในรุ่นแรกๆ ที่สามารถเปลี่ยนโหมดการใช้งานได้ โดยเครื่องรุ่นนี้สามารถแปลงเป็นโมบิลอาร์เมอร์ได้ และยังมีประสิทธิภาพที่สูงกว่าโมบิลสูทของทีทานส์ทั่วๆ ไป สามารถเร่งความเร็วได้อย่างฉับพลัน ติดตั้งทรัสเตอร์ขนาดใหญ่ที่เอาไว้บินในเขตแรงโน้มถ่วงสูงอย่างเช่นดาวพฤหัสได้
มีนักบินคือ พัพติมัส ซีร็อคโก้ เป็นผู้ออกแบบเครื่องในรุ่นนี้ด้วย
PMX-001 Palace-Athene
โมบิลสูทหนึ่งในสามที่พัฒนาขึ้นมาเองโดยจูปิทริส เป็นเครื่องที่ใช้ในเขตอวกาศได้อย่างมาประสิทธิภาพสูง ตัวเครื่องออกแบบให้มีรูปทรงคล้ายคลึงกับแนวคิดแบบจักรวรรดิซีออน มีส่วนหัวที่เป็นกล้องจับภาพแบบโมโนอาย สามารถติดตั้งปืนบีมไรเฟิลได้มากถึง 10 ลำกล้อง ทั้งยังมีช่องเก็บมิซไซล์ขนาดเล็กถึง 8 ช่อง และโล่ขนาดกลางใช้ปัดหรือรับการโจมตี
มีนักบินประจำเครื่องคือ เร็คคอร์ด ลอนด์
PMX-002 Bolinoak-Sammahn
โมบิลสูทหนึ่งในสามที่พัฒนาขึ้นมาเองโดยจูปิทริส เป็นเครื่องที่ใช้ในเขตอวกาศได้อย่างมาประสิทธิภาพสูง ออกแบบขึ้นมาโดยใช้แนวคิดแบบ “ค้นหาและทำลายเป้าหมาย” ติดตั้งบีมกัน x 2 บีมเซเบอร์ และช่องปล่อยมิซไซด์ มีระบบเซ็นเซอร์ที่มีประสิทธิ์ภาพในการค้นหาเป้าหมาย
มีนักบินประจำเครื่องคือ ซาร่าห์ ซาเบียรอฟ
PMX-003 The-O
โมบิลสูทหนึ่งในสามที่พัฒนาขึ้นมาเองโดยจูปิทริส เป็นเครื่องที่ใช้ในเขตอวกาศได้อย่างมาประสิทธิภาพสูง แม้จะมีรูปร่างที่เทอะทะ แต่มีความคล่องตัวอย่างมาก มีระบบไบโอเซ็นเซอร์คล้ายกับใน MSZ-006 Zeta Gundam ทำหน้าที่คล้ายกับระบบไซโคมิว ช่วยให้พัพติมัส ซีร็อคโค่ซึ่งเป็นนิวไทป์ใช้งานเครื่องนี้ได้มีประสิทธิภาพและอย่างง่ายดายมากขึ้น
Jupitris
ยานลำเลียงขนส่งขนาดใหญ่ที่ใช้เดินทางไปมาระหว่างโลกกับดาวพฤหัส ซึ่งใช้ในการลำเลียงเชื้อเพลิง helium³ กลับมายังโลก ตัวยานมาความยาวมากถึง 2000 เมตรจากส่วนหน้ายานถึงท้ายยาน มีระบบสร้างแรงโน้มถ่วงเทียม ซึ่งพัพติมัส ซีร็อคโค่ได้ใช้เป็นฐานบัญชาการรบครั้งสุดท้ายในสงครามตามท้องเรื่อง
AXIS Mobile Suits
AMX-004 Qubeley
โมบิลสูทที่ได้พัฒนาขึ้นเองของทาง AXISซึ่งห้องนักบินใช้ระบบไซโคมิว ควบคุมการทำงานของเครื่อง ตัวเครื่องติดตั้งอาวุธประเภทบิทส์อย่าง “funnel” 10 ตัวที่ส่วนใต้กระโปรงของหุ่น ซึ่งเป็นอาวุธของนิวไทป์ที่ต่อยอดการพัฒนามาจาก MAN-08 Elmeth ที่นิวไทป์อย่าง “ลาล่า ชุน” เคยใช้มาก่อน ทำให้มีประสิทธิในการจัดการกับเป้าหมายแบบฉับไวได้
มีนักบินประจำเครื่องคือ ฮามาน คาร์น
AMX-003 (MMT-1) Gaza-C
เป็นโมบิลสูทรุ่นผลิตจำนวนมากของฝ่าย AXIS โดยต่อยอดการพัฒนามาจาก Gaza-A และ AMX-002 Gaza-B มีความสามารถในการแปลงร่างเป็นโมบิลอาร์เมอร์ได้ ถือเป็นกำลังสำคัญหลักในการต่อสู้ของทาง AXIS ก็ว่าได้
MS-21C Dra-C
เป็นโมบิลสูทรุ่นผลิตจำนวนมากของฝ่าย AXIS ที่สร้างมาเพื่อการใช้งานในเขตอวกาศเท่านั้น ซึ่งสามารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงได้
AMX-007 (MMT-3) Gaza-E
เป็นโมบิลสูทของฝ่าย AXIS โดยต่อยอดการพัฒนามาจาก AMX-003 (MMT-1) Gaza-Cที่ตัดความสามารถในการแปลงร่างเป็นโมบิลอาร์เมอร์ออกไป แล้วเพิ่มประสิทธิภาพในเรื่องของความเร็วที่มากขึ้น สามารถใช้ในชั้นบรรยากาศของโลกได้ แต่เนื่องจากเครื่องรุ่นนี้มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงกว่ารุ่น Gaza-C จึงทำให้ถูกผลิตออกมาได้ในจำนวนจำกัดเท่านั้น
Gwadan
ยานบัญชาการของทางฝ่าย AXIS ชั้น GwadanClass ซึ่งภายในมีการตกแต่งให้ดูหรูหราเพื่อเป็นที่พักให้กับมิเนอร์ว่า เลอ ซาบี้
Staff
Director: Yoshiyuki Tomino
Music: Shigeaki Saegusa
Original creator: Hajime Yatate, Yoshiyuki Tomino
Character Design: Yoshikazu Yasuhiko (YAS)
Art Director: Junichi Higashi
Mechanical design: Kazumi Fujita, Kunio Okawara
Sound Director: Sadayoshi Fujino
Color design: Kiyoko Takashima
Cgi Director: Tomohiro Fujie
Director of Photography: Kentarō Waki
Color design: Kiyoko Takashima
Editing: Yumiko Fuse
Theme Song Performance: GackT
miraclesaven
-
BEYBLADE X : 10 ตัวน่าซื้อ ของมันต้องมีในปี 2024
#beybladex #kctoysbeybladex #beybladexthailand
-
KARATE KID: LEGENDS [เรื่องย่อ / ตัวอย่าง / หนังใหม่ /2025]
#KarateKidMovie #KarateKi #เฉินหลง #JackieChan
-
20 ตัวละครจากเกมยอดนิยมที่ถูกค้นหามากที่สุดในเวปไซต์สำหรับผู้ใหญ่ 2024
#Ranking #website #Games #PC #Console