Mobile Suit Gundam SEED กันดั้มซี้ด [เรื่องย่อ/ตัวละคร/ตัวอย่าง/เพลงประกอบ]

ชื่ออังกฤษ : Mobile Suit Gundam SEED
ชื่อไทย : กันดั้มซี้ด
ชื่อญี่ปุ่น : 機動戦士ガンダムSEED
แนว : แอคชั่น, หุ่นยนต์, ดราม่า
ผู้กำกับ : มิตสึโอะ ฟุคุดะ
ผู้ผลิต : สตูดิโอซันไรส์
ความยาว : 50 ตอน

 

 

หนึ่งในอนิเมชั่นกันดั้มที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุดเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ สำหรับ Mobile Suit Gundam SEED โดยในภาคนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของอีกหลายๆภาคด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Mobile Suit Gundam Seed Destiny, Mobile Suit Gundam Seed Astray และ Mobile Suit Gundam Seed C.E.73 Stargazer รวมไปถึงมีภาคพิเศษอย่าง Gundam Seed Special Edition ซึ่งเป็นการเล่าเรื่องเดิมในแบบกระชับแต่เพิ่มฉากใหม่เข้าไป และรวบรัดให้จบใน 3 ตอน โดยสำหรับไทยนั้น ค่าย DEX เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์และได้เคยนำมาฉายทางโทรทัศน์ทางช่อง 5 และช่อง ASTV3 Happy Variety Channel.

 

 

โดยชนวนสงครามของในภาค SEED ครั้งนี้ เกิดมาจากความแตกต่างของสายพันธุ์มนุษย์ระหว่างมนุษย์ที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ (เนเชอรัล) และมนุษย์ที่เกิดขึ้นโดยผ่านการตัดต่อพันธุกรรม (โคออร์ดิเนเตอร์) จนมีสติปัญาและความสามารถเหนือกว่าคนทั่วไป ด้วยความหวาดระแวงจึงเกิดเป็นสงครามแห่งความเกลียดชังระหว่าง สหพันธ์โลก ของฝ่ายเนเชอรัล และ ซาฟท์ จากฝ่ายโคออร์ดิเนเตอร์ สงครามที่เกิดขึ้นนี้ทำให้เด็กหนุ่มสาวต้องมาพัวพันในไฟสงครามรวมไปถึง คิระ ยามาโตะ และ อัสรัน ซาล่า สองเด็กหนุ่มเพื่อนรักที่ต้องแยกจากกัน และกลับมาพบกันอีกครั้งในฐานะศัตรูของกองกำลังฝ่ายตรงข้าม

 

เรื่องย่อ

 

ปี Cosmic Era ที่ 70 หลังจากวาเลนไทน์เลือด สถานการณ์ความตรึงเครียดระหว่างกองกำลังโลกและแพลนท์จากฝ่ายซาฟท์ได้ดำเนินการฮ่ำหั่นไปด้วยกำลังรบ และด้วยกองกำลังโลกที่มีเหนือกว่าทำให้เป็นฝ่ายมีชัย ดังนั้นเพื่อเป็นการตอบโต้นิวเคลียร์ของฝ่ายโลก ซาฟท์จึงได้ตอบโต้ด้วยนิวตรอนเจมเมอร์ ส่งผลให้โลกขาดแคลนพลังงานอย่างรุนแรง แต่กระนั้นสงครามก็ยังคงยืดเยื้อยาวนานถึง 11 เดือน ใน เฮลิโอโพลิส โคโลนี่ของ ออร์บ ผู้เป็นกลางไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด แต่แล้วฝ่าย ซาฟท์ นำโดย พันตรีมู ลา ฟลาก้า ได้ส่งกองกำลังมาทำลายฐานทัพลับและขโมยโมบิลสูททั้ง 5 (ได้แก่ สไตรค์, ดูเอล, บัสเตอร์, อีจิส และบลิทซ์) ซึ่งฝ่ายสหพันธ์โลกแอบพัฒนาซุกซ่อน

 

 

คิระ ยามาโตะ เด็กหนุ่ม นักเรียนวิศวกรรมหุ่นยนต์ของเฮลิโอโพลิส ผู้รักสงบและเพื่อนๆ ต้องเผชิญกับสงครามโดยไม่ทันตั้งตัว ด้วยความบังเอิญจึงทำให้เขาต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับสงครามโดยไม่คาดคิด เมื่อความสามารถจากการเป็นโคออร์ดิเนเตอร์ของเขา ทำให้เขาสามารถติดตั้งระบบปฏิบัติการ (OS) ใหม่ให้กับ สไตรค์ กั้นดั้มตัวเดียวที่เหลือรอดของฝ่ายสหพันธ์โลก 

 

 

และระหว่างการต่อสู้ ณ เฮลิโอโพลิส นั้นเอง คิระก็ได้พบกับ อัสรัน ซาล่า เพื่อนสนิทในวัยเด็กที่จำต้องมาพบกันอีกครั้งในฐานะของศัตรูจากฝ่ายซาฟท์ ความผูกพันในวัยเยาว์ทำให้ทั้งคู่ลังเลที่จะโจมตีกัน แต่สุดท้ายด้วยความต้องการปกป้องเพื่อนๆ ทำให้คิระจึงลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากับศัตรูที่เเม้จะเป็นอดีตเพื่อนรักของเขาก็ตามในที่สุด คิระและเพื่อนได้เข้าประจำการเป็นหนึ่งในลูกเรือของยานอาร์คแองเจิ้ล และรับหน้าที่นักบินผู้บังคับ สไตรค์ หนึ่งใน GAT-X ซีรีส์  ที่เหลืออยู่ อย่างไรก็ตามการสูญเสียได้เกิดขึ้นเสมอ ไม่เว้นแม้แต่คนใกล้ตัวเขา นำพามาซึ่งชนวนความบาดหมางและหวาดระแวงภายใน เมื่อ เฟรย์ เด็กสาวคู่หมั้นเพื่อนในกลุ่มของเขาต้องสูญเสียพ่อไปจากการต่อสู้ของคิระ  ความเกลียดชังในตัวเหล่าโคออร์ดิเนเตอร์ยังคงมีอยู่ต่อไป

 

 

แต่สงครามก็ไม่ได้นำมาซึ่งศัตรูเท่านั้น เมื่อการชอบช่วยเหลือผู้คนของคิระ ทำให้ได้พบกับ ลักซ์ ไคล์น ลูกสาวประธานสภาแห่งซาร์ฟ ผู้มีจิตใจอ่อนโยนและเป็นคู่หมั้นของอัสรัน ที่แม้จะทำให้คิระทำเรื่องร้ายแรงลงไป แต่ก็ทำให้ได้ผลตอบแทนของความ้ป็นมิตรในแบบที่เขาไม่อาจคาดถึง นอกจากนี้สงครามยังได้ชักนำให้เขาค้นพบความจริงเกี่ยวกับที่มาของตัวเองในอดีต พร้อมกับเรื่องแปลกใจอันเกี่ยวกับ คางาริ ยูระ อัธฮา เด็กสาวที่เขาเคยคิดว่าเป็นผู้ชาย

 

 

สงครามการต่อสู้ครั้งนี้จะเป็นอย่างไร?

อะไรคือสิ่งที่เหล่าบรรดาเด็กหนุ่มได้เรียนรู้ นอกจาก เรื่องราวของชีวิต ความตาย ความแค้น และความหมายของการลั่นไก? นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น… สงครามได้เริ่มขึ้นแล้ว.

 

  

แนะนำตัวละคร

 

คิระ ยามาโตะ (Kira Yamato)

 

 

เด็กหนุ่มโคออดิเนเตอร์ ผู้มีความสามารถในการบังคับโมบิวสูท GAT-X105 สไตรค์ ได้ เขาเกิดจากพ่อผู้เป็นนักวิจัยในการสร้างเหล่าโคออร์ดิเนเตอร์ และแม่ที่เป็นเนเชอรัล โดยคิระนั้น มีฝาแฝดคือ “คางาริ” เด็กสาวผมทองที่มักถูกอารมณ์เสียบ่อยๆ อย่างไรก็ดี แม้ทั้งสองจะเป็นพี่น้องกัน แต่เพราะต้องแยกจากกันตั้งแต่เด็กในระหว่างการปะทะ ทำให้คิระถูกนำไปฝากเลี้ยงกับครอบครัวยามาโตะ ส่วนคางาริถูกฝากเลี้ยงไว้กับผู้นำของออร์บ โดยภายหลังคิระได้ไปบังคับโมบิลสูทรุ่น ZGMF-X10A Freedom แทน

 

เมอร์ริว ราเมียส (Murrue Ramius)

 

 

ร้อยโทหญิงแห่งสหพันธ์โลก สังกัดกองกำลังภาคพื้นแอตแลนติก เป็นเจ้าหน้าที่รับผิดชอบโปรเจ็ค G ดูแลการผลิตและทดสอบอยู่ที่เฮลิโอโพลิส ซึ่งต่อมาเธอได้รับตำแหน่งกัปตันยานอาร์คแองเจิ้ล หลังการเข้าโจมตีของซาฟท์

 

มู ลา ฟลาก้า (Mwu La Fraga)

 

 

พันตรีผู้รับหน้าที่ในการพานักบินจบใหม่ของโปรเจ็ค G ไปส่งยังท่าจอดยาน ได้รับฉายาว่า “พญาเหยี่ยวแห่งเอนเอเมี่ยน” เขาเป็นหนึ่งในลูกเรือในยานอาร์คแองเจิ้ล ซึ่งหลังจากคิระได้ย้ายไปโมบิลสูท Freedom มูก็ได้เป็นนักบินของสไตรค์แทน ผ่านระบบปฏิบัติการที่คิระตั้งขึ้นใหม่สำหรับเนเชอรัลโดยเฉพาะ

 

นาทาล บาจิรูล (Natarle Badgiruel)

 

 

ร้อยตรีหญิงจากหน่วยกองยานที่ 8 มีความเป็นผู้นำสูงและเคร่งครัดในความถูกต้องเสมอ เธอสังกัดอยู่สหพันธ์โลก หน่วยของเธอได้รับมอบหมายหน้าที่ลับสุดยอดให้นำยานรบอาร์คแองเจิ้ลจากมอร์เก้นเรดกลับมายังดวงจันทร์ แต่ถูกโจมตีเข้าเสียก่อน หลังจากเธอและลูกน้องบางส่วนรอดชีวิตมาได้จึงได้นำอาร์คแองเจิ้ลออกยานมาสู่ภายในโคโลนี จนได้พบกับร้อยโทเมอริว พร้อมทั้งคิระและเพื่อนๆ จากนั้นได้มอบตำแหน่งกัปตันให้ร้อยโทเมอริวด้วยเหตุผลเพราะเธอมีรู้จักยานดีกว่าและออกคำสั่งได้ดีกว่า ส่วนเธอรับหน้าที่ C.I.C (Combat Information Center) ซึ่งทำหน้าที่สั่งการโจมตีทุกชนิดให้กับยานอาร์คแองเจิ้ล ไม่ผ่านคำสั่งของกัปตัน ต่อมาภายหลังอาร์คแองเจิ้ลเข้าประจำที่ฐานทัพโจชัวร์ เธอก็ได้เป็นกัปตันยานรบ โดมิเนี่ยน แทน

 

เฟรย์ อัสตาร์ (Flay Alstar)

 

 

เพื่อนของคิระและเป็นลูกสาวของรัฐมนตรีต่างประเทศสหพันธ์โลก เป็นหนึ่งในลูกเรืออาร์คแองเจิ้ลด้วยเช่นกัน เป็นคู่หมั้นของไซหนึ่งในเพื่อนของคิระ เธอสูญเสียพ่อไประหว่างการโจมตีของกองยานจากครูเซ่ ทำให้แค้นเคืองคิระและโทษว่าเป็นความผิดของเขา จึงมักกดดันด้วยคำพูดให้คิระออกไปต่อสู้ให้ตายๆ ไปบ่อยๆ อย่างไรก็ตามภายหลังเธอถูกครูเซ่จับตัวไป และถูกใช้เป็นเครื่องมือในการนำแปลนการผลิด N-Jammer Canceler ไปมอบให้กับฝ่าย Blue Cosmos แต่สุดท้ายเธอก็ต้องจบชีวิตลง

 

มิริอาเรีย ฮาล์ว (Miriallia Haww)

 

 

มีชื่อเล่นว่า “มิลลี่” เป็นหนึ่งในกลุ่มเพื่อนของคิระ เธอเป็นคนรักของทอลล์ รับหน้าที่สื่อสารกับนักบินบนยานอาร์คแองเจิ้ล และไม่เคยมองคิระในแง่ร้ายเลย

 

อัสรัน ซาล่า (Athrun Zala)

 

 

เพื่อนสนิทสมัยเด็กของคิระ ก่อนจะเข้าเป็นทหารของซาร์ฟและประจำการในสังกัดหน่วยครูเซ่ อัสรันเป็นนักบินบังคับหุ่น GAT-X303 อีจิส สาเหตุที่อัสรันเข้าฝ่ายซาฟท์เพราะ “ลีนัวร์ ซาล่า” แม่ของเขา เสียชีวิตในยูนิอุสเซเว่น อย่างไรก็ตามต่อมาภายหลังเขาก็เข้าร่วมต่อสู้กับร่วมกับอาร์คแองเจิ้ล

 

ลักซ์ ไคล์น (lacus Clyne)

 

 

คู่หมั้นของอัสรัน เธอคือ ลูกสาวของซีเคล ไคล์น ประธานสภาแห่งซาร์ฟ หรือ “เจ้าหญิงแห่งเสียงเพลงของซาร์ฟ” ที่ประชาชนชาวแพลนท์รักและให้ความเชื่อถือ ด้วยเพราะความฉลาด บุคลิคดี อ่อนโยน และมีแนวคิดเพื่อสันติภาพ ระหว่างการเดินทางหลบหนีการโจมตีของโลก คิระได้ช่วยเหลือเธอเอาไว้ นั่นจึงทำให้เธอได้มีโอกาสทำความรู้จักและเข้าใจคิระชัดเจนมากขึ้น ภายหลังเธอได้เป็นผู้นำยานเอเทอร์นอล ร่วมกับอาร์คแองเจิ้ลและคุซานางิ เพื่อทำลายเจเนซิสและปิดฉากสงครามในครั้งนี้

 

ราอูล เลอ ครูเซ่ (Raww Le Klueze)

 

 

หัวหน้าหน่วยครูเซ่ กองทัพซาฟท์ แม้เบื้องหน้าจะเป็นหัวหน้าของพวกอัสรัน แต่ก็แอบแฝงจุดประสงค์ที่จะทำลายล้างเผ่าพันธุ์มนุษยชาติให้สิ้นซาก เพราะมนุษย์เป็นผู้ให้กำเนิดเขาขึ้นมา ครูเซ่ เป็นโคลนนิ่งของ อัล เดอ ฟลาก้า (พ่อของ มูว ลา ฟลาก้า) ที่ ดร.ยูเรน ฮิบิกิ สร้างขึ้น

 

คางาริ ยูระ อัธฮา (Kagari Yura Asuha)

 

 

เด็กสาวพี่น้องฝาแฝดของคิระ แต่ถูกเลี้ยงดูโดย อุซุมิ ผู้นำประเทศออร์บ ซึ่งคิระได้ช่วยชีวิตเธอไว้ ขณะเดินทางไปเฮลิโอโพลิสิเพื่อสืบหาโครงการ G โดยในการโจมตีของสหพันธ์โลกที่ออร์บ คางาริบังคับหุ่น MBF-02 สไตรด์รูจ ซึ่งเหมือนกับสไตรค์ของคิระ แต่มีระบบเฟรสชิพต่างกัน และเธอยังจัดเป็นตัวละครสำคัญที่มีส่วนเปลี่ยนแนวความคิดของอัสรันให้เปลี่ยนมาเข้าฝ่ายสหพันธ์โลก

  

 

หุ่นรบเด่นๆ

 

GAT-X105 สไตรค์กันดั้ม

 

ข้อมูลทั่วไป
ชื่อญี่ปุ่น : ストライクガンダム
ชื่ออังกฤษ : Strike Gundam
ประเภท : โมบิลสูทเอนกประสงค์ รุ่นต้นแบบ
ความสูง : 17.72 เมตร
น้ำหนัก : 64.8 ตัน
เกราะ : เฟสชิฟท์อาเมอร์
อุปกรณ์ : ปืนวัลแคน 75 มม. “อิเกลชเตลลุงก์”, บีมไรเฟิลกำลังสูง 57 มม., มีด “อาเมอร์ชไนเดอร์”, บาซูก้า, โล่, ดาบ “แกรนด์แสลม”
คุณสมบัติพิเศษ : ฮาร์ดพ้อยสำหรับ ติดตั้งสไตรเกอร์แพ็ค
นักบินสำคัญ : คิระ ยามาโตะ, มูว์ ลา ฟราก้า, สเวน คาล บายัน

 

 

สไตรค์เป็นหนึ่งในกันดั้ม GAT-X ซีรีส์ ทั้งห้าที่พันธมิตรโลกพัฒนาขึ้นมา เพื่อตอบโต้โมบิลสูท ของ ซาฟท์ ซึ่งโมบิลสูททั้งห้านั้นล้วนแต่ใช้เทคโนโลยีเกราะเฟสชิฟท์อาเมอร์ (Phase Shift Armor) หรือ PS โดยปกติเมื่อยังไม่เปิดการใช้งานเครื่องจะเป็นสีเทา แต่เมื่อเปิดใช้งาน จะสร้างสนามพลังคลุมตัวเกราะไว้ ทำให้การโจมตีด้วยอาวุธที่ไม่ใช่บีมแทบจะไม่มีผลกับกันดั้ม แต่เนื่องจากกันดั้มต้องใช้แบ็ตเตอรีเป็นแหล่งพลังงาน เมื่อต้องใช้ในสนามรบที่มีนิวตรอนจะทำให้การใช้เกราะเฟสชิฟท์มีเวลาจำกัด

 

ZGMF-X10A ฟรีด้อมกันดั้ม

 

ข้อมูลทั่วไป
ชื่อญี่ปุ่น : フリーダムガンダム
ชื่ออังกฤษ : Freedom Gundam
ประเภท : โมบิลสูทรุ่นต้นแบบสำหรับโจมตี
ความสูง : 18.03 เมตร
น้ำหนัก : 71.5 ตัน
เกราะ : เฟสชิฟท์อาเมอร์
กำลังเครื่อง : 8826 กิโลวัตต์
อุปกรณ์ : ปืนวัลแคน 76 มม. “พิคัส”,บีมเซเบอร์ “ลาเซอร์ตา”,บีมไรเฟิลกำลังสูง “ลูพัส”,พลาสม่าบีมแคนน่อน “บาลาเอน่า”,เรลกัน “ซิเฟียส”,โล่
คุณสมบัติพิเศษ : นิวตรอนแจมเมอร์แคนเซลเลอร์, ฮาร์ดพ้อยสำหรับติดตั้งเมเทีย
นักบินสำคัญ : คิระ ยามาโตะ

 

 

เป็นโมบิลสูทตัวเอกที่สองต่อจากสไตรค์ของคิระ และมีบทบาทสำคัญต่อมาในโมบิลสูทภาคต่อไป โดย Freedom Gundam นั้น เป็นหนึ่งในโมบิลสูทที่ซาฟท์พัฒนาขึ้นด้วยเทคโนโลยีที่จำลองมาจาก GAT-X ซีรีส์ โมบิลสูทเหล่านี้มีเทคโนโลยีนิวตรอนแจมเมอร์แคนเซลเลอร์ ทำให้ไม่ได้รับผลจากนิวตรอนแจมเมอร์ได้ และมีการใช้เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิชชั่นเป็นแหล่งพลังงานแทนแบตเตอรี ทำให้สามารถปฏิบัติการได้เป็นเวลานานเพราะไม่ม่ข้อจำกัดของเวลาจากการใช้แบ็ตเตอรี่เหมือนสไตรค์

 

GAT-X303 อีจิสกันดั้ม

 

ข้อมูลทั่วไป
ชื่อญี่ปุ่น : イージスガンダム
อังกฤษ : Aegis Gundam
ประเภท : โมบิลสูทแบบแปลงร่างได้รุ่นต้นแบบ
ความสูง : 18.86 เมตร
น้ำหนัก : 79.6 ตัน
เกราะ : เฟสชิฟท์อาเมอร์
อุปกรณ์ : ปืนวัลแคน 75 มม. “อิเกลชเตลลุงก์”, บีมไรเฟิลกำลังสูง 60 มม., บีมเซเบอร์, ปืนใหญ่พลังงานสูง 580 มม. “ซิลล่า”, โล่
นักบินสำคัญ : อัสรัน ซาล่า, เอมิลิโอ บรอเดอริค

 

 

เป็นโมบิลสูทของอัสรัน เพื่อนสนิทและศัตรูของคิระ และเป็นหนึ่งในซีรีย์ GAT-X ที่มาพร้อมเทคโนโลยีเกราะเฟสชิฟท์อาเมอร์ (Phase Shift Armor) หรือ PS ที่ถูกพันธมิตรโลกพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโต้โมบิลสูทของซาฟท์ เช่นกับสไตร์ค

 

ZGMF-X09A จัสติสกันดั้ม

 

ข้อมูลทั่วไป

ชื่อญี่ปุ่น : ガンダム
ชื่ออังกฤษ : Justice Gundam
ประเภท : โมบิลสูทรุ่นต้นแบบสำหรับจู่โจม
ความสูง : 18.56 เมตร (วัดถึงหัว)
น้ำหนัก : 75.4 ตัน
เกราะ : เฟสชิฟท์อาเมอร์
กำลังเครื่อง : 8826 กิโลวัตต์
อุปกรณ์ : ปืนวัลแคน 20 มม. “ซาจิททัส”, บีมเซเบอร์ “ลาเซอร์ตา”, บีมไรเฟิลกำลังสูง “ลูพัส, บีมบูมเมอแรง “บัสเซล”, ลิฟเตอร์แบ็คแพ็ค “ฟาทัมดับเบิ้ลซีโร่”, ป้อมปืนกล “เซอวัส”, บีมแคนน่อน “ฟอร์ทิส”, ปืนกล “โวลูคริส”,
คุณสมบัติพิเศษ : นิวตรอนแจมเมอร์แคนเซลเลอร์ม, ฮาร์ดพ้อยสำหรับติดตั้งเมเทีย
นักบินสำคัญ : อัสรัน ซาล่า

 

 

เป็นโมบิลสูทเครื่องที่สองของอัสรัน ที่พัฒนามาจากรุ่น GAT-X ซีรีส์ โมบิลสูทจนมีเทคโนโลยีนิวตรอนแจมเมอร์แคนเซลเลอร์ ซึ่งทำให้ไม่ได้รับผลจากนิวตรอนแจมเมอร์เช่นเดียวกับฟรีด้อมกันดั้ม

 

 

เพลงประกอบ

 

เพลงเปิดเรื่อง (Opening)
Invoke ขับร้องโดย T.M. Revolution
Moment ขับร้องโดย Vivian or Kazuma

Realize ขับร้องโดย Mika Nakashima 

Believe ขับร้องโดย Mika Nakashima 

 

 

เพลงแทรกระหว่างเรื่อง (Insert Song)
Shizuka na Yoru ni ขับร้องโดย Rie Tanaka
METEOR ขับร้องโดย T.M. Revolution
Akatsuki no Kuruma ขับร้องโดย FictionJunction YUUKA
Mizu no Akashi ขับร้องโดย Rie Tanaka

 

 

เพลงจบ (Ending)
Anna ni Issho Datta no ni ขับร้องโดย See-Saw X Kalafina
River ขับร้องโดย ทัตสึยะ อิชิอิ
Find The Way ขับร้องโดย Mika Nakashima  (ตอนที่ 40-จบ) 

 

 

ตัวอย่างอนิเมชั่น

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก wikipedia 

By : Admin@no_สวยสึดๆ