Mobile Suit Gundam Hathaway’s Flash ซับไทย แปลไทย
Mobile Suit Gundam Hathaway’s Flash[Trailer / ตัวอย่าง]
ประเภท : ภาพยนตร์อนิเมชั่น
แนว: Action / SciFi
วันที่ฉาย : 1 กรกฎาคม 2021 ทาง NETFLIX
ผลิตโดย Sunrise
จากนวนิยายของ โทมิโนะ โยชิยูกิ ในปี 1989 สู่มหากาพย์ภาพยนตร์ไตรภาคชุดที่สองของของโปรเจคท์ “UC NexT 0100″
เผื่อใครไม่ทราบ Mobile Suit Gundam Hathaway’s Flash แต่เดิมเป็นผลงานนวนิยายไซไฟแฟนตาซีที่อิงจากจักรวาลกันดั้มหลังสงครามในภาค Char’s Counter Attack แต่งโดย ป๋าเทพ โทมิโนะ โยชิยูกิ และวาดภาพประกอบ ออกแบบตัวละครโดย อ.ฮารุฮิโกะ มิกิโมโต้ ผู้วาดตัวละครดังๆอย่าง “มาครอส” ในตอนนั้นนั่นเอง ออกตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1989 ซึ่งสร้างความปวดหัว ปวดตับปวดไตขายดราม่าอันแสนเข้มข้นจนจิตตกสมชื่อ “โทมิโนะจอมเชือด”
และภาพยนตร์อนิเมเรื่องยาวเรื่องนี้ ก็ยังเป็นหนึ่งในโครงการ ฉลองครบรอบ 40 ปี “UC NexT 0100″ ที่จะสร้างผลงานอนิเมชั่นกันดั้มให้ไปไกลจากเดิม เพิ่มความสวยงามด้วยเทคนิคการวาดภาพใหม่ๆ และการเล่าเรื่องที่สดใหม่โดยยังคงเอกลักษณ์ต้นฉบับเอาไว้
เรื่องราวโดยย่อของ Mobile Suit Gundam Hathaway’s Flash จะเล่าเรื่องราวความขัดแย้งในปี 0105 ของ “ฮาซาเวย์ โนอา” ลูกชายแท้ๆของกัปตัน ไบร์ท โนอา ที่ทนต่อการฉ้อฉล และไม่เป็นธรรมในสหพันธ์โลก ถึงขั้นไล่ล่าคนเห็นต่าง ขับไล่พลเรือนให้ไปอาศัยอยู่นอกอวกาศ โลกจึงดูสวยงามและดูมั่งคั่ง เป็นโลกของคนรวยที่ฮาซาเวย์เห็นมาตลอดและยอมรับไม่ได้ ทำให้เขาตัดสินใจที่จะแตกหักกับพ่อที่เป็นวีรบุรุษใน “สงครามหนึ่งปี” เมื่อปี 0079 ทิ้งชื่อเดิมแล้วไปใช้ชื่อว่า “มาฟตี้ นาบิยู ไอริน”
ต่อมา มาฟตี้ได้พบกับ “กิกิ” กับ “เคนเนธ” ก็ได้ทำให้ชีวิตของมาฟตี้เปลี่ยนไปหลังจากนั้น และเรื่องราวก็จะนำไปสู่การต่อสู้ของ “สุดยอดโมบิลสูทความเร็วสูงของกองทัพสหพันธ์และทางอนาไฮม์” อย่าง “Ξ Gundam” และ “Penelope Gundam”
… ประกายแสงของฮาซาเวย์ จะพาผู้ชมไปถึงจุดที่ทำให้ต้องตั้งคำถามกับตัวเองในหลายๆความหมายอย่างแน่นอน
Review มีสปอยล์
9/10 อนิเมกันดั้มทรงคุณค่าที่แฟน“สายลึก”ต้องดู!!
ก่อนจะไปบรรยายแต่ละองค์ประกอบของหนัง มาลองดูคะแนนโดยรวมที่ผมให้ก่อนเลยดีกว่า แต่ขอบอกก่อนตรงนี้เลยนะครับว่าผมพยายามให้คะแนนโดยตัด Bias ตัดความอวยส่วนตัวออกไปให้ได้มากที่สุดแล้ว
• ภาพและการลงสี : 10 / 10
• อนิเมชั่น : 10 / 10
• เสียงและเพลงประกอบ : 9 / 10
• เนื้อเรื่อง : 7.5 / 10
• คุณภาพการดัดแปลงจากนิยายต้นฉบับ : 9 / 10
• Mechanics Design : 10 / 10
• Character Design : 9.5 / 10
• ภาพและการลงสี : 10 / 10
หลังจากที่ Mobile Suit Gundam Hathaway’s Flash ได้ลงบนแพล็ทฟอร์ม Netflix ตัวผมก็ได้ดูไป 2 รอบเต็มๆ ต้องขอมาเขียนบทความรีวิวในวันนี้เลย
ย้ำเตือนอีกครั้งสำหรับคนที่กดเข้ามาอ่านบทความนี้ว่า “มีสปอยล์” นะครับ ดังนั้นใครยังไม่ดู ถ้าไม่อยากโดนสปอยล์ขอให้คลิกปิดบทความนี้ไปก่อนนะ
สมกับเป็นหนังโรงที่ตั้งตารอคอยมาหลายปี ควรจะได้ดูตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่เมื่อได้ดู ขนาดผ่านจอทีวีที่บ้าน ไม่ใช่โรงหนัง ยังโคตรจะประทับใจกับความสวยของภาพ ความสมจริง เอฟเฟ็คระเบิด ไฟ การปะทุต่างๆ การเลือกโทนสี การลงสี โดยเฉพาะฉากหลังหลายๆสถานที่ ซึ่งแน่นอนว่าโลเคชั่นของภาคนี้อย่าง ดาเวา ถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างสวยงาม
ดาเวา โลเคชั่นหลักของหนังภาคนี้ อยู่ในประเทศฟิลิปปินส์ครับ เลยมีฟีลคล้ายๆบ้านเราอยู่บ้าง
ที่น่าประทับใจมากอีกอย่างคือการผสานกันระหว่าง ภาพวาด (2D) และ CG (3D) ที่มาประจบกันในฉากต่างๆ ได้อย่างสวยงามลงตัว ยกตัวอย่างก็พวกฉากที่เห็นตัวคน (2D) กับโมบิลสูท (3D) ให้เห็นพร้อมกันในฉากนั่นเอง
อนิเมชั่น
การขยับเคลื่อนไหวของตัวละครต่างๆ ถูกวาดออกมาได้อย่างสุดยอด มาพร้อมกับการใช้มุมกล้องในการถ่ายทอดเรื่องราวที่แปลกใหม่ (สำหรับผมนะ นึกเรื่องอื่นที่มีการเล่นมุมกล้องแบบนี้ไม่ออกเลย) ทุกฉากที่มีการเคลื่อนไหวของยานพาหนะ โมบิลสูท ทำออกมาได้ลื่นไหลสุดๆ
ฉากที่ฮาธาเวย์ถือปืนพุ่งเข้าห้องค็อกพิทของเครื่องบินซีนนี้ กินใจผมมากๆ ด้วยมุมกล้องและการกำกับภาพ ทำให้ตัวละครฮาธาเวย์ในซีนนี้ โคตรเท่ ทั้งๆที่ท่าทางการจับปืนอะไรมันก็เบสิคพื้นฐาน
การปะทะกันระหว่างกันดั้ม 2 เครื่อง ถูกถ่ายทอดออกมาโดยใช้ 3D CG ที่ลื่นไหลพลิ้วไหวมากๆ
หุ่นเมสเซอร์เอง มีซีนทีไรก็เท่ไม่แพ้กับกันดั้มทั้ง 2 เครื่องเลย
เสียงและเพลงประกอบ
เรื่องเพลงก็ Top Tier สุดๆ เมื่อมาถึงมือของคุณ Hiroyuki Sawano สุดยอด Music Composer ท่านนี้ (ผลงานก่อนหน้า เช่น Mobile Suit Gundam Unicorn, Gundam Narrative, Aldnoah Zero, RE: Creators, Guilty Crown)
ไล่ตั้งแต่เพลงช่วงเปิดเรื่อง “Möbius” ที่ได้ร่วมงานกับ mpi, Laco, Benjamin, เพลงที่ขึ้นมาตอนกล่างเรื่อง ช่วงที่เกาแมนขับเมสเซอร์บริเวณน่านน้ำของดาเวา “TRACER” และที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือ OST ต่างๆตลอดทั้งเรื่อง ที่ไฮไลท์เลยก็คือเป็นซีนที่ XI ปะทะกับ Penelope อย่างเพลง “XI” และ “car5p3 / PENELOPE” สำหรับใครที่อยากตามไปย้ำฟัง ใน Youtube แชนเนล “澤野弘之 / SawanoHiroyuki[nZk]” มีลงไว้ เช่นเดียวกับแพล็ทฟอร์มอย่าง Spotify ก็มีให้ฟังแล้วครับ
เหตุผลที่ผมให้เพลงไม่เต็ม 10 เพราะผมรู้สึกว่า เพลงมันยังกระหึ่มไม่สุด โดยเฉพาะเพลง XI กับเพลง car5p3 / PENELOPE ผมอยากให้มันกระหึ่มขึ้น ลึกขึ้น เพื่อเพิ่มความ EPIC ในการต่อสู้กว่านี้
แต่ไม่ใช่ว่าเพลงไม่เพราะนะครับ เพลงนี่คืองานดีหมดเลย
เนื้อเรื่อง
อันนี้ต้องบอกก่อนเลยว่า ไม่ใช่ว่าเนื้อเรื่องไม่ดีนะครับ แต่ด้วยเหตุที่ภาคนี้ยังเป็นพาร์ทของการปูเรื่องปูตัวละคร เกริ่นก่อน ดังนั้นแล้วเนื้อเรื่องจะยังไม่ได้มีอะไรที่แบบ Impact ต่อผู้ชมครับผมมองแบบนั้น เลยให้คะแนนไว้ที่ 7.5 แต่ถ้าพูดถึงการเล่าเรื่อง การถ่ายทอดเรื่องราว ทำได้ดีเยี่ยมครับ ไม่รีบ ไม่ช้าไป
คุณภาพการดัดแปลงจากนิยายต้นฉบับ
ก่อนหน้าหนังจะฉายใน Netflix ราวๆ 1 เดือน ผมได้ซื้อนิยายภาค Hathaway’s Flash ลิขสิทธิ์ของ animag มาอ่าน และพบว่าการบรรยายเนื้อเรื่องบางพาร์ทบางซีน มันซับซ้อน นึกภาพตามยากมาก พอได้มาดูหนังโรงนี้ การลำดับต่างๆในการบรรยายได้ถูก “Revise” ให้กระชับและเข้าใจง่ายขึ้นเยอะมาก
พาร์ทที่ผมปวดหัวมากที่สุดตอนอ่านนิยายคือซีนนี้เลยครับ การเข้าไปเอาหุ่น XI Gundam และกว่าที่มันจะบินออกมาได้ ตอนอ่านนิยายนึกภาพตามยากมาก พอมาดูในหนังแล้วให้ความรู้สึก อ้าว ไม่มีอะไรซับซ้อนเลยนี่
ซีนที่เคนเนธกับกิกิได้คุยกันครั้งแรก ในนิยายก็จะมีให้เห็นยาวกว่าในหนังครับ หนังได้นำมาเรียบเรียงใหม่ อย่างเช่น ซีนที่กิกิพูดถึงที่มาของชื่อ มาฟตี้ นาบิว เอริน และฉากที่นั่งดูหนังสือภาพสุดน่ารักตอนที่โดนปล้นจี้เครื่องบินอยู่ ในนิยายนั้นเป็นกิกิที่พูดกับเคนเนธก่อนโดนจี้เครื่องบินนะครับ ไม่ใช่กับเจ้ามัฟตี้ตัวปลอม
ถามว่าตัดจากนิยายเยอะไหม ? ถ้าผมจำไม่ผิด (ยอมรับว่าจำทุกหน้าของนิยายไม่ได้หรอกครับ 555+) ไม่มีอะไรหลักๆถูกตัดไปเลยครับจากนิยายเล่มหนึ่ง สิ่งที่ถูกตัดไปจะเป็นองค์ประกอบเล็กๆใน scenario ต่างๆ
ยกตัวอย่างนะครับ เหตุการณ์บนเครื่องบินฮาวเซ่น ก่อนจะเกิดเหตุปล้นเครื่องบินขึ้น จะมีเหตุการณ์พูดคุยระหว่างตัวละครบนเครื่องกันมากกว่าที่เห็นในหนัง เช่น มีการคุยกันระหว่างฮาธาเวย์กับเพอร์เซอร์บนเครื่องบิน
Mechanics Design
ต้องเกริ่นก่อนเลยครับว่า โมบิลสูทหลักๆทั้ง 4 เครื่องที่ปรากฏในภาคนี้ไล่ตั้งแต่ XI Gundam, Penelope, Gustav Karl และ Messer ไม่มีเครื่องไหนที่ดีไซน์คงเดิมจากนิยายต้นฉบับเลย ถูก Re-design ขึ้นใหม่ให้ทันยุคทันสมัย และมันสวยมาก
หุ่นทั้ง 4 เครื่องในภาค Hathaway’s Flash เคยโผล่ออกมาในสื่ออื่นๆกันแล้ว ทั้งเกมบ้าง ของสะสมบ้าง การดีไซน์ก็มีเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ภาพทางซ้ายล่างคือ XI Gundam ver. Ka ที่ถูกออกแบบโดยคุณ Hajime Katoki สำหรับของสะสมไลน์ Gundam FIX Figuration ครับ
ส่วนภาพทางขวาคือแบบที่ใช้ในหนังโรงนี้นี่เอง
ดีเทลแน่น สีสวย ดูแข็งแกร่งทุกเครื่องไม่ว่าจะเป็นกันดั้มหรือไม่ก็ตาม ทำเอาผมไม่รู้จะหักคะแนนอะไรเลย
Character Design
2 ภาพด้านล่างนี้ ทางซ้ายคือ Hathaway Noa ในนิยายดั้งเดิม และด้านขวาเป็นเวอร์ชั่นเกมครับ สิ่งที่อยากบอกก็คือตัวละครเขา Redesign ใหม่ให้ทันยุคสมัย หล่อสวยกันตามยุคสมัยปัจจุบันทุกตัวละครเลย
Character Design แบบฉบับใหม่ โคตรตรงสเป็คผมสุดๆ ทั้งชายและหญิง (เกือบ)ทุกตัวละครเลยทีเดียวครับ
กล่าวปิดท้าย
สำหรับการบรรยายความรู้สึกของผมหลังได้ดูหนัง Mobile Suit Gundam Hathaway’s Flash ก็คงจบลงเพียงเท่านี้ ตอนนี้ก็ตั้งตารอคอยหนังพาร์ทต่อไปสุดๆ ตัวหนังคาดว่าจะมีทั้งหมด 3 พาร์ทครับ พอดีกับนิยายที่มี 3 เล่ม เดาๆว่าภาคถัดไปน่าจะมาสัก 2023 เลยก็เป็นได้ เพราะได้ข่าวว่าทีม Production พึ่งเริ่มไป research พื้นที่ออสเตรเลียกันไม่นาน
ทั้งนี้ขอบคุณภาพจากเพจ Gundam News และเว็บไซต์ gundam.info ที่ได้นำมาใช้ประกอบบทความนี้ด้วยครับ
- บทความโดย NuthSWR
-
Blokees Saint Seiya – Star Edition : 1st [กล่องสุ่ม / ราคา / วันวางขาย / สั่งซื้อ]
#Blokees #SaintSeiya #Toys #Model #กล่องสุ่ม
-
ทำความรู้จักม้ามืดของปี 2024 Balatro: เกมไพ่ผสมกลยุทธ์สุดมันส์
#เกมส์ #เกมไพ่ #เกมกลยุทธ์ #เกมมือถือ
-
Dynasty Warriors: Origins [สั่งซื้อเกมถูก , PS5, Xbox Series,PC]
วีรบุรุษไร้นาม จะลุกขึ้นต่อสู้ในโลกของสามก๊ก