โมบิลสูทกันดั้มภาคแรก Mobile Suit Gundam 0079 [เรื่องย่อ/ตัวละคร]

ชื่อภาษาอังกฤษ : Mobile Suit Gundam 0079
ชื่อภาษาญี่ปุ่น : 機動戦士ガンダム (Kidō Senshi Gandamu)
ชื่อภาษาไทย : โมบิลสูทกันดั้ม
ประเภท : อนิเมชั่น
แนว : วิทยาศาสตร์ / แอคชั่น / ผจญภัย / ดราม่า
ผู้กำกับ : โยชิยูกิ โทมิโนะ (Yoshiyuki Tomino)
ผู้ผลิต : Sunrise
ความยาว (รูปแบบภาพยนตร์) : 134 นาที
จำนวนตอน : 43 ตอน

 

 

ปฐมบทแรกแห่งสงครามหุ่นรบในห้วงอวกาศ สำหรับ โมบิลสูทกันดั้ม ที่ถือเป็นต้นกำเนิดของภาคต่อ และ ขบวนอนิเมะแนวกั้นดั้มซึ่งจะจัดว่ามีอิทธิพลต่อวงการอนิเมชั่นในญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ ถูกฉายออกอากาศครั้งแรกในปี 1979 สำหรับพล็อตเรื่องนั้นว่าด้วยสงครามระหว่างสหพันธ์โลก และ “ซีออน” อาณาเขตที่ประกาศสงครามแยกตัวจากโลก

  

 

 

เรื่องย่อ

 

 “โคโลนี่” คือชื่อเรียกของพื้นที่ขนาดยักษ์ ที่ถูกสร้างรายล้อมอยู่นอกโลก มนุษยชาติจำนวนครึ่งหนึ่งใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น ต่อมา ณ โคโลนี่ ไซด์ 3 ได้มีการประกาศสงครามแยกตัวเป็นอิสระจากสหพันธ์โลกและขนานนามตัวเองว่า “จักรวรรดิซีออน”  หลังจากต่อสู้ได้ โดย 1 เดือนภายหลังการเกิดสงครามก็เริ่มมาถึงทางตัน ด้วยสาเหตุมีการใช้อนุภาคไมนอฟสี้ ทำให้ยุทโธปกรณ์คลื่นไฟฟ้า เช่น เรดาร์ ใช้การไม่ได้ จึงเกิดรูปแบบการต่อสู้กันในระยะประชิด ไม่เว้นแม้ในห้วงอวกาศ และยุทโธปกรณ์รูปร่างเหมือนมนุษย์ที่ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อต่อสู้ระยะใกล้ถูกผลิตขึ้น เรียกว่า “โมบิลสูท” ที่ฝ่ายสหพันธ์โลกมักเป็นฝ่ายตามหลังซีออนในการคิดค้นพัฒนา

 

แต่แล้วโมบิลสูทของทางสหพันธ์โลกที่สามารถต่อกรกับแซคได้ก็เสร็จสมบูรณ์ แต่ภายหลังสงครามอีก 8 เดือน กองยานของ พันตรีชาร์ อัสนาเบิล แห่งกองทัพซีออน ได้ทราบข่าวการผลิตยานรบรุ่นใหม่ของทางสหพันธ์โลก และมันกำลังจะถูกส่งไปยังไซด์  7 เขาจึงได้มีคำสั่งให้โมบิลสูทแซคบุกไปหาข้อมูลเพื่อพิสูจน์หาความจริง

 

 อามุโร่ เรย์ ลูกชายของช่างเทคนิคแห่งกองทัพสหพันธ์โลก ซึ่งอพยพมาที่ไซด์ 7 ได้บังเอิญขึ้นบังคับโมบิลสูทรุ่นใหม่ [RX-78-2] ขณะกำลังอพยพหนีสงคราม จนนำมาสู่สถานการณ์บีบบังคับที่ทำให้เข้าต้องเป็นหนึ่งในวัยรุ่นที่ถูกผลักเข้าสู่สมรภูมิรบระหว่างสหพันธ์และซีออน ประจำยานไวท์เบส กองกำลังอิสระที่ 13 กองเรือเทนมู ภายใต้การบังคับบัญชาของ ร้อยโทไบรท์ โนอา 

 

 

ขณะเดียวกันนั้นเอง ซีออนก็กำลังทำการทดลองปฏิวัติ “นิวไทป์” มนุษย์พันใหม่ที่เป็นเหมือนความหวังของผู้คนที่ต่างเหน็ดเหนื่อยจากสงคราม อย่างไรก็ตามสงครามครั้งนี้ก็ได้พัฒนาทักษะการต่อสู้ของอามุโร่ยิ่งขึ้น ท่ามกลางการปะทะโจมตีกัน อันเป็นที่มาทั้งเรื่องราวความรัก การหักหลัง การล้างแค้น และการสูญเสีย

 

 

 

 

รวมศึกสำคัญของอนิเม Gundam ภาคแรก

 

“ปฏิบัติการ V”

ระหว่างการรุกรานของ “ซีอ้อน” บนโลก ทาง “กองทัพสหพันธ์โลก” ( E.F.F. – Earth Federation Forces )ได้พยายามอย่างเต็มที่ในการพัฒนาโมบิลสูทของตนเอง “โปรเจคท์ V”  โครงการวิจัยสหพันธ์โลกลับที่มุ่งสร้างโมบิลสูทสำหรับสหพันธ์โลกขณะที่แผน “Vison” ได้มีการตราขึ้นเพื่อสร้าง “กองกำลังอวกาศสหพันธ์โลก” (E.F.S.F -Earth Federation Space Forces)  การพัฒนาที่สำคัญของโปรเจคท์ V  คือการพัฒนาชุดอุปกรณ์อาวุธประเภทลำแสงขนาดเล็กแบบพกพา ที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงของปืนใหญ่บนเรือรบ การออกแบบต้นแบบสามเสร็จสมบูรณ์ภายใต้โปรเจคท์ V ได้แก่ 

RX-75 Guntank ซึ่งมีขาเป็นรถถังขนาดกลางช่วงกลาง

RX-77 Guncannon  หุ่นรบอาวุธยิงระยะไกล

และ RX-78-2 Gundam หุ่นรบที่มีความสามารถในการต่อสู้ระยะประชิด และมีอาวุธประเภทลำแสงอย่าง บีมเซเบอร์ และบีมไรเฟิล อีกทั้งยังติดเกราะหนาพิเศษ โดยมีกำหนดการนำหุ่นเหล่านี้ บรรจุเข้าไว้ในเรือรบใหม่ล่าสุดของสหพันธ์ “SCV-70 White Base” เรือรบของสหพันธ์ ลำดับชั้นเปกาซัส ลำแรกที่สามารถใช้งานได้บนโลกและในอวกาศ

 

ในขณะที่ White Base กำลังเดินทางไปยังโคโลนี่ Side 7 ด้วยจำนวนหุ่นต้นแบบ RX-series สำหรับการทดสอบในอวกาศ พวกเขาถูกค้นพบโดย “มุไซ” เรือรบของซีอ้อน  ซึ่งสั่งการโดย ชาร์ อัสนาเบิล (Char Aznable) ผู้ใต้บังคับบัญชาของชาร์ ก็พยายามที่จะทำลายต้นแบบหุ่นรบในโปรเจคท์ V ในขณะที่ปฏิบัติการสืบข่าวภายใน Side 7

 

และนั่นคือครั้งแรกของ “อามุโร่ เรย์” ลูกชายของ “ทิม เรย์” หนึ่งในวิศวกรผู้สร้างหุ่นรบในโปรเจคท์ V ได้กระโดดเข้าสู่ห้องนักบินของหุ่นรบที่มีชื่อว่า Gundam และในวันนั้น วันที่ 18 กันยายนที่ UC 0079  นับเป็นครั้งแรก ที่เกิดการต่อสู้ระหว่าโมบิลสูทด้วยกันเอง  โดยกันดั้มที่เดินเครื่องครั้งแรก ก็ได้ทำลาย Zaku II 2 เครื่อง… จุดนี้เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวของ Mobile Suit Gundam ภาคทีวีอนิเม…

 

 

 

“ปฏิบัติการโอเดสซา”

จัดเป็นภารกิจใหญ่ครั้งที่สำคัญที่สุดของสหพันธ์โลกครั้งแรก ที่เกิดการสู้รบบนพื้นโลก และยังได้ชื่อว่าเป็นสมรภูมิที่ทางสหพันธ์โลกสูญเสียกำลังทางทหารไปมากถึง 30% ของจำนวนทหารในสังกัดสหพันธ์โลกในการเข้ายึดเหมืองแร่ที่ทางซีอ้อนได้ยึดครองอยู่ สงครามครั้งนี้เริ่มต้น เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน U.C.0079 สิ้นสุดในอีกสองวันต่อมา โดยชัยชนเป็นะของสหพันธ์โลก โดยสงครามครั้งนี้เป็นเรื่องที่น่าทึ่งเพราะกองกำลังสหพันธ์โลก ประกอบไปด้วย “กองกำลังรถถัง” / “โมบิลสูทจำนวนหยิบมือ” และ “เครื่องบินรบ” เกือบทั้งหมด และยังสามารถเอาชนะกองทัพซีอ้อน ซึ่งประกอบด้วยโมบิลสูทจำนวนมหาศาลได้ 

 

ปฏิบัติการโอเดสซาเป็นจุดเปลี่ยนของสงครามหนึ่งปี และสามารถกล่าวได้ว่า นี่คือจุดจบของกองกำลังซีอ้อนในภาคพื้นยุโรปและเอเชีย อย่างไรก็ตามผู้นำการปฏิบัติการเหมืองแร่ Zeon “พันเอกเอ็มเว” (M’ve)  มีวัสดุ แร่ต่างๆที่ได้จากการทำเหมือง ที่มีจำนวนมากพอที่จะส่งกลับไป ให้ทางซีอ้อนได้ใช้งานสงครามได้ต่อไปโดยไม่ทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลน การสู้รบครั้งนี้เป็นสงครามที่ใหญ่ที่สุดและหนักที่สุดบนพื้นโลก ที่ทางสหพันธ์โลกได้พึ่งพาอาวุธธรรมดาเช่น รถถัง เครื่องบินทิ้งระเบิด เครื่องบินรบ และหน่วยหุ่นรบโมบิลสูทเพียงจำนวน 30 หน่วย  แต่ทว่าในเหตุการร์นี้ มีทหารราบสูญหาย และเสียชีวิตตีเป็นตัวเลขคร่าวๆ ประมาณ 3,700,000 คน ซึ่งในอนิเม Mobile Suit Gundam เรือรบ White Base มีบทบาทสำคัญมาก

 

ส่วนทหารซีอ้อนได้ถอยทัพ บางส่วนกลับอวกาศ บางส่วนก็ร่นถอยมารวมกลุ่มตามจุดต่างๆของโลก เพื่อรอคำสั่งโจมตีฐานทัพใหญ่ซึ่งเป็นหัวใจของทางสหพันธ์โลก…ฐานทัพจาโบร (Jaburo base)

 

“สมรภูมิจาโบร”

เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน เรือรบ White Base ได้เดินทางมาถึง “กองบัญชาการกองกำลังสหพันธ์โลกแห่งสหพันธรัฐจาโบร”  และ ในเวลาเดียวกัน ชาร์ อัสนาเบิล ก็ได้พบทางเข้าของฐานทัพแห่งนี้ 

 

ฝ่ายซีอ้อนเริ่มเปิดฉากสงครามนี้ด้วยการโจมตีทางอากาศ ส่วนชาร์ ได้นำหน่วยคอมมานโดเข้าแทรกซึมจากภาคพื้นดิน ด้วยโมบิลสูท MSM-04 Acguys โดยทีมของเขาก็ได้พบกับโรงงานผลิตโมบิลสูท GM (จิม) และได้วางระเบิดเอาไว้ แต่ก็ถูกตรวจพบเสียก่อน ในเช้าวันต่อมาฐานทัพซีอ้อนที่แคลิฟอร์เนีย ก็ได้ส่งอากาศยาน ด๊อปป์ (Dopps) , เกาส์ (Gaws) และโมบิลสูทบางส่วนที่ติดตั้งอุปกรณ์สำหรับใช้ใต้น้ำ มุ่งหน้าเข้าโจมตีฐานทัพจาโบร แต่เหมือนซีอ้อนจะประมาทความสามารถในการป้องกันฐานทัพแห่งนี้ไปหน่อย เพราะ เจ้าหน้าที่สหพันธ์โลกเห็นพ้องกันว่าจะให้ White Base เป็นตัวล่อให้พวกซีอ้อนมายังฐานจาโบร แล้วระดมยิงทุกอย่างที่มี โดยหวังว่าจะให้ไวท์เบสเป็นกันชนให้…และส่ง GM ที่เพิ่งผลิตเสร็จ เข้าร่วมในสงครามนี้…

 

ขาร์ได้พ่ายแพ้ในการต่อสู้กับกันดั้ม เขาได้ถอนกำลังออกจากจาโบรไปพร้อมๆกับกองกำลังซีอ้อน ภายหลังมีเพียงกองกำลังซีอ้อนในแอฟริกาเหนือที่กำลังรบอยู่บนภาคพื้นโลกต่อไป ทำภารกิจลับๆร่วมกับกองกำลังที่เหลือรอด…เพราะหลังจากนี้ จะเข้าสู่สงครามอวกาศเต็มรูปแบบแล้วนั่นเอง…

 

จริงๆแล้ว นอกจาก GM ที่ฐานทัพจาโบร ยังมีกันดั้มรุ่นใหม่ “RX-78-6 Mudrock Gundam” กันดั้มอีกหนึ่งเครื่องที่ประจำการในฐานทัพแห่งนี้ แต่ก็ถูกหน่วย “มิดไนท์ เฟนรีร์” หน่วยรบมือพระกาฬของฝ่ายซีอ้อนทำลายไปเสียก่อน

 

 

ปฏิบัติการ Cemballo (หรือที่รู้จักกันในชื่อ สมรภูมิโซโลมอน) 

วันที่ 14 ธันวาคม U.C. 0079 ปฏิบัติการ Cemballo เริ่มต้นด้วยการเปิดตัวกองทัพเรือรบใหม่ของสหพันธ์โลกจากฐานทัพจาโบร โดยกองเรือใหม่นี้จะเข้ามาในกองทัพอวกาศแห่งสหพันโลก EFSF เดินไปยังบ้านเกิดของซีอ้อนที่ โคโลนี่ L2 ที่มีกองทัพซีอ้อนยืนปักหลักคุมพื้นที่ โดยแนวป้องกันของซีอ้อน ประกอบด้วยฐานทัพดาวเคราะห์น้อย โซโลมอน(Solomon) และ บาวอาคู (Baoa Qu) 

 

วันที่ 24 ธันวาคม U.C. 0079 กองเรือ EFSF ได้โจมตี ฐานโซโลมอน ซึ่งเป็นกองกำลังโจมตีภาคอวกาศของซีอ้อน สหพันธ์โลกเองก็ได้รับความเสียหายหนักจากป้อมปราการของข้าศึก แต่เมื่อเห็นได้ชัดว่าการสู้รบท่าไม่ดี ผู้นำกองทัพอวกาศซีอ้อน “โดเซิล ซาบี้” ได้ออกคำสั่งให้อพยพฐานทัพ และตัวเขาขึ้นบังคับโมบิลอาร์เมอร์ “บิ๊กแซม” เข้าต่อสู้เพื่อถ่วงเวลาให้กองทัพซีอ้อนถอนกำลัง เขาทำสำเร็จ แต่ก็พลาดท่าในระหว่างการต่อสู้กับกันดั้ม จนตัวเองเสียชีวิต กองทัพสหพันธ์เข้ายึดฐานโซโลมอนได้ เป็นจุดสิ้นสุดปฏิบัติการ Cemballo และเหตุการณ์นี้เรียกว่า “สมรภูมิโซโลมอน”

 

 

ปฏิบัติการ Star One(หรือที่รู้จักกันในชื่อ สมรภูมิ อาบาวคู)

กองกำลังอวกาศของกองทัพสหพันธ์โลกได้ใช้ฐานทัพโซโลมอนที่เพิ่งยึดจากซีอ้อน มาเป้นฐานบัญชาการย่อย ใช้เป็นพื้นที่เติมสเบียง จัดกระบวนรบ ซ่อมบำรุงฉุกเฉิน เตรียมถอนรากถอนโคนซีอ้อน…

วันที่ 30 ธันวาคม U.C. 0079   กองทัพสหพันธ์โลกได้เดินทางไปยังฐานอาบาวคู ( A Baoa Qu) เพื่อเปิดโต๊ะเจรจาสงบศึกระหว่างหัวหน้ากองทัพเรือซีอ้อน เดกิ้น ซาบี้ ที่เป็นเหมือนผู้นำของฝ่ายซีอ้อน กับ นายพลเรวิล ผู้นำทำสหพันธ์โลก และเป็นผู้ริเริ่มโปรเจคท์ V อีกด้วย  

 

แต่ทว่า กิเรน ซาบี้ ลูกชาย กลับสั่งให้ยิง Solar Ray เข้าไปที่ที่กองยาน EFSF ซึ่งกำลังรวบรวมอยู่ที่ Geldova Line โดยทั้งๆที่รู้ว่าพ่อของเขาอยู่ในแนวการยิง การโจมตีครั้งนี้ทำลายกองเรือรบของกองทัพเรือทั้ง 3 แห่งและเป็นการสังหารผู้นำตระกูลซาบี้ และนายพลเรวิลในเวลาเดียวกัน

 

ในวันที่ 31 ธันวาคม UC 0079 ท่ามกลางความสุญเสีย และสับสน การโจมตีฐานทัพอาบาวคูยังคงดำเนินต่อไป ด้วยกำลังที่เหลืออยู่ EFSF ได้ต่อสู้กับกองกำลังโมบิลสูทของซีอ้อน กันดั้ม เข้าต่อสู้กับ จิอองค์ โมบิลสูทไร้ขา สุดยอกหุ่นรบของชาร์ อัสนาเบิ้ลในเวลานั้น แต่ก็พ่ายแพ้ให้กับกันดั้ม จนเกิดการดวลกันตัวต่อตัวนอกหุ่นรบที่หมดสภาพทั้งกันดั้ม และจิอองค์ด้วย…ชาร์ที่ดวลกับอามุโร่ ก็ถูกแรงระเบิดของฐานอาบาวคูที่กำลังจะถูกทำลาย ซัดกระเด็น อามุโร่จึงรอดมาได้ และไม่พบชาร์อีกเลยหลังจากนั้น (จนกระทั้งภาค Z Gundam)

 

ในขณะเดียวกัน คิซีเรีย ซาบี้ ลูกสาวของเดกิ้น และมีศักดิ์เป็นพี่สาวของกิเรน ก็ลงมือสังหารน้องชายเพื่อสำเร็จโทษที่ลงมือฆ่าพ่อ ในตอนนั้น กองยาน Delaz Fleet ก็ได้ถอนตัวออกจากสนามรบ (เพื่อไปต่อใน 0083 Stardust Memory) คิซิเรียเองก็ต้องการจะถอนทัพ  แต่ก็ถูกชาร์ อัสนาเบิ้ลสังหาร ปิดฉากตระกูลซาบี้ (จริงๆแล้วเหลืออีกหนึ่งคนแห่งตระกูลซาบี้ที่รอดนะ…มิเนอร์ว่า ซาบี้ไง!) และชาร์ ก็หายสาบสูญไป

 

 

หลังจากความพ่ายแพ้ของซีอ้อนที่อาบาวคู และการเสียชีวิตของผู้นำทั้งสองฝ่าย ทำให้สถานภาพทางการเมืองและทางทหารอ่อนลง จนในที่สุดต้องยินยอมลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพที่กรานาดาในวันปีใหม่ 1 มกราคม UC 0080

 

อย่างไรก็ตามบางส่วนของทหารที่เหลือ Zeon ไม่พอใจกับข้อสรุปของสงคราม  และความเป็นปรปักษ์ระหว่างชาวโลกและชาวอวกาศเองก็ยังคงมีอยู่อย่างมหาศาลซึ่งส่วนใหญ่มาจาก Operation British (โคโลนี่ชนโลกก่อนสงคราม 1 ปีจนคนนับล้านต้องตาย) นั่นเอง…

 

 

 

 

ยุทโธปกรที่น่าสนใจ

 

Gundam RX-78-2

 

  

หุ่นรบโมบิลสูทรุ่นใหม่ที่ถูกคิดค้นขึ้นโดยกองทัพสหพันธ์ ในไซด์ 7 โดยมีอามุโร่เป็นผู้บังคับ Gundam RX-78-2 สร้างมาจากไทเทเนี่ยมน้ำหนักเบา แต่มีความแข็งแรงจนสามารถต้านทางปืนกลจากเครื่อง Zaku II อาวุธคู่ใจของมันคือปืนลำแสงขนาดใหญ่ซึ่งมีขนาดเท่าของเรือรบ นอกจากนี้ยังมีดาบคู่ที่ใบมีดเป็นพลาสม่าร้อนจนสามารถตัดโลหะได้ อีกทั้งยังยืดหดความยาวได้อีกด้วย

 

ยานไวท์เบส (SCV-70 White Base)

 

 

เป็นยานลำเรียงโมบิลสูทชั้นพีกาซัส (Pegasus-class mobile suit carrier) ของสหพันธ์โลก ถูกขนานนามว่า “ม้าไม้ (Trojan Horse)” เมื่ออยู่ในอวกาศสามารถควบคุมโดยใช้ระบบควบคุมส่วนกลางได้ แต่เมื่อยู่บนผิวโลกจำเป็นต้องควบคุมด้วยมือ เนื่องจากต้องเผชิญกับแรงโน้มถ่วง ตัวเครื่องมีปืนหลัก 2 กระบอก, ปืนอนุภาคขนาดใหญ่อีก 2 กระบอก และมีปืนขีปนาวุธอีก 3 กระบอก 

 

MS-06S Zaku II Char Custom (Origin Ver.)

 

 

หุ่นรบโมบิลสูทของฝ่ายซีออน โดยการบังคับของ ชาร์ อัสนาเบิ้ล ผู้ได้รับฉายาว่า “ดาวหางสีแดง ” หลังจากชาร์ได้เคยใช้บาซูก้าถล่มเรือรบชั้น Magellan-Class จมไปพร้อมกัน 5 ลำ สำหรับรายละเอียดของ MS-06S นั้น มีความสูง 17.5 เมตร ประกอบด้วย โล่, ปืนวัลแคน, ปืนไรเฟิล, ปืนกล, บาซูก้า และ Heat Hawk

 

 

แนะนำตัวละคร

 

 

 

[ฝ่ายสหพันธ์โลก]

 

อามุโร่ เรย์

 

 

ลูกชายของช่างเทคนิคแห่งจักวรรดิสหพันธ์ เด็กชายหัวรั้นที่บังเอิญขึ้นขับโมบิลสูท RX-78-2 ซึ่งเป็นหุุ่นรบรุ่นใหม่ของฝ่ายสหพันธ์ จนบีบบังคับให้เขาไม่สามารถหลุดออกจากหน้าที่นี้ในกองทัพได้อีกต่อไปและขึ้นบังคับกันดั้มเรื่อยมา แม่ของเขาอาศัยอยู่บนโลกมนุษย์ ส่วนพ่อซึ่งสติเริ่มไม่ดีของเขา อาศัยอยู่ในโคโลนี่ไซด์ 6 ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นกลาง อามุโร่แอบชอบร้อยโทมาทิลด้าซึ่งอายุมากกว่า แต่สุดท้ายท่ามกลางสงครามโมเนสซ่าเขากลับไม่สามารถช่วยชีวิตเธอไว้ได้

 

ฟลาว โบ

 

 

เด็กสาวเพื่อนบ้านของอามูโร่ สูญเสียครอบครัวทั้งหมดขณะกำลังอพยพหนีสงครามพร้อมอามุโร่ แม้เธอจะขี้บ่น แต่เธอก็เป็นเด็กสาวที่หลงรักอามูโร่และคอยห่วงใยอามูโร่อยู่เสมอ อย่างไรก็ดี หน้าที่หลักของเธอในยานไวท์เบส คือ การจัดการกับเด็กตัวแสบทั้งสามคน ซึ่งถือเป็นตัวละครที่เรียกรอยยิ้มในคนดูมากที่สุดก็ว่าได้

 

ไบรท์ โนอา

 

 

ร้อยโทหนุ่มมักอารมณ์ฉุนเฉียวด้วยเพราะต้องรับหน้าที่แบกรับภาระที่ยิ่งใหญ่ในหน้าที่ปตันยานไวท์เบส แต่ถึงอย่างนั้นด้วยมีความเป็นผู้นำและเป็นคนมีเหตุผล จึงตัดสินใจได้เด็ดขาด และถึงแม้เขาจะเป็นคนเด็ดขาดหรือจริงจังเท่าไหร่ แต่สุดท้ายก็แอบหวั่นไหวให้กับ มิไร ยาชิมะ ซึ่งรับหน้าที่บังคับยาน ซึ่งเธอใจเย็นเสมอ

 

ไค ชิเด็น

 

 

เด็กหนุ่มท่าทีเหมือนนักเลงที่พยายามอพยพหลบหนีสงครามจนกระทั่งมาถึงยานไวท์เบส และด้วยสถานการณ์ที่บีบบังคับทำให้เขาต้องรับหน้าที่เป็นทหารในสังกัด แม้ภายนอกของไคจะดูเป็นคนที่มีดูเป็นคนเห็นแก่ตัว ไม่สมกับการเป็นสุภาพบุรุษ แต่หากเมื่อใดที่ยานไวท์เบสมีปัญหา  เขาก็พร้อมจะเข้าร่วมการต่อสู้ ที่สำคัญเขายังเป็นคนที่ทันเล่ห์เหลี่ยมของคน และยังใจดีกับเด็กๆอีกด้วย

 

เซร่า มาส

 

 

หรือ อัลเทเซีย ลูกสาวของนายพลฝ่ายซีออนและเป็นน้องสาวของ ชาร์ แต่ด้วยสาเหตุบางอย่างทำให้ต้องแยกจากพี่ชาย และกลับมาพบเจอกันอีกครั้งในฐานะศัตรู อย่างไรก็ตามเธอเป็นนิวไทป์คนหนึ่ง โดยสัมผัสถึงพี่ชายตัวเองได้

 

มิไร ยาชิมะ

 

 

หญิงสาวตระกูลยะชิมะ ขึ้นยานไวท์เบส ขณะกำลังอพยพเช่นกัน ด้วยมีพื้นฐานเเธอจึงอาสารับหน้าที่บังคับยานไวท์เบสในช่วงเวลาที่กัปตันคนก่อนได้รับอาการบาดเจ็บสาหัส และด้วยความเป็นคนใจเย็นของเธอ เธอจึงเป็นคนที่เรียกสติของร้อยโทไบร์ทเสมอ คู่หมั้นของเธออยู่ในไซด์ 6

 

มาทิลด้า

  

 

พันโทสาวขวัญใจหนุ่มในยานไวท์เบสเป็นคนมีบุคลิคดี สวย ดูเข้มแข็ง และทำงานเก่ง เธอคือคู่หมั้นของร้อยเอกวู้ดดี้ สังกัดกองทัพสหพันธ์ อย่างไรก็ตามเธอเสียชีวิตในสงครามโมเนสซ่า

 

สามแสบ (คัตสึ, เร็ตสึ, คิกกะ)

 

 

เด็กกำพร้าที่ยานไวท์เบสได้ช่วยเหลือไว้จากไซด์ และใช้ชีวิตอยู่บนยานเรื่อยมา ซึ่งแม้จะยังเป็นเด็กกัน แต่ก็แสบและซน จนถึงขั้นบางครั้งไปช่วยจับทหารซีออนบ้างก็มี แม้จะเป็นเด็กตัวเล็กนิดเดียวแต่ถือว่ามีจิตใจที่กล้าหาญมาก ถือเป็นตัวะครที่สร้างรอยยิ้มให้กับคนดูทุกรั้งที่มีฉากออกมา

 

 

[ฝ่ายซีออน]

 

ชาร์ อัสนาเบิ้ล

 

 

พันเอกหนุ่มผู้สวมหน้ากากปิดบังใบหน้าตลอดเวลา  ประจำการอยู่ในกองกำลังซีออน ได้รับฉายาว่า “ดาวหางสีแดง” เขาคือพี่ชายของ ซาร่า มาส หรือ อัลเทเซีย โดยชื่อเดิมของเขานั้นคือ “แคสวาล” เขาเป็นคนที่ฉลาดหลักแหลมและมีกลอุบายชั้นเลิศ ทำให้มักอ่านเกมสงครามของฝ่ายตรข้ามได้เสมอ นอกจากนี้ยังพร้อมหักหลังพวกเดียวกันเอง เพื่อผลประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่กว่า อีกทั้งยังเป็นคนที่มองการไกลอีกด้วย

 

กัลม่า ซาบี้

 

 

ลูกชายคนสุดท้องแห่งจักวรรดิซีออน มีคู่หมั้นคือ  แต่ด้วยหลงกลติดกับของชาร์ จนเกือบเอาชีวิตไปทิ้งในสงคราม อย่างไรก็ดี เขาสามารถรอดชีวิตมาได้อย่างลับๆ อย่างไรก็ดีข่าวการเสียชีวิตของเขาปลุกพลังความโกรธแค้นให้กับกองทัพซีออนอย่างมาก

 

รัมบะ ราล

 

 

นายพลของกองทัพฝ่ายซีออน เป็นคนที่มีทักษะ ไหวพริบ และประสบการณ์ในสงครามสูง หากไม่จัดว่าเป็นเรื่องของสงครามเขาจัดว่าเป็นคนดีคนหนึ่ง ด้วยเพราะรักพวกพ้อง อีกทั้งยังให้เกียรติภรรยามากด้วย พ่อของเขาเข้าร่วมปฏิวัติกับนายพลของซีออน ซึ่งก็คือ พ่อของ เซร่า มาส

 

คราวเลย์ ฮามอน

 

 

ภรรยาของ รัมบะ ราล เป็นกุลสตรีผู้เข้มแข็งและมักยืนเคียงข้างสามีเสมอ เป็นผู้หญิงที่มีไหวพริบและความสามารถคนหนึ่ง ภายหลังการตายของสามีเธอจัดว่ามีส่วนสำคัญในสงครามโมเนสซ่าคนหนึ่ง

  

 

 

 

ตัวอย่างอนิเมชั่น 

 

 

ข้อมูลเพิ่มเติมจาก en.wikipedia , gundam.jp 

By : Admin@no_สวยสึดๆ