機動戦士ガンダム00(ダブルオー)
(Mobile Suit Gundam 00)
แนว : SCI-FI / Drama
ผู้กำกับ : Seiji Mizushima
เขียนบทโดย : Yōsuke Kuroda
ผู้ผลิต : สตูดิโอซันไรส์
จำนวนฉาย :5o ตอนจบ + ภาคหนังโรง
สารบัญค้นหา
เรื่องย่อ Season 1 Season 2 Movie แนะนำตัวละครในเรื่อง Mobile Suits เกร็ดน่ารู้ในโลกของ Mobile Suit Gundam OO
กันดั้มดับเบิ้ลโอ คือผลงานในลำดับที่ 12 ของกันดั้มอนิเมชั่นทีวีซี่รี่ย์ ที่สร้างโดยทางสตูดิโอซันไรส์ ออกแบบตัวละครโดย อ. โควงะ ยุน โดยมีจำนวนตอนทั้งหมดในภาคทีวี 50 ตอน แบ่งออกเป็น 2 ซีซั่น ซีซั่นละ 25 ตอน ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ปี 2007 – 29 มีนาคม ปี 2009 รวมภาคหนังโรงอีกหนึ่งภาคที่ชื่อ “A wakening of the Trailblazer” อันเป็นบทสรุปอย่างแท้จริงของกันดั้มภาคนี้
ซึ่งภาคนี้สามารถตอบโจทย์ให้กับแฟนๆ ได้ดีมากๆ ทั้งในเรื่องของงานออกแบบตัวละคร โครงเรื่องเนื้อหา งานออกแบบเมคานิคดีไซด์ ทำให้กันดั้มภาคนี้รับความนิยมทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก ทั้งยังได้สร้างฐานกลุ่มคนดูกันดั้มรุ่นใหม่ได้เป็นวงกว้างและเป็นที่รู้จักมากขึ้นกว่าเดิม นับเป็นการต่อยอดความสำเร็จนับจากภาค Mobile Suit Gundam Seed ที่เริ่มศักราชของกันดั้มในยุคใหม่ได้อย่างสวยงาม
สำหรับในกันดั้มทีวีซี่รี่ย์ภาคนี้ ได้ถูกนำเสนอให้เห็นถึงความขัดแย้งบนโลกใบเดิม ที่แตกต่างกันเพียงปีที่ตั้งของจักรวาล เรื่องราวถูกเซ็ตขึ้นในจักรวาล “Anno Dominic” หรือ “ปีคริสตศักราช ” (A.D.) อันตั้งอยู่บนสมมุติฐานความเป็นจริงบนโลกปัจจุบัน นำเสนอให้เห็นถึงมุมมองใกล้ตัว ที่ทำให้คนดูรู้สึกได้ถึงความสมจริง และมีความเป็นไปได้มากขึ้นกว่าภาคก่อนๆ ที่เคยสร้างออกมา
เรื่องย่อ
“ความขัดแย้งของมนุษยชาติจะไม่มีวันสิ้นสุด…หากไม่มีการเปิดใจที่จะพูดคุยกันอย่างแท้จริง”
คำกล่าวนี้… คือสิ่งที่ทำให้มนุษยชาติไม่สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดการวิวัฒนาการของตัวเอง เพราะเมื่อต่างคนต่างไม่ยอมที่จะเปิดใจเพื่อยอมรับกัน พยายามปฏิเสธอีกฝ่าย สงครามของมนุษยชาติจึงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีเหตุผลจากในหลายๆ สาเหตุ ทั้งเรื่องพลังงาน, ข้อพิพาทดินแดน, ศาสนา, การเมือง เมื่อเป็นอย่างนี้สืบไป… มวลมนุษยชาติการไม่อาจรวมเป็นหนึ่งเดียวกันได้
ในโลกแห่งอนาคตที่ไม่ไกลจากนี้… เกือบจะทุกๆ ประเทศได้หันมาใช้พลังงานหลักอย่าง “พลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อทดแทนการใช้พลังงานจากน้ำมันที่กำลังจะหมดลงไป โดยพลังแสงอาทิตย์จะถูกส่งผ่านมาจาก “ลิฟท์วงโคจร” (Orbital Elevators) ที่เชื่อมต่อกันระหว่างพื้นโลกกับวงโคจรค้างฟ้า โดยลิฟท์วงโคจรนี้ถูกสร้างขึ้นมาสามแห่ง ซึ่งอยู่ในการดูแลและควบคุมโดยกลุ่มชาติมหาอำนาจทั้งสาม อันได้แก่…
“ยูเนี่ยน” (UNION – Union of solar Energy nd Free Nation) กลุ่มชาติมหาอำนาจในฝั่งของทางเขตอเมริกาเหนือ-ใต้, แคนาดา, ทวีปแอนตาร์กติกาบางส่วน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ทวีปออสเตเรีย-นิวซีแลนด์ ฯลฯ
“เออียู” (AEU – Advance European Union) กลุ่มชาติมหาอำนาจในฝั่งของทางเขตทวีปยุโรป, เกาะกรีนแลนด์, ทวีปแอนตาร์กติกาบางส่วน ฯลฯ
“สหพันธ์ปฎิรูปมนุษยชาติ” (HRL – Human Reform League) กลุ่มชาติมหาอำนาจในฝั่งของทางเขตทวีปเอเชีย, อินเดีย, รัสเซีย, จีน, อาเซียน ฯลฯ
แม้จะเป็นพลังงานธรรมชาติที่มีอยู่อย่างมหาศาลก็จริง ก็ใช่ว่าทุกๆ ประเทศจะสามารถนำมาใช้งานได้ เพราะการแปรรูปและการแจกจ่ายพลังงานนั้น มีสิทธิขาดอยู่ในการครอบครองของขั้วอำนาจโลก ซึ่งหากชาติใดไม่ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของสังกัดใดสังกัดหนึ่ง ก็จะหมดโอกาสที่จะได้พลังงานมาใช้ นั่นเองจึงทำให้ต้องเกิดการรวมตัวของกลุ่มประเทศต่างๆ ในทุกๆ ภูมิภาค โลกจึงถูกแบ่งเป็นสามส่วน…
แล้วเมื่อทั้งสามฝ่ายต่างมีสิทธิขาดทางอำนาจในการครอบครองพลังงาน… ความไม่สมดุลจึงบังเกิดขึ้น โลกที่ถูกแบ่งออกเป็นสามส่วนได้พยายามรักษาคานอำนาจไม่ให้เสียศูนย์ถ่วงไป ต่างฝ่ายจึงได้สร้างกองกำลังทหารด้วยการใช้เทคโนโลยีการสงครามอย่าง “โมบิลสูท ” เพื่อพยายามปกป้องผลประโยชน์ของตัวเอง และผลักความขัดแย้งให้กระจายออกไป จึงทำให้เกิดสงครามตัวแทนขึ้นตามประเทศเล็กๆ ความบิดเบี้ยวนี้มีให้เห็นอยู่ไปทั่วโลก
และทางเดียวที่จะยุติความขัดแย้งระหว่างขั้วอำนาจ ก็คือ “การมีศัตรูร่วมกัน” เมื่อการปรากฏตัวชายวัยชราผู้หนึ่งที่เรียกชื่อของตนว่า “อิโอเรีย เชนเบิร์ก” (Aeolia Schenberg) ผู้ที่ได้ออกมาประกาศตนเองว่าจะยุติเรื่องราวความขัดแย้งทุกอย่างบนโลกนี้ด้วยกำลังที่เหนือกว่า พร้อมทั้งจะเป็นศัตรูกับคนทั้งโลก โดยใช้กลุ่มทหารรับจ้างที่เรียกตนเองว่า “เซเลสเซียล บีอิ้ง” (Celestial Being) กับอาวุธอย่างโมบิลสูทที่ใช้เทคโนโลยีล้ำหน้ากว่าชาติใดๆ ที่เรียกว่า “กันดั้ม” (Gundam) มุ่งเข้าทำลายล้างความขัดแย้งเหล่านั้นให้สิ้นซากลง
ปฏิบัติการของเหล่า “ผู้ที่ลงมาจากฟากฟ้า” จึงได้เริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ 2307
Season 1
ปฏิบัติการแรกของฝ่ายเซเลสเซียล บีอิ้ง ซึ่งนำโดย “ชุดปฏิบัติการปโตเลไมออส” คือ “การประกาศการเป็นศัตรูกับโลกทั้งใบ” ซึ่งพวกเขาได้ใช้โมบิลสูทที่ไม่เคยมีข้อมูลที่ไหนมาก่อนนั่นคือกันดั้ม ที่มีเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์จากเตาแสงสุริยะ “GN-Drive” มีนักบินกันดั้มที่เรียกว่า “กันดั้มไมสเตอร์” ซึ่งได้แก่ “เซ็ตสึนะ F เซย์เอย์” “ล็อกออน สตราทอส” “อาเลลูย่า ฮาฟทิซึ่ม” และ “ทีเอเรีย เออร์เด้” ทั้งหมดสี่คนนั้นได้ถูกคัดกรองมาอย่างมีแบบแผน กันดั้มในแผนปฏิบัติการแทรกแซงมีอยู่ด้วยกันสี่เครื่อง คือ Exia, Dynames , Kyrios และ Virtua เข้าโจมตีเป้าหมายทางการทหารของกลุ่มมหาอำนาจทั้งสามฝ่าย และรวมไปถึงความขัดแย้งตามภูมิภาคต่างๆ ทั่งโลก ซึ่งได้ผลเป็นอย่างมาก โมบิลสูทของฝ่ายโลกไม่สามารถต่อกรกับกันดั้มของฝ่ายเซเลสเซียล บีอิ้งได้เพราะเทคโนโลยีที่ห่างชั้นจนเกินไป
นั่นจึงทำให้ทั้งสามฝ่ายได้ร่วมมือกันชั่วคราวเป็นกลุ่มพันธมิตรโลกขึ้นมา ภายใต้การดูแลของสหประชาชาติ (U.N.= United Nations) เพื่อจัดการกับฝ่ายตรงข้าม การใช้ยุทธวิธีทางทหาร ที่ต้องใช้กำลังที่มีมากกว่าเข้ากลุ้มรุมอีกฝ่ายจึงเริ่มขึ้น ทั้งสามฝ่ายประกาศการซ้อมรบขนาดใหญ่… เสมือนเป็นการเชื้อเชิญให้ฝ่ายเซเลสเซียล บีอิ้งเข้ามาในงานเลี้ยงครั้งนี้ ซึ่งฝ่ายเซเลสเซียล บีอิ้งที่มีชุดปฏิบัติการอย่างปโตเลไมออสเองแม้จะรู้ดีว่ามันเกินกำลังของตนเอง แต่ก็ได้ตอบรับคำเชิญ ฝ่ายเซเลสเซียล บีอิ้งมุ่งหน้าเข้ามาขัดขวางการซ้อมรบใหญ่นั้นครั้งนั้น จนกลายเป็นสงครามโลกขนาดย่อมๆ
ถึงกันดั้มจะเหนือล้ำกว่าด้านเทคโนโลยี แต่ก็ไม่สามารถจะทำลายกองทัพโมบิลสูทที่มีจำนวนมากกว่าลงได้ ก่อนที่ฝ่ายเซเลสเซียล บีอิ้งจะสิ้นท่า หน่วยโมบิลสูทของฝ่ายเซเลสเซียล บีอิ้งอีกสามตนได้ปรากฏตัวขึ้น กันดั้มที่บังคับโดย “สามพี่น้องทรินิตี้” ถูกส่งมาจากฝ่ายผู้สังเกตการขององค๋กรให้ตามมาสมทบ และช่วยเหลือเอาไว้ได้ทันเวลา
ทว่ารูปแบบการปฏิบัติการของสามพี่น้องทรินิตี้นั้นกลับเป็นการสร้างความขัดแย้งให้บานปลายยิ่งกว่าเดิม เพราะได้โจมตีประชาชนผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องไปด้วย ในช่วงกลางเรื่อง… กลุ่มนักบินกันดั้มไมสเตอร์ได้แตกแยกออกเป็นสองกลุ่ม ระหว่างกลุ่มชุดปฏิบัติการปโตเลไมออสและสามพี่น้องทรินิตี้ อีกทั้งยังมีคนจากการฝ่ายเซเลสเซียล บีอิ้งได้แอบลอบส่งมอบข้อมูลของเทคโนโลยี GN-Drive ให้กับทางกลุ่มพันธมิตรโลก ก่อนจะถุูกนำไปสร้างโมบิลสูทรุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีที่ใกล้เคียงกับกันดั้มเข้าต่อกร
เมื่อเทคโนโลยีเกือบเท่าเทียมกัน จุดชี้ขาดก็มาถึง…
ในท้ายซีซั่นแรก ฝ่ายชุดปฏิบัติการปโตเลไมออส ต้องพบกับกองทัพโมบิลสูทรุ่นใหม่ที่ใช้ เทคโนโลยี GN-Drive ในการสู้รบ แม้กันดั้มจะเข้าสู้รบอย่างหนักหน่วง แต่ก็ไม่อาจต้านทานกองทัพที่เหนือกว่าหลายขุม การกวาดล้างของฝ่ายกลุ่มพันธมิตรโลกครั้งนั้น ทำให้ชุดปฏิบัติการปโตเลไมออสต้องพินาศลง และพบกับความสูญเสียของบุคคลที่รู้จักไปอย่างน่าเศร้า
Season 2
4 ปีถัดมาโลกสามารถรวมกันเป็นหนึ่งเดียวได้… หลังจากฝ่ายกลุ่มพันธมิตรโลกได้ทำการกำจัดฝ่ายเซเลสเซียล บีอิ้งจนเกือบสิ้นซาก ซึ่งทางฝ่ายเซเลสเซียล บีอิ้งที่ส่วนหนึ่งพยายามซ่อนตัวอยู่ได้ซ่องซุ่มกำลังขึ้นมาใหม่ ฝ่ายกลุ่มพันธมิตรโลกได้จัดตั้งหน่วยงานทางการทหารที่ชื่อ “A-LAW” ขึ้นเพื่อออกตามสืบเซาะและไล่ล่าฝ่ายเซเลสเซียล บีอิ้งที่หลงเหลืออยู่ แต่วิธีการของพวกเขามีความรุนแรงกับผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง และสร้างความไม่พอใจให้กับฝ่ายผู้ถูกกดขี่จากประเทศอื่นๆ จนทำให้เกิดกองกำลังฝ่ายต่อต้านใหม่ที่ชื่อ “คาตาลอน” ขึ้น
สี่ปีที่โลกรวมเป็นหนึ่งแต่ความบิดเบี้ยวนั้นยังไม่แปรเปลี่ยน… เซเลสเซียล บีอิ้งจึงได้หวนกลับมาอีกครั้ง
ฝ่ายเซเลสเซียล บีอิ้งนำโดยชุดปฏิบัติการปโตเลไมออส 2 ที่มีประกอบไปด้วยเหล่ากันดั้มไมสเตอร์เก่าและสมาชิกหน้าใหม่ๆ ได้ช่วยกันผนึกกำลังจนสามารถฟื้นตัวกลับมากได้ แม้จะมีกันดั้มรุ่นใหม่มาใช้ในการรบ แต่สงครามของพวกเขาคงไม่ง่ายดายดังเช่นแรกเริ่ม เพราะทาง A-LAW เองก็พัฒนาโมบิลสูทรุ่นใหม่ๆ ใช้เป็นเขี้ยวเล็บขึ้นมาอย่างน่ากลัว ต่างฝ่ายต่างเข้าเผชิญหน้ากันได้อย่างสูสี
ถึงแม้กองกำลังฝ่าย A-LAW จะน่าเกรงขามอย่างหวาดหวั่น แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่าที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังคือ “การบงการมวลมนุษยชาติ” จากกลุ่มมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ที่เรียกตนเองว่า “Innovators” โดยแผนการที่ว่านั้นคือ “การรวมมนุษยชาติให้เป็นหนึ่งเดียว เพื่อออกไปเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตอื่นนอกพิภพ” ซึ่งเป็นปฏิภาณแรกเริ่มของอิโอเรีย เชนเบิร์กผู้ก่อตั้งเซเ]สเซียล บีอิ้ง หากในสิ่งที่เหล่า Innovators นั้นได้กระทำต่างออกไป เพราะพวกเขากำลังจะปกครองเหล่ามนุษยชาติที่เป็นเผ่าพันธุ์เก่าแสนโง่เขลา โดยถือตนเองเป็นผู้ที่อยู่เหนือกว่า ซึ่งInnovators เหล่านั้นก็ให้ความช่วยเหลือด้านเทคโนโลยีกับทาง A-LAW อีกด้วย
สงครามได้ดำเนินมาจนถึงจุดตัดสิน ฝ่าย A-LAW ได้เผชิญหน้ากับฝ่ายเซเลสเซียล บีอิ้ง ที่มีแนวร่วมเป็นกองกำลังคาตาลอน ทั้งยังถูกเกมรัฐประหารทางอำนาจจากภายในองค์กร ทำให้ฝ่ายA-LAW ต้องสิ้นสุดบทบาทลง ทว่าสงครามยังไม่จบแต่เท่านี้ เพราะผู้บงการเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดยังอยู่ในเงามืด ฝ่ายเซเลสเซียล บีอิ้งเข้าเผชิญหน้ากับเหล่า Innovators
ระฆังศึกสุดท้ายได้กังวานขึ้น ณ อวกาศสีดำเป็นเวทีแห่งการตัดสิน
ศึกสุดท้ายระหว่างเซเลสเซียล บีอิ้งกัลลีวองส์ผู้บงการเบื้องหลังจบลงด้วยชัยชนะของเซ็ตสึนะ ทำใให้เหล่า Innovators ถูกกำจัดลงหมดสิ้น โลกหวนคืนสู่จุดที่ควรจะเป็นและรวมเป็นหนึ่งเดียวได้อีกครั้ง แต่คำทำนายของอิโอเรีย เชนเบิร์กกำลังจะเป็นจริง… เพราะการเผชิญหน้าครั้งใหม่ของมวลมนุษยชาติกับสิ่งมีชีวิตอื่นจากนอกโลกกำลังจะเริ่มต้นขึ้น
The Movie
“การตื่นของผู้บุกเบิก”
แม้โลกจะเข้าสู่ยุคแห่งความสงบสุขแล้วก็ตามที แต่โลกในปี ค.ศ. 2312 กลับพบ “สิ่งที่ไม่เคยรู้จัก” เข้าโจมตีคนบางกลุ่มบนโลก สิ่งนั้นถูกเรียกว่า “สิ่งมีชีวิตเปลี่ยนรูปร่างจากนอกโลก” หรือเรียกกันสั้นๆ ว่า ELS (เอลส์) จุดประสงค์ของเอลส์คืออะไรกันแน่? และในช่วงที่มาอาจเข้าใจกันได้ ELS ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 3000ก.ม. ที่พบที่ดาวพฤหัส ก็มุ่งหน้ามาก็กำลังเดินทางมาที่โลกด้วยความเร็วสูง และถ้าปล่อยไว้โลกจะต้องถูกELS พุ่งชนอย่างแน่นอน ดังนั้นอินโนเวเตอร์ “เซ็ตสึนะ F เซย์เอย์” และเซเลสเชี่ยล บีอิ้งจึงมุ่งหน้าไปพบกับ ELS เพื่อทำการสื่อสาร แต่ELS ที่ไม่ใช้แม้แต่ภาษาพูด และ เอาแต่เข้าโจมตีมนุษย์จะสามารถเข้าใจกันได้หรือไม่?
นี่คือภารกิจสุดท้ายของเหล่ากันดั้มไมสเตอร์ ที่มีอนาคตของโลกและมนุษยชาติเป็นเดิมพัน
แนะนำตัวละครในเรื่อง
เซ็ตสึนะ F เซย์เอย์ (พากย์โดย : Mamoru Miyano)
Setsuna F. Seiei (刹那・F・セイエイ)
เด็กหนุ่มตัวเอกของเรื่อง หนึ่งนักบินกันดั้มที่เรียกว่า “กันดั้มไมสเตอร์” (Gundam Meister=ガンダムマイスター) ของฝ่ายเซเลสเชี่ยล บีอิ้งชื่อจริงของตัวเขาคือ “ซูรัน อิบราฮิม” (Suran Ibrahim, スーランイブラヒム, سوران إبراهيم) เกิดที่ประเทศบาลเคอร์ดิส ประวัติของตัวเขาในวัยเด็กมีอดีตที่ข่มขื่นอยากมาก ตัวเขาสังหารครอบครัวลงตามคำสั่งของชายที่ชื่อ “อาลี อัล ซาซีส์” (Ali Al-Saachez, アリー・アル・サーシェス, علي الساجيس) ว่าตนจะได้เป็นทหารกล้าผู้อยู่เคียงข้างพระผู้เป็นเจ้าอันสูงสุด ซึ่งนั่นเป็นตราบาปในจิตใจของตัวเขา… เพราะพระเจ้าที่ตัวเขาศรัทธานั้นไม่มีอยู่จริง ทุกๆ อย่างเป็นเพียงคำหลอกลวงเพื่อให้ตนและพวกพ้องเป็นหนูตะเภาในสนามรบของพวกผู้ใหญ่ ในระหว่างที่ตัวเขาสูญสิ้นความศรัทธาบนโลกที่โหดร้ายและแสนบิดเบี้ยวท่ามกลางสงครามกลางเมืองอันทารุณไปแล้วนั้น การปรากฏตัวของ “โมบิลสูทสีขาว” ที่อยู่บนฟากฟ้า ซึ่งเหตุการณ์ในวันนั้นเองได้ชักนำพาให้ตัวเขากลายมาเป็นนักบินของกันดั้ม และได้ปฏิญาณต่อหัวใจตนเองว่าจะทำลายความผิดเพี้ยนของโลกใบนี้ให้หมดสิ้นลงไปให้ได้
ตัวเขายึดติดกับตัวตนของกันดั้ม และเชื่อมั่นว่าตนเองคือความถูกต้อง เพื่อที่จะลบล้างรอยบาปในวัยเยาว์ที่อยู่ในจิตใจ เขาคิออยู่เสมอว่าการเข้าทำลายฝ่ายตรงข้ามคือความชอบธรรม… แต่นั่นกลับเป็นการเพิ่มพูนความขัดแย้งบนโลกให้แพร่กระจายออกไปทั่ว จนหลงลืมไปว่าต้นเหตุของความบิดเบี้ยวในโลกนี้คือสิ่งใดกันแน่? แล้วเมื่อตัวเขาได้มาเจอกับ “มาริน่า อิสมาอีล” ที่พยายามสื่อใจถึงใจให้ได้รับรู้ว่า หากมนุษย์เปิดใจที่จะยอมรับซึ่งกันและกัน… ความขัดแย้งนั้นจะหมดสิ้นลง และเมื่อตัวเขาได้พยายามเปิดใจเพื่อรับรู้แล้วยอมรับอีกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นมิตรหรือศัตรู โลกทัศน์ในจิตใจของเขาก็เริ่มเปิดรับการเข้าถึงจิตใจของทุกๆ คนบนโลกได้ นั่นจึงทำให้ตัวเขาได้เป็น “อิโนเวเตอร์บริสุทธิ์” มนุษย์คนแรกที่มีวิวัฒนาการตื่นขึ้นมาตามธรรมชาติอย่างแท้จริง
ล็อกออน สตราทอส (พากย์โดย : Shinichiro Miki)
Lockon Stratos (ロックオン・ストラトス)
ชายหนุ่มผู้เป็นหนึ่งนักบินกันดั้ม ของฝ่ายเซเลสเชี่ยล บีอิ้ง ตัวเขามีชื่อจริงว่า “นีส ไดแลนดี้” (Neil Dylandy =ニール・ディランディ) เป็นชาวไอริส ซึ่งในวัยเด็กนั้นเขาได้สูญเสียพ่อแม่และน้องสาวจากเหตุระเบิดที่เกิดจากการก่อการร้าย ที่มีชายที่ชื่ออาลี อัล ซาซีส์อยู่เบื้องหลัง เมื่อมีข้อเสนอเพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้… ตัวเขาไม่ลังเลที่จะมาเป็นกันดั้มไมสเตอร์ และใช้โค๊ดเนมว่า “ล็อกออน สตราทอส”
เขาเป็นคนที่มีนิสัยที่เห็นอกเห็นใจสมาชิกทุกๆ คน เสมือนเป็นพี่ชายคนโตในทีม ในช่วงท้ายซีซันแรกนั้น… ตัวเขาได้เสียสละชีวิตตัวเองไปในสนามรบจากการถูกกวาดล้างอย่างหนักของฝ่ายกลุ่มพันธมิตรโลก แต่ในซีซั่นที่สองนั้นล็อกออน สตราทอส กลับมาอีกครั้งซึ่งคราวนี้เป็นน้องชายฝาแฝดที่ชื่อ “ไลล์ ไดแลนดี้” (Lyle Dylandy=ライル・ディランディ) สายลับของทางคาตาลอนที่มีนามแฝงว่าจีน-1 แม้รูปร่างภายนอกเหมือนกันทุกๆ อย่างราวกับเป็นคนๆ เดียวกัน แต่นิสัยลึกๆ ไม่เหมือนกัน เพราะไลล์ไม่ได้ยึดติดกับเรื่องราวในอดีตเหมือนอย่างพี่ชายของตน ซึ่งการได้เข้ามาเป็นกันดั้มไมสเตอร์และได้รับโค๊ดเนม ล็อกออน สตราทอสต่อจากพี่ชายของตนเองก็เป็นเพียงแค่การเติมจำนวนนักบินกันดั้มให้ไม่ว่างเท่านั้น เขารู้เพียงแค่ว่าพี่ชายเคยเป็นนักบินของกันดั้มแค่นั้น…
แต่สุดท้ายสงครามก็พรากอะไรหลายๆ อย่างไปจากตัวเขา ไม่ว่าครอบครัวในวัยเด็ก พี่ชายน้องสาวของตน และรวมไปถึงคนรักที่ต้องตายไปต่อหน้าต่อตาในช่วงท้ายของศึกตัดสิน เมื่อสาเหตุนั้นเกิดจากโลกที่โหดร้ายนั้น… เขาจึงตัดสินใจต่อสู้จนถึงท้ายที่สุด โดยที่ไม่ได้ทำเพื่อสิ่งใดทั้งสิ้น…
อาเลลูย่า ฮาฟทิซึ่ม(พากย์โดย : Hiroyuki Yoshino)
Allelujah Haptism (アレルヤ・ハプティズム)
ชายหนุ่มผู้เป็นหนึ่งกันดั้มไมสเตอร์ของฝ่ายเซเลสเชี่ยล บีอิ้ง ในวัยเด็กนั้นตัวเขาเป็นเด็กกำพร้าที่ได้รับการดูแลจากศูนย์พัฒนามนุษย์เพื่อใช้ทางการทหารของฝ่ายสหพันธ์ปฎิรูปมนุษยชาติ ซึ่งมีชื่อในวัยเด็กกว่า “E-57” เป็นโค๊ดเนมที่ใช้เรียกมนุษย์ทดลอง ตัวเขาเป็นคนที่มีสองบุคลิก อาเลลูย่าผู้มีนิสัยเป็นคนอ่อนโยนกับอีกหนึ่งตัวตนมีชื่อว่า “ฮาเลลูย่า” ซึ่งมีบุคลิกโหดเหี้ยมป่าเถื่อน ซึ่งแตกต่างกันสุดขั้ว ตัวเขาเองก็เคยผ่านประสบการณ์ที่แสนโหดร้ายเหมือนเช่นนักบินกันดั้มคนอื่นๆ แต่มีสิ่งเดียวที่คอยยึดเหนี่ยวทางจิตใจของเขาคือเด็กผู้หญิงที่เป็นเด็กจากโครงการทดลองในวัยเดียวกันที่ชื่อ “แมรี่ พาพาซี่”
ในสงครามช่วงต้นเรื่อง ตัวเขาได้ต่อสู้กับเหล่ากันดั้มไมสเตอร์เข้าขจัดความขัดแย้งให้หมดไปจากโลกนี้ ซึ่งตัวเขาเองก็รู้ดีว่า ทว่าศัตรูที่เขาเผชิญหน้าด้วยคือแมรี่ พาพาซี่ ที่มีบุคลิกกลายเป็นอีกคนในชื่อ “โซม่า พีริส” ทหารของฝ่ายสหพันธ์ปฎิรูปมนุษยชาติ
แต่เมื่อได้รู้ว่าเด็กผู้หญิงในวัยเด็กนั้นยังมีชีวิตอยู่ สงครามได้นำพาให้ตัวเขาและเธอต้องมาเผชิญหน้ากัน หากนั่นคือโชคชะตาระหว่างทั้งคู่แล้ว อาเลลูย่าจึงพยายามหาวิถีทางเพื่อที่จะนำพาเธอกลับมา ซึ่งในท้ายที่สุดแล้วตัวเขาก็สามารถฉุดดึงคนสำคัญของตนเองกลับมาได้
ทีเอเรีย เออร์เด้(พากษ์โดย : Hiroshi Kamiya)
Tieria Erde (ティエリア・アーデ)
ชายหนุ่มหน้าหวานผู้เป็นหนึ่งนักบินกันดั้ม ของฝ่ายเซเลสเชี่ยล บีอิ้ง เขาเป็นคนเดียวที่สามารถเชื่อมต่อคลื่นสมองควอนตัมเข้ากับซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ “เวด้า” ได้ เป็นคนที่ยึดมั่นถือมั่นในคำสั่งอย่างเด็ดขาด ตัวเขาไม่ได้สนใจหรือห่วงใยใครในทีมแต่อย่างใด ทว่าในช่วงท้ายซีซั่นแรกภายหลังจากที่ได้รับการช่วยเหลือจากล็อกออน สตราทอส ทำให้ตัวเขาเริ่มที่จะมองเห็นถึงความสำคัญของผู้อื่นมากขึ้น…
ในซีซั่นที่สองภายหลังจากที่เซเลสเชี่ยล บีอิ้งได้ถูกกวาดล้างไปแล้วนั้น… ตัวเขาได้เป็นหัวหอกในการพื้นฟูเซเลสเชี่ยล บีอิ้ง และในภายหลังได้มาล่วงรู้ว่าตนเองว่าเป็น “อินโนเวด” ที่ถูกสร้างขึ้นมา ทำให้ตัวเขาเริ่มที่จะการปฏิเสธตนเองจากความจริง
ในช่วงท้ายของเรื่อง… เขาได้ถูกยิงตายโดยลีวองส์ แต่ตัวเขายังรวมวิญญาณของตนเองไปเป็นส่วนหนึ่งเข้ากับเวด้าได้
โซม่า พีริส (พากษ์โดย : Arisa Ogasawara)
Soma Peries (ソーマ・ピーリス)
เด็กสาวผมขาว ที่เคยเป็นหนึ่งในทหารของฝ่ายสหพันธ์ปฏิรูปมนุษยชาติในภาคแรก และทหารของฝ่าย A-laws ในภาคที่สอง ทั้งหนึ่งในอดีตนั้นเธอชื่อว่า “แมรี่ พาพาซี่” เด็กในโครงการทดลองสุดยอดทหารของฝ่ายสหพันธ์ปฏิรูปมนุษยชาติ และเป็นอีกความหมายในการชีวิตสำหรับอาเลลูย่า
ในสงครามของภาคแรกตอนที่ตัวเธอยังเป็นศัตรูกับฝ่ายเซเลสเชี่ยล บีอิ้ง นั้น เธอมีความรู้สึกบางอย่างที่เกี่ยวข้องกันกับอาเลลูย่าอย่างบอกไม่ถูก ซึ่งเธอพยายามปฏิเสธความรู้สึกนั้น แต่ในท้ายที่แล้ว ตัวตนที่แท้จริงที่ชื่อแมรี่ ก็สามารถเชื่อมโยงจิตใจของเธอให้เข้าใจถึงความรู้สึกของอาเลลูย่าได้ เธอจึงได้ละทิ้งหน้าที่ของทหารอันมีเกียรติเพื่อมาอยู่กับคนที่พยายามออกค้นหาตัวเธอมาตลอด
สุเมรากิ ลี โนริเอกะ (พากย์โดย : Yōko Honna )
Sumeragi Lee Noriega (スメラギ・李・ノリエガ)
หญิงสาวผู้เป็นหัวหน้าฝ่ายยุทธการของเซเลสเชี่ยล บีอิ้ง ประจำยานปโตเลไมออส เธอมีความสามารถในการวางแผนการรบและเอาชนะในศึกต่างๆ ที่เหล่ากันดั้มไมสเตอร์ออกปฏิบัติการ เธอรู้จักกับบิลลี่และเคธี่ เพราะเคยเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยเดียวกันมาก่อน
หลังจากความพ่ายแพ้ของเซเลสเชี่ยล บีอิ้ง ทำให้เธอสูญเสียความมั่นใจจนต้องตีห่างจากองค์กรไปพักหนึ่ง ก่อนจะไปอาศัยอยู่กับบิลลี่ แต่ท้ายสุดเธอก็ต้องหวนกลับมาสานต่องานของตนเองอีกครั้ง และสามารถนำพาลูกทีมจบภารกิจทั้งหมดของเรื่องได้
เฟลท์ เกรซ(พากย์โดย : Ayahi Takagaki)
Feldt Grace (フェルト・グレイス)
สาวน้อยผมสีชมพู หนึ่งในสมาชิกของเซเลสเชี่ยล บีอิ้ง ทำหน้าที่เป็นฝ่ายโอเปอร์เรเตอร์ประจำยานปโตเลไมออส เธอเป็นผู้ที่เหลือรอดจากการกวาดล้างของฝ่ายกลุ่มพันธมิตรโลกมาแล้วรอบหนึ่ง ซึ่งเธอก็ยังคงรับหน้าที่เดิมเช่นเคย
เป็นคนที่เงียบขึมแต่ลึกๆ แล้วกลับแอบชื่นชอบล็อกออน สตราทอส แต่ก็ไม่ได้แอบเปิดเผยความในใจแต่อย่างใด เพราะกำแพงด้านความสัมพันธ์ระหว่างจิตใจของมนุษย์ด้วยกันที่ไม่อาจจะสื่อออกมาให้เข้าใจกันได้… ทำให้เธอไม่เคยที่จะคิดเปิดใจให้กับผู้ใด
และเมื่อเซ็ตสึนะได้กลายเป็นอินโนเวเตอร์ ที่ได้เปิดโสตประสาทการรับรู้ในจิตใจของมนุษย์ทุกๆ คน นั่นจึงได้ทำให้เธอเริ่มที่จะเปิดใจให้กับคนอื่นๆ มากขึ้น
ลาสเซ่ ไออ้อน(พากย์โดย : Hiroki Touchi)
Lasse Aeon (ラッセ・アイオン)
ชายหนุ่มหนึ่งในสมาชิกของเซเลสเชี่ยล บีอิ้ง ทำหน้าที่เป็นคนควบคุมปืนต่อสู้อากาศยานหลักของยานปโตเลไมออส ความจริงแล้วตัวเขาเองก็เป็นคนที่มีความสามารถที่มากพอที่จะเป็นกันดั้มไมสเตอร์ได้ แต่ด้วยสภาพร่างกายที่ไม่ค่อยสู้ดี เลยทำให้พลาดโอกาสนี้ไป เขาเป็นหนึ่งในผู้ที่เหลือรอดจากการกวาดล้างของฝ่ายกลุ่มพันธมิตรโลก โดยมีสิ่งคอยเตือนใจของเขาคือบาดแผลบนร่างกาย เพื่อที่จะสานต่องานแทนที่พวกพ้องที่จากไป… ตัวเขาจึงไม่ลังเลที่จะมารับหน้าที่เดิมบนยานปโตเลไมออส 2 อีกครั้ง
คริสติน่า เซียร์ร่า (พากย์โดย : Arise Satō)
Christina Sierra (クリスティナ・シエラ)
สาวหนึ่งในสมาชิกของเซเลสเชี่ยล บีอิ้ง ทำหน้าที่เป็นฝ่ายโอเปอร์เรเตอร์ประจำยานปโตเลไมออส เป็นคนที่ร่าเริง เธอมักจะคอยปฏิเสธการตามจีบของริคเทนดาร์ เพราะไม่ได้เป็นสเปคของตัวเธอเองอยู่บ่อยๆ แต่น่าเศร้าที่เธอได้มาตายลงในการกวาดล้างของกลุ่มพันธมิตรโลก ไปพร้อมๆ กับริคเทนดาร์
ริคเทนดาร์ ทีเซรี้ (พากย์โดย : Masataka Azuma)
Lichtendahl Tsery (リヒテンダール・ツエーリ)
ชายหนุ่มหนึ่งในสมาชิกของเซเลสเชี่ยล บีอิ้ง ทำหน้าที่เป็นฝ่ายควบคุมการเดินเรือประจำยานปโตเลไมออส ตัวเขาสนใจคริสติน่า และพยายามจีบแม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ยอมใจอ่อนให้กับเขาก็ตาม ซึ่งก็น่าเศร้าเพราะช่วงท้ายของซีซั่นแรกเขาได้ตายลงในการกวาดล้างของกลุ่มพันธมิตรโลก ไปพร้อมๆ กับคริสติน่า ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น
ซาจิ ครอสโรด(พากย์โดย : Miyu Irino)
Saji Crossroad (沙慈・クロスロード)
หนุ่มวัยเดียวกับเซ็ตสึนะ ที่จากเด็กหนุ่มที่ควรจะมีอนาคตที่สดใส มีแฟนสาวที่ตนจะต้องดูแล ซึ่งทุกๆ อย่างทั้งหมดกลับต้องมาพังทลายจากปฏิบัติการของเซเลสเชี่ยล บีอิ้ง ในสงครามที่ตนเองไม่ได้มีส่วนร่วมได้ทำให้พี่สาวของตนเองต้องตายจากไป และหลุยส์ต้องสูญเสียสภาพร่างกายทั้งจิตใจและเสียครอบครัว
แต่โชคชะตาดั่งเป็นตลกร้ายของเขากลับมาซ้ำเติม… เมื่อได้รู้ว่าหลุยส์ได้เข้าเป็นทหารของฝ่าย A-LAW คนสำคัญหนึ่งเดียวที่ยังหลงเหลืออยู่ในชีวิตของตัวเขากำลังจะออกไปต่อสู้บนสนามรบที่โหดร้าย ตัวเขาไม่รีรอที่จะไปฉุดดึงเธอกลับมา… แต่เมื่อยิ่งพยายามจะไปหาเธอมากเท่าไหร่ กลับยิ่งก่อให้เกิดความสูญเสียตามมามากเท่านั้น
หากนั่นเป็นชะตากรรมที่ได้กำหนดเอาไว้แล้ว… จึงทำให้ตัวเขาได้มาเป็นหนึ่งในสมาชิกของเซเลสเชี่ยล บีอิ้ง ซึ่งก็สามารถพาหลุยส์กลับมาและจบสงครามได้ในที่สุด
มิเรน่า วาสตี้(พากย์โดย : Haruka Tomatsu)
Mileina Vashti (ミレイナ・ヴァスティ)
สาวน้อยทรงผมทวินเทลหนึ่งในสมาชิกของเซเลสเชี่ยล บีอิ้ง ที่มีอายุน้อยที่สุด ทำหน้าที่เป็นฝ่ายโอเปอร์เรเตอร์ประจำยานปโตเลไมออส2 แทนที่คริสติน่าที่จากไป เธอเป็นลูกสาวของเอียนและลินด้า วาสตี้ เป็นคนที่มีนิสัยร่าเริง สดใสสมวัย บางครั้งก็ออกจะแก่แดดในเรื่องของความรักของหนุ่มสาวไปบ้าง แถมเธอเองยังสนใจทีเอเรียอีกซะด้วย
เอียน วาสตี้ (พากย์โดย : Hideyuki Umezu)
Ian Vashti (イアン・ヴァスティ)
ชายวัยกลางคนหนึ่งในสมาชิกของเซเลสเชี่ยล บีอิ้ง ฝ่ายวิศวกรคนสำคัญที่คอยซ่อมบำรุงและพัฒนาโมบิลสูทรวมไปถึงอาวุธในการสู้รบ ตัวเขามีครอบครัวภรรยาสาวและลูกสาวที่น่ารัก ที่มักจะถูกแซวว่า “วัวแก่กินหญ้าอ่อน”
ลินดา วาสตี้(พากย์โดย : Risa Hayamizu)
Linda Vashti (リンダ・ヴァスティ)
ภรรยาสาวของเอียนหนึ่งในสมาชิกของเซเลสเชี่ยล บีอิ้ง ฝ่ายวิศวกรที่ได้พัฒนาพัฒนาโมบิลสูท ระบบ 0-Raiser และ GN-Archer ให้กับเหล่ากันดั้มไมสเตอร์
หวัง หลิว เหม่ย (พากย์โดย : Kei Shindo)
Wang Liu Mei (ワン・リューミン =王留美)
สาวผมยาวดำ เธอทำหน้าที่เป็นเอเจ้นท์ให้กับเซเลสเชี่ยล บีอิ้ง ทั้งยังเป็นทายาทของตระกูลผู้มั่งคั่งอันเป็นแหล่งเงินทุนสำคัญในแผนปฏิบัติการ แต่เดิมนั้นเธอคอยจัดหาข้อมูลที่เกี่ยวกับด้านการทหารและความมั่นคงภายในตามกลุ่มประเทศต่างให้กับฝ่ายยุทธการของเซเลสเชี่ยล บีอิ้ง ซึ่งในช่วงกลางเรื่องที่เริ่มมีความเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร เธอได้เบนเข็มทิศในใจไปที่เป้าหมายบางอย่างที่ไม่ใช่จุดหมายเดิมตามแผนการที่วางเอาไว้
ถึงแม้ฝ่ายเซเลสเชี่ยล บีอิ้งจะถูกกวาดล้างไปแล้วครั้งหนึ่ง เธอยังคงให้ความช่วยเหลืออยู่เช่นเดิม… แต่นั่นเป็นเพียงหน้าฉาก เพราะเธอยังเป็นสายให้กับกลุ่มอินโนเวเตอร์ที่มีลีวองเป็นแกนนำ สิ่งที่ชักนำเธอให้ต้องจับเชือกหลายเส้นคือการเปลี่ยนแปลงของโลกใบนี้… ที่ควรมีผู้ชี้นำไปในทางที่พึงจะเป็น ทว่าการเลือกเส้นเชือกของเธอนั้นกลับกลายเป็นบ่วงพันตัวเอง เพราะแผนการที่วางไว้กลับต้องล่มลงไม่เป็นท่าจากการตื่นขึ้นเป็นอินโนเวอเตอร์ของเซ็ตสึนะ และท้ายสุดเธอถูกเนน่า ทรินิตี้ทรยศและฆ่าตายกลางอวกาศอย่างไร้ค่า
หงหลง (พากย์โดย : Kenji Takahashi)
Hong Long (ホンロン = 紅龍)
ชายหนุ่มผู้เป็นมือขวาของหวัง หลิว เหม่ย คอยประสานงานกับทางกลุ่มกันดั้มไมสเตอร์ แม้ดูล้ายว่าตัวเขาให้ความซื่อสัตย์กับหวัง หลิว เหม่ย แต่ความจริงแล้วเขาเป็น “พี่ชาย” ของหวัง หลิว เหม่ย ที่ไม่สามารถทำหน้าที่ตระกูลของตนเองได้ ซึ่งต้องทำให้น้องสาวของตนเองต้องคอยแบกรับความหนักอึ้งของหน้าที่เกินกว่าจะทนทานได้
ในท้ายที่สุดเขาเองก็ต้องมาจบชีวิตลงจากน้ำมือของถูกนีน่า ทรินิตี้ เพราะเข้าปกป้องหวัง หลิว เหม่ย
โยฮัน ทรินิตี้(พากย์โดย : Katsuyuki Konishi)
Johann Trinity (ヨハン・トリニティ)
ชายหนุ่มที่เป็นนักบินของกันดั้มรุ่น “โทรน” (THRONE) ในชุดปฏิบัติการที่ 2 ของฝ่ายเซเลสเชี่ยล บีอิ้ง ที่ถูกส่งมาร่วมงานกับพวกเซ็ตสึนะ ทั้งยังเป็นพี่ชายคนโตของ 3 พี่น้องทรินิตี้ เป็นคนที่ดูสุขุม แต่มักจะปฏิบัติภารกิจโดยไม่เลือกวิธีการกระทำ ไม่สนว่ามันจะถูกหรือผิดก็ตาม ซึ่งในสุดท้ายแล้ว เขาก็ถูกอาลี อัล ซาซีสฆ่าตายและยึดเอากันดั้มไปได้ในภาคแรก
มิฮาเอล ทรินิตี้ (พากย์โดย : Daisuke Namikawa)
Michael Trinity (ミハエル・トリニティ)
ชายหนุ่มที่เป็นนักบินของกันดั้มรุ่นโทรน ในชุดปฏิบัติการที่ 2 ของฝ่ายเซเลสเชี่ยล บีอิ้ง เป็นพี่ชายคนรองของ 3 พี่น้องทรินิตี้ เป็นคนที่เลือดร้อน ขี้โมโหง่าย แถมยังค่อนข้างจะหวงน้องสาวอย่างเนน่ามากๆ แต่ในตอนช่วงท้ายของซีซั่นแรกเขาถูกฆ่าตายโดยฝีมือของอาลี อัล ซาซีสเช่นเดียวกับโยฮันพี่ชาย
เนน่า ทรินิตี้ (พากย์โดย : Rie Kugimiya)
Nena Trinity (ネーナ・トリニティ)
สาวน้อยที่เป็นนักบินของกันดั้มรุ่นโทรน ในชุดปฏิบัติการที่ 2 ของฝ่ายเซเลสเชี่ยล บีอิ้ง เป็นน้องสาวคนเล็กของ3 พี่น้องทรินิตี้ แต่หลังจากพี่ชายทั้งสองของเธอถูกอาลี อัล ซาซีสฆ่าตาย เธอก็ได้มาทำงานให้กับหวัง หลิว เหม่ย
เธอมีนิสัยแบบเด็กๆ แต่แฝงๆไปด้วยความอำมหิตเลือดเย็นในตัว สามารถลงมือกระทำอะไรแบบไม่ยังคิด แล้วเธอเองก็มีสาเหตุที่ทำให้ครอบครัวของหลุยส์ต้องตาย ซึ่งในท้ายที่สุดเธอก็ถูกหลุยส์ล้างแค้นให้สำเร็จ
อเลฮานโดร คอนเนอร์(พากย์โดย : Yasunori Matsumoto)
Alejandro Corner (アレハンドロ・コーナー)
ชายผู้เป็นสมาชิกในตระกูลคอนเนอร์หนึ่งในผู้สนับสนุนของฝ่ายเซเลสเชี่ยล บีอิ้ง คอยทำหน้าที่ประสานงานด้านข่าวสารในองค์กร แต่ความจริงแล้วตัวเขาต้องการที่จะยึดเอาเวด้า ในช่วงท้ายเขาได้ฆ่าอิโอเรีย เชนเบิร์กที่หลับไหลอยู่ในตู้โคลด์ สลีป แต่ภายหลังได้ถูกลีวองส์ทรยศและตายในการต่อสู้กับกันดั้มในศึกครั้งสุดท้ายของซีซั่นแรก
เกรแฮม เอเคอร์ (พากย์โดย : Yuichi Nakamura)
Graham Aker (グラハム・エーカー)
ชายหนุ่มผมทอง เข้าเป็นนักบินประจำหน่วย MSWORD ระดับหัวกระทิของฝ่ายยูเนี่ยน ทั้งยังเป็นเพื่อนร่วมงานของบิลลี่ ตัวเขามีความปรารถนาที่จะเพิ่มระดับพัฒนาความก้าวหน้าทางด้านการต่อสู้ให้กับตนเอง ยึดถือจิตวิญญาณของนักรบที่มีเกียรติและศักดิ์ศรีอย่างมาก ซึ่งหลังจากที่ได้เผชิญหน้ากับกันดั้มในครั้งแรก ทำให้เกิดแรงปรารถนาที่จะโค่นสิ่งที่เรียกว่า “ความแข็งแกร่ง” ที่เหนือว่าศัตรูทุกๆ คนบนโลก เพื่อให้สะกดคำว่า “ไร้พ่าย” มาจารึกอยู่ในเกียรติและศักดิ์ศรีของตนเองเอง จึงทำให้เขาต้องออกตามล่ากันดั้มแล้วโค่นมันลงให้จงได้
ซึ่งในซีซั่นที่สองนั้น… ภายหลังการต่อสู้กับกันดั้มที่ขับโดยเซ็ตสึนะ ศึกครั้งนั้นจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของฝ่ายเซเลสเชี่ยล บีอิ้ง แต่นั้นไม่ถือว่าเป็นชัยชนะของตนเองไปด้วยแต่อย่างใด การต่อสู้ในครั้งนั้นเขาได้รับบาดแผลบนใบหน้า สิ่งนั้นคอยย้ำเตือนให้ต้องนึกถึงความไม่เด็ดขาดการต่อสู้ที่ยังไม่รู้ผลชี้ขาดอันยอมรับได้ จึงทำให้ต้องปิดซ่อนตัวตนภายใต้หน้ากากในนามของ “มิสเตอร์บูชิโด”
บิลลี่ คาตากิริ (พากย์โดย : Yūji Ueda)
Billy Katagiri (ビリー・カタギリ)
หนุ่มแว่นที่เป็นเจ้าหน้าที่วิศวกรที่ปรึกษาของหน่วย MSWAD ทั้งยังเป็นหลานชายของ โฮเมอร์ คาตากิริ บัญชาการของฝ่าย A-laws ทั้งยังเป็นเพื่อนสนิทของ เกรแฮม เอเคอร์ ตัวเขารู้จักกับสุเมรากิและเคธี่ในช่วงที่ยังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย ซึ่งตัวเขาแอบชอบสุเมรากิมานานแล้ว ซึ่งก็ไม่รู้เลยว่าคนที่ตัวเองแอบชอบนั้นเป็นหัวหน้าฝ่ายยุทธการของเซเลสเชี่ยล บีอิ้ง และหลงคิดมาตลอดว่าความสัมพันธ์ระหว่างตัวเขากับเธอเป็นเรื่องหลอกลวง
เคธี่ มาเนคิน (พากย์โดย : Minami Takayama)
Kati Mannequin (カティ・マネキン )
สาวแว่นหัวหน้าฝ่ายยุทธการของกองทัพ AEU เธอมีบทบาทในการวางแผนการสู้รบกับเซเลสเชี่ยล บีอิ้ง จนกระทั่งผลงานของเธอได้เข้าตาทางA-laws จึงถูกเชิญชวนให้มาเป็นที่ปรึกษาฝ่ายยุทธการ ซึ่งในช่วงท้ายซีซั่นที่สอง เธอได้เป็นแกนนำในการก่อการรัฐประหารภายในA-laws เพราะการกระทำที่คอยกดขี่ผู้อ่อนแอของ A-laws นั่นเอง
เธอเป็นคู่แต่งงานกันแพททริค คอลาซอร์ ที่ไล่ตามตื้อตามจีบมานานจนคุณเธอต้องยอมใจอ่อนแต่งด้วยจนได้
แพททริค คอลาซอร์ (พากย์โดย : Kenji Hamada)
Patrick Colasour (パトリック・コーラサワー)
ไอ้หนุ่มผู้หลงตัวเองว่าเป็นสุดยอดนักบินที่เก่งกาจที่สุดของ AEU แต่กลับแพ้กันดั้มอย่างหมดรูป ซึ่งตัวเขามีข้อดีแบบสุดๆ ก็ต้องที่ “ดวงดี” ที่ไม่ว่าจะไปสู้รบกับสงครามที่ไหนๆ ก็สามารถรอดตายกับมาได้ เสมอๆ แม้แต่ภาคหนังโรง ตัวเขาชื่นชอบเคธี่ มาเนคิน ตั้งแต่แรกเห็น จึงได้พยายามตามตื้อตามจีบคุณเธอมาตั้งแต่ซีซั่นแรก ถึงกระทั่งยอมตามมาอยู่ใน A-laws ซึ่งสุดท้ายเขาก็สามารถพิชิตหัวใจของแม่นางได้สำเร็จในท้ายซี่ซันที่สองจนได้ แน่นอนว่า… ในสงครามELS ตัวเขาก็ดวงแข็งและไม่ตายในสงครามภาคหนังโรงอีกด้วย
อาลี อัล ซาซีส(พากย์โดย : Keiji Fujiwara)
Ali Al-Saachez (アリー・アル・サーシェス)
ชายผู้เป็นทหารรับจ้างของ KPSA ที่ในครั้งหนึ่งเคยได้ล่อลวงเด็กๆ ให้เข้ามาเป็นกองทหารเด็กในการสู้รบที่ประเทศบาลเคอร์ดิส ซึ่งหนึ่งในทหารเด็กก็มีเซ็ตสึนะรวมอยู่ด้วย ตัวเขาไม่มีจุดยืนในการต่อสู้ มีเพียงแค่ต้องการเงินจากสนามรบเท่านั้น
ในช่วงต้นเรื่องของซี่ซันแรก เขาได้เผชิญหน้ากับเซ็ตสึนะและกันดั้ม จึงมีความอยากที่จะได้สุดยอดโมบิลสูทมาเป็นของตน จนได้ชิงเอาเครื่องโทรนซไวจากมิคาเอล หนึ่งในสามพี่น้องทรินิตี้มาได้
ซึ่งในสุดท้ายตัวเขาถูกไลล์ ไดแลนดี้ ที่เป็นล็อกออนปลิดชีพลง เพราะตัวเขาก็เคยอยู่ในเหตุการณ์การก่อการร้ายวางระเบิดที่ประเทศไอร์แลนด์ที่ได้ทำให้ครอบครัวของล็อกออนเสียชีวิตทั้งหมด
เซอร์เก้ สเมอร์นอฟ(พากย์โดย : Unshō Ishizuka )
Sergei Smirnov (セルゲイ・スミルノフ)
ชายวัยกลางคน นักบินชั้นนำของฝ่ายสหพันธ์ปฎิรูปมนุษยชาติ ผู้มีฉายาว่า “หมีขาวคะนองศึก” ด้วยฝีมือที่สูงด้วยประสบการณ์และความรักพวกพ้อง จึงทำให้ตัวเขาเป็นที่เคารพต่อน้องน้องที่ติดตามเป็นอย่างมาก มีความสนิทชิดเชื้อกันกับโซม่า พีริส ซึ่งเขามองเด็กสาวคนนี้เป็นเสมือนลูกสาวคนหนึ่ง อาจเพราะความโหยหาต่อครอบครัว และผิดใจกับลูกชายคนเดียวอย่าง “อังเดร สเมอร์นอฟ” ที่เป็นสมาชิกของ A-laws ซึ่งในตอนท้ายตัวเขาได้ตายลงด้วยน้ำมือของลูกชายตนเอง เพราะเป็นการชดเชยความผิดที่ตัวเขาเคยทำให้ภรรยาตนเองต้องตาย
หลุยส์ ฮาเลวี่ (พากย์โดย : Chiwa Saitō)
Louise Halevy (ルイス・ハレヴィ)
เด็กสาวผมทองที่เป็นคนที่โชคร้ายที่สุดอีกคนในเรื่องนี้ ครั้งหนึ่งเธอเคยเป็นเด็กสาววัยใสที่มีพร้อมทุกๆ อย่าง ทั้งความมั่งมี ทั้งครอบครัวที่แสนอบอุ่น ทั้งประสบการณ์ในวัยเรียนที่น่าจดจำ และคนรักที่ยอมตามใจตัวเธอทุกๆ อย่าง แต่แล้วทุกๆ อย่างกับต้องพังทลายลง ตัวเธอและครอบครัวกลายเป็นเป้าระบายอารมณ์ให้กับนีน่า ทรินิตี้ นั่นจึงกลายเป็นว่าเธอถูกดึงให้เข้ามาเป็นสมาชิกของ A-laws ร่วมทำสงครามของผู้ใหญ่ที่โหดร้ายเกินกว่าเธอจะรับไหว แล้วที่ซ้ำร้ายที่สุด… เธอต้องมาเข้าใจผิดต่อซาจิที่คิดไปเองว่าเขาเป็นสมาชิกของเซเลสเชี่ยล บีอิ้ง ทำให้จิตใจของเธอไม่เหลือความเป็นเด็กสาวที่ชื่อหลุยส์คนเดิมอีกต่อไป จนเป็นช่องให้ลีวองส์ใช้เธอเป็นเครื่องมือในสงคราม ซึ่งสุดท้ายแล้ว… เมื่อพลังของอิโนเวเตอร์บริสุทธิ์ในตัวเซ็ตสึนะเปิดออก ซาจิก็สามารถนำเธอกลับมาได้ในที่สุด
โฮเมอร์ คาตากิริ(พากย์โดย : Ryūzaburō Ōtomo)
Homer Katagiri (ホーマー・カタギリ)
ชายผู้เป็นผู้นำของA-laws ที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อรวมโลกให้เป็นหนึ่งเดียว เพื่อรับมือต่อการหวนคืนกับมาของเซเลสเชี่ยล บีอิ้งในซีซั่นที่สอง แต่ด้วยวิธีการที่นำมาใช้นั้นดูเป็นการใช้อำนาจอันเกินกว่าเหตุ คอยกดขี่เหล่าประเทศที่อ่อนแอกว่า ทำให้เกินกระแสการต่อต้านเป็นอย่างมากทั้งจากภายนอกและภายในA-laws เองด้วย ซึ่งภายหลังจากสงครามในซีซั่นที่สองจบลง เขาได้ทำการฮาราคีรีตัวเองลงในที่สุด
อาร์บา รินท์ (พากย์โดย : Kazuki Yao)
Arba Lindt (アーバ・リント)
ชายที่เป็นหัวหน้านายทหารยศพันตรีของA-laws ที่ถูกส่งมาเป็นหัวหน้าฝ่ายยุทธการร่วมกับเคธี่ มาเนคิน แต่วิธีการนั้นดูป่าเถื่อนไม่เลือกวิธีการ
อาร์เธอร์ กู๊ดแมน (พากย์โดย :Hisao Egawa)
Arthur Goodman (アーサー・グッドマン)
ชายร่างท้วมผู้เป็นนายทหารระดับสูงของฝ่ายA-laws คอยรับหน้าที่ควบคุมกองกำลังรบหลักในการเข้าจัดการกับฝ่ายเซเลสเชี่ยล บีอิ้งในซีซั่นที่สอง ทว่ากลับถูกเคธี่ มาเนคิน ทำการก่อรัฐประหารนำกองกำลังผู้ไม่เห็นด้วยเข้าตลบหลังระหว่างศึกชี้ขาด A-laws กับเซเลสเชี่ยล บีอิ้งในช่วงท้าย และถูกเซ็ตสึนะฆ่าตายด้วยการจมเรือรบที่ตัวเองบัญชาการอยู่
อังเดร สเมอร์นอฟ (พากย์โดย : Tetsu Shiratori)
Andrei Smirnov (アンドレイ・スミルノフ)
ชายหนุ่มที่เป็นลูกชายของเซอร์เก้ สเมอร์นอฟ ที่เข้าร่วมกับฝ่ายสมาชิกของ A-laws แม้ตัวเขาจะให้ความเคารพเซอร์เก้ในฐานะหัวหน้าทหาร แต่สูญเสียความเชื่อถือในฐานะของคุณพ่อ เพราะเซอร์เก้เป็นสาเหตุที่ทำให้คุณแม่ของตัวเองต้องตาย จนกระทั่งตัวเขาได้สังหารเซอร์เก้ลงในท้ายซีซั่นที่สอง และได้รู้ว่าสิ่งที่ตนก่อไปนั้นคือความผิดพลาดที่ไม่ควรให้อภัย
ลีวองส์ อัลมาร์ค (พากย์โดย : Tōru Furuya)
Ribbons Almark (リボンズ・アルマーク)
เด็กหนุ่มที่ครั้งหนึ่งเป็นผู้ช่วยของอเลฮานโดร และเคยเป็นนักบิน O-GUNDAM ช่วยชีวิตเซ็ตสึนะในสมัยเด็กๆ แต่แท้จริงแล้วเขาเป็นอิโนเวเตอร์ที่อยู่เบื้องหลังความวุ่นวายทั้งหมดในเรื่องนี้ โดยอินเตอร์เวเตอร์จะคอยยึดจุดประสงค์ตามเจตนารมย์ของอิโอเรีย เชนเบิร์ก ที่จะพยายามรวมโลกให้กลายเป็นหนึ่งเดียว แต่ภายหลังจากอเลฮานโดร ตายในสงครามภาคแรก ลีวองส์จึงได้ตัวตนเองเป็นผู้ควบคุมกฎเกณฑ์ชี้น้ำมวลมนุษย์ในแนวทางที่ขัดแย้งกับอิโอเรีย เชนเบิร์ก
สุดท้ายเขาก็ถูกเซ็ตสึนะสังหารลง แต่ความตายของเขาเป็นแค่จุดเริ่มต้นในภาคหนังโรง…
รีเจนเน่ เรเจ็ตต้า (พากย์โดย : Romi Paku)
Regene Regetta (リジェネ・レジェッタ)
เด็กหนุ่มหนึ่งในสมาชิกของอินโนเวเตอร์ที่มีลีวองส์เป็นผู้นำ เขามีหน้าตาที่เหมือนกับทีเอเรียอย่างมาก ตัวเขามักจะมีความคิดและการกระทำที่สวนทางกับลีวองส์ ซึ่งในท้ายที่สุดนั้นเขาก็ได้ลงมือสังหารลีวองส์ลง แต่ไม่สำเร็จจนตนเองต้องถูกฆ่าตายในที่สุด
รีไวฟ์ รีไววัล (พากย์โดย : Mitsuki Saiga)
Revive Revival (リヴァイブ・リバイバル)
เด็กหนุ่มหนึ่งในสมาชิกของอินโนเวเตอร์ที่มีลีวองส์เป็นผู้นำ ที่ถูกส่งเข้าไปเป็นทีมพิเศษของA-laws ในการจัดการกับเซเลสเชี่ยล บีอิ้ง
ฮีลิ่ง แคร์ (พากย์โดย : Miyuki Kawasho)
Hiling Care (ヒリング・ケア)
เด็กสาวหนึ่งในสมาชิกของอินโนเวเตอร์ที่มีลีวองส์เป็นผู้นำ ที่ถูกส่งเข้าไปเป็นทีมพิเศษของA-laws ในการจัดการกับเซเลสเชี่ยล บีอิ้ง เช่นเดียวกันกับรีไวฟ์ รีไววัล เป็นคนที่ชื่นชอบการต่อสู้อย่างมาก
บริ้งค์ สตาบิตี้ (พากย์โดย : Ryōtarō Okiayu)
Bring Stabity (ブリング・スタビティ)
ชายหนุ่มที่เป็นสมาชิกของอินโนเวเตอร์ ที่ถูกส่งเข้าไปเป็นทีมพิเศษของA-laws ในการจัดการกับเซเลสเชี่ยล บีอิ้ง เช่นเดียวกันกับรีไวฟ์ รีไววัล และฮีลิ่ง แคร์ ซึ่งเขาเป็นเพียงร่างโคลนนิ่งที่มีตัวเขาอยู่อีกจำนวนมาก
อานิว รีเทิร์นเนอร์ (พากย์โดย : Ryoko Shiraishi)
Anew Returner (アニュー・リターナー)
เด็กสาวหนึ่งในสมาชิกของอินโนเวเตอร์ เธอถูกส่งเข้าไปเป็นสปายในเซเลสเชี่ยล บีอิ้งในซีซั่นที่สอง ซึ่งในช่วงเวลานั้นเธอได้คบหาอยู่กับไลล์ ไดแลนดี้ ที่เป็นล็อกออน แต่เมื่อแผนการของลีวองส์เริ่มเข้าสู่จุดลงตัว เธอจึงได้เผยตัวเองและเป็นศัตรูกับฝ่ายเซเลสเชี่ยล บีอิ้ง ทว่าในตอนท้ายของซีซั่นที่สองนั้นเธอกับถูกเซ็ตสึนะสังหารลง เพราะร่างของเธอถูกควบคุมโดยลีวองส์ และกำลังจะจัดการกับไลล์ ไดแลนดี้ ซึ่งในช่วงเวลานั้นเอง… จิตใจระหว่างของเธอและไลล์ ไดแลนดี้ก็ได้สื่อถึงกัน แล้วจบลงด้วยน้ำตาอย่างน่าเศร้า
มารีน่า อิสมาอีล(พากย์โดย : Ayumi Tsunematsu)
Marina Ismail (マリナ・イスマイール)
สาวผมยาวดำสลวย เธอเป็นเจ้าหญิงอันดับหนึ่งของประเทศอาซาดิสถาน ประเทศหนึ่งในแถบเอชียตะวันออกกลาง ที่มีทรัพยากรทางน้ำมันมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ตัวเธอได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศในความไม่พร้อมอะไรสักอย่าง อาซาดิสถาน ได้ทำสงครามกับรัฐบาลเคอร์ดิสจนอีกฝ่ายหายไปจากแผนที่โลก ในช่วงที่เธอกำลังเจรจาสงบศึกต่อกัน เธอได้มาพบกับเซ็ตสึนะที่เป็นเสมือนความเป็นจริงอันบิดเบี้ยวของโลกในนี้ที่เธอไม่เคยได้รับรู้มาก่อน เธอจึงได้พยายามที่จะเรียนรู้จิตใจระหว่างกัน ซึ่งเธอเองก็เปรียบเสมือนที่พักจิตใจของเซ็ตสึนะที่โหยหามานานแสนนานด้วยเช่นกัน
เมื่อสงครามทุกอย่างในเรื่องจบลง เซ็ตสึนะได้ออกเดินทางเพื่อสื่อสารทำความเข้าใจกับเอลส์ไปทั่วจักรวาล ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าใด… ต่อคนต่างก็รอที่จะมาพบกันอีกครั้ง
ซีลิน บากห์ติย่าร์ (พากย์โดย : Michiko Neya)
Shirin Bakhtiar (シーリン・バフティヤール)
สาวแว่นที่เคยเป็นที่ปรึกษาของมารีน่ามาก่อนในภาคแรก ซึ่งแนวคิดบ้างอย่างของเธอไม่ค่อยสอดคล้องกับมารีน่า ทำให้เธอต้องถอยห่างออกมาเข้ากับกลุ่มต่อต้านA-laws ที่ชื่อ “คาตาลอน” ในภาคที่สอง แต่ถึงกระนั้นแล้ว… เธอก็ยังคงเป็นห่วงมารีน่าอยู่เสมอ เมื่อสงครามในภาคที่สองจบลง เธอได้เริ่มจะมีทายาทกับเคลาส์ กราโด้ ซึ่งเปรียบได้เหมือนกับการเริ่มต้นสู่สันติสุขในยุคใหม่ที่แท้จริง
เคลาส์ กราโด้ (พากย์โดย : Tokuyoshi Kawashima)
Klaus Grad (クラウス・グラード)
ชายหนุ่มที่เป็นผู้นำของกลุ่มคาตาลอน กลุ่มทหารรับจ้างที่มาจากประเทศต่างๆ เพื่อทำสงครามใต้ดินกับทางA-laws เพราะทนต่ออำนาจที่คอยกดขี่ประเทศอื่นๆ ไม่ไหว ตัวเขาคอยประสานงานกับทางเซเลสเชี่ยล บีอิ้งในซีซั่นที่สอง และเป็นคนส่งสายลับอย่าง จีน-1 หรือไลล์ ไดแลนดี้ ที่เป็นล็อกออน ให้เข้าไปทำงานในนั้น แล้วเมื่อสงครามจบลง บทบาทหน้าที่ของเขาก็ได้จบลง แล้วมีทายาทรกับซีลิน บากห์ติย่าร์
เดคาร์ต ชาแมน (พากย์โดย : Ryo Katsuji)
Descartes Shaman (デカルト・シャーマン)
ชายหนุ่มนักบินของกองทัพสหพันธ์โลกที่เป็นตัวละครจากภาคหนังโรง ทั้งยังเป็นคนแรกที่ทางการระบุว่าเป็นอินโนเวเตอร์บริสุทธิ์คนแรกของโลก ตัวเขาถูกทางกองทัพนำมาทดลองเหมือนหนูตะเภา จนสุดท้ายตัวเขาถูกส่งให้ไปจัดการกับพวกเอลส์และถูกกลืนกินร่างไป
มีน่า คาร์ไมน์ (พากย์โดย : Rie Kugimiya)
Mehna Carmine (ミーナ・カーマイン)
สาวนักฟิสิกส์ทางด้านอวากาศ ที่ทำงานให้กับทาง ESF เธอเป็นคนที่ให้ดีเอ็นเอในการสร้างกลุ่มกันดั้มไมส์เตอร์อย่างสามพี่น้องทรินิตี้ ซึ่งหน้าตาของเธอมีความละม้ายคล้ายกันกับเนน่า น้องสาวคนเล็กสุดอย่างมาก เธอคบหากันกับบิลลี่ ปรากฏตัวในภาคหนังโรง
Mobile Suit
Celestial Being Mobile Suit
GN-001 Gundam Exia
โมบิลสูท 1 ใน 4 กำลังรบหลักของฝ่ายเซเลสเชี่ยล บีอิ้งในซีซั่นแรก เป็นเครื่องที่ใช้การต่อสู้ในระยะประชิดเป็นหลัก ตัวเครื่องติดตั้งเตาแสงสุริยะ “GN-Drive” เป็นแหล่งพลังงานหลัก มีอาวุธประจำตัวคือ GN beam saber, GN Sword, GN Shield ใช้ชื่อรุ่นในการสร้างว่า “Seven Sword” ซึ่งในซีซั่นท้ายแรกGundam Exia เสียหายอย่างหนักในการต่อสู้ ในซีซั่นที่สองได้ถูกนำมาใช้ในการต่อสู้อีกครั้งในชื่อ “GN-001RE Gundam Exia Repair” “GN-001REII Gundam Exia Repair II” และ GN-001REIII Gundam Exia Repair III
มีกันดั้มไมส์เตอร์ประจำเครื่องคือ เซ็ตสึนะ F เซย์เอย์
GN-001RE Gundam Exia Repair
GN-001REII Gundam Exia Repair II
GN-001REIII Gundam Exia Repair III
GN-002 Gundam DYNAMAS
โมบิลสูท 1 ใน 4 กำลังรบหลักของฝ่ายเซเลสเชี่ยล บีอิ้งในซีซั่นแรก เป็นเครื่องที่ใช้การต่อสู้ในระยะไกลเป็นหลัก ตัวเครื่องติดตั้งเตาGN-Drive เป็นแหล่งพลังงานหลัก ติดตั้งฮาโร่เพื่อช่วยในการควบคุมได้อีกด้วย มีอาวุธประจำตัวหลักคือ GN Sniper Rifle
มีกันดั้มไมส์เตอร์ประจำเครื่องคือ ล็อกออน สตราทอส
GN-003 Gundam Kyrios
โมบิลสูท 1 ใน 4 กำลังรบหลักของฝ่ายเซเลสเชี่ยล บีอิ้งในซีซั่นแรก เป็นเครื่องที่ใช้สามารถปรับเปลี่ยนตัวเครื่องเป็นเครื่องบินรบในแบบ Fight Mode ได้ คอยรับหน้าที่เป็นหน่วยจู่โจมเร็วของชุดปฏิบัติการ ตัวเครื่องติดตั้งเตาGN-Drive เป็นแหล่งพลังงานหลัก
มีกันดั้มไมส์เตอร์ประจำเครื่องคือ อาเลลูย่า ฮาฟทิซึ่ม
GN-005 Gundam Virtue
โมบิลสูท 1 ใน 4 กำลังรบหลักของฝ่ายเซเลสเชี่ยล บีอิ้งในซีซั่นแรก เป็นเครื่องติดตั้งเกราะทั่งทั้งตัว ซึ่ งมีร่างที่แท้จริงคือ “กันดั้มนาดเล่” (GN-004 Gundam Nadleeh) ที่มีความสามารถในการแทรกแซงระบบของกันดั้มที่เชื่อต่อกันกับเวด้าตัวอื่นๆ ได้ ตัวเครื่องติดตั้งเตา GN-Drive เป็นแหล่งพลังงานหลัก มีอาวุธประจำตัวหลักคือ GN Cannon และ GN Bazooka
มีกันดั้มไมส์เตอร์ประจำเครื่องคือ ทีเอเรีย เออร์เด้
GN-004 Gundam Nadleeh
GNW-001 Gundam Throne Eins
โมบิลสูท 1 ใน 3 กันดั้มรุ่น “โทรน” (THRONE) ในชุดปฏิบัติการที่ 2 ของฝ่ายเซเลสเชี่ยล บีอิ้ง เป็นเครื่องที่มีสามารถในการยิงด้วยบีมกำลังสูงไม่แพ้เครื่องของGundam Virtue ของทีเอเรีย ตัวเครื่องติดตั้งเตา GN-Tau หรือ GN[T]-Drive เป็นแหล่งพลังงานหลัก มีอาวุธประจำตัวหลักคือ GN Beam Rifle, GN Launcher, GN Mega Launcher, GN High Mega Launcher, GN Shield
มีกันดั้มไมส์เตอร์ประจำเครื่องคือ โยฮัน ทรินิตี้
GNW-002 Gundam Throne Zwei
โมบิลสูท 1 ใน 3 กันดั้มรุ่นโทรน ในชุดปฏิบัติการที่ 2 ของฝ่ายเซเลสเชี่ยล บีอิ้ง เป็นเครื่องที่มีสามารถในการใช้ GN Fang อาวุธประเภทระยะไกล ตัวเครื่องติดตั้งเตา GN-Tau หรือ GN[T]-Drive เป็นแหล่งพลังงานหลัก
มีกันดั้มไมส์เตอร์ประจำเครื่องคือ มิฮาเอล ทรินิตี้
GNW-003 Gundam Throne Drei
โมบิลสูท 1 ใน 3 กันดั้มรุ่นโทรน ในชุดปฏิบัติการที่ 2 ของฝ่ายเซเลสเชี่ยล บีอิ้ง เป็นเครื่องที่มีสามารถในการใช้ GN Stealth Field ที่สามารถสร้างคลื่นรบกวนเรดาร์ได้ ตัวเครื่องติดตั้งเตา GN-Tau หรือ GN[T]-Drive เป็นแหล่งพลังงานหลัก
มีกันดั้มไมส์เตอร์ประจำเครื่องคือ เนน่า ทรินิตี้
GN-0000 00 (Double O) Gundam
โมบิลสูท 1 ใน 4 กำลังรบหลักของฝ่ายเซเลสเชี่ยล บีอิ้งในซีซั่นที่สอง เป็นเครื่องที่ใช้การต่อสู้ในระยะประชิดเป็นหลัก ตัวเครื่องติดตั้งเตา GN-Drive เป็นแหล่งพลังงานหลัก ซึ่งมีการเพิ่มเตาแสงสุริยะเป็นสองตัวเป็นระบบแบบ“Double GN-Drive” ซึ่งทำให้เครื่องนี้มีประสิทธิภาพที่สูงมาก สร้างระบบ Trans-Am ที่ดีกว่า Gundam Exia มีอาวุธประจำตัวคือ GN beam saber, GN Sword, GN Shield ทั้งยังสามารถใช้งานร่วมกับยูนิตเสริมอย่าง “GNR-010 O-Raiser”เพื่อเป็น “GN-0000+GNR-010 00 Raiser”ได้อีกด้วย
มีกันดั้มไมส์เตอร์ประจำเครื่องคือ เซ็ตสึนะ F เซย์เอย์
GN-0000+GNR-010 00 Raiser
GN-006 Cherudim Gundam
มบิลสูท 1 ใน 4 กำลังรบหลักของฝ่ายเซเลสเชี่ยล บีอิ้งในซีซั่นที่สอง รหัสเครื่องต่อจากGN-005 Gundam Virtue เป็นเครื่องที่ใช้การต่อสู้ในระยะไกลเป็นหลัก รวมถึงสามารถติดตั้งฮาโร่เพื่อช่วยในการควบคุมได้เช่นเดียวกันกับ Gundam Dynamas และเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันด้วย GN Shield Bitได้อีกด้วย ซึ่งโดยรวมคล้ายคลึงกันกับGundam Dynamas อย่างมาก
มีกันดั้มไมส์เตอร์ประจำเครื่องคือไลล์ ไดแลนดี้ ที่เป็นล็อกออน สตราทอสคนที่สอง
GN-007 Arios Gundam
โมบิลสูท 1 ใน 4 กำลังรบหลักของฝ่ายเซเลสเชี่ยล บีอิ้งในซีซั่นที่สอง เป็นเครื่องที่ใช้สามารถปรับเปลี่ยนตัวเครื่องเป็นเครื่องบินรบในแบบ Fight Mode ได้ เช่นเดียวกันกับ Gundam Kyrio และเพิ่มประสิทธิภาพในการรบด้วยการติดตั้งโมบิลสูทสู้รบขนาดเล็กอย่างGNR-101A GN Archer ได้อีกด้วย
มีกันดั้มไมส์เตอร์ประจำเครื่องคือ อาเลลูย่า ฮาฟทิซึ่ม
GN-008 Seravee Gundam
โมบิลสูท 1 ใน 4 กำลังรบหลักของฝ่ายเซเลสเชี่ยล บีอิ้งในซีซั่นที่สอง เป็นเครื่องที่ติดตั้ง GN Cannon และ GN Bazooka เช่นเดียวกันกับ Gundam Virtue และเพิ่มประสิทธิภาพในการรบด้วยการติดตั้งโมบิลสูทสู้รบอีกตัวเอาไว้อย่างGN-009 Seraphim Gundamที่มีความสามารถในการแทรกแซงระบบกันดั้มอีกฝ่ายได้เช่นเดียวกันกับGundam Nadleeh ได้อีกด้วย
มีกันดั้มไมส์เตอร์ประจำเครื่องคือ ทีเอเรีย เออร์เด้
GN-009 Seraphim Gundam
GNR-010 O-Raiser
เป็นยูนิตเสริมรูปทรงเครื่องบินรบของ00 Gundam เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ระบบฟูลเบิร์ดโหมดให้กับ 00 Gundam ให้สูงขึ้นได้ มีนักบินประจำเครื่องคือ ซาจิ ครอสโรด
GNR-101A GN Archer
เป็นยูนิตเสริมรูปทรงเครื่องบินรบที่สามารถแปลงร่างเป็นโมบิลสูทขนาดเล็กได้ ใช้ติดตั้งให้กับArios Gundam เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสู้รบได้ มีนักบินประจำเครื่องคือ โซม่า พีริส
GNT-0000 00 Qan[T]
โมบิลสูท 1 ใน 4 กำลังรบหลักของฝ่ายเซเลสเชี่ยล บีอิ้งในภาคหนังโรง ที่ตัวเครื่องได้รับการพัฒนาเพื่อให้ผู้ที่เป็นอินโนเวเตอร์ โดยเฉพาะ มีอาวุธเป็น GN Full Saber Pack ดาบขนาดใหญ่ที่สามารถถอดเป็นดาบขนาดเล็กได้อีก 7 เล่ม ซึ่งยังคงแนวคิดตามแบบ“Seven Sword” ดั้งเดิมอยู่ นอกจากนี้ยังติดตั้งเตาแสงสุริยะ GN-Drive ที่เพิ่มกำลังได้สูงกว่ากันดั้มทุกๆ รุ่นที่มีมา จนสามารถสร้างและกระจายคลื่นควอนตัมได้กว้างมากขึ้น ทั้งยังมีความสามารถในการเคลื่อนที่ๆ เร็วกว่าแสงจนสามารถก้าวผ่านมิติของห้วงเวลาได้ ซึ่งจุดประสงค์หลักของ 00 Qan[T] คือ “การเชื่อมต่อความคิดของสิ่งมีชีวิตให้เข้าหากัน เพื่อการพูดคุยและเปิดรับความเข้าใจกัน” ตามเจตนารมณ์ของ อิโอเรีย เชนเบิร์ก อย่างแท้จริง
มีกันดั้มไมส์เตอร์ประจำเครื่องคือ เซ็ตสึนะ F เซย์เอย์ ที่สามารถทำหน้าที่เป็นผู้สื่อสารได้เพียงคนเดียวเท่านั้น
00 Qan[T] Quantum Burst Mode
00 Qan[T] ELS
GN-010 Gundam Zabanya
โมบิลสูท 1 ใน 4 กำลังรบหลักของฝ่ายเซเลสเชี่ยล บีอิ้งในภาคหนังโรง เครื่องที่ยังคงใช้รูปแบบการต่อสู้ในระยะไกลเป็นหลัก เช่นเดียวกันกับ Gundam Dynamas และ Cherudim Gundam ที่ถูกพัฒนาประสิทธิภาพให้สูงขึ้นไปอีก รวมถึงติดตั้งฮาโร่เพื่อช่วยในการควบคุมได้ถึงสองตัว เครื่องติดตั้ง GN Shield Bit ที่สามารถใช้เป็นบีมไรเฟิลได้
มีกันดั้มไมส์เตอร์ประจำเครื่องคือไลล์ ไดแลนดี้ ที่เป็นล็อกออน สตราทอสคนที่สอง
GN-011 Gundam Harute
โมบิลสูท 1 ใน 4 กำลังรบหลักของฝ่ายเซเลสเชี่ยล บีอิ้งในภาคหนังโรง เป็นเครื่องที่ใช้สามารถปรับเปลี่ยนตัวเครื่องเป็นเครื่องบินรบในแบบ Fight Mode ได้ เช่นเดียวกันกับ Gundam Kyrio และ Arios Gundam ที่ถูกพัฒนาประสิทธิภาพให้สูงขึ้นไปอีก ภายในเครื่องเป็นห้องนักบินที่บังคับได้ถึง 2 คน
มีกันดั้มไมส์เตอร์ประจำเครื่องคือ อาเลลูย่า ฮาฟทิซึ่ม และ โซม่า พีริส
CB-002 Raphael Gundam
โมบิลสูท 1 ใน 4 กำลังรบหลักของฝ่ายเซเลสเชี่ยล บีอิ้งในภาคหนังโรง เป็นเครื่องที่อยู่ในสายการพัฒนามาจากกาเดสซ่า ที่ใช้เทคโนโลยีสร้างโดยเหล่าอินโนเวด ยังคงใช้เตาแสงสุริยะแบบ GN[T]-Drive อยู่ มีจุดเด่นอยู่ที่ติดตั้งอาวุธอย่าง GN Big Cannons และ GN Claw
มีกันดั้มไมส์เตอร์ประจำเครื่องคือ ทีเอเรีย เออร์เด้
UNION Mobile Suit
SVMS-01 Union Flag
โมบิลสูทหลักของฝ่าย UNION ที่สามารถแปลงเป็นFight Mode ได้ มีความคล่องตัวสูง ติดตั้งอาวุธมาตรฐานอย่าง Machine Gun, Defense Rod, Linear Rifle และ Sonic Blade
SVMS-01E Over Flag
โมบิลสูทของฝ่าย UNION ที่สามารถแปลงเป็นFight Mode ได้เช่นเดียวกับUnion Flag ที่มีความคล่องตัวสูงกว่า ทั้งยังเป็นเครื่องรุ่นเฉพาะที่ถูกบรรจุให้ใช้ในหน่วย MSWORD ของเกรแฮมอีกด้วย ติดตั้งอาวุธมาตรฐานอย่าง Machine Gun, Defense Rod, Linear Rifle และ Sonic Blade เช่นเดียวกับUnion Flag รุ่นปรกติ
Human Reform League Mobile Suit
MSJ-06II-A Tieren Ground Type
โมบิลสูทหลักของฝ่ายสหพันธ์ปฏิรูปมนุษยชาติ ซึ่งส่วนมากถูกนำมาใช้ในหน่วยรบภาคพื้นดิน สามารถติดตั้งอาวุธหนักได้อย่างหลายหลาย
MSJ-06II-SP Tieren Taozi
โมบิลสูทรุ่นเฉพาะของฝ่ายสหพันธ์ปฏิรูปมนุษยชาติ ที่ถูกปรับแต่งให้สามารถใช้ในอวกาศได้ แต่ตัวเครื่องนั้นนักบินทั่วไปไม่สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพเพราะสร้างภาระให้อย่างมาก จึงใช้ได้เพียงแค่มนุษย์ดัดแปลงอย่างโซม่า พีริสเท่านั้น
Tieren High Mobility Type
โมบิลสูทในรุ่นความเร็วสูงของฝ่ายสหพันธ์ปฏิรูปมนุษยชาติ สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องตัวบนภาคพื้นดิน และเป็นรุ่นต้นแบบของ Type B ในสายการพัฒนาเดียวกัน
MSJ-06II-C/B Tieren High Mobility Type B
โมบิลสูทในรุ่นความเร็วสูงของฝ่ายสหพันธ์ปฏิรูปมนุษยชาติ เป็นรุ่นถัดมาของTieren High Mobility Type ที่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องตัวบนภาคพื้นดิน
TierenLong-Lange Cannon Type
โมบิลสูทหลักของฝ่ายสหพันธ์ปฏิรูปมนุษยชาติประเภทการใช้งานแบบภาคพื้นดิน ติดตั้งปืนใหญ่ประทับบ่าพิสัยไกล รับหน้าที่การสนับสนุนในแนวหลัง
MSER-04 ANF
โมบิลสูทหลักของฝ่ายสหพันธ์ปฏิรูปมนุษยชาติประเภทการใช้งานแบบภาคพื้นดิน ถือเป็นต้นแบบในสายการพัฒนาของ Tieren
MSJ-06II-E Tieren Space Type
โมบิลสูทหลักของฝ่ายสหพันธ์ปฏิรูปมนุษยชาติประเภทการใช้งานแบบภาคพื้นอวกาศ ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ขับเคลื่อนที่จำเป็นต้องในงานในสภาวะไร้แรงโน้มถ่วงนอกโลก
AEU Mobile Suit
AEU-09 AEU Enact
โมบิลสูทหลักของฝ่าย AEU ที่สามารถแปลงเป็นFight Mode เช่นเดียวกับUnion Flag ของทาง UNION มีความคล่องตัวสูง ทั้งยังสามารถนำไปใช้ในเขตพื้นที่อวกาศได้
United Nation Mobile Suit
SVMS-01X Union Flag Custom II
โมบิลสูทของฝ่าย UNION เป็นรุ่นเฉพาะของเกรแฮมที่เพิ่มเติมจากOver Flag ด้วยการติดตั้งเตาแสงสุริยะแบบ GN[T]-Drive ที่ตรงไหล่ข้างซ้าย และไม่สามารถแปลงเป็นFight Mode ได้ ถูกนำมาใช้เข้าร่วมในกองกำลังสหประชาชาติในการต่อสู้กับฝ่ายเซเลสเชี่ยล บีอิ้ง
AEU-09Y812 AEU Enact Ali Al-Saachez Custom
โมบิลสูทรุ่นสำหรับอาลี อัล ซาซีสที่เข้าร่วมกับทาง UN สามารถติดตั้งโมบิลอาร์เมอร์อย่าง Agrissa ที่สามารถปล่อยสนามพลังพลาสม่าโจมตีใส่ศัตรูได้
GNX-603T GN-X
โมบิลสูทกำลังรบของฝ่าย UN ที่ติดตั้งเตาแสงสุริยะแบบ GN[T]-Drive ซึ่งมีประสิทธิภาพพอที่จะต่อสู้กับกันดั้มได้ เป็นเครื่องที่พัฒนามาจาก Gundam Throne และถือเป็นต้นแบบในการพัฒนาโมบิลสูทของงฝ่าย A-laws อีกด้วย
GNMS-XCVII Alvaaron
โมบิลสูทสีทองรุ่นสำหรับอเลฮานโดรที่ใช้ในช่วงท้ายของซีซั่นแรก มีความสามารถในการใช้ GN filed รวมถึงแปลงเป็น โมบิลอาร์เมอร์ GNMA-XCVII Alvatore ได้ทำให้ฝ่าย UN เอาชนะฝ่ายเซเลสเชี่ยล บีอิ้ง
A-laws Mobile Suit
GNX-704T Ahead
โมบิลสูทหลักของฝ่าย A-laws ที่ติดตั้งเตาแสงสุริยะแบบ GN[T]-Drive ใช้งานอย่างแพร่หลาย มีประสิทธิในการรบที่สูงกว่าโมบิลสูทที่ไม่ได้ใช้เตาGN[T]-Drive อย่างมาก ทั้งยังมีความหลายหลายในแง่การใช้งาน สีตัวเครื่องถูกทาเป็นสีแดงเลือดหมู ซึ่งเป็นสีหลักของ A-laws
GNX-704T/SP Ahead Smaltron
โมบิลสูทรุ่นสำหรับโซม่า พีริส ที่ปรับปรุงในเรื่องของเครื่องขับดันและระบบเซ็นเซอร์ให้ดีขึ้นกว่ารุ่นทั่วไป
GNX-704T/AC Ahead Sakigake (Mr. Bushido’s Ahead)
โมบิลสูทรุ่นเฉพาะสำหรับมิสเตอร์บูชิโด ที่ปรับปรุงให้โดยเฉพาะ มีประสิทธิภาพในการต่อสู้ประชิดตัวอย่างมาก
GNX-609T GN-XIII
โมบิลสูทหลักของฝ่าย A-laws อีกรุ่นที่พัฒนามาจากGN-X ที่มีประสิทธิภาพในการต่อสู้ที่หลากหลาย
GNX-U02X Masurao
โมบิลสูทรุ่นเฉพาะสำหรับมิสเตอร์บูชิโด ที่มีรูปร่างคล้ายๆ กับUnion Flag เพียงแต่ไม่สามารถแปลงเป็น Fight Mode ได้ มีประสิทธิภาพในการต่อสู้ประชิดตัวอย่างมาก
GNX-Y901TW Susanowo
โมบิลสูทรุ่นเฉพาะสำหรับมิสเตอร์บูชิโดอีกเช่นกัน รูปร่างภายนอกเหมือนกันกับMasurao แตกต่างที่มีแถบสีขาวแทนสีแดงเลือดหมู มีประสิทธิภาพในการต่อสู้ประชิดตัวที่สูงกว่าMasurao สามารถสู้ได้ใกล้เคียงกับ Gundam OO Raiser ของเซ็ตสึนะอย่างมากเลยทีเดียว
GNW-20000 Arche Gundam
โมบิลสูทรุ่นเฉพาะสำหรับอาลี อัล ซาซีสที่ดัดแปลงเครื่องมาจากGNW-002 Gundam Throne Zwei ของมิฮาเอลที่ถูกแย่งชิงมา มีรูปร่างที่แตกต่างออกไปแต่ก็ยังคงเค้าโครงเดิมอยู่ ใช้ GN Fang เป็นอาวุธจู่โจมได้อย่างน่ากลัวเช่นเดิม
Innivators Mobile Suit
GNZ-003 Gadessa
โมบิลสูทของฝ่ายอินโนเวเตอร์ ที่ถูกส่งไปยังA-laws เพื่อช่วยรบกับฝ่ายเซเลสเชี่ยล บีอิ้ง โดยมีประสิทธิภาพในการใช้งานบนอวกาศที่สูงกว่าโมบิลสูทของA-laws ใช้อาวุธโจมตีระยะไกลเป็นหลัก นักบินคือ รีไวฟ์ รีไววัล
GNZ-003 Garazzo
โมบิลสูทของฝ่ายอินโนเวเตอร์ ที่ถูกส่งไปยังA-laws เพื่อช่วยรบกับฝ่ายเซเลสเชี่ยล บีอิ้ง โดยมีประสิทธิภาพในการต่อสู้ระยะประชิด ที่นิ้วของหุ่นสามารถปล่อยบีมเซอร์ได้
GNZ-004 Gaga
โมบิลสูทของฝ่ายอินโนเวเตอร์ ที่ถูกผลิตออกมาใช้งานเป็นจำนวนมาก ทั้งยังมีความสามารถในการใช้ระบบTrans-Am เหมือนกับของกันดั้มได้อีกด้วย
GNZ-007 Gaddess
โมบิลสูทของฝ่ายอินโนเวเตอร์ เป็นเครื่องประจำตัวของอานิว รีเทิร์นเนอร์ มีประสิทธิภาพในการต่อสู้ระยะประชิดจนถึงกลาง ติดตั้ง GN Fang ในการโจมตีระยะไกลได้
GNMA-0001V Regnant
โมบิลอาร์เมอร์ของฝ่ายอินโนเวเตอร์ ที่เป็นอีกหนึ่งไม้ตายในการต่อสู้ เป็นเครื่องประจำตัวหลุยส์ ฮาเลวี่
โมบิลสูทของฝ่ายอินโนเวเตอร์ ที่เป็นมีรูปร่างหน้าเป็นกันดั้ม ถูกส่งมาต่อสู้ในศึกสุดท้ายของซีซั่นที่สอง มีความสามารถสลับสับเปลี่ยนโหมการต่อสู้ได้ เหมือนมีสองร่างในตัวเดียวกัน เป็นเครื่องประจำตัวของลีวองส์
Reborns Gundam Cannon Mode
GN-000 0 Gundam
โมบิลสูทที่ถือเป็นต้นแบบของกันดั้มของเซเลสเชี่ยล บีอิ้งทั้งหมด เป็นเครื่องที่ใช้ทดสอบระบบเตาแสงสุริยะ GN-Drive ทั้งยังเคยไปแทรกแซงการสู้รบในประเทศบาลเคอร์ดิส ซึ่งถือเป็นผู้ช่วยชีวิตเซ็ตสึนะในวัยเด็กอีกด้วย ลีวองส์ได้ใช้เครื่องนี้มาต่อสู้กับGundam Exia Repair III ของเซ็ตสึนะในช่วงท้ายของซีซั่นที่สอง
GNMA-Y0002V Gadelaza
โมบิลอาร์เมอร์ของทางสหพันธ์โลกที่ถูกสร้างมาเพื่อใช้ในการทดลองกับอินโนเวเตอร์อย่างเดคาร์ต ชาแมน ติดตั้ง GN Cannon และ GN Fang ขนาดเล็ก ปรากฏในภาคหนังโรง
GNX-903VS Brave (Standard Test Type)
โมบิลสูทของทางสหพันธ์โลกที่ถูกนำมาใช้งานหลัก ที่สามารถแปลงเป็นFight Mode เช่นเดียวกับUnion Flag และ Enact สามารถใช้ในอวากาศได้อย่างคล่องตัวมาก เครื่องรุ่นนี้ถูกนำมาใช้ในหน่วย Solbraves ปรากฏในภาคหนังโรง
GNX-903VW Brave (Commander Test Type)
โมบิลสูทของทางสหพันธ์โลกที่ถูกนำมาใช้งานหลัก เป็นเครื่องของจ่าฝูงที่มีเกรแฮมเป็นผู้นำของชุดปฏิบัติการหน่วย Solbraves ปรากฏในภาคหนังโรง
เกร็ดน่ารู้ในโลกของ Mobile Suit Gundam OO
GUNDAM NUCLEUS DRIVE
หรือในชื่อย่อคือ GN-Drive เป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนให้กับเครื่องจักรกลที่ใช้พลังงานอย่างแสงอาทิตย์ โดยใช้หลักการของการเก็บกักพลังงานจากแสงอาทิตย์แล้วนำไปแปรเป็นพลังงานเพื่อใช้งานในหลากหลายประเภท ซึ่งจุดที่สำคัญที่สุดของเตาGN-Drive ก็คือ “ตัวเก็บกักพลังงานที่มีความเสถียร” ที่เรียกว่า “TD-Blanket” ทำหน้าที่เป็นตัวกลั่นกรองและควบคุมปริมาณของพลังงานในเตา GN-Drive
โดยตามเนื้อเรื่องของอนิเมะได้ระบุว่า เตา GN-Drive ถูกสร้างด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงที่ไม่เคยมีข้อมูลใดๆ ในโลกกล่าวถึง และถูกสร้างด้วยวัตถุดิบและส่งมาจากดาวพฤหัส ทั้งยังสร้างขึ้นมาได้เพียงจำนวนจำกัดเท่านั้น ดังนั้นทางผู้สังเกตการณ์ของเซเลสเชี่ยล บีอิ้งจึงได้ลงทุนทดลองสร้างเตา GN-Drive แบบจำนวนมากขึ้นมา ซึ่งมันมีชื่อเรียกว่า “GN[T]-Drive” มีคุณสมบัติที่คล้ายกับเตา GN-Drive ของแท้ทุกอย่าง เว้นเพียงไม่มีตัวรักษาความเสถียรTD-Blanket และมีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตในเรื่องของการแบ่งตัวของ Stem Cell จนไม่สามารถรักษาหรือปลูกถ่ายอวัยวะได้อีกด้วย
สืบเนื่องมาจากในปี ค.ศ. 2307 เกิดสภาวะขาดแคลนน้ำมัน จนกลายเป็นวิกฤติที่มีผลต่อระบบเศรษฐกิจและความมั่งคงระหว่างประเทศไปทั่วโลก มนุษยชาติจึงได้วางแผนโครงการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ นั่นคือ “การสร้างลิฟต์วงโคจร” ที่จะให้ขนส่งพลังงานอย่างแสงอาทิตย์กลับมายังโลก ซึ่งลิฟท์วงโครจจะถูกสร้างอยู่ในจุด 3 จุดของโลก คือ บริเวณแถบแม่น้ำอเมซอนในทวีบอเมริกาใต้ (ยูเนี่ยน), ในทวีปแอฟริกา (เออียู) และบนเกาะโซโลมอน (สหพันธ์ปฏิรูปมนุษยชาติ) ตัวลิฟต์จะลอยตัวอยู่เหนือเขตวงโคจรค้างฟ้าเชื่อมต่อกับดาวเทียมพลังงานที่มีแผงเซลส์สุริยะเป็นตัวรับแสง และส่งพลังงานไฟฟ้าที่ผ่านการแปรเป็นสัญญาณไมโครเวฟกลับมายังสถานีพลังงานบนพื้นโลก ใช้เวลาดำเนินงานการสร้างนานถึง 10 ปี จึงพร้อมใช้งาน พลังงานแสงอาทิตย์จึงถูกนำมาทดแทนพลังงานจากน้ำมันเดิมที่เคยใช้กันอยู่ นับจากนั้น…
แม้ว่าการมีอยู่ของลิฟต์วงโคจรจะทำให้โลกผ่านพ้นเรื่องการขาดแคลนพลังงานไปได้ ทว่ากลับไม่ส่งผลดีต่อกลุ่มประเทศที่ค้าน้ำมันส่งออก เพราะเกิดสภาวะไร้เสถียรภาพความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้กับประเทศเหล่านั้น ทั้งยังมีบางกลุ่มประเทศเล็กๆ ที่ไม่ได้เข้าร่วมกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ถูกเมินเฉยที่จะได้รับพลังงานแสงอาทิตย์จากสามมหาอำนาจ จึงทำให้เกิดสงครามย่อยๆ ตามภูมิภาครอบๆ ฐานของลิฟต์วงโคจรอยู่บ่อยครั้ง และนี่จึงเป็นสาเหตุที่ว่า “ทำไมโลกจึงไม่ยอมรวมเป็นหนึ่งเดียว”
Veda
เป็นชื่อเรียกของซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ขององค์กรเซเลสเชี่ยล บีอิ้ง มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรวบรวมเอาข้อมูลต่างๆ บนโลกใบนี้ เพื่อให้สำหรับแผนการรวมโลกให้เป็นหนึ่งเดียวตามเจตนารมณ์ของอิโอเรีย เชนเบิร์กผู้สร้าง เวด้าสามารถทำการวิเคราะห์ ประมวลผล ลำดับความสำคัญ รวมถึงการตัดสินใจได้ในตัวเอง ทำหน้าที่เป็นข้อมูลสำหรับแผนยุทธการต่างๆ เพื่อให้ฝ่ายเซเลสเชี่ยล บีอิ้งออกปฏิบัติการได้อย่างมีข้อผิดพลาดน้อยที่สุด
ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์การทรยศภายในองค์กรเซเลสเชี่ยล บีอิ้ง เวด้าสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกะทันหันได้ ซึ่งมันถูกโปรแกรมให้ทำตามเจตนารมณ์ของอิโอเรีย ผู้สร้างอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
สำหรับองค์กรเซเลสเชี่ยล บีอิ้งแล้ว… เวด้าคือความสำคัญต่อองค์กรมากที่สุด ซึ่งอาจจะมากกว่ากันดั้มเลยก็ว่าได้
ELS
ชื่อย่อของร่างโลหะประหลาดนอกโลก (Extraterrestrial Living-metal Shapeshifter) สามารถปรับลักษณะภายในขอบเขตที่ไม่เกินกว่าปริมาณของตัวเอง แต่ว่าผิวหน้ายังเป็นโลหะเช่นเดิม โครงสร้างขนาดเล็กสุด (เซลล์) คิดด้วยการส่งข้อมูลระหว่างกันผ่านคลื่นควอนตัมสมองและทั่วร่าง ELS ยังผสานกันด้วยคลื่นควอนตัมสมองด้วย
รูปประกอบจาก : Gundam Wikia, Randomc.net
ขอขอบคุณข้อมูลประกอบการเขียนบทความจาก : DreamExpress, นิตยาสาร Power UP ฉบับเดือนเมษายน ปี 2009
Staff :
Director : Seiji Mizushima
Music : Kenji Kawai
Original creator :Hajime Yatate, Yoshiyuki Tomino
Character Design :Michinori Chiba, Yun Kouga
Art Director : Eiji Wakamatsu
Mechanical design :Hitoshi Fukuchi, Kanetake Ebikawa, Kenji Teraoka, Naohiro Washio, Seiichi Nakatani, Takayuki Yanase
Art design : Nobuhito Sue
Sound Director : Masafumi Mima
Director of Photography : Takeshi Katsurayama
miraclesaven