ชื่อไทย : “มีกล้ามแมน”
ชื่อภาษาอังกฤษ : Megaman (หรือ Ruby-Spear Magaman)
ชื่อภาษาญี่ปุ่น :
ประเภท : Action / Mecha / Kemono
ผู้แต่ง : Erica Yano
ผู้กำกับ : Hiroyuki Yokoyama / Joe Ruby / Ken Spears
ผู้ผลิต : Capcom / Ruby-Spears / Ashi Productions / Ocean Productions / The Summit Media Group
เริ่มฉาย : 11 กันยายน 1994 – 10 ธันวาคม 1996
“ร๊อคแมน” หนึ่งในสุดยอดแฟรนไชส์เกมที่โด่งดังไปทั่วโลก มีภาคต่อ ภาคย่อยมากมาย ในยุคที่เครื่องเกม 16 บิท แพร่หลาย ต้องมีคนเคยเล่นอย่างแน่นอน
และในเวลาต่อมา “MEGAMAN” หรือ “ร๊อคแมนเวอร์ชั่น USA” ก็วางขาย ซึ่งเรื่องของการเปลี่ยนชื่อ ทางทีมงาน Capcom สาขาอเมริกาได้ให้เหตุผลว่า “ชื่อ ร๊อคแมน มันเห่ยมาก” เหมือนพวกชาวร๊อคที่ไม่ได้มีภาพพจน์ของหุ่นยนต์นักสู้เลยแม้แต่น้อย ถึงจะแปลกหูแปลกตาไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ยอดขายลดลงเลย มีแต่จะเพิ่มขึ้น เพราะเกมเพลย์ที่สนุก และท้าทายฝีมือระดับเทพของเกมนี้ เรียกได้ว่า ประสปความสำเร็จในอเมริกาพอสมควรเลย จนออกภาคต่อตามมา คนก็ยังซื้อเล่นโดยไม่สนใจชื่อเกม “MEGAMAN” ที่ตั้งออกมาแล้ว “เห่ยกว่า” ชื่อต้นฉบับด้วยซ้ำ
เมื่อความนิยมเริ่มมาแบบนี้ มีหรือที่ Capcom จะพลาดในการกอบโกยเรตติ้งระดับโลกให้มากกว่านี้ และในปี 1994 “MEGAMAN ฉบับอนิเมชั่น” ก็ถือกำเนิดขึ้น พร้อมกับเสียงตอบรับแบบสาปส่งชนิด “ไม่เผาผี ไม่นับญาติกันเลย”
MEGAMAN (เมก้าแมน) ออกอากาศในสหรัฐอเมริกาครั้งแรกในปี 1994 โดยบ.Ruby-Spears (จึงเป็นที่มาของชื่อภาคแบบที่แฟนๆเรียกันว่า MEGAMAN : Ruby-Spears ) โดยทีมสร้างอนิเมได้มอบหมายให้บริษัทดังกล่าว เอา MEGAMAN ไปทำการดีไซนืให้ตรงจริตกับคนอเมริกันมากขึ้น และอยากให้ดูแข็งแกร่งตามชื่อ MEGA ทางทีมงานจึงได้เพิ่ม “กล้าม” ลงไปจนเป็นอย่างที่เห็น
และนอกจากนี้ ยังได้ทำการเพิ่มอายุให้กับร๊อคแมน และ โรลให้เป็นเด็กหนุ่มวัยรุ่น ซึ่งต่างจากของต้นฉบับญี่ปุ่นที่เป็น “เด็กชาย” ถึงอย่างนั้น ตัวหนังก็เต็มไปด้วยฉากแปลกๆ และสุดแสนจะขัดตาแฟนบอยร๊อคแมนอย่างมาก แต่เรตติ้งกลับดีเกินคาด เพราะเด็กๆชอบมาก ด้วยเนื้อเรื่องเบาสมอง เข้าใจง่ายนั่นเอง (จะมีก็แค่ “แฟนเกม”เท่านั้นที่ไม่ปลื้ม)
ถึงเรตติ้งจะดี ก็ไม่อาจยื้อชีวิตของซีรี่ยส์นี้ เมก้าแมนจึงโลดแล่นบนจอทีวีได้แค่ 2 ซีซั่นเท่านั้น เพราะทาง Capcom สั่งยกเลิกการผลิตอนิเมชั่น เพราะการกดดันจาก การขายสินค้าโดยบริษัทของเล่นเจ้าใหญ่อย่าง Bandai ที่ส่งการ์ตูนลงจอทีวีอเมริกา ทั้งเซเลอร์มูน และ ดราก้อนบอล ซึ่งหลังจากนั้น ในปี 1995 จึงออกวางขายในรูปแบบม้วนวิดิโอ
ส่วนบ้านเรา ทาง ททบ.5 นำเข้าฉายในรายการแจลตูนโชว์ ช่วง 17.00-17.30 น. วันพฤหัส-ศุกร์ และออกวิดิโอม้วน ลิขสิทธิ์โดยบ.ไรท์ พิคเจอร์ส
—-
เรื่องย่อ
เนื้อหาหลักๆของ เมก้าแมนยังคงยึดตามเกมเป็นหลัก โดยจะเล่าถึงสองนักวิทยาศาสตร์เพื่อนรัก “ดร.โทมัส C ไรท์” (Thomas Right) และ “ดร.อัลเบิร์ต W ไวลี่” (Albert W. Wily) ที่พยายามสร้างหุ่นยนต์ที่ทำงานเพื่อมนุษย์ ทั้งคู่ออกแบบหุ่นเอาไว้มากมาย แต่ก็ยังไม่ได้ลงมือสร้างซักที
จนกระทั่ง “โปรโตแมน” (หรือ บลูส์) ถูกดร.ไรท์สร้างสำเร็จ แต่ด้วยระบบพลังงาน และวงจรความนึกคิดเสียไป ดร.ไรท์จึงจำเป็นต้องปิดระบบของโปรโตแมนไปก่อน แต่ด้วยความอิจฉาของ ดร.ไวลี่ จึงได้แอบเข้ามาที่ห้องทดลองตอนดึก เพื่อขโมยโปรโตแมนไปซ่อมแซม และเอาไว้ใช้งานเสียเอง โดยมีเป้าหมายคือการสร้างหุ่นยนต์ที่ทำให้เขาสามารถยึดครองโลกได้
ดร.ไรท์เริ่มรู้สึกกังวลนิดๆถึงเรื่องที่จะตามมาหลังจากนี้ เพราะนิสัยหัวแข็ง มีมานะสูงของดร.ไวลี่ นั้นเขาเองก็รู้อยู่แก่ใจว่าอาจจะนำเรื่องเดือดร้อนมาให้ไวันใดก็วันหนึ่ง แต่ด้วยเทคโนโลยีของดร.ไวลี่ คงทำอะไรมากไม่ได้ ดร.ไรท์จึงไม่ติดใจอะไรมากนัก แล้วหันหน้ามาสานต่องานวิจัย จนสามารถสร้าง “Robot Master” หรือหุ่นยนต์ใช้งานที่มีความถนัดแตกต่างกันไป 6 ตัว ได้แก่ “กัสท์แมน” / “อิเลคแมน” / “คัทแมน” / “ไอซ์แมน” / “บอมบ์แมน” และ “ไฟร์แมน” แต่ก็ยังไม่เริ่มเดินเครื่องเพราะดร.ไรท์คาดว่า ระบบต่างๆของหุ่นเหล่านี้ ต้องวางโปรแกรมเสริมอีกเล็กน้อย…
และนอกจากเหล่าโรบอตมาสเตอร์ที่ยังไม่เปิดระบบใช้งานจริงแล้ว เขายังสร้างหุ่นยนต์ที่เน้นการทำงานบ้าน “ร๊อค” และ “โรล” ขึ้นมา และทั้งสองคนนี้ก็รักดร.ไรท์เหมือนพ่อแท้ๆ
3เดือนต่อมา ในค่ำคืนวันหนึ่ง “โปรโตแมน” ก็ได้พาดร.ไวลี่กลับมาบุกบ้านดร.ไรท์อีกครั้ง คราวนี้พวกเขาแย่งเอาหุ่นยนต์ของดร.ไรท์ไปจนหมดสิ้น รวมไปถึงร๊อค และ โรลด้วย แต่ด้วยไหวพริบของร๊อค ที่สร้างเรื่องโกหก หลอกดร.ไวลี่ จนหนีออกมาจากปราสาทของเขาได้สำเร็จ
ดร.ไรท์ทึ่งในความสามารถของระบบ AI ของร๊อค และ โรล ที่สามารถโกหกมนุษย์ได้ มีไหวพริบอันชาญฉลาด และยังมีจิตใจที่แน่วแน่ ดร.ไรท์จึงตัดสินใจ ดัดแปลงร๊อค จากหุ่นยนต์ทำงานบ้าน ให้กลายเป็นสุดยอดหุ่นยนต์ที่มีชื่อว่า “MEGAMAN” (เมก้าแมน – บ้านเราเรียกกันขำๆว่า “มีกล้ามแมน”) และออกต่อสู้กับโรบอทมาสเตอร์ที่ดร.ไวลี่ขโมยไป และยังมีตัวใหม่ๆที่ดร.ไวลี่สร้างเองออกมา ทั้ง “ท๊อปแมน” / “เวฟแมน” / “สเนคแมน” / “เจมินี่แมน” ฯลฯ ทำให้การต่อสู้ของ เมก้าแมน ดำเนินต่อไป แทบไม่เว้นวัน
จนกระทั่งวันหนึ่ง ดร.ไรท์ ได้ทำการค้นพบแร่เหล็กชนิดใหม่ที่เรียกว่า ” Litanium” (ไรเทเนี่ยม – ตั้งชื่อตาม ดร.ไรท์) ที่ดร.ไวลี่เชื่อว่า นี่คือวัตถุดิบชั้นดีในการสร้าง “Plasma Blaster” อาวุธทรงพลังในการกำจัดเมก้าแมน
ในระหว่างวางแผนชั่วร้ายนั้น อยู่ๆก็มี “ประตูกาลเวลา” โผล่มาในห้องทดลองของดร.ไวลี่ และแขกผู้มาเยือนจากโลกอนาคตก็คือ “ไวล์” (Vile หรือ “วาว่า” ใน ร๊อคแมน X) และ “สปาร์ค แมนดาริน” (Spark Mandrill – หนึ่งในบอสของซีรี่ยส์ร๊อคแมน X ) ที่ต้องการแร่ไรเทเนี่ยม ในการอัพเกรดปืนพลาสม่าของพวกมันเอง และพวกมันยังบอกด้วยว่าที่จริงแร่ไรเทเนี่ยม เป็นของที่มาจากโลกอนาคต แต่เกิดอุบัติเหตุ ทำให้แร่ชนิดนี้ตกลงมายังอดีต พวกมันต้องเอามาครองให้ได้ ก่อนที่ “Irregular Hunter” (อิเรกูล่า ฮันเตอร์ – มือปราบจักรกล) จะพบและเอาไรเทเนี่ยมไป ดร.ไวลี่ก็ต้องจำยอมร่วมมือกับพวกมันแบบเสียเปรียบ เพราะหุ่นของดร.ไวลี่ ไม่มีตัวไหนสู้สองตัวจากอนาคตได้เลย…
แผนการชิงแร่ไรเทเนี่ยมเปิดฉากขึ้น ไวล์ และ แมนดาริน เริ่มโจมตีแหล่งพลังงานโรงถลุงแร่ เมก้าแมนทราบเรื่องจึงรีบรุดหน้ามายังที่เกิดเหตุ แต่ไวล์ และ แมนดาริน มุ่งตรงมายังเมก้าแมน และโรล แถม เมก้าบัสเตอร์ ปืนของเมก้าแมนไม่สามารถทำอะไรพวกมันได้
ในสถาณการณ์สุดคับขัน ก็มีความช่วยเหลือมาถึง…“MEGAMAN X” (เมก้าแมน เอ็กซ์) ปรากฏกาย!!
ทั้งสองร่วมมือกันเพื่อป้องกันแร่ไรเทเนี่ยม และเมก้าแมน เอ็กซ์ ก็สามารถชิงเอาแร่ไรเทเนี่ยมกลับสู่โลกอนาคต พร้อมๆกับ ไวล์ และ แมนดาริน ที่สิ้นท่า เป็นอันจบเรื่องราวทั้งหมดของการ์ตูนเรื่องนี้
—
ตัวละคร
ร๊อค / เมก้าแมน
หุ่นยนต์ตัวที่ 7 ในสายการผลิตของดร.ไรท์ ที่ดร.ไรท์ตั้้งใจจะทำให้เป็นหุ่นที่ทำแค่งานบ้าน และเป็นการทดสอบเทคโนโลยี ระบบ AI ไปในตัว แต่เมื่อร๊อคหนีออกมาจากการลักพาตัวของดร.ไวลี่ได้ ทำให้ดร.ไรท์ตัดสินใจดัดแปลง เสริมพลังให้กับร๊อค และได้ชื่อใหม่ว่า “MEGAMAN” (เมก้าแมน)
ความสามารถของเมก้าแมนนั้นจะอยู่ในระดับที่สมดุลย์ แต่ถ้าเกิดการสัมผัสแขนของโรบอตมาสเตอร์ตัวอื่น ก็จะทำให้เมก้าแมนสามารถใช้อาวุธของโรบอทมาสเตอร์ตัวนั้นๆได้
โรล
หุ่นยนต์ทำงานบ้าน ที่ดร.ไรท์สร้างขึ้น นับเป็นน้องสาวของเมก้าแมนได้เลย โรลเป้นหุ่นที่มีนิสัยแม่บ้านสุดๆ ทั้งขี้บ่น น้อยใจ เอาแต่ใจ และจอมโวยวาย หลังจากถูกดร.ไวลี่ลักพาตัว ดร.ไรท์จึงได้ติดตั้ง “เครื่องดูดฝุ่นกำลังสูง” ให้โรลเอาไว้ใช้งาน แรงดูดของมันสามารถทำให้ชิ้นส่วนของโรบอตมาสเตอร์รุ่นพี่ หลุดออกจากกันได้ไม่ยาก
ดร.โทมัส C ไรท์
นักวิทยาศาสตร์ ผู้รักความยุติธรรม และมีความฝันที่จะสร้างหุ่นยนต์ที่เอื้อประโยชน์ต่อมนุษยชาติ เขาได้ร่างต้นแบบของหุ่นยนต์ที่ทำงานครอบคลุมทุกวงการ และได้สร้าง “โปรโตแมน” ต้นแบบของหุ่นยนต์ทั้งมวล แต่การทำงานผิดพลาดดร.ไรท์จึงต้องปิดระบบอย่างจำใจ และหลังจบเหตุการณ์ดร.ไวลี่บุกโลก เขาก็ได้สร้างหุ่นยนต์สำหรับงานบ้านหลายๆตัวตามมา
ดร.อัลเบิร์ต W ไวลี่
นักวิทยาศาสตร์ ที่มีความทะเยอทะยาน และเชื่อว่า ตัวเองคืออันดับหนึ่ง (ซึ่งความจริงคือ เป็นที่สองมาตลอดตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันกับดร.ไรท์) เขามักจะกล่าวโทษว่าโลกไม่ยอมรับความสามารถของเขาทำให้ดร.ไวลี่ตัดสินใจหักหลังดร.ไรท์ เพื่อนสนิทด้วยการขโมยโปรโตแมน และโรบอทมาสเตอร์ เพื่อการครองโลก
โปรโตแมน (หรือ บลูส์)
โปรโตแมน เป้นหุ่นยนต์ตัวแรกสุดที่ดร.ไรท์สร้างขึ้นให้มีความคล้ายมนุษย์ แต่ในขั้นต้น ระบบวิเคราะห์ประมวลผลต่างๆของโปรโตแมนยังมีปัญหามาก อีกทั้งพลังงานที่ยังไม่เสถียร ทำให้ดร.ไรท์จำใจปิดระบบของโปรโตแมนเพื่อการศึกษา
แต่ต่อมา เขาก็ถูกดร.ไวลี่ขโมย และติดตั้งเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ลงไป ทำให้ระบบส่งผ่านกำลังไฟค่อนข้างนิ่ง แต่ก็ต้องแลกกับอุณหภูมิที่ไม่คงที่ เราจึงเห็นโปรโตแมนสวมผ้าพันคอตลอดเวลาเพื่อคุมอุณหภูมิในร่างกาย และถึงแม้ระบบAI จะเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว แต่โปรโตแมนเป็นหุ่นที่ค่อนข้างทำอะไรตามใจตัวเอง ไม่ฟังคำสั่งดร.ไวลี่เท่าไหร่นัก
ในเรื่อง เราจะได้ห็น เมก้าแมน และบลูส์ ประจันหน้ากันได้แทบทุกตอน
การต่อสู้ของบรรดาโรบอตมาสเตอร์ ก็จบลงด้วยการที่ชิ้นส่วนกระจายแบบนี้ทุกตอน แล้วก็มาประกอบกลับเล่นในตอนต่อๆไปจนจบเรื่อง…
รัช และ เอ็ดดี้ คู่หูที่ดร.ไรท์สร้างมาช่วยเหลือเมก้าแมนในสถาณการณ์ต่างๆ
นอกจากเครื่องดูดฝุ่นกำลังสูงแล้ว ยังมีเครื่องปั่นอเนกประสงค์ ที่สามารถปั่น “อิเลคแมน” ให้กระจายเป้นชิ้นๆได้อย่าง่ายดาย
จัดว่าเป็นหนึ่งใน “ฝันร้ายของแฟนๆร๊อคแมน” ที่เห็นตัวละครจากเกมสุดโปรด มาทำซะเละเทะไม่เป็นท่า แต่ก็ต้องยอมรับว่า ในอีกแง่มุมหนึ่ง ก็เป็นการ์ตูนที่ดูสนุก เข้าใจง่าย จบในตอน ไม่ซับซ้อนอะไรมาก ดูแค่ตอนแรก และตอนสุดท้าย ยังรู้เรื่องเลย เอาจริงๆ!!
แอดมิน Ak47
เพลงเปิดที่ร้องตามง่าย
“The Fighting Robot MEGAMAN”