Masked Rider Faiz The Movie – Paradise Lost
劇場版 仮面ライダー555 パラダイス・ロスト (เกคิโจบัง คาเมนไรด้า ไฟสึ พาราไดสึโลสุโตะ)
มาสค์ไรเดอร์ไฟซ์ เดอะ มูฟวี่ : สงครามมนุษย์กลายพันธุ์
ประเภท : ภาพยนตร์
แนว : Action / Sci-Fi / Drama
กำกับโดย : ทาซากิ ริวตะ
แสดงนำโดย : ฮันดะ เคนโตะ / ยูเรีย ฮากะ / มาซายูกิ อิสึมิ / มุราคามิ โคเฮย์ /ปีเตอร์ โฮ (เหอหยุนตง) / โยชิกะ คาโต้ / คาราฮาชิ มิตสุรุ / มิโซโรกิ เคน / คุริฮาระ ฮิโตมิ / มุราอิ คัตสึยูกิ / คุโรคาว่า เมย์
ผลิตโดย : TOEI
นำเข้าฉายในไทยโดย : LOGO Film
ในช่วงปี 2000 เป็นยุคที่คาเมนไรเดอร์ได้กลับคืนสู่จอทีวีอีกครั้ง หลังจากวิกฤติด้านเรตติ้งตกต่ำในช่วงยุค 90 บวกกับแนวทางใหม่ๆของการเล่าเรื่องที่ริเริ่มจะนำเสนอในแนวทางของ “ละครซีรีส์” ที่ผูกเรื่อง ขมวดปม ทิ้งเรื่องราวให้ติดตามอย่างต่อเนื่อง และถือเป็นยุคที่ลองผิดลองถูกในด้านเนื้อหา เช่น คาเมนไรเดอร์คูก้า ที่เป็นตัวเปิดศักราชใหม่ของคาเมนไรเดอร์บนจอทีวี / คาเมนไรเดอร์อากิโตะ ที่มีจุดขายเรื่องราวสุดซับซ้อนซ่อนปมชนิดที่ว่า “พลาดตอนเดียว ดูไม่รู้เรื่อง” หรือ คาเมนไรเดอร์ริวคิ ที่มีเนื้อหาเข้มข้น ในเกมการฆ่ากันเองของเหล่าไรเดอร์ จนมีฉากจบมากถึง 8 แบบ (ทีวี2แบบ ที่เหลือหนังสือการ์ตูน นิยาย หนังโรง)
และเข้าสู่ยุคของ คาเมนไรเดอร์ไฟซ์ ที่ทีมงานโดนข้อจำกัดเรื่องการออกอากาศ (ฉากจบเรื่องเร่ง และรีบๆให้จบ เพราะติดถ่ายทอดสดกีฬา หรืออะไรนี่แหละ จำไม่ได้จริงๆ) ทำให้บทสรุปเรื่องราวจากฉบับทีวีกลายเป็นจบแบบค้างๆคาๆ และไม่น่าประทับใจนัก
แต่ทว่า ไฟซ์ นี่เองที่สามารถสร้าง “ตำนานภาพยนตร์” ที่กลายเป็นบรรทัดฐานที่เหล่าสาวกไรเดอร์ยุคเฮย์เซย์ต่างให้การยอมรับว่า “เป็นไรเดอร์หนังโรงที่ดีที่สุด” สวนทางกับกระแสภาคทีวีไปเลย กับภาพยนตร์ที่มีชื่อว่า “Masked Rider Faiz The Movie – Paradise Lost” หรือ “มาสค์ไรเดอร์ไฟซ์ เดอะ มูฟวี่ : สงครามมนุษย์กลายพันธุ์”
เรื่องย่อ
เรื่องราวของ มาสค์ไรเดอร์ไฟซ์ เดอะ มูฟวี่ : สงครามมนุษย์กลายพันธุ์ จะเล่าถึงโลกในอนาคตอันแสนไกล ที่ถูกปกครองโดยเหล่าอมนุษย์ที่เรียกตนเองว่า “ออเฟน๊อกซ์” พวกมันได้เข้ามาแทนที่สังคมมนุษย์ มีสังคม มีวิถีชีวิตแบบคนธรรมดา ภายใต้การควบคุมระบบเศรษฐกิจของ “บริษัท สมาร์ทเบรน” พวกออเฟน๊อกซ์ และสมาร์ทเบรน ได้ฆ่ามนุษย์จนเกือบหมดโลก จนเหลือเพียง 2,599 คน เท่านั้น
มนุษย์ที่รวมตัวกันในชุมชนเสื่อมโทรมนอกเมืองหลวง ก็ได้ก่อตั้ง “กองกำลังกบฏต่อต้านออลเฟน๊อกซ์” ที่นำโดย “โซโนดะ มาริ” (แสดงโดย ยูเรีย ฮากะ) / “มิตสึฮาระ” (แสดงโดย ฮายามิ โมโคมิจิ) / “เคย์ทาโร่” (แสดงโดย มิโซโรกิ เคน) และ “คุซากะ มาซาโตะ” (แสดงโดย มุราคามิ โคเฮย์) หรือ “คาเมนไรเดอร์ ไคสะ” ผู้ที่สามารถใช้ “เข็มขัดไคสะ” ต่อสู้กับเหล่าออเฟน๊อกซ์ โดยหวังว่าจะช่วงชิงเอา “เข็มขัดศักดิ์สิทธิ์ ไซก้า และ ออร์ก้า” อุปกรณ์ที่จะให้กำเนิดไรเดอร์ที่แข็งแกร่งที่สุดของสมาร์ทเบรนมาใช้ในการตลบหลังพวกออเฟน๊อกซ์
แต่ด้วยความหุนหันพลันแล่น และความอยากเด่นดัง ทำให้มิตสึฮาระพาเพื่อนๆในกองกำลังกบฏบางส่วนไปตายอย่างไร้ค่า ทำให้สถานการณ์ในกลุ่มตึงเครียดขึ้น ในขณะที่มาริยังคงเชื่อมั่นในตัวของ “อินุอิ ทาคุมิ” (แสดงโดย ฮันดะ เคนโตะ) หรือ “คาเมนไรเดอร์ไฟซ์” ที่หายสาบสูญไปในระหว่างการโจมตีของ “ไรออทรูเปอร์” กองกำลังไรเดอร์ติดอาวุธของ สมาร์ทเบรน
ในขณะเดียวกัน เดียวกันกับ กลุ่มออเฟน๊อกซ์ 3 คน “คิบะ ยูจิ” (แสดงโดย มาซายูกิ อิสึมิ) / “ไคโด นาโอยะ” (แสดงโดย คาราฮาชิ มิตสุรุ) / “โอซาดะ ยูกะ” (แสดงโดย โยชิกะ คาโต้) ก็ได้เข้ามาในหมู่บ้านของมนุษย์ เพื่อหวังว่าจะใช้ชีวิตอย่างสงบ และพิสูจน์ให้เห็นว่า ออเฟน๊อกซ์เองก็ไม่ได้มีแต่พวกคนเลวไปเสียหมด แน่นอนว่า พวกของคิบะ ก็ไม่ได้รับการต้อนรับจากสังคมมนุษย์ซักเท่าไหร่
แต่คิบะยังคงเชื่อมั่นในตัวผู้คนอยู่ จึงหวังจะไปเกลี้ยกล่อมให้สมาร์ทเบรนเลิกวุ่นวายกับมนุษย์ แต่ก็ไม่เป็นผล แถมยังได้เห็นพลังของ “เข็มขัดศักดิ์สิทธิ์ไซก้า” อีกด้วย
ทาคุมิที่หายสาบสูญไป แท้จริงแล้วเขาได้รับความช่วยเหลือจาก มินะจัง (แสดงโดย คุโรคาว่า เมย์) และทาคุมิเองก็ความจำเสื่อม จึงถูกพ่อของมินะจังป้อนความทรงจำให้ใหม่ ให้กลายเป็น “ทาคาชิ ช่างทำรองเท้า” อาศัยอยู่กับเด็กสาวอย่างสงบสุขในย่านชุมชนอันห่างไกล
คิบะที่ได้เห็นพลังของเข็มขัด จึงรีบไปบอกกับพวกของมาริและมิสึฮาระ แต่ว่าระหว่างนั้นพวกไรออทรูเปอร์ก็เข้าโจมตีหมู่บ้าน และในศึกนี้ คุซากะ หรือ คาเมนไรเดอร์ ไคสะ ถูก “คาเมนไรเดอร์ ไซก้า” หรือ “ลีโอ” (แสดงโดย เหอ หยุนตง) ฆ่าตาย แต่ก็ได้พวกของคิบะที่แปลงร่างเป็นออเฟน๊อกซ์ เข้าต่อสู้ จึงสามารถช่วยมาริ และขับไล่คาเมนไรเดอร์ไซก้ากลับไปสำเร็จ
ในค่ำคืนที่พวกชาวบ้าน หวังว่าจะมีความสุขกับงานเต้นรำ กลับถูกการต่อสู้เมื่อช่วงบ่ายพังพินาศ มาริที่นั่งเหงาในชุดเจ้าหญิงก็ได้พบกับทาคุมิอีกครั้ง แต่ทาคุมิกลับจำอะไรไม่ได้เลย จนกระทั่งการบุกซ้ำอีกครั้งของพวกไรออทรูปเปอร์ที่หวังจะจัดการกับชาวบ้านที่เหลือในช่วงกลางคืน
ในตอนนั้นเองที่ทาคุมิจำเรื่องราวได้จากความผูกพันที่ลึกซึ้งระหว่างเขา และมาริ บัดนี้ คาเมนไรเดอร์ไฟซ์ กลับมาแล้ว!
มินะจังที่ได้รู้ความจริงของทาคุมิเองก็รู้สึกเสียใจ เพราะเธอไม่อยากเสียทาคาชิ เพื่อนสนิทที่เธอเหลืออยู่เป็นคนสุดท้าย แต่ในที่สุดเธอก็เข้าใจในสิ่งที่ทาคุมิเลือก จึงได้มอบ Faiz Blaster อุปกรณ์ปริศนาที่เธอเก็บได้พร้อมกับวันที่เจอทาคุมินอนสลบอยู่ ในตอนนั้นเอง มิสึฮาระ ก็ได้เข้าชิงเข็มขัดไฟซ์เกียร์ และหันปืนใส่ทาคุมิ แต่กลายเป็นมินะจังที่ตายในอ้อมกอดของทาคุมิเสียเอง คิบะที่เห็นเรื่องราวทั้งหมดแต่แรก จึงได้ต่อสู้จนพลั้งมือฆ่ามิสึฮาระ และนั่นก็เป็นเหตุให้ฝ่ายกบฏไม่เชื่อใจพวกคิบะหนักขึ้น
ทางเดียวที่จะทำให้มนุษย์เชื่อใจออเฟน๊อกซ์อย่างคิบะก็คือ “ต้องไปชิงเข็มขัดศักดิ์สิทธิ์มาให้ได้” และเมื่อพวกคิบะทั้งสามได้เข้าไปที่ตึกสมาร์ทเบรน ก็ได้พบกับ “อิลาสมาเธอร์เรี่ยม ออเฟน๊อกซ์” (Elasmotherium Orphnoch) ออเฟน๊อกซ์ขนาดยักษ์ ที่ลงมือสังหารไคโด และ ยูกะ ต่อหน้าต่อตาคิบะ แถมยังเจอ มาริ (สมาร์ทเลดี้ปลอมตัวมา) ออกมาตอกย้ำถึงความผิดพลาดที่ทำให้เพื่อนรักทั้งสองต้องตาย…
ตอนนี้ หัวใจของคิบะแตกสลาย กรีดร้องอย่างทรมานใจ และไม่อาจเชื่อใจใครได้อีกแล้ว…แผนการของสมาร์ทเบรนที่ต้องการปั่นหัวคิบะทำสำเร็จแล้ว…
ในขณะเดียวกัน ที่หมู่บ้านฝ่ายกบฏ พวกไรออทรูปเปอร์ และออเฟน๊อกซ์ยกกองทัพมาอีกครั้ง แต่คราวนี้ไฟซ์ไม่ได้สู้เพียงลำพัง เพราะ เคย์ทาโร่ได้กินยาสูตรพิเศษที่ทำให้เขากลายร่างเป็น คาเมนไรเดอร์ไคสะ แต่ทว่าเป็นการแปลงร่างเพียงครั้งเดียวในชีวิต หลังจากนั้นเข็มขัดไคสะก็กลายเป็นฝุ่นไป ซึ่งในตอนนั้นเอง คาเมนไรเดอร์ไซก้า ก็เข้ามาลักพาตัวมาริไป ทำให้ทาคุมิต้องออกไปช่วยเธอเพียงลำพัง และทิ้งเคย์ทาโร่เอาไว้…
ทาคุมิมาถึงลานประลองที่เต็มไปด้วยออเฟน๊อกซ์เป็นผู้ชม โดยมีมาริเป็นตัวประกันใต้การคุ้มกันของ อิลาสมาเธอร์เรี่ยม ออเฟน๊อกซ์ ทาคุมิในร่างไฟซ์ ได้ต่อสู้กับคาเมนไรเดอร์ไซก้า และก็เป็นทาคุมิที่สามารถสังหารคาเมนไรเดอร์ไซก้าลงได้
และคู่ต่อสู้คนใหม่ก็ลงมายังสนามหมายจะกำจัดไฟซ์ ที่เป็นตัวแทนความหวังของมวลมนุษย์ที่เหลือรอด …”คิบะ ยูจิ” ที่บัดนี้ได้เข้ากับพวกออเฟน๊อกซ์ และได้ครอบครองเข็มขัดออร์ก้า สุดยอดเข็มขัดไรเดอร์ของสมาร์ทเบรน ทั้งสองสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย และเป็นฝ่ายทาคุมิที่พลาดท่า จนต้องแปลงร่างเป็น “วูลฟ์ ออเฟน๊อกซ์” ตัวจริงของทาคุมิไม่ได้เป็นมนุษย์อย่างที่มิซึฮาระเคยว่าไว้จริงๆ แต่ทาคุมิยืนยันที่จะสู้เพื่อปกป้องมาริในฐานะมนุษย์
ในที่สุด ทาคุมิก็ได้ทำการปลดล็อค “Faiz Blaster” อุปกรณ์ปริศนาที่อัดแน่นไปด้วยพลังโฟตรอน จนทำให้ทาคุมิกลายร่างเป็น “คาเมนไรเดอร์ไฟซ์ บลาสเตอร์” สุดยอดของสุดยอดคาเมนไรเดอร์ที่แกร่งกว่าใคร (และไม่รู้ว่าใครเป็นคนสร้าง) ทั้งสองได้ทำการแลกท่าไม้ตายใส่กันจนลานประลองเสียหายเป็นวงกว้าง ผลจบลงที่ชัยชนะของไฟซ์
แต่ทว่า อิลาสมาเธอร์เรี่ยม ออเฟน๊อกซ์ ก็ตรงเข้ามาทำร้ายมาริ แต่คิบะในร่างของไรเดอร์ออร์ก้า ก็เข้ามาขวางไว้จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ไฟซ์ที่ได้โอกาสก็สามารถกำจัดออเฟน๊อกซ์ร่างยักษ์นี้ได้ในที่สุด พร้อมๆกับคำสั่งเสียสุดท้าย ที่คิบะได้ฝากให้ทาคุมิ สานต่อโลกในฝันของคิบะที่มนุษย์ และออเฟน๊อกซ์อยู่ร่วมกัน ทาคุมิรับปาก และพามาริออกจากสนามประลองแห่งนี้ ทั้งสองเดินจูงมือออกไปยังแสงสว่างที่ไร้จุดสิ้นสุด…
มาริ : “นี่ ทาคุมิ เราจะไปไหนกันล่ะ!?”
ทาคุมิ : “ไม่รู้สิ ทางไปถึงไหน ก็ไปถึงนั่นละ…”
อวสาน
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตัวละคร
อินุอิ ทาคุมิ / คาเมนไรเดอร์ ไฟซ์ / วูลฟ์ ออเฟน๊อกซ์ (แสดงโดย ฮันดะ เคนโตะ)
ทาคุมิ มาริ และเคย์ทาโร่เป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่โลกยังไม่ถูกออเฟน๊อกซ์ยึดครอง เขาเป็นคนที่สามารถใช้งานไฟซ์เกียร์ได้ แต่ทว่าในการต่อสู้กับไรออทรูเปอร์ทำให้เขาพลัดพรากจากมาริ และถูก ช่างทำรองเท้า และ มินะจังป้อนความทรงจำเข้าไปใหม่ ทำให้ทาคุมิเป็น “ทาคาชิ” ชายผู้ซ่อมรองเท้าอยู่ในชุมชนเล็กๆอันห่างไกล เพราะช่างทำรองเท้าผู้เป็นพ่อของมินะจัง อยากให้ทาคุมิดูแลลูกสาวแทนตัวเองที่ใกล้จะตาย แต่สุดท้ายทาคุมิก็ไม่อาจปกป้องมินะจัง และยังกลายเป็นมินะจังเสียอีกที่ปกป้องเขาจากการลอบยิงของมิตสึฮาระ
ทาคุมิเผินๆเป็นเหมือนคนเลื่อนลอย ไร้หลักในการใช้ชีวิต แต่เมื่อการต่อสู้เพื่อปกป้องเพื่อนคนสำคัญอย่างมาริ ทำให้เขาตัดสินใจที่จะเป็น “ผู้กอบกู้” ตามความเชื่อมั่นของมาริที่มีให้ จนสามารถเอาชนะไรเดอร์ออร์ก้าได้ แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีใครรู้ชะตากรรมของทาคุมิ และมาริอีกเลย…
โซโนดะ มาริ (แสดงโดยยูเรีย ฮากะ)
หญิงสาวผู้เข้มแข็ง และเชื่อมั่นอย่างสุดหัวใจว่า “ไฟซ์ คือผู้กอบกู้โลก” เป็นเหมือนความหวังเพียงหนึ่งเดียวในการต่อสู้กับออเฟน๊อกซ์ และเฝ้ารอวันที่ทาคุมิจะกลับมา ทำให้เธอเข้าร่วมกับกลุ่มต่อต้านออเฟน๊อกซ์ และสู้เรื่อยมาอย่างมีความหวัง
คุซากะ มาซาโตะ / คาเมนไรเดอร์ไคสะ (แสดงโดย มุราคามิ โคเฮย์)
ชายผู้ครอบครอง “ไคสะเกียร์” เข็มขัดเพียงเส้นเดียวที่มนุษย์สามารถใส่แปลงร่างได้ (ปกติจะไม่ใช่กับทุกคนที่สามรถใช้เข็มขัดไรเดอร์ในเรื่อง) คุซากะเป็นคนที่เห็นแก่ตัว ไม่ฟังคำใคร ชอบโชว์กร่างว่าตนเหนือกว่าใครในกลุ่ม (พยายามโชว์ให้มาริมาสนใจตัวเอง) แต่เมื่อ เลโอ หรือ ไรเดอร์ไซก้า ยกพวกไรออทรูเปอร์บุกเข้าโจมตี คุซากะก็พ่ายแพ้ และจบชีวิตลงไปในที่สุด
คิคุจิ เคย์ทาโร่ (แสดงโดย มิโซโรกิ เคน)
ชายหนุ่มผุ้มองโลกในแง่ดี และคอยติดตามมาริมาโดยตลอด เพราะเขาเองก็เชื่อว่าเพื่อนของเขาอย่างทาคุมิยังมีชีวิตอยู่ และจะกลับมาในฐานะผู้กอบกู้โลกจริงๆ หลังจากที่คุซากะตายไป ทำให้เคย์ทาโร่รับช่วงต่อของเข็มขัดไคสะ แต่ตัวเขาไม่สามารถแปลงร่างได้ จึงขอร้องให้นักวิทยาศาสตร์ของกลุ่มกบฏคิดค้นยาสูตรพิเศษที่ทำให้เคย์ทาโร่แปลงร่างได้ แต่หลังจากที่ใช้กำจัดออเฟน๊อกซ์ที่กำลังจะทำร้ายมาริลงได้ เข็มขัดไคสะก็กลายเป็นฝุ่นไป เท่ากับว่า นี่คือการแปลงร่างของเคย์ทาโร่ครั้งเดียวในชีวิตนั่นเอง…
คิบะ ยูจิ / ฮอร์ส ออเฟน๊อกซ์ / คาเมนไรเดอร์ ออร์ก้า (แสดงโดย มาซายูกิ อิสึมิ)
ชายหนุ่มโลกสวยที่เป็นออเฟน๊อกซ์ที่หวังว่าอยากจะให้มนุษย์ และออเฟน๊อกซ์อยู่ร่วมกัน ด้วยความคิดอ่านแบบผู้ใหญ่ ทำให้มารินับถือคิบะอย่างมาก และยังเป็นคนที่เข้าใจทาคุมิมากที่สุดด้วย แต่หลังจากเหตุบุกสำนักงานสมาร์ทเบรน เพื่อชิงเข็มขัดศักดิ์สิทธิ์ จนต้องเสียเพื่อนอย่าง ไคโด และ ยูกะ แถมยังถูก “มาริ” (ตัวปลอม) จัดฉากเล่นละครหักหลังคิบะ ทำให้ดวงใจของเขาแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ อยู่ในสภาวะเกือบจะเสียสติด้วยซ้ำ และปรากฏตัวอีกครั้งในฐานะ “คาเมนไรเดอร์ ออร์ก้า” ไรเดอร์ที่หมายมั่นจะบดขยี้มนุษย์ที่ทำลายความเชื่อใจของเขาให้สิ้นซาก
แต่สุดท้าย ด้วยความตั้งใจของมาริ และทาคุมิ ก็ทำให้เขายอมสละชีวิตตัวเองเพื่อปกป้องมาริจากการโจมตีของ อิลาสมาเธอร์เรี่ยม ออเฟน๊อกซ์ และได้ฝากฝังโลกในอนาคต สิ่งที่เขาทำไม่สำเร็จให้กับตัวของทาคุมิ
โอซาดะ ยูกะ / เครน ออเฟน๊อกซ์ (แสดงโดย โยชิกะ คาโต้)
ออเฟน๊อกซ์ สาวสวยผู้มีแววตาเศร้าหมอง เธอเลือกที่จะติดตามคิบะไปทุกที่เพราะเชื่อในโลกที่สงบสุข และไม่อยากให้ใครต้องเจ็บปวดจากการสูญเสีย แต่สุดท้ายเธอก็เสียชีวิตจากเหตุการณ์บุกสำนักงานใหญ่สมาร์ทเบรน
ไคโด นาโอยะ / สเน็คออเฟน๊อกซ์ (แสดงโดย คาราฮาชิ มิตสุรุ)
ชายหนุ่มมาดกวน ปากแข็ง นิสัยเสีย แต่เป็นคนที่จริงใจ และรักพวกพ้องสุดๆ เขาตัดสินใจที่จะตามคิบะมาด้วย เพราะเขาเองก็แค่อยากอยู่อย่างสงบ ไม่ชอบให้สมาร์ทเบรนมาบงการชีวิต ภายนอกแม้จะคอยตวาดใส่ยูกะ แต่แท้จริงแล้ว เป็นการแก้เขินมากกว่า เพราะเจ้าตัวแอบชอบยูกะมาตลอด แม้จะได้สารภาพความในใจ แต่ก็สายเกินไปแล้ว เพราะทั้งสองก็ต้องตายจากกันในการบุกสำนักงานใหญ่สมาร์ทเบรน
มิตสึฮาระ (แสดงโดย ฮายามิ โมโคมิจิ)
ชายหนุ่มผู้เห็นแก่ตัวอีกคนหนึ่งต่อจากคุซากะ แต่รายนี้เลือกที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ชื่อว่า “ผู้กอบกู้โลก” แม้จะเป็นวิธีสกปรกก็ตาม สุดท้าย หลังจากลงมือชิงไฟซ์เกียร์ และลงมือสังหารมินะจัง เขาก็ต่อสู้กับคิบะจนถูกสังหารลงในที่สุด
เลโอ /คาเมนไรเดอร์ ไซก้า (แสดงโดย เหอ หยุน ตง / ปีเตอร์ โฮ)
เลโอ ชายหนุ่มผู้ที่ถูกคัดเลือก จากบริษัทสมาร์ทเบรน ให้เป็น คาเมนไรเดอร์ ไซก้า มีหน้าที่กำจัดออเฟนอกซ์ที่ทรยศและกำจัดพวกกลุ่มกองกำลังมนุษย์ขึ้นมา ภายหลังถูกไฟซ์จัดการลงไปในที่สุด
+++++++++++++++++++
จัดว่าเป็นความกล้าที่จะแตกต่างจากภาคทีวี (ในช่วงที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายในญี่ปุ่น ภาคทีวียังฉายไม่จบ) สมัยนั้น หลายๆคนคาดหวังว่ามันจะมีเนื้อหาคั่นกลาง หรือต่อจากฉบับทีวี แต่ตัวหนังเลือกที่จะใช้การเล่าเรื่องราวใน “จักรวาลคู่ขนาน” แทนซะอย่างนั้น
ซึ่งถ้าลองพิจารณาดูแล้วก้จะพบว่า ตัวหนังสามารถ “เล่น” กับคนดูได้มากขึ้น สามารถสร้างแนวทาง การผลักดันให้เนื้อหาเป็นไปตามแบบ“ภาพยนตร์ควรจะเป็นอย่างแท้จริง” มีช่วงเกริ่นนำ – ช่วงการเล่าเรื่อง – ช่วงท้ายๆของเรื่อง ทุกอย่างเดินตามรอยสูตร “หนังตลาด” (Mass) มากกว่า “หนังไรเดอร์” ที่มีความเป็น “เฉพาะกลุ่ม” (Unique)
ทำให้ผู้ชมหน้าใหม่ หรือผู้ที่ไม่เคยดูฉบับทีวี ได้ทำความเข้าใจเนื้อเรื่องไปพร้อมๆกันได้ หนังจบในตัว ไม่ต้องไปตีความต่อ หรือหาความเชื่อมโยงอะไรแล้ว หนังจบ คือจบเลย
ในส่วนของตัวละครเองก็มีมิติ มีการนำเสนอที่ดีพอสมควร แม้จะไม่ผูกพันกันลึกมาก แต่ก็ไม่ตื้นเขิน บทอ่อนจนเกินไป เราสามารถรับรู้เรื่องราวความสัมพันธ์ของกลุ่มเพื่อนมาริ ที่มีความขัดแย้ง ความเห็นแก่ได้ของกลุ่มกบฏ หรือความผูกพันของทาคุมิกับมินะจัง หรือแนวคิดที่มีต่อสังคมโลกของคิบะได้ในช่วงสั้นๆ ถือว่าหนังไม่ได้ยัดข้อมูลหนักๆให้คนดูแบบตูมเดียวจบ แต่เป็นการ “ปล่อยไหล” ให้เนื้อเรื่องมันเดินไปเรื่อยๆ คนดูจะค่อยๆรู้ว่าโลกทัศน์โดยรวมมันเป็นแบบไหน และรวบด้วยการส่ง “ฉากการบุกของไรโอทรูเปอร์” เป็นจุดเชื่อมตัวละครให้มาบรรจบกัน
สังเกตว่า“จุดเปลี่ยนของเรื่องมักจะมาจากช่วงที่ไรออทรูปเปอร์ออกโรง” เสมอ ทั้งการหายตัวไปของทาคุมิ ไรออทรูปเปอร์เป็นคนลากทาคุมิไป / การตายของคุซากะ + การรวมตัวของกลุ่มออเฟน๊อกซ์คิบะ ก็เป็นไรออทรูปเปอร์บุกหมู่บ้านที่มาพร้อมกับไรเดอร์ไซก้า / ไฟซ์ที่ได้ความจำกลับคืนมา ก็เป็นฉากไรออทรูปเปอร์ออกมาในช่วงกลางคืน หรือแม้แต่ฉากที่มาริถูกลักพาตัวก่อนช่วงท้าย ก็ยังเป็นการบุกของไรออทรูเปอร์ และไรเดอร์ไซก้าอีกครั้ง เรียกได้ว่า ไรออทรูปเปอร์คือจุดเชื่อม และขับเคลื่อนของเรื่องก็ว่าได้…ซึ่งมันก็แปลกๆดี
สรุป มาสค์ไรเดอร์ไฟซ์ เดอะ มูฟวี่ : สงครามมนุษย์กลายพันธุ์ กลายเป็นหนังโรงไรเดอร์ ที่ดูสนุก ย่อยง่าย ดูเอาเพลิน ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีก็ตาม หนังโรงไรเดอร์ไฟซ์ คือ “กำแพงสูงเสียดฟ้า ที่เหล่าแฟนๆหนังไรเดอร์ตั้งเอาไว้” และรอวันที่เหล่าไรเดอร์รุ่นใหม่ๆ ที่เน้นขายของมากกว่าการขายบท จะก้าวข้ามไปให้ได้ ซักวันหนึ่ง…
แอดมิน Ak47
Trailer