Mashin Sentai Kiramager ขบวนการจักรกลเวทมนตร์ คิราเมเจอร์
魔進戦隊キラメイジャー
แนว : Superhero fiction /Action /Fantasy / Comedy
นักแสดง : โคมิยะ ริโอะ / คิฮาระ รุย /ชินโจ ยูเมะ / มิซึอิชิ อาโทมุ / คุโด มิโอะ / โคซากะ ไดมาโอ (PikoTaro)
“ขบวนการ 5 สี” หรือ “ซูเปอร์เซนไต” (Super Sentai) เป็นภาพยนตร์ซีรีส์ฮีโร่ของญี่ปุ่น ที่ฉายทางทีวีมาอย่างช้านานเกือบครึ่งทศวรรษ มีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหา การนำเสนอให้เข้ากับยุคสมัย และงานดีไซน์ที่น่าสนใจ ถึงแม้ว่าในยุคหลังๆจะเน้นไปทาง “ส่งเสริมการขายของเล่น” มากไปนิด แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ฮีโร่ 5 สีจากญี่ปุ่น ก็ยังคงเป็นขวัญใจเด็กๆมาตลอดไม่แพ้เหล่า “คาเมนไรเดอร์” หรือ “อุลตร้าแมน” เลย
และเมื่อมีการอัพเกรดเนื้อหา การเล่าเรื่อง การมาของนักรบคนที่ 6 ในขบวนการ 5 สี ก็ถือเป็นจุดสำคัญในการขับเคลื่อนเนื้อเรื่องอย่างมาก ทั้งหุ่นใหม่ ร่างใหม่ ของเล่นใหม่ๆ ส่วนหนึ่งก็มาจากการมาของสมาชิกพิเศษนั่นเอง
และนี่คือ “Mashin Sentai Kiramager ขบวนการจักรกลเวทมนตร์ คิราเมเจอร์” ขบวนการ 5 สีเรื่องล่าสุด ลำดับที่ 44 ที่มีเนื้อหาเบาสมอง และมอบกำลังใจในการใช้ชีวิตที่ดีมากๆในช่วง 4 ตอนแรกที่ออกฉาย (เรานับตอนที่ 0 ด้วย)
เรื่องย่อ
เรื่องราวของ ขบวนการจักรกลเวทมนตร์ คิราเมเจอร์ จะเริ่มขึ้นในตอน Episode ZERO เมื่อ ดาวคริสตาเลีย ดินแดนแห่งอัญมนีอันแสนสวยงามและสงบสุขที่ปกครองโดย “พระราชา โอราดิน” และพระธิดา “องค์หญิงมาบุชิน่า” ก็ได้เกิดการก่อกบฎ นำโดย “กัลซ่า” พระอนุชา (น้องชาย)ของพระราชาโอราดิน ที่ได้ร่วมมือกับ “ครันทูล่า”แม่ทัพชนเผ่าแห่งความมืดผู้ชั่วร้าย โยดอนไฮลม์ ในที่สุดพระราชาโอราดินก็พลาดท่า ถูกรุมสังหารอย่างเหี้ยมโหด
องค์หญิงมาบุชิน่า ที่หลบอยู่หลังบัลลังก์ของโอราดิน ก็ได้นำ “คิราเมสโตน” ก้อนอัญมนีที่มีพลังเวทมนตร์เปล่งประกายนานนับหลายพันปี ขุมพลังแห่งดาวคริสตาเลีย หลบหนีลงมายังโลกมนุษย์ เพราะราชาโอราดินสั่งเสียไว้ว่า “ให้ตามหานักรบที่จะมาสู้กับโยดอน” ก่อนที่จะไปสู้กับพวกมันนั่นเอง…
โดยที่โลกมนุษย์ … ก่อนหน้านั้น พระราชาโอราดินก็มีมิตรสหายที่ไว้ใจได้อย่าง “ฮากาตะมินานมิ มุเรียว” ผู้นำองค์กร “คารัต” (CARAT) องค์กรที่ก่อตั้งขึ้นโดยใช้ความรู้ของชาวคริสตาเลียที่พระราชาโอราดินมอบให้ เพื่อใช้ปกป้องโลก เพราะพระราชาโอราดินรู้อยู่แล้วว่าวันหนึ่ง พวกโยดอนจะมาบุกโลกอย่างแน่นอน…มาบุชิน่าตื่นขึ้นมาหลังจากลงมาที่โลก ก็ได้ดำเนินแผนการตามคำสั่งเสียของพระบิดา ในการตามหา “นักรบ 5 คน ที่เปล่งประกายเจิดจรัส” เพื่อใช้พลังของ คิราเมสโตน ในการต่อสู้กับพวกโยดอน
นักรบที่ องค์หญิงมาบุชิน่า พบ คือ
“ฮายามิ เซนะ” หญิงสาวนักวิ่งที่มีสถิติทำความเร็วสูงที่สุดในญี่ปุ่น ได้รับพลังของคิราเมสโตนสีเขียว เป็นนักรบคนแรกที่เจอ
คนที่สองก็คือ “โอชิคิริ ชิงุเระ” นักแสดงหนุ่มผู้มากความสามารถ ถนัดการใช้ดาบเพราระเล่นละครย้อนยุคบ่อยๆ ได้รับพลังของคิราเมสโตนสีน้ำเงิน
คนที่สี่ “อิมิสึ ทาเทโทโมะ” นักกีฬา eSport สายเกมยิงปืน FPS ได้รับพลังของคิราเมสโตนสีเหลือง
คนที่สี่ “โอฮารุ ซาโยะ”ศัลยแพทย์มือดี ได้รับพลังของ คิราเมสโตนสีชมพู
ตอนนี้คิราเมเจอร์มี 4 คน ในระหว่างการตามหาตัวคนที่ 5 ที่จะมาเป็นสีแดงนั้น ยังไม่พบ แต่ก็ถูกพวกลูกสมุนโยดอนบุกมายังฐานองค์กร คารัต ทั้ง 4 สามารถเปล่งประกายทักษะชองแต่ละคนออกมาได้ยอดเยี่ยม…ซึ่งมาเฉลยทีหลังว่าเหตุการณ์ที่พวกโยดอนบุกฐาน เป็นเพียงโปรแกรมจำลองที่ มุเรียวได้สร้างขึ้นเพื่อทดสอบสกิลของทั้ง4คน…ซึ่งก็ผ่านมาด้วยดี แม้ว่า คนที่ 5 ยังไม่พบก็ตาม…
ในขณะที่โลกกำลังดำเนินไปอย่างสงบสุข ในที่สุด พวก โยดอนไฮลม์ ก็บุกมาถึงโลกหลังจากที่ได้ฝัง อาณาจักรคริสตัลเลีย จมสูความมืดของจักรวาลสำเร็จ…ในขณะนั้นเอง องค์หญิงมาบุชิน่า และคิระเมสโตนสีแดง ก็ได้พบกับ “อาสึดะ จูรุ” เด็กม.ปลาย ที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง แต่มีจินตนาการ และฝีมือการถ่ายทอดสิ่งที่คิดลงบนหน้ากระดาษเป็นภาพวาด คิระเมสโตนสีแดง ได้เห็นความ “เปล่งประกาย” ในเด็กหนุ่มผู้หมองหม่นคนนี้ จึงตัดสินใจเลือกจูรุ เป็น คิราเมะเรด นักรบสีแดงผผู้ที่จะเป็นหัวหน้าทีม และกำลังหลักของทีม
ในขณะที่ทุกคนเปล่งประกายในระหว่างการต่อสู้ แต่จูรุเองกลับมัวแต่ชื่นชมคนอื่น จนไม่ใส่ใจในสิ่งที่ตัวเองมี (ในส่วนนี้คงจะเป็นปมด้อยที่อาจจะได้รับการเฉลยในภายหลัง) และเพิกเฉย แต่มาบุชิน่า ได้เห็นสิ่งที่อยู่ในสมุดวาดภาพของจูรุหลายๆภาพ ก็เข้าใจถึงความสามารถของเขา นั่นก็คือ “การเปลี่ยนสิ่งที่จินตนาการให้เป็นวัตถุจริง” อันเป็นพลังที่มีเพียงกษัตริย์แห่งคริสตาเลียเท่านั้นที่มี
ในที่สุด จูรุก็ได้เข้าใช้พลังจินตนาการของเขาเปลี่ยนคิระเมสโตนให้เป็น “คิราเมมาชิน” เครื่องจักรอัญมนี ที่จะกลายเป็นกำลังหลักของกลุ่ม…
แม้ว่าจะเอาชนะปีศาจ “จากุชชี่ฮิรุดอน” ลงได้ แต่ตัวของยูรุก็ยังไม่ได้รับการยอมรับในฐานะผู้นำของกลุ่ม แม้ว่าตามธรรมเนียมของชาวคริสตาเลีย ผู้ที่ใช้พลังของคิราเมสโตนสีแดง จะถูกยอมรับให้เป็นผู้นำ แต่ด้วยความไม่เด็ดขาด บวกความไม่มั่นใจในตัวเอง ทำให้ถูกตั้งแง่บ้าง แต่สุดท้าย เพราะความเข้าอกเข้าใจคนอื่น และพลังจินตนาการอันเต็มเปี่ยมของเขาจนสร้างหุ่นรวมร่าง “คิราเมจิน” ก็เริ่มทำให้คนในทีมเริ่มยอมรับในตัวจูรุ และเป็นคิระเมเจอร์คนที่ 5 โดยสมบูรณ์
การต่อสู้กับกองทัพผู้ชั่วร้าย โยดอนไฮลม์ ได้เริ่มขึ้นไปพร้อมๆกับการเติบโตของเหล่านักรบคิราเมเจอร์ ที่ต้องเรียนรู้ “การเปล่งประกายในแบบของตัวเอง!!”
ตัวละคร
อาสึดะ จูรุ (熱田充瑠) / คิราเมเรด (キラメイレッド)
รับบทโดย โคมิยะ ริโอะ (小宮璃央)
นักรบแห่งการสร้าง มีสโลแกนคือ แสงสว่างเปร่งประกาย (閃きスパークリング!)
นักเรียนชั้นมัธยมปลาย ผู้มีพลังจินตนาการอันสูงส่ง เป็นผู้ที่ถูกเลือกจากคิราเมสโตนสีแดง และเป็นคิราเมเจอร์คนที่ 5
อิมิสึ ทาเทโทโมะ (射水為朝) / คิราเมเยลโล่ (キラメイイエロー)
รับบทโดย คิฮาระ รุย (木原瑠生)
นักรบแห่งการผ่อนคลาย มีสโลแกนคือ ยิงอย่างแม่นยำ! (導きシューティング!)
นักเล่นเกม E-Sport อันดับหนึ่ง ถนัดเกมแนวชูตติ้ง เป็นผู้ที่ถูกเลือกจากคิราเมสโตนสีเหลืองและเป็นคิราเมเจอร์คนที่ 3
ฮายามิ เซนะ (速見瀬奈) / คิราเมกรีน (キラメイグリーン)
รับบทโดย ชินโจ ยูเมะ (新條由芽)
นักรบแห่งความเร็ว มีสโลแกนคือ ไวสายฟ้าแลบ! (突撃ライトニング!)
นักวิ่งสาวผู้มีสถิติวิ่ง 100 เมตรที่ไวที่สุด เป็นผู้ที่ถูกเลือกจากคิราเมสโตนสีเขียวและเป็นคิราเมเจอร์คนแรก
โอชิคิริ ชิงุเระ (押切時雨) / คิราเมบลู (キラメイブルー)
รับบทโดย มิซึอิชิ อาโทมุ (水石亜飛夢)
นักรบแห่งฟาดฟัน มีสโลแกนคือ ฟาดฟันไม่หยุดยั้ง! (切っ先アンストッパブル!)
นักแสดงชาย ผู้มีบทบาทฉากต่อสู้ยอดเยี่ยม เป็นผู้ที่ถูกเลือกจากคิราเมสโตนสีน้ำเงินและเป็นคิราเมเจอร์คนที่ 2
โอฮารุ ซาโยะ (大治小夜) / คิราเมพิงค์ (キラメイピンク)
รับบทโดย คุโด มิโอะ (工藤美桜)
นักรบแห่งการเยียวยา มีสโลแกนคือ การจัดการอันยอดเยี่ยม! (手捌きインクレディブル!)
แพทย์หญิงที่ถูกเรียกขานว่าเป็นซูเปอร์ด็อกเตอร์ เป็นผู้ที่ถูกเลือกจากคิราเมสโตนสีชมพูและเป็นคิราเมเจอร์คนที่ 4
ฮาคาตะมินามิ มุเรียว (博多南無鈴)
รับบทโดย โคซากะ ไดมาโอ (古坂大魔王) (PikoTaro)
ผู้ก่อตั้งหน่วย CARAT เป็นผู้พัฒนาอาวุธและอุปกรณ์ของคิราเมเจอร์ เคยเป็นเพื่อนของกษัตริย์โอราดิน และได้ล่วงรู้การรุกรานของโยดอนไฮลม์
องค์หญิงมาบุซีน่า (マブシーナ)
พากย์เสียงโดย มินาเสะ อิโนริ (水瀬いのり)
พระธิดาของโอราดิน เป็นผู้มายังโลกมนุษย์พร้อมกับคิราเมสโตน เพื่อแจ้งเตือนโลกมนุษย์ที่โยดอนไฮลม์กำลังจะเข้ามาบุกรุก
กษัตริย์โอราดิน (オラディン王)
พากย์เสียงโดย สุกิตะ โทโมคาซึ (杉田智和)[1]
กษัตริย์แห่งดาวคริสตาเลีย ผู้สร้างคิราเมสโตนทั้ง 5
กัลซ่า (ガルザ)
แม่ทัพของกองทัพโยดอน เป็นพระอนุชาของโอราดิน
ครันทูล่า (クランチュラ)
หัวหน้าทัพของกองทัพโยดอน ผู้ที่นำทัพบุกยังปราสาทคริสตาเลีย และพ่ายแพ้ให้กับพระราชาโอราดิน ก่อนที่กัลซ่าจะเข้ามาช่วย และทำให้แผนของโยดอไฮลม์สำเร็จ
คิราเมมาชิน
มาชิน ไฟยะ (魔進ファイヤ) รถดับเพลิงคู่หูของคิราเมเรด
มาชิน โชเวโล่ (魔進ショベロー) รถตักดินคู่หูของคิราเมเยลโล่
มาชิน มัคฮา (魔進マッハ) รถสปอร์ตคู่หูของคิราเมกรีน
มาชิน เจ็ทเตอร์ (魔進ジェッタ) เครื่องบินรบหูของคิราเมบลู
มาชิน เฮลิโกะ (魔進ヘリコ) เฮลิคอปเตอร์คู่หูของคิราเมพิงค์
รวมร่างพื้นฐาน LAND MAGI
ใช้ มาชินไฟย่า มัค และ โชเวลโล่
รวมร่างพื้นฐาน Sky MAGI
ใช้มาชินเจ็ทเตอร์ และ มาชินเฮลิโกะ
Mashin Gattai KIRAMAZIN!!!
———————————————————————————————————————–
เป็นหนังขบวนการ 5 สีแรื่องล่าสุดที่สารภาพว่าไม่ได้คิดอยากจะดูเลย แต่ในเมื่อติดหยุดยาวๆจากการกักตัว 14 วัน ก็เลยหยิบมาดู และแอดมินก็ได้พบว่า เกือบพลาดซีรี่ส์ขบวนการ 5 สีฟีลกู้ดแบบนี้ซะแล้ว
เรื่องราวของคิราเมเจอร์ เริ่มต้นด้วยคำว่า “เปล่งประกาย” คำว่าเปล่งประกายในหนังที่สื่อออกมาในหลายๆครั้ง นอกจากการเล่นกับแสง การถ่ายทำที่วูบวาบแล้ว ยังสื่อถึง “ตัวตน” ของคนๆนั้น หรือสิ่งที่ คนๆนั้นเป็น และทำได้อย่างดี…
เซนะ คิราเมกรีน ที่เป็นนักวิ่ง ก็จะเปล่งประกายของตัวเองเวลาวิ่งอย่างมีความสุข จูรุถึงกับต้องสร้างร่างก๊อปปี้จากน้ำตาของมาบุชีน่า มาใช้งานแทน เซนะตัวจริง ที่ติดวิ่งแข่งรอบคัดเลือก ในตอนที่สัตว์ประหลาดบุก ด้วยเหตุผลที่ว่า “ทุกคนที่มารวมตัวกัน จะมีวิธีในการเปล่งประกายในทางของตัวเอง แม้ว่าจะอยู่ห่างกัน แต่ก็เป็นทีมเดียวกันได้” จูรุใช้ร่างก๊อปปี้เซนะเข้าทีมเพื่อต่อสู้กับสัตว์ประหลาดเพื่อถ่วงเวลาให้เซนะตัวจริงมาถึง ทำให้เซนะเริ่มมองเห็น “ความเอาใจใส่” ของผู้ที่เป็นหัวหน้าทีมควรจะเป็น และยอมรับว่าจูรุ เป็นหัวหน้าทีมที่ดีได้…
หรือจะเป็นช่วงที่ชิงุเระ คิระเมบลู ที่มีวิธีแสดงความเปล่งประกายในแบบของตัวเองคือ การไม่ยอมแสดงความรู้สึกออกมาตรงๆ หรือขอความช่วยเหลือจากใคร เพราะด้วยความที่เป็นนักแสดงแบบคนญี่ปุ่น ที่มักจะมองส่วนรวมมาก่อน เวลาเจ็บ ป่วย หรือเหนื่อยล้า ก็มักจะไม่แสดงให้เห็นเพื่อไม่ให้เพื่อนร่วมงาน หรือทีมงานในกองถ่ายต้องเป็นกังวล แต่เมื่อเขาโดนสัตว์ประหลาดตัวหนีบเล่นงานจนที่หัวเขาต้องสวมเครื่องทรมานตลอดเวลา จูรุและพรรคพวกคิราเมเจอร์ก็ได้ทำให้ชิงุเระยอมผ่อนคลาย เริ่มแสดงตัวตนที่เจ็บป่วยเป็น ยอมรับความช่วยเหลือจากผู้อื่นได้…เพราะเขาไม่ได้อยู่เพียงลำพัง
หรือแม้แต่ตัว จูรุ หรือ คิราเมเรด หัวหน้าทีม ที่ควรจะเป็นคนที่แกร่งที่สุด เท่ที่สุด เก่งที่สุดตามธรรมเนียมหนังแปลงร่าง 5 สีในอุดมคติ จากขบวนการยุคเก่าๆที่วางให้สีแดงคือผู้นำที่เข้มแข็งพึ่งพาได้มาตลอด แต่จูรุเป็น“เรดคนล่าสุด” ที่ดูเหลาะแหละ พึ่งพาอะไรไม่ได้ แถมขาดความมั่นใจในตัวเองสุดๆ
ในกลุ่มคนที่เจิดจรัส มันคือความ Contrast ที่ตัวหนังได้ใส่เข้ามา และเป็นจุดที่กระแทกใจผู้ชมให้มาสนใจในตัวละครที่เป็น “คนไม่เด่นในหมู่ผู้มีจุดเด่น” ตัวตนของจูรุ พระเอกของเรื่อง อาจจะใกล้เคียงกับเด็กหนุ่มม.ปลายญี่ปุ่นทั่วไปที่ไม่ได้มีความฝัน ความทะยานอยาก หรือเป้าหมายชีวิตที่ชัดเจน ซึ่งบังเอิญมีทักษะวาดรูป และความเนิร์ดๆบ๊องๆของเขา ที่ดันไปตรงจริตของคิราเมสโตนสีแดงเข้า…ในจุดนี้ ตัวหนังเหมือนจะสื่อว่า “แม้จะเป็นเรื่องไร้แก่นสาร หรือไร้สาระในมุมคนอื่นๆ แต่การทำในสิ่งที่ตัวเองถนัด ก็สามารถทำให้คนๆนั้นเปล่งประกายได้”
บวกกับการที่จูรุเป็นคนช่างสังเกตุ และจดจำจุดเด่น ใส่ใจรายละเอียดของเพื่อนๆได้ดี จึงทำให้ถูกยอมรับในฐานะหัวหน้าทีม…ซึ่งในจุดนี้เองก็จะการสะท้อนมุมมองของสังคมการทำงานของญี่ปุ่น ผ่านทางเหล่า คิระเมสโตน ที่มักจะยกให้ตัวละครในเรื่องให้เป็น สเปค “เจ้านาย / ลูกพี่ในฝัน” ที่แตกต่างกันไป
ทั้ง ลูกพี่ที่เอาใจใส่คนอื่นๆอย่างจูรุ , ลูกพี่มาดเท่แบบชิงุเระ , ลูกพี่ที่มั่นใจในตัวเองอย่าง ทาเทโทโมะ , ลูกพี่ที่อ่อนโยนอย่าง ซาโยะ หรือแม้แต่ เซนะเองก็ถูกวางให้เป็น บอสสาวสวย ที่คิระเมสโตนเรียกว่า “นายหญิง” ก็ด้วย…
ยิ่งบทเพลงเปิด และเพลงปิด ที่พยายามที่เน้นย้ำว่า “ตัวตน+ความเป็นตัวของตัวเอง +ทำในสิ่งที่รักและถนัด” นั้นเป็นการ “เปล่งประกาย” ของบุคคลนั้นๆ
“Mashin Sentai Kiramager” (魔進戦隊キラメイジャー )
Artist: Ōnishi Yōhei
Lyrics: Fujibayashi Shōko
Composition & Arrangement: KoTa
——————————————–
KIRAKIRA kagayaku tame ni
การที่พวกเราเปล่งประกายไปด้วยกัน
bokura wa meguriatta to omou kara
ฉันคิดว่านี่คือสิ่งที่ทำให้เราได้พบกัน
kizutsuki migakiage
แล้วเจียระไนเอาความข้องใจ หม่นหมองออกไป
Mashin Sentai Kiramager
ขบวนการจักรกลเวทมนตร์ คิราเมเจอร์
——————————————–
Mada masshiro na SKETCHBOOK wo
พวกเราล้วนแล้วเปรียบดั่งสมุด SKETCHBOOK สีขาวที่ว่างเปล่า
suberi hajimeta sen
ก่อนที่จะมีการวาดเขียนสิ่งใดๆลงไป
doko made mo ikeru ki ga shita
ไม่มีใครคิดหรอกว่าเราจะไปได้ไกลแค่ไหน
DOKIDOKI no IMAGINE ga ENGINE yume wo egaku kedo
IMAGINE ที่น่าตื่นเต้น คือ ENGINE ที่จะขับเคลื่อนความฝันของพวกเรา
soto no sekai hamidasenai mama
ผู้ที่กำลังไขว่คว้าหาที่ของเราบนโลกกว้างใหญ่ใบนี้
Jitsu wa motto mawari no me wa ka ni sezu ni
ที่จริงแล้ว การที่คนอื่นจะมองเรายังไงนั้นไม่ได้สำคัญอะไรเลย
sakebidashitai, hashiridashitai
ความรู้สึกที่อยากตะโกนออกไป ความรู้สึกที่อยากจะวิ่งออกไปต่างหาก
sou! kanjita nara KIRAME-Go!
เอาล่ะ! ถ้ารู้สึกแบบนั้นแล้วก็ จงเปล่งประกาย KIRAME-Go!
——————————————–
Mirai ga hajimaru kaze wo
สายลมที่บ่งบอกถึงอนาคตที่กำลังจะเริ่มต้นใหม่
tsukande joushou KIRARI KIRAMENTAL
จะเป็นสิ่งที่พาเธอเปล่งประกายไปพร้อมๆกับ KIRAMENTAL
suki na koto wa shinjiru chikara
นั่นคือพลังของความเชื่อในสิ่งที่เธอรัก
KIRAKIRA kagayaku tame ni
การที่พวกเราจะ KIRAKIRA เปล่งประกายไปด้วยกัน
bokura wa meguriatta to omou kara
ฉันคิดว่านี่คือสิ่งที่ทำให้เราได้พบกัน
kizutsuki migakiage
แล้วเจียระไนเอาความข้องใจ หม่นหมองออกไป
Mashin Sentai Kiramager
ขบวนการจักรกลเวทมนตร์ คิราเมเจอร์
——————————————–
ไม่มีใครบนโลกนี้หม่นหมองอย่างแท้จริง …อยู่ที่ว่า คุณจะหาสิ่งที่ถนัด แล้วตั้งใจทำมันเจอแล้วหรือยัง?”
“ถ้าเจอแล้วทำมัน…สิ่งนั้นละ จะทำให้คุณเปล่งประกาย!”
แอดมิน AK47
มีให้ชมทางช่องTv Sashi แต่ต้องมุด VPN ไปดูเอานะ
https://www.tv-asahi.co.jp/kiramager/news/0005/
-
BEYBLADE X : 10 ตัวน่าซื้อ ของมันต้องมีในปี 2024
#beybladex #kctoysbeybladex #beybladexthailand
-
KARATE KID: LEGENDS [เรื่องย่อ / ตัวอย่าง / หนังใหม่ /2025]
#KarateKidMovie #KarateKi #เฉินหลง #JackieChan
-
20 ตัวละครจากเกมยอดนิยมที่ถูกค้นหามากที่สุดในเวปไซต์สำหรับผู้ใหญ่ 2024
#Ranking #website #Games #PC #Console