魔神英雄伝ワタル
(Mashin Eiyūden Wataru)

ชื่อภาษาไทย :  วาตารุ เทพบุตรสองโลก

ประเภท : อนิเมชั่น
แนว : แฟนตาซี / โรบอต
ผู้ผลิต : สตูดิโอ Sunrise
เริ่มฉาย :  ภาคแรก 15 เมษายน 1988 – 31 มีนาคม 1989 / ภาคสอง 3 มีนาคม 1990 – 8 มีนาคม 1991 / ภาคสาม 2 ตุลาคม 1997 – 24 กันยายน 1998

จำนวนตอน : ภาคแรก 45 ตอน /ภาคสอง  46 ตอน / ภาคสาม  51 ตอน

ในยุคที่กระแสการ์ตูนหุ่นยนต์เริ่มตันด้วยความซ้ำของพล๊อตที่ขายความโหดร้ายของสงครามในฐานะอาวุธ  หุ่นยนต์สู้สัตว์ประหลาดยักษ์  รวมไปถึงอนิเมหุ่นยนต์รักไซไฟอวกาศข้ามจักรวาล  ก็มีอนิเมหุ่นยนต์เรื่องหนึ่งที่กล้า “ฉีก”แนว ไปเป็นอนิเมหุ่นยนต์ใสๆ ที่ดูได้ทั้งครอบครัว ด้วย Theme แบบผู้กล้าฆ่าจอมมาร ตามสไตล์เกม RPG ที่กำลังดังในยุคนั้นอย่าง “ดราก้อนเควส” หรือ “ไฟนอล แฟนตาซี”  แถมยังมีมุกตลกสอดแทรกเป็นระยะๆ ทำให้เด็กๆที่ได้ชมอนิรื่องนี้ เข้าถึงได้ง่าย และรู้สึกสนุกไปกับสิ่งที่จะนำเสนอ…ใช่แล้วครับ แอดมินกำลังพูดถึง“魔神英雄伝ワタル มาชิน เอย์ยูเด็น วาตารุ”  หรือ “วาตารุ เทพบุตรสองโลก” นั่นเอง…

“วาตารุ เทพบุตรสองโลก” เป็นชื่อที่ใช้ในการฉายครั้งแรกในเมืองไทย ช่วงปี 2535 ทางช่อง 5 ในตอนนั้น โดยจะออกฉายทุกวันเสาร์ อาทิตย์ เวลา 6 .30น. แล้วก็ย้ายมาฉายภาค2 ทางช่องสาม และกลับมาฉายภาคที่3 ในช่วงปี 2543 ในชื่อเดียวกัน  ในรายการCartoon Club  ทางช่อง ITV

เรื่องย่อ

อิคุซาเบะ วาตารุ (戦部ワタル Ikusabe Wataru) เป็นเด็กร่าเริง จิตใจดี เก่งกีฬาทุกประเภท แต่กับการเรียนนี่ตรงกันข้าม วันหนึ่งระหว่างไปโรงเรียนเขาพบสร้อยคอสีแดง ตกอยู่กลางสะพานบ่อน้ำของศาลเจ้าเทพมังกร แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร และในชั่วโมงเรียนวิชาศิลปะให้ปั้นดินเหนียวเป็นอะไรก็ได้ วาตารุจึงปั้น “หุ่นยนต์” แข่งกับเพื่อนที่เป็นทั้งคู่แข่งตลอดกาล (ซึ่งหุ่นยนต์ตัวนั้นก็คือริวจินมารุนั่นเอง ) ซึ่งวาตารุก็ต้องแปลกใจว่าทำไมสร้อยคอที่ตัวเองเห็นที่ศาลเจ้านั้นมาอยู่ในกระเป๋ากางเกงตัวเองหลังเลิกเรียน

ระหว่างทางที่วาตารุผ่านเส้นทางศาลเจ้าที่เดิม เขาหยุดแวะพักและคิดตั้งชื่อให้กับหุ่นยนต์ดินเหนียวตัวนั้นว่า “ริวจินมารุ”และทันทีที่เอ่ยชื่อของริวจินมารุ มังกรที่สถิตอยู่ ณ บ่อน้ำกลางศาลเจ้าก็ปรากฏตัวขึ้น พร้อมกับพาตัวของวาตารุไปยังโลกอีกมิติหนึ่ง โลกแห่งเวทย์มนต์ซึ่งเป็นที่อยู่ของเหล่าเทพเจ้าที่เรียก “โซไคซัง”  (Soukaizan ) ที่ถูกปีศาจผู้ชั่วร้าย ”โดคุเดอร์” รุกราน

โซไคซัง เป็นโลกที่สวยงาม มีจุดเด่นเป็น ภูเขาทั้งหมด 7 ชั้น และปกคลุมด้วยสายรุ้ง 7 สี และที่นั่น ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยของวาตารุกับริวจินมารุ  เพื่อช่วยกอบกู้โลกโซไคซังจากเหล่าลูกสมุนของปีศาจผู้ชั่วร้าย ”โดคุเดอร์”  โดยการนำสายรุ้ง 7 สี คืนมาให้ได้และเป็นหนทางเดียวที่วาตารุจะกลับไปยังโลกเดิมของตน

ภาค 2

หลังจากที่กำจัดปีศาจโดคุเดอร์ลงได้ วาตารุก็กลับสู่โลกเดิมของตนได้ แต่ทว่า ริวจินมารุก็ปรากฏตัวต่อหน้าเขาอีกครั้ง โดยบอกว่าที่โซไคซัง ถูกบุกรุกโดยจอมมาร”โดไคเดอร์” น้องชายของโดคุเดอร์ วาตารุและเพื่อนต้องฝ่าฟันหุบเขาสายรุ้ง 7 ชั้นไปยัง “หุบเขา 7 ดาว” เพื่อ ช่วยปลดปล่อยดาว 7 ดวงที่ลอยเหนือหุบเขา7สายรุ้ง และปราบปีศาจร้ายให้จงได้

ภาค3

จอมมาร”โดไคเดอร์”ถูกกำจัด เหล่าปีศาจยังคงวนเวียนอยู่ในดินแดนโซไคซัง แถมยังได้ “ขโมยความกล้าหาญ” ของวาตารุ ทำให้วาตารุกลายเป็นเด็กนิสัยไม่ดี กลายเป็นเหมือนยากูซ่าในโรงเรียน  รวมไปถึงความทรงจำของผู้กล้าที่กอบกู้โซไคซัง  แต่ฮิมิโกะ และ ชิบารากุ พรรคพวกของวาตารุได้นำเขามายังอีกฟากของโซไคซัง ที่ชื่อว่า “ชินบุไค” ที่นั่นวาตารุเริ่มนึกถึงเรื่องราวในอดีตได้ทีละน้อย  แต่หลังจากที่วาตารุช่วยสัตว์ตัวเล็กๆที่จะโดนต้นไม้ ที่ศัตรูโจมตีมาทับ วาตารุก็สามารถเรียกริวจินมารุออกมาได้  ซึ่งทำให้ วาตารุก็นึกเรื่องออกว่าตัวคือ”ผู้กล้า” จึงทำให้บังคับริวจินมารุได้ และทำลายศัตรูตัวแรกได้ และตัดสินใจเข้าต่อสู้กับปีศาจในดินแดนแห่งนี้ เพื่อเรียกความกล้าหาญออกมา

ตัวละคร

อิคุซาเบะ วาตารุ

เด็กนักเรียนชั้น ป.5 ที่เหมือนเด็กผู้ชายทั่วๆไป ชอบเล่นมากกว่าการเรียน มีจินตนาการที่บริสุทธิ์ วันหนึ่งได้ไปเจอกับพบสร้อยคอสีแดง ตกอยู่กลางสะพานบ่อน้ำของศาลเจ้าเทพมังกร จนถูกพามายัง “โซไคซัง” ดินแดนแฟนตาซีที่มีหุบเขา 7 สายรุ้งเป้นจุดเด่น วาตารุได้รับเลือกเป็น “ผู้กล้าในตำนาน”แบบงงๆ และยังเป็นคนที่สามารถอัญเชิญหุ่นยนต์เทพเจ้ามังกร “ริวจินมารุ”ออกมาได้ด้วย

นอกจากนี้ วาตารุยังได้รับการอัพเกรดพลังในช่วงกลางๆเรื่องของแต่ละภาค จนสามารถเปลี่ยนรูปร่างของริวจินมารุหลากหลายเวอร์ชั่น

ริวจินมารุ ร่างแรกสุด ที่ปรากฎในเรื่อง ที่เกิดจากการปั้นดินเหนียวของวาตารุ

ริวเซย์มารุ ร่างมังกรสีทอง ซึ่งเป็นร่างสุดยอดของภาค 2 สามารถแปลงร่างได้

ริวโอมารุ ร่างแรกที่ปรากฏตัวในภาค 3

โช มาชิน ริวจินมารุ  ร่างที่รวมเอาพลังของเทพเจ้าทั้งหมดในดินแดน“โซไคซัง”มาไว้ที่ตัว จนกลายเป็นร่างนักรบมังกรที่สง่างาม

ริวจินมารุ (ร่างที่แท้จริง) เป็นนักรบอัศวินมังกรในตำนาน ที่ถูกสาปให้มาสิงร่างในหุ่นยนต์

ซึรุงิเบะ ชิบาระกุ

นักดาบวัย 35 จากหมู่บ้านมิยาโมโต้ แห่งดินแดน“โซไคซัง” เป็นซามูไรที่ขี้โอ่ ขี้โม้ แต่จิตใจดี ไม่มีพิษภัยอะไรนัก และยังได้สอนวาตารุในเรื่องราวของสิ่งต่างๆในดินแดนแฟนตาซีแห่งนี้ด้วย  มีหุ่นประจำตัวชื่อ “เซนจินมารุ” และอัพเกรดเป็น “เซนโอมารุ”ในเวลาต่อมา

ชินนิเบะ ฮิมิโกะ

นินจาสาวสติหลุดประจำเรื่อง ที่สนุกสนานไปกับทุกๆเรื่องในโลก ไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใดๆ เพราะความไร้เดียงสานั้นเอง มีหุ่นประจำตัวคือ “เก็นจิมารุ”

โทระโอ

เด็กหนุ่มลูกครึ่งอสูร ที่กลายมาเป็นเพื่อนร่วมทางของวาตารุในเวลาต่อมา มีหุ่นยนต์จ้าวพยัคฆ์ “จาโคมารุ” ที่แปลงร่างเป็นเสือได้…

หนังสือรวมภาพ Art Work ที่หายาก และหลายๆร้านในญี่ปุ่นไม่มีขายแล้ว…

และในปี 2013  เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ25ปี วาตารุก็ได้กลับมาวางจำหน่ายในแบบBlu-ray BOX ในBD-BOX ก็จะมีภาคแรก45ตอน แล้วก็ภาคต่อกับ OVA『Shin Mashin Eiyuuden Wataru－ภาคภูเขาเทพมาร－』2ตอนใส่รวมกันไว้ทั้งหมด และจะออกวางตลาดในวันที่18ธันวาคม ราคา38,850เยน โดยทั้งหมดจะมีการรีมาสเตอร์งานภาพให้คมชัดยิ่งขึ้น

น่าเสียดาย ที่ไม่มีค่ายไหนในไทยซื้อ LC เข้ามาเลย…

แอดมิน Ak47

เพลงเปิดทั้ง3ภาค