มาเซราติ จีที2 ลงแข่งครั้งแรกที่ เซอร์กิต พอล ริคาร์ด คว้าโพเดียมกับทีม แอลพี เรซิง
ในสนามสุดท้ายของรายการ ฟานาเทค จีที2 ยูโรเปียน ซีรีส์ 2023
มาเซราติ จีที2 (Maserati GT2) ตัวแรงรุ่นล่าสุดจาก มาเซราติ ที่ผลิตมาเพื่อใช้แข่งโดยเฉพาะ เปิดตัวครั้งแรกช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ที่งานแข่งเอ็นดูรานซ์ สปา 24 ชั่วโมง (24 Hours of Spa) และได้ลงแข่งครั้งแรก ที่ เซอร์กิต พอล ริคาร์ด (Circuit Paul Ricard) ในสนามสุดท้ายของรายการ ฟานาเทค จีที2 ยูโรเปียน ซีรีส์ 2023
ในการแข่งสนามนี้ ลีโอนาร์โด กอรินี และ ลูคา พิริ สองนักขับตัวท็อปของทีม แอลพี เรซิง (LP Racing) ซึ่งเป็นทีมแรกที่นำแบรนด์ มาเซราติ คืนสังเวียนด้วยการขับ มาเซราติ จีที2 สามารถทำผลงานได้อย่างโดดเด่น จากสมรรถนะอันยอดเยี่ยมของรถคันนี้ โดยหลังคว้าตำแหน่งออกสตาร์ทหัวแถว (pole position) ก็สามารถนำทีมขึ้นโพเดียมในอันดับที่ 2 หลังจบการแข่งเรซแรก และจบเรซที่สองในอันดับ 7 นับเป็นการประเดิมสนามแรก ที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ในสนามแข่งของ มาเซราติ ได้เป็นอย่างดี
มาเซราติ จีที2 ซึ่งเป็นรถที่ผลิตจากเมืองโมเดนาทั้งหมด จะเป็นหนึ่งในรถประเภทแกรนด์ทัวร์ริงที่เปี่ยมสมรรถนะและน่าตื่นตาตื่นใจที่สุด ที่จะลงชิงชัยในฤดูกาลแข่งปี 2567
การเปิดตัวในรายการ ยูโรเปียน ซีรีส์ ตอกย้ำถึงความสำเร็จในสังเวียนการแข่งรถจีทีของ มาเซราติ ซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่ทศวรรษที่ 2000 กับชัยชนะของ มาเซราติ เอ็มซี12 (Maserati MC12) ที่สามารถคว้าแชมป์ประเภทผู้ผลิต ทีม และนักขับ ถึง 13 รายการ
มาเซราติ จีที2 คือ ผลผลิตที่เกิดจากความฝันของคนรักรถ รวมถึงแฟนพันธุ์แท้ของค่ายตรีศูล เป็นยนตรกรรมเปี่ยมสมรรถนะที่ผ่านการปรับแต่งเพื่อใช้แข่งโดยเฉพาะ ซึ่งถูกพัฒนาจาก มาเซราติ เอ็มซี20 (Maserati MC20) ซูเปอร์สปอร์ตคาร์ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ เน็ททูโน วี6 สูบ (Nettuno V6) ทวินเทอร์โบ เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดบนสนามแข่ง
มาเซราติ สร้างตำนานแห่งความสำเร็จบทใหม่ หลังจากประกาศกลยุทธ์ด้านการแข่งขันเมื่อช่วงครึ่งหลังของปีที่ผ่านมา และประสบความสำเร็จในมอเตอร์สปอร์ตระดับโลกหลายรายการในปีนี้พร้อมเชื่อมความสำเร็จแห่งอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของโลกมอเตอร์สปอร์ตเข้าด้วยกัน และจารึกชื่อแบรนด์ไว้ในฐานะสุดยอดแห่งวงการมอเตอร์สปอร์ต
ดาวิเด กราซโซ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มาเซราติ กล่าวว่า “การหวนคืนสู่การแข่งจีทีในครั้งนี้ มาเซราติ กำลังบันทึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ อันน่าตื่นเต้นและท้าทายมากขึ้นในวงการมอเตอร์สปอร์ต เราจะก้าวสู่สุดยอดแห่งความสำเร็จที่น่าเหลือเชื่อ เช่นเดียวกับที่เคยผ่านมาในอดีต ไม่ว่าจะเป็นการสรรค์สร้างยนตรกรรมสำหรับใช้แข่งหรือขับบนถนน มาเซราติ ยังคงมุ่งมั่นในการเอาชนะทุกความท้าทาย เพื่อมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้กับผู้ขับ ซึ่ง มาเซราติ จีที2 ก็เป็นเสมือนจุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่โลกแห่งวงการมอเตอร์สปอร์ตในอนาคต”
จิโอวานนี สโกร หัวหน้าโครงการ Maserati Corse กล่าวว่า “คงไม่มีการเปิดตัวครั้งไหน ยิ่งใหญ่ไปกว่านี้อีกแล้ว ยนตรกรรมของเราพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเปี่ยมด้วยศักยภาพ และเราก็พอใจมากกับผลงานที่ทำได้ สำหรับเรา การหวนคืนสู่สนามแข่งก็เหมือนการคืนถิ่น เพราะ มาเซราติ มีประวัติศาสตร์อันโชกโชนและยาวนานในวงการมอเตอร์สปอร์ต และเป็นสิ่งที่ทำให้แบรนด์ของเรามีความพิเศษ ดีเอ็นเอของค่ายตรีศูลเกิดจากการผสานระหว่างความหลงใหลและการแข่งขัน ซึ่งถ่ายทอดออกมาให้เห็นในรูปแบบของสุดยอดยนตรกรรมหลากรุ่น ทั้งบนถนนและในสนามแข่ง การได้เห็น มาเซราติ จีที2 บนกริดสตาร์ทของการแข่งรถจีที เป็นสิ่งที่ตอกย้ำถึงความสำเร็จในอดีตที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี และพร้อมจะนำเราก้าวไปสู่ยุคใหม่แห่งวงการมอเตอร์สปอร์ต ในฐานะผู้นำที่แข็งแกร่งที่สุด”
เกี่ยวกับ มาเซราติ เอส.พี.เอ.
มาเซราติ คือ ผู้ผลิตรถยนต์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดดเด่นด้วยสไตล์, เทคโนโลยีล้ำสมัย และตัวตนที่ไม่ซ้ำใคร สะท้อนความเฉลียวฉลาด รสนิยมอันลุ่มลึก สะท้อนมาตรฐานแห่งการเป็นยนตรกรรมระดับโลก และด้วยความสำเร็จของผลิตภัณฑ์ในแต่ละเซกเมนต์ มาเซราติ ได้กำหนดนิยามใหม่ ให้กับรถสปอร์ตของอิตาลี ในแง่ของการออกแบบ, ประสิทธิภาพ, ความสะดวกสบาย, ความสง่างาม และความปลอดภัย ปัจจุบันมีจำหน่ายในกว่า 70 ประเทศทั่วโลก มาเซราติ ควอตโตรปอร์เต้ (Quattroporte) นับเป็นยนตรกรรมเรือธงของค่ายตรีศูล สมทบด้วยรุ่นกิบลี่ (Ghibli), เลวานเต้ (Levante) เอสยูวีรุ่นแรกในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ และ เกรคาเล่ (Grecale) ซึ่งเป็นเอสยูวีที่มาพร้อมแนวคิด ‘Everyday Exceptional’ ทุกรุ่นต่างโดดเด่นด้วยการใช้วัสดุที่มีคุณภาพชั้นสูง และการออกแบบทางเทคนิคอันยอดเยี่ยม มาเซราติ กิบลี่, เลวานเต้ และเกรคาเล่ มีหลายทางเลือกขุมพลัง อาทิ เบนซินไฮบริด 4 สูบ, เบนซิน วี 6 สูบ ไปจนถึงเบนซิน วี 8 สูบ ทั้งในแบบขับเคลื่อนล้อหลังหรือขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยมาพร้อมดีเอ็นเออันเป็นเอกลักษณ์ของยนตรกรรมค่ายตรีศูล ขณะที่รุ่นสูงสุด คือ ซูเปอร์สปอร์ตคาร์ เอ็มซี 20 (MC20) และ เอ็มซี20 แชโล (Cielo) ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ เน็ททูโน (Nettuno) ที่ได้นำเทคโนโลยีจากรถแข่งฟอร์มูลาวัน มาใช้กับยนตรกรรมในสายการผลิตเป็นครั้งแรก มาเซราติ กรันทูริสโม โฉมใหม่ มีจำหน่ายทั้งรูปแบบเครื่องยนต์เบนซินสมรรถนะสูง และแบบไฟฟ้าล้วน เพื่อพัฒนายนตรกรรมค่ายตรีศูลไปสู่อนาคต โดยมี มาเซราติ โฟลกอเร เป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกในประวัติศาสตร์ พร้อมตั้งเป้าในปี 2025 รถยนต์ มาเซราติ ทุกสายพันธุ์จะมีรุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเป็นทางเลือก และ มาเซราติ ทุกรุ่น จะกลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดภายในปี 2030
เกี่ยวกับ มาเซราติ เอส.พี.เอ.
มาเซราติ คือ ผู้ผลิตรถยนต์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดดเด่นด้วยสไตล์, เทคโนโลยีล้ำสมัย และตัวตนที่ไม่ซ้ำใคร สะท้อนความเฉลียวฉลาด รสนิยมอันลุ่มลึก สะท้อนมาตรฐานแห่งการเป็นยนตรกรรมระดับโลก และด้วยความสำเร็จของผลิตภัณฑ์ในแต่ละเซกเมนต์ มาเซราติ ได้กำหนดนิยามใหม่ ให้กับรถสปอร์ตของอิตาลี ในแง่ของการออกแบบ, ประสิทธิภาพ, ความสะดวกสบาย, ความสง่างาม และความปลอดภัย ปัจจุบันมีจำหน่ายในกว่า
70 ประเทศทั่วโลก มาเซราติ ควอตโตรปอร์เต้ (Quattroporte) นับเป็นยนตรกรรมเรือธงของค่ายตรีศูล สมทบด้วยรุ่นกิบลี่ (Ghibli), เลวานเต้ (Levante) เอสยูวีรุ่นแรกในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ และ เกรคาเล่ (Grecale) ซึ่งเป็นเอสยูวีที่มาพร้อมแนวคิด ‘Everyday Exceptional’ ทุกรุ่นต่างโดดเด่นด้วยการใช้วัสดุที่มีคุณภาพชั้นสูง และการออกแบบทางเทคนิคอันยอดเยี่ยม มาเซราติ กิบลี่, เลวานเต้ และเกรคาเล่ มีหลายทางเลือกขุมพลัง อาทิ เบนซินไฮบริด 4 สูบ, เบนซิน วี 6 สูบ ไปจนถึงเบนซิน วี 8 สูบ ทั้งในแบบขับเคลื่อนล้อหลังหรือขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยมาพร้อมดีเอ็นเออันเป็นเอกลักษณ์ของยนตรกรรมค่ายตรีศูล ขณะที่รุ่นสูงสุด คือ ซูเปอร์สปอร์ตคาร์ เอ็มซี20 (MC20) และ เอ็มซี20 แชโล (Cielo) ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ เน็ททูโน (Nettuno) ที่ได้นำเทคโนโลยีจากรถแข่งฟอร์มูลาวัน มาใช้กับยนตรกรรมในสายการผลิตเป็นครั้งแรก มาเซราติ กรันทูริสโม โฉมใหม่ มีจำหน่ายทั้งรูปแบบเครื่องยนต์เบนซินสมรรถนะสูง และแบบไฟฟ้าล้วน เพื่อพัฒนายนตรกรรมค่ายตรีศูลไปสู่อนาคต โดยมี มาเซราติ โฟลกอเร เป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกในประวัติศาสตร์
พร้อมตั้งเป้าในปี 2025 รถยนต์ มาเซราติ ทุกสายพันธุ์จะมีรุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเป็นทางเลือก และ มาเซราติ ทุกรุ่น จะกลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดภายในปี 2573