“ถ้าหากภาพยนตร์ชุดเรื่อง The Godfather คือภาพยนตร์ได้รับการยกย่องว่าคือหนังเจ้าพ่อที่ดีที่สุดตลอดกาล ในโลกของวีดีโอเกมก็คงจะยกย่องให้เกม Mafia The Series คือเกมที่บอกเล่าเรื่องราวของมาเฟียได้ยอดเยี่ยมที่สุดเช่นกัน”
เกม Mafia เปิดตัวครั้งแรกในปี 2002 ในช่วงที่ซีรีส์เกมชุด Grand Theft Auto กำลังได้รับความนิยม ซึ่งทันทีที่ถูกวางจำหน่ายส่งตรงถึงผู้เล่นมันกลายเป็นเกมแนว Action – Open World ที่สนุกครบเครื่องและด้วยภาพบรรยากาศในเกมทำให้เราเหมือนได้เล่นและดูภาพยนตร์ไปในเวลาพร้อมๆกัน ซึ่งจากความสำเร็จทำให้มีการสร้างภาคต่อไปอีก 2 ภาค แล้วล่าสุดกับการรีเมคและปรับปรุงใหม่ในแบบ Definitive Edition ที่ภาพคมชัดและสมจริงมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม
วันนี้เราจะไปเปิดแฟ้มเรื่องราวทั้งสามภาคของกลุ่มคนที่ตัดสินใจเลือกที่จะเข้าสู่วิถีชีวิตมาเฟียจนต้องไปพัวพันกับเรื่องราวต่างๆมากมายที่จะเปลี่ยนชีวิตของพวกเขาไปตลอดกาล…
**เนื้อเรื่องจะเน้นเส้นเรื่องหลักและอาจเปิดเผยเนื้อหาสำคัญ**
MAFIA
ทอมมี่ แองเจลโล่ (Tommy Angelo) ชายหนุ่มคนขับรถแท็กซี่หาเช้ากินค่ำในเมือง Lost Heaven ใช้ชีวิตเฉกเช่นเหมือนคนทั่วไป จนกระทั่งในค่ำคืนหนึ่ง มีชายสองคนที่ชื่อ แซม ทราพานี่ (Sam Trapani) และ พอลลี่ ลอมบาโด้ (Paulie Lombardo) สองสมุนของ ดอน เอ็นนิโอ ซาลีเอรี (Don Ennio Salieri) ที่กำลังหลบหนีแก๊งคู่อริอย่างชุลมุน แล้วบังเอิญเห็นรถทอมมี่จึงให้ตัวเอกขับหลบหนีลูกปืนจนสามารถหลบหนีมาได้ก่อนจะส่งไปยังจุดหมายของทั้งคู่ หลังจากนั้นแซมก็ยื่นซองค้างจ้างที่หัวหน้าของเขาเป็นคนจ่ายให้กับทอมมี่เป็นค่าซ่อมรถ และ กำชับไม่ให้บอกใครกับสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนี้
เมื่อกลับมาถึงบ้านเขาต้องตกใจแทบวาย เพราะเงินค่าจ้างในซองมันมากกว่าตอนที่เขาทำงานด้วยซ้ำ แต่เขาก็บอกกับตัวเองว่า จะไม่ไปยุ่งกับโลกอาชญากรรม เขาขอเลือกที่จะใช่ชีวิตสุจริตอย่างยั่งยืน ดีกว่าจะมีชีวิตร่ำรวยด้วยทางลัดและจบลงด้วยการถูกยิงตายอย่างรวดเร็ว
วันต่อมาเขากลับไปทำงานตามเดิม ทว่าในช่วงพักดื่มกาแฟหลังไปส่งลูกค้า ก็มีกลุ่มคนเข้ามาทำร้าย ซึ่งพวกเขาคือแก๊งคู่อริของ ดอน ซาลิเอรี อย่าง ดอน โมเรโล่ (Don Morello) เมื่อคืนก่อนเพราะว่าจำทะเบียนรถได้ ทอมมี่ไม่มีทางเลือกจึงวิ่งหนีสุดชีวิต ก่อนจะไปหาเพื่อขอความช่วยเหลือจากคนแถวนั้น โชคดีที่พอลลี่และแซมมาช่วยทันเวลาพอดี จนอีกฝ่ายจึงต้องถอยกลับไป
หลังจากที่เฉียดตายหวุดหวิด ทั้งคู่จึงพาทอมมี่ไปทำความรู้จักกับ ดอน ซาลีเอรี ขาใหญ่แห่งเมือง Lost Heaven และ แฟรงค์ คลอเลตติ (Frank Colletti) ที่ปรึกษาคู่กาย
เมื่อได้ฟังเรื่องราว ดอน ซาลีเอรี จะแสดงความรับผิดชอบโดยจะชดใช้เงินค่าเสียหายให้ แต่ทอมมี่ต้องการจะสั่งสอนคนที่มากระทืบเขา ทำให้อีกฝ่ายชื่นชอบความใจเด็ดของเขาเป็นอย่างมาก จึงให้เขาไปบุกถิ่นด้วยการไปเผารถและขโมยรถของดอน โมเรโล่ โดยให้ทอมมี่ไปกับพอลลี่ หนึ่งในสุมนเอกซึ่งชำนาญเส้นทางเป็นอย่างดี โดยได้รับการช่วยเหลือจาก วินเซนโซ่ (Vincenzo) หรือ วินซี่ ผู้เป็นดั่งฝ่ายอาวุธของแก๊ง และ ราล์ฟ (Ralph) ช่างผู้ชำนาญด้านเครื่องยนต์กลไกลที่บุคลิกค่อนข้างจะติดอ่าง
หลังจบภารกิจพร้อมได้รถเป็นของแถมก่อนจะกลับมารายงานให้ดอน ซาลิเอรี ทราบ ซึ่งเขาดูพอใจกับผลงานครั้งนี้มาก ก่อนที่จะเล่าให้ทอมมี่ฟังว่า ตอนนี้แก๊งของเขาวางแผนจะขยับขยายธุรกิจให้กว้างขึ้นและอยากได้คนแบบทอมมี่เข้ามาช่วยงาน ทำให้ตัวเอกของเราที่มีคติว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับโลกสีเทาอย่างอาชญากรรม จึงตอบรับข้อเสนอทันที ซึ่งลูกพี่ก็ได้เตือนกฎสองสามข้อและทิ้งท้ายว่า
ถ้าอยู่อย่างซื่อสัตย์ ไม่คิดทรยศ ชีวิตจะราบรื่นแต่ถ้าคิดไม่ซื่อคำตอบจะตรงกันข้าม เท่ากับความตายนั่นเอง
แต่พระเอกก็ให้สัญญาว่า จะไม่มีทางเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ท้ายที่สุดเขาจึงสวมกอดพร้อมบอกกับทอมมี่ว่า “ขอต้อนรับสู่ครอบครัว!”
นับตั้งแต่นั้นมาจากชายหนุ่มขับแท็กซี่ เข้าสู่โลกของมาเฟียอย่างเต็มตัวในฐานะลูกน้องของแก๊ง ซาลิเอรี ทำให้เขาได้เรียนรู้วิถีชีวิตไม่ว่าจะเรื่องการทำงาน ความซื่อสัตย์และรักพวกพ้อง เริ่มจากงานเล็กๆอย่างเก็บค่าคุ้มครอง, เป็นนักแข่งรถอาชีพในสังกัดของทีมที่ ดอน ซาลิเอรี ให้การสนับสนุนจนทำให้เขาได้พบรักกับ ซาร่าห์ หญิงสาวที่เป็นลูกของ ลุยจิ มาริโน่ (Luigi Marino) ที่กลายเป็นคู่ชีวิตในเวลาต่อมาและเขาได้ช่วยเธอให้รอดพ้นจากกลุ่มนักเลงที่ตามมาก่อกวน ซึ่งหนึ่งในนั้นมีลูกของวุฒิสมาชิกซึ่งเป็นพันธมิตรของ ดอน ซาลิเอรีจนเกิดการกราดยิงในโบสถ์ ก่อนจะได้งานภารกิจเสี่ยงตายอีกมากมายพร้อมกับแซมและพอลลี่ที่กลายเป็นเพื่อนพ้องจนเป็นกำลังสำคัญให้กับกลุ่มของซาลิเอรีเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น
ทอมมี่เป็นมาเฟีย มีความเป็นสุภาพบุรุษเจ้านักเลง เพราะคำสั่งหัวหน้าคือเด็ดขาด ไม่ว่าจะขอให้กำจัดใครก็ให้ลงมือ แต่มีสองสามครั้งที่ทอมมี่ได้ไว้ชีวิตเหยื่อ อาทิ มิตเชลล์ หญิงสาวขายบริการที่มีข้อมูลสำคัญของแก๊ง แต่เขาเลือกที่จะปล่อยให้เธอหนีไป (เหตุผลเพราะว่า แซมขอให้ไว้ชีวิตหล่อน)
ครั้งที่สองที่เขาปล่อยตัวเหยือไป ก็คือตอนที่เขาได้รับภารกิจจากลูกพี่ให้ไปกำจัด แฟรงค์ คลอเลตติ ที่ปรึกษาของแก๊งที่ถูกสงสัยว่ากำลังจะตีตัวออกจากและเขามีข้อมูลสำคัญของแก๊งที่อาจจะไปอยู่กับฝ่ายตรงข้ามหรือตำรวจ ซึ่งเมื่อได้เจอกันทำให้อีกฝ่ายได้บอกเหตุผลกับพระเอกว่า เขาเริ่มเบื่อชีวิตโลกสีเทาและไม่อยากให้ครอบครัวต้องมาลำบากเพราะเขาอีกแล้ว รวมถึงถูกข่มขู่จากตำรวจ ทำให้ทอมมี่จึงยอมปล่อยให้เขาหนีไปกับครอบครัว แต่แฟรงค์ ก็ตอบแทนน้ำใจด้วยการให้กุญแจที่ซ่อนเอกสารสำคัญก่อนจะหลบหนีไปกับครอบครัวในที่สุด
หลายปีผ่านไป จากผลงานแต่ล่ะครั้งก็ทำให้ ทอมมี่ เติบโตขึ้นจนได้กลายเป็นมือขวาคนสำคัญของ ดอน ซาลิเอรี และตอนนี้เขาก็พร้อมที่จะให้ทอมมี่ได้ทำงานใหญ่ ซึ่งจุดประสงค์คือการกำจัดศัตรูคนสำคัญอย่าง ดอน โมเรโล่ ให้ล้มหายตายจากไป ตั้งแต่การกำจัดอดีตพันธมิตรอย่างวุฒิสมาชิก โรเบอร์โต้ กิลล็อตติ (Roberto Gillotti) ผู้ที่เป็นพ่อของ บิลลี่ ลูกชายที่ถูกทอมมี่และพอลลี่กำจัดจึงจะไปอยู่กับแก๊งโมเรโล่ เขาได้จัดฉลองวันเกิด 50ปี บนเรือสำราญ ซึ่งทอมมี่ปลอมตัวเป็นกะลาสีเรือแฝงตัวไปในเรือดังกล่าว จนเมื่อถึงเวลาที่วุฒิสมาชิกได้กล่าวขอบคุณแขกที่มาร่วมงานและปิดท้ายด้วยการจุดพลุเฉลิมฉลอง จึงเป็นโอกาสทองของทอมมี่ได้ลั่นไกอย่างไม่ลังเลก่อนจะหลบหนีออกจากเรือได้สำเร็จ
ภารกิจต่อมาคือการกำจัดสุมนมือขวาคนสำคัญอย่าง เซอร์จิโอ โมเรโล่ (Sergio Morello) น้องชายของ ดอน โมเรโล่ ที่เป็นถึงประธานสหภาพฯและคุมอาณาเขตใน ท่าเรือเมือง Lost Heaven ซึ่งหลายครั้งที่แซมหรือคนอื่นๆไม่สามารถกำจัดชายคนนี้ได้ เพราะเขามักจะแคล้วคลาดทุกครั้ง โดยแผนการคือให้ทอมมี่ไปวางระเบิดที่ใต้ท้องรถของเซอร์จิโอถึงบ้านในย่าน โอ๊ควู้ด (Oakwood) แต่ทว่าทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผน เพราะเคราะห์ร้ายกลับตกอยู่ที่ภรรยาของเซอร์จิโอ้ที่จะไปทำธุระแล้วดันใช่รถที่ติดตั้งระเบิดจนทำให้เธอตายในที่สุด
ต่อมาทอมมี่จึงโทรไปแจ้งข่าวให้วินซี่ ซึ่งเผอิญเขาบอกทอมมี่ว่า แซมกับพอลลี่เจอตัวเซอร์จิโอแล้วที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ให้ทอมมี่ไปสมทบกับพวกเขาทันที
เมื่อทั้งสามคนไปถึงที่ร้าน เซอร์จิโอสั่งให้ลูกน้องของเขากำจัดทั้งสามคนก่อนที่ตัวเองจะหลบหนีเอาตัวรอด ทำให้ทอมมี่จึงใช้สกิลความถนัดในการซิ่งออกตามล่าอีกฝ่ายจนถึงท่าเรือ ทอมมี่เปิดฉากไล่ล่าแบบวินาศสันตะโร จนอีกฝ่ายเพลีjยงพล้ำไปซ่อนตัวอยู่ที่โกดังซึ่งเต็มไปด้วยถังน้ำมันจำนวนมาก ต่างฝ่ายเผชิญหน้ากันแต่เมื่อจะยิงกลับพบว่าไม่มีกระสุนทั้งคู่ เซอร์จิโอ้หัวเราะเยาะและบอกว่าไม่มีใครแตะต้องตัวเขาได้ ก่อนที่พระเอกของเราจะตอบแบบเจ็บๆว่า แกเองก็ไม่ได้โชคดีขนาดนั้น แล้วเขาก็โยนไฟแช็คลงกับพื้นที่เต็มไปด้วยถังน้ำมันจำนวนมากสังเวยชีวิตเซอร์จิโอ้ ย่างสดแล้วตามด้วยโกดังระเบิด ส่วนทอมมี่หนีตายออกมาได้อย่างหวุดหวิด
เมื่อเซอร์จิโอ้สิ้นบุญสงครามระหว่างแก๊งซาลิเอรี กับ แก็งค์โมเรโล่ ก็ได้เปิดฉากขึ้นโดยฝ่ายแรกก็ได้กวาดล้างสมาชิกคนสำคัญคนแล้วคนเล่า เหมือนเป็นการส่งคำเตือนไปยังแก๊งอื่นๆว่า หากใครที่อยู่ข้างโมเรโล่จะต้องตายอย่างทรมาน การประทะทั้งสองฝ่ายกินเวลาเป็นสัปดาห์แต่ก็ยังไม่เห็นเงาของพี่ใหญ่อย่าง ดอน โมเรโล่ เลยซักครั้ง แล้วโอกาสก็มาถึงเมื่อพวกเขาได้ข่าวว่าทางดอน ดอน โมเรโล่ จะเป็นเจ้าภาพละครเวทีการกุศล ทำให้ ดอน ซาลิเอรี ไม่พลาดโอกาสงามๆอย่างแน่นอน
พวกเขาวางแผนที่จะกำจัด ดอน โมเรโล่ และลูกน้องที่โรงละคร แต่ทอมมี่บอกว่าวันนั้นไม่ได้มีแค่แก๊งโมเรโล่ ยังมีแขกในงานซึ่งต่างก็เป็นพันธมิตรกับพวกเขาตั้งแต่ ตำรวจไปจนถึงนักการเมืองรวมถึงคนทั่วไปที่ไปชมละคร ซึ่งดอน ซาลิเอรี ก็ไม่สนใจและบอกว่าจะยกพวกไปถล่มตอนกลางวัน และ เขาไม่สนว่าจะเป็นใครแต่ถ้าเป็นพวกเดียวกับโมเรโล่มีแต่ตายสถานเดียว!
เมื่อไปถึงโรงละครทั้งสามคนพบว่า เป้าหมายเหมือนจะรู้ตัวว่ากำลังจะถูกเก็บในอีกไม่ช้าจึงตัดสินใจหลบหนีไปนอกเมือง ทำให้ทอมมี่สวมวิญญาณ ซิ่งไล่ล่าขาใหญ่อย่าง ดอน โมเรโล่ โดยมีแซมกับพอลลี่คอยยิงสกัดไม่ให้อีกฝ่ายหนี
ก่อนที่ทั้งสามจะพบว่า เป้าหมายกำลังมุ่งหน้าไปยังสนามบินเพื่อเตรียมตัวหลบหนีออกนอกเมือง แต่อุปสรรคสำคัญคือที่สนามบินมีเหล่าลูกสมุนของโมเรโล่ ต้อนรับทั้งสามด้วยลูกปืน แต่ทั้งสามก็ฟันฝ่ามาได้ ก่อนจะซิ่งไล่จี้เครื่องบินจนพวกเขาสามารถยิงเครื่องบินตกไปยังจุดนอกเมืองจนทั้งสามมาทันเวลาพอดี
พวกเขาเห็นร่างอันน่าสังเวชของโมเรโล่ที่ร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวดทรมาน ทอมมี่ จึงสาดกระสุนจนสิ้นลมหายใจและปิดฉากแก็งโมเรโล่ในที่สุด ซึ่งอีกทางด้านหนึ่ง ดอน ซาลิเอรี ก็ดื่มเหล้าและหยิบรูปที่เขาและโมเรโล่เมื่อครั้งยังเป็นเพื่อน ก่อนจะดื่มพร้อมให้คำสัญญาว่าคงได้เจอกัน (ในยมโลก)
เมื่ออดีตทั้งสองคนเคยเป็นสมุนของดอน เปปโปเน่ (Don Pepone) เจ้าพ่อเมือง Lost Heaven ในอดีตแต่หลังจากที่เขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางน้ำทำให้ทั้งสองคนจึงแบ่งเขตปกครองของตัวเอง แต่ด้วยผลประโยชน์อันมหาศาลที่เปลี่ยนจากมิตรกลายเป็นศัตรูนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ตอนนี้ ดอน ซาลิเอรี จึงกลายเป็นเจ้าพ่อเพียงหนึ่งเดียวที่ปกครองเมือง Lost Heaven ทั้งหมด วันหนึ่งทอมมี่นำเงินที่ได้จากค่าคุ้มครองมาส่งให้ แต่เจ้าพ่อกลับพบว่าในส่วนของพอลลี่กลับน้อยกว่าทุกครั้ง แต่ทอมมี่ก็เพิ่มในส่วนของตัวเอง ก่อนจะถูกตักเตือนเล็กน้อยและได้ให้งานใหม่แก่เขานั่นคือ การสังหารอดีตวุฒิสมาชิก แฮงค์ เทิร์นบูล (Hank Turnbull) ที่กำลังจะลงสมัครผู้ว่าการรัฐฯ โดยเขาได้ประกาศนโยบายจะกวาดล้างผู้มีอิทธิพลซึ่งทำให้ ดอน ซาลิเอรี ไม่พอใจและการกระทำของ แฮงค์ คือการประกาศเป็นศัตรูกับเขา จึงให้ทอมมี่ไปจัดการในวันปราศรัยของเขา
ทอมมี่ใช้คุกร้างที่อยู่อีกฟาก โดยใช้บริเวณหอคอยของผู้คุมเป็นจุดซุ่มยิง เมื่อเป้าหมายมาถึงจุดปราศรัย ทอมมี่จึงลั่นไกก่อนจะหลบหนีจากฝูงตำรวจที่รู้จุดสังหาร เมื่อกลับมาถึงบ้าน ซาร่าห์ ภรรยาของเขาถามเรื่องที่เกิดขึ้นหลังได้อ่านหนังสือพิมพ์ที่มีข่าววุฒิสมาชิกถูกยิง แต่ทอมมี่ก็ตอบไปซื่อๆก่อนจะกลับไปทำงาน ทำให้ซาร่าห์เริ่มเป็นห่วงทอมมี่มากขึ้น
จุดเปลี่ยนของทอมมี่ก็มาถึงเมื่อปี 1938 เมื่อเขาและเพื่อนซี้อย่าง พอลลี่ และ แซม ได้รับภารกิจไปขนรถบรรทุกซิการ์ซึ่งภายในรถมีเพชรที่ถูกลักลอบเป็นจำนวนมาก ซึ่งพอลลี่ก็เสนออีกงานหนึ่งซึ่งเป็นงานลับที่พวกเขาอยากทำนั่นคือการปล้นธนาคารใหญ่ ซึ่งทอมมี่ไม่เห็นด้วยเพราะมันนอกหน้าที่แถมถ้าลูกพี่รู้เรื่องคงโดนเล่นงานแถมโดนขึ้นบัญชีดำ แต่ก็ให้ทางเลือกคือไปเสนอกับลูกพี่หรือกลับมาสนใจงานตรงหน้า ทำให้พอลลี่เลือกข้อหลังและวางแผนงานนี้ต่อ
เมื่อไปถึงจุดหมายซึ่งเป็นโกดังจุดขนส่งสินค้าของศุลกากร ทอมมี่จึงเสี่ยงตายกับเส้นทางอันซับซ้อนจนหาคลังสินค้าซิการ์ที่ลูกพี่สั่งไว้ ก่อนที่เพื่อนทั้งสองจะช่วยกันลำเลียงของก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาเห็น แต่โชคร้ายที่สัญญาณเตือนดังขึ้นทำให้ทั้งสามต้องหาทางออก ก่อนจะกลับมายังจุดที่ลูกพี่นัดไว้ เมื่อเปิดออกดูกลับพบว่า ภายในคลังซิการ์ไม่มีเพชร แต่กลับมีห่อยาเสพติดเป็นจำนวนมาก ทำให้พอลลี่รู้สึกว่าหัวหน้าให้ทั้งสามเสี่ยงตายเพื่อมาเอาของชิ้นนี้ เมื่อลูกพี่ของพวกเขามาถึงก็เข้ามาเช็คของซึ่งก็ให้ทั้งสามกลับไปพักผ่อน จนเมื่อหัวหน้ากลับไป พอลลี่ เลยรู้ว่าหัวหน้าเริ่มเล่นไม่ซื่อ ก่อนจะชวนให้ทอมมี่กลับมาที่ภารกิจที่อยากจะทำนั่นคือปล้นธนาคาร
เหตุผลของพอลลี่คือ แกอยากจะตั้งตัวและจากภารกิจครั้งนี้ทำให้พวกเขาเลือกที่รวยทางลัดก่อนจะโน้มน้าวให้ทอมมี่รวมงานด้วย พร้อมจะแบ่งส่วนให้หลังจบภารกิจ จึงทำให้ได้เห็นอีกมุมของพอลลี่ที่ภายนอกเหมือนจะเข้มแข็งแต่ลึกๆค่อนข้างจะอ่อนไหวและกดดัน จนในที่สุดทอมมี่ยิ้มให้เหมือนเป็นสัญญาณว่าตกลง
วันต่อมาทั้งสองคนก็ทำการปล้นธนาคารตามที่วางแผนไว้ แม้จะไม่เป็นไปตามที่หวังแต่พวกเขาก็สามารถขนเงินจำนวนหนึ่งหลบหนีออกมาได้สำเร็จ พอลลี่ซาบซึ่งในนำใจของทอมมี่ที่ยอมทำงานชิ้นนี้เท่ากับว่าตอนนี้พวกเขามีเงินพอที่จะไปตั้งตัวใหม่ได้ ก่อนจะนัดเจอกันเพื่อแบ่งเงินตามที่สัญญากันไว้ ก่อนที่พอลลี่จะยิ้มร่าอย่างมีความสุข เพราะกำลังจะเป็นเศรษฐี
วันรุ่งเช้าทอมมี่เดินทางไปหาพอลลี่เพื่อมารับเงินตามที่ตกลงและได้บอกซ่าราห์ว่าหลังรับเงินแล้วจะพาครอบครัวไปเที่ยว แต่ซาราห์เอะใจเหมือนมีลางสังหรณ์ที่ทำให้ทอมมี่เจ็บปวด แต่เขาก็ยิ้มให้ภรรยาสุดทีรักก่อนจะไปหาพอลลี่ทันที เมื่อเขาไปถึงบ้าน เขาก็ต้องเจอกับภาพไม่คาดคิดเพราะว่าเพื่อนซี้ของเขาสิ้นลมหายใจจมกองเลือด แต่ที่แย่ไปกว่านั้นเงินที่ปล้นถูกขโมยไป ซักพักแซมก็โทรมาแจ้งข่าวว่าลูกพี่อย่าง ดอน ซาลิเอรี รู้เรื่องที่ทั้งสองปล้นธนาคารครั้งก่อน และให้ทอมมี่หนีออกไปจากเมือง แต่ทอมมี่บอกจะขอยืมเงินก้อนหนึ่งก่อน แซมเลยนัดให้ไปเจอที่หอศิลป์ในตัวเมือง
เมื่อไปถึงหอศิลป์ตามที่นัดไว้ เขาก็ได้พบกับแซม แต่ว่าแซมกลับโยนเงินโปรยใส่เขา ก่อนจะบอกความจริงว่า เขาเป็นคนสังหารพอลลี่และปล้นเงิน รวมถึงบอกว่า ดอน ซาลิเอรี รู้เรื่องทุกอย่างที่ทอมมี่ทำหมดแล้ว ก่อนจะสั่งลูกน้องให้กำจัดทอมมี่ จนเกิดการยิงอย่างดุเดือด ในที่สุดทอมมี่ก็จัดการเพื่อนทรยศอย่างแซมจนสิ้นลาย แต่ก่อนตายก็ยื่นข้อเสนอ และเยาะเย้ยว่าเขาจะคงไม่ฆ่าเพื่อนคนนี้ได้ลงคอ แต่ทอมมี่ก็เลือกจะปลิดชีพลั่นกระสุนใส่แซมสองสามนัด แล้วทิ้งปืนหลบหนีไปโดยทิ้งศพเพื่อนทรยศไว้เบื้องหลัง
หลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้เขาตัดสินใจพาครอบครัวหนีไปอยู่ยุโรป ก่อนที่ในปีเดียวกันเขาตัดสินใจที่จะลบล้างความผิดที่ตัวเองได้ทำจึงติดต่อนักสืบนอร์แมนมาพูดคุยพร้อมเปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลไปสู่การกวาดล้างแก๊งดอน ซาลิเอรี เพื่อแลกกับการที่นอร์แมนจะคุ้มกันเขาและครอบครัวในฐานะพยาน ซึ่งทอมมี่มีข้อมูลต่างๆสำคัญของแก๊งแบบหมดเปลือกก่อนจะส่งให้กับนอร์แมนในที่สุด
เพราะข้อมูลที่ทอมมี่ได้มอบให้กับนักสืบนอร์แมนทำให้ทางการสามารถจับกุมสมาชิกของแกงค์ซาลิเอรีแบบถอนรากถอนโคน ส่วนตัวทอมมี่ก็ต้องชดใช้ความผิดในคุกเป็นเวลาถึง 8ปี ก่อนจะได้รับอิสรภาพและเริ่มต้นชีวิตใหม่ในฐานะสามีและพ่อที่ดีของลูกๆในวันที่พวกเขากำลังจะมีครอบครัว พร้อมกับย้ายมาอยู่ในเมือง Empire Bay อย่างมีความสุข
ในยามบ่ายที่แสงแดดสอดส่องไปทั่วเมือง Empire Bay ทอมมี่ที่กำลังรดน้ำสวนหน้าบ้าน จู่ๆก็มีรถสีแดงคันหนึ่งจอดหน้าบ้านของเขา ก่อนที่ร่างของชายฉกรรจ์สองคนจะเข้าไปทักทายและถามว่า เขาชื่อ ทอมมี่ แองเจลโล่ ใช่หรือไม่ ก่อนที่ทอมมี่จะตอบสั้นๆว่าใช่ ก่อนที่ชายคนนั้นจะพูดกับเขาว่า
“คุณซาลิเอรี ฝากความคิดถึงมาหาคุณ!”
ปัง!
แล้วชายอีกคนก็ลั่นกระสุนใส่ทอมมี่อย่างเลือดเย็น เสียงปืนทำให้ซาราห์และลูกๆรีบวิ่งเข้ามาดูอาการทอมมี่ที่เสียเลือดอย่างหนักก่อนจะสิ้นใจต่อหน้าครอบครัวในที่สุด ปิดฉากชีวิตของชายที่ชื่อ ทอมมี่ แองเจลโล่ พร้อมวลีสุดท้ายที่เขาเอ่ยช้าๆว่า
“จำไว้นะ…เงิน อาชีพ หรือแม้แต่เพื่อนสนิท สิ่งเหล่านี้มันมาแล้วจากไป แต่ครอบครัวจะอยู่กับเราชั่วนิรันดร์”
MAFIA 2
ในยามค่ำคื่นท่ามกลางสายฝน วีโตริโอ้ อันโตนิโอ สกาเล็ตต้า (Vittorio Antonio Scaletta) หยิบอัลบั้มรูปมานั่งดูเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทำให้เราได้รู้ว่าเขาและครอบครัวตัดสินใจมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ประเทศอเมริกาโดยย้ายมาอาศัยอยู่ในเมือง Empire Bay เมื่อพวกเขามาถึง ภาพวาดอันสวยหรูถูกพังทลายลงด้วยสภาพแวดล้อมตรงหน้า วีโต้และครอบครัวก็ยังคงเผชิญกับความยากลำบากต่อไป พ่อของเขาทำงานที่ท่าเรือแต่รายได้กลับไม่เพียงพอที่จะเลี้ยงปากท้องครอบครัว
เมื่อชีวิตไม่มีทางเลือกเขาจึงเริ่มเข้าสู่ถนนโลกอาชญากรด้วยการเป็นหัวขโมยพร้อมกับเพื่อนสนิทที่ชื่อว่า โจ บาร์บาโร่ (Joe Barbaro) วันหนึ่งขณะที่ปล้นของในร้านแห่งหนึ่ง วีโต้ เสียท่าถูกตำรวจจับกุมเสียก่อน ตอนนั้นเขามีสองทางเลือกคือจะยอมติดคุกหรือจะออกไปรับใช้ชาติ เนื่องจากช่วงเวลานั้นเป็นช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ทางกองทัพสหรัฐฯต้องการคนที่สามารถพูดภาษาอิตาลีได้ เขาจึงเลือกอย่างหลังจนได้เป็นพลทหารสังกัดพลร่ม 504 เข้าร่วมปฏิบัติการณ์ในชื่อ Operation Husky
เมื่อถึงวันปฏิบัติการเขาพร้อมกองกำลังชาวบ้านอาสาเข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกกองกำลังอิตาลีควบคุม วีโต้เสียท่าและกำลังจะถูกยิง โชคเข้าข้างเมื่อ ดอน คาร์โล (Don Carlo) มาเฟียแห่งซิซิลีเข้ามาเจรจาสงบศึกทำให้กองทัพอิตาลีจึงยอมปลดอาวุธในที่สุด หลังจากภารกิจครั้งนี้เขาได้ออกรบอีกครั้ง แต่เขาได้รับบาดเจ็บก่อนที่จะกลับมารักษาตัวที่บ้านในเวลาต่อมา
เมื่อวีโต้กลับมาถึงบ้าน โจ เพื่อนรักก็มาต้อนรับเขาก่อนที่จะไปหาอะไรดื่มที่บาร์ตามประสาเพื่อนและได้พูดคุย ซึ่งโจก็ได้มอบของขวัญให้เพื่อน ด้วยการใช้เส้นสายคนรู้จักจนสามารถออกเอกสารนำปลด ทำให้วีโต้ไม่ต้องกลับไปรบอีก พวกเขาใช้เวลาพูดคุยซักพักหนึ่ง ก่อนที่วีโต้จะกลับไปหาครอบครัวที่กำลังรอเขาอยู่และ บอกพรุ่งนี้จะนัดมาเจอกันอีก
เมื่อวีมาถึงบ้าน แม่และ ฟรานเชสก้า พี่สาว ทั้งคู่ดีใจที่เขากลับมาก่อนจะร่วมรับประทานอาหารค่ำร่วมกัน แล้ววีโต้ขอตัวไปงีบหลังจากเหนื่อยจากการเดินทางอย่างยาวนานจนถึงเช้าวันใหม่ต่อมา แม่ก็ได้ถามว่าเขาต้องกลับไปรบอีกไหม ซึ่งวีโต้บอกว่าโจจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย ซึ่งทุกครั้งที่วีโต้เอ่ยชื่อเพื่อนคนนี้ ทำให้แม่กังวลว่าเขาและโจอาจจะไปก่อปัญหาเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา จึงขอร้องให้วีโต้ไปหาชายที่ชื่อ พัพพาลาโด้ ซึ่งเคยเป็นเจ้านายเก่าของพ่อที่ท่าเรือเพื่อของานทำ โดยวีโต้รับปากว่าจะไปคุยกับเขาแน่นอน
พอออกจากบ้านได้ไม่กี่ก้าว วีโต้เห็นชายคนหนึ่งมาข่มขู่พี่สาวจึงสอนมวยไป ก่อนจะถามพี่สาวเกิดอะไรขึ้น ก็ได้คำตอบว่าตอนที่วีโต้ไปรบ พ่อของเขาได้กู้เงินจำนวน 2,000 เหรียญกับนายหน้ารายหนึ่ง ซึ่งหลังจากพ่อเสียชีวิต หนี้จึงสะสมมากขึ้นเรื่อยๆทุกอาทิตย์ วีโต้ได้ยินเช่นนี้จึงบอกพี่สาวว่า เดียวจะจัดการเรื่องหนี้สินที่บ้าน แล้วคนที่จะช่วยได้จะเป็นใครได้ ถ้าไม่ใช่โจเพื่อนรักของเขา
เมื่อไปถึงที่พักของโจ วีโต้ก็เล่าเรื่องราวที่บ้านให้ฟัง ซึ่งโจก็ยินดีช่วยเหลือ โดยเริ่มต้นเขาพาวีโต้ไปหา กิลเซ็ปเป้ (Giuseppe ) อดีตนักเจาะเซฟที่ผันเปิดร้านขายของให้กับเหล่าโจรแล้วเป็นเขาที่จัดการเรื่องเอกสารนำปลดของเขา จากนั้นก็พาไปหา ไมค์ บรุซกี้ (Mike Bruski) เจ้าของเซียงกงที่รู้จักกับโจเป็นอย่างดี โดยไมค์ได้มอบงานให้วีโต้ไปหารถยนต์ยี่ห้อ Walter Coupe สภาพดีเพื่อที่ไมค์จะแยกชิ้นส่วนไปขายต่อโดยจะให้ค่าจ้าง 400 เหรียญ
งานแบบนี้สำหรับวีโต้ไม่มีปัญหาเพราะคุ้นเคยงานลักขโมยจึงรับงานนี้ทันที โจได้ให้ปืนไว้กระบอกหนึ่งเอาไว้ป้องกันตัวเพราะเมื่อไปถึงพบว่ารถเป้าหมายจอดอยู่ที่บาร์ Lone Star ซึ่งเป็นละแวกของคนผิวสี วีโต้ใช้ประสบการณ์ที่มีสามารถขโมยรถมาส่งให้ไมค์ในสภาพไม่บุบสลาย ก่อนจะจ่ายค่าจ้างตามสัญญาแต่โจขอหักเงิน 100 เหรียญเป็นค่าคนกลาง ก่อนที่ทั้งคู่จะกลับบ้านเป็นอันจบงาน วีโต้จึงขออาศัยอยู่ที่บ้านโจด้วย
วันรุ่งเช้าแม่โทรมาหาวีโต้เพื่อถามว่าเขาได้ไปคุย เรื่องงานท่าเรือหรือยัง เขาตอบแม่ว่าวันนี้เขาจะไปคุยทันที เมื่อไปถึงวีโต้ก็ได้เจอกับ พัพพาลาโด้ ซึ่งอีกฝ่ายแนะนำว่าเขาชื่อ เฟเดริโก พัพพาลาโด้ (Federico Pappalardo) หรือเรียกชื่อเล่นว่า เดเร็ค (Derek) เขาเป็นหัวหน้าคุมท่าเรือควบตำแหน่งหัวหน้าสหภาพแรงงานใน Empire Bay อีกตำแหน่ง
วีโต้เล่าให้เดเร็คว่า เขาจะมาของานทำที่นี่ ซึ่งอีกฝ่ายกำลังหาแรงงานขนของพอดีจึงให้ สตีฟ (Steve) ลูกน้องของเขาพาไปจุดที่ทำงาน โดยบอกว่าเขาจะต้องขนของขึ้นรถบรรทุกให้หมดจะได้ค่าแรง 10เหรียญ ถ้าทำหักหรือเสียหายจะไม่จ่ายแม้แต่เหรียญเดียว แม้ว่าจะเป็นงานสุจริตแต่รายได้ก็ไม่ตอบโจทย์ที่ต้องการจึงขอลาออก สตีฟก็เย้ยหยันว่าก็ออกไปแล้วไม่ต้องมาให้เห็นหน้าอีก แต่พอวีโต้ตอบประชดว่าผมทำงานกับโจ บาร์บาโร่ได้เงินมากกว่านี้อีก
สตีฟเลยถามว่ารู้จักกับโจด้วยหรือ พอตอบว่าใช่จึงพาเขาไปหาเดเร็คซึ่งตอนแรกเขาไม่เชื่อว่าไอ้หน้าหล่อคนนี้เป็นเพื่อนกับโจ จึงให้วีโต้เล่าที่มาที่ไปก่อนจะโทรศัพท์ไปหาโจทันที เมื่อได้รับคำตอบที่ชัดเจน ก็เลยมอมหมายงานให้วีโต้ไปเก็บค่าตัดผมรายเดือน (ค่าคุ้มครอง) จากคนงานท่าเรือ ซึ่งบางคนก็ยอมจ่าย บางคนอยากหาเรื่องซึ่งวีโต้ก็สั่งสอนไป ก่อนจะได้ค่าตัดผมส่งให้เดเร็ค ซึ่งอีกฝ่ายชื่นชอบในตัวของเขามากจึงแบ่งส่วนพร้อมโบนัส ก่อนจะให้วีโต้ฝากบอกแม่ได้เลยว่าตั้งแต่วันนี้เขาจะได้ทำงานเป็นผู้ช่วยของเขา และบอกอีกว่าโจ เพื่อนรักของเขานัดเจอกันที่ Freddy’s Bar
เมื่อไปถึงที่ร้านซึ่งโจมารอก่อนหน้านี้ ก็ได้รู้ว่าที่นัดมาวันนี้เพื่อมารับงานอีกชิ้นและเป็นที่ไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ก่อนที่วีโจะได้รู้จักกับ เฮนรี่ โทมาซิโน่ (Henry Tomasino) เพื่อนสนิทอีกคนของโจแล้วเขาเป็นหนึ่งในสมาชิกของแก๊งมาเฟียที่ชื่อว่า ดอน อัลเบอโต้ เคลเมนเต้ (Don Alberto Clemente) ชายผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในย่าน Empire Bay
เฮนรี่เสนองานให้วีโต้ทำ นั่นคือ การขโมยแสตมป์น้ำมันที่สำนักงานควบคุมราคาของรัฐ และให้วีโต้เป็นคนทำเพียงคนเดียวโดยได้ติดต่อเจ้าหน้าที่สำนักงานที่รู้จักเส้นทางโดยแลกให้ขับรถไปส่งโรงพยาบาลซึ่งตั้งอยู่จุดเดียวกับตึกสำนักงานพอดี เมื่อได้แสตมป์มาแล้วจึงกลับมาหาเฮนรี่อีกครั้ง คราวนี้ก็ต้องเจอปัญหาใหม่ เพราะแสตมป์เหล่านี้จะหมดอายุภายในเที่ยงคืน หมายความว่าวีโต้จะต้องเอาไปขายตามปั้มต่างๆภายในเวลาจำกัด ซึ่งวีโต้ก็จัดการเรียบร้อย
การขโมยแสตมป์น้ำมัน อาจเรียกได้ว่าเป็นงานแรกที่วีโต้และโจเข้าสู่ถนนสายมาเฟียครั้งแรก และก็ส่งผลกระทบในชีวิตให้กับวีโต้ในเวลาต่อมา…
หลังจากนั้นวีโต้และโจก็ได้งานจากกลุ่มเคลเมนเต้หลายครั้ง โดยมีเฮนรี่เพื่อนรักทั้งสองคอยบอกรายละเอียดให้ ตั้งแต่การไปปล้นร้านเพชรที่ได้ยืมเงินแก๊งแต่ไม่ยอมชำระหนี้ ซึ่งก็มีกลุ่มโจรไอริชที่ชื่อ ไบรอัน โอ’นิล (Brian O’Neill) มาปล้นที่ร้านเดียวกันจนเกิดการยิงแล้วมีตำรวจมาผสมโรง ท้ายสุดกลุ่มโจรไอริชติดคุกตามระเบียบ
งานต่อมาคราวนี้เสี่ยงขึ้นและทั้งสองก็ได้รู้จักกับมือขวาของ ดอน เคลเมนเต้ ที่ชื่อว่า ลูก้า กูเรโน่ (Luca Gurino) ซึ่งประทับใจทั้งสองคนจากงานครั้งก่อน และบอกว่าถ้างานนี้ทำสำเร็จพวกเขาจะมีโอกาสได้เป็นส่วนหนึ่งของแก๊งเคลเมนเต้ในอนาคต
เฮนรี่ได้อธิบายต่อจากนี้ว่าคนที่จะไปเก็บคราวนี้เป็นคนที่แก๊งต้องการกำจัดที่ชื่อ ซิดนีย์ เพน (Sidney Pen) แต่ยังไม่มีใครจัดการได้ เฮนรี่ วางแผนที่จะให้สองคนช่วยโดยให้เฮนรี่ไปรับปืนกล MG-42 จากร้านขายปืนของแฮรี่ ทหารผ่านศึกทีได้เจอเขาด้วยความเป็นชายชาติทหารจึงถูกชะตาก่อนจะคุยย้อนความหลัง ก่อนที่วีโต้จะขนปืนไปยังห้องพักที่เฮนรี่จองไว้เป็นจุดโจมตี
วีโต้กับเฮนรี่ได้รู้จักกันมากขึ้นในฐานะเป็นคนบ้านเดียวกัน (ชาวซิซิลี) แต่ยังไม่ทันได้คุยทั้งคู่เปิดฉากโจมตีซิดนีย์จนหมดทางสู้ แต่เฮนรี่พลาดท่าโดนอีกฝ่ายยิงที่ขา ก่อนที่โจกับวีโต้จะสาดกระสุนใส่เอาคืน ทั้งสองรีบไปดูอาการเฮนรี่ที่เสียเลือดก่อนจะให้วีขับไปหาคนที่ชื่อ เอล เกรโก้ (El Greco) หมอฝีมือดี เมื่อมาส่งเฮนรี่เรียบร้อย เขาให้เงินจำนวน 2,000 เหรียญกับวีโต้ ก่อนที่จะนำเงินก้อนนี้ไปให้พี่สาวของเขาชำระหนี้ต่อไป
วันต่อมาขณะที่วีโต้จะออกไปข้างนอก เขาเริ่มสังเกตว่ามีชายสองสามคนมารอเขาอยู่ ก่อนจะแสดงตัวว่าเป็นตำรวจเขาจึงถูกจับกุมทันทีในข้อหาขายแสตมป์น้ำมันผิดกฎหมาย ช่วงที่ถูกฝากขัง เฮนรี่ก็ประสานไปยังกลุ่มของเคลเมนเต้ให้จัดหาทนายมือดีมาช่วยเขาในชั้นศาล แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ในที่สุดเขาถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา10 ปี และจะถูกส่งไปอยู่ในเรือนจำของรัฐ
ชีวิตในคุกของวีโต้องเจอเรื่องราวสารพัดต่างๆมากมาย ทั้งโดนผู้คุ้มกลั่นแกล้งทำร้าย เจอคู่อริเก่าอย่างไบรอัน โอ’นิล หรือเจอขาใหญ่ในคุกเรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่เขาทรมานและเจ็บปวดที่สุด แต่ไม่แย่เท่ากับได้รับจดหมายจากพี่สาวที่ส่งข่าวว่าแม่อันเป็นที่รักของเขาได้จากไปอย่างสงบ โดยที่เขาไม่มีโอกาสได้บอกลา
ช่วงที่อยู่ในคุกนี่เองที่ทำให้วีโต้ได้เจอคนสำคัญที่อาจเรียกได้ว่าเป็นครูที่สอนวิถีชีวิตมาเฟียให้กับเขาอย่างแท้จริง เขามีนามว่า ลีโอ แกรนเต้ (Leo Glante) ซึ่งเคยเห็นเขาจากตอนทะเลาะวิวาทกับมิคกี้ ก่อนที่จะถ่ายทอดวิชาหมัดมวยให้ ด้วยอุปนิสัยบางอย่างในวีโต้ ทำให้เขาดูแลดั่งลูกชายคนหนึ่ง ก่อนที่จะใช้อำนาจของตนให้เขามาอยู่ในบริเวณเดียวกับเขา
ลีโอได้ฟังเรื่องราวของวีเกี่ยวกับเคลเมนเต้ จึงรู้ว่าวีโต้โดนแก๊งนี้หลอกให้ทำงานและถูกทิ้งไว้กลางทาง และการที่เขาต้องติดคุกก็มาจากฝีมือทนายที่ไม่ได้เรื่อง มาช่วยเพื่อไม่ให้สืบถึงตัวเคลเมนเต้นั่นเอง แล้วเขาได้เล่าว่า ในย่าน Empire Bay ไม่ได้มีเพียงเคลเมนเต้ที่คุมย่านแห่งนี้เพียงคนเดียว ยังมีอีกสองคนที่เข้ามาควบคุมเขตนี้เช่นกัน คนแรกคือ แฟรงก์ วินซี่ (Frank Vinci) มาเฟียอนุรักษ์นิยมที่ยึดมั่นในกฎเกณฑ์กับขนบธรรมเนียม ซึ่งลีโอเป็นที่ปรึกษาให้เขาอยู่ ส่วนอีกคนคือ คาร์โล ฟาโคน (Carlo Falcone) มาเฟียสายเลือดใหม่ที่กำลังมาแรงในตอนนี้ ทั้งสามแก๊งต่างแบ่งเขตในจุดรับผิดชอบของใครของมัน แล้วถ้ามีเรื่องที่ผิดพลาดหรือสำคัญก็จะมาประชุมเพื่อหาข้อสรุปนั่นเอง
สี่ปีผ่านไป วีโต้ได้รับความช่วยเหลือจากลีโอจนสามารถออกจากคุกก่อนกำหนด เมื่ออกมา โจ เพื่อนซี้ก็รับขวัญทั้งอาวุธปืน เงินขวัญถุงเล็กน้อยและซื้อที่พักใหม่ให้ แต่ที่วิเศษสุดคือ โจได้พาวีโต้ไปรู้จักกับ เอ็ดดี้ สคาร์ปา (Eddie Scarpa) สมุนมือขวาของ คาร์โล ฟาโคน เพราะว่าช่วงที่วีโต้ติดคุก เขาได้ย้ายไปอยู่กับกลุ่มของฟาโคนและได้ขอให้รับวีโต้เข้ากลุ่มด้วย
ทั้งสามได้ไปดื่มสังสรรค์ เอ็ดดี้ ก็ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นประกอบว่าแก๊งกำลังจะขยับขยายจึงอยากให้วีโต้มาร่วมด้วย ซึ่งวีโต้ก็ยินดีก่อนที่ทั้งสามจะดื่มเป็นการเริ่มต้นมิตรภาพต่อจากนี้ หลังจากนั้นเอ็ดดี้ได้ขอให้วีโต้ขับไปยังยอดเขาบริเวณใกล้หอดูดาวของเมือง เพื่อมาฝังศพคนที่เขากำจัดจนมีกลิ่นชวนอาเจียน ก่อนจะจัดการฝั่งศพและไปส่งทั้งคู่และกลับบ้านไปพักผ่อน
วีโต้และโจก็เริ่มทำงานในกลุ่มใหม่เริ่มจากงานเล็กๆตั้งแต่กำจัดแก๊งเด็กซิ่งที่ถล่มรถบรรทุกขายบุหรี่ของเอ็ดดี้ ก่อนจะไปสมทบกับสตีฟ ลูกน้องของ เดเร็ค เพราะดันมีศัตรูคนเดียวกัน ก่อนจะไล่ยิงกวาดล้างจนหมดสิ้นแล้วนำรถไปขายต่อได้กำไรงามๆ ตามมาด้วยการไปช่วยสมาชิกคนสำคัญของแก๊ง ฟาโคนที่ถูกจับกุมด้วยฝีมือของ ลูก้า คนของแก็งค์ดอน เครเมนเต้ เป็นโอกาสดีที่ทำให้เขาได้ล้างแค้นคนที่ทำให้เขาต้องติดคุกฟรีๆ
หลังจบทั้งสองงานเขาและโจก็ได้เข้าร่วมที่ประชุมของแก๊งในช่วงค่ำๆ ซึ่งในที่ประชุมต่างเต็มไปด้วยคนที่วีโต้คุ้นเคย ก่อนที่คาร์โล จะให้ทั้งสองคนทำพิธีสาบานตนว่าต่อจากนี้พวกเขาจะต้องอยู่ในคำสั่ง หากคิดขัดขืนหรือทรยศก็จะเท่ากับความตายนั่นเอง นับตั้งแต่นั้นมาทั้งสองคนจึงกลายเป็นสมาชิกใหม่ของแก๊ง ดอน ฟาโคน อย่างเต็มตัว แล้วชีวิตของทั้งคู่ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากได้เข้าแก็งค์ทั้งสองคนก็ได้งานใหญ่ทันที นั่นคือการสังหาร ดอน เคลเมนเต้ ซึ่งจะมีการประชุมใหญ่ของแก๊งที่โรงแรม Empire Arms โดยจะไปวางระเบิดที่ห้องประชุม งานนี้ มาร์ตี้ (Marty) เป็นคนขับรถ ซึ่งวีโต้กังวลว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บเพราะงานนี้มันอันตรายเป็นอย่างมาก
ทุกอย่างเป็นไปตามแผนพวกเขาปลอมตัวเป็นคนเช็ดกระจกโรงแรม เมื่อสบโอกาสก็ทำการติดตั้งระเบิด แต่หัวหน้าตัวพ่ออย่างเคลเมนเต้กลับดวงแข็งก่อนจะหลบหนี ทั้งสองคนจึงยิงฝ่าวงล้อมกลับไปที่โรงจอดรถ แต่ว่าโจต้องของขึ้นเพราะว่ามาร์ตี้ถูกยิงเสียชีวิต ก่อนที่ทั้งสองจะซิ่งตามล่าเคลเมนเต้ ในที่สุดโจจึงสาดกระสุนไม่ยั้งใส่เคลเมนเต้จนไร้สิ้นวิญญาณ แต่ก็ไม่สามารถช่วยมาร์ตี้ฟื้นขึ้นมาได้ เขารู้สึกเสียใจ ก่อนจะไปเมาในบาร์แห่งหนึ่งในช่วงกลางดึก ทำให้เจ้าของร้านต้องโทรไปปลุกวีโต้ให้มารับ แต่ว่าโจเมาหนักไปหน่อยจนเผลอยิงเจ้าของร้าน ทำให้วีโต้ต้องไปส่งโกลับบ้านแล้วทำลายหลักฐานกว่าจะถึงบ้านก็รุ่งสางเสียแล้ว
จากเหตุระเบิดตึกโรงแรม Empire Arms กับ ข่าวการตายของดอน เคลเมนเต้ ทำให้ตอนนี้สถานะแก๊งกระจัดกระจายไปทั่ว หนึ่งในนั้นคือ เฮนรี่ เพื่อนซี้ของเขาที่มาขอความช่วยเหลือด้วยการให้เขาไปเป็นสมาชิกแก๊งของฟาโคนผ่านเอ็ดดี้ ซึ่งอีกฝ่ายก็เห็นหน่วยก้านประกอบกับวีโต้รับรองให้ เอ็ดดี้จึงพิสูจน์ด้วยการให้เฮนรี่ไปสังหาร ลีโอ แกรนเต้ ทันที วีโต้ได้ยินก็พยายามจะหาทางอื่น
ในเมื่อคำสั่งหัวหน้าคือสิ้นสุด วีโต้จึงรีบไปที่บ้านของลีโอเพื่อแจ้งข่าว ซึ่งลีโอก็ให้วีโต้สงบสติอารมณ์เพราะรู้เรื่องอยู่แล้วว่าซักวันต้อมีคนเก็บเขา แต่ทว่าเฮนรี่มาถึงเสียก่อน วีโต้จึงพยายามหาทางแต่เฮนรี่จับได้เสียก่อน หลังจากนั้นวีโต้พยายามยกเหตุผลอธิบายเฮนรี่ แต่อีกฝ่ายก็ต้องทำจนทำให้ลีโอบอกวีโต้ว่าไม่เป็นไร ก่อนที่เฮนรี่จะให้วีไปรอข้างนอก เพราะอาจจะเป็นการพบครั้งสุดท้าย
แต่เมื่อเฮนรี่ออกมากลับพบว่าลีโอกำลังดื่มอย่างสบายอารมณ์ ก่อนที่จะบอกว่าเขาได้ตกลงกับเฮนรี่ว่าจะหลบหนีไปจากเมืองนี้ซักพักหรืออาจจะอยู่ยาวจนบั้นปลายชีวิตที่ Lost Heaven เมื่อมาถึงสถานีเขาได้ขอให้วีโต้รับปากว่าจะไม่เสี่ยงอะไรแบบนี้เพื่อเขาอีก ก่อนที่วีโต้จะรับปากแล้วกลับบ้าน
เมื่อกลับมาถึงบ้านเขาพบว่าพี่สาวนั่งรอเขาด้วยท่าทีหวาดกลัวและเสียใจ ก่อนจะเล่าให้น้องชายฟังว่าเธอถูกแฟนทำร้ายร่างกาย วีจึงออกไปสั่งสอนแม้เธอจะห้ามปรามให้ตักเตือน แต่เมื่อคนที่ทำร้ายเป็นพี่สาววีจึงบุกถ้ำเสือก่อนจะอัดจนแฟนของพี่สาวสิ้นลายและเตือนว่าถ้ามีอีกครั้งเขาจะเล่นงานจนถึงตาย เมื่อกลับไปบ้านก็ได้รับโทรศัพท์จากพี่สาว ก่อนจะบอกว่าตั้งแต่นี้ไม่ต้องมายุ่งกันอีก
พอตกดึก วีโต้ ก็ถูกแก็งค์ของมิคกี้ที่ตอนนี้มีหัวหน้าคือ มิคกี้ เดสมอนด์ (Mickey Desmond) ลูกพี่ลูกน้องของไบรอันพร้อมลูกน้องทำการวางเพลิงบ้านวีโต้ จนพระเอกของเราต้องทิ้งทุกอย่างแล้วไปขอความช่วยเหลือจากโจทันที ซึ่งโจทราบเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนจะโทรไปเช็คจนได้พิกัดของกลุ่มของมิคกี้ ทั้งคู่จึงบุกกราดยิงถึงที่ร้านก่อนจะดับชีวิตมิคกี้ไปอีกคน หลังเสร็จภารกิจโจให้กุญแจบ้านของมาร์ตี้กับวีโต้ไปอยู่ชั่วคราวก่อน
วันรุ่งเช้าเฮนรี่ โจ กับ วีโต้ มาที่สวนสาธารณะ ก่อนจะเล่าว่าตอนนี้ทั้งสองแก็งค์อย่าง วินซี่ กับ ฟาร์โน มีความคิดที่จะทำธุรกิจต้องห้ามอย่างยาเสพติด ซึ่งลีกๆแล้วต่างคนก็คิดจะทำโดยเฉพาะฟาร์โคนที่ทำให้ต้องกำจัดเคลเมนเต้ ในเวลาต่อมา ซึ่งเฮนรี่มีความคิดที่จะขายเฮโรอีน โดยจะทำธุรกิจร่วมกับแก๊งมาเฟียชาวจีน เมื่อบวกลบตัวเลขมีแต่ได้กับได้
โดยขั้นแรกไปกู้เงินทุนซึ่งเฮนรี่ได้ทำการติดต่อกู้เงินกับ บรูโน่ (Bruno) นายหน้าผู้ปล่อยดอกเบี้ยมหาโหด ก่อนจะให้เงินจำนวน 20,000 เหรียญเป็นทุนตั้งตน ก่อนจะไปซื้อเฮโรอีนจากแก๊งมาเฟียจีนที่มีหัวหน้าที่ชื่อ มิสเตอร์หว่อง ก่อนจะได้เฮโรอีนสองกระเป๋า แล่วเอาไปขายตามที่ต่างๆแม้จะทำกำไรได้ แต่พวกเขาต้องขายให้ได้เงินมากพอที่จะคืนบรูโน่อีกด้วย
การค้าเป็นไปอย่างราบรื่นจนกระทั่งวีโต้ได้ข่าวจากเฮนรี่ว่า ฟาร์โคน รู้เรื่องที่ทั้งสามค้ายาและกำลังจะขอส่วนแบ่ง ก่อนจะไปกับโจตามจุดที่เฮนรี่นัด เมื่อไปถึงกลับพบว่าเพื่อนซี้ของเขากำลังถูกพวกมาเฟียจีนฆ่าอย่างเลือดเย็น เมื่อไปช่วยก็สายเสียแล้วเพราะ เฮนรี่ ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในที่สุด
ทั้งสองคนเห็นมิสเตอร์หว่อง คู่ค้าอยู่ในที่เกิดเหตุจึงตามรถไปจนถึงภัตตาคาร The Red Dragon ก่อนจะเปิดฉากไล่ยิงไปทั่วร้านจนถึงชั้นล่างแล้วพบกับมิสเตอร์หว่อง โจจึงใช้ปืนจ่อและถามเหตุผลว่าทำไมต้องฆ่าเพื่อนเขา ก่อนที่อีกฝ่ายจะบอกว่าเพื่อนของทั้งคู่เป็นสายให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ด้วยความโกรธกับเหตุการณ์ก่อนหน้า โจจึงปลิดชีพมิสเตอร์หว่อง แล้วทั้งคู่ก็หลบหนีออกจากที่เกิดเหตุในที่สุด เท่ากับว่าเงินก็ไม่ได้แถมตอนนี้อาจจะทำให้มาเฟียสองชาติประกาศสงครามอย่างแน่นอน
รุ่งเช้าวีโต้เริ่มทำงานหาเงินใช้หนี้บรูโน่ โดยงานแรกพวกเขาจะต้องไปฆ่าคนตามใบสั่งของเอ็ดดี้ ซึ่งคนๆนี้ มีรายละเอียดว่า เขาได้หักหลังมาเฟียกลุ่มหนึ่งจนทำให้กลุ่มล่มสลาย… และตอนนี้เขาอยู่ภายใต้การคุ้มครองพยานของเจ้าหน้าที่รัฐ เขาคือ “ทอมมี่ แองเจลโล่” พระเอกจาก MAFIA ซึ่งก็จะวนมาที่ฉากจบในภาคแรก ที่ทอมมี่โดนยิงตายหน้าบ้านนั่นเอง หลังจากเก็บทอมมี่ตามใบสั่งแล้วต่างคนต่างแยกย้ายไปทำงานของใครของมันแล้วค่อยมารวมเงินไปจ่ายให้บรูโน่ก่อนถึงเที่ยงคืนให้เร็วที่สุด วีโต้เลยไปท่าเรื่อเผื่อว่าจะมีงานทำบ้าง
เมื่อไปถึงท่าเรือ เดเร็คดีใจที่วีโต้มาหาก่อนจะให้ไปช่วยสั่งสอนคนงานในท่าเรือ เพราะพวกเขาประท้วงหลังไล่เพื่อนออกจากงาน โดยเขาไปพร้อมกับสตีฟและลูกน้องคนที่เหลือไปข่มขู่คนงาน แต่ทว่ามีคนงานคนหนึ่งเห็นวีโต้และจำได้ว่าเป็นลูกชายของเพื่อน ก่อนจะบอกความจริงว่าพ่อของวีโต้ถูกสองคนนี้ฆ่า ทำให้ตัววีโต้ประกาศสงครามกับเดเร็คและพวก ก่อนที่เขาจะล้างแค้นพร้อมปล้นเงินมาจำนวนหนึ่งได้สำเร็จ โดยคนงานจะช่วยเหยียบเรื่องนี้ไว้ให้ เขาออกจากท่าเรือไปหาโจ แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ไม่เห็นท่าทีของเพื่อนจึงไปถามหลายๆคน จนพบเบาะแสสุดท้ายคือร้าน The Mona Liza แล้วก็ถูกจับกุมก่อนจะตื่นมาพบว่าเขาและโจถูกมัดอยู่
แฟรงก์ วินซี่ จึงถามทั้งสองคนถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งคู่จึงหาทางหลบหนีโดยไปส่งโจ ที่บ้านของเอล เกรโก้ให้รักษา แล้วโจก็มอบเงินส่วนต่างของเขารวมกับของวีโต้จนสามารถไปชำระหนี้ให้กับบรูโน่ได้สำเร็จ
เช้าวันต่อมาวีได้รับโทรศัพท์จากเอ็ดดี้ให้ไปหาฟาร์โคนที่หอดูดาว ขณะเดินทางก็พบลีโอที่กลับมาที่นี่พร้อมกับมิสเตอร์ ชู เพื่อนสนิทของเขาก่อนที่จะตำหนิในการกระทำของวีโต้ที่ทำให้มาเฟียสองฝ่ายประกาศจะทำสงครามใน Empire Bay จนอาจเป็นสงครามที่นองเลือดที่สุด ซึ่งเขาก็ได้ไกล่เกลี่ยให้กับสองฝ่าย ซึ่งมติทั้งสองฝ่ายคือให้กำจัดทั้งสองคน แต่ลีโอก็ยื่นข้อเสนอในฐานะที่วีโต้เคยช่วยเขาครั้งหนึ่ง นั่นคือการสังหาร ดอน คาร์โล ฟาร์โคน เพื่อปิดเกมและเป็นโอกาสสุดท้ายของวีโต้ด้วย
เมื่อไปถึงที่นัดหมายก็พบ ดอน ฟาร์โคน ที่รอพวกเขาท้ายที่สุดสองเพื่อนซี้ตัดสินใจสู้กับแก๊งฟาร์โคน ก่อนที่วีโต้จะปลิดชีพหัวหน้าใหญ่ลงได้ในที่สุด แล้วทั้งสองคนก็ออกจากที่เกิดเหตุ แล้วพบว่า ลีโอ และลูกน้องมารอพวกเขา ก่อนจะให้วีโต้และโจขึ้นรถคนละคัน
เมื่อรถแล่นไปซักพัก วีโต้พบว่ารถข้างหน้าที่โจโดยสาร กลับเลี้ยวไปอีกทางหนึ่ง ก่อนที่จะได้คำตอบจากลีโอว่า
“ขอโทษทีนะไอ้หนู…โจไม่ได้อยู่เงื่อนไขตามที่ตกลงไว้ตั้งแต่แรก”
แล้วรถก็แล่นไป…และทั้งสองคนไม่มีโอกาสได้พบกันอีกเลยนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา….
MAFIA 3
ลินคอล์น เคลย์ (Lincoln Clay) ชายหนุ่มที่เกิดและเติบโตในเมือง New Bordeaux เขามีเชื้อสายโดมินิกันกับอิตาลี แต่เมื่ออายุได้สองขวบแม้ก็ทิ้งเขาไว้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า Saint Michelle ที่มี บาทหลวงเจมส์ (Father James) ที่ลินคอล์นให้ความเคารพและเชื่อใจมากที่สุดเป็นผู้ดูแล แต่เมื่อสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าปิดตัวลง เขาก็ได้รับการอุปการะเลี้ยงดูจากครอบครัวของแซมมี่ โรบินสัน (Sammy Robinson) เจ้าพ่อหัวหน้าแก็งค์ Black Mob ที่ทำธุรกิจขายล็อตเตอร์รี่ผิดกฎหมาย โดยรายได้ทั้งหมดจึงแบ่งส่วนให้กับ ดอน แซล มาร์คาโน่ (Don Sal Macano) เจ้าพ่อผู้ทรงอิทธิพลในย่าน New Bordeaux
แซมมี่มีลูกชายคนเดียวคือ เอลลิส โรบินสัน (Ellis Robinson) ซึ่งลินคอล์นยกให้เป็นเหมือนพี่และนับถือแซมมี่เป็นพ่อของเขาอีกคนต่อจากบาทหลวงเจมส์ก็ว่าได้ จนกระทั่งในปี 1964 ลินคอล์นได้ไปรับใช้ชาติสังกัดทหารบกสหรัฐฯ เข้าร่วมสงครามเวียดนามสังกัดหน่วยทหารราบที่223 จากนั้นในปี1966เขาก็ได้เข้าหน่วยรบพิเศษที่ 5 แล้วได้ร่วมภารกิจกับ CIA ในภารกิจลับสำคัญมากมายทำให้เขาได้รู้จัก จอห์น โดโนแวน (John Donovan) เจ้าหน้าที่ด้านหน่วยข่าวกรอง ก่อนในภายหลังทั้งคู่ได้ร่วมงานอีกนับไม่ถ้วน
หลังจากปลดประจำการเขาก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากกลุ่ม Black Mob โดยมี แซมมี่ พ่อบุญธรรมและบาทหลวงเจมส์ร่วมให้การต้อนรับ การกลับมาของเขา ก่อนจะเฉลิมฉลอง แต่ว่าลินคอล์นก็ได้รับรู้เรื่องราวในช่วงที่เขาไปรบจากการที่พ่อลูกโรบินสันมีปากเสียงกันบ่อยๆ แล้วในตอนที่มีการเลี้ยงอาหารให้กับผู้ยากไร้ ก็มีกลุ่มโจรที่ภายหลังลินคอล์นรู้ว่า เป็น กลุ่มมาเฟียเฮติ (The Haitians) มาก่อกวนกลุ่มของแซมมี่อยู่หลายครั้ง
ในที่สุดแซมมี่จึงเล่าที่มาให้ฟังว่าแก๊งเฮติเป็นศัตรูกับแก๊งแซมมี่มานาน แล้วการการมาก่อกวนแต่ละครั้งก็ทำให้ธุรกิจที่แซมมี่ดูแลติดบัญชีตัวแดงจนไม่มีเงินส่งบำรุงให้กับดอน มาร์คาโน่ ทำให้ลินคอล์นและเอลลิสขออาสาไปกำจัดแก๊งเฮติถึงถิ่นทันที ด้วยทักษะการรบจากที่เคยเป็นทหารเขาสามารถกำจัดทีล่ะคนจนสามารถกำจัดหัวหน้าแก๊งเฮติลงได้สำเร็จ แต่ตอนออกไปก็เจอกลุ่มเฮติต้อนรับเขาด้วยกระสุนแบบไม่อั้น ท้ายที่สุดเอลลิสก็ขับรถมาหลับก่อนหนีออกมาได้ในที่สุด
วันต่อมาลินคอล์นก็ได้เล่าให้แซมมี่ฟัง โดยที่เขาดื่มเและระบายความรู้สึกผิดที่ไม่น่าส่งลูกบุญธรรมสุดที่รักไปทำงานนี้ เพราะตอนสมัยที่ลินคอล์นไปรบเวียดนามเขาได้แต่ภาวนา แต่วันนี้ลูกบุญธรรมก็กลับบ้านอย่างปลอดภัย ก่อนที่ทั้งคู่จะเปลี่ยนเรื่องคุยว่าจะใช้หนี้สินให้ ดอน มาร์คาโน่ ยังไง เผอิญทางฝั่งนู้นได้โทรมาให้ไปนัดเจอกันที่สโมสร
เมื่อไปถึงเขาได้พบกับ จอร์จจี้ มาร์คาโน่ ลูกชายของ แซล มาร์คาโน่ แล้วยังได้รับการแนะนำให้รู้จักกับหนึ่งในสมาชิกอีกคนของแก๊งที่ชื่อว่า วีโต้ สการ์เล็ตต้า พระเอกจากภาคที่สอง ซึ่งตอนนี้เขาได้ทำงานร่วมกับมาร์คาโน่ ลึกๆเขาอิจฉาและไม่ยอมรับในตัววีโต้ แต่เพราะว่าเขานับถือ ลีโอ แกรนเต้ ที่เป็นคนขอให้วีโต้โอยู่ด้วยจึงต้องยอมรับอย่างปฏิเสธไม่ได้
เมื่อพูดคุยถูกขอซักพัก วีโต้ขอตัวไปทำธุระต่อ มาร์คาโน่ก็ได้คุยกับลินคอล์นว่า อยากให้มาช่วยงานลูกชายในการปล้นธนาคารในเมือง New Bordeaux โดยให้ข้อเสนอว่าถ้างานนี้สำเร็จเรื่องหนี้สินของแซมมี่จะหายกัน แล้วลินคอล์นก็จะได้ทำงานกับแซลในอนาคตเพราะจะวางให้เขาดูแลถิ่นแทนที่แซมมี่คนต่อไป ลินคอล์นสองจิตสองใจว่าจะทำดีหรือไม่ เพราะเขาไม่อยากทำร้ายความรู้สึกพ่อบุญธรรม แต่ในที่สุดเขาก็ตอบรับข้อเสนอ
ในภารกิจการปล้นธนาคาร จอร์จจี้ / ลินคอล์น / เอลลิส และ แดนนี่ ทั้งสี่คนได้กลับมาร่วมงานอีกครั้งก่อนจะวางแผนจนสามารถขนเงินมาได้สำเร็จ แล้วพวกเขาก็ปิดบาร์ฉลองกับความสำเร็จในครั้งนี้ด้วย ก่อนที่ดอน มาร์คาโน่จะมาสมทบทีหลังและขอบคุณแซมมี่ที่มีส่วนช่วยด้วยการให้ลูกบุญธรรมร่วมงานครั้งนี้
ขณะที่ฉลองกันอย่างเพลิดเพลินจู่ๆ มาร์คาโน่และลูกชายก็ทำการหักหลังลินคอล์นและพรรคพวก ก่อนจะเก็บทุกคนในบาร์อย่างเลือดเย็น ดอน มาร์คาโน่ก็ปลิดชีพ แซมมี่ จนสิ้นใจ แล้วพวกเขาก็ขนเงินก่อนจะเผาบาร์ให้ทุกคนตายในที่สุด จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ มีลินคอล์นที่รอดชีวิตกลับมาได้จากการช่วยเหลือของบาทหลวงเจมส์ที่ฝ่ากองไฟเข้าไปช่วย ก่อนจะให้รักษาตัวที่โบสถ์ของเขา แล้วยังมี จอห์น โดโนแวน เข้ามาอยู่เป็นเพื่อน
หลังจากที่รักษาตัวจนดีขึ้น ลินคอล์นตัดสินใจว่าตั้งแต่นี้เขาจะถล่มแก๊งของมาร์คาโน่ให้หมดสิ้นไปจากเมือง New Bordeaux โดยได้รับความช่วยเหลือจาก โดโนแวน ที่คอยมอบข้อมูลข่าวของแก๊งตั้งแต่สมาชิกไปจนถึงระดับบอส แต่ว่าเขาก็ให้ลินคอล์นไปหาสมาชิกเพิ่มซึ่งจะเป็นการดีมากที่จะเลือกคนที่เป็นศัตรูกับดอน มาร์คาโน่ ซึ่งลินคอล์นมีตัวเลือกอยู่ในใจแล้วนั่นเอง
ในเวลาต่อมาลินคอล์นก็ได้รวบรวมสมาชิกเพื่อปฏิบัติการณ์โค่นดอน มาร์คาโน่ คนแรกคือ แคสแซนดร้า หัวหน้าแก็งค์มาเฟียเฮติที่ลินคอล์นเคยช่วยเหลือไว้นานมาแล้ว แต่เธอก็ให้เขาพิสูจน์ผ่านภารกิจสองสามอย่างจนยอมรับในตัวเขา เธอจึงตอบรับที่จะเป็นแนวร่วมทันที คนต่อมาคือ วีโต้ ซึ่งลินคอล์นได้ช่วยเหลือเขาไว้หลังจากที่ลูกพี่สั่งให้กำจัดวีโต้ โดยที่พระเอกจากภาคสองก็เข้าร่วมงานนี้ด้วย แล้วคนสุดท้ายคือ โธมัส เบิร์ค (Thomas Burke) พ่อของแดนนี่ ที่เป็นหัวหน้ามาเฟียไอริช
เมื่อได้แนวร่วมทั้งสามคนตามที่ต้องการ ก็เริ่มกวาดล้างคนสำคัญของดอน มาร์คาโน่ โดยพวกเขาจะไดส่วนแบ่งและอำนาจหลังจบภารกิจ **ซึ่งการแบ่งอำนาจของเราต่อแนวร่วมทั้งสามคนจะส่งผลต่อเนื้อเรื่องตอนจบในเกม**
หลังจากเก็บคนสำคัญของแก๊งจนได้เบาะแสสำคัญของ มาร์คาโน่ นั่นคือ บ่อนคาสิโนที่เขากำลังสร้างเพื่อประกาศศักดาความยิ่งใหญ่ในเมือง New Bordeaux ลินคอล์น จึงไปยังคาสิโนที่ว่าก่อนจะเก็บจอร์จจี้ แล้วเผชิญหน้ากับแซล ซึ่งอีกฝ่ายก็ยิ้มเยาะและไม่รู้สึกผิดต่อเหตุการณ์ในอดีต เมื่อพูดจบลินคอล์นจึงใช้มีดแทงใส่ดอน มาร์คาโน่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นการถอนแค้นกับสิ่งที่มาร์คาโน่ได้พรากทุกสิ่งทุกอย่างไปจากเขา ก่อนจะทิ้งศพไว้ในเวลาต่อมา
เมื่ออกจากคาสิโนก็พบว่า ลีโอ แกรนเต้ กับลูกสุมนกำลังรอเขาพอดีเลยไปเดินเล่นสูดอากาศและเล่าว่า แซลมันหลงในอำนาจ แต่เขาก็รู้เรื่องของลินอคล์นก่อนจะทิ้งท้ายว่าถ้าเขาคุมที่นี่และยังทำธุรกิจกับตึกนี้ ไม่ว่าธุรกิจอะไรก็ตามจะต้องส่งส่วนแบ่ง 20% หรือถ้าเขาทิ้งตึกไปลีโอก็จะไม่มากวนใจอีก ก่อนที่เขาจะจากไป
หลังจากเคลียร์ความแค้นออกไปหมดแล้วเขากลับมายังโบสถ์ เพื่อส่งข่าวให้ บาทหลวงเจมส์ และ โดโนแวน ซึ่งตอนนี้ทั้งสองคนมีโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงเมืองนี้ แต่บาทหลวงเจมส์กลับไม่เห็นด้วยก่อนจะให้ทางเลือกสองข้อคือ ทิ้งเมืองแล้วไม่ต้องกลับมา หรือ ถ้าจะคุมเมืองนี้ต่อไปจะถือว่าไม่เคยรู้จักกันอีกเลย…
สำหรับฉากจบภาค 3 ซึ่งแบ่งได้เป็นสามตอนดังนี้
Ending A
เป็นฉากจบที่สมบรูณ์ที่สุด นั่นคือ ลินคอล์น ยอมทิ้งทุกอย่างแล้วออกไปจากเมือง ภายหลังเขาไปตั้งตัวอยู่ที่แคลิฟอร์เนีย แต่งงาน (ก่อนจะหย่าในภายหลัง) แล้วทำงานอยู่ที่ท่าเรือก่อนที่หลายปีต่อมา เขาก็เดินทางไปหลายๆที่ตั้งแต่ ฟลอริด้า,อาลาสก้า, อเมริกาใต้รวมถึงเวียดนาม ทุกครั้งก็จะส่งโปสการ์ดให้บาทหลวงเจมส์อยู่เสมอ
ในส่วนธุรกิจในเมือง New Bordeaux ถ้าเราให้คนไหนได้คุมอำนาจมากเราจะได้เห็นฉากจบของคนนั้น
Vito Scaletta: วีโต้เข้ามาคุมเมืองนี้และสานต่อคาสิโนจนสร้างเสร็จและขยายธุรกิจทุกอย่าง ทำให้เมืองนี้ได้กลายเป็นลาสเวกัสแห่งใหม่ จนทุกวันนี้เขาเฝ้ามองผลงานตัวเองบนตึกสุดหรูของตัวเอง
Cassandra: เธอสามารถควบคุมอำนาจและธุรกิจ รวมถึงมีส่วนเกี่ยวข้องในการลอบสังหารผู้ว่าการรัฐลุยเซียน่า จนนำมาสู่หายนะของเมือง New Bordeaux ในอนาคต
Thomas Burke: เขาสามารถพากลุ่มมาเฟียไอริชครองความยิ่งใหญ่ ก่อนจะใช้อำนาจตัวเองก้าวสู่สภาเมืองและเปลี่ยนชื่อเมืองมาเป็น Bourbon City แต่ว่าเขาต้องเสียชีวิตในปี 1984 ระหว่างเผชิญกับแก๊งมาเฟียคิวบา
Ending B
ลินคอล์น ตัดสินใจคุมอำนาจพร้อมกับแนวร่วมทั้งสามคนก่อนจะปรับปรุงเมือง New Bordeauxให้ดีขึ้น และอำนาจของทั้งสี่คนสามารถขยายอำนาจข้ามรัฐได้อย่างสบายๆ นอกจากนี้พวกเขาเลือกที่จะบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยและการกุศลจนทุกคนชื่นชมและยอมรับในตัวเขา โดยที่ไม่รู้ว่าเงินทั้งหมดมาจากธุรกิจมืด ทำให้ลินคอล์นไม่ต่างจากมาร์คาโน่เลยแม้แต่น้อย ขณะที่บาทหลวงเจมส์รู้สึกเสียใจและผิดหวังที่เขาเลือกเส้นทางนี้
Ending C
ลินคอล์นตัดสินใจคุมเมืองแต่เพียงผู้เดียว แล้วกำจัดแนวร่วมทั้งสามคน แต่ว่าเขาก็ตายจากการลอบวางระเบิดบนรถของเขาเอง ซึ่งเป็นฝีมือของบาทหลวงเจมส์ ที่จะสั่งสอนเขาแม้จะต้องเสียคนที่เขารักดั่งลูกชายก็ตาม…
ในปี1971 จอห์น โดโนแวน เข้ารับการไต่สวนจากวุฒิสมาชิกในฐานะผู้ต้องสงสัยที่มีส่วนในการสังหารคนในแก๊งมาคาร์โน่ร่วมกับลินคอล์น ก่อนที่เขาจะให้คำตอบที่วุฒิสมาชิกคาดไม่ถึงและจำไปจนตายเลยทีเดียว!!….
ก็จบเป็นที่เรียบร้อยสำหรับเรื่องราวของเกมไตรภาค Mafia The Series ที่นำเสนอในวันนี้ ต้องบอกว่าแม้จะเป็นเกมที่อุดมไปด้วยความโหดตามแบบสไตล์มาเฟีย แต่เรื่องราวก็เป็นบทเรียนสอนใจให้กับผู้เล่นได้ไปปรับใช้ในชีวิตผ่านตัวละครต่างๆในเกม เหมือนที่คำกล่าวว่า
“ชีวิตนักเลง ถ้าไม่จบด้วยลูกปืน ก็ต้องจบในคุก”
ถ้าขาดตกเรื่องราวตรงจุดไหน ก็ ขอ อภัยทุกท่านมาที่นี้ด้วยครับผม
@P.PETTY
ข้อมูลประกอบ
- https://mafiagame.fandom.com/
- https://primagames.com/games/mafia-3/guides/mafia-iii-eguide/story-missions/new-bordeaux-the-home-fires-burn
-
Blokees Saint Seiya – Star Edition : 1st [กล่องสุ่ม / ราคา / วันวางขาย / สั่งซื้อ]
#Blokees #SaintSeiya #Toys #Model #กล่องสุ่ม
-
ทำความรู้จักม้ามืดของปี 2024 Balatro: เกมไพ่ผสมกลยุทธ์สุดมันส์
#เกมส์ #เกมไพ่ #เกมกลยุทธ์ #เกมมือถือ
-
Dynasty Warriors: Origins [สั่งซื้อเกมถูก , PS5, Xbox Series,PC]
วีรบุรุษไร้นาม จะลุกขึ้นต่อสู้ในโลกของสามก๊ก