เรียกว่าเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงมากๆ สำหรับเสื้อคลุมดาบพิฆาตอสูร ที่วางขายกันทั้งหน้าร้าน หรือร้าสนออนไลน์ ด้วยความที่เป้นเสื้อคลุมราคาถูก ใส่ได้ทั้งวัน ผ้าบางไม่ร้อน แถมยังทำให้เด็กๆ (และผู้ใหญ่บางคน) ได้ดูเท่ คูล แบบตัวการ์ตูนที่พวกเขาชขื่นชอบ 

แต่เมื่อไม่กี่วันก่อน มีการประกาศห้ามนำเสื้อคลุม “ดาบพิฆาตอสูร” ใส่มาเรียนที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง (ขอสงวนชื่อ) โดยโรงเรียนดังกล่าว ได้ออกมาบอกกับผู้ปกครองผ่านข้อความทางไลน์ว่า ขอความร่วมมือผู้ปกครองกวดขันเรื่องเสื้อคลุมการ์ตูนชื่อดังอย่าง ดาบพิฆาตอสูร ภายในโรงเรียน เนื่องจากฝ่ายปกครองมองว่าเป็นเสื้อผ้าแฟชั่น ไม่ใช่เสื้อคลุมกันหนาว หากเด็กนักเรียนคนไหนฝ่าฝืนเตรียมโดนยึดทันที

 “เรียน ผปค. ทุกท่านครับ เด็กคนไหนที่ใส่เสื้อคลุมดาบพิฆาตอสูร มาที่ ร.ร. ตอนนี้ห้ามใส่มาแล้วนะครับ ถ้าฝ่ายปกครองเห็นจะโดนยึดครับ เพราะทางฝ่ายปกครองมองว่าเป็นเสื้อแฟชั่น ไม่ใช่เสื้อคลุมกันหนาว เด็ก ป.3 โดนฝ่ายปกครองยึดไปแล้วบางคนครับ”

 แน่นอนว่า เมื่อข้อความดังกล่าวเผยแพร่ออกสู่สาธารณชน ทำให้ชาวเนตหลายๆคนส่งคอมเม้นท์ดุเดือดและไปในทิศทางเดียงกันว่า สิ่งที่คุณครูท่านนี้ทำ คือการปิดกั้นการแสดงออกทางด้านจินตนาการของเด็ก และการแต่งกายก็ไม่ได้มีผลกับการเรียน

“สั่งตามเน็ตตัวล่ะ100 กว่าบาทลูกสาวซื้อมา 2 ตัวแล้วลูกอยู่ ม. 2ใส่ไป ร.รทุกวัน ปล่อยให้เด็กมีความสุขบ้างเขาเรียนก็เครียดมากพอแล้วให้เด็กได้ผ่อนคลายบ้าง”

“ครูแx่งเป็นลูกน้องมุซัน มันจี๊ดสินะเห็นชุดเสาหลัก”

“เอาเวลาไปจัดการเรื่องเด็กบูลลี่กันในโรงเรียนเถอะ”

“แต่เมื่อก่อนตอนเรียนก็เจอแบบนี้ และบังคับให้ใช้ของทางโรงเรียนผลิตเท่านั้น เช่น กระเป๋า แต่ผลิตมาได้ห่วยแตกมากใช่ไม่กี่วันหลุดหมด”

“ครูเห็นเด็กมีความสุขเเล้วทรมานเหรอ”

“เดี๋ยวใส่ ผ้าคลุมหน่วยสำรวจ ไปแทนละกัน” (เสื้อคลุมจาก Attack on Titan)

“ครูฝ่ายปกครองก็คล้ายๆตำรวจจราจรนั้นแหละคับ ชอบจับผิด บางครั้งก็จับเรื่องไร้สาระ555″

“มันจะเกิดปัญหาขโมยเสื้อ ครูต้องมานั่งจับขโมย เรียกผู้ปกครองมาโรงเรียนอีก เป็นการป้องกันคดีลักทรัพย์ในโรงเรียน เรื่องเช่นนี้แล้วแต่ว่าคุณเป็นคน มองครูในแง่ดีหรือมองครูในแง่ร้าย อย่ามาเถียงกันเลย ไม่จบ”

“เข้าใจทั้ง 2 ฝ่ายนะ ถ้าอนุญาต มันจะเป็นกันทั้งโรงเรียนไหม เห็นแล้วละลานตาปลิวว่อนกันทั้งโรงเรียน แต่เด็กก็อยากใส่แหละ เพราะเราก็ใส่”

“ห้ามก็ดีนะคะ เห็นผู้ปกครองบ่นเพราะลูกก็ต้องการใส่เหมือนเพื่อนต้องไปหาซื้อมา สำหรับพ่อแม่บางคนชุดอาจจะแพง วัฒนธรรมในโรงเรียนเด็กชอบทำตามกันเป็นการทำอย่างกันทั้งโรงเรียน ทำให้พ่อแม่บางคนเดือดร้อนได้ คือไม่ต้องให้ใส่ไปโรงเรียนถูกแล้วค่ะ ใส่หลังเลิกเรียนหรือใสเที่ยวเสาร์อาทิตย์ก็ยังได้อยู่”

นานาทัศนคติ ก็ว่ากันไป เรื่องราวนี้จะจบลงอย่างไร ไม่มีใครทราบได้

แต่ที่แน่ๆ งานนี้ จากที่ดังอยู่แล้ว “ดาบพิฆาตอสูร” ก็น่าจะดังได้อีก

แหม่ มีอะไรให้พูดถึงตลอดเลย สำหรับอนิเมเรื่องนี้ 

ซีซั่นสองกำลังจะมาในปีนี้ บอกเลยว่ากระแสเสื้อคลุมคงมีมาอีกซักพักเลยล่ะ ดูทรง…

FACT!!  

เสื้อคลุมไยบะที่เห็นๆกัน แท้จริงเรียกว่าอะไร!?

การแต่งกายแบบญี่ปุ่นมีมากมายหลายแบบ ตามแต่วาระและฤดูกาล ในเรื่องดาบพิฆาตอสูร มีเซตติ้งเรื่องราวเป็น ยุคไทโช (ยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1) เป็นยุคที่เกิดการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมอย่างมาก การมีไฟฟ้า แสงสีเสียงการแสดงต่างๆ รวมไปถึงชุดสวมใส่ ก็จะมีสีสันฉูดฉาด ลาวลายที่เรียบง่ายแต่ดึงดูดสายตาไม่น้อย เป็นยุคแรกๆของการมี “แฟชั่นแบบ Mix” ที่รวมเอากิมมิคของตะวันตกมารวมกับเอเชีย…บวกจินตนาการของผู้แต่ง ทำให้เกิดเสื้อผ้าที่เป็นเอกลักษณ์และเป็นที่จดจำได้ง่าย เห็นแล้วรู้เลยว่ามาจากเรื่องนี้แน่นอน…

โดยชุดที่เหล่านักล่าอสูรในเรื่องสวมใส่ จะเรียกว่าชุด “ฮาโอริ” มีแขนเสื้อใหญ่ๆ ผ้าหนาๆ ใส่กันลมกันหนาวได้ดี  ซึ่งราคาขายในบ้านเรา ตกตัวละ 7-900 บาท 

ส่วนที่น้องๆเด็กๆนักเรียน ไปจนถึงเหล่าสิงห์นักบิดมอไซด์ตามสี่แยกสวมใส่นั้น จะเรียกว่า “จินเบย์” ชุดลำลองญี่ปุ่นที่มีผ้าบางๆ ตัวนึงราคาราวๆ 3-400 บาท

ผู้ชายญี่ปุ่นในสมัยก่อนทั้งเด็กและผู้ใหญ่จะนิยมใส่อยู่บ้าน หรือใส่ออกไปเดินเล่นงานเทศกาลประจำปี ส่วนมากใส่กันตอนหน้าร้อน ซึ่งเหมาะกับประเทศไทยเมืองร้อน เสื้อดาบพิฆาตอสูรที่เห็นทุกวันนี้ เนื้อผ้าบาง ใส่กันหนาวไม่ได้หรอก ใส่เอาเท่ เสริมสร้างความอินมากกว่า 

แอดมิน Ak47

ที่มา

เรื่องเล่าเช้านี้

อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง

ทำความรู้จักกับ “ย่านเริงรมย์โยชิวาระ” ก่อนชม “ดาบพิฆาตอสูร Season 2″