ชื่อเรื่อง: ขุนพันธ์ 2
ประเภท: แอ็คชัน / แฟนตาซี / ดราม่า
กำกับโดย: ก้องเกียรติ โขมศิริ
นักแสดงนำ: อนันดา เอเวอริ่งแฮม / 
ค่ายภาพยนตร์ : สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล
วันที่เข้าฉาย:  23 สิงหาคม 2018

 ตัวอย่างเต็ม ขุนพันธ์ 2

นี่คือภาพยนต์ที่ดัดแปลงจากชีวประวัติของ “พลตำรวจตรี ขุนพันธรักษ์ราชเดช” สุดยอดนายตำรวจแห่งสยามประเทศ ผู้ที่ใช้อาคมแห่งคุณงามความดี เอาชนะอวิชชาทั้งมวล จนกลายเป็นที่รัก และเคารพศรัทธาของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งประเทศ

เรื่องย่อ

“ขุนพันธ์” เป็นภาพยนต์ที่จะเรื่องราวชีวประวัติของ “ขุนพันธรักษ์ราชเดช” (อนันดา เอเวอริ่งแฮม) นายตำรวจผู้ยึดมั่นในความยุติธรรมอย่างแรงกล้า ยอมหัก ไม่ยอมงอ เขาปราบพวกโจรเสือร้ายตามภูมิภาคต่างๆของประเทศ โดยได้ฉายาว่า “นายพลตำรวจหนังเหนียวผู้จับเสือมือเปล่า” หรือ “ขุนพันธ์ ดาบแดง” (ซึ่งเป็นดาบที่เชื่อว่าตกทอดมาจากพระยาพิชัยดาบหัก)

ขุนพันธ์ 2 จะเข้มข้นขึ้นไปอีกเมื่อ ขุนพันธ์ เผชิญกับอุปสรรคและความจริงที่ว่า ผู้คนไม่ศรัทธาตำรวจ ชาวบ้านลุกขึ้นมาเป็นโจร ข้าราชการล้วนหาผลประโยชน์ใส่ตัว ลูกน้อง เพื่อนตำรวจถูกโจรร้ายฆ่า เขาถูกให้พักราชการ

ทำให้ขุนพันธ์ตัดสินใจเข้าร่วมกลุ่มกับ เสือฝ้าย (พันเอก วันชนะ สวัสดี) หัวหน้าชุมโจรเชิ้ตดำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภาคกลาง ซึ่งมีอาคมสะกดทุกสิ่งหยุดนิ่ง และพละกำลังมหาศาล รวมถึงอำนาจและไพร่พล อันน่าหวั่นเกรง โดยมีมือขวาคนสนิทคือ เสือใบ (อารักษ์ อมรศุภศิริ) จอมโจรมหาเสน่ห์ ผู้มีอาคม การต่อสู้ด้วยวิชากระสุนคต และตระกรุดแคล้วคลาด การเดินทางสู่ถ้ำเสือชุมโจรของขุนพันธ์ในนาม “เสือบุตร์” จึงเริ่มต้นขึ้น 

หรือคนดี จะสิ้นศรัทธา จนกลายเป็นวายร้าย!? ร่วมหาคำตอบกันได้ ในภาค 2!

ตัวละคร

“ขุนพันธรักษ์ราชเดช” แสดงโดย อนันดา เอเวอริ่งแฮม

วีรบุรุษนักรบของกรมตำรวจ บุรุษร่างเล็กนัยต์ตาคมดุดุจตาเสือ หนวดเขี้ยว คิ้วหนา ประหนึ่งนักรบกล้าแห่งบางระจัน อดีตนักเรียนนายร้อยสามพราน รุ่น พ.ศ. 2472 ผู้มีวิชาอาคมแก่กล้า (ยอดวิชาคงกระพัน / นะจังงัง / มหาอุด ผิวกายคงทนต่อศาสตราวุธ) เพราะเป็นศิษย์ฆราวาสแห่งสำนักเขาอ้อ นอกจากนี้ยังเชี่ยวชาญเพลงมวยไทย เพลงดาบสายทักษิณ กระบี่กระบองและวิชาการต่อสู้อีกหลายแขนง และชำนาญในวิชาแพทย์แผนโบราณ ว่านและสมุนไพรต่างๆ 

วีรกรรมที่เด่นชัดที่สุดคือกการปราบโจรร้ายต่างๆทั้ง เสือฝ้าย เสือดำ เสือมเหศวร (โดย เสือมเหศวรนี่ เป็นตัวละครพระเอกหนัง “ฟ้าทะลายโจร” แต่ตัวจริงถูกวิสามัญโดยขุนพันธ์) และการปราบ “อะแวสะดอ ตาเละ” เจ้าพ่อเขาบูโด นอกจากนี้ขุนพันธ์ฯยังได้รับพระราชทานรางวัลจากเจ้าเมืองรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ส่งมีดพกเล่มหนึ่ง มาให้

ตลอดระยะเวลาที่รับราชการที่ผ่านมา ขุนพันธรักษ์ราชเดช ผู้หาญกล้าเสียสละเพื่อประชาชน โดยทำงานภายใต้แนวคิด

“เคารพเอื้อเฟื้อต่อหน้าที่ กรุณาปรานีต่อประชาชน อดทนต่อความเจ็บปวด ไม่หวั่นไหวต่อความลำบาก ไม่มักมากในลาภผล บำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชน”

แต่ในภาค2 ขุนพันธ์ ไปเข้าร่วมกับโจร เพื่ออะไรกันแน่ หรือมีแผนการบางอย่างซ่อนอยู่!?

“เสือฝ้าย”  แสดงโดย ผู้พันเบิร์ด พันเอก วันชนะ สวัสดี

เสือฝ้าย มีชื่อจริงว่า ฝ้าย เพ็ชนะ  อดีตหัวหน้าขบวนการเสรีไทยสาขาสุพรรณบุรี ออกต่อสู้กับกองทัพจักรวรรดิ์ญี่ปุ่น   เป็นชาวอำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นจอมโจรชื่อดังในแถบภาคกลาง หลังยุคสงครามโลกครั้งที่สอง ร่วมสมัยกับ เสือดำ เสือใบ เสือหวัด และเสือมเหศวร ได้รับสมญาว่า “พ่อเสือ” บ้าง “จอมพลเสือฝ้าย” บ้าง “ครูฝ้าย” บ้าง

เสือฝ้าย จงใจเล่นงานบรรดาเศรษฐี ผู้มีอำนาจในท้องถิ่นนั้น ๆ โดยเฉพาะพวกแปดเปื้อนมลทิน กลิ่นคาวฉาวโฉ่ ประเภทฉ้อโกง ขูดรีด และอาศัยอำนาจในการทำให้ตัวเองร่ำรวย นี่คือเป้าหมายของ เสือฝ้าย ด้วยเหตุนี้ คนยากหรือผู้ขัดสนทรัพย์สินศฤงคาร จึงรอดพ้นเงื้อมมือเสือฝ้าย หนำซ้ำ ยังจะได้ ‘ทรัพย์’ อันเป็นผลพลอยได้อีกต่างหาก การกระทำของ เสือฝ้าย เช่นนี้เอง ชาวบ้านถิ่นสุพรรณต่างพร้อมใจเป็นปราการด่านแรก เพื่อป้องกันเสือฝ้าย อาทิ การบิดเบือนข้อมูลหรือให้การเท็จกับตำรวจ ให้ข้อมูลเสือฝ้ายเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทางการ สำหรับชาวบ้านเสือฝ้าย เปรียบเหมือนเป็นญาติในครอบครัวเดียวกัน

กลุ่มเสือฝ้ายเป็นชุมโจรที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โจรเมืองไทย เพราะมีสมุนโจรรวมกันไม่ต่ำกว่า 100 ถึง 200 คน เทียบกับชุมโจรอื่นในยุคนั้นจะมีโจรเพียง 10 กว่าคนเท่านั้น ชุมโจรเสือฝ้ายตกเป็นข่าวหน้าหนึ่งในหนังสือพิมพ์สมัยนั้นอยู่บ่อยครั้ง

 “เสือใบ” แสดงโดย  เป้ อารักษ์ อมรศุภศิริ

“เสือใบ” หรือนายใบ สะอาดดี เป็นชาวเมืองสุพรรณบุรี เป็นโจรที่ได้รับฉายาว่า “สุภาพบุรุษเสือใบ” ชีวิตเส้นทางโจรเริ่มต้น เมื่อตอนที่เขาอายุประมาณ 30 ปี บ้านถูกโจรวัยรุ่นมาปล้นควายและต่อมาพวกมันได้มาบุกบ้านปล้นซ้ำและฉุดคนในครอบครัวไปด้วย สร้างความคับแค้นให้นายใบต้องออกตามช่วยคนในครอบครัวและฆ่าโจรไปสองศพ หลังจากมือเปื้อนเลือด เจ้าหน้าที่ตำรวจตามล่าเสือไบทำให้เขาหันเข้าสู่เส้นทางสายโจร โดยอาศัยอยู่กับสังกัดเสือฝ้าย ก่อนจะแยกตัวออกมา ปล้นในเขตจังหวัดอ่างทอง สิงห์บุรี และชัยนาท พร้อมมีลูกสมุนกว่า 40 คน

การปล้นของเสือใบจะเลือกปล้นเฉพาะคนโกง คนรวยที่เอาเปรียบชาวบ้าน แต่จะปล้นเพียงแค่ครึ่งเดียวและขอเจ้าทรัพย์ว่าอนุญาตให้เอาสิ่งของนั้นหรือไม่ จากนั้นจะเอาบางส่วนมาช่วยคนจน ต่อมา ขุนพันธรักษ์ราชเดช มือปราบชื่อดังได้ตามปราบโจรในผู้ร้ายในเขตต่างๆ และสามารถปราบเสือใบได้ หลังจากถูกจับ เสือใบโดนตัดสินประหารชีวิตและได้รับการลดโทษให้จำคุกตลอดชีวิตและได้รับอภัยโทษในที่สุด หลังจากพ้นโทษเสือดำได้ประพฤติตนเป็นคนดี และอาศัย ณ บ้านพันตำลึง ตำบลดอนกำยาน อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต

 วิชาอาคมเด่นๆของ เสือใบ คือสาลิกา ตะกรุด และรอยสักกระสุนคด ที่จะเป็นกระสุนอาคม ต้องร่ายบริกรรมคาถาเพื่อเรียกกระสุนนี้ออกมาใช้งาน เป็นกระสุนที่ไม่มีวันพลาดเป้า

—————

รอบสื่อ แจกพระเครื่อง และยันต์ด้วยนะเออ หนังเหนียว มหานิยมกันทั้งโรง!

รีวิว 9/10 Rank A

บทลึกขึ้น มีมิติขึ้น คมคายขึ้น ตีตั๋วไปดูเถอะ ไม่เสียดายตังค์

หลังจากที่ภาคแรกได้รับเสียงติชม ออกไปในทางกลางๆ ได้ดี ไม่แย่ และดูเหมือนว่าทางผู้กำกับเข้าใจ และน้อมรับเอาข้อผิดพลาดไปปรับปรุงให้นังมีความลึกขึ้นด้วยดราม่าตัวละครต่างๆ มีการวางบทที่แยบยลมากขึ้น แม้ว่าเราจะพอเดาตอนจบได้ แต่เรากลับเดาทิศทางตัวละครไม่ได้เลยว่าจะเอายังไงกับชีวิต ซึ่งนั่นเป็นข้อดี ที่ทำให้เราอยากรู้ว่า ทำไมตัวละครนี้ ถึงมี Mindset แบบนี้ ทำเพื่ออะไรยังไง ไปดูในโรงเอาเองนะ….

ในส่วนของเนื้อหา ตัวหนังใช้เวลา 2 ชม.ได้คุ้มค่า เก็บรายละเอียดเรื่องราวต่างๆได้ลงตัว ไม่เยอะ ไม่น้อยเกินไป บวกกับบริบทต่างๆที่ดูเหมือนจะใกล้ตัวคนไทยมากๆ ทั้งเรื่องศาสนา คาถาอาคม ประเภณีต่างๆ ล้วนแต่ทำมาให้ใกล้ชิดกับคนไทย และยิ่งบวกกับที่ตัวหนังถูกปูมาในแนว แฟนตาซี แอคชั่น ไม่ได้เน้นความสมจริงอิงอัตชีวประวัติ ยิ่งทำให้การต่อสู้บู๊อาคมในเรื่อง ทำออกมาได้สนุก ดูเพลินๆ ดูเอามันส์ เหมือนหนังซูเปอร์ฮีโร่ซักเรื่องนึงเลย

ในส่วนของคาแรคเตอร์ตัวละคร เท่าที่สังเกตุ ภาคนี้มี Gimmick เยอะมาก ทั้งเรื่องของการวางบทที่พลิกผัน คนหน้าฉากที่แสนดี ก็เป็นคนเลวได้ ในขณะที่คนเลว แท้จริงแล้วก็เป็นคนดีคนนึง เราไม่สามารถเชื่อในภายนอกที่เป็นเปลือกเข้าหากันในสังคม หนังพยายามเล่นประเด็นนี้อย่างหนัก และหนังขยี้บททุกตัวละครออกมาสุดทางแล้ว นี่คือสิ่งที่หนังเรื่องนึงให้คุณได้…

ส่วนที่ชอบจริงๆอีกอย่างคือ นักแสดงฝั่งโจร ทุกคนโคตรเท่ โดยเฉพาะผู้พันเบิร์ด ที่รับบทเป็น เสือฝ้าย ยังกะหลุดมาจากเวทีแฟชั่นวีค คือ เท่ชิหายวายป่วง เท่สมบูรณ์แบบ ไม่เคยเห็นโจรใส่สูทแก๊งสเตอร์แล้วเท่ขนาดนี้ มีมิติ มีแอคชั่นการกระทำต่างๆที่ขับเนื้อเรื่องไปข้างหน้าอย่างค่อยๆเป็นไป… รวมไปถึงวายร้ายในเรื่องอย่าง “ผู้กองอัศวิน” อีกหนึ่งตำรวจน้ำดี ที่ร้ายได้แบบเหมือนหลุดมาจากจักรวาล DC (เบน+โจ๊กเกอร์+ทูเฟซ มารวมกับอะไรซักอย่างที่มันไทยๆ เข้าถึงง่าย) หลายตัวละครมีแอคติ้งที่เว่อวังนิดๆ แอบเล่นใหญ่พอสมควร เลยดูเป็นการ์ตูนมากกว่าหนัง ไม่ใช่ไม่ชอบนะ มันเข้ากันกับความแฟนตาซีที่หนังจั่วหัวในตอนแรกนั่นละ…

แต่ก็มีบางจุดที่แอบขำเหมือนกัน ก็คือไทม์ไลน์ในเรื่องค่อนข้างเปะปะไปนิด (ตรงนี้หยวนๆ ให้อภัยได้) เรื่องราวเกิดขึ้นห่างกันเท่าไหร่ ไม่มีใครทราบได้ บางทีก็เหมือนผ่านมาไม่กี่วัน บางทีก็นานเป็นเดือนๆ ซึ่งส่วนที่ทำไทม์ไลน์ในเรื่องพังพินาศ คือ “หนวดของอนันดา” งอกเร็วจนนึกว่าเห็ดหลินจือในประตูห้องน้ำ เรื่องราวมันเหมือนไม่กี่ชม.เอง แล้วหนวดพี่แกมาไง ขึ้นรูปสวยเชียว!

หนังเรื่องนี้เป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ภาคต่อที่ดีมากๆ มีคติสอนใจ มีอะไรกลับไปให้คนดูคิดต่อ สมกับที่พี่ก้องเกียรติเล่าในงานเปิดตัวหนังว่า

“เป็นหนังที่สร้างจากความรัก รักที่จะสร้างผลงานดีๆ”

และพี่ทำได้ครับ…แม้ว่าจะมีบางอย่างที่ยังขยี้ได้อีก!

ภาพยนต์แอคชั่นแฟนตาซีสุดมันส์ “ขุนพันธ์ 2″ จุดวัดใจความดี Vs ความชั่ว เข้าฉายทั่วประเทศในวันที่ 23 สิงหาคม 2018

 ***************ดูจบ ลุกได้เลย ไม่มี End credit!***************

แอดมิน Ak47