Kamen Rider: Memory of Heroez

ประเภท :  ACTION
เครื่อง :  PS4  / Switch 

พัฒนาโดย :  BANDAI NAMCO Entertainment Inc
วันวางจำหน่าย :  29 ตุลาคม  2020 ในเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ

 ตัวอย่างล่าสุด 

หากกล่าวถึงฮีโร่ที่อยู่คู่จอทีวีมาทุกยุคสมัย ก็ต้องนึกถึงฮีโร่จากแดนปลาดิบอย่าง “คาเมนไรเดอร์” อย่างแน่นอน แม้ว่าการถ่ายทำ หรือการนำเสนอเนื้อหาจะมีการเปลี่ยนไป แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงเดิม คือเรื่องราวความกล้าหาญ การต่อสู้กับความชั่วร้าย และปลูกฝังให้ผู้ชมได้ตระหนักถึงความยุติธรรม ความถูกต้องในรูปแบบต่างๆ เป็นมนต์สเน่ห์ของคาเมนไรเดอร์ที่มีมาถึงทุกวันนี้ 

และนี่คือ ผลงานเกมแอคชั่นลุยแหลกตัวใหม่ล่าสุด ที่จะรวมเอาคาเมนไรเดอร์ 2 ยุคมาฟอร์มทีมพิทักษ์โลกเป็นการเฉพาะกิจ ในเกม Kamen Rider: Memory of Heroez

เกมนี้คือ!?

Kamen Rider: Memory of Heroez เป็นผลงานเกมแอคชั่นลุยแหลกจากทาง Bandai Namco มีกำหนดลงให้ PS4  และ Switch   ที่เรียงเรื่องราวใหม่ (คิดซะว่าเป็นตอนพิเศษก็ได้)  นำทีมโดย คาเมนไรเดอร์ ซีโร่วัน ไรเดอร์คนแรกของยุคเรย์วะ ตามมาด้วย คาเมนไรเดอร์ดับเบิล และ คาเมนไรเดอร์โอส โดยทีมงานระบุว่า นี่จะเป็นเกมใหม่ ที่มุ่งเน้น “ประสบการณ์เกมคาเมนไรเดอร์ที่พัฒนามากขึ้นกว่าเกมก่อนๆที่เคยลงให้คอนโซลก่อนหน้านี้”  เพราะผู้เล่นจะได้สัมผัสถึงคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกันของคาเมนไรเดอร์ทั้งสามตัว ผ่านการเล่าเรื่อง สไตล์การต่อสู้ และ อุปกรณ์เสริมแกดเจ๊ทต่างๆ ก็ถูกนำเสนอให้สามารถมีส่วนร่วมกับเกมเพลย์อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น…

เรื่องราวในเกมนี้ จะเกิดขึ้นใน Sector City เกาะที่เต็มไปด้วยพลังงานปริศนาที่ไม่มีใครรู้จัก มันเคยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่รู้จักกันดีกับผู้เข้าชมจำนวนมากทุกปี … จนกระทั่งเกิดอุบัติเหตุ

ในตอนนั้น ที่สำนักงานนักสืบนารุมิ ได้รับอีเมลลึกลับที่ระบุชื่อว่า Doctor Aida ได้ร้องขอให้ไปตรวจสอบ โชทาโร่ หรือ คาเมนไรเดอร์ดับเบิ้ล ได้เดินทางไปยัง Sector City ซึ่งเขาได้พบกับนักรบลึกลับที่มีตัวอักษร X

และที่นั่น ก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดอีกครั้ง เมื่อมีการปรากฏตัวของ คาเมนไรเดอร์อีกสองคน ได้แก่ คาเมนไรเดอร์โอส และ คาเมนไรเดอรซีโร่วัน ผู้มาจากอนาคต ทั้งสามต้องปะทะกับกองทัพวายร้ายที่น่าจะตายไปแล้ว แต่ก็มาปรากฎตัวอย่างลึกลับ มันเกิดอะไรขึ้นที่เกาะแห่งนี้กันแน่??

5 สิ่งควรรู้ก่อนซื้อเกมนี้มาเล่น 

หลายๆครั้งที่เกมจากซีรี่ส์คาเมนไรเดอร์มักจะถูกค่อนขอดว่าเป็น“เกมห่วย” “เกมเด็กน้อยเล่น”“ไม่มีความท้าทายใหม่ๆ” “เกมขายตัวการ์ตูน” บลาๆๆๆ แต่เกมนี้ มีจุดที่น่าสนใจ และเราอยากให้คุณรู้ก่อนซื้อมาเล่น อ่านจบแล้วค่อยตัดสินใจว่าจะกดมั้ย…

1.ตัวเกมเป็นเกมแอคชั่นลุยด่าน ที่มีแค่ไรเดอร์ 3 ตัว

ภาคที่ผ่านๆมา จะเป็นเกมไฟติ้ง หรือไม่ก็ออกแนวกึ่งๆมุโซลุยแหลก+รวมญาติคาเมนไรเดอร์ ซึ่งยุคหลังๆนี่ไรเดอร์แต่ละตัวลูกเล่นเยอะมาก ทำให้ทีมงานไม่น่าจะใส่ใจกับเกมเพลย์ได้ดี เพราะมัวแต่คิดเรื่องการถ่ายทอด “คาแรคเตอร์” คาเมนไรเดอร์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว แล้วก็ไปไม่สุดซักอย่าง…

ในภาคนี้ ทีมงานได้ปรับปรุงจากเสียงตอบรับของ Battride War ที่เคยวางขายก่อนหน้า ที่ออกไปในทิศทางที่ดี และทีมงานก็ได้ลดสเกลความเยอะของตัวละคร แล้วเน้นไปที่เกมเพลย์ กับการเล่าเรื่องมากกว่า ซึ่งโปรดิวเซอร์เกมนี้อย่างคุณ มาตะโนะ เคนทาโร่ ได้กล่าวว่า ทั้งคาเมนไรเดอร์ ดับเบิ้ล / โอส และซีโร่วัน ได้รับการคัดเลือกเป็น 3 ตัวเอกในเกมนี้  เพราะว่าเขาประทับใจกับทิศทางของภาพยนตร์ Kamen Rider W Forever: A ถึง Z / The Gaia Memories of Fate และตั้งใจจะให้เกิดความแตกต่างระหว่างทีวีซีรี่ส์ กับ ตัวเกม บวกกับเนื้อหาที่หนักหน่วง ทำให้สไตล์การเล่าเรื่องของคาเมนไรเดอร์ทั้ง 3 ตัว ที่ปรากฏตัวในเกมนี้จะมีความเข้มข้น จึงเน้นไปที่ผู้เล่นที่มีอายุขึ้นมาอีกจากฐานเดิม

2.เกมนี้ เตะต่อยสแปมปุ่มมั่วๆไม่ได้ เพราะมีเกจ RP 

คุณอาจจะสแปมปุ่มท่าเตะต่อยธรรมดาอันแสนเบาหวิวได้เพื่อเลี้ยงคอมโบ แต่กับ ท่าซิกเนเจอร์ ที่สามารถสร้างความเสียหายรุนแรง หรือแม้แต่ การกลิ้งหลบท่ายาก ต่างๆ  เกมนี้จะมีค่า RP เข้ามากำหนด

โดยค่าRP หรือ Rider Point  เปรียบเหมือนค่า Stamina ในเกม Dark Soul ทำให้แอคชั่นของเหล่าไรเดอร์นั้นต้องคิดก่อนเพราะ ค่า RP คือสิ่งจำเป็นสำหรับการโจมตีและหลบหลีกที่ทรงพลัง การตรวจสอบสถานะของการต่อสู้ ท่าไม้ตาย แอคชั่นเล่นใหญ่มันส์ๆจะเกิดขึ้นได้เพราะระบบนี้

3.เมื่อไรเดอร์เหลือแค่ 3 ตัว จึงมี  ระบบChain Action ที่สามารถเลือกการเปลี่ยนฟอร์มร่าง ทำให้กิมมิคของคาแรคเตอร์คาเมนไรเดอร์ชัดขึ้น

ในงานดีไซน์แอคชั่นต่างๆ ในเกมนี้ จะมีความแตกต่างจาก  Battride War  หรือ Climax Heroes ที่เคยวางขาย เราจะได้เห็นท่าคอมโบต่อเนื่องใหม่ๆ ท่าสวยๆ แอคชั่นเท่ๆจากคาเมนไรเดอร์แต่ละร่าง ซึ่ง คาเมนไรเดอร์ ดับเบิ้ล / โอส และ ซีโร่วันเอง ก็มีร่างที่เยอะมากๆ แน่นอนว่าทีมงานใส่มาไม่หมดหรอก แต่ที่เลือกมาในเกม ก็เป็นร่างที่มีให้เห็นในเรื่องบ่อยครั้ง

ที่เห็นชัดที่สุดคือ การเปลี่ยนฟอร์มของ “คาเมนไรเดอร์ ดับเบิ้ล” ที่ไหลลื่น ต่อเนื่อง และดูสนุกมากๆ อีกทั้งยังมีการนับคอมโบ ที่จะส่งผลต่อการจบฉากด้วย

4.ตัวเกมไม่ได้มาเป็นแมปยาวๆใหญ่ๆ แต่จะเป็นการแบ่งโซนจำกัด เหมือนเกมลุยด่านสมัยก่อน

ใครที่เคยเล่นเกมพวก Double Dragon / Final Fight / Fighting Force น่าจะเก๊ทกับระบบจำกัดพื้นที่ ที่ศัตรูจะมาเป็นเวฟๆให้เราไล่เคลียร์จนจบ แล้วไปยังพื้นที่ต่อๆไป จนกว่าจะถึงห้องบอส เกมนี้ จากตัวอย่างที่ปล่อยออกมา แอดมินนั่งไล่ดูแล้ว ทำให้นึกถึงบรรยากาศเกมที่ยกตัวอย่างมาพอสมควรเลย มันไม่ใช่เกมแมปใหญ่ไล่หวดแบบ Dynasty Warrior  แน่นอน

อีกทั้งการแบ่งโซนนอกจากฉากบู๊แล้ว ยังมีในส่วนของฉากการสืบสวน แก้ปริศนา Puzzle ต่างๆ ที่ผู้เล่นจะต้องใช้ “อุปกรณ์ Gadget” สิ่งของที่บทบาทจืดจางมากๆในหนัง แต่ในเกมนี้ มันจะเป็นหนึ่งในตัวช่วยสำคัญมากๆในการแกะรอย บอกเส้นทาง หรือแม้แต่เผยจุดอ่อนบอส และที่ซ่อนไอเทมลับอีกด้วย

5.เกมนี้ มีแปล Eng วางขายทั่วโลก

 แน่นอนว่า เมื่อตัวเกมเน้นความสนุกที่เข้มข้น และทีมงานเองก็ออกตัวแล้วว่าจะมีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ไม่ได้ขายเด็กๆ ทำให้เกมนี้ถูกกำหนดให้วางขายพร้อมกันทั่วโลก มีทั้งแบบ Jap Ver และ Eng Ver เสียง Jap ให้ได้เก็บกัน และยังมีเวอร์ชั่นพร้อมเพลงจากซีรี่ส์ด้วย แน่นอนว่าราคาจะแพงกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะเพลงแต่ละเพลงของคาเมนไรเดอร์ยุคใหม่ๆ มาจากค่ายเพลงดังๆ ค่าLCของแต่ละเพลง เลยถูกนำมาคิดในเกมด้วย ดังนั้นโปรดเข้าใจด้วยว่า เกมเวอร์ชั่นที่มีแค่เพลง Op หรือจากซีรี่ส์ทำไมมันแพงกว่า…

Kamen Rider: Memory of Heroez  จะวางขายทั่วโลก วันที่ 29 ตุลาคม 2020 ทั้งในเวอร์ชั่นปกติ และ Premium Sound เพลงประกอบจากเวอร์ชั่นทีวี 

แอดมิน AK47

รายชื่อเพลง

“W-B-X ~W-Boiled Extreme~”
“Cyclone Effect”
“Free Your Heat”
“Finger on the Trigger”
“Extreme Dream”
“Anything Goes!”
“Regret Nothing ~Tighten Up~”
“Got to Keep It Real”
“Ride on Right Time”
“Sun Goes Up”
“Time Judged All”
“Shout Out”
“Power to Tearer”
“Real x Eyez”
“Another Daybreak”
And more to be announced!

OST
“Imamade no Double ha”
“Dai Tsuiseki”
“Panic World”
“Kyodaika”
“Dai Ransen”
“Hardboiled”
“Yogiri no Tantei”
“OOO the Story”
“Perfect Traveler”
“Henshin OOO”
“Joshi Gakusei Hina”
“Yokubou no Kyodaika”
“Dai Soudou”
“Shutsugen”
“Naniwa no Kokoroiki”
“Double Mecha”
“Shinjitsu”
“Oyassan”
“Kyuukyoku no Memoria”
“Unmei no Joker”
“Core Medal no Himitsu”
“Scanning Charge”
“Ani to Imouto”
“Hametsu he no Countdown”
“Hisou-na Hina”