ย้อนกลับไปในปี 1993 มีภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง ที่นอกจากจะกอบโกยรายได้มหาศาลแล้ว มันกลายเป็นอีกหน้าหนึ่งประวัติศาสตร์ของวงการภาพยนตร์ แล้วยังปลุกกะแสเรื่องราวของไดโนเสาร์ให้กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้งจนถึงทุกวันนี้
Jurassic Park ผลงานการกำกับของพ่อมดวงการฮอลลีวู้ด สตีเว่น สปีลเบิร์ก ที่หยิบเอาผลงานชิ้นโบว์แดงของ ไมเคิ่ล ไครช์ตั้น (ซึ่งเขาได้มีส่วนร่วมในฐานะเขียนบทหนังอีกด้วย) มาเนรมิตจากตัวหนังสือให้กลายเป็นความจริงบนโลกภาพยนตร์
หนังใช้ต้นทุนไปถึง 63 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่กวาดรายได้ถล่มทลายถึง 1,209 ล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมกวาดสามรางวัลจากเวทีออสการ์ในปี 1994 (เสียงยอดเยี่ยม, ลำดับเสียงยอดเยี่ยมม วิชวลเอฟเฟกต์ยอดเยี่ยม)
และเพื่อเป็นการต้อนรับการมาของภาคล่าสุด Jurassic World: Fallen Kingdom อาณาจักรล่มสลาย ก็จะขอพาทุกท่านไปย้อนรอยถอยหลังเรื่องราวตั้งแต่ Jurassic Park จนถึง Jurassic World
Welcome To Jurassic Park !!!
1.) Jurassic Park (1993)
เรื่องราวเริ่มต้นจาก จอหน์ แฮมมอนด์ ประธานบริษัทของ Ingen เดินทางไปยังมอนทาน่า เพื่อพบกับ ดร.อลัน แกรนต์ นักบรรพชีวินวิทยา และ นักบรรพพฤกษศาสตร์ ดร.เอลลี แซตต์เลอร์ โดยไม่ได้นัดล่วงหน้า (นึกจะมาก็มา ฮ่า)
แฮมมอนด์ ต้องการให้ทั้งสองคนไปเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ เพื่อชมเที่ยวและตรวจสอบความปลอดภัย ของสวนสนุกที่ทางเขาและ Ingen ทุ่มทุ่นเม็ดเงินมหาศาล ซึ่งแฮมมอนด์ไม่ยอมเผยว่าสวนสนุกที่ว่ามันคืออะไร แต่ชายแก่ชุดขาวกลับตอบว่าทั้งคู่จะต้องชอบอย่างแน่นอน
ทั้งคู่ตอบรับข้อเสนอเดินทางไปยังสวนสนุกที่ว่านี้ ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะ อิสลา นูบลา นอกจากอลันและเอลลี่ที่ได้ร่วมทริปครั้งนี้ ก็ยังมี ดร.เอียน มัลคอลมน์ นักคณิตศาสตร์ผู้ชื่นชอบทฤษฏีโกลาหล ซึ่งร่วมทริปไปครั้งนี้ด้วยเพราะ โดนัลด์ เจนาโร ทนายความและผู้ประสานเป็นคนเชิญมานั่นเอง
เหตุผลที่ต้องเชิญผู้เชี่ยวชาญจะมา เกิดเหตุการณ์ที่คนงานถูกทำร้ายด้วย “สินค้า” ที่ถูกลำเลียงในสวนสนุกแห่งนีจนถึงความตาย เรื่องไปถึงหูเหล่าบรรดานักลงทุน ทำให้พวกเขาไม่มั่นใจว่าสวนสนุกแห่งนี้จะเปิดบริการได้หรือไม่ จึงเป็นเหตุผลที่ แฮมมอนด์ และ เจนาโร ได้เชิญพวกเขามาเพื่อจะฟังความเห็นและตรวจสอบ ซึ่งถ้าได้รับความเห็นชอบ จึงจะเซ็นรับรองเปิดทำการได้
เมื่อพวกเขามาถึงเกาะอิสลา นูบลา แล้วภาพแรกที่แฮมมอนด์ปล่อยไม้เด็ดให้เหล่าผู้เชี่ยวชาญได้เห็นโดยเฉพาะ ดร.อลัน ที่แทบจะไม่เชื่อสายตาตรงหน้า เพราะภาพที่เขาเห็นคือ ไดโนเสาร์พันธุ์แบรกคิโอซอรัส!!
และพอเห็นฝูงไดโนเสาร์ ก็เป็นที่ชัดเจนว่าที่นี่คือ Jurassic Park สวนสนุกกึ่งสวนสัตว์ ที่จอหน์ แฮมมอนด์ ปรารถนาจะให้เป็นที่เรียนรู้ของสัตว์โลกล้านปีในยุคปัจจุบัน แต่คำถามที่อลันและคนอื่นๆสงสัย
“พวกมันเกิดขึ้นได้อย่างไร?”
พวกเขาพบคำตอบเมื่อได้ฟัง มิสเตอร์DNA อธิบายขั้นตอนการสร้างสัตว์โลกล้านปีที่สูญพันธุ์ไปแล้วว่านักวิทยาศาสตร์และนักพันธุศาสตร์ของที่นี่ ได้ทำการสกัดเลือดไดโนเสาร์จากยุงโบราณ ที่ถูกฝังตัวในยางไม้กลายเป็นก้อนอำพัน เมื่อได้เลือดที่ต้องการแล้ว ก็ต้องมาตรวจสอบดีเอ็นเอ ซึ่งความเก่าแก่ที่ทำให้ดีเอ็นเอไม่สมบูรณ์ จึงต้องนำดีเอ็นเอของกบมาเติมเต็มให้สมบูรณ์ ก่อนจะเพาะเลี้ยงดูแลอย่างใกล้ชิด
เมื่อเหล่าผู้เชี่ยวชาญได้มาเห็นไข่ไดโนเสาร์ที่กำลังฟักตัวต่อหน้าต่อตา มัลคอล์ม ก็สงสัยว่าแล้วจะรู้ได้ไงว่าตัวไหนตัวผู้ตัวเมีย ดร.เฮนรี่ วู นักพันธุศาสตร์ประจำ Jurasic Park ให้คำตอบว่า ใช้วิธีตัดต่อพันธุกรรมให้เป็นตัวเมียทั้งหมดเพื่อควบคุมประชากร ซึ่งสิ่งที่พวกเขาได้เห็นตั้งแต่แรกมันหักหลังทฤษฎีที่เรียนมาเกือบทั้งหมดเลยทีเดียว หลังจากที่พวกเขาได้ไปดูการให้อาหารเวโลซีแร็ฟเตอร์ ก่อนจะทานข้าวเที่ยงเพื่อเตรียมตัวไปชมบริเวณสวนสนุก แทนที่จะเป็นมื้ออร่อย กลับกลายเป็นการขัดแย้งผ่านบทสนทนากลางโต๊ะอาหาร ซึ่ง มัลคอล์ม ให้ความเห็นว่า สิ่งที่แฮมมอนด์และทุกคนกำลังทำ ณ เวลานี้ มันเหมือนไปฝืนธรรมชาติ เพราะไดโนเสาร์มันถูกเลือกให้สูญพันธุ์ไปจากโลก ไม่ต่างอะไรกับการชำเราธรรมชาตินั่นเอง
เอลลี่ให้ความเห็นว่า แฮมมอนด์ล่วงรู้ระบบนเวศที่สูญพันธุ์ได้อย่างไร และพืชที่เอามาใช้ในสวนแห่งนี้ โดยที่เหมือนตกแต่งให้มันสวย ซึ่งไม่รู้ว่ามันจะมีพิษหรือไม่ ขณะที่อลัน กลับบอกว่าถ้าทั้งสอง อย่างมาอยู่ด้วยกันไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ซึ่งยากที่จะคาดเดาได้
หลังจากนั้นก็เริ่มโปรแกรมทัวร์สวนไดโนเสาร์ เพื่อทำการตรวจสอบความปลอดภัย ซึ่งนอกจากผู้เชี่ยวชาญที่เชิญมาแล้ว ยังมีหลานของแฮมมอนด์ทั้งสองคน เล็กซ์ และ ทิม เมอร์ฟีย์ มาร่วมทริปครั้งนี้ด้วยซึ่งจะต้องนั่งรถยนต์ระบบไฟฟ้าชมตลอดทาง
แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่เจออะไรเลยกับเจอไดโนเสาร์อย่างไทรเซอราทอปส์ที่กำลังป่วย แถมมีข่าวว่ากำลังจะมีพายุลูกใหญ่กำลังมายังเกาะอิสลา นูบลา ซึ่งทำให้ทัวร์ต้องจบแค่นั้น ทำให้แฮมมอนด์หัวเสียที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย ก่อนจะให้โปรแกรมเมอร์พารถกลับมายังที่จุดเริ่มต้นเพื่อรอพรุ่งนี้
ขณะเดียวกัน เดนนิส เนดรี่ หนึ่งในโปรแกรมเมอร์ของสวนสนุกที่เพิ่งจะมีปากเสียงกับ จอหน์ แฮมมอนด์ เรื่องค่าแรง จึงเริ่มภารกิจลับเพราะเขาตัดสินใจเป็นสายให้กับริษัทคู่แข่ง (ผู้จ้างวาน ลูอิส ดอดจ์สัน) โดยการปล่อยไวรัสทำให้ระบบความปลอดภัยล่มทั้งเกาะ ก่อนจะสบโอกาสไปขโมยตัวอ่อน ไปส่งที่ท่าเรือ ซึ่งตอนนี้พายุเข้าไม่พอฝนตกหนักอีกด้วย
ซึ่งสิ่งที่เขาทำกำลังจะกลายเป็นจุดชวนฝันร้ายบนเกาะแห่งนี้เลยทีเดียว
ผลลัพธ์ที่ได้คือระบบความปลอดภัยล่มทั้งเกาะ แถมเหล่าลูกทัวร์ก็ติดแหง็กอยู่ตรงหน้ากรงทีเร็กซ์ ซึ่งตอนแรกดูเหมือนไม่มีอะไรเลย ก่อนที่ เล็กซ์ และ ทิม จะเห็นน้ำสองแก้วสั่นกระเพื่อม และพบขาแกะหล่นมายังรถตรงหน้า ก่อนที่เหล่าลูกทัวร์จะเซอร์ไพรส์แบบไม่ทันตั้งตัว
เจ้าที-เร็กซ์ก็หลุดออกมา ก่อนที่สวนสนุกแห่งนี้จะกลายเป็นสวนมรณะที่อลันและคนอื่นๆจะต้องเอาตัวรอดไปจากที่นี่ให้ได้
สุดท้ายตอนจบของเรื่องคือพวกเขาสามารถหนีไปจากเกาะนรกล้านปีได้ ซึ่งแน่นอนว่าเหล่าผู้เชียวชาญตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “ไม่อนุมัติ” ให้เปิดบริการ ซึ่งทำให้อลันและคนอื่นๆรอดกลับได้มาแบบสะบักสะบอม ส่วนแฮมมอนด์ก็ใจสลายก่อนจะทิ้งเกาะไปในที่สุด
2.) The Lost World : Jurassic Park (1997)
เรื่องราวจะเกิดขึ้นหลังภาคแรกไป 4ปี มีครอบครัวเศรษฐีมาพักผ่อนที่เกาะอิสลา ซอร์นา ซึ่งเด็กสาวคนหนึ่งไปพบไดโนเสาร์ตัวเล็กๆ เธอคงคิดว่าเป็นกิ้งก่าเลยให้อาหารไปก่อนจะเรียกพ่อแม่ให้มาดู แต่พอหันมากลับพบว่าพวกมันกำลังจะรุมกินเธอ!!
กลับมาที่ ดร.เอียน มัลคอล์ม ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นโชคดีที่ไม่เป็นอะไรมาก ก่อนที่เขาจะเขียนหนังสือตีพิมพ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ถูกบริษัท Ingen ที่เวลานี้ จอหน์ แฮมมอนด์ ไม่ได้มีบทบาทอีกต่อไป แต่กลับเป็น ปีเตอร์ ลัดโลว์ หลานชายจอมเย่อหยิ่งของแฮมมอนด์ขึ้นมาดำรงตำแหน่ง ซึ่งเขาล่ะที่ปิดปากเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลให้ มัลคอล์ม ตกงานทันที (แม้จะจ่ายเงินชดเชยให้)
มัลคอล์มได้มีโอกาสเจอแฮมมอนด์ที่ตอนนี้สุขภาพไม่ค่อยจะดีเท่าไรนัก ซึ่งเหตุผลที่เรียกเขามา เพราะตอนนี้เขาเชื่อในสิ่งที่มัลคอล์มได้พูดไว้ แต่ตอนนี้เขาอดห่วงที่ เกาะอิสลา ซอร์นา เป็นอย่างมาก
ต้องอธิบายก่อนว่า เกาะนี้ถือเป็นเกาะที่เกี่ยวข้องกับ Jurassic Park คือ อิสลา นูบลา เป็นส่วนแสดงและสวนสนุกในภาคแรกที่มัลคอล์มไปเยือน แต่ที่นี่มีชื่อว่า ไซต์บี ซึ่งเป็นโรงงานผลิตไดโนเสาร์ โดยใช้เวลาเพียง 2-3 เดือนก่อนที่จะย้ายไปยังอิสลา นูบลาต่อไป
แต่หลังจากหตุการณ์ในครั้งนั้น ที่ไซต์บี พอไม่มีใครดูแล พวกมันก็ดำรงชีวิตด้วยตัวของพวกมันเองจนกลายเป็นเกาะแห่งโลกล้านปีที่แท้จริง ซึ่งตรงนี้ที่แฮมมอนด์เป็นห่วงเพราะจะมีหลานตัวเองและอีกหลายๆคนจะใช้ผลประโยชน์จากตรงนี้กอบโกยรายได้
ซึ่งแฮมมอนด์ต้องการข้อมูลเหล่านี้เพื่อเรียกร้องและประกาศให้คนทั่วไปได้ทราบ และเห็นด้วยกับการอนุรักษ์เกาะแห่งนี้ จึงจัดทีมสำรวจโดยเชิญผู้เชี่ยวชาญไปเก็บข้อมูลให้ได้มากที่สุด ซึ่งแฮมมอนด์ ต้องการให้มัลคอล์มในฐานะผู้ที่มีประสบการณ์มาก่อน
แน่นอนว่า มัลคอล์ม ปฏิเสธที่จะไม่ร่วมงานครั้งนี้ แต่ท้ายสุดยอมกลืนน้ำลายเพราะแฟนสาวของเขา ซาร่า ฮาร์ดิ้ง คือหนึ่งในทีมที่จะไปทำงานชิ้นนี้ด้วย ทำให้เขาขอร่วมภารกิจครั้งนี้ ซึ่งสำหรับเขาแล้วนี่ไม่ใช่ภารกิจสำรวจแต่เป็นการกู้ภัย
มัลคอล์ม ร่วมทีมกับอีกสองคนคือ เอ็ดดี้ คาร์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสือสารที่เตรียมอุปกรณ์พร้อมสรรพ นิค แวน โอเว่น ช่างภาพมากประสบการณ์ ก่อนที่จะเจอ ซาร่า และสมาชิกที่ไม่ได้รับเชิญอย่าง เคลลี่ เคอร์ติส ที่ขอตามพ่อ แม้จะมาด้วยการแอบมาด้วยเนี่ยสิ
ขณะที่พวกมัลคอล์มวางแผนอยู่นั้น ทางปีเตอร์ ลัดโลว์ก็ส่งทีมไปไซต์บีเช่นกัน ซึ่งนำทีมโดย โรแลนด์ แทมโบ้ นายพรานมากประสบการณ์ที่ไม่ขอรับเงินเดือน แต่ขอล่าที-เร็กซ์ ด้วยน้ำมือของเขาเอง ซึ่งการส่งคนมายังไซต์บีของทีมลัดโลว์ คือ การนำไดโนเสาร์ไปจัดแสดงที่ Jurassic Park ซึ่งตั้งอยู่ที่ซานดิเอโก้ เพราะฉะนั้นเขาจึงทุ่มเม็ดเงินมหาศาลเพื่อนำพวกมันเข้าแผ่นดินใหญ่ให้จงได้
อีกเหตุผลคือการสร้าง Jurassic Park ที่ใหม่เพื่อต้องการใช้หนี้เก่าที่ แฮมมอนด์ ทำลงไปและยังเป็นการเรียกศรัทธาจากผู้ถือหุ้นเก่าได้แน่นอน
ท้ายที่สุดภารกิจนี้ทั้งสองทีมจึงต้องหาทางเอาตัวรอดไปจากเกาะนรกแห่งนี้ ซึ่งงานนี้สังเวยชีวิตไปหลายต่อหลายคน แต่ท้ายที่สุดภารกิจของ ลัดโลว์ ประสบความสำเร็จ เพราะ แทมโบ้ สามารถจับที-เร็กซ์ แบบตัวเป็นๆได้ แม้ว่านายใหญ่แห่ง Ingen จะยื่นข้อเสนองามๆให้ แต่ท้ายที่สุดนายพรานจอมเก๋าขอกลับบ้านไปแบบมือเปล่าและไม่ขอร่วมงานกับลัดโลว์อีกต่อไป
เท่ากับว่าลัดโลว์สามารถนำเจ้า ที-เร็กซ์ มาได้
ใครคิดว่านี่คือฉากจบ
นี่คือฝันร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง!!!
เมื่อถึงวันเปิดตัวที-เร็กซ์ เพื่อนำมาแสดงยัง Jurassic Park แห่งใหม่ งานนี้ไมได้เตี้ยมกันแน่นอน เพราะเรือที่ขนส่งมาพุ่งเข้าชนที่ท่ากระแทกแบบไม่ทันตั้งตัว ก่อนที่เจ้า ที-เร็กซ์จะสำแดงเดชออกอาละวาดไปทั่วซานดิเอโก้ ซึ่งท้ายที่สุด ซาราห์ สามารถยิงลูกดอกใส่จนสลบ ก่อนที่ในวันต่อมาจึงมีการขนส่งกลับไปยัง เกาะอิสลา ซอร์นา และ จอหน์ แฮมมอนด์ ขอให้ทางรัฐบาลคอสตาริก้า ปิดเกาะปล่อยให้มันอยู่อย่างสงบ
3.) Jurasic Park III
เปิดฉากที่ เอริค เคอร์บี้ และพ่อเลี้ยงเดินทางไปยังเกาะ อิสลา ซอน่า ซึ่งเกิดเหตุบางอย่างที่ทำให้ทั้งคู่ต้องลงมายังเกาะที่ถูกปิดตายแห่งนี้
ภาคนี้เล่าถึง ดร.อลัน แกรนท์ ที่หลังจากเหตุการณ์ภาคแรกนั้น เขาก็ยังคงเป็นนักบรรพชีวิน ขุดกระดูกไดโนเสาร์ต่อไป ซึ่งเขายังศึกษาเรื่องราวของแร็พเตอร์ ซึ่งเขาได้เจอขอมูลใหม่ๆ แต่ยังขาดเงินทุนวิจัยสนับสนุน ซึ่งเวลาไปบรรยายที่ไหนมีกจะขอให้เขาเล่าประสบการ์ใน อิสลา นูบลา จนเขาไม่อยากนึกถึงมันอีก
วันหนึ่งมี่คู่สามีภรรยา ชื่อ พอล และ อแมนด้า เคอร์บี้ ซึ่งขอนัดไปกินข้าวคุย ก่อนจะเข้าเรื่องว่าอยากให้ อลัน ช่วยเป็นไกด์ไปยังเกาะ อิสลา ซอร์นา โดยจะมอบเงินทุนตามที่อลันต้องการ ซึ่งก็ตอบปากรับคำเพราะพวกเขาจะไปแบบนั่งเครื่องบินผ่านแค่นั้น
เมื่อวันเดินทางมาถึง อลัน ซึ่งมากับผู้ช่วยหนุ่มไฟแรงอย่าง บิลลี่ เบรสแนน แต่ปรากฏว่าพวกเขาเอาเครื่องลงจอดกะทันหัน ก่อนจะนำเครื่องขึ้นอีกครั้งแต่เกิดเหตุจนเครื่องบินตกในที่สุด
ภายหลัง อลัน รู้ความจริงว่า พอล และ อแมนด้า หย่าร้างกันแต่ลูกชายหายไป 8 อาทิตย์ แถมเข้าใจผิดว่า อลันเคยมีประสบการณ์เอาตัวรอดที่นี่ (สงสัยจำผิดที่ ฮ่า) เลยต้องหลอกให้อลันมารับงานนี้เพื่อช่วยตามหาลูกชายนั่นเอง ซึ่งตลอดทั้งเรื่อง โดยเฉพาะ อลัน ที่ต้องกลับไปเจอฝันร้ายในอดีตอีกครั้ง โชคดีที่เขาพบเจอ เอริค จนสามารถพามาเจอพ่อแม่ได้
ขาไปไม่เท่าไรแต่ตอนหลบหนี แทบจะหายใจไม่ทั่วท้องเพราะพวกเขาต้องเจอทั้ง สไปโนซอรัส หรือ ฝูงเทอราโนดอน ซึ่งงานนี้ ดร.อลัน โทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจาก แอลลี่ นางเอกจากภาคแรก ซึ่งท้ายสุด
อลันและครอบครัวเคอร์บี้สามารถหนีมาจากเกาะไซต์บีได้สำเร็จ
4.) Jurassic World (2015)
22 ปีผ่านไป บริษัท Ingen ก็ถูกซื้อกิจการจาก Masrani Global ซึ่งมี ไซม่อน มาสรานี่ ประธานบริษัทเข้าซื้อกิจการทั้งหมดในปี 1997 ก่อนจะสานตำนานชายชุดขาวให้เป็นจริง ด้วยการสร้าง Jurassic World สวนสนุกโลกล้านปีแบบครบวงจร ซึ่งเปิดให้บริการในปี 2005 ทุกวันนี้มีนักท่องเที่ยว 20,000 คนต่อวัน เดินทางจากเรือชายฝั่งคอสตาริก้า
ปัจจุบันถึงสวนสนุกจะสร้างความตื่นเต้นให้กับคนที่มาเที่ยว แต่ทุกวันนี้หลายคนไม่ได้มองไดโนเสาร์แบบตื่นเต้นเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว แคลร์ เดียริ่ง ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการจึงต้องเรียกแขกเพื่อเพิ่มยอดผู้เข้าชมด้วยการสร้างไดโดนเสาร์พันธุ์ผสมในชื่อ อินโดไมนัสเร็กซ์ ที่ใหญ่กว่า เสียงดังกว่า และ เขี้ยวใหญ่กว่า
แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นเมื่อ แคลร์ ต้องติดต่อ โอเว่น เกรดี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมไดโนเสาร์ให้มาช่วยตรวจสอบความปลอดภัยของกรง อินโดไมนัสเร็กซ์ ซึ่งปรากฏว่าเจ้าไดโนเสาร์สายพันธุ์นี้มันออกอาละวาดจนหลุดออกมาจากรง จนสร้างหายนะในสวนสนุกซึ่ง เกรย์ และ แซค ซึ่งยังคงเที่ยวอยู่นั้นก็ต้องมาเจออินโดไมนัสเร็กซ์ เข้าจนได้
ฉากไคลซ์แม็กของภาคนี้หลังจากโอ่เว่นและแคลร์พร้อมหลานๆ ต้องหนีเอาชีวิตให้รอดจากสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมาแม้ว่าฝูงแร็พเตอร์ที่โอเว่นฝึกจะช่วยแต่มันก็แกร่งจนมิอาจต้านทานได้ แคลร์จึงเปิดการ์ดที่หมอบด้วยการส่ง ที-เร็กซ์ มาเปิดศึกซูเปอร์ไฟต์ลุ้นติดจอเลยทีเดียว ซึ่งท้ายที่สุดเหตุการณ์ก็ซ้ำรอยเหมือนเมื่อปี 1993 จนได้
และล่าสุดที่กำลังเข้าโรง ณ ตอนนี้ กับการกลับไปเยือนเกาะอีกครั้ง แต่ครั้งนี้คือภารกิจที่จะต้องช่วยชีวิตฝูงไดโนเสาร์ก่อนที่มันจะซ้ำรอยเหมือนเมื่อร้อยล้านปีหรือไม่
อ่านเรื่องราวทั้ง 4 ภาคจบ อย่าลืมไปชม Jurassic World: Fallen Kingdom อาณาจักรล่มสลาย ที่โรงภาพยนตร์ใกล้บ้านท่าน….
P.PETTY
ข้อมูลประกอบ
- https://pantip.com/topic/33756068
- https://pantip.com/topic/33759762
- https://pantip.com/topic/33825342
-นิตยสาร Starpic Special…Jurassic Park open the gate to jurassic world