John Wick : Chapter 4
ชื่อไทย : จอห์น วิค แรงกว่านรก 4
ประเภท : ภาพยนตร์
แนว : แอคชั่น / ระทึกขวัญ
ผู้กำกับ : แชด สตาเฮลสกี้
แสดงนำ : คีอานู รีฟส์
ผู้ผลิต : Lionsgate
ฉาย : 24 มีนาคม 2023
9 เหตุผลที่คุณต้องไปดู John Wick: Chapter 4 ในโรงเท่านั้น
1. แอ็กชันจัดหนักจัดเต็ม กับความยาว 169 นาที แบบเต็มอิ่ม เมากระสุนกันไปข้าง จัดเต็มฉากแอ็กชันมากกว่าภาคที่แล้วถึง 4 เท่า!
2. John Wick: Chapter 4 เป็นภาคที่ยกระดับภาพยนตร์แอ็กชันแห่งทศวรรษจนถูกยกระดับว่าเป็นอีกขั้นของหนังแอ็กชัน การันตีความเดือดจากปากของคีอานู รีฟส์ว่า “เราไม่เคยทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้มาก่อน”
3. เป็นภาคที่รวมตัวที่สุดแห่งทุกอย่าง ฉากแอ็กชันมากและยากที่สุด, การรวมตัวที่สุดของแอ็กชันสตาร์จากทั่วมุมโลก, งานสร้างที่ถูกเนรมิตมาอย่างยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา และ คุ้มค่าตั๋วทุกนาทีกับความยาวมากที่สุด พิสูจน์ความโหดกับ 3 ฉากแอ็กชันหยุดโลก ตอกย้ำว่านี่คือภาคที่ดีที่สุดของจักรวาลจอห์น วิค (ฉากดริฟต์รถโคตรคลั่ง /กระบองสองท่อนโคตรพีก/ ฉากไนต์คลับโคตรเดือด)
4. ซีนแอ็กชันโคตรเดือดประจำภาค! กับฉาก Car Fu ซีนดริฟท์รถที่คีอานูทุ่มเทฝึกดริฟท์รถด้วยตนเองถึง 9 เดือนเพื่อซีนนี้ซีนเดียว จัดเต็มความมันส์อัดแน่นบนจอยักษ์เท่านั้น
5. โลกต้องจับตาดู! การปะทะกันระหว่าง คีอานู รีฟส์ ท็อปสตาร์ตลอดกาลของโลกตะวันตก และ ดอนนี่ เยน ราชาวงการแอ็กชันแห่งโลกตะวันออก สงครามเดือดระหว่างอดีต 2 เพื่อนรัก ที่ต้องมาห้ำหั่นกันในภาคนี้ บทสรุปของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร ต้องรอติดตาม
6. รีวิวโคตรเดือด! กวาดคะแนนบนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ไปอย่างท่วมท้นกว่า 92% นับเป็นหนังแอ็กชันที่คะแนนสูงสุดแห่งปี และเสียงวิจารณ์พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “นี่คือ John Wick ภาคที่ดีสุด” รอพิสูจน์ได้ด้วยตาตัวเองบนจอยักษ์ในโรงเท่านั้น
7. คนรักหมาห้ามพลาด อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญประจำจักรวาล John Wick คือน้องหมาที่จะเข้ามามีบทบาทในแต่ละภาค รอติดตามความเท่และฉากแอ็กชันสุดเซอร์ไพรส์ที่มันส์ไม่แพ้ จอห์น วิค พร้อมกันในโรงได้เลย8. เนรมิตฉากสุดอลังการงานสร้าง ลงทุนถ่ายทำข้ามทวีปถึง 5 ประเทศ (ปารีส, โอซาก้า, เบอร์ลิน, นิวยอร์ก, จอร์แดน)
9. รอติดตามฉาก “มุมมองพระเจ้า(God’s Eyes View)” ที่คีอานู รีฟส์ พูดออกมาเองว่า “นี่คือฉากที่เขากดดันที่สุดขณะถ่ายทำ”
เรียกว่าเป็นกระแสฮือฮาเลยก็ว่าได้ กับหนังแอคชั่นพล๊อตง่ายๆ แต่ดูเนี้ยบ มีสไตล์เฉพาะตัวอย่าง John Wick ที่เปิดฉากโลกของนักฆ่าสุดเซอร์เรียลด้วยความตายของหมาพันธุ์บีเกิ้ลแสนรักของสุดยอดนักฆ่าของ “โจนาธาน วิค” (คีอานู รีฟส์) นำไปสู่การล้างบางมาเฟียรายใหญ่ เปิดโปงโลกอาชญกรรมที่กฏหมายต้องศิโรราบ และปลายทางคือความ “เจ็บจี๊ด” ที่เตรียมไปสู่สงครามโลกใต้ดิน…และยังเป็นบทที่ทำให้ “คีอานู รีฟส์” ดาราดังที่กำลังจมดิ่งกับความทุกข์จากปัญหาชีวิต ได้กลับมาโลดแล่นบนจอหนังใหญ่อีกครั้ง
รีวิว โคตรมันส์ /10
เป็นหนังที่ดูแล้วเหนื่อยแทนนักแสดงเลย
เป็นหนังที่คิดไว้แล้วว่า มันต้องออกมาสุดยอด โดนใจ และย่อยง่ายเข้าใจง่าย ระดับ “ถอดสมองดู”
และก็ไม่ผิดหวัง เมื่อ แชด สตาเฮลสกี้ ได้กำกับภาคที่ 4 ออกมาได้สมราคาคุยไว้ว่า จะเดือดสุดในชีวิต…ซึ่งตัวหนังได้พิสูจน์คำกล่าวนี้ว่า ไม่เกินจริง
ตัวหนังพกพาความยาวเกือบ 3 ชั่วโมง พร้อมกับซีนมากมายที่คุณต้อง “อิหยังหวะ”…“ได้เหรอวะ” … หรือแบบ “เ-ี้ยไรวะแ-่ง” เลย เพราะหลายๆคิวบู๊ออกแบบชวนให้นึกถึงหนังแอคชั่น Martial Art สไตล์เฉินหลงมากๆ + จอนห์ วิค ไตรภาคที่มีการใช้ปืน (End Creditระบุว่า หัวหน้าทีมสตั๊นท์เป็นชาวญี่ปุ่น)
จนเกิดส่วนผสมที่ช่วงแรกๆอาจจะยังไม่เข้าที่เข้าทาง แถมยังดูรู้เลยว่า “รอคิว” แน่ๆไม่ต่อยโบ๊ะบ๊ะเท่าไหร่ แต่เมื่อหนังมันผ่านจุดคิวบู๊ที่มีจุดสะดุด งึกๆงักๆในช่วงแรกๆมาได้ ตัวหนังก็สาดความสนุกเต็มข้อ และคิวสตั๊นท์ เหมือนจะไหลลื่นขึ้นเฉยเลย
(ต้องเข้าใจว่า หนังเรื่องนี้ ทีมงานถ่ายทำมีหลายยูนิตย่อย ชนิดถ่ายหลายทีมเยอะมากๆ ทำให้เซตติ้งต่างๆ การใช้ทีมงานคิวบู๊ อาร์ตไดฯ หรือแม้แต่ผกก.ภาพ ก็ยังต้องแยกกัน อาจจะมีเรื่องของการประสานงานของแต่ละฝ่ายที่คลาดเคลื่อนไปบ้าง จุดนี้พอเข้าใจได้)
คาแรคเตอร์ดีไซน์ สำหรับตัวละครใหม่ที่ปรากฎในเรื่อง ถือว่าทำออกมาได้น่าจดจำ โดยเฉพาะตัวละคร “เคน” ที่แสดงโดย “เจินจื่อตัน” (aka ดอนนี่ เยน ) ทำออกมาได้ดีชนิดที่คุณต้องจดจำ บทบาท ความขโมยซีน และความฮาในการแสดงออกของแอคติ้งตัวละคร “ตาบอด” ที่ปั่นจัดๆตัวตึง
ทำให้ตัวละครนี้เป็น “ตัวร้ายที่คุณเกลียดไม่ลง” เผลอๆคุณจะรัก “ไอ้บอดสอดรู้มาก” ที่เขาถ่ายทอดออกมาอีกด้วย ไม่ใช่ตัวละครโง่ๆประดับฉากไปวันๆให้รู้ว่ามีคนเอเชียเล่น
แต่ตัวละครนี้ คือคีย์สำคัญของเรื่องที่ต้องมีจริงๆ…สมกับที่เป็นตัวละครที่ “จอห์น วิค นับพี่นับน้อง” กันเลย
ในขณะที่ ฮิโรยูกิ (ชิเหน๋) ซานาดะ นักแสดงชาวญี่ปุ่น ยังคงคอนเซปต์
พูดน้อย แต่น่า “จ ด จ ำ . . . ” เหมือนเดิม
ถึงจะเป็นหนังบู๊แอคชั่นถอดสมองดู แต่เรื่องฝีมือการแสดง ทุกคนในเรื่องคือเอาอยู่
และครีเอทตัวละครในแบบฉบับของตัวเอง ด้วยการเล่นกับภาษาที่พูดไม่เหมือนกัน
แต่คนในเรื่องดันเข้าใจได้ ก็เป็นความฮาอีกหนึ่งอย่างที่เบรกอารมณ์หนังที่ดุเดือดให้เบาลง…
ในส่วนงานภาพ หายห่วงได้เลย ในเรื่องนี้ คุณสามารถแคปหน้าจอ ทำวอลเปเปอร์สวยๆได้แทบทุกซีน ทุกโลเคชั่น แอดมินที่นั่งดูถึงกับบ่นเลยว่า “ทีมงานขยันปั้นซีนเนอะ” คือองค์ประกอบภาพ บาลานซ์ สีสันต่างๆ ทำออกมาสวยงาม ดูลงทุนเยอะ เมื่อเทียบกับภาคแรกชนิดคนละเรื่อง และสมกับการที่หนังเล่นสเกลใหญ่จริงๆ..
โดยเฉพาะ “ลองเทค” (ถ่ายแบบยิงยาวไม่มีซีนอื่นมาแทรก) ในเรื่อง ที่กินเวลาเกือบ 2 นาที
ที่เหมือนคุณกำลังเล่นเกม Hotline Miami หรือพวก Gun Echoes ในมือถือเลย
ทีมงานเลือกใช้ “มุมมองพระเจ้า(God’s Eyes View)” แล้วตัด Transition
แบบเนียนๆด้วยประกายไฟจาก “ลูกซอง Dragonbreath”
พร้อมถม Object ต่างๆด้วย CG แล้วทำออกมาได้หวือหวา สวยงาม และมีชั้นเชิงมากๆ
เพื่อนแอดมินที่เป็นสายถ่ายภาพ ชมซีนนี้มาก เพราะโคตรครีเอทจริงๆ…
**จุดสังเกตุ**
ถ้าทีมงานชุดนิวยอร์คเข้ามาถ่ายทำ โทนหนังจะติดความฟิล์มนัวร์
ถ้าเป็นยูนิตโตเกียว ทีมถ่ายทำก็จะเล่นกับหลอดนีออน แสงเส้นๆสีแจ๋นๆหน่อย
หรือถ้าเป็นทีมงานฝรั่งเศส ก็จะเน้นความมืดตัดกับไฟสีเหลืองยามราตรี ก่อนรุ่งสางโทนส้ม และเน้นไปที่ CG เป็นหลัก
ถ้าคุณไล่ดู End credit จะเห็นเลยว่า หนังเรื่องนี้ ใช้ทีมงานซอยยิบย่อยออกเป็นสิบๆทีม เพื่อให้เกิด Visual ธีมของงานภาพที่ต่างกันอย่างชัดเจน และทำให้หนังมีมีติในแง่ของการถ่ายทอดอารมณ์ของเรื่องราว ณ เวลานั้นๆ…
จุดที่ให้ติจริงๆ คือ เนื้อเรื่อง ที่น่าเสียดายว่า ยังใช้ “สภาสูง” ไม่ค่อยคุ้มอย่างที่โปรโมท (เหยียบสภาสูง / ถล่มสภาสูง บลาๆๆๆ)
เพราะสุดท้าย ตัวหนังไม่ได้เป็นการต่อสู้กับองค์กรใหญ่ แต่ยังเน้นการต่อสู้กับบุคคลที่ “กุมอำนาจในเวลานั้นๆ” มากกว่า ซึ่งหนังก็จะเดินตามสูตรของภาค 2-3 ซึ่งเอาจริงๆ หน้าหนังดูสเกลใหญ่ แต่ถ้าพิจารณาเนื้อเรื่อง เราจะแยกออกเป็น 3 พาร์ทใหญ่ๆ ได้แก่ ช่วงต้น / กลาง /จบ จะพบว่า หนังสเกลเท่าเดิม เพิ่มเติมคือโลเคชั่น และเนื้อหาเสริม เพื่อปูไปยังตอนจบ
ช่วงต้น ที่เป็นการเกริ่นนำ จุดนี้ไม่น่ามีปัญหาอะไร
แต่ที่รู้สึกว่าใส่มาแล้วยืดๆจนเหนื่อยเลยก็…พาร์ทที่ 2 ที่พระเอกของเราต้องไปทำภารกิจเสริม เพื่อผ่านเงื่อนไขไปยังช่วงท้ายเรื่อง จุดนี้ ยอมรับว่า ถ้าไม่มีฉากแอคชั่นมันส์ๆ กับมุก Bad Joke ที่ ดอนนี่ เยน นำเสนอ
(พวกมุกคนตาบอดยิงปืน เล่นไพ่ ทำอะไรโม้ๆซุยๆ) ก็รู้สึกว่ายืดยาดไปนิด
แต่ช่วงท้ายเรื่อง คือ “บทสรุปเรื่องราวที่แท้จริง” และ “สมเหตุ สมผลในระดับที่ยอมรับได้” ขึ้นมาซะงั้น…
โดยรวม เป็น 3 ชั่วโมง ที่มันส์ บ้าบอ ฮากับแอคชั่นหน้าตายของดอนนี่ เยน และหลายๆองค์ประกอบ พร้อมซีนที่คุณต้องจำ
โดยเฉพาะที่ “ปารีส” เป็น40กว่านาทีที่ดุเดือดจัดๆ ถึงขั้นว่า “ปวดฉี่จะแย่ แต่ก็ไม่อยากพลาด” ยังไงยังงั้น…
สรุป ไปดูเถอะ จะหาว่าอวยก็ได้ แต่เชื่อเหอะ
นานๆจะมีหนังบู๊บ้าพลัง ที่ไม่สนเนื้อหาอะไรมาให้ดูกันบ่อยๆ
ก่อนไปดูเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย หนังไม่มีพักเบรก
อ่อ หนังจบ อย่าเพิ่งลุก มี End Credit …
“มีบุญคุณต้องทดแทน มีแค้นต้องชำระ”
John Wick : Chapter 4 มีกำหนดฉายทั่วโลก 24 มีนาคม 2023
ที่มา https://comicbook.com
-
Dynasty Warriors: Origins [PS5, Xbox Series,PC]
วีรบุรุษไร้นาม จะลุกขึ้นต่อสู้ในโลกของสามก๊ก
-
Resident Evil 9 [มาเมื่อไหร่ / Apocalypse / 2024]
มีข่าวลือใหม่เกี่ยวกับการระบุถึงเกมผีชีวะภาคที่ 9
-
[รีวิว] Fuuto PI: The Portrait of Masked Rider Skull ยอดนักสืบแห่งฟูโตะ ภาพสลักแห่งมาสค์ไรเดอร์สกัล
เรื่องราวความสัมพันธ์จาก มาสค์ไรเดอร์สกัล สู่ มาสค์ไรเดอร์ดับเบิล