กลับมาอีกครั้ง สำหรับมหกรรมญี่ปุ่นที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ประจำปี 2015 ซึ่งครั้งนี้จัดขึ้นในวันที่ 6-8 กุมภาพันธ์ เวลาตั้งแต่ 11.00 – 19.00 น. ณ รอยัลพารากอนฮอลล์ สยามพารากอน ชั้น 5
บอกเลยว่างานนี้สาวกแดนอาทิตย์อุทัยไม่ควรพลาดเลยทีเดียว เพราะแค่ชื่อก็บอกแล้วว่า รวบรวมความเป็นญี่ปุ่นมาซะขนาดไหน เพราะไม่ว่าอะไรที่เรานึกถึงเมื่อเอ่ยชื่อ “ญี่ปุ่น” งานนี้เค้าจัดมาให้อย่างครบเลยทีเดียวนะจ๊ะ ได้ทีวันนี้… “แอดโน สวยสึดๆ” จึงขอนำชาวเมทัลบริดจ์ทุกท่านไปรับชมภาพบรรยากาศภายในงานครั้งนี้กัน จะมีอะไรน่าสนใจบ้างนั้น ตามแอดโนฯมาๆ!!
สำหรับกิจกรรมภายในงานนั้น จะถูกแบ่งออกเป็นสีๆ ทั้งหมด 8 โซนใหญ่ด้วยกันนะจ๊ะ ได้แก่ ท่องเที่ยว (Travel Zone), การศึกษา(Education Zone), งาน (Job Zone), ช็อปปิ้ง (Shopping Zone), เทคโนโลยี (Multimedia Zone), บูทจากมหาวิทยาลัยต่างๆ (University Zone), อาหาร (Food Zone) และโซนจัดแสดงต่างๆ (Activity Zone)
ซึ่งตลอด 3 วันของการ Japan Expo ในครั้งนี้ ภายในงานก็ได้รับเกียรติจากแขกรับเชิญพิเศษต่างๆ ทั้งไทยและญี่ปุ่น ผลัดเปลี่ยนกันมามอบความรู้และความบันเทิงให้ผู้มาร่วมงานเพลิดเพลินกันตลอดวัน ไม่ว่าจะเป็น คอนเสิร์ต Moderndog, ร่วมพูดคุยกับนักวาดการ์ตูนผู้มีชื่อเสียงทั้งไทยและในญี่ปุ่นกับ พี่ตั้ม วิสุทธิ์, การแสดงแฟชั่นโชว์ในชุดยูกาตะ (Yukata Fashion Show), การแสดงดนตรีเครื่องเล่นญี่ปุ่นของ NEO Japanesque, การแสดงของ Inoue Joe ผู้ร้องเพลงประกอบการ์ตูน Naruto, การแสดงสดของสาวๆ นักร้องวง Yumemiru Adolescence จาก ProjectTK, ร่วมพูดคุยแบ่งปันประสบการณ์มุมมองญี่ปุ่นจาก 3 หนุ่มรุ่นใหม่ จากเจ้าของ 3 เพจดัง กับ คุณณัฐพงษ์ บุญพร (เพจ J-Doramanga), คุณปุณยวีร์ จัทรขจร (เพจ Japan Need) และคุณภัทรพล เหลือบุญชู (เพจ JapanSalaryman) ฯลฯ เมื่อพอทราบกันหอมปากหอมคอกันแล้ว เราก็มาออนทัวร์ต่อกันเลย!!
ยินดีต้นรับสู่งาน Japan Expo Thailand 2015 จ้าาาา~ ซึ่งสำหรับใครที่ต้องการเข้างานก็สามารถมาลงทะเบียนเพื่อลุ้นรับตั๊วเครื่องบินไปญี่ปุ่นฟรี! กันได้หน้างาน โดยวิธีลงทะเบียนนั้นก็ไม่ค่อยยุ่งยากเท่าไหร่(?) เพียงแค่ลงทะเบียนกรอกชื่อ-สกุล เบอร์โทรติดต่อ และอีเมล์ พร้อมกับแบบสอบถามเล็กๆน้อยๆ ผ่านทางช่องทางออนไลน์กับเว็บไซต์ http://www.japanexpothailand.org แค่นี้ก็รอลุ้นรับตั๊วฟรีกันที่บ้านได้แล้ว
จากนั้นเมื่อผ่านประตูตรวจรักษาความปลอดภัยเข้าไปในงาน เราทุกคนก็จะพบกับด่านแรก! นั่นก็คือ โซนการศึกษา (สีแดง) นั่นเอง ซึ่งเหมาะมากสำหรับน้องๆ หรือผู้สนใจคนใดที่มีความใฝ่ฝันหรือต้องการไปศึกษาต่อที่ประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นระดับมัธยมหรืออุดมศึกษา ทั้งหลักสูตรต้นฉบับ (ญี่ปุ่นแท้ๆ) หรือนานาชาติ รวมไปถึงการเข้าคลอสเรียนภาษาญี่ปุ่น งานนี้ก็รวมสถานศึกษาจากญี่ปุ่นมาไว้ตรงหน้าของทุกท่านเลยนะจ๊ะ เลือกได้ตามอัธยาศัยกระเป๋าเงินและความพร้อมของแต่ละคนเลยจ้า…
มาต่อกันที่โซนถัดไปเลยแล้วกันเนอะ!! นั่นก็คือ โซนสมัครงาน (สีน้ำเงิน) ซึ่งมีบริษัทห้างร้านของญี่ปุ่นหลากหลายเจ้า มาเปิดบูทรับสมัครงานกันถึงที่ เพื่อสร้างโอกาสให้สำหรับนักศึกษาจบใหม่หรือใครก็ตามที่สนใจและมีความรู้ความสามารถ ให้ได้เข้าไปมีร่วมงานและเป็นส่วนหนึ่งกับบริษัทญี่ปุ่นเหล่านี้กัน แหม่… นี่ถ้าแอดฯ ไม่ได้เป็นแอดฯ อยู่ ณ จุดๆ นี้แอดฯ คงไปสมัครด้วยคนแล้วล่ะ
ออกจากโซนหางาน ก็ออกอีกประตู เพื่อเข้าสู่โลกของคนรักธรรมชาติกันสักหน่อย กับการจัดแสดงสวนดอกฟูจิจำลอง จากเมืองคิตะคิวชู ที่เคยใช้เป็นฉากในละครเรื่อง “กิโมโนโนะฮิเดน (กลกิโมโน)” ที่เคยแพร่ภาพไปทางช่อง 3 มาแล้วในเดือนธันวาคม 2557 ที่ผ่านมา เข้าไปในซุ้มนี่นะ!! นอกจากจะได้ยลความงามของดอกไม้ที่ทางงานได้นำมาจัดแสดงทั้ง 3 โทน สีกันแล้ว ยังต้องฟันฝ่าฝูงชนเล็กๆ เพื่อไปถ่ายภาพให้ได้มุมดีๆ กันอีกด้วย แหม่… จัดไปไฮไลต์ของงานนี้อย่างหนึ่ง ที่ผู้มาเที่ยวชมงานไม่ควรพลาดนะจ๊ะ
ไม่ห่างจากสวนดอกฟูจิมากนัก เราก็กำลังจะเข้าสู่ประตูมิติแห่งโลกเทคโนโลยีและจินตนาการกันแล้ว กับ TEAMLAB นิทรรศการ “LEARN AND PLAY” ซึ่งมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่เรียกว่า “Sketch People” บินตรงมาจัดแสดงที่แรกในเมืองไทยจากญี่ปุ่น โดยเมื่อเราเดินเข้าไปในส่วนนี้ แรกๆ เราอาจงงๆ กันสักหน่อยว่า “เอ๊ะ? คนเค้ามาล้อมวงวาดรูประบายสีอะไรกันในที่มืดๆ นี้กันนะ????” แต่สักพักเราก็จะพบคำตอบว่า เหล่าบรรดาตัวการ์ตูนทั้งหลายที่เค้าและเธอเหล่านั้นวาดและระบายสีรังสรรค์ออกมานั้น ได้รับการสแกนจนได้ขึ้นไปกระโดดโลดเต้นในภาพเบื้องหน้าที่ถูกฉายออกมา แต่ยังไม่หมดนะจ๊ะ!! ความเด็ดของมันยังไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะความพิเศษอีกอย่างของเทคโนโลยีนี้ก็คือ เมื่อเรานำมือไปสัมผัสกับภาพเหล่านั้น ก็จะเกิดดาว วิ้บวั้บ ฟรุ้งฟริ้ง งุ้งงิ้ง ออกมากระจายหลังจากเราเอามือไปถูๆไถๆกัน อีกทั้งหากไปเตะโดนตัวการ์ตูนตัวไหนขึ้นมา เจ้าตัวการ์ตูนเหล่านั้นก็จะแสดงอากัปกิริยารับรู้ว่าถูกสัมผัสตัวด้วยนะเอออ~~~ ซึ่งถัดไปอีกห้องหนึ่งข้างๆ ก็จะเป็นการจัดแสดงเทคโนโลยีเดียวกันนี้ อีกรูปแบบหนึ่ง ภายในห้องมืดๆ เช่นกัน แต่รับรองว่า น่าจะสร้างความประทับใจให้ผู้เข้าชมในงานได้ไม่มากก็น้อยแน่ๆ
มาต่อกันที่โซนถัดไป เอาใจเหล่าบรรดาสาวๆ หรือใครหลายคนที่อยากไปเที่ยวญี่ปุ่นสักครั้ง(หรืออีกสักครั้ง) เพราะนี่คือ โซนท่องเที่ยว (สีเขียว) ซึ่งเต็มไปด้วยทัวร์แพ็คเก็ตราคาสุดคุ้มหลากหลายที่หมายปลายทางในญี่ปุ่นให้คุณได้เลือกจับจองกัน เท่าที่ดูๆ มาก็มีหลายแพ็คเก็ตน่าสนใจดีเหมือนกันนะ แต่ประเด็นความน่าสนใจสำหรับแอดฯ อยู่ที่ได้เจอตัวจริง พร้อมกับถ่ายรูปคู่อย่างกันเองกับ ทสึการุ ซามิเซ็ง NIYA นักดนตรีหนุ่มคนนี้นี่แหละ แอร๊ยยยย… ><
ตัวจริงอย่างหล่อนะ แต่แอดขออภัยอย่างร้ายแรง ที่สุดถึงที่สุด!! ที่แอดเก็บภาพมาได้เพียงเท่านี้ TTmTT
(แอดแอบถ่ายรูปผู้ชมที่มาเที่ยวชมงานคนอื่นนะ กิๆ)
มาๆๆ มาเดินกันต่อ มาถึงในส่วนของโซนต่อจากนั้นกันดีกว่า เชื่อว่าน่าจะโดนใจเหล่านักช็อปทั้งหลายแน่นอน!! เพราะไม่ว่าจะเป็น เกมส์ การ์ตูน ของเล่น ของกิน ของใช้ ของตกแต่งบ้าน ซึ่งแน่นอนว่าเป็น “ของญี่ปุ่น” หรือไม่ก็เป็นของมีลิขสิทธิ์อย่างถูกต้องจากไทยเรา ได้ถูกส่งตรงมาจัดจำหน่ายในที่นี่แล้ว โดยเฉพาะสำหรับใครที่ “บ้า” กันดั้ม อุ๊ป! สำหรับใครที่ “ชื่นชอบ” กันดั้ม ภายในงานนอกจากจะมีส่วนจัดจำหน่ายกันดั้มแล้ว ยังมีส่วนจัดแสดงกันดั้มสวยๆ ให้เราได้ดูกันเป็นขวัญตาอีกด้วยนะ (แอดฯ ต้องสารภาพว่า แอดฯ ไม่ใช่คอกันดั้ม เรื่องนี้แอดจิไม่ยุ่ง ^^;)
งานแจ่มดีจริงๆ ถ้ามีตังค์ว่าจะซื้อไปฝากเว็บมาสเตอร์สักกล่องสองกล่อง
กล่องกันดั้มกองเป็นพะเนินเลยทีเดียว ไม่เชื่อดูได้ นี่ไงๆๆๆ
โมเดลกันดั้มตัวใหญ่ก็มีนะเออออ จากการ์ตูนเรื่องอะไรน้าาาา ติ๊กตอกๆ???!!!
หนังสือการ์ตูนจากค่าย REC ก็มีให้เลือกซื้อเลือกหากันอย่างครบ!!
และแน่นอน งานญี่ปุ่นแบบนี้ ไม่พลาดที่ “โอตาคุแมน” จาก GangCartoon ก็ต้องมาให้เหล่าบรรดามิตรรักแฟนรายการถ่ายรูปกันให้หายคิดถึง พร้อมด้วยมังงะอีกเป็นกระตั้กๆ สำหรับคอการ์ตูนทั้งหลายแก้กระหายกัน (แอดฯ ก็แอบไปถ่ายรูปคู่มาแล้วเหมือนกันนะ กริๆ)
ส่วนสาวๆ ไอดอล วง Yumemiru Adolescence ก็เห็นว่าจะมาเปิดมินิคอนเสิร์ตให้แฟนชาวไทยได้สัมผัสความน่ารักกันในวันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2015 นี้ ซึ่งน่าเสียดายยิ่งนักที่แอดฯ ได้ไปวันเสาร์ที่ 7 เลยได้เห็นแค่เพียงป็อปอัพไปก่อนให้ละลายหัวใจไปพลางๆ
ฮ่าๆ!! ส่วนบรรดาพลพรรคนักเล่นการ์ดทั้งหลาย ไม่ว่าตอนนี้จะมีกันอยู่กี่เด็คก็ตามที หรือจะยังไม่มีสักเด็คเพราะเล่นไม่เป็นก็ไม่เป็นไร เพราะงานนี้มีบูท “แวนการ์ด (Vanguard)” มาจำหน่ายการ์ดให้สะสมกัน อีกทั้งยังมีพี่ๆ ทีมงานใจดีมานั่งเต๊ะหล่อ เอ้ยยยย!!!!! มานั่งสอนเล่นการ์ดกันแบบฟรีๆ ในอารมณ์สบายๆ กันด้วยนะ (แหม่ แอดฯ ก็แซวเล่น แต่พี่เค้าใจดีจริงๆ นะ ดูสิ ใบ้หวยให้แอดด้วย กิๆๆๆ ><)
เดินเรื่อยๆ ไป ก็มีบูทจำหน่ายสินค้าน่ารักๆ จากญี่ปุ่นมากมายให้เลือกช็อปกัน ขนาดไททันยังน่ารักเลยดูสิ!!
ของกระจุ๊กกระจิ๊กคิกขุ เช่น ของใช้ สิ่งของนำโชคต่างๆ อย่างที่เรามักเห็นในหนังหรือการ์ตูนญี่ปุ่นกัน ก็ไม่พลาดที่จะนำมาจัดจำหน่ายนะจ๊ะ พูดง่ายๆ ว่า เป็นงานที่ต้องอาศัยภูมิต้านทานความน่ารักขั้นสุดยอดมากเลยทีเดียว ที่จะหักห้ามใจไม่ให้ซื้อเก็บไว้สักชิ้น (งั้น… แอดก็ภูมิต้านทานสูงสินะ ==;)
ว่าด้วยเรื่อง “ขนม” รสไหน สไตล์อะไร ก็ช็อปแหลกกันที่นี่ได้ โดยไม่ต้องบินตรงไปญี่ปุ่น แถมยังมาพร้อมโปรโมชั่นโน่นนี่นั่น!! นี่ล่ะ… เข้าประเด็นสำคัญของแอดฯ อีกแล้ว ของแถมเป็นอะไรที่แอดฯ ชอบมาก
เอาเป็นว่า มากันต่อเลยแล้วกัน ซึ่งจะเริ่มเข้าสู่ โซนโหมดของกิน กันบ้าง โดยงานนี้มีกิจกรรมสาธิตการทำอาหารสดๆ หลากหลายอย่างด้วยกัน เท่าที่แอดฯ หยิบยกมาให้ดู ภาพด้านบนก็จะเป็นการทำเส้นโซบะที่เอาไว้ใส่ราเมง เค้าก็เอามาทุบๆ นวดๆ สดๆ ให้เราดูกันที่นี่เลยนะ ส่วนด้านล่างนี้ก็จะเป็นการจัดสาธิตการทำซูชิ ได้อารมณ์อย่างกับกำลังอัดรายการการทำอาหารของญี่ปุ่น มักมาก!!
เดินมานาน เริ่มหิว พอดีมาเจอโซนของกิน ขอบอกว่า… ก็ไม่ใช่เล่นๆ นะแจ๊ะ!! เพราะแต่ละอย่างเป็นอาหารญี่ปุ่นจากต้นตำรับทั้งนั้น ซึ่งแน่นอนว่า ราคาอาจจะสูงนิดนึง แต่ก็นะ อร่อยสมราคาแหละ
แล้วก็เน่เลยยยย…~~~ อย่างเด็ด!! เห็นคนแน่นๆ แบบนี้ นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นนะจ๊ะ!! เพราะอันที่จริงแล้วแถวยาว มาก มากกก!!! ประมาณว่าคิวยาวเป็นกิโลๆ วนแล้ววนอีก คดแล้วคดอีก อ้อมแล้วอ้อมอีก!! (อันนี้แอดฯ เวอร์!) สรุปก็คือ แอดยังหาหางแถวไม่เจอเลย ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมพิเศษกับการให้ผู้ร่วมงานสามารถชิมข้าวหน้าปลาไหลได้ฟรีๆ!! ต้องยอมรับว่า แอดฯ มีบุญน้อยนัก ได้เพียงแค่ดอมดมกลิ่นหอมๆ แล้วจากมาเท่านั้น แต่แค่กลิ่นก็ทำเอาน้ำลายไหลแล้วนะเออออ~~
หลังจากอกหักจากข้าวหน้าปลาไหลกันแล้ว ก็ไปหาเด็กกินแทนละกัน เพราะนี่คือ โซนการออกบูทของน้องๆ นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ซึ่งก็ล้วนมาพร้อมกิจกรรมน่าสนใจๆ ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น บ้านผีสิง, การพับกระดาษ, การฝึกเขียนอักษรญี่ปุ่น, สอยดาว ฯลฯ โอ๊ยยย… เยอะแยะ จัดว่าเป็นโซนที่โลกสดใสที่สุดในงานแล้วก็ได้ เพราะเด็กๆ เอ๊าะๆ วัยกำลังขบเผาะกันทั้งนั้น อีกทั้งยังมาพร้อมคำทักทายรอยยิ้มแจ่มใสกันทั้งนั้นอีกด้วย
มาปิดท้ายกันที่เวทีกลางกันบ้าง ซึ่งแอดขอออกตัวก่อนนะ ว่าแอดได้ไปมาแค่ วันเสาร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาวันเดียวเท่านั้น ซึ่งก็อย่างที่บอกไปว่าในทุกๆวัน จะมีกิจกรรมไฮไลต์บนเวทีของงานที่น่าสนใจมาจัดแสดงกัน โดยสำหรับกิจกรรมวันเสาร์ ในช่วงเวลา 14.00-15.30 น. ที่แอดฯ เอามาฝากกันนั้น (เอิ่ม… เท่าที่จะเอามาฝากได้อ่ะนะ) ก็คือ กิจกรรม “การเรียนภาษาญี่ปุ่นกับแพรวา ฮอร์โมนซีซั่น 2 และ โดโมะคุง โดย NHK World” อย่าถามแอดฯ ว่าได้ศัพท์อะไรกลับมาบ้างหรือเปล่า ตอบเลยว่า “ไม่!!” เพราะแอดฯ เอาแต่มองความน่ารักของคนบนเวที จนไม่เป็นอันจับใจความอะไรได้ทั้งนั้น!!
มองไกลๆ ไม่เท่าไหร่ พอซูมใกล้ๆ เท่านั้นล่ะ เอาใจแอดฯ ไปเต็มๆ เลย
อ้าาา… หมดไปแล้ว สำหรับหนึ่งวัน (อันที่จริงก็ไม่ถึงวันอ่ะนะ) สำหรับการออนทัวร์ภายในมหกรรม Japan Expo Thailand 2015 ที่ผ่านมาของแอดฯ ซึ่งนำมาฝากชาวเมทัลบริดจ์กันในวันนี้ นี่เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งเท่านั้นนะจ๊ะ ถึงแม้ว่าปีนี้งานทั้ง 3 วันที่ถูกจัดขึ้นจะสิ้นสุดลงไปแล้ว แต่เชื่อว่าน่าจะมีหลายความประทับใจของใครหลายๆ คนที่เกิดขึ้นในงานนี้ ใครไม่ได้ไปไม่เป็นไร ไว้ปีหน้า เจอกันใหม่ อย่าพลาดกันอีกล่ะ!! ซาโยนาร้าาาาาา!!!!
ขอบคุณสถานที่ : Japan Expo Thailand 2015 รอยัลฮอลล์ สยามพารากอน ชั้น 5
By : Admin@no_สวยสึดๆ
-
BEYBLADE X : 10 ตัวน่าซื้อ ของมันต้องมีในปี 2024
#beybladex #kctoysbeybladex #beybladexthailand
-
KARATE KID: LEGENDS [เรื่องย่อ / ตัวอย่าง / หนังใหม่ /2025]
#KarateKidMovie #KarateKi #เฉินหลง #JackieChan
-
20 ตัวละครจากเกมยอดนิยมที่ถูกค้นหามากที่สุดในเวปไซต์สำหรับผู้ใหญ่ 2024
#Ranking #website #Games #PC #Console