CPU คืออะไร??
ซีพียู หรือ Central Processing Unit เรียกย่อๆว่า “CPU” คือ หน่วยประมวลผลกลางในการทำงานของคอมพิวเตอร์ หรือเรียกให้เข้าใจง่ายๆมันก็คือ “สมอง” ของคอมพิวเตอร์นั้นเอง ภายในประกอบไปด้วยสารกึ่งตัวนำไฟฟ้าทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่เรียกว่า “Silicon(ซิลิกอน)” โดยนำซิลิกอนมาผสมกับสารบางชนิดและนำมาเรียงต่อกันให้เป็นทรานซิสเตอร์ โดยการเรียงกันนั้นจะมีจำนวนมากถึงหลายสิบล้านตัว โดยมีหน้าที่หลัก คือ ควบคุมการทำงานทุกอย่างในคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นการประมวลผล หรือการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ รวมทั้งทุกอุปกรณ์ต่างๆก็ต้องใช้การสั่งงานจาก CPU

วิธีเลือก CPU
การเลือกซื้อ CPU หลักๆจะมีอยู่ 2 ยี่ห้อคือ AMD และ Intel ซึ่งถ้ามองที่ประสิทธิภาพและการระบายความร้อนแล้ว CPU จากค่าย Intel จะถือว่าดีกว่าอยู่เล็กน้อย แต่ราคา AMD จะถูกกว่าในระดับความแรงเท่าๆกัน โดยที่รุ่นหลักของ Intel ที่นิยมในปัจจุบันจะมี 3 รุ่น คือ i3 , i5 , i7 ซึ่งแต่ละรุ่นก็จะมีความแตกต่างกันออกไป ทั้งวิธีการอ่าน “รหัส” และลักษณะการใช้งาน

CPU i3 ,i5 ,i7 มันต่างกันยังไง??

ขึ้นชื่อว่า CPU i7 มันต้องแรงกว่า i3 แน่นอนอยู่แล้ว แต่ในบางรุ่น i5 ก็อาจจะแรงกว่า i7 ก็เป็นได้ บทความนี้เลยจะมาแนะนำวิธีการดูความต่างของแต่ละรุ่นกันครับ

Core คือ??
คอร์หรือแกนกลางการประมวลผล เอาให้เข้าใจง่ายๆก็คือ ถ้า CPU เรามี แกนกลางหรือ Core เยอะเท่าไร ก็จะยิ่งประมวลผลได้เร็วยิ่งขึ่น ถ้าให้เปรียบก็เหมือนกับการนั้งคิดอะไรคนเดียว(แกนเดียว) ก็จะคิดออกได้ยาก หรือถ้าคิดออกก็จะช้า แต่ถ้ามี 4 คน(4แกน) ช่วยกันคิด ก็จะทำให้คิดได้เร็วมากยิ่งขึ้นนั้นเอง และจำนวนคนที่เพิ่มขึ้นมาจะเรียกว่า “Core”

Hyper Threading คือ??
เป็นระบบที่จะช่วยเพิ่มแกนกลางการประมวลผลหรือ Core ให้มีจำนวนเพิ่มขึ้นมาอีก 1 นั้นเอง หรือเรียกอีกอย่างว่า “คอร์เทียม”
สรุป ไฮเปอร์เทรดดิ่งนั้น จะทำให้จำนวนของ Core เพิ่มขึ้นมาจากปกติเป็น “2 เท่า” นั้นเอง ซึ่งถ้าปกติ CPU เรามีจำนวน 4 Core และมีระบบ “Hyper Threading” ก็จะเพิ่มเป็น 8 Core นั้นเอง

***แต่ CPU บางรุ่นก็จะไม่มีระบบ Hyper Threading และ CPU i3 ,i5 ,i7 ก็จะมีจำนวนของคอร์ และเทรดไม่เท่ากัน

***แต่ก็ใช่ว่าซีพียูที่ระบุไว้จะเป็นแบบนี้ทั้งหมด เพราะบางรุ่นก็จะมีมากกว่านี้

ความเร็วสัญญาณนาฬิกา หรือ Clock คือ??

Clock คือ ความเร็วในการประมวลผล มีหน่วยวัดเป็น “GHz” ( 1,000ล้านรอบ/วินาที) ซึ่งตัวความเร็วที่เป็นความเร็วพื้นฐานของ Clock นั้นจะมีเลขที่น้อยกว่ารุ่นที่มีระบบ Over Clock

***ความเร็วของสัญญาณนาฬิกานั้น ถ้ายิ่งสูง ความเร็วในการประมวลผลก็จะยิ่งเร็วขึ้นตาม แต่นั้นก็หมายความว่า CPU ก็จะทำงานหนักขึ้น!!

Cache Memory คือ??
Cache Meroty หรือ Cache CPU หรือที่หลายๆคนเรียกสั้นๆว่า “Cache” มันมีหน้าที่เก็บข้อมูลคำสั่งที่เราใช้บ่อยให้กับ CPU มีหน้าที่คล้ายๆกับ “RAM” แต่อยู่ในตัวของซีพียู ดังนั้นคำสั่งต่างๆที่ใช้งานบ่อยๆก็จะถูกบันทึกลง Cache Memory ทำให้การใช้งานต่างๆเร็วยึ่งขึ้น แต่ยังไงหน่วยความจำที่ให้มานี้ก็มีน้อยเกินกว่าที่จะรับคำสั่งใหญ่ๆ และซีพียูแต่ละตัว ก็จะมี Cache Memory ไม่เท่ากัน

ความต่างระหว่าง CPU i3 – i7

ความต่างระหว่างซีพียูแต่ละรุ่นนั้นจะมีความต่างที่เห็นได้อย่างชัดเจนอยู่มากพอสมควร แต่อย่างไรก็ตาม ซีพียูบางรุ่นก็จะมีความเร็วที่ใกล้เคียงกัน แต่สิ่งที่เห็นกันชัดๆเลยก็คือ “Gen” เพราะยิ่ง Gen ใหม่เท่าไร ระบบการประมวลผลก็จะยิ่งเร็วขึ้นตาม
แต่โดยพื้นฐานแล้วก็จะแบ่งได้หลักๆดังนี้

Intel Core i3 ( เทียบเท่า AMD Ryzen 3 )
จะมีคอร์พื้นฐานอยู่ทั้งหมด 2 คอร์ และมีระบบ Hyper Treading ทำให้คอร์รวมทั้งหมด ของ i3 จะมีทั้งหมด 4Core หรือ 4 Thread และไม่มีระบบ Turbo Boost ภายในจะมีระบบ Cache Memory ประมาน 3-4 MB และมีราคาถูกที่สุดในตระกูล i Series

Intel Core i5 ( เทียบเท่า AMD Ryzen 5 )
จะมีคอร์พื้นฐานอยู่ทั้งหมด 4 คอร์ และไม่มีระบบ Hyper Treading ทำให้คอร์รวมทั้งหมด ของ i5 จะมีทั้งหมดแค่ 4 Core หรือ 4 Thread เท่านั้น แต่ในรุ่นของ CPU Core i5 จะมีระบบ Turbo Boost เข้ามาช่วยแทนที่ ซึ่งจะทำให้ความเร็วในการประมวลผลนั้นมีความเร็วที่เพิ่มขึ้น เวลา CPU ประมวลผลหนักๆ ภายใน CPU Core i5 จะมี Cache Memory อยู่ประมาน 4 – 6 MB มีราคาอยุ่นในระดับกลางๆ แต่ถ้าเป็นรุ่นหลังๆ ก็อาจมีราคาสูงกว่า i7 บางรุ่น

Intel Core i7 ( เทียบเท่า AMD Ryzen 7 )

จะมีคอร์พื้นฐานทั้งหมด 4 คอร์ และมีระบบ Hypre Treading ทำให้คอร์รวมทั้งหมด ของ i7 จะมีทั้งหมด 8 Core หรือ 8 Thread แถมยังมีระบบ Turbo Boost ให้ภายในอีกต่างหาก ทำให้ทั้งหการประมวลผล หรือการวิเคราะห์ข้อมูลทำได้เร็วและดีกว่ารุ่นทั้งหมดข้างต้น และไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องราคาเลย เพราะมันดีที่สุด ก็ต้องแพงที่่สุดเป็นธรรมดา

วิธีการอ่านรหัส CPU จากค่าย Intel
และสุดท้ายก็ยังคงมีปัญหาตามมาเมื่อเลือกรุ่นที่เราชอบได้แล้วจาก i3 – i7 คือ มันมีหลายรุ่น หลายราคา หลายรหัส แล้วไอรหัวที่ว่ามันคืออะไร?? แล้วแต่ละรุ่นมันใช้งานต่างกันไหม?? เพราะฉนั้น เราก็ต้องมาทำความรู้จักกันก่อนว่ามันอ่านยังไง แล้วตัวเลขกับอักษรที่ตามท้ายมันคืออะไร??

Intel Core คือ??

ชื่อยี่ห้อของค่ายที่เรากล่าวไปข้างต้น

i3 ,i5 ,i7 คือ??
รุ่นของ CPU ที่เราต้องการจะซื้อ

Gen Indicator หรือ Generation คือ??
รุ่นที่จะบอกความใหม่ของ CPU ที่เราจะทำการซื้อ แน่นอนว่า ยิ่งเลขเยอะเท่าไรก็จะยิ่งใหม่เท่านั้น รวมทั้งเทคโนโลยีที่ทำการผลิตก็จะใหม่กว่าด้วย และในปัจจุบันก็ออกมาแล้วจนถึง “Gen 7″ ซึ่งเป็นตัวใหม่ที่สุด และมีชื่อเรียกว่า “Kaby Lake” ส่วน Gen 6 ที่เป็นตัวก่อนหน้านี้เรียกว่า “Skylake”

SKU Numeric Degits คือ??
ตัวเลขที่ทำหน้าที่บอกรุ่นของ CPU ใน Generation นั้นๆ อย่างเช่น 7500 ก็จะอ่านได้ว่า “รุ่น 500 ของ Generation ที่ 7″ เป็นต้น

Product Line คือ??
ใช้สำหรับบอกว่า CPU ตัวนั้นมีคุณสมบัติพิเศษแบบไหน ใช้กับอะไรได้บ้าง ซึ่งรหัสแต่ละตัวที่ต่อท้ายตามหลังก็จะไม่เหมือนกันและใช้งานคุณสมบัติพิเศษที่แตกต่างกันด้วย

สุดท้าย
วิธีการเลือกใช้งาน CPU ให้เหมาะสมกับความต้องการ

Q : เอามาใช้งานแค่ Word ,Excel ,เล่นเกมบ้าง แต่ก็เป็นเกมไม่กินสเปค??
A: ถ้างบมีไม่เยอะ ก็ใช้แค่ i3 ก็พอ แต่ถ้ามรงบเบอะหน่อยก็โดดไปเล่นพวก i5 จะดีกว่า

Q : เอามาใช้งานตัดต่อ VDO แต่จริงๆก็เอามาเล่นเกมนั้นและ
A : ใช้ i5 ก็น่าจะพอ แล้วเอาส่วนต่างของเงินที่เหลือ ไปลงกับการ์ดจอเทพๆซักตัว จะดีที่สุด!!

Q : ถ้าเอามาทำงานพวก ตัดตอ VDO หรือทำงานออกแบบ Graphic ละ??
A : ก็ถ้าจะเอามาใช้ทำงานหาเงิน ก็แนะนำให้ลงทุนซื้อ i7 เลย เพราะยังไงคอมของเราก็จะต้องทำเงินคือให้เราได้ในไม่ช้า ลงทุนเอาดีที่สุดเลย!!

Q : ถ้ามีงบไม่เกิน 20,000 แล้วอยากได้แรงๆเทพๆล่ะ??
A : แนะนำให้ไปหาซื้อคอมประกอบมือสอง ที่เป็น i5 ซักตัวและไปหาซื้อการ์ดจอมือสองสภาพดีๆที่เป็นตระกูล 1050 มาใช้ซักตัว

By. Mr.H

Cr.รูปภาพhttps://www.thailand.intel.com