Here (2024) ที่นี่…นิรันดร
ประเภท: ดราม่า
กำกับโดย: Robert Zemeckis
นำแสดง: Tom Hanks, Robin Wright, Paul Bettany, Kelly Reilly
จัดจำหน่ายโดย: TriStar Pictures, Sony Pictures
กำหนดวันฉาย: 5 ธันวาคม 2024
นับเป็นอีกภาพยนตร์ปลายปีนี้ที่น่าจับตามองอย่างHere ที่นี่…นิรันดร นี่คือผลงานที่จะทำให้ผู้ชมตรึงตาตรึงใจแน่นอน เพราะว่านี่คือผลงานของ Robert Zemeckisผู้กำกับผู้ฝากผลงานประมับใจผู้ชมมาแล้ว อาทิ Back To The Future, Forest Gump และ Cast Away พร้อมด้วยนักแสดงคู่บุญ อย่าง Tom Hanks ที่จะพาไปดูทุกชีวิตเรื่องราวตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันผ่านเฟรมเพียงแค่ฉากเดียว นับเป็นความแปลกใหม่ของวงการ
วันนี้เราจะไปดู 5 เหตุผลที่อยากให้ทุกคนไปดูภาพยนตร์เรื่อง Here ที่นี่…นิรันดร กันครับ
1.) ผลงานรอบ 30ปีของชายที่ชื่อ Robert Zemeckis
หากเอ่ยชื่อของชายที่ชื่อว่า Robert Zemeckis หากใครที่เป็นนักทัศนาภาพยนตร์ จะรู้จักเขาผ่านผลงานดังๆมากมาย อาทิ Back To The Future, Cast Away และ Forest Gump ที่เป็นผลงานชิ้นเอกจนพาเขาคว้ารางวัลออสการ์ในปี 1994 ได้อย่างภาคภูมิ เขาคือชายที่มีวิสัยทัศน์และจินตนาการที่สามารถถ่ายทอดผลงานได้ตรึงใจผู้ชมมาแล้ว สำหรับหนังเรื่อง Here คืออีกหนึ่งผลงานในรอบ 30ปี ที่จะทำให้ผู้ชมตรึงตาตรึงใจอีกครั้ง พร้อมทีมงานและนักแสดงที่เคยร่วมงานใน Forest Gump มาสร้างตำนานบทใหม่อีกครั้ง
2.) การกลับมาของสองนักแสดงนำจาก Forest Gump
ในเมื่อผู้กำกับระดับตำนานกลับมา แน่นอนว่าพวกเขาได้สองนักแสดงคู่บุญอย่าง ‘ทอม แฮงค์ส’ และ ‘โรบิน ไรต์’ ที่เคยฝากความประทับใจใน Forest Gump มาแล้ว คราวนี้พวกเขาได้กลับมาร่วมงานอีกครั้ง ที่คราวนี้พวกเขาจะแสดงเป็นคู่รักที่มีการเปลี่ยนแปลงแต่ละช่วงเวลา
3.) ความแปลกใหม่ที่จะได้เห็น
สิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้มีความน่าสนใจและแปลกใหม่ ก็คือหนังจะเล่าเรื่องราวผ่านเพียงฉากๆเดียว มุมกล้องเดียวแบบที่เราเห็นในการแสดงละครเวที แล้วใช้ช่วงกาลเวลาที่จะพาผู้ชมทุกคนไปเห็นกับความเปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงเวลาต่างๆตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน นับเป็นการเล่าด้วยภาพที่ไม่เคยเกิดขึ้นในภาพยนตร์
4.) การลดอายุของสองนักแสดงนำ
แน่นอนว่าเทคนิคแต่งหน้าเป็นวิธีทั่วไปในการทำให้นักแสดงดูแก่ขึ้นหรือเด็กลง แต่อีกส่วนสำคัญของภาพยนตร์เรื่องนี้คือการลดอายุของสองนักแสดงนำ Tom Hanks และ Robin Wright ที่ย้อนรูปลักษณ์พวกเขากลับไปเป็นวัยรุ่นอีกครั้งหนึ่งด้วยการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาช่วย
5.) ชีวิตหมุนผ่านไป ณ ที่แห่งนี้
เรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวหนึ่งในสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งถูกส่งต่อมาจากหลายรุ่นหลายเผ่าพันธุ์ ตัวภาพยนตร์จะโฟกัสไปที่การดำเนินเรื่องของคู่รักที่สร้างครอบครัวด้วยกันในบ้านหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่ตรงบริเวณเดียวกับสถานที่นั้นที่ส่งต่อมาจากหลายรุ่น เราจะได้เห็นคู่รักคู่นี้ตั้งแต่เป็นวัยรุ่นไปจนถึงช่วงวัยชรา เรื่องราวชีวิตทั่วไปธรรมดาๆของครอบครัวที่จะนำเสนอภาพความสนุก ความหวัง ความสูญเสีย ความรัก ทุกอย่างเกิดขึ้น ‘ที่นี่’
“Here” สร้างจากนิยายภาพระดับปรากฏการณ์ของ “ริชาร์ด แม็กไกวร์” ที่เป็นการกลับมารวมตัวครั้งสำคัญของทีมยอดฝีมือจากหนังยอดเยี่ยมรางวัลออส การ์ “Forrest Gump” (1994) อย่างผู้กำกับ “โรเบิร์ต เซเม็กคิส”, ผู้เขียนบท “เอริก รอท” พร้อมสองนักแสดงนำ “ทอม แฮงส์” และ “โรบิน ไรต์”
โดยโปรเจกต์นี้ถือเป็นการร่วมงานกันครั้งที่ 5 ของผู้กำกับเซเม็กคิสและนักแสดงรุ่นเก๋าอย่างแฮงส์ถัดจาก “Forrest Gump” (1994), “Cast Away” (2000), “The Polar Express” (2004) และ “Pinocchio” (2022)
ความรู้สึกหลังรับชม
ภาพยนตร์ท่ายากอีกเรื่องที่ดูเพลิน แต่เนื้อหาเรียลจนหน่วงจิต
เพราะโลกนี้ “ไม่มีสิ่งใดจีรังยั่งยืน”
ตัวภาพยนตร์ฉายภาพมุมกล้องเดียวตลอดทั้งเรื่อง แต่จะมี “กรอบเล็กๆ” ที่จะค่อยขีดเขียนทับซ้อนกัน ทำหน้าที่เป็น Transition (การเปลี่ยนฉากจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง) ที่มีผลผลต่อการเริ่มปรากฏภาพ และการเปลี่ยนภาพของอดีต และปัจจุบันสลับกันไปมาในจังหวะที่เนื้อหากล่าวถึงสิ่งนั้นๆ เช่นความรัก การกำเนิด และการจากโลกนี้ไป…
เรื่องราวอาจจะเข้าใจยากในช่วงแรก และอาจจะงงๆ เพราะสลับไทม์ไลน์ไปมา แต่ตัวภาพยนตร์มีโฟกัสหลักไปที่ครอบครัวทหารผ่านศึกรายหนึ่งที่ตัดสินใจซื้อบ้านเก่าแก่ที่มีประวัติการสร้างทับที่ดินในช่วงสมัยสงครามอเมริกาเหนือใต้ (และจะย้อนไปไกลถึงยุคไดโนเสาร์)
เราจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของสถานที่แห่งนี้ จากยุคไดโนเสาร์ ยุคคนป่า ยุคอเมริกาสร้างชาติ สงครามกลางเมือง ยุคฮิปปี้ มาจนถึงยุคปัจจุบัน…ไล่มาเรื่อยๆ
เราจะได้ตามติดครอบครัวนี้ตั้งแต่วันที่ซื้อบ้านนี้ มีลูก ลูกโต ทำงาน แต่งเมีย เมียคลอดหลาน หลานโตขึ้น ทุกอย่างไม่มีความแฟนตาซีใดๆ นี่คือชีวิตเรียลๆของครอบครัวอเมริกันชนที่ทำงานแลกเงิน ละทิ้งความฝัน และ “ทนอยู่” ในบ้านหลังนี้ ตั้งแต่เกิด จนแก่…เพียงเพราะว่าไม่อยากซื้อบ้านใหม่ ที่จะต้องเสียภาษีแพงๆ และเงื่อนไขแบบอเมริกันชนที่ชาวเอเชียอย่างแอดมินไม่เข้าใจ (555+)
แต่เอาเป็นว่า เหตุผลก็มาจากเงินๆทองๆนี่ละครับ ที่ทำให้ 3 ชั่วอายุคน แทบจะไม่มูฟออนจากบ้านหลังนี้เลย…
ซึ่งตัวภาพยนตร์ได้ฉายภาพความธรรมดาของชีวิคคน ตั้งแต่มีความสุข ความทุกข์ ความสูญเสีย อยู่ในกรอบแคบๆ ที่ฉายบนจอ…ฟังดูเก๋ดีครับ
แต่ในความเป็นจริง “โคตรอึดอัดเลย” และบวกกับเวลาเพียงชั่วโมงเศษๆ ก็ไม่มากพอที่จะขยายความ บางประเด็นเรื่องถูกปัดตกไป และให้เหตุผลเรื่องของการ “ข้ามเวลาเล่าเรื่อง” ไปเลย
เหมือนเป็นนัยยะนึงว่า “เวลาก็สามารถทำให้คนคิดหาทางแก้ปัญหาได้…”ละมั้ง…
เชื่อว่าเป็นภาพยนตร์เสียงแตกแน่ๆ
คนดูฝั่งชอบ ก็น่าจะมี
ฝั่งที่ไม่ชอบเลย ก็มีโอกาสเป็นไปได้
ส่วนตัวอยู่ฝั่ง “ครึ่งๆ” ละกันครับ เพราะมีส่วนที่ชอบและไม่ชอบจริงๆ…
แต่สุดท้าย ตัวภาพยนตร์ได้ถ่ายทอด “สัจธรรมของโลก” เอาไว้ชัดเจนมากๆอย่างหนึ่ง…
“สิ่งที่แน่นอนที่สุด ก็คือความไม่แน่นอน”
เมื่อก่อน เป็นของเขา…
วันนี้เป็นของเรา…
แล้ววันข้างหน้าล่ะ?…
ไปดูเองเถิดครับ นี่ออกจากโรงมา ติดสตั๊นอยู่พักนึง แล้วค่อยลำดับมาเขียนรีวิวนี่ละครับ
-
BEYBLADE X : 10 ตัวน่าซื้อ ของมันต้องมีในปี 2024
#beybladex #kctoysbeybladex #beybladexthailand
-
KARATE KID: LEGENDS [เรื่องย่อ / ตัวอย่าง / หนังใหม่ /2025]
#KarateKidMovie #KarateKi #เฉินหลง #JackieChan
-
20 ตัวละครจากเกมยอดนิยมที่ถูกค้นหามากที่สุดในเวปไซต์สำหรับผู้ใหญ่ 2024
#Ranking #website #Games #PC #Console