Mantra Warrior : The legend of the eight moons
ประเภท Action , Sci-Fi, Fantasy
กำหนดฉาย 11 ตุลาคม 2566
รอบพิเศษ 28 กันยายน 2566 – 1 ตุลาคม 2566
กำกับ วีรภัทร ชินะนาวิน
เขียนบท สรพีเรศ ทรัพย์เสริมศรี
Producer วีรภัทร ชินะนาวิน, สรพีเรศ ทรัพย์เสริมศรี, จุฑาทิพย์ นิรมลพิศาล
Running Time 90 min
สิ้นสุดการรอคอย กับสงครามที่มี “จักรวาล” เป็นเดิมพัน มหากาพย์ภาพยนตร์แอ็กชัน-ไซไฟ ฟอร์มยักษ์ ที่ทุกคนตั้งตารอ “นักรบมนตรา : ตำนานแปดดวงจันทร์” (Mantra Warrior : The legend of the eight moons) ภาพยนตร์แอ็กชัน-ไซไฟฟอร์มยักษ์สัญชาติไทยเรื่องแรกในประวัติศาสตร์ ผลงานการสร้างจาก RiFF Studio ผนึกกำลังกับ WARA.BY GDH และ Japan Anime Movie Thailand
“นักรบมนตรา : ตำนานแปดดวงจันทร์” (Mantra Warrior : The legend of the eight moons) เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันที่หยิบยกเรื่องราวบางส่วนของรามเกียรติ์มาตีความใหม่ทั้งหมด สไตล์อนิเมะหุ่นยนต์ตีกันข้ามจักรวาล โดยบอกเล่าถึงมหาศึกสงครามระหว่างกองทัพแห่งองค์ราม และ จักรพรรดิทศกัณฐ์ ที่ต่อสู้กันมาอย่างยาวนานไม่รู้จักจบสิ้นในจักรวาลอีกห้วงมิติหนึ่งซึ่งในระหว่างที่สู้รบนั้น องค์รามได้เกิดพลาดท่าถูกทศกัณฐ์ลักพาตัวพระแม่สีดาขึ้นยานหนีไป เพราะตามตำนานได้กล่าวไว้ว่าในทุกๆ 500 ปี พลังแห่งเทพที่สามารถสร้างหรือทำลายทุกสรรพสิ่งในพริบตา จะตื่นขึ้นในร่างสตรีนางหนึ่ง และ ทศกัณฐ์เชื่อว่าพลังอันยิ่งใหญ่ที่หลับใหลนี้อยู่ในตัวพระแม่สีดา
ทำให้องค์รามต้องส่ง “วายุ” , “เวฬา” และ “บุษบา” นักรบทั้งสามเพื่อออกติดตามนำตัวพระแม่สีดากลับคืนมา แต่ก็ถูกขัดขวางด้วยพละกำลังอันมหาศาลจากราชา “พาลี” แม่ทัพผู้แข็งแกร่งที่ไม่เคยพ่ายแพ้ในศึกสงคราม และหนทางเดียวที่จะชิงตัวพระแม่สีดากลับคืนมาและเอาชนะศึกสงครามระดับจักรวาลในครั้งนี้ได้ คือต้องรอคอยนักรบในตำนานที่ถูกเรียกขานว่า นักรบมนตรา ที่จะถือกำเนิดในห้วงเวลาที่เกิดปรากฏการณ์ดวงจันทร์ทั้งแปดแห่งดาววานาราเรียงตัวกันเท่านั้น!
แต่ใครจะเป็นผู้ถูกเลือกให้เป็นนักรบมนตราคนต่อไป? และถ้าพลังลึกลับที่หลับใหลของพระแม่สีดาถูกปลุกให้ตื่นขึ้น ทั้งจักรวาลจะมีชะตากรรมอย่างไร?
Review
เนี่ย ที่วรรณคดีที่ไม่น่าเบื่อ เขาทำกันยังงี้!
อารมณ์เหมือนกินข้าวเมนูเดิม แต่เจอเชฟมือหนัก พวกเล่นจัดจานใหม่ ให้สวยงาม อลังการ พร้อมเครื่องปรุงที่จัดจ้าน แตกต่างจากเดิม
เป็นอนิเมชั่นที่ถูกตั้งความหวังอย่างมากของวงการอนิเมะไทย ที่หลายคนเห็นหน้าหนัง แล้วจะต้องร้องยี้ว่า “รามเกียรติ์อีกแล้ว” / “ลิง ยักษ์ ลายไทยอีกแล้ว” (แอดฯก็เป็นหนึ่งในนั้น อคตินำก่อนเลย ยอมรับ)
แต่เมื่อพิจารณารอบด้านแล้ว ก็สามารถเข้าใจได้ครับว่า ซอฟท์พาวเวอร์บ้านเรา มีไม่กี่อย่างที่สามารถจับต้องได้ แล้วไม่โดนแขวนด่าล่าแม่มด หรือโดนเพ่งเล็งจากเจ้าขุนมูลนายในระบบ หรือแนวทางที่นายทุนผู้ถือเม็ดเงินมหาศาลที่จะเติมฝันเติมไฟให้เหล่าคนรุ่นใหม่สร้างสรรค์ผลงานยอมจ่าย เพราะก็ยังมีบางส่วนที่คิดว่ายัง “ติดหล่ม” กับกรอบวัฒนธรรมอยู่ และอาจจะคิดว่าสิ่งเหล่านี้มันทำงานได้ดีในตลาดโลก
ซึ่งมันไม่ผิดครับสำหรับความคิดนี้ ทีนี้ก็อยู่ที่ว่า “ใครตีความ” และ “รักษาสมดุลย์” ระหว่างความสวยงามตามขนบเดิม และความทันสมัยใส่สิ่งใหม่ให้ดูล้ำได้…
“นักรบมนตรา : ตำนานแปดดวงจันทร์” คือข้อพิสูจน์ที่ดีครับ ว่า การดำรงไว้ซึ่งเรื่องราว วรรณคดีที่คุ้นเคยตามสไตล์อนุรักษ์นิยม มาผสานกับการปรับโทนภาพ ให้เข้าถึงคนรุ่นใหม่ พร้อมการนำเสนอที่ฉูดฉาด เร้าใจในสไตล์หนังหุ่นยนต์ตีกันในอวกาศแบบการ์ตูนตลาด (+พลังมิตรภาพโชเนน + ปมดราม่า) จะออกมาเจ๋งจัด และดู “โคตรหล่อเท่” ได้เบอร์นี้!
ถ้าคุณได้มีโอกาสไปเดินดูงานอาร์ตเวิคที่งาน Exhibition ที่พารากอน บอกเลยว่า มันมีหลายดราฟท์ หลายงานแก้ หลายเวอร์ชั่น ชนิด “เอามาแปะขึ้นฝ้าเพดานก็ยังไม่พอ” เชื่อว่าทีมงานไฟท์กันบนโต๊ะประชุมเยอะมาก กว่าจะออกมาเป็นงานชิ้นนี้ได้…
ถ้าคุณเปิดใจ ลองตีตั๋วไปรับชม จะพบว่า นี่คือเรื่องราว “รามเกียรติ์ใส่ไข่” ที่เล่าเรื่องกระชับ ฉับไว (มาก) ในช่วงการแนะนำตัวละคร จุดนี้เราอาจจะต้องมีภาพจำของ “รามเกียรติ์” เดิมๆติดหัวไปซักนิดหน่อยก่อนรับชม (หรือรวบรัดก็ Pasulol) เพื่อความเข้าใจในบุคลิกตัวละคร ที่ทีมงานนำเอาภาพจำจากแบบเรียน มาขยี้ด้วยดีไซน์ที่โคตรจะการ์ตูนลงไป รวมไปถึงกิมมิคเรื่องราวที่ทศกัณฑ์ลักพาตัวนางสีดา จน “พระลักษณ์” กระสอบทรายแห่งจักรวาล (ที่เหมือนจะเป็นชาว LGTVที่น่ารัก มาทีไร ฮาตลอด) และ “พระราม” สุดหล่อผู้นุ่มฟู และตัวอื่นๆว่า ทำไมถึงต้องคิดแบบนั้น ทำยังงั้น ทำไมสงครามข้ามดาวถึงเกิดขึ้น
พร้อมการจิกกัดโครงสร้างสังคมเบาๆ ในเรื่องของ “ชนชั้นปกครอง” กับ “ชนชั้นชาวบ้าน” ผ่านอุดมการณ์ที่แตกสลายของอดีต Royalist ตัวพ่ออย่าง “พาลี” ที่เคยรับใช้เจ้าแห่งอโยเดียชนิดถวายหัว แต่ก็พบกับความจริงจนต้องเปลี่ยนขั้ว ย้ายข้าง ซึ่งนั่น ไม่ได้ทำให้ตัวละคร ถูกแบ่งขาว-ดำ ชัดเจน ตัวหนังมีเหตุผลของตัวละคร และนำไปสู่การตั้งคำถามกับสิ่งที่เรียกว่า “ความถูกต้อง” … ว่ามัน “ถูกต้อง” จริงๆ … หรือแค่ “มันถูกต้อง ในมุมของตัวเองที่ได้ประโยชน์กันแน่?”
งานดีไซน์ภาพนิ่ง และเห็นในตัวอย่างว่าดูดีแล้ว พอมาเป็นหนังเต็มๆ เรารู้สึก “ชอบ” มากขึ้น ด้วยเสียงพากย์ การออกแอคติ้ง งานดีไซน์เหล่าตัว “ละครภูติจิ๋ว” ที่ได้ยินเสียงของผู้ชมสาวๆกรีดร้องว่า “น่ารัก” ลั่นโรง พาลจะอยากได้กลับบ้าน ไปจนถึง “เซอร์ไพร้ซ์” ตั้งแต่กลางเรื่อง ยันจบเรื่อง ลากยาวยัน End credit ทุกตัว …
อย่าเพิ่งตัดสินแค่ Trailer เพราะ หนังเต็ม มันทำให้หัวใจแอดฯพองโต และสนุกแบบไม่ต้องคิดอะไรมากเลย หนังมุ่งเน้นความบันเทิงเต็มๆ พร้อมมุกตลกโบ๊ะบ๊ะ แม้แต่ตัวละครที่ซีเรียสอย่าง “ทศกัณฑ์” ยังเป็นตัวตบมุกได้ ไม่ธรรมดา! และยังมีปมประเด็นดราม่า ชวนให้หน่วงหัวใจ และเป็นรอยร้าวเล็กๆ ที่สามารถเล่าต่อได้อีกด้วย ใครที่เคยดูพวก นารุโตะ จะเก็ทฟิลเลย!
มันทำให้เรามีความหวังกับ “วงการอนิเมชั่นไทย” ไปพร้อมกับพลังของคนสร้างอนิเมะเรื่องนี้ที่เลือกสูตร “พบกันครึ่งทาง” แบบไม่สุดโต่ง ไม่ซ้ายจัด ขวาจัด จนตกขอบ แล้วก็ร้องว่าไม่มีใครสนับสนุน เหมือนหลายๆประเด็นในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา
ส่วนตัวขอชม และขอให้กำลังใจทีมงานทุกภาคส่วนจริงๆ ตั้งแต่ดราฟท์แรกดินสอ ยันทีมนักพากย์
ทุกอย่างมันถูกผสมให้เป็นกลาง ทั้งแง่งานสร้าง งานงบลงทุน งานสังคม ที่มันดูสนุก ลงตัว และโดนเส้น โดนจริต “คนไทย” แน่ๆ
เชื่อว่าไปฉายต่างประเทศ ก็คงไม่อินเท่าคนไทยนั่งดูอ่ะ 555
งานนี้ ถ้าจะมีคนก่นด่าว่า “เชียร์เยอะออกนอกหน้า” ก็ต้องยอมครับ ของเค้าดี โดนใจจริงๆ…
เอาง่ายๆ หนังเค้าพร้อมลุยภาคต่อ
ขาดแค่สุดหล่ออย่างคุณ จะไปดูมั้ย แค่นั้นเลย!
“นักรบมนตรา : ตำนานแปดดวงจันทร์” 11 ตุลาคมนี้
ทุกโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ
———————————————————–
โดยสาว เบลล่า-ราณี เปิดเผยเกี่ยวกับผลงานการพากย์เสียงเป็นนางสีดาในครั้งนี้ ว่า
“รู้สึกตื่นเต้นกับผลงานครั้งนี้มากๆ กับบทพระแม่สีดา หรือ นางสีดา ตัวละครที่มีบุคลิกน่ารักและเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด ซึ่งการทำงานครั้งนี้ นับว่าเป็นการทำงานที่มีความกดดันเล็กน้อย เพราะเป็นการพากย์เสียงแอนิเมชันครั้งแรกด้วย แต่ก็รู้สึกสนุกและตื่นเต้นไปกับการทำงานมากๆ เช่นกัน เพราะจะได้เห็นตัวละครจากวรรณคดีไทยที่เราเคยอ่านกันมา ได้ออกมาโลดแล่นบนจอ จึงอยากเชิญชวนให้ทุกคนได้มาชมกัน รับรองว่าสนุกสนาน ตื่นตาตื่นใจไปกับเนื้อเรื่อง ตัวละคร และภาพที่สวยมากๆ อยากให้ทุกคนมาเป็นกำลังใจให้กับพี่ๆ ทีมงานคนไทย และขอฝากตัวสำหรับนางสีดา ผลงานการพากย์เสียงครั้งแรก หวังว่าทุกคนจะชอบค่ะ”
ส่วน เก่ง-ธชย ประทุมวรรณ ที่ได้มาร่วมร้องเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ และให้เสียง “ท้าวเวสสุวรรณ” ก็ต่างรู้สึกปลื้มใจที่ได้มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์แอนิเมชันฟอร์มยักษ์ฝีมือคนไทย ที่หยิบยกเอาตัวละครในวรรณคดี ที่คุ้นเคย มาดัดแปลงและสร้างสรรค์ให้โลดแล่นบนจอเงิน อยากให้ทุกคนได้มาสัมผัสและร่วมเป็นกำลังใจติดตามความสนุกสนานไปด้วยกัน รวมถึงรับฟังเพลงประกอบภาพยนตร์เพราะๆ แถมฉาก MV สวยๆ ที่จะทำให้อินกับเรื่องราวนี้มากขึ้นไปอีก
ด้านทีมผู้บริหารบริษัท RiFF Studio อย่าง พีท-สรพีเรศ ทรัพย์เสริมศรี ที่คราวนี้รับหน้าที่ในการเขียนบทภาพยนตร์ พร้อมควบตำแหน่งผู้อำนวยการสร้าง กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของ นักรบมนตรา ภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องแรกที่ RiFF Studio ตั้งใจทำทุกขั้นตอนกับ เงินลงทุนที่มากกว่า 200 ล้านบาท จากความฝันที่อยากมีหนังที่เป็นคนผลิตเอง จนได้ก่อตั้งบริษัทขึ้นมา และเริ่มผลิตงานให้กับลูกค้าทั้งคนไทยและต่างชาติ จนเมื่อพร้อมตนเองและพี่ตุลย์ (วีรภัทร ชินะนาวิน) จึงได้เริ่มลงมือเขียนบทจากแรงบันดาลใจที่มีต่อวรรณคดี “รามเกียรติ์” และเราอยากให้เด็กๆ รุ่นหลังมีความทรงจำของฮีโร่คนไทย โดยตั้งใจให้ “หนุมาน” เป็นตัวหลัก สำหรับเรื่องนี้ และมันคือความสำเร็จกับการทำงานที่ต้องใช้คนจำนวนมาก ในการสร้างภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชันเรื่องแรกของไทย และถือเป็นประวัติศาสตร์เลยก็ว่าได้
________________________________________________
#นักรบมนตรา #นักรบมนตราตำนานแปดดวงจันทร์
#MantraWarriorTHMovie #JapanAnimeMovieThailand #RiFFStudio #GDH
-
Soul Land: New World เกมเปิดโลก MMO ตำนานจอมยุทธ์ภูตถังซานเกมแรกของโลก เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว!
#เกมมือถือ #เกมออนไลน์ #เกมออกใหม่
-
Monster Hunter Outlanders
#เกมมือถือ #เกมใหม่ #CAPCOM
-
ฉลอง 2 ปีกับความสำเร็จของเกม NIKKE เปิดประสบการณ์ใหม่จับมือกับ True5G จัดงาน MINI GALLERY ใจกลางสยาม
ไม่เพียงแค่เป็นการสังสรรค์ แต่เป็นการสะท้อนถึงความสำเร็จ และความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างทีมพัฒนาและผู้เล่นทั่วโลก