Hajime No Ippo หรือที่รู้จักในชื่อ ก้าวแรกสู่สังเวียนตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 1989 แล้วยังคงตีพิมพ์จนถึงทุกวันนี้เรียกได้ว่าหลายคนเติบโตมากับการ์ตูนตั้งแต่เด็กจนโตเป็นผู้ใหญ่กันเลยทีเดียว เมื่อพูดถึงการ์ตูนเรื่องนี้ แน่นอนว่าก็คงจะต้องนึกถึงการชกมวยโดยเฉพาะหลายคนอ่านเรื่องนี้จบถึงกับหัดชกมวยในวันต่อมา เผื่อซักวันจะได้เป็นแชมป์โลกเฉกเช่นตัวเอกอิปโป้
ในตอนนี้เราจะพาไปดู ที่มาของ 10 เทคนิคและท่าไม้ตายจากการ์ตูนเรื่องก้าวแรกสู่สังเวียน ว่าท่าไม้ตายที่หลายคนชื่นชอบนั้น มีที่มาอย่างไรบ้าง ไปชมกันเลยจ้า

10.) Uppercut ปี1965

ถือว่าเป็นหมัดแรกๆที่อิปโปได้รับการถ่ายทอดจาก คาโมงาวะ เก็นจิ นั่นคือ หมัดอัปเปอร์คัต โดยการโยกท่อนบนไปข้างหน้า หมัดต้องขนานระดับเอว แล้วหงายข้อมือเพื่อการสวิงหมัดขึ้นข้างบนได้อย่างรุนแรง แล้วชกเสียบขึ้น ซึ่งท่านี้ทำให้ คาโมงาวะ ชวนนึกถึงเจ้าของหมัดอย่าง เอดิล โจเฟรย์ อดีตแชมป์โลกรุ่นแบนตั้มเวตชาวบราซิลที่เคยมาป้องกันตำแหน่งที่ญี่ปุ่นเมื่อปี 1965

ที่มาในชีวิตจริง: แมตช์ที่เค็นจิรำลึกถึงหมัดอัปเปอร์คัตนี้ เกิดขึ้นในการชกเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 1965 เอดิล โจเฟรย์ เดินทางมาป้องกันแชมป์โลก กับ ไฟติ้ง ฮาราดะ ที่โตเกียว ซึ่งการชกจบลงที่ โจเฟรย์เสียเข็มขัดแชมป์ แต่หมัดอัปเปอร์คัตนี้ก็ทำให้ผู้ท้าชิงเสียวสันหลังไปไม่น้อย

9.) Smash

หมัดไม้ตายประจำตัวของ เซนโด ทาเคชิ หนึ่งในคู่ปรับคนสำคัญอีกคนของอิปโป ที่เปลี่ยนชีวิตจากนักเลงข้างถนน หันมาสวมนวมชกมวยอาชีพ ด้วยฝีมือและใจนักสู้ที่เข้มข้นทำให้เขาได้รับสมญานามว่า “ พยัคฆ์ร้ายแห่งนานิวะ” ที่ตอนนี้กำลังเข้าสู่เส้นทางระดับโลกโดยมีเป้าหมายคือ ริคาโด้ มาร์ติเนซ ด้วยหมัดสแมช ซึ่ง เป็นหมัดที่อยู่กึ่งกลางระหว่างหมัดฮุคและหมัดอัปเปอร์คัท โดยใช้แรงเหวี่ยงจากด้านล่างพุ่งออกหมัดเป็นเส้นตรงขึ้นมา

ที่มาในชีวิตจริง: ต้นแบบของหมัดสแมชนั้น มาจากนักชกชาวแคนาดา ที่ชื่อ โดโนแวน “เดอะ เรเซอร์” รุดด็อค อดีตหนึ่งในคู่ปรับของ ไมค์ ไทสัน ซึ่งเขาคิดค้นหมัดนี้ขึ้นมาปราบคู่ต่อสู้มากมายนับไม่ถ้วน

8.) GAZELLE PUNCH

นี่คือท่าไม้ตายอีกท่าของอิปโป ที่มีพื้นฐานมาจาก ละมั่ง สัตว์จำพวกกวาง ซึ่งใช้จุดเด่นตรงที่พละกำลังกล้ามเนื้อขาที่แม้จะตัวเล็กแต่ก็ทรงพลัง ซึ่งหมัดนี้ก็ใช้วิธีเดียวกัน นั่นคือย่อขาทั้งสองข้าง บิดสะโพกเล็กน้อยเพื่อเสริมแรง ในขณะที่ง้างหมัดฮุกหรืออัพเปอร์คัต แล้วดีดตัวยิงหมดใส่ทันที

ที่มาในชีวิตจริง: ในวงการมวยโลกผู้ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นเจ้าแห่งหมัดนี้คือ ฟลอยด์ แพตเตอร์สัน แต่ความจริงแล้วผู้คิดค้นเทคนิคหมัดนี้คือ ร็อคกี้ มาร์เซียโน่ ตำนานรุ่นยักษ์ผู้ไร้พ่าย

7.) The Corkscrew Blow

ท่าไม้ตายของเสือเฒ่าอย่าง ดาเตะ เอย์จิ ที่หลายคนยกให้เป็นท่าไม้ตาย ซึ่งรู้จักในชื่อหมัดควงสว่าน ซึ่งก็คือการชกหมัดตรงแล้วบิดข้อมือเพื่อเปลี่ยนทิศทางของหมัดภายในเสี้ยววินาที ซึ่งการบิดข้อมือสามารถเพิ่มความแรงของหมัดได้อีกด้วย แล้วยังพัฒนากลายเป็นท่าไม้ตายก้นกรุอย่าง Heart Break Shot

ที่มาในชีวิตจริง: นักชกชาวอเมริกันเชื้อสายไอริช นามว่า คิด แม็คคอย เขาได้แรงบันดาลใจสุดน่ารัก เมื่อเขานอนกลางวันแล้วสังเกตเห็นแมวกำลังข่วนลูกบอลโดยใช้ขาหน้าเปลี่ยนทิศทาง ทำให้เขาลองฝึกหมัดนี้จนเชี่ยวชาญ

6.) Cross Arm Block

โคบาชิ เคนตะ หนึ่งในคู่ชกอิปโปตอนศึกนักชกหน้าใหม่ เขาอาจไม่มีหมัดเด็ดชนะคู่ต่อสู้เลยเฉกเช่นคนอื่น แต่ที่ทำให้เขาชนะมาได้นั้น มาจากการใช้เทคนิคออกหมัดแย็บและกอดเพื่อถ่วงเวลา อันเป็นเทคนิคเดียวกันกับที่อดีตนักชกชาวอเมริกันที่ชื่อว่า แม็กซี่ โรเซนบลูม เคยใช้จนสร้างสถิติชนะถึง 209 ไฟต์ น็อคเพียง 19 ไฟต์ นอกจากนี้เขายังมีเทคนิคหนึ่งที่ถูกพูดถึงนั่นคือ การบล็อกแบบกากบาทหรือ Cross Arm Block พร้อมกับหลบหมัดซึ่งทำให้อิปโปของเราเกือบเสียท่าจนพ่ายแพ้มาแล้ว

ที่มาในชีวิตจริง: เทคนิค Cross Arm Block หรือการป้องกันแบบกากาบาท ผู้ที่ถูกให้การยอมรับว่าเป็นเจ้าเทคนิคนี้คือ อาร์ชี่ มัวร์ อดีตแชมป์โลกสามรุ่นที่เคยได้ประมือกับ ร็อคกี้ มาร์เซียโน่

5.) หมัดพิชิตหมี

หนึ่งในหมัดอันเป็นตำนานที่ใครได้ฟังแล้วรู้สึกเหลือเชื่อ เมื่อตอนที่เขาไปเก็บตัวกับอิปโปและผองเพื่อนขณะที่เขาออกไปวิ่งเขาก็ต้องเจอหมีกลางป่าก่อนจะเต่อสู้เพื่อเอาตัวรอด ที่งานนี้เขาได้แผลเป็นที่หน้าอก ก่อนจะยิงหมัดใส่จนหมีน็อค แต่เขาก็ไม่ได้ลงมือจัดการเด็ดขาด แต่ท้ายสุดมันกลายเป็นหม้อไฟที่ทำให้ทาคามุระต้องเสียน้ำตาเลยทีเดียว

ที่มาในชีวิตจริง: เหตุการณ์ที่ใกล้เคียงแต่เกิดขึ้นทีหลัง เมื่อปี 2018 ชายวัย 61 ชาวแคนาดาเคยสามารถล้มหมีด้วยมือเปล่าบริเวณทะเลสาบพานาเช่ ซึ่งใช้หมัดอัดตรงไปยังจมูกหมีซ้ำๆ จนมันสิ้นฤทธิ์

4.) Ali Shuffle

เป็นเทคนิคมวยที่ถูกพูดถึงมันคือเทคนิค การเคลื่อนที่อย่างว่องไว ซึ่ง อิตางากิ มานาบุ ศิษย์น้องของอิปโป ด้วยความที่เขาเป็นคนเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วทำให้เขาสามารถใช้การเคลื่อนไหวควบคู่กับหมัดจนคู่ต่อสู้ไม่สามารถคาดเดาทางได้เลยแม้แต่น้อย ปัจจุบันยังคงตามล่าเข็มขัดแชมป์ญี่ปุ่นต่อไป

ที่มาในชีวิตจริง : มูฮัมหมัด อาลี สุดยอดนักชกผู้ยิ่งใหญ่คือผู้คิดค้นเทคนิคนี้ ทำให้เขากลายเป็นนักชกรุ่นยักษ์ที่เคลื่อนไหวว่องไวดั่งผีเสื้อ และหมัดหนักราวกับผึ้ง นอกจากนี้ ชูการ์ เรย์ เลียวนาร์ด อดีดยอดนักชกก็ได้ใช้เทคนิคนี้ในการเจอกับ โรเบอโต้ ดูรัน ในภาค 2 เมื่อ 25 พฤศจิกายน ปี 1980

3.) Flicker Jab

มัจจุราชเจ้าสังเวียน คือนิยามของ มาชิบะ เรียว อีกหนึ่งคู่ปรับของอิปโป และเป็นหนึ่งในนักชกที่ได้เปรียบทั้งส่วนสูงและรูปร่าง ทำให้เขาสามารถใช้เทคนิคอย่าง Flicker Jab ซึ่งเป็นการออกหมัด เหวี่ยงด้วยความเร็วสูงราวกับสะบัดแส้ จึงเป็นนักชกที่มีรูปแบบการชกไม่ควรมองข้ามเลยทีเดียว

ที่มาในชีวิตจริง : นี่คือหนึ่งเทคนิคมวยระดับโลก ของ โธมัส เฮิร์น สุดยอดมวยรุ่นกลางแห่งยุคสี่เทพวงการมวยโลก โดยเทคนิคนี้เขาได้รับการฝึกจาก เอมมานูเอล สจวร๊ต เทรนเนอร์ของเขา

2.) Peek –a- Boo Styles

เป็นเทคนิคตั้งการ์ดต่อสู้ที่อิปโปชอบใช้ประจำ โดยการยกแขนตั้งการ์ดแนบลำตัว แล้วใช้ท่อนแขนบังสายตาพร้อมป้องกันอาวุธพร้อมออกหมัด ซึ่งเป็นท่าพื้นฐานที่อิปโปพร้อมจะใช้เข้าสู่ท่าอื่นๆ อย่าง Gazelle Punch หรือ Dempsey Roll

ที่มาในชีวิตจริง: เป็นเทคนิคที่ ไมค์ ไทสันชอบใช้เป็นประจำ โดยจะกัดที่ปลายนวม เพื่อไม่ให้การ์ดตกนั่นเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ คัส ดิ อามาโด เทรนเนอร์ของเขาได้ฝึกให้ตั้งการ์ดจนเกิดความเคยชิน

1.) Dempsey Roll

และนี่คือหนึ่งในท่าไม้ตายที่ทุกยกย่องให้เป็นท่าไม้ตายที่น่ากลัวของการ์ตูนชุดนี้ ซึ่งท่านี้อิปโปได้ใช้ครั้งแรกในศึกอุ่นเครื่องกับ พรชัย ชูวัฒนา นักชกไทยแล้วเอาชนะไปในยกที่สอง แล้วกลายเป็นท่าไม้ตายที่อิปโปมักจะใช้เป็นไพ่ตายและมีการพัฒนาปรับปรุงท่าให้แกร่งขึ้นและทรงพลังมากกว่าเดิม

ที่มาในชีวิตจริง: ท่านี้คิดค้นโดยอดีตนักชกรุ่นยักษ์ผู้เป็นตำนานของวงการอย่าง แจ็ค เดมซีย์ ซึ่งใช้ปราบคู่ต่อสู้ ด้วยความที่ตัวเขาเล็กในรุ่นนี้ทำให้เขาต้องคิดค้นท่าที่สามารถจัดการคู่ชกได้ โดยใช้วิธีการโยกตัวเป็นเลขแปด แล้วระดมหมัดใส่ โดยเทคนิคนี้มีนักชกหลายคนได้นำไปใช้ในเวลาต่อมา

@P.PETTY

ข้อมูลประกอบอ้างอิง
- https://ippo.fandom.com/wiki/Main_Page