Godzilla 2014
ชื่อภาพยนตร์: ก๊อดซิลล่า / Godzilla
ผู้กำกับภาพยนตร์: Gareth Edwards
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Max Borenstein (screenplay), Dave Callaham (story)
นักแสดงนำ: Aaron Taylor-Johnson , Elizabeth Olsen , Bryan Cranston , Ken Watanabe , Sally Hawkins , Juliette Binoche , ETC.
แนว/ประเภท : Action , Monster , Kaiju , Sci-Fi
ความยาว: 120 นาที
วันเข้าฉายในประเทศไทย : 15 พฤษภาคม 2557
วันเข้าฉายในญี่ปุ่น : 25 กรกฎาคม 2014
ผู้ผลิต : Warner Bros.
สตูดิโอ : Legendary Pictures

วันที่ 16 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา แอดมินได้มีโอกาสได้ไปชมหนัง “สัตว์ประหลาด”ที่หลายๆคน เคยมีความทรงจำดีๆกับมันตั้งแต่วัยเยาว์ สัตว์ประหลาดผู้เป็นทั้งฮีโร่ และมหันตภัย…
คราวนี้ มันกลับมาในรูปแบบที่ตื่นตา ตื่นใจ และยังเป้นการ “เคารพต้นฉบับ” ได้เป้นอย่างดี…กับหนังรีเมคที่มีชื่อว่า…“ก็อดซิลล่า”

อสูรกายที่เป็นได้ทั้งผู้พิทักษ์โลก และ ทำลายโลก !!

ถ้าเราย้อนกลับไปในปี 1959 ตัวตนของเจ้าก๊อตจิตัวนี้ ยังเป็นเพียงมหันตภัยร้ายแก่โลกมนุษย์ สัตว์ประหลาดยักษ์ที่เกิดจากการกลายพันธุ์ของกิ่งก่า จากการทดลองสารกัมมังตภาพรังสี มีสูงประมาณ 50 เมตร มีลักษณะคล้ายกิ่งก่า มีร่างกายปกคลุมด้วยเกล็ดสีดำ มีหนามแหลม 3 แถวที่หลัง สามารถพ่นไฟออกมาจากปากได้…

ภาพวันวานยังหวานอยู่ ของก็อดจิในปี 1959

หลังๆ ตัวตนของเจ้าก๊อตจิ กลับกลายเป็นผู้พิทักษ์โลกจากเหล่าอริราชศัตรู ทั้งจากนอกโลก และ จากธรรมชาติ รวมไปทั้งมนุษยชาติ ทำให้ภาพพจน์ของสัตว์ประหลาดปรมาณูหลงยุคตัวนี้ กลายเป็นขวัญใจ (ที้งๆที่พังบ้านไปหลายหลัง) ของเหล่าปุถุชนไปโดยปริยาย…

และเวอร์ชั่นนี้ ตัวหนัง ได้ตีความ โดยอ้างว่า “ก๊อดซิล่า เป็นสัตว์ที่อยู่ในวงจรของสรรพสิ่งบนโลกเมื่ออดีตกาล…” ที่มีความสูง 120 เมตร!!

เหล่าศัตรูตัวแสบที่มารุกรานโลกในอดีต ที่เคยโดนก็อดจิ “ตบหัวทิ่ม” มาแล้ว!!

ส่วนสูงของก๊อดจิเวอร์ชั่นล่าสุดราวๆ 120 – 150 เมตร ทำเอาของเก่าเป็น “ตัวลูก” ไปเลย

ยิ่งเทียบกับ Gundam หรือ Ultraman  ยิ่งเทียบไม่ติด

แต่แอดมินสารภาพว่า “ทุกคร้งที่เจ้าอสูรกายหน้าเกล็ดตัวนี้โผล่มาทีไรในเรื่อง ทำเอาแอดมินขนลุก และปลาบปลื้มพาลน้ำตาจิไหล เหมือนเจอเพื่อนเก่าในสมัยเด็ก ที่ไม่ได้เจอกันมานานมาก!!”

อยากจะบอกว่า “นายอ้วนขึ้นเยอะนะ ก๊อดจิ!” ออกกำลังกายซะบ้างเซ่!!

ความตึงเครียดของสถาณการณ์ นาที ต่อนาที!!
ฟังดูโอเวอร์ไปนิดๆ แต่แอดมินรู้สึกอย่างนั้นจริงๆครับ หนังปูเรื่องของความเป็นมาคร่าวๆ(นิดเดียวก็ทำคนดูอึ้ง และ เหวอ ได้เหมือนกัน) ก่อนจะพาคนดู ไปสู่สถาณการ์ณต่างๆในเรื่องอย่างเป้นระบบ
เนื้อหาของสัตว์ประหลาดหน้าเกล็ดภาคนี้ จะเน้นความสมจริงมากยิ่งขึ้นกว่าของเก่า ที่ดูเหมือนหนัง “หลอกเด็ก” เพราะจากการปูเนื้อเรื่องที่เข้มข้น ไม่ใช่สักจะเอาแค่สัตว์ประหลาดไคจูมาถล่มเมืองแล้วก็จบ (และถ้าหวังแอคชั่นมันส์ๆแบบ PACIFIC RIM ล่ะก็ อาจผิดหวังได้) บทก็ดูง่ายๆ เดาตอนจบได้ไม่ยาก…แล้วใครจะสนล่ะ ในเมื่อเราปักธงแล้ว ว่าจะมาดู “ความวินาศสันตะโร” และเหตุการณ์ต่างๆมากกว่า

ฉากระเบิดตูมตาม ยังคงมีในหนังแน่นอน!!

ตัวหนังยังพยายามใช้การเล่าเรื่องผ่านหลากหลายมุมมอง ทั้งของพระเอกนางเอก ที่ต้องสู้เพื่อปกป้องส่วนรวม และลูก , นักวิทยาศาสตร์(ที่ถูกมองว่า)สติแตก ที่ถูกอดีตหลอกหลอนด้วยความเป็นสามีที่สูญเสียคนรักไป , หรือ นายทหารชั้นผู้น้อยของเรื่องทั้งหลาย ที่เสี่ยงตาย ทำภารกิจในสไตล์การ “อวย”ทหารอเมริกันนิดหน่อยพอหอมปากหอมคอ (ไม่ได้อวยเข้มข้นแบบ ทรานส์ฟอร์เมอร์ หรือ Battle LA)

ด๊อกเตอร์สติเฟื่องผู้สูญเสียภรรยา กับลูกชายที่เป็นทหารหนุ่ม จะเป็นตัวเดินเรื่อง

…แต่จุดนี้แอดมินอาจจะมองว่า “ประเด็นของซีนดราม่าในหนังเรื่องนี้ หาที่ลงเอยได้ไม่อิ่มใจเท่าที่ควร” ถึงมันควรจะเป็นแบบนั้นก็ตาม…อันนี้ก็นานาจิตตังครับ

ในหนัง ยังมีการอ้างอิงข้อมูลเชิงยุทธศาสตร์ทางทหาร ที่ถ้าคนที่ไม่มีความรู้ทางด้านนี้ ก็ดูสนุกได้ อันนี้ขอชมจริงๆ ตัวหนังเอง ก็มีซีนที่แสดงให้เห็นถึงความกดดันในห้องยุทธการ การวางแผนที่ดูเร่งด่วน โกลาหล และตึงเครียด เพราะมีเดิมพันสูง เป็นความอยู่รอดของประชากรชาวโลก

ความคาดหวัง

แอดมินมีฉากที่คาดหวังว่าจะได้ดูครับ …ก็ดันทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม!! เพราะทางทีมงานสร้างก็ “จัดเต็ม” ให้มันออกมาแบบ “อลังการกว่าภาคไหนๆ”ที่เคยดูมา เหมือนทำเอาใจแฟนๆหนังก็อดจิ ver. ญี่ปุ่น ที่ถ่ายทอดทั้งความเท่ ของเหล่าทหารผู้กล้า และความเท่ของ ก็อดจิ ผู้พิทักษ์โลกก็ทำออกมาดูน่าเกรงขาม สมกับเป็น “King of Monster” คุ่ต่อสู้ของก็อดจิอย่าง “มูโต้” ก็ทำออกมาได้ โหด และ ตึงมือ สมน้ำสมเนื้อ และ สมจริง!! เพราะด้วยเนื้อหา และสถาณการณ์แล้ว ส่งให้บทของมูโต้ ดูสมกับเป็น “ผู้รุกราน”จริงๆ

“มูโต้” กระจั๊ว(แมงสาป)ยักษ์ ที่เป็นคู่มือของก็อดจิของเราในภาคนี้

ฉะนั้นในทุกๆฉากที่มีทั้งก็อตซิลล่าและมูโต้ปรากฏออกมาคือความฟินของแอดมินล้วนๆครับ มันทั้งตื่นเต้น อลังการ น่าเกรงขาม แถมทุกครั้งที่พวกมันปรากฏกาย มันสามารถทำให้คุณเห็นถึงความน่ากลัว ความน่าหวาดผวาของตัวมันได้อย่างน่าขนลุก และหนังค่อยๆไต่ระดับของการ “เข้าฉาก”เหล่ามอนสเตอร์พวกนี้ ไปสู่ฉากไคล์แมกซ์ที่เชื่อว่าแฟนๆหนังไคจูจะต้องอุทานออกมาว่า “เหยดโด้ Holy Sh*t!!” ยิ่งได้เพลงประกอบสุดอลังการ และงานวิชวลเอฟเฟค บอกได้เลยว่าก็อตซิลล่าเวอร์ชั่นนี้ทำให้เรารู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ของมันได้จริงๆ

สภาพความเสียหายในทุกที่ๆมูโต้ และก็อดจิเดินผ่าน…เละได้ใจเลย…

แต่น่าเสียดายครับ แอดมินไปดูในระบบ 3 มิติมาครับ ตัวหนังกลับมีมุมภาพที่ค่อนข้าง “จืด”ไปนิด (อารมณ์เหมือนดูหนังใน 3DSมากกว่า) มันมีแค่ “มิติลึก” และ “การซ้อนเลเยอร์”เท่านั้น ยังไม่มีซีนที่มีวัตถุพุ่งหลาวออกมาจากจอ หรือสร้างความตื่นเต้นจากการดูในระบบ 3 มิติได้เลย น่าเสียดายครับ…

สรุป

ก็อดซิลล่า 2014 แอดมินถือว่า “เป็นการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่โดยแท้จริง” เป็นหนังที่ถึงแม้จะมีข้อติอย่างในส่วนของเนื้อหาบางอย่าง ก็ดูจะห้วนๆไปนิด แต่ก็มองข้ามไปเถอะครับ หนังทำในส่วนอื่นๆได้ดีสมการรอคอยจริงๆ ใครหวังไว้ว่า เพื่อนรักหน้าเกล็ดก็อดจิ จะออกโรงเยอะๆ สู้กับมูโต้แบบล้างผลาญกระจุยกระจาย แอคชั่นสุดติ่งกระดิ่งแมว ล่ะก็ ขอให้กลับไปตั้งความหวังมาใหม่ซะ เพราะหนังเรื่องนี้ เรากำลังดู “ไดโนเสาร์” สู้กับ “แมงสาปยักษ์” ในรูปแบบที่ควรจะเป็นจริงๆครับ…

Movie Rank A

คะแนน 9/10 สำหรับคนทั่วไป
คะแนน 20/10 สำหรับแฟนๆก๊อดซิลล่าครับ!!
-ข้อดี : ตัวก๊อดจิทำออกมาได้สง่างาม และเท่มากๆ / เนื้อเรื่องเดินเร็ว /ฉากต่อสู้ที่ดูสนุกประมาณนึง / หลายๆฉาก ทำเอาคนดูขนลุก และน้ำตาไหลด้วยความปิติได้ / เพลงประกอบอลังการมาก /งานเอฟเฟ็กต์ ทำออกมาเนียนตามากๆ
-ข้อเสีย : ระบบ 3 มิติ ที่ไม่ตื่นตาเท่าไหร่ / เนื้อเรื่องที่อ่อนประเด็นดราม่าไปนิด / หนังจบเดาทางง่ายตามสไตล์ก๊อดจิ /บางฉากพูดเป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งๆที่ดูแบบพากย์ไทย ทำให้คนดูที่ไม่มีความรู้ทางภาษาญี่ปุ่นเกิดอาการสงสัยว่าตัวละครพูดว่าอะไร แต่ก้เป็นจุดเล็กน้อยจริงๆ…

สุดท้ายแล้ว อยากจะบอกทีมสร้างว่า…
“หวังว่าจะมีภาคต่อให้แฟนๆก๊อดจิได้ปลาบปลื้มอีกก็แล้วกัน”

แอดมิน Ak Fourtyseven