geek’s diary ep3
25 มิถุนายน 2560 20:59 น.
Share on FacebookTweet about this on TwitterShare on Google+

สวัสดีค่ะ วันนี้ก็มาพบกับ ชิมจัง ในรายการ “กีคส์ ไดอารี่” สำหรับคลิปนี้จะขอพาผู้ชมมารู้จักกับการ์ตูนชื่อดังเรื่อง “เฟท ซีโร่” กันค่ะ

 

สำหรับเฟท ซีโร่นั้นก็เป็นผลงานนิยายไลท์ โนเวลที่แต่งโดยทาง Type-moon ร่วมกับคุณเก็น อุโรบุชิ หรือที่ได้รับฉายาจากแฟนๆ ว่า“จอมมารเก็น” และวาดภาพประกอบโดยคุณทากาชิ  ทาเคอุจิ โดยนิยาย จะมีความยาวอยู่ที่ 6 เล่มจบ เริ่มวางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อ ปี 2006 

 

อีกทั้งก็ยังมีในรูปแบบของหนังสือการ์ตูนมังงะที่วาดโดยคุณชินจิโร่ ที่เขียนเมื่อปี 2011 ลงในนิตยาสารยังเอจ

 

และเมื่อปี 2011 ผลงานเรื่องเฟท ซีโร่ก็ได้ถูกนำมาสร้างเป็นอนิเมชั่นทีวีซีรี่ส์  มีทั้งหมดสองซีซั่นด้วยกัน  โดยในซีซั่นแรกมีจำนวน 13 ตอน  ฉายครั้งแรกเมื่อปี 2011 และในซีซั่นที่ 2 จำนวน 12 ตอน  รวมทั้งหมดเป็นจำนวนตอนทั้งสิ้น 25 ตอนจบ จากฝีมือการกำกับของคุณเออิ อาโอกิ อำนวยการสร้างโดยสตูดิโอยูโฟอะเบิ้ล

 

 

 

เนื้อหาของเฟท ซีโร่จะเล่าถึงช่วงเวลาของสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ในครั้งที่สี่  หรือเมื่อ 10 ปีก่อนภาคเฟท สเตย์ไนท์  โดยโฟกัสหลักของเรื่องนี้จะอยู่ที่ตัวละครชื่อ “เอมิยะ คิริซึงุ” กับการเข้าร่วมต่อสู้ในสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์  ฝ่ายของตระกูลไอส์เบิร์น  บนเวทีสมรภูมิการต่อสู้อันเต็มไปด้วยความโหดร้าย  ทารุณ  และความเจ็บปวด  ถือเป็นหนึ่งโศกนาฏกรรมอีกหนึ่งเรื่องที่ได้เกิดขึ้น  และบทสุดท้ายก็ไม่มีผู้ใดได้สิ่งตอบแทนไป นอกจากความสูญเสียจากสงครามในครั้งนั้นนั่นเอง…   

 

 

 

สำหรับตัวละครในเฟท ซีโร่ที่มีบทบาทในเรื่องนั้นก็มีอยู่มากมายด้วยกันค่ะ  และบางตัวยังเชื่อมโยงไปถึงเรื่องราวใน เฟท สเตย์ไนท์ด้วย  ซึ่งนอกจากตัวละครที่รับบทเป็นมาสเตอร์แล้ว สิ่งที่โดดเด่นมากคือ เหล่าวิญญาณวีรชนในเรื่องนี้คะ จะมีตัวไหนที่น่าสนใจบ้างเด๋ว ชิมจัง จะแนะนำให้ฟังกันทีละคนนะคะ

 

 

เริ่มที่คนแรกเลยก็คือ เซเบอร์

 

สาวน้อยผมสีทองที่แฟนๆ เฟท ซีรีส์ต้องคุ้นหน้าคุ้นตาเธอกันเป็นอย่างดี  เพราะเธอเป็นนางเอกหลักของเรื่องเลยล่ะ  ตามท้องเรื่องเธอเป็นวิญญาณวีรชนที่ถูก คิริซึงุ อันเชิญมาร่วมต่อสู้ในสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่สี่  ในคลาสเซเบอร์  แถมเป็นหนึ่งในคลาสที่แข็งแกร่งที่สุดในเจ็ดคลาสทั้งหมด  โดยชื่อที่แท้จริงคือ “อาร์เธอเรีย เพ็นดราก้อน” หรืออาร์เธอร์ ราชันย์แห่งอัศวิน… กษัตริย์แห่งเกาะบริเท็นในตำนานของอัศวินโต๊ะกลม  แต่เธอกลับไม่เคยเข้าใจถึงความหมายของคำว่า “ราชาที่แท้จริง” นั้นต้องเป็นเช่นไรกันแน่…

 

ในช่วงที่ร่วมมือกันกับคิริซึงุในฐานะเซอร์เวนท์นั้น… คิริซึงุมักจะบังคับให้เธอทำสิ่งที่ไม่ต้องการและเป็นการหยามหมิ่นในเกียรติแห่งอัศวินอยู่บ่อยครั้ง  แต่หากทางเลือกที่เธอมุ่งจะครอบครองจอกศักดิ์สิทธิ์  เพื่อความปรารถนาอันยังไม่เคยทำสำเร็จในครั้งอดีต  ทำให้เธอจึงต้องฝืนใจกระทำลงไปโดยที่มือของตัวเอง  และแปดเปื้อนความโสมมแค่ไหนก็ตาม

 

 

แต่ในช่วงสุดท้ายของเรื่อง… จอกศักดิ์สิทธิ์อยู่ตรงหน้าของเธอ  กลับไม่อาจคว้ามันมาครองได้  เพราะมาสเตอร์ของเธอได้ออกคำสั่งให้ทำลายมันลง  จนเมืองฟุยุกิส่วนหนึ่งต้องพินาศ   และสุดท้าย… เธอก็ไม่ได้อะไรตอบแทนมา

 

เธอมีโนเบิล แฟนทาสม์ คือ เอ็กซ์ คาลิเบอร์ เป็นดาบโปร่งแสงที่มีพลังในการทำลายล้างที่สูงมากในเรื่องนี้เลยทีเดียว

 

 

 

คนต่อมาคือ ไรเดอร์

 

ชายร่างยักษ์บึกบึน  ผู้เป็นวิญญาณวีรชนที่ถูกเวเวอร์อันเชิญมาร่วมต่อสู้ในสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่สี่  ในคลาสไรเดอร์  โดยชื่อที่แท้จริงคือ อิสกันเดอร์ หรืออเล็กซานเดอร์มหาราช  ราชันย์แห่งผู้พิชิต… กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ของชาวกรีก  เวเวอร์ได้ใช้ผ้าคลุมซึ่งแต่เดิมอิสกันเดอร์เคยได้สวมใส่  เดิมทีนั้นสื่ออันเชิญนี้เคยเป็นของเคย์เนธมาก่อน  อิสกันเดอร์จัดเป็นเซอร์เวนท์ที่ควบคุมได้ยากมาก  มักจะทำตามใจตนเองอยู่บ่อย  รวมไปถึงเวลาต่อสู้เขามักจะโอ้อวดศักดาอย่างเปิดเผย  นับถือในเกียรติของคู่ต่อสู้ทุกคน  เขามีความฝันว่าอยากที่จะเดินทางไปยังดินแดนที่เป็นจุดสิ้นสุดของโลก  และการต่อสู้ในสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งนี้  คือการทำตามความปรารถนาของตนเองที่ไม่เคยได้ทำสำเร็จมาก่อน

 

แต่ในช่วงท้ายของเรื่องนั้น… เขาได้ต่อสู้ชี้ขาดกับอาเชอร์  ซึ่งผลคือไม่สามารถเอาชนะได้  จนร่างต้องแตกสลายหายไปในที่สุด

 

มีโนเบิล แฟนทาสม์ คือ ไอโอเนียน เฮไตรอย อันหมายถึง  “สหายศึกแห่งกรีก” ค่ะ

 

 

 

คนต่อมาคือ แลนเซอร์

 

ชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง  เขาเป็นวิญญาณวีรชนที่ถูกเคย์เนธอันเชิญมาร่วมต่อสู้ในสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่สี่  ในคลาสแลนเซอร์  โดยชื่อที่แท้จริงคือ “เดร์มุด โอ เดน่า” นักรบแห่งฟิอันน่า   ผู้ที่มีเวทย์ “พักตร์อาคม” ที่ทำให้สตรีเพศลุ่มหลงในตัวเขา แต่ใช้ไปได้ผลกับเซเบอร์เพราะเซเบอร์มีความสามารถในการต้านทานเวทย์นั่นเอง 

 

เขาเป็นคนที่ยึดถือความเป็นอัศวินผู้มีเกียรติอย่างมาก  ทั้งยังยอมรับในตัวของเซเบอร์ที่ต่อสู้กับเขาและให้ความเคารพต่อกัน  ตัวเขาต่อสู้เพื่อเคย์เนธผู้เป็นนายอย่างจงรักภักดี… แม้ว่าอีกฝ่ายจะหยามหมิ่นตนเองแค่ไหนก็ตาม  ตัวเขาไม่ได้มีความปรารถนาต่อสิ่งที่ต้องการใดๆ หากได้ครอบครองจอกศักดิ์สิทธิ์  เพราะถือว่าชัยชนะของมาสเตอร์ในสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์  คือความปรารถนาสูงสุดในฐานะอัศวินที่เขาเป็นนั่นเอง

 

แต่จุดจบของเขาต้องมาถึง  เมื่อเคย์เนธได้ใช้บัญชาอาคมสั่งให้เขาฆ่าตัวตาย  เพราะโซลาอุถูกจับเป็นตัวประกัน  จากการวางแผนของคิริซึงุ  ทว่าก่อนที่ตายนั้น… เขาได้สาปแช่งทุกคนในสงครามด้วยความอาฆาตแค้นก่อนจะหายไป

 

มีโนเบิล แฟนทาสม์ คือ หอกทองคำ “เก โบว” หอกต้องสาปที่ทำให้เกิดบาดแผลซึ่งไม่สามารถรักษาได้ และ “เก เดียร์ก” (Gae Dearg) หอกยาวที่ทำให้การเสริมพลังเวทไร้ผล  และยังสามารถทะลุทะลวงพลังเวทย์ต่างๆ ได้ทุกๆ รูปแบบอีกด้วย

 

 

 

คนต่อมาคือ แคสเตอร์

 

ชายตาโตร่างสูง  เป็นวิญญาณวีรชนที่ถูกริวโนะสึเกะอันเชิญมาร่วมต่อสู้ในสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่สี่  ในคลาสแคสเตอร์  โดยนามที่แท้จริงคือ “กิลส์ เดอ เรส์”ขุนนางชาวฝรั่งเศสที่มีชีวิตอยู่ในช่วงสมัยศตวรรษที่ 15 และยังเป็นที่มาของตำนานบลูเบียร์ด  เขามีจิตใจอำมหิตที่ไม่ว่าจะแต่งงานกี่ครั้งๆ ก็ฆ่าภรรยาของตัวเองทุกคน  แม้จะโหดเหี้ยมผิดมนุษย์แค่ไหน  แต่เขาก็เป็นผู้ที่อยู่เคียงข้างวีรสตรีนักบุญ โจน ออฟ อาร์ค มาก่อน  เขารู้สึกชิงชังต่อพระผู้เป็นเจ้าที่ทรยศต่อศรัทธาในตัวของ โจน ออฟ อาร์ค ที่ได้ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด  และคิดว่าพระเจ้าไม่ช่วยเธอให้พ้นจากมลทินข้อครหานั้น  จึงเฝ้าแต่สาปแช่งพระเจ้าจนถึงวินาทีสุดท้ายของชีวิต

 

ในสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์นั้น… ตัวเขาไม่ได้ให้ความสนใจเลยแม้แต่น้อย  เขากลับชื่นชอบการสังหารเหยื่อที่ไม่ได้รู้อิโหน่อิเหน่  ชื่นชมความหวาดกลัวของเหยื่ออย่างเพลิดเพลิน  ในช่วงเริ่มต้นของสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์นั้น… เขาได้พบกับเซเบอร์และเข้าใจผิดว่าเธอคือโจน ออฟ อาร์ค ที่มีความทรงจำผิดเพี้ยนอันเป็นผลจากความทรมานในช่วงเวลาที่ตาย  ดังนั้นเขาจึงวางแผนที่จะจับเซเบอร์  โดยการก่อเหตุจับบรรดาเด็กๆ ในเมืองฟุยุกิ  เพื่อล่อให้เซเบอร์มาติดกับ  เพราะผลจากการกระทำที่เกิดขึ้นนี้เอง  ทำให้ถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามต่อสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์  เลยมีการประกาศจากกรรมการผู้ดูแลให้กำจัดทั้งตัวเขาและริวโนะซึเกะทิ้งซะ

 

 

สุดท้ายเขาต้องพบกับจุดจบ  เมื่อตัวเขาได้วางแผนที่จะจับเซเบอร์อีกครั้งโดยการกลายร่างเป็นอสูรกายขนาดมหึมา  ทำให้ต้องระดมเหล่าเซอร์เวนท์เข้ามากำจัด  และถูกเซเบอร์ใช้ท่าเอ็กซ์ คาลิเบอร์ทำลายลงในดาบเดียว

 

 

 

 

 

คนต่อมาคือ แอสซาซิน

 

จะบอกว่าคนเดียวก็ไม่ถูกนักเพราะมีกันหลายคน  พวกเขาเป็นกลุ่มนักฆ่าที่เป็นวิญญาณวีรชนที่ถูกโคโตมิเนะ คิเรย์อันเชิญมาร่วมต่อสู้ในสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่สี่  ในคลาสแอสซาซิน  ซึ่งบรรดานักฆ่าทุกๆ คนนั้น  เกิดมาจากการแบ่งแยกจิตใต้สำนึกและบุคลิกภาพออกเป็นหลายๆ แบบของ “อัลฮะซัน อิบนุ อัซซอบะบาฮะ” ผู้เฒ่าแห่งขุนเขาในตำนานของเปอร์เซีย ผู้เป็นหัวหน้าของกลุ่มนักฆ่าอัลฮัชชาชีน  และยังเป็นแอสซาซินที่แท้จริง ดังนั้นทุกๆ ร่างที่เห็นอยู่นั่นจึงเปรียบเสมือน “เงา” ที่แยกออกจากกันได้

 

ในตอนแรกนั้น… เหล่ามาสเตอร์คนอื่นๆ ต่างคิดว่าคลาสแอซาซินมีเพียงแค่ตนเดียว  หลังจากที่มีแอสซาซินตนหนึ่งถูกอาเชอร์สังหารไป  แต่นั่นเป็นแผนแค่ตบตาศัตรูของคิเรย์เพื่อไม่ให้มีใครสงสัยเรื่องจำนวนที่แท้จริง  ทว่าจุดจบของเหล่าแอสซาซินก็มาเยือนเมื่อไปเผชิญหน้ากับไรเดอร์ที่ใช้ท่าโนเบิล แฟนทาสม์ไอโอเนียน เฮไตรอยสังหารจนหมดสิ้นในคราเดียว

 

 

 

คนต่อมาคือ อาเชอร์

 

มาถึงคนนี้แฟนๆ หลายคนต่อรู้จักกันอย่างแน่นอน  ชายผู้ใส่ชุดเกราะสีทอง  เป็นวิญญาณวีรชนที่ถูกโทซากะ โทคิโอมิอันเชิญมาร่วมต่อสู้ในสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่สี่  ในคลาสอาเชอร์  โดยนามที่แท้จริงคือ “กิลกาเมซ” ราชันย์แห่งวีรชน… กษัตริย์ในตำนานสุเมเรีย  ที่ถือว่าเป็นตำนานที่เก่าแก่อีกตำนานหนึ่งมากที่สุดในโลก  เขายังเป็นผู้ครอบครองทรัพย์สมบัติทุกๆ ชิ้นบนโลกใบนี้  ซึ่งโทคิโอมิได้ใช้สื่ออันเชิญที่เป็นซากฟอสซิลของหนังงูเก่าแก่เพื่อเรียกเขามาร่วมสงครามครั้งนี้ 

 

ด้วยความที่เป็นราชาคนแรกของโลก  จึงทำให้มีความเหย่อหยิ่งและมีความทะนงตนมากๆ   แม้แต่กับมาสเตอร์ของตัวเขาเองก็ยังไม่อาจจะควบคุมพฤติกรรมของเขาได้ ถ้าไม่ใช่เรย์จูบังคับ  และเขายังให้ความสนใจต่อเซเบอร์อย่างมาก จนถึงขั้นจะจัดพิธีสมรสให้เซเบอร์เป็นพระมเหสีกันเลยทีเดียว

 

เหตุผลที่เขาได้เข้าร่วมสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ก็เพื่อต้องการชำระโลกที่เสื่อมทราม  จนรู้สึกถึงความน่าสมเพสที่โลกใบนี้ต้องแปดเปื้อนด้วยลงจากน้ำมือของมนุษย์  แต่เมื่อมองเห็นถึงจุดมุ่งหมายที่สวนทางกับความต้องการของตัวเขากับโทคิโอมิ  ประจวบเหมาะกับในช่วงที่คิเรย์สูญเสียเซอร์เวนท์ของตัวเองไปแล้ว  เขาจึงได้ล่อลวงให้คิเรย์ทำการสังหารโทคิโอมิ  และเริ่มดำเนินแผนการเพื่อแย่งชิงจอกศักดิ์สิทธิ์ในฐานะผู้ชนะสงคราม  ทว่าทุกๆ อย่างนั้นกลับเป็นศูนย์… เมื่อเซเบอร์ได้ทำลายจอกศักดิ์สิทธิ์ลงตามคำสั่งของคิริซึงุในตอนท้าย

 

มีโนเบิล แฟนทาสม์ คือ“เอนคิดู” และ “เออา”  ซึ่งออกมาจาก “เกท ออฟ บาบิโลน” ประตูสู่ท้องพระคลังในนครแห่งบาบิโลน  เป็นท่าไม้ตายที่ร้ายกาจอย่างมากเลยทีเดียวค่ะ

 

 

 

และวิญญาณวิรชนตนสุดท้ายขอขอพูดถึงก็คือ เบอร์เซอร์เกอร์

 

อัศวินผู้มีไอออร่าสีดำทมิฬห่อหุ้มร่างกาย  เป็นวิญญาณวีรชนที่ถูกมาโต้ คาริยะอันเชิญมาร่วมต่อสู้ในสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่สี่  ในคลาสเบอร์เซอร์เกอร์  ที่กล่าวได้ว่าเป็นคลาสที่ทรงพลังอย่างยิ่งยวด  โดยนามที่แท้จริงคือ “เซอร์แลนสล็อตแห่งทะเลสาบ” หนึ่งในอัศวินโต๊ะกลมแห่งคาเมล็อต ผู้เป็นสหายของอาร์เธอเรียที่ไว้ใจมากที่สุดเหนือสิ่งอื่นใด  แต่การที่ตัวเขามาปรากฏกายในฐานะเซอร์เวนท์ที่เต็มไปด้วยความบ้าคลั่งนั้น  ก็เป็นผลมาจากความเกลียดชังและไม่ยอมให้อภัยต่อตนเอง  เพียงเพราะตัวเขาไม่อาจหักห้ามหัวใจตนเองที่ได้มอบความรักต่อกวิเนเวียร์   ซึ่งรู้ดีว่านางเป็นราชินีคู่บัลลังก์ของอาร์เธอเรีย… อันนำไปสู่การสูญสิ้นของอาณาจักรนั่นเอง

 

 

และเมื่อเซเบอร์รู้ถึงความจริงภายใต้หน้ากากของอัศวินดำผู้บ้าคลั่ง  รวมไปถึงสาเหตุที่ทำให้อัศวินผู้ที่เซเบอร์เรียกเขาได้อย่างเต็มหัวใจว่า “เพื่อนแท้” ต้องกลายมาเป็นเช่นนี้  ก็มาจากตัวเธอนั่นเอง  เพราะความผิดของแลนสล็อตที่ได้ก่อลงไปนั้น  เซเบอร์กลับไม่ได้กล่าวโทษต่อเขาอย่างใด  และยังเสแสร้งราวกับไม่เคยมีสิ่งใดเกิดขึ้น  แต่หารู้ไม่ว่านั่นกลับเป็นการทำร้ายแลนสล็อตเสียเอง… ที่ต้องปล่อยให้ตัวเขาได้ตกอยู่ในความทรมานจากความผิดอันไม่ควรจะได้รับการละเมิดไถ่ถอน  ความสิ้นหวังนั่นได้พาให้ตัวเขาต้องจมดิ่งลงไปสู่ก้นทะเลสาบแห่งความบ้าคลั่ง   จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้อัศวินดำผู้นี้ชี้คมดาบหันไปสู่เซเบอร์  ในฐานะศัตรู

 

 

 

แล้วจุดจบของเขาก็มาถึง… เบอร์เซอร์เกอร์ถูกเซเบอร์แทงในจังหวะที่หยุดเคลื่อนไหว  ซึ่งเป็นผลมาจากคิเรย์ที่กำลังต่อสู้อยู่กับคิริซึงุถูกสูบพลังเวทย์ไปจนหมด  ทำให้การถ่ายทอดพลังเวทย์ระหว่างมาสเตอร์กับเซอร์เวนท์ต้องหยุดชะงัก  ก่อนร่างจะหายไปนั้น  เขาก็ได้รับการให้อภัยต่อความผิดที่เคยก่อลงไปจากราชาของตนเอง  และสิ้นชีพลงในฐานะอัศวินผู้จงรักภักดีต่อบัลลังก์อย่างสงบ

 

มีโนเบิล แฟนทาสม์ คือ “ดาบมารอารอนไดท์” อีกทั้งยังมีความสามารถสร้างโนเบิล แฟนทาสม์จากวัตถุที่เขาสัมผัสมันได้

 

 

 

…และนี่ก็เป็นเรื่องราวของ เหล่าวิญญาณวีรชนในเรื่อง “เฟท ซีโร่” ที่ชินจังคิดว่าเก่งและโดดเด่นที่สุด แล้วเพื่อนๆละ ชอบวีรชนตัวไหนที่สุดบอดให้เราทราบกันด้วยนะค่ะ และข้อมูลชุดนี้ก็เขียนและเรียบเรียงโดย แอดเซฟสายเปย์ จากเว็บไซต์เมทัลบริด ให้เสียงบรรยายโดย ชิมจังเองค่ะ ถ้าชอบก็สามารถกดติดตามเพื่อติดตามคลิปใหม่ๆได้ทุกสัปดาห์ค่ะ แล้วมาพบกับเรื่องราวเจาะลึกแบบ กีคส์ กีคส์ กันได้ใหม่ในรายการ กีคส์ ไดอารี่ค่ะ  ส่วนในวันนี้ต้องขอลากันไปก่อน  สวัสดีค่ะ