สวัสดีค่ะมาพบกับรายการ “กีคไดอารี่” กับ “คานะจัง” ผู้บรรยายคนใหม่จำกันได้ไหมเอ่ย  เอ๋? ใครน่ะเหรอก็พิธีกรเก่าในรายการ “โอตาคุแลนด์” ไงล่ะ  วันนี้คานะจังไม่ได้มาโชว์หน้าอกนะคะ  แต่วันนี้จะมาเล่าเรื่องราวของภาพยนตร์อนิเมชั่นจากสตูดิโอชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น  นั่นก็คือ “สตูดิโอจิบลิ” นั่นเอง

หากจะพูดถึงสตูดิโออนิเมชั่นชื่อดังจากฝั่งตะวันออกที่เป็นขวัญใจของใครหลายคน ตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้ใหญ่ คงหนีไม่พ้น “สตูดิโอจิบลิ” ผู้สร้างผลงานภาพยนตร์อนิเมชั่นออกมาให้แฟนๆได้ติดตามและเป็นที่พูดถึงกันมาก โดยการนำของอาจารย์ มิยาซากิ ฮายาโอ ผู้ก่อตั้งสตูดิโอนี้มาตั้งแต่ปี 1985 

ในคลิปนี้จึงขอเสนอ “10 ผลงานอนิเมชั่นชื่อดังของสตูดิโอจิบลิที่ต้องดู!!” ส่วนจะมีเรื่องไหนบ้างและน่าสนใจอย่างไร? เรามาระลึกความหลังเลยแล้วกัน… ไปชมกันเลย

เรื่องที่ 1.  ลาพิวต้า พลิกตำนานเหนือเวหา

นี่คือผลงานเรื่องแรกของการก่อตั้งสตูดิโอจิบลิ ที่ทำรายได้ไปกว่า 500 ล้านเยน  เป็นเรื่องราวของการผจญภัย ซิต้า และ ปาซู เด็กสองคนกับการค้นหาเมืองลอยฟ้าที่เต็มไปด้วยทรัพย์สมบัติมากมาย แต่แล้วกลับต้องเผชิญกับการต่อสู้ของเหล่าโจรสลัด และกองทัพทหารที่ต้องการทั้งสมบัติและพลังอำนาจเช่นเดียว และนี่คือการผจญภัยสุดท้าทายของพวกเขา

เรื่องที่ 2. สุสานหิ่งห้อย

เรื่องราวโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ของสองพี่น้อง เซตะ เด็กหนุ่มวัย 14 ปี และ เซซึโกะ เด็กหญิงวัย 5 ขวบ กับการใช้ชีวิตรอดภายหลังการสูญเสียครอบครัวจากสงครามจนต้องไปพึ่งพิงป้าแท้ๆ แต่กลับไม่สามารถทนแรงกดดันได้ ทำให้ต้องออกมาใช้ชีวิตแร้นแค้นอดๆอยากๆ ตามลำพังสองพี่น้อง จนนำพามาซึ่งการสูญเสียที่สร้างความสะเทือนใจคนทั่วโลกมาแล้ว โดยอนิเมชั่นเรื่องนี้ คว้า 2 รางวัลจากงานมหกรรมภาพยนตร์นานาชาติ สำหรับเด็กที่ชิคาโก้มาแล้ว

เรื่องที่ 3. โทโทโร่เพื่อนรัก

นี่คือ อนิเมชั่นที่ได้รับความนิยมจากคนทั่วโลกมากเรื่องหนึ่งจนกลายเป็นสัญลักษณ์ของสตูดิโอจิบลิกันเลยทีเดียว  เป็นเรื่องราวที่เต็มเปี่ยมไปด้วยจินตนาการแสนงดงามของ ซัทสุกิ และ เมย์ สองพี่น้องที่พึ่งย้ายบ้านมาในชนบทห่างไกลพร้อมกับพ่อ เพื่อมาดูแลแม่ที่ป่วย ทำให้ได้พบกับเรื่องราวแปลกๆต่างๆ รวมไปถึงการได้พบกับ โทโทโร่ เทพอารักษ์ซึ่งสถิตอยู่ในป่า วันเวลาที่เเสนเงียบเหงาของทั้งสองได้เปลี่ยนไป เมื่อการผจญภัยเล็กๆของพวกเขาได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

เรื่องที่ 4. แม่มดน้อยกิกิ

ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องราว กิกิ แม่มดน้อยฝึกหัด พร้อมกับ จิจิ แมวดำพูดได้ จำต้องออกจากบ้านสู่เมืองใหม่เพื่อฝึกการใช้เวทมนตร์ และในเมืองแห่งใหม่นั้นเอง เธอก็ได้ใช้การบินด้วยไม้กวาดของเธอในการส่งของให้กับร้านขนมปัง แต่แล้วระหว่างการส่งของเธอกลับได้รับอุบัติเหตุจนนำมาสู่การค่อยสูญเสียเวทมนตร์ พร้อมกับการค่อยๆไม่ได้ยินที่ จิจิ พูดอีกต่อไป อย่างไรก็ตามเรื่องราวที่เกิดขึ้นก็กลับกลายเป็นประสบการณ์ให้เธอเติบโตเป็นแม่มดที่สมบูรณ์แบบได้ในที่สุด

เรื่องที่ 5. เจ้าหญิงจิตวิญญาณแห่งพงไพร  

นี่คือภาพยนตร์อนิเมชั่นที่ถูกบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์เรื่องแรกที่ลงทุนสูงที่สุด และทำรายรับได้กว่า 18.65 พันล้านเยน อีกทั้งยังวาดรางวัลนับไม่ถ้วนเลยทีเดียว  เป็นเรื่องราวของ อาชิทากะ ชายที่ป่วยและอยู่ห่างไกลจากความเปลี่ยนแปลงของโลกภายนอก ในยุคโบราณของญี่ปุ่น ขณะที่การช่วงชิงอาณาเขตกำลังแผ่ขยายทั่วทุกทุกแห่ง อาชิทากะ ตัดสินใจเดินทางออกจากหมู่บ้าน จนได้พบกับเมืองเหล็กของนายหญิงอิโบชิ ซึ่งมีเทคโนโลยีปืนไฟถ่วงดุลผู้มีอำนาจ แต่ต้องแลกมากับการทำลายธรรมชาติ เพื่อค้ำจุนเทคโนโลยีของปืนไฟให้เดินหน้าต่อไป ความขัดแย้งเกิดขึ้นทั้งจากมนุษย์ด้วยกันเอง และมนุษย์ต่อธรรมชาติ

เรื่องที่ 6. มิติวิญญาณ หรือ สปิริต อะเวย์

เรื่องราวของ จิฮิโระ เด็กหญิงอายุ 10 ปี ทีได้ค้นพบมิติลึกลับระหว่างการเดินทางย้ายบ้าน โดยหลังจากเธอได้สูญเสียพ่อแม่ที่กลายสภาพเป็นหมูไป เธอต้องใช้ชีวิตหลบซ่อนภายในเมืองวิญญาณที่ทุกอย่างดูพิลึกพิลั่น โชคดีที่เธอได้รับการช่วยเหลือจาก ฮาคุ เด็กชายเทพมังกร จนได้อยู่ในโรงอาบน้ำของแม่มดใจร้ายและบรรดาเพื่อนต่างมิติ ไม่ว่าจะเป็น ผีไร้หน้า หรือแม้แต่ฝาแฝดของแม่มดใจร้าย เธอจำเป็นจะต้องการทางช่วยพ่อแม่และหาทางออกจากมิติแห่งนี้ให้ได้ และด้วยการเล่าเรื่องที่แสนเรียบง่ายและมีภาพสวยงาม ทำให้อนิเมะเรื่องนี้จึงได้คว้ารางวัลออสการ์มาแล้ว

เรื่องที่ 7. ปราสาทเวทมนตร์ของฮาวล์

อนิเมชั่นแนวแฟนตาซี ดัดแปลงมาจากหนังสือนิยายสำหรับเด็กของ ไดอาน่า ไวนน์ โจนส์ เรื่องราวของ โซฟี หญิงสาวที่ถูกคำสาปจนกลายเป็นยายแก่ จนเมื่อเธอได้ออกเดินและได้พบกับ ปราสาทฮาวล์ ที่สามารถเคลื่อนที่ได้ของพ่อมดฮาวล์ หญิงสาวจึงได้เข้าทำงานในฐานะแม่บ้านภายในปราสาท และเรียนรู้ถึงความเป็นคนดีของพ่อมดจนก่อเกิดเป็นเรื่องราวความรักระหว่างพ่อมดและหญิงสาวร่างยายแก่ที่แสนอัปลักษณ์ชวนให้ติดตามกันต่อไป

เรื่องที่ 8. ศึกเทพมังกรพิภพสมุทร

เป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นที่กำกับโดย โกโร่ ลูกชายของมิยาซากิ เรื่องราวของเจ้าชายผู้ถูกความมืดครอบงำจนได้กระทำสิ่งที่ผิดลงไปต่อพระราชาผู้เป็นพ่อ จนเกิดความหวาดกลัว จึงได้หลีกหนีสู่สถานที่ห่างไกล ระหว่างนั้นเองได้บังเอิญช่วยเหลือเด็กหญิงคนหนึ่ง และได้พบกับพ่อมดเหยี่ยว ผู้เข้ามาช่วยชี้แนะให้แก่เขา จนสุดท้ายก็สามารถยืนหยัดเหนือความมืดที่ติดตามในฐานะชาวไร่ได้ในที่สุด อนิเมชั่นเรื่องนี้ทำรายได้กว่า 900 ล้านเยน ถึงแม้จะถูกเรียกว่าเป็นผลงานอันด่างพร้อยด้วยเพราะไม่เป็นตามการคาดหวังจากการเป็นผลงานของลูกชาย อ.มิยาซากิ ก็ตาม

เรื่องที่ 9. ปีกแห่งฝัน วันแห่งรัก  

เรื่องราวแห่งชีวิต ความรัก และความฝันของวิศวกรเทคนิคหนุ่มในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อิงมาชีวิตจริงของ จิโร่ โฮริโกชิ นักออกแบบเครื่องบินผู้โด่งดัง และ เท็ตสึโอะ โฮริ นักเขียนผู้เขียนชีวิประวัติของ โฮริโกชิ ซึ่งอนิเมชั่นเรื่องนี้ถูกรับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 5 อนิเมชั่นที่เข้าชิงรางวัลออสการ์เมื่อต้นปี 2014 ที่ผ่านมาอีกด้วย

เรื่องที่ 10.  มหาสงครามหุบเขาแห่งสายลม 

มหาสงครามหุบเขาแห่งสายลม  เป็นภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากมังงะ ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานโดยฝีมือการกำกับของ อ.มิยาซากิ ร่วมกับ อิซาโอะ ทากาฮาตะ เช่นกัน และจะถือว่าเป็นผลงานจุดเริ่มต้นแห่งการถือกำเนิดสตูดิโอจิบลิเลยก็ว่าได้ แต่เนื่องจากสตูโอจิบลิก่อตั้งในปี 1995 ดังนั้นอนิเมะเรื่องนี้ จึงถูกจัดอยู่ในผลงานก่อนการก่อตั้งสตูดิโอจิบลิและไม่สามารถถูกจัดอยู่ในผลงานการผลิตโดยสตูดิโอจิบลิได้อย่างเป็นทางการ

ซึ่งภาพยนตร์อนิเมชั่นได้รับการสนับสนุนจาก องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล ว่าด้วยเรื่องราวการต่อสู้และหาวิธีแก้ปัญหามลพิษในธรรมชาติอันเกิดจากน้ำมือมนุษย์ของ “นาอุซิก้า” เจ้าหญิงในเมืองที่ได้รับการปกป้องจากมลพิษด้วยสายลม ซึ่งนอกจากจะต้องต่อสู้กับทั้งสิ่งที่เป็นเหมือนกับศัตรูของมนุษย์แล้ว ยังจะต้องต่อสู้กับมนุษย์ด้วยกันอีกด้วย

และนี่ก็เป็น 10 ผลงานอนิเมชั่นชื่อดังของสตูดิโอจิบลิที่ต้องดู ที่ได้นำมาฝากกัน  ซึ่งทุกๆ เรื่องก็เป็นเรื่องที่ดังๆ ที่แค่พูดชื่อ  แฟนๆ ของสตูดิโอจิบลิจะต้องรู้จักกันอย่างแน่นอนเลยใช่ไหมล่ะ 

บทความต้นฉบับเขียนโดยแอดมินอาโน จากเว็บไซต์เมทัลบริด  เรียบเรียงเองโดยแอดมิน เซฟสายเปย์ ให้เสียงบรรยายโดยคานะจังเองค่ะ

 แล้วมาพบกับเรื่องราวเจาะลึกแบบ กีค กีค กันใหม่ในรายการ กีคไดอารี ในเทปหน้า สำหรับวันนี้ชิมจังต้องขอลาไปก่อน  สวัสดีค่ะ  บ๊ายบาย…