เก็งกิ ยอดนักสู้ (Ganbare Genki)
ปีที่ตีพิมพ์: 1976-1981
แนว: ดราม่า, กีฬา
เรื่องและภาพโดย: อ.โคยะมะ ยู
จำนวน: 28 เล่มจบ(โชเน็น), 16 เล่มจบ (TKO Classics)
จำนวนตอน: 122 ตอน
ถ้าจะพูดถึงการ์ตูนชกมวยที่น่าจดจำทั้งในอดีตและปัจจุบัน เราจะนึกถึง “โจ สิงห์สังเวียน” หรือ “ก้าวแรกสู่สังเวียน” แต่ก็มีอีกเรื่องหนึ่งที่เคยครองใจผู้ชมไม่แพ้สองเรื่องที่กล่าวมาซึ่งจะหยิบมาเล่าในวันนี้มีชื่อว่า Ganbare Genki หรือ “เก็งกิ ยอดนักสู้ “ ผลงานของ อ.โคยะมะ ยู (ที่มีผลงานดังๆที่ผู้อ่านรู้จักอย่าง Azumi สวยประหาร, Sprinter, ซาคาโมโต้ เรียวม่า) ลงตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสารโชเน็น ซันเดย์ในปี 1976 ก่อนจะรวมเล่มในเวลาต่อมาจำนวนทั้งสิ้น 28 เล่ม สำหรับในบ้านเรานั้นมีการตีพิมพ์หลายครั้ง (ที่มีจบเล่มก็จะเป็นของ สนพ.New Project Comics ที่รวมเป็นเล่ม 6 เล่มจบ)
ปัจจุบันสิทธิ์ในการตีพิมพ์ของเก็งกิ ยอดนักสู้ เป็นของสำนักพิมพ์ TKO Classics ที่ได้นำมาตีพิมพ์ใหม่แบบถูกลิขสิทธิ์ จำนวน 16 เล่มจบ นอกจากนี้ยังได้ถูกสร้างเป็นการ์ตูนฉายทางทีวีทางสถานี Fuji TV จำนวน 35 ตอน ซึ่งเคยมาฉายที่บ้านเราด้วยเช่นกัน
แนะนำตัวละคร
ก่อนที่จะเล่าเรื่องราวสุดเข้มข้น บีบน้ำตาบนสังเวียนนักมวยของ เก็งกิ ก็จะพาผู้อ่านไปทำความรู้จักกับตัวละครสำคัญๆของเรื่อง ว่าใครเป็นใครกันบ้าง
เก็งกิ โฮริงูจิ
ลูกชายของ ชาร์ค โฮริงูจิ นักมวยพเนจร จึงทำให้เขาซึมซับกีฬาชกมวยจากพ่อทีละนิด ไม่ว่าพ่อจะทำอะไร เขาก็จะทำตามพ่อเสมอ วันหนึ่งชีวิตก็มาถึงจุดเปลี่ยนเมื่อพ่อของเขาเสียชีวิตจากการชกกับ เซกิ เคนจิ ดาวรุ่งว่าที่แชมป์โลกในเวลานั้น ทำให้เขาต้องอาศัยอยู่กับ คุซาบุโระ และ ไอโกะ สองตายายของเขาที่เลี้ยงดูฟูมฟักเป็นอย่างดี แต่ด้วยสายเลือดมวยที่เต็มเปี่ยม ทำให้เขาตัดสินใจเดินทางสู่โตเกียวเพื่อเป็นนักมวยอาชีพโดยมี เซกิ เคนจิ คือเป้าหมายสูงสุด
ชาร์ค โฮริงูจิ
พ่อของเก็งกิ เป็นนักมวยไร้อันดับที่ต้องพเนจรไปชกตามที่ต่างๆเพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูลูกชายของเขา ในวันที่เก็งกิเกิดเขาก็ต้องสูญเสีย มินาโกะ คู่ชีวิตและแม่ของเก็งกิไป จนทำให้ครอบครัวฝ่ายหญิงหรือตายายของเก็งกิ รับไม่ได้ ทำให้เขาต้องใช้สองกำปั้นพิสูจน์ตัวเอง
คุซาบุโระ กับ ไอโกะ ทานุมะ
คุณตากับคุณยายผู้น่ารักของเก็งกิ หลังการจากไปของ ชาร์ค โฮริงูจิ ทั้งสองคนก็พยายามเลี้ยงดูและให้ความรักอย่างเต็มที่ เผื่อวันหนึ่งเก็งกิจะได้ห่างจากกีฬามวย ส่วนหนึ่งมาจากการสูญเสียลูกสาวของพวกเขา (แม่ของเก็งกิ) ทำให้ทั้งสองโทษ ชาร์ค พ่อของเก็งกิว่า เป็นต้นเหตุที่ทำให้ลูกสาวของพวกเขาต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับ
แต่ทั้งสองก็รู้อยู่ว่า เก็งกิ ยังคงที่จะชกมวยตามพ่อของเขา จนวันหนึ่งทั้งคู่ตัดสินใจให้หลานชายไปทำสิ่งที่ต้องการ โดยหวังว่าวันหนึ่งเขาจะกลับมาอย่างแน่นอน
อาชิคาวะ ยูโกะ
คุณครูประจำชั้นของเก็งกิและเป็นคนที่เคียงข้างคอยให้ความช่วยเหลือเก็งกิมาตลอดตั้งแต่เด็กจนโต สิ่งที่ทำให้เธอเข้าใจความรู้สึกของเขาเป็นอย่างดี เพราะเธอเคยมีแฟนเป็นนักมวยมาก่อนนั่นเอง
เซกิ เคนจิ
ยอดนักชกที่เป็นคนปิดฉากอาชีพค้ากำปั้นของพ่อเก็งกิ จึงกลายเป็นเป้าหมายสำคัญ ที่ทำให้เก็งกิตัดสินใจชกมวยเพื่อที่จะได้แก้มือแทนพ่อของเขา ในเวลาต่อมาเคนจิได้กลายเป็นแชมป์โลกที่ยังครองตำแหน่งมายาวนาน
ฮิยามะ ทาเครุ
นักชกที่ได้เจอกับเก็งกิสมัยเรียนประถม เป็นคนหยิ่งผยองลำพองตนและมุ่งมั่นที่จะเป็นนักมวย หนึ่งในคู่ปรับคนสำคัญของเก็งกิ ก่อนที่เขาจะกลายเป็นดาวรุ่งของวงการมวยสมัครเล่นที่จะเป็นความหวังทีมชาติในการคว้าเหรียญทองโอลิมปิค หากแต่ว่าในการพบกับเก็งกิตอนซ้อมชก เขาพลาดถูกหมัดของเก็งกิจนล้ม ทำให้เขาสูญเสียความั่นใจ ก่อนจะหันหลังความฝันโอลิมปิคและมุ่งมั่นสู่วงการมวยอาชีพ เพื่อจะล้างแค้นเก็งกิรวมถึง เซย์กิ เคนจิ ไอดอลของเขาอีกด้วย
เรื่องราวในเก็งกิ ยอดนักสู้
เก็งกิ โฮริงูจิ เป็นลูกชายของ ชาร์ค โฮริงูจิ กับ มินาโกะ โฮริงูจิ เมื่อวันที่เขาลืมตาดูโลก แม่ของเขาก็ได้เสียชีวิตลง ทำให้ ชาร์ค (ฮิเดกิ) ต้องขึ้นชกมวยหรือเป็นเทรนเนอร์ตามค่ายมวยต่างๆ เพื่อหารายได้ แน่นอนว่าเจ้าหนูเก็งกิก็ต้องติดสอยห้อยตามคุณพ่อไปทุกหนทุกแห่ง
ภาพที่เขาจะเห็นจากพ่อคือ ฝึกซ้อมชกมวยทุกวันไม่ว่าจะอยู่บนรถไฟหรือเดินทางค้างแรมที่ไหน ขอให้ได้ฝึกฝนตลอดเวลา เวลานั้นชาร์คถูกกดดันจากพ่อแม่ของมินาโกะอย่าง คุซาบุโระ กับ ไอโกะ (ซึ่งเป็นตายายของเก็งกิ) เพราะทั้งสองไม่เชื่อว่าคนไร้อนาคตอย่าง ชาร์ค จะทำให้หลานชายมีความสุขได้ และประกาศว่า ถ้าเขาไม่สามารถทำให้เก็งกิมีความสุขทั้งสองจะเลี้ยงดูเอง จึงทำให้เขาเปลี่ยนเป็นแรงผลักดันในการชกมวย
ช่วงหนึ่งที่พ่อต้องไปทำงานต่างจังหวัด เขาจึงฝากไว้ที่บ้านเลี้ยงเด็กกำพร้า ซึ่งที่บ้านก็มีเด็ดอีกสองสามคนที่รับเลี้ยง สำหรับเก็งกิ มักจะออกจากบ้านไปชกมวยช่วงรอพ่อมารับ ทำให้มีเรื่องกับเด็กละแวกแถวนั้นเป็นประจำ จนเจ้าของบ้านยื่นคำขาดว่า “ถ้ายังคงชกมวยทะเลาะวิวาท จะไม่ให้อยู่ที่นี่เด็ดขาด!”
เก็งกิจะไปรอที่ถนนทุกวันเพื่อรอใครซักคน ที่จะมาเป็นคู่ซ้อมให้กับเขา…..
ในเวลาต่อมา ชาร์คก็กลับมารับเก็งกิก่อนจะมุ่งหน้าไปยังโตเกียวเพื่อตามฝันต่อไป จนวันหนึ่งทางค่ายมวยนางาโนะ ได้ติดต่อว่าเขาจะได้ขึ้นชกอีกครั้ง จึงได้เข้าไปคุยกับทางเจ้าของค่ายเรื่องการชก ขณะที่รอพ่อคุยอยู่นั้น ใครคนหนึ่งที่เห็นแววเก็งกิ หลังได้ฟังเรื่องราวของทั้งคู่ ก็เลยแนะนำให้เก็งกิลองขึ้นชกในศึกมวยรุ่นเยาว์ ด้วยความชื่นชอบมีหรือที่เก็งกิจะปฎิเสธ (ฮ่า)
สองสามวันถัดมา เก็งกิก็ได้เข้าร่วมชกในศึกมวยรุ่นเยาว์ ซึ่งเป็นรายการกีฬามวยสำหรับเด็ก ซึ่งเขาสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ไปจนถึงรอบชิงและล้มแชมป์เก่าด้วยหมัดอัปเปอร์สเตรท ทำให้ชื่อของเก็งกิกลายเป็นที่พูดถึงในเวลานั้นทันที
ช่วงเย็นวันเดียวกัน ชาร์ค ก็ได้ขึ้นสังเวียนในรอบหลายปี โดยชกในรุ่นเฟเธอร์เวท (พิกัดน้ำหนัก126 ปอนด์) หลายคนบอกว่าการชกครั้งนี้น่าจะลำบากที่สุด เป็นผลจากการลดน้ำหนักถึงสองรุ่นซึ่งอาจจะเพลี่ยงพล้ำ แต่ ชาร์ค โฮริงูจิ ก็เอาชนะคู่ต่อสู้แบบหวุดหวิดไปในยกที่สอง
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาชื่อของ เก็งกิ และ ชาร์ค โฮริงูจิ กลายเป็นที่รู้จักในชื่อ “สองพ่อลูกยอดนักชก” เพราะ ชาร์ค สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ติดต่อกัน ส่วนเก็งกิก็ยังคงรักษาตำแหน่งแชมป์ศึกมวยรุ่นเยาว์อย่างต่อเนื่องเช่นกัน แล้ววันหนึ่งโอกาสทองของชาร์คก็มาถึง เมื่อเขาได้รับการติดต่อให้ขึ้นชกกับดาวรุ่งของวงการวัย17ปีที่มีชื่อว่า เซย์กิ เคนจิ แม้หลายคนมองว่าการชกครั้งนี้ชาร์คจะต้องแพ้ดาวรุ่งคนนี้ แต่ยังมีเก็งกิ ทีเชื่อว่าพ่อต้องชนะแน่ๆ
ก่อนหน้านี้เจ้าของค่ายได้ขอให้ชาร์คไปชกในน้ำหนักที่ไม่ต้องเสียเวลาลดเหมือนทุกครั้ง และเตือนว่าการทำแบบนี้จะมีแต่แย่ลง และอาจแพ้ต่อหน้าลูกชายสุดที่รัก แต่เมื่อเขาต้องการเช่นนั้นเขาก็ได้แต่เคารพการตัดสินใจเท่านั้น
เมื่อวันชกมาถึง เก็งกิ จึงไปหาคู่ชกของพ่อเพื่อให้กำลังใจ (ก่อนหน้านี้พ่อได้สอนว่า อย่าไปซ้ำเติมคู่ต่อสู้) แต่เซย์กิ กลับได้เยาะเย้ยถากถางจนเก็งกิต่อยหน้าทันที ก่อนจะมีเรื่องมีราวก่อนที่เซย์กิจะเยาะเย้ยทิ้งท้ายให้เก็งกิผูกใจเจ็บ
เมื่อการชกมาถึงชาร์คที่สังเกตเห็นใบหน้าลูกสะบักสะบอมที่บอกว่าลื่นล้ม แต่พอได้เห็นสีหน้ายิ้มเยาะของเซย์กิ เลยถามว่าเขาดูถูกชาร์คหรือไม่ ก่อนจะบอกว่า “พ่อจะเอาชนะให้ได้!”
เมื่อการชกเริ่มต้นขึ้น แน่นอนว่าเซย์กิได้เปรียบเต็มประตูทั้งความสดกว่า แกร่งกว่า ชาร์คหลายเท่าตัว แต่เขาก็ทำให้เซย์กิตะลึงไปไม่น้อย ท้ายที่สุดเป็นดาวรุ่งอย่างเซย์กิยิงหมัดใส่ชาร์คจนตกเวที แม้จะลุกขึ้นมาได้ แต่ก็ไม่อยู่ในสภาพพร้อมชกจึงพ่ายแพ้ไปในที่สุด
หลังการชกจบลงชาร์คจึงถูกหามส่งโรงพยาบาล เพื่อทำการรักษาก่อนที่หมอจะให้เขาพักซักระยะ แต่ทว่าชาร์คก็ได้สติขึ้นมา ก่อนจะพาเก็งกิไปเที่ยวสวนสนุกตามที่ให้สัญญาไว้ ซึ่งเวลาเดียวกันนั่นเองทีมงานและหมอก็ตามตัววุ่นเพราะว่า การที่เขาลุกขึ้นมาในสภาพที่บอบช้ำหลังการชก อาจเป็นสัญญาณที่ไม่ค่อยจะดีนัก เพราะหมายถึงความตายที่ย่างกรายเข้ามาในอีกไม่ช้า
ชาร์คกับเก็งกิก็ใช้เวลาแห่งความสุขที่สวนสนุก ซึ่งชาร์คก็มีอาการมึนๆและเห็นภาพเบลอตลอดเวลา เก็งกิได้สนุกเต็มที่ ส่วนตัวเขาขอนั่งพักที่ม้านั่ง ซักพักเก็งกิก็ซื้อน้ำผลไม้มาฝากคุณพ่อของเขาและนั่งดื่ม ก่อนที่พ่อของเขาก็หลับไป ทำให้เก็งกิก็นั่งข้างๆจนสวนสนุกปิด
เวลาผ่านไปคนกวาดขยะก็เห็นสองพ่อลูกที่ไม่ยอมกลับจึงมาบอกว่า สวนสนุกปิดแล้วแต่เก็งกิบอกว่าพ่อกำลังหลับอยู่ พอเขาไปปลุกก็ได้พบความจริงสุดเศร้า เพราะ ชาร์ค โฮริงูจิ ได้เสียชีวิตไปแล้ว!!
ข่าวการเสียชีวิตของชาร์ค โฮริงูจิ กลายเป็นข่าวใหญ่ทันที เก็งกิ ไม่เชื่อว่าพ่อเขาจะจากไป จนเจ้าของค่ายรวบรวมความกล้าเพื่อบอกความจริง และบอกว่าจากนี้เก็งจะต้องอยู่ด้วยจิตใจที่เข้มแข็งและอย่ายอมแพ้
เวลาเดียวกัน เซย์กิ เคนจิ ชายผู้จบชีวิตของชาร์ค ก็ได้มาแสดงความเสียใจหลังจากไปเยาะเย้ยใส่เก็งกิและชาร์ค แต่เก็งกิก็ให้อภัยและขอให้เซย์กิสานฝันของพ่อด้วยการเป็นแชมป์โลก ซึ่งเซย์กิก็ให้คำมั่นสัญญา
เมื่อถึงงานศพซึ่งเต็ปด้วยคนในวงการมาไว้อาลัย วันเดียวกันนั่นเอง ตากับยายของเก็งกิก็ได้มาร่วมงานเพราะว่าวันนี้จะเป็นวันที่ทั้งสองจะได้อยู่กับหลานชายแบบพร้อมหน้าพร้อมตา แต่เก็งกิกลับวิ่งหนีออกจากงานไปจนทุกคนตามตัวกันให้วุ่นวาย ท้ายที่สุดทุกคนก็เจอเก็งกิที่กำลังหลับอยู่ที่ม้านั่งตัวเดียวกับที่เขานั่งกับพ่อ ท้ายที่สุดตากับยายจึงยอมให้เก็งกิใช้นามสกุลพ่อได้ แต่ทั้งสองจะเลี้ยงดูเก็งกิเอง เพราะที่ผ่านมาเก็งกิก็ลำบากมามากพอแล้ว…..
เวลาผ่านไป 5 ปี เก็งกิที่ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีจากตากับยาย ทำให้เขาได้เรียนหนังสือจนเข้าชั้นประถม ที่โรงเรียนเขากลายเป็นคนที่ป็อบปูลาร์ โดยเฉพาะในหมู่เพื่อนสาว แน่นอนว่าทำให้หลายคนหมั่นไส้เด็กหนุ่มเจ้าสำอาง จึงมีบางกลุ่มเรียกรุ่นพี่ไปสั่งสอน ซึ่งเก็งกิพยายามที่จะหลีกเลี่ยงไม่ก่อวิวาท เพราะนั่นทำให้ตากับยายรู้เรื่องเข้ารวมถึงเรื่องที่เขาแอบไปฝึกชกมวย แต่เมื่อกลุ่มรุ่นพี่เจอของสำคัญอย่างนวมชกมวยเลยเอามาเหยียบย่ำ จนเก็งกิโมโหก่อนจะซัดเหล่ารุ่นพี่ล้มลง จน อาชิคาวะ ยูโกะ ครูประจำชั้นเข้ามาเห็นพอดี เก็งกิเลยหนีไปภูเขาใกล้เมือง โดยที่ไม่รู้ว่าเด็กที่ถูกทำร้ายได้ไปฟ้องพ่อแม่ แล้วพวกเขาก็ไปฟ้องที่บ้านตากับยายอีกที ซึ่งทั้งสองไม่เชื่อว่าเก็งกิจะเป็นฝ่ายลงมือก่อน
ครูอาชิคาวะ ได้มาเจอกับเก็งกิเข้าแทนที่จะไปต่อว่าก็อยากฟังเรื่องราวของเก็งกิจนเข้าใจความรู้สึกเก็งกิเป็นอย่างดี ก่อนที่จะอาสาไปส่งที่บ้าน แต่เก็งกิกลัวว่าถ้ากลับไปคุณตาคุณยายต้องโกรธแน่ๆ ก็เลยให้เขาไปพักที่บ้านพร้อมสัญญาว่า เก็งกิจะต้องบอกความจริงกับตายายและไปขอโทษพวกรุ่นพี่ในวันพรุ่งนี้
การมาของ ครูอิชิคาวะ จึงเปรียบเสมือนกำลังใจของเก็งกิและไม่ได้คิดเลยว่า จะกลายเป็นคนสำคัญอีกคนที่เข้ามาในชีวิตของเก็งกิในเวลาต่อมา
วันรุ่งเช้าเก็งกิกลับไปที่บ้าน ก่อนจะบอกความจริงที่เกิดขึ้นแต่ก็ให้สัญญาว่าจะฝึกมวยโดยไม่ไปก่อวิวาทกับใครอีก แต่ตากับยายก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้แม้จะให้อภัยก็ตาม หลังจากนั้นก็ไปขอโทษรุ่นพี่ที่มีเรื่องจนมาถึงโรงยิมของชมรมมวย เก็งกิ ก็ได้พบกับ ฮิยามะ ทาเครุ เมื่อทั้งคู่ได้พบกัน ฮิยามะแสดงความเป็นศัตรูที่ชัดเจนต่อเก็งกิ ทั้งการเป็นลูกคนรวยที่มองการชกมวยเป็นเรื่องเล่นหรือพ่อเป็นนักมวยที่หันหลังวงการแล้วกลับมาชก เพียงเพราะความภูมิใจบั้นปลาย ทั้งหมดที่กล่าวมาทำให้เก็งกิโกรธทันที ฮิยามะจึงท้าเขาให้ขึ้นชกพิสูจน์ฝีมือ ซึ่งเก็งกิไม่สามารถชกโดนฮิยามะเพียงหมัดเดียวจนพ่ายแพ้ไป ทำให้เขาได้รู้ว่าทางมวยของเขาช่างแตกต่างอย่างสิ้นเชิง
จากความพ่ายแพ้ครั้งนั้นทำให้เก็งกิสูญเสียความั่นใจ ครูอิชิยามะจึงพาเก็งกิไปทำความรู้จักกับ มิชิมะ เอย์จิ ผู้เคยสู้กับ เซย์กิ เคนจิ จนพ่ายแพ้ เพื่อขอให้เขาสอนชกมวยให้เก็งกิ แต่ทว่าวันนี้เขาได้แต่จมปลักในขวดเหล้าไม่พูดไม่จากับใคร
วันเวลาผ่านไปเก็งกิก็ได้เจอมิชิมะหลายครั้ง แต่วันนี้พวกแก็งค์นักเลงเข้ามาบุกถึงค่ายหลังจากที่ ยามาทานิ นักชกในค่ายมวยที่มิชิมะมานั่งประจำ ไปช่วยเก็งกิและครูอิชิคาวะไว้คราวก่อน พวกมันเลยมาเอาคืน ซึ่งมิชิมะก็พยายามเกลี้ยกล่อมแต่ก็ถูกรับมือรับเท้าไปเต็มๆ จนเมื่อถึงจุดเดือดสุด เขาจึงซัดแก็งค์นักเลงจนสิ้นลายพร้อมเผยความจริงว่าหลังจากแพ้เซย์กิ เขาจึงไปเป็นยากูซ่า แต่นั้นก็ทำให้เขาได้เล่นงานแบบสาแก่ใจก่อนที่เขาจะไปมอบตัวในเวลาต่อมา แต่เขาให้สัญญาว่า ถ้าเขาพ้นโทษเมื่อไรก็จะฝึกเก็งกิในเรื่องชกมวยให้อย่างแน่นอน
เวลาผ่านไปไวเหมือนตัดแปะ เก็งกิก็ได้เข้าเรียนมัธยมต้นจนถึงชั้น ม.3 อาจารย์ให้ทุกคนเลือกว่าจะศึกษาต่อในระดับม.ปลายหรือจะเริ่มทำงาน ซึ่งเก็งกิเลือกที่จะชกมวยหลังเรียนจบ ม.ต้น ซึ่งมีคนหนึ่งที่สนใจในตัวเก็งกิก็คือ อิชิดะ โทโมโกะ เธออยู่ห้องเรียนเดียวกับเขา และเป็นคนมีความฝันเหมือนกับเก็งกิ
หลังจากเลิกเรียน เก็งกิ รีบไปยังสถานีรถไฟเหมือนเช่นทุกวัน เพราะวันนี้ มิชิมะ ที่พ้นโทษเรียบร้อยจะกลับมาช่วยฝึกเขาอย่างเต็มตัว ซึ่งมิชิมะก็ดีใจที่ยังได้เจอเขาอีกครั้งเช่นกัน
เมื่อเวลาผ่านไปชีวิตของเขาจึงวนเวียนอยู่กับการเรียนและการฝึกชกมวยกับมิชิมะ แต่ทว่าเก็งกิก็ได้พบความจริงบางอย่างนั่นก็คือ มิชิมะมีอาการไอเป็นเลือดซึ่งเป็นผลมาจากสุขภาพที่ย่ำแย่เมื่อตอนอยู่ในคุก บวกกับการดื่มเหล้าเป็นประจำ จนทำให้เขาต้องหามส่งโรงพยาบาล แต่ถึงจะต้องรักษาตัวเก็งกิก็ยังคงฝึกซ้อมกับมิชิมะจนหมอและพยาบาลเป็นห่วง เพราะอาการที่หนักขึ้นเรื่อยๆ
วันหนึ่งมิชิมะออกจากโรงพยาบาล เก็งกิดีใจที่จะได้ซ้อมชกกับมิยามะเต็มตัว ซึ่งหมอรู้ดีว่าหลังจากนี้มิชิมะก็คงมีชีวิตอยู่ไม่นาน เมื่อมาถึงค่ายมวย ทั้งคู่ก็ได้ลงซ้อมอย่างเต็มที่ ก่อนที่มิชิมะจะโผกอดเก็งกิ ก่อนสิ้นลมหายใจในที่สุด เป็นอีกครั้งที่เก็งกิต้องเสียคนสำคัญของเขาไปอีกคน
เมื่อเข้าช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อครั้งสำคัญ หลังจากสอบเข้าม.ปลาย คุณตากับคุณยายของเก็งกิก็ได้พูดคุยกันก่อนจะตัดสินใจให้เก็งกิไปชกมวยอย่างเต็มตัว ซึ่งเก็งกิรู้อยู่ว่าทั้งคู่ได้เตรียมตัวเตรียมใจไว้ ก่อนที่เก็งกิจะเก็บข้าวของและออกเดินทางตามความตั้งใจที่ตั้งไว้ว่าจะเป็นแชมป์โลกเพื่อพ่อ ถ้าไม่สำเร็จก็จะไม่กลับไปหาตากับยายอีกเลย
**เรื่องเล่าต่อจากนี้จะเล่าเรื่องในส่วนของเก็งกิเป็นหลัก**
หลังจากที่เก็งกิเดินทางมายังโตเกียว ก็ตัดสินใจเริ่มต้นด้วยการเช่าห้องพักที่เคยอยู่เมื่อครั้งยังเด็ก ก่อนจะไปสมัครที่ ค่ายมวยนางาโนะ ครั้งหนึ่งค่ายมวยแห่งนี้คือค่ายที่พ่อของเขาเคยมาฝึกซ้อม แต่เวลาเปลี่ยนไปค่ายมวยเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ ที่นี่เขาได้เจอกับ โนโบรุ เพื่อนสมัยเด็กซึ่งฝึกซ้อมที่นี่เช่นกัน
เก็งกิฝึกซ้อมโดยไม่ให้เทรนเนอร์คนอื่นมาช่วย ก่อนที่จะสามารถผ่านการสอบชกโปรเทสต์ด้วยหมัดน็อค เพียงหมัดเดียว วันต่อมาเขาได้รับการติดต่อให้ไปเป็นคู่ซ้อม โดยมี สึยูกิ เทรนเนอร์จอมโหดไปเป็นเพื่อนก่อนจะเฉลยว่าคู่ซ้อมที่เก็งกิต้องเจอคือ ฮิยามะ ทาเครุ คู่ปรับสมัยเด็กนั่นเอง
ฮิยามะ ที่ตอนนี้กลายเป็นความหวังของวงการมวยสมัครเล่นหลังจากคว้าชัยในระดับมัธยมปลาย เมื่อพวกเขามาถึง ทั้งคู่ก็ได้เจอกันอีกครั้ง ก่อนที่ฮิยามะ จะขอให้ชกแบบอาชีพ ซึ่งทางโรงเรียนก็อนุญาต ผลการชกในครั้งนั้นเก็งกิก็ได้รับรู้ความจริงว่า สิ่งที่ฝึกมาสองปีไม่สามารถล้มฮิยามะได้เด็ดขาด แต่ก็สามารถยิงหมัดขวาใส่จนล้มลง ทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจทันที ก่อนจะประกาศหันหลังเป้าหมายโอลิมปิคเพื่อเข้าสู่ชกอาชีพและท้าให้เก็งกิมาสู้กัน
หลายวันผ่านไปเก็งกิก็ได้ข่าวว่าเขาจะได้ขึ้นชกไฟต์แรกเช่นเดียวกับโนโบรุ แต่ก่อนหน้านั้นเก็งกิก็ถูกเจ้าของค่ายรุ่นที่สองตำหนิที่เขายังดื้อดึงไม่ยอมมีเทรนเนอร์ ซึ่งเขากลัวว่าจะเกิดเหตุเหมือนพ่อกับมิชิมะ ทำให้เก็งกิท้านักชกทุกคนในค่ายพิสูจน์ว่าเขาฝึกคนเดียวก็ชนะได้ ก่อนจะไล่อัดนักชกและไม่เข้าค่ายหลายวัน จนครูอาชิคาวะที่ย้ายมาอยู่โตเกียวได้รู้เรื่องนี้ ก่อนจะไปขอโทษเจ้าของค่ายเพราะความเอาแต่ใจของตนเอง แล้วตอนนั้น สึยูกิ ก็ขอประธานว่าจะขอฝึกมวยให้เก็งกิด้วยเอง จนเจ้าของอนุญาตแม้จะไม่พอใจก็ตาม เพราะเขาเข้าใจถึงความรู้สึกการสูญเสียคนที่รักไปเป็นอย่างดี ตั้งแต่นั้นมาสียูกิจึงฝึกเก็งกิแบบไม่ผ่อนปรน แต่เก็งกิก็ยอมรับในการฝึกของเขา
เก็งกิขึ้นชกครั้งแรกกับผู้ท้าชิงที่ชื่อ สึคาโมโตะ ทาเคชิ ก่อนจะเอาชนะเพียงยกแรกแบบหวุดหวิด ยามาทานิ เพื่อนสนิทของเก็งกิก็ส่งข่าวไปยังตากับยาย แม้ทั้งสองโล่งใจแต่ก็อดเป็นห่วงหลานชายไม่น้อยเช่นกัน
เก็งกิได้เข้าร่วมศึกนักชกหน้าใหม่ โดยรอบแรกเอาชนะชนิดเลือดตกยางออก หลังการชกก็ได้ข่าวจากตายายว่าคุณตาไม่สบาย จึงทำให้เก็งกิแวะกลับมาเยี่ยมแต่ถูกปฏิเสธจากพ่อบ้าน เก็งกิจึงทำได้เพียงแค่ฝากความคิดถึง
เมื่อมาถึงรอบรองชนะเลิศเขาต้องเจอกับ โนโบรุ นักชกร่วมค่าย ซึ่งฝ่ายหลังถูกคาดหวังจากกองเชียร์ในย่านชุมชนที่เขาอาศัยอยู่ แต่เจ้าของค่ายให้เขาถอนตัวเพื่อหลีกทางให้เก็งกิเข้ารอบ แต่โนโบรุสัญญาว่าจะต้องได้เจอสักวันหนึ่ง
ทำให้รอบชิงชนะเลิศในศึกนักชกหน้าใหม่ต้องเจอกับคู่ปรับคนสำคัญอย่าง ฮิยามะ ทาเครุ ก่อนหน้านี้เก็งทราบจากสึยูกิว่า ฮิยามะมีอาการบาดเจ็บที่ดวงตาและมีสิทธิ์ตาบอดแน่นอน ทำให้เขาต้องไปเตือนคู่ปรับ แต่อีกฝ่ายก็ยังคงยืนกรานว่าจะชก ทำให้การชกครั้งนี้เก็งกิเหมือนโดนอะไรกระตุ้นในจิตใจรวมถึงความทรงจำในวัยเด็ก ทำให้เขาสวมบทเพชฌฆาต ไล่ยำฮิยามะหมดสภาพในยกที่หก กลายเป็นแชมป์นักชกหน้าใหม่สายตะวันออกทันที
ในศึกนักชกหน้าใหม่ระดับประเทศ เขาได้เจอคู่ชกคนสำคัญอย่าง ไคโด ซึงุรุ อัจฉริยะและเป็นเจ้าแชมป์นักชกหน้าใหม่ทางฝั่งตะวันตก ซึ่งผลการชกเก็งกิใช้หมัดอัปเปอร์สเตรทในยกแรก ชนิดที่อีกฝ่ายคาดไม่ถึงทำให้เขาพ่ายแพ้อย่างอับอายและรอวันล้างแค้น
หลังจากนั้นชื่อเสียงของเขาเป็นที่รู้จักมากขึ้น บวกกับเรื่องราวในอดีตทำให้เขากลายเป็นที่จับตามองในวงการทันที เก็งกิได้ประกาศในงานเลี้ยงฉลองที่ค่ายว่าเขาจะขอชกชิงตำแหน่งหรือชกกับระดับโลก เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายในการเจอกับแชม์โลกอย่าง เซย์กิ เคนจิ
สึยูกิ เทรนเนอร์ของเก็งกิเห็นแววในตัวเขาจึงบอกให้เจ้าของค่ายหาคู่ชกเก่งๆ โดยหลังจากที่เก็งกิชนะน็อค ถึง 3 ครั้ง เขาก็ได้เจอบททดสอบด่านแรกนั่นคือ โทนี่ โกสโทโร่ รองแชมป์ภาคพื้นแปซิฟิกที่มาชกในญี่ปุ่น โดยเอาชนะไปแบบเลือดตาแทบกระเด็น
หลังจากนั้นไฟต์ต่อมาต้องมาเจอกับ โจนี่ แกรนเดส รองแชมป์โลกอันดับ 7 ซึ่งการชกในครั้งนั้น เซย์กิ เคนจิ ได้มาเป็นผู้บรรยายรับเชิญ ก่อนการชก เซย์กิ ได้ท้าเก็งกิด้วยการล้มรองแชมป์โลก ภายในยกสามด้วยเวลา 30 วินาที (แบบนี้ก็ได้หรือ!?)
ฝั่งคู่ชกได้ยินก็เดือดจัดทันที สองยกแรกรองแชมป์โลกว์ฝีมือให้เก็งกิได้เห็น จนยกที่สามเก็งกิหาจังหวะก่อนจะวัดคู่ต่อสู้น็อคเอ้าท์ไปในยกที่สาม เวลา 33 วินาที ตามมาด้วยการสยบอันดับ 6 ของโลกอย่าง รูดี้ คามาลอุส ไปปในยกที่ห้า เวลา 1 นาที 25 วินาที
ไฟต์ต่อมาเขาได้เจอกับ โนโบรุ ที่ตอนนี้เขาเป็นถึงแชมป์ระดับประเทศ การชกครั้งนี้จึงเป็นศึกเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด แถมเก็งกิก็ประกาศจะชนะน็อคเพียงยกแรก ในเวลา 1 นาที 30 วินาที ผลการชกจบลงที่โนโบรุยืนหยัดจนกรรมการยุติการชกไปในยกที่สอง หลังการชกโนโบรุจึงสละตำแหน่งแชมป์พร้อมกับประกาศแขวนนวม แล้วกลับมาเป็นเพื่อกับเก็งกิเช่นเดิม
หลังจากชนะในระดับประเทศและแปซิฟิกมาแล้ว เก็งกิก็ได้รับสาสน์ท้าชิงแชมป์โลกจาก ไคโด ซึงุรุ แชมป์โลกสถาบัน WBC ที่เพิ่งไปคว้าแชมป์ในถิ่นอเมริกาใต้ (ชิงแชมป์เพื่อเลี่ยงเจอกับเซย์กิ) บัดนี้เขากลายเป็นเครื่องจักรกำปั้น ซึ่งเก็งกิตอบรับแบบไม่ลังเล แถมทางไคโดเทียบเชิญไปชกที่บ้านเกิดของตัวเองพร้อมต้อนรับขับสู้เลี้ยงดูปูเสื่อให้เป็นอย่างดี
ก่อนการชกมาถึง เก็งกิ ก็ต้องเจอเรื่องราวการสูญเสียอีกครั้งเมื่อสึยูกิ เทรนเนอร์คู่ใจจะขอวางมือจากการเป็นเทรนเนอร์ทำให้เก็งกิต้องสูญเสียคนสำคัญไปอีกคน
เมื่อวันชกมาถึงท่ามกลางผู้ชมนับหมื่นเต็มสนาม เก็งกิยังคงขึ้นชกแม้จะไร้เทรนเนอร์คู่ใจ ส่วนทางด้านไคโด วันนี้เขาไม่ใช่คนเดิมที่แพ้ให้กับเก็งกิตอนศึกนักชกหน้าใหม่ เขาคือแชมป์โลกและมีฝีมืออันร้ายกาจคนหนึ่งก็ว่าได้ เพราะทันทีที่ระฆังดังขึ้นเขาก็ถูกหมัดของแชมป์จนล้มลง จนการชกดำเนินไปถึงยกแปด ทั้งคู่ต่างแลกหมัดแบบไม่กลัวตายกันเลยทีเดียว จนมาถึงยกที่เก้า ไคโด ที่เป็นฝ่ายบุกมาตลอดแบบบ้าคลั่งมาตลอด ก็ล้มหมดสติลงจนกรรมการนับถึงสิบ (สาเหตุมาจากสมองกระทบกระเทือนจากการชกที่ผ่านมา) ทำให้เก็งกิคว้าแชมป์โลกแบบสู้ยิบตาไปในที่สุด
แล้วไฟต์สำคัญก็มาถึงและเป็นสิ่งที่เก็งกิรอคอยมายาวนาถึง 14 ปี นับตั้งแต่วันที่พ่อของเขาชาร์ค โฮริงุจิ ได้เจอกับเซย์กิ ซึ่งคำสัญญาในครั้งนี้ได้กลายเป็นความจริงขึ้นมาแล้ว ศึกครั้งนี้นอกจากจะเดิมพันแชมป์สองเส้นของแต่ละฝ่ายแล้ว นี่คือศึกที่เรียกได้ว่าเป็นศึกที่มีความหมายของทั้งคู่ โดยเฉพาะ อาชิคาวะ ครูของเก็งกิ ซึ่งเคยเข้าไปในหัวใจของ เซย์กิ เคนจิ และ โฮริงุจิ เก็งกิ โดยเฉพาะฝ่ายหลังจากความสัมพันธ์ระหว่างครูกับลูกศิษย์ที่ผ่านเรื่องราวมาด้วยกัน กลับกลายเป็นความรักที่เก็งกิได้สัญญาว่า ถ้าชนะเซย์กิได้ ก็จะขอแต่งงานเป็นคู่ชีวิตด้วยกัน
ก่อนการชก เก็งกิ ได้ส่งจดหมายไปหาคุณตากับคุณยายของเขาเพื่อบอกว่าหลังจบการชกครั้งนี้ เขาจะกลับบ้านไปหาตายายแน่นอน ซึ่งทั้งสองได้รับจดหมายก็ตื้นตันใจเพราะจากนี้จะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันเสียที
แล้วเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง สองแชมป์โลกได้เผชิญหน้ากันกลางเวที เมื่อระฆังดังขึ้นเกมการชกในสองยกแรกเก็งกิถึงกับล้มเพราะเจอพลังหมัดของเซย์กิ ที่ได้รับการขัดเกลาตอนเก็บตัวในป่า การชกครั้งนี้เขากลายเป็นสัตว์ร้ายในครั้งนี้ ทั้งคู่แลกหมัดแบบไม่กลัวตายกันเลยทีเดียว แล้วศึกครั้งนี้คือศึกที่ทั้งสองคนรอคอยมานาน มีหรือที่จะยอมอ่อนข้อให้ง่ายๆ แต่สำหรับเก็งกิเขาจะต้องชนะศึกครั้งนี้ให้ได้
ในที่สุดอวสานการชกมาถึงเมื่อเก็งกิใช้หมัดอัปปเปอร์สเตรทเข้าปลายคางเซย์กิถึงสองครั้ง ทำให้กรรมการยุติการชกในยกที่สิบสอง เก็งกิคว้าแชมป์สองเส้นมาครองได้สำเร็จ!!
หลังการชก เก็งกิ พยุงตัวอดีตแชมป์โลกไปยังห้องพัก พร้อมเสียงปรบมือกึกก้องไปทั่วสนาม ในเวลาต่อมา เซย์กิก็ประกาศแขวนนวมอย่างเป็นทางการ ส่วนเก็งกิก็ตัดสินใจเดินทางกลับบ้านทันทีพร้อมประกาศแขวนนวม ส่วนอาชิคาวะส่งจดหมายไปหาเก็งกิ เพื่อบอกว่าจะย้ายไปต่างประเทศและจะรอเจอเขาในวันที่มีรอยยิ้มอีกครั้ง
ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมาจบแล้ว ตอนนี้เก็งกิกำลังจะกลับบ้านซึ่งตากับยายรอเขาอยู่ที่บ้านด้วยความดีใจเพราะจากนี้ โฮริงุจิ เก็งจิ จะเป็น ทานุมะ เก็งกิ !!
ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของ เก็งกิ ยอดนักสู้ เรื่องราวสุดเข้มข้นของเด็กชายที่ต้องสูญเสียพ่อไป ก่อนจะทุ่มเททั้งชีวิตและจิตใจ แม้จะมีอุปสรรคเข้ามา แต่เพื่อเป้าหมายของพ่อเขาก็จะสู้แบบไม่ท้อถอยเพื่อมุ่งสู่ตำแหน่งแชมป์โลก
ถ้าขาดตกบกพร่อง หรือแฟนการ์ตูนที่เคยอ่านมีข้อมูลเสริมน่าสนใจแชร์เข้ามาได้เลยครับ
@P.PETTY
เพลงประกอบการ์ตูนเก็งกิ ยอดนักสู้ ฉบับภาษาไทย
เพลงประกอบ OP/ED ต้นฉบับ
ข้อมูลอ้างอิง
- https://en.wikipedia.org/wiki/Ganbare_Genki
- https://it.wikipedia.org/wiki/Forza_Sugar
- http://oknation.nationtv.tv/blog/collectorsman/2013/08/23/entry-1
- http://oakyman.com/blog/ganbare-genki/
- http://www.toei-anim.co.jp/lineup/tv/genki/
- http://www.superhui.com/music/kidcartoon/5-8-genki.html
- https://www.youtube.com/watch?v=XgpBTiE3X2s
-
BEYBLADE X : 10 ตัวน่าซื้อ ของมันต้องมีในปี 2024
#beybladex #kctoysbeybladex #beybladexthailand
-
KARATE KID: LEGENDS [เรื่องย่อ / ตัวอย่าง / หนังใหม่ /2025]
#KarateKidMovie #KarateKi #เฉินหลง #JackieChan
-
20 ตัวละครจากเกมยอดนิยมที่ถูกค้นหามากที่สุดในเวปไซต์สำหรับผู้ใหญ่ 2024
#Ranking #website #Games #PC #Console