Full Metal Panic! (เนื้อเรื่อง/ตัวละคร/ภาคใหม่)

ชื่อเรื่อง : Full Metal Panic!
ชื่ออื่นๆ : フルメタル・パニック！, FMP! , ฟูล เมทัล พานิก!
ประเภท : Comedy , Drama , Action , Sci-fi , Mecha , Military

เรื่องนี้คือ?

Full Metal Panic! เป็นผลงานไลท์โนเวล โดย Shoji Gatoh (Amagi Brilliant Park) ภาพประกอบโดย Shikidouji โดยจุดเด่นคือการผสมผสานกันอย่างลงตัว ระหว่างเรื่องราวเฮฮาในรั้วโรงเรียน กับ แนวสงครามหุ่นยนต์จริงจัง ภายใต้ฉากหลังที่เป็นยุคสมัยที่สงครามเย็นยังไม่ยุติ มีการก่อการร้ายและสงครามอยู่ทั่วทุกมุมโลก เทคโนโลยีในทางสงครามก้าวหน้าอย่างมาก ตัวนิยายเริ่มตีพิมพ์เมื่อ เดือนกันยายน ปี 1998 จบเดือนสิงหาคม ปี 2010 รวมทั้งหมด 12 เล่ม นอกจากนิยายซีรีย์หลักแล้ว ยังมีนิยายเล่มที่เป็น Side Story แยกย่อยที่เจาะเรื่องราวของตัวละครต่างๆ และนิยายภาคต่อ Spin-off อย่าง Full Metal Panic! Another รวมไปถึงการได้รับการดัดแปลงเป็นมังงะหลากหลายเวอร์ชั่น และ อนิเมะ (ในแบบอนิเมะอาจมีการเปลี่ยนแปลงชื่อประเทศบางประเทศเพื่อเลี่ยงปัญหา เช่น อัฟกานิสถาน เป็น เฮอมาจิสถาน)

ซึ่งในบทความนี้จะมาพูดถึงตัวอนิเมะจากซีรีย์หลัก โดยอนิเมะที่ถูกสร้างออกมานั้นมีดังนี้

 

 

Full Metal Panic!

ชื่อเรื่อง : Full Metal Panic!
ชื่ออื่นๆ : フルメタル・パニック！, FMP! , ฟูล เมทัล พานิก!
ประเภท : Comedy , Drama , Action , Sci-fi , Mecha , Military
จำนวนตอน : 24 ตอน , ตัดต่อเป็นมูฟวี่ 3 ภาค ในปี 2017
ออกอากาศครั้งแรก : 8 มกราคม 2002 – 18 มิถุนายน 2002
กำกับโดย : Koichi Chigira
สตูดิโอ : Gonzo

ซางะระ โซสึเกะ สมาชิกหน่วยรบพิเศษขององกรณ์ทหารอิสระ Mithril ภายใต้การบังคับบัญชาจากเรือดำน้ำ Tuatha de Danaan ได้รับภารกิจให้มาแฝงตัวเพื่อปกป้องเด็กสาว ม.ปลาย ที่ชื่อ จิโดริ คานาเมะ ซึ่งได้รับการต้องสงสัยว่าจะเป็นผู้ที่เป็น Whispered ผู้ที่มีความรู้ของ Black Technology อยู่ในหัว เพื่อการนี้แล้ว โซสึเกะ จึงปลอมตัวเข้ามาเรียนในโรงเรียนมัธยมปลายจินได แต่ด้วยความที่โซสึเกะถูกฝึกให้สู้รบมาตั้งแต่เด็ก ทำให้ความสามารถในการอยู่ในสังคมต่ำ และระแวงสิ่งรอบตัวตลอดเวลา จนสร้างความวุ่นวายให้แก่คนรอบข้างอยู่เสมอ จนกลายเป็นเรื่องราวชีวิตประจำวันวุ่นภายในรั้วโรงเรียน แต่กระนั้นทุกคนก็มองโซสึเกะเป็นเพียงไอ้บ้าโอตาคุทหารเท่านั้น

 

โรงเรียนจินไดได้จัดทัศนศึกษาไปโอกินาว่าโดยเดินทางทางเครื่องบิน ผู้ก่อการร้ายชื่อ เกาลูน ได้นำกำลังเข้าปล้นเครื่องบินและลงจอดบริเวณรัฐอิสระคานกะ ในสหภาพโซเวียต และ จับตัว คานะเมะ ไปทดสอบเพื่อยืนยันสถานะความเป็น Whispered โซสึเกะได้ติดต่อขอความช่วยเหลือไปยัง Mithrill พร้อมทั้งได้เข้าช่วยเหลือคานาเมะออกมา 

แต่ระหว่างการหลบหนีโซสึเกะซึ่งขโมยหุ่นยนต์ Arm Slave รุ่น Rk-92 Savage ออกมา 1 ตัว ได้เข้าปะทะกับเกาลูนซึ่งขับหุ่น Plan-1056 Codarl (หรือโค้ดเนมที่ Mithrill ใช้เรียกคือ Venom) ซึ่งความจริงแล้ว เกาลูน กับ โซสึเกะ และ อังเดรย์ คาลินิน ผู้บังคับบัญชาของโซสึเกะ เคยเป็นศัตรูกันมาก่อนเมื่อตอนอยู่ตะวันออกกลาง ในจังหวะที่โซสึเกะกำลังเพรี่ยงพร่ำ กองกำลังของ Mithrill ก็ได้มาถึง โดยทำการเข้าช่วยเหลือผู้บริสุทธิ์คนอื่นๆ ครูซ เวเบอร์ หนึ่งในสมาชิกของ Mithrill ที่เข้าร่วมภารกิจได้เข้าช่วยเหลือพวกโซสึเกะ เข้าต่อสู้กับเกาลูน แต่ก็โดนพลังปริศนาจากหุ่นของเกาลูนจน M9 Gernsback หุ่นของเขาเสียหาย 

 

ฝ่ายโซสึเกะกับคานะเมะ ซึ่งไปไม่ทันเครื่องบินช่วยเหลือนั้น ได้หลบเข้าไปซ่อนในป่าจนไปพบกับครูซที่หลบหนีมาเช่นกัน ทั้งสามคิดแผนขอความช่วยเหลือ จนสุดท้ายคือจุดไฟส่งสัญญาณให้ดาวเทียมตรวจการณ์พบ แต่การกระทำนี้ทำให้ศัตรูรู้ตัวและเข้าปิดล้อมป่าที่ทั้งสามซ่อนตัวอยู่ แต่แล้วทาง Mithrill ก็ได้ส่ง Arm Slave ที่เป็นอาวุธลับมาทางพวกโซสึเกะนั่นคือ ARX-7 Arbalest พร้อมแผนหลบหนีมาด้วยโซสึเกะขึ้นขับหุ่นนั้น ฝ่าวงล้อมศัตรู จนเข้าปะทะกับเกาลูนอีกครั้ง โซสึเกะเสียเปรียบพลังลึกลับของเกาลูนเป็นอย่างมาก แต่แล้วพลัง Whispered ของคานะเมะก็บอกวิธีใช้งานระบบ Lambda Driver แก่โซสึเกะ จนเอาชนะเกาลูนได้ และพาคนอื่นๆขึ้นเรือดานังที่จะมารับที่ชายฝั่งเพื่อหลบหนีได้สำเร็จ

 

คุกายะมะ ทาคุมะ ซึ่งถูกจับได้ที่สนามบินนาริตะ และถูกต้องสงสัยว่าจะมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ก่อการร้าย A-21 จากการตรวจพบสารกระตุ้นที่ใช้เพื่อการควบคุมระบบ Lambda Driver เขาถูกนำตัวมาควบคุมไว้ที่สถาบันวิจัยแห่งหนึ่ง อังเดรย์ คาลินิน และ เทเลซ่า เทสทารอสซ่า กัปตันเรือดำน้ำ Tuatha de Danaan และผู้ที่เป็น Whispered ได้รับข่าวเกี่ยวกับเขาและเข้าไปเฝ้าสังเกตการณ์ แต่ขณะนั้น กลุ่มก่อการร้าย A-21 นำโดยเซนะ เข้าโจมตี เพื่อชิงตัวทาคุมะ คาลินินเข้าปกป้องเทซซ่าจนได้รับบาดเจ็บและถูกกลุ่ม A-21 จับตัวไป เทซซ่าพาทาคุมะหนีไปยังห้องพักของโซซึเกะ ในระหว่างที่เทซซ่ามาหลบอยู่ที่ห้องพักของโซซึเกะ คานะเมะได้มาเยี่ยม ทำให้คานะเมะก็เข้ามาพัวพันกับเหตุการณ์นี้ หลังจากทำลายเครื่องส่งสัญญาณที่ฝังในตัวทาคุมะได้ ทั้ง 4 ได้ย้ายไปหลบที่โรงเรียนจินได แต่กลุ่ม A-21 ก็สามารถรู้ถึงที่ซ่อนได้ และจับคานะเมะและเทซซ่าเป็นตัวประกันเพื่อแลกกับทาคุมะ

 

การแลกตัวประกันเป็นไปอย่างไม่ราบรื่น คานะเมะและเทซซ่าโดนจับกลับไปพร้อมทาคุมะ และใช้เป็นเครื่องต่อรองในการเค้นข้อมูลจากคาลินิน ฝ่ายโซซึเกะ ที่ได้ ครูซ เวเบอร์ และ เมลิซซ่า เหมา มาเป็นกำลังเสริม ได้ออกตามหาที่กบดานของ A-21 คาลินินสามารถจัดการคนที่มาเค้นข้อมูลลงได้ และพาคานะเมะและเทซซ่าหนีมาได้ แต่ก่อนอื่นทั้ง 3 ได้เข้าไปตรวจสอบสิ่งที่ A-21 ซ่อนไว้ นั่นคือ Plan-1051 Behemoth ซึ่งเป็น Arm Slave ขนาดใหญ่ แต่ว่าก็โดนกลุ่ม A-21 มาดักรอไว้ ทว่า โซซึเกะ และ ครูซ ก็เข้ามาช่วยไว้ทัน พวกโซซึเกะ ขับรถหลบหนีออกมา แต่ก็ถูก Behemoth ซึ่งขับโดยทาคุมะไล่ตามอย่างไม่ลดละ ฝ่ายคาลินินก็เข้าไปเจรจากับเซนะแต่เธอก็โดนลูกหลงจากการอาละวาดของ Behemoth จนถึงแก่ความตาย ทางเรือดำน้ำ Tuatha de Danaan ได้ส่ง Arbalest มาเพื่อให้โซซึเกะใช้ต่อสู้กับ Behemoth คานะเมะ และ เทซซ่า ได้ใช้พลังของ Whispered ในการบอกจุดอ่อนของ Behemoth ให้โซซึเกะ จนสามารถจัดการ Behemoth ลงได้ในที่สุด และช่วยทาคุมะออกมา ทาคุมะที่ทนพิษบาดแผลและภาระจากการขับ Behemoth ไม่ไหว ได้ตายลงอย่างสงบในที่สุด

 

โซซึเกะได้รับแจ้งว่า เกาลูนยังไม่ตาย และอยู่ที่เฮอมาจิสถาน จึงได้ถูกส่งตัวไปทำภารกิจร่วมกับกองกำลังสาขามหาสมุทรอินเดีย แต่ทีมที่โซซึเกะมาร่วมด้วยไม่เชื่อคำแนะนำของโซซึเกะเพราะความที่โซซึเกะนั้นอายุน้อย ในภารกิจลอบโจมตีกองคาราวานขนส่ง พวกเกาลูนสามารถเอาชนะได้อย่างง่ายได้ แต่พวกโซซึเกะก็หนีมาได้พร้อมหัวรบนิวเคลียร์ที่พวกเกาลูนขนมา ลงไปซ่อนที่ใต้ผา และเดินทางไปยังแหล่งกบดานเก่า แต่ว่าเพื่อนเก่าของโซซึเกะ ซาอี๊ด ทำงานอยู่กับเกาลูนนั้นรู้ที่ซ่อนแห่งนี้ และวางแผนโต้กลับได้อย่างทะลุปรุโปร่ง พวกเกาลูนบุกโจมตีที่ซ่อน และโจมตีอย่างหนักหน่วง โซซึเกะได้ปะทะกับซาอี๊ด ซึ่งขับ Zy-98 Shadow

 

โซซึเกะจัดการซาอี๊ดลงได้ แต่เกาลูนก็จัดการทีมที่เหลือได้เช่นกัน โซซึเกะเข้าปะทะกับเกาลูนอีกครั้ง พลัง Lambda Driver ปะทะกันอย่างรุนแรง เกาลูนหนีไปได้ โซซึเกะสามารถนำหัวรบนิเคลียร์กลับไปได้ในที่สุด

 

คานะเมะได้รับเชิญให้เข้าเยี่ยมชมฐานของ Mithril และเรือดำน้า Tuatha de Danaan เธอได้เรียนรู้สิ่งต่างๆมากมาย รวมถึงเรื่อง Whispered อีกด้วย แต่ขณะเดียวกันเรือดานังได้รับข่าวการโจมตีเกาะเบลริลดอบของผู้ก่อการร้ายที่นำโดยเกาลูน จึงได้เตรียมการออกรบ หน่วยรบเข้าปะทะกับผู้ก่อการร้ายจนได้พบกับเกาลูนซึงขับ Plan-1058 Codarl-i เข้าจู่โจมอย่างหนักหน่วง

 

โซซึเกะที่ฝังใจจากการต่อสู้ที่เฮอมาจิสถาน ทำให้ไม่สามารถใช้งาน Lambda Driver ได้ดังใจ จนเหมาพลาดท่าโดนโจมตี ครูซให้โซซึเกะล่อเกาลูนมายังจุดที่จะใช้ตึกถล่มมาทับ เกาลูนยอมมอบตัวอย่างง่ายดาย และโดนควบคุมตัวไปยังเรือดานัง แต่คนบนเรือดานังมีคนที่คิดแปรพักตร์อยู่ ได้เข้าช่วยเหลือเกาลูน และเข้าปล้นเรือดานัง เกาลูนวางแผนจะใช้เรือดานังโจมตีเรือของสหรัฐ เพื่อดิสเครดิต Mithril เทซซ่าใช้พลังคุยกับคานะเมะให้ไปเอากุญแจเพื่อเข้าควบคุมเรือดานังจากห้องคอมพิวเตอร์หลัก แต่ก็ถูกคนของเกาลูนไล่ตาม โซซึเกะ และ ครูซ ตามมาช่วยได้ทัน คานะเมะและโซซึเกะไปที่ห้องคอมพิวเตอร์หลักได้สำเร็จ คานะเมะเชื่อมต่อกับระบบหลักของเรือดานัง และ เทซซ่า ด้วยพลัง Whispered จนยึดคืนเรือดานังมาได้ ด้านครูซต่อสู้กับคนของเกาลูน โดยมีเหมามาช่วย โซซึเกะเข้าไปช่วยเทซซ่าที่ห้องบังคับการ เกาลูนที่บาดเจ็บจากการต่อสู้กับโซซึเกะได้หนีไปทางโรงเก็บหุ่น เพื่อไปขึ้นขับ Codarl-i แต่โซซึเกะก็ตามมาขึ้นขับ Arbalest ได้ทัน และเข้าปะทะกัน

 

เกาลูนเปิดใช้ระบบระเบิดตัวเองในที่สุดเพื่อสะสางระหว่างเขาและโซซึเกะลง ขณะเดียวกันเรือดานังที่เสียหายอย่างหนักก็กำลังลอยลำขึ้น คานะเมะที่เชื่อมต่อกับเรือดานัง ได้ช่วยเหลือโซซึเกะในการต่อสู้ พาทั้งเกาลูนและโซซึเกะไปยังดาดฟ้าเรือที่ถูกเปิดออก โซซึเกะกระเสือกกระสนลากตัวหุ่นทั้งสองตัวที่ติดกันไปยังจุดส่งตัว และเมื่อทั้งสองถูกส่งตัวออกไป เสี้ยววินาทีที่ระเบิดกำลังจะระเบิดนั้น โซซึเกะก็ใช้สายสลิงยึดกับเรือเอาไว้ ปล่อยให้เกาลูนโดนดีดออกไปและระเบิดเป็นจุณไปในที่สุด

 

เพลงเปิด
Tomorrow โดย Mikuni Shimokawa

 

เพลงปิด
Karenai Hana โดย Mikuni Shimokawa

 

 

 

 

 

 

Full Metal Panic? Fumoffu

ชื่อเรื่อง : Full Metal Panic? Fumoffu
ชื่ออื่นๆ : フルメタル・パニック？ふもっふ , ฟูล เมทัล พานิก? ฟุมอฟฟุ
ประเภท : Comedy , Slice of Life , Action , Military
จำนวนตอน : 12 ตอน
ออกอากาศครั้งแรก : 25 สิงหาคม 2003 – 18 พฤศจิกายน 2003
กำกับโดย : Yasuhiro Takemoto
สตูดิโอ : Kyoto Animation

 

Full Metal Panic? Fumoffu เป็นการนำเนื้อหาตลกเฮฮาในชีวิตประจำวัน ที่ถูกตัดออกจากการทำอนิเมะภาคแรกมารวมเป็นอนิเมะภาคนี้ โดยไม่เน้นเนื้อหาในด้านสงครามหนักๆ แต่ถึงอย่างนั้น อนิเมะภาคนี้ก็เป็นการเสริมเรื่องราวด้านความสัมพันธ์ระหว่าง โซซึเกะ และ คานะเมะ ได้เป็นอย่างดี

 

-ชื่อภาค ฟุมอฟฟุ มาจากเสียงร้องของบอนตะคุง มาสคอตที่ปรากฏทั่วไปภายในเรื่อง โซซึเกะนำชุดมาสคอตบอนตะคุงมาดัดแปลงเป็นชุดรบประสิทธิภาพสูง (แต่ระบบเสียงดันเสีย เลยร้องแต่ ฟุมอฟฟุ)

 

เพลงเปิด
Sore Ga Ai Deshou โดย Mikuni Shimokawa

 

เพลงปิด
Kimi ni Fuku Kaze โดย Mikuni Shimokawa

 

 

 

Full Metal Panic! The Second Raid

ชื่อเรื่อง : Full Metal Panic! The Second Raid
ชื่ออื่นๆ : フルメタル パニック！The Second Raid , ฟูล เมทัล พานิก! เดอะ เซคันท์ เรด
ประเภท : Drama , Action , Sci-fi , Mecha , Military
จำนวนตอน : 13 ตอน และ OVA 1 ตอน
ออกอากาศครั้งแรก : 13 กรกฎาคม 2005 – 19 ตุลาคม 2005
กำกับโดย : Yasuhiro Takemoto
สตูดิโอ : Kyoto Animation

 

เนื้อหาต่อจากภาคแรก 3 เดือน ผู้ก่อการร้ายที่ใช้ชื่อ เกทส์ พร้อม นักฆ่าที่ทำงานกับเขา ฝาแฝด เซี่ย หยูฟาน และ เซี่ย หยูหลัน ได้วางแผนจับ Arm Slave สีขาวของ Mithril หรือก็คือ Arbalest นั่นเอง โดยสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายในประเทศจีน จับผู้แทนจำนวนหนึ่งไว้ในอุโมงใต้แม่น้ำแยงซีเกียงซึ่งมีโครงสร้างสลับซับซ้อน และอับสัญญาณสื่อสาร เพื่อล่อกองกำลังของ Mithril ออกมาทำการช่วยตัวประกัน อีกทั้งยังติดสินบนเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของ Mithril คนนึงที่รับผิดชอบการสื่อสารในภารกิจนี้ เมื่อกองกำลังปฏิบัติการของ Mithril มาทำการช่วยเหลือตัวประกัน การสื่อสารก็ถูกดักฟัง ส่งผลให้กลุ่มผู้ก่อการร้ายสามารถรู้การกระทำทุกอย่างของกองกำลังปฏิบัติการของ Mithril ได้ทั้งหมด อีกทั้งในกลุ่มตัวประกันยังมี เซี่ย หยูหลัน ปะปนอยู่ เมื่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าช่วยเหลือไปถึงก็ถูก หยูหลัน จัดการล้มตายเป็นจำนวนมาก เมลิซซ่า เหมา เข้าต่อสู้อย่างยากลำบาก แต่ก็รอดไปได้เพราะหยูหลันถูกเรียกตัวกลับ ส่วนฝ่ายอื่นๆก็ถูกผู้ก่อการร้ายซ้อนแผนกลับ จนหัวหมุน ครูซ เข้าปะทะกับ เซี่ย หยูฟาน ซึ่งขับ Shadow โซซึเกะก็ถูกเกทส์ที่ขับ Codarl-i เข้าจู่โจมหมายเข้าจับกุม

 

สถานการณ์เหมือนลูกไก่ในกำมือ ผู้การเทซซ่าที่ประจำที่เรือดานังต้องใช้ความสามารถในการคำนวณระยะทางต่างๆภายในอุโมงค์ด้วยตนเอง ส่วนเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการทุกคน ก็ใช้แผนพูดโกหก จนสามารถตลบหลังกลุ่มผู้ก่อการร้ายกลับได้ ล่อตัวการอย่าง เกทส์ มาอยู่ในวงล้อมและรุมจัดการ แต่เกทส์ก็ใช้ Lambda Driver ของ Codarl-i เอาตัวรอดมาได้ และเข้าปะทะกับโซซึเกะอีกครั้ง แต่เพราะระบบ Lambda Driver ที่โอเวอร์ฮีท จึงได้หนีไป

 

หลังจบศึกนี้ พวกของ ครูซ เหมา และ โซซึเกะ ได้ออกตามจับเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองที่ทรยศ ซึ่งหลังจากการสอบสวน ได้ให้การว่า กลุ่ม Amalgam เป็นคนว่าจ้างเขา

 

โซซึเกะยังคงทำหน้าที่คุ้มกันคานะเมะต่อภายใต้สถานะนักเรียนโรงเรียนจินได ไปพร้อมๆกับงานหน้าที่ภาคสนามที่ได้รับจาก Mithril ส่งผลให้หลายครั้งต้องขาดเรียน ขาดสอบ หรือมาสาย ภาระหน้าที่ที่หนักอึ้ง บวกกับความรู้สึกที่ตัวเองไร้ประโยชน์จากการที่ไม่สามารถใช้ Lambda Driver ได้ดังใจ เกาะกุมจิตใจโซซึเกะมาโดยตลอด แต่เพราะมีคานะเมะอยู่ เขาจึงยังทำงานต่อไปได้ แต่แล้วคำสั่งจากเบื้องบนที่ให้โซซึเกะถอนตัวจากภารกิจคุ้มกันคานะเมะ และให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ Wraith แทน ส่งผลให้จิตใจของโซซึเกะตกต่ำลงอย่างมาก จากการที่ต้องจากคานะเมะไป อีกด้าน แฝด หยูฟาน และ หยูหลัน เริ่มเคลื่อนไหวบางอย่างที่ทาง Amalgam ไม่เกี่ยวข้อง หลังจากโซซุเกะย้ายออกไป หยูหลันได้ไปปรากฏให้คานะเมะเห็น จนคานะเมะเกิดความระแวง เลยเริ่มหาตัวคนที่แอบสะกดรอบตนอยู่ จนไปพบ Wraith แทนแต่ก็โดนหยูหลันลอบโจมตี Wraith โดนยาบางอย่างจนขยับตัวไม่ได้ คานะเมะหนีเอาตัวรอดอย่างยากลำบาก แต่แล้ว เลโอนาร์ด เทสทารอสซ่า ก็ปรากฏตัวขึ้น และส่ง Arm Slave ขนาดเท่ามนุษย์เข้าจัดการหยูหลัน และปล่อยคานะเมะไว้ แต่ท่าทางของเลโอนาร์ดดูจะสนใจในตัวคานะเมะไม่น้อย

 

ฝ่าย หยูฟาน ได้ขโมย Plan-1056 Codarl-m 1 ตัว มาจากฐานของ Amalgam เข้าทำการปั่นป่วนฮ่องกงตามจุดต่างๆ ส่งผลให้ความตึงเครียดทางการเมืองของจีนอยู่ในภาวะวิกฤต Mithril ส่งหน่วยสำรวจพื้นที่จุดต่างๆเพื่อหาที่กบดานของผู้ก่อการร้าย โซซึเกะที่ไปด้วยนั้น ได้ทำผิดพลาดเพราะจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวจากการคิดเรื่องคานะเมะ ทำให้เขาละทิ้งภารกิจออกมา แล้วเดินไปอย่างไร้จุดหมาย ฝ่ายหน่วยสำรวจซึ่งได้เบาะแสบางอย่างเกี่ยวกับที่อยู่ของผู้ก่อการร้าย ก็ได้จัดหน่วยปฏิบัติการนำโดย เมลิซซ่า เหมา , ครูซ เวเบอร์ และ เบลฟานกัน คลูโซ หัวหน้าหน่วยคนใหม่ ออกปราบปราม แต่เบาะแสที่ว่าแท้จริงแล้วคือสารถึงตัวโซซึเกะ การปั่นป่วนที่เกิดขึ้นก็เพื่อให้โซซึเกะออกมา โซซึเกะที่เร่ร่อนอยู่ในเมืองได้เห็นสารนี้ก็เข้าใจได้ทันที และไปตามจุดนัดพบ จนได้ไปพบกับเกาลูนที่น่าจะตายไปแล้ว นอนอาการโคม่าอยู่บนเตียง

 

เกาลูนเล่าว่าตัวเขานั้นเป็นคนเก็บฝาแฝดมาเลี้ยงและฝึกเป็นนักฆ่าเอง โดยเขานั้นทำงานให้กับ Amalgam แต่เหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นความต้องการของเขาเองไม่เกี่ยวกับ Amalgam โดยเกาลูนในช่วงสุดท้ายของชีวิตเขาก็ยังยึดติดกับโซซึเกะ และเห็นว่าคานะเมะเป็นต้นเหตุให้โซซึเกะอ่อนแอ เขาจึงส่ง หยูหลันไปฆ่าคานะเมะนั่นเอง เมื่อโซซึเกะได้ยินเช่นนั้นจึงบันดาลโทสะชักปืนขึ้นยิงเกาลูนระยะประชิดทันที แต่ทว่าเกาลูนแอบซ่อนระเบิดไว้ เมื่อเขาตายระเบิดจึงทำงานทันที อีกด้าน หยูฟานก็ต่อสู้กับ เหมา,ครูซ,คลูโซ อยู่ กลุ่มของเกทส์ก็นำกำลังเข้าจัดการกับหยูฟานอีกทางด้วย ในขณะนั้นทางเรือดานังก็ได้ส่ง Arbalest มาทางสนามรบ แต่โซซึเกะซึ่งหนีระเบิดมาได้คิดว่าคานะเมะตายไปแล้วนั้นไม่มีแรงใจจะสู้ แต่แล้วคานะเมะก็ปรากฏตัวต่อหน้าเขา ซึ่งเป็นเพราะ Wraith เป็นคนพามานั้นเอง คานะเมะได้พูดเตือนสติโซซึเกะ จนโซซึเกะกลับมามีกำลังใจอีกครั้ง ขึ้นขับ Arbalest ออกไป

 

ฝ่ายเกทส์ได้ใช้ศพของหยูหลันที่เลโอนาร์ดนำกลับไป มายั่วโมโหหยูฟาน ส่งผลให้เกิดช่องว่างจนเกทส์เข้าจัดการกับหยูฟานได้ แล้วก็เข้าจัดการคนของ Mithril คนอื่นๆต่อ แต่ทันใดนั้นโซซึเกะที่จิตใจเข้มแข็งเต็มเปี่ยม เปิดใช้ Lambda Driver เข้าขัดขวางหุ่นของพวก Amalgam และทำลายได้อย่างง่ายดาย จนเหลือแต่เพียงเกทส์ เกทส์ใช้คลูโซเป็นตัวประกัน แต่โซซึเกะก็ใช้หมัดของ Arbalest ต่อยออกไป คลื่นพลังทำลาย Codarl-i ของเกทส์จนแหลกเป็นชิ้นๆ โดยที่คลูโซไม่เป็นอันตรายแม้แต่น้อย

 

หลังจบศึกโซซึเกะตัดสินใจได้ด้วยตนเองต่อเบื้องบนว่าตนต้องการอยู่กับคานะเมะต่อไป และขอทำงานกับ Mithril ไปด้วย พร้อมขอหักเงินเดือนลงครึ่งนึง โซซึเกะกลับไปเรียนตามปกติและแล้วคืนวันที่สงบสุขก็กลับมาอีกครั้ง

 

 

เพลงเปิด
Minami Kaze โดย Mikuni Shimokawa

 

 

เพลงปิด
Mouichido Kimi ni Aitai โดย Mikuni Shimokawa

 

 

 

Full Metal Panic! Invisible Victory

ชื่อเรื่อง : Full Metal Panic! Invisible Victory
ชื่ออื่นๆ : Full Metal Panic! IV, フルメタル・パニック！Invisible Victory, フルメタル・パニック！IV, ฟูล เมทัล พานิก! อินวิสสิเบิล วิคทอรี่
ประเภท : Drama , Action , Sci-fi , Mecha , Military
จำนวนตอน : 12 ตอน
วันออกอากาศ : 13 เมษายน 2018
กำกับโดย : Katsuichi Nakayama
สตูดิโอ : Xebec
เว็บไซต์หลัก :
http://fullmeta-iv.com/
http://www.tdd-1.com/iv/

 

หลังจากการโจมตีของเกาลูนและเกทส์ผ่านไป คืนวันที่สงบสุขกลับมาอีกครั้ง แต่ทว่าความสงบนี้ก็ไม่ยั่งยืนนัก กลุ่มผู้ก่อการร้าย Amalgam ได้เริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง ฐานทัพของ Mithril ตามที่ต่างๆทั่วโลกถูกโจมตี เกาะเมริด้า ฐานทัพของเรือดำน้ำ Tuatha de Danaan ถูกโจมตีด้วยมิสไซล์และ Arm Slave ภัยครั้งใหม่ได้ย่างกรายไปหา โซซึเกะ คานะเมะ เทซซ่า และทุกคนแล้ว!!

 

เป็นภาคต่อที่ทิ้งช่วงจากภาคก่อนถึงเกือบ 13 ปี ซึ่งแต่เดิมภาคนี้ถูกวางแผนไว้ว่าจะออกอากาศในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 2017 แล้วก็เลื่อนมาช่วงฤดูไม้ผลิ 2018 แทน ในที่สุด เนื้อหาในภาคนี้จะดำเนินต่อจาก The Second Raid แบบไม่ปูพื้นให้ผู้ชมแต่อย่างใด โดยเนื้อหาเริ่มจากนิยายเล่ม 6 เป็นต้นไป และทวีความเข้มข้นขึ้นอย่างมาก

 

 

ตัวอย่าง

 

เพลงเปิด
Even…if โดย Tamaru Yamada

ในช่วงปลายปี 2016 ถึง 2017 Full Metal Panic! ได้ปล่อย Audio Drama จำนวน 12 ตอน เผยแพร่ทาง Youtube แชนแนล Lantis Channel โดยใช้เนื้อหาจากนิยายเล่ม 6 ในชื่อ Odoru Very Merry Christmas (ปัจจุบันวีดีโอดังกล่าวหายไปจากแชนแนลแล้ว)

 

 

 

 

 

 

 

ตัวละคร

 

ซางาระ โซซึเกะ
ชายหนุ่มอายุประมาณ 17 ปี สมาชิกขององค์กรติดอาวุธเอกชน Mithril สังกัดหน่วยปฏิบัติการพิเศษ เป็นเด็กกำพร้าที่ถูกฝึกให้เป็นนักฆ่าตั้งแต่เด็กโดยสหภาพโซเวียต ตอนเด็กที่ไปทำภารกิจที่ประเทศเฮอมาจิสถานถูกผู้นำฝ่ายกบฏนามว่า มาจิ๊ด รับเลี้ยงไว้จึงได้ชื่อว่า คาซิม มีประสบการณ์การรบในหลายๆประเทศ และพูดได้หลายภาษา มีความสามารถในการรบหลากหลายทั้งมือเปล่า การใช้อาวุธ และบังคับหุ่น Arm Slave ได้รับภารกิจให้มาคุ้มกัน จิโดริ คานะเมะ จึงต้องเข้าเรียนในโรงเรียนจินได มีหุ่นประจำตัวคือ ARX-7 Arbalest และในช่วงท้ายของเรื่องได้ขับ ARX-8 Laevatein มีโค้ดเนมในหน่วยคือ Urzu 7 ยสสิบโท

 

จิโดริ คานาเมะ
หญิงสาวอายุ 16 ปี เรียนอยู่ที่โรงเรียนมัธยมจินได เสียแม่ไปตั้งแต่เด็ก และไม่ถูกกับพ่อ จึงอาศัยอยู่คนเดียว ทำให้มีทักษะต่างๆในอาการเอาตัวรอด เป็นผู้มีพลัง Whispered และมักได้ยินเสียงข้อมูลแปลกๆบ่อยๆ หลังจากการมาของโซซึเกะชีวิตของเธอก็พลิกหน้ามือเป็นหลังมือ ยิ่งเวลาผ่านไปความรู้สึกของเธอที่มีต่อโซซึเกะค่อยๆพัฒนา

 

เทเลซ่า เทสทารอสซ่า (เทซซ่า)
หญิงสาวอายุ 16 ปี เป็นชาวอเมริกันโดยกำเนิด แต่ย้ายที่อยู่ไปตามที่ต่างๆทั่วโลกบ่อยครั้ง เธอและพี่ชายฝาแฝดเป็น Whispered ทำให้มีความอัจฉริยะตั้งแต่เด็ก เธอเข้าร่วมกับ Mithril และสร้างผลงานโดดเด่นตั้งแต่อายุยังน้อยจนได้ยศพันเอก เธอเป็นผู้ให้กำเนิดเรือดำน้ำ Tuatha de Danaan รวมถึง AI ของเรือ Dana และขึ้นเป็นกัปตันเรือด้วยตนเอง โดยชีวิตส่วนใหญ่จะอยู่ในฐานทัพและบนเรือดำน้ำ ทำงานใช้สมองเป็นหลักไม่ถนัดงานที่ออกแรง แอบมีใจให้โซซึเกะมาตลอด

 

เมลิซซ่า เหมา
เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายจีน อายุ 25 ปี เคยอยู่กองทัพเรือสหรัฐมาก่อน มีความสามารถในการบังคับ Arm Slave ในระดับสูง เป็นหัวหน้าทีมปฏิบัติการที่มี โซซึเกะและครูซร่วมอยู่ด้วย เป็นคนที่ชอบดื่มเป็นอย่างมาก มีโค้ดเนมในหน่วยคือ Urzu 2 ยศจ่าสิบเอก

 

 

ครูซ เวเบอร์
เป็นชาวเยอรมันที่เติบโตที่ญี่ปุ่น อายุ 19 ปี เคยทำงานเป็นทหารรับจ้างอยู่ระยะนึง มีความสามารถในการบังคับ Arm Slave และการใช้ปืน โดยเฉพาะสไนเปอร์ไรเฟิล ได้รับการทาบทามจาก Mithril มาพร้อมๆกับโซซึเกะ เป็นคนลามก กะล่อน เจ้าชู้ มีโค้ดเนมในหน่วยคือ Urzu 6 ยศสิบโท

 

 

อังเดรย์ เซอเกรวิช คาลินิน
ชาวรัสเซีย เคยสังกัดกองทัพของสหภาพโซเวียตมาก่อน เป็นเสมือนพ่อบุญธรรมของโซซึเกะคนนึง เป็นคนเก็บโซซึเกะมาเลี้ยงตั้งแต่แบเบาะ ทำหน้าที่เป็นผู้วางแผนการรบและผู้บังคับการหน่วยปฏิบัติการของ Mithril มีโค้ดเนมคือ Perth 1 ยศพันตรี

 

 

ริชาร์ด เฮนรี่ มาดุคัส
ชาวอังกฤษ เคยทำงานให้กับเรือดำน้ำหลายต่อหลายที่มาก่อนที่จะเข้าร่วม Mithril เป็นคนจริงจัง ตรงไปตรงมา เป็นรองกัปตันเรือดำน้ำ Tuatha de Danaan ยศพันโท คอยดูแลความเรียบร้อยทั้งเรื่องทั่วๆไปและเรื่องทางทหารภายในเรือดานัง เพราะเทซซ่าเป็นกัปตันที่อายุน้อยจึงจำเป็นต้องมีคนมากประสบการณ์อย่างเขาคอยให้คำปรึกษาและคอยดูแล

 

 

เบลฟานกัน คลูโซ
เป็นชาวแคนาดาเชื้อสายแอฟริกัน เป็นหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษของ Mithril คนใหม่ ยศร้อยเอก รับตำแหน่งและโค้ดเนม Urzu 1 ต่อจาก เกล แมกอัลเลน ที่เสียชีวิตไป เป็นเพื่อนร่วมรบกับ แมกอัลเลนและเหมา เป็นคนที่มีความสามารถทั้งการบังคับ Arm Slave และการต่อสู้ด้วยศิลปะการต่อสู้มือเปล่า สามารถนำศิลปะการต่อสู้ไปปรับใช้กับ AS ได้อย่างคล่องแคล้ว บุคลิกดูเข้มแข็งหนักแน่น แต่เนื้อแท้นั้นเป็นคนที่ชื่นชอบอนิเมะญี่ปุ่นอย่างมาก

 

Wraith
เป็นเจ้าหน้าที่ Mithril ที่ถูกส่งมาทำภารกิจคุ้มกัน จิโดริ คานะเมะ เช่นเดียวกับโซซึเกะ ส่วนใหญ่จะซุ่มสังเกตการณ์จากระยะไกลมากกว่า มีบทบาทมากในช่วงครึ่งหลังของเรื่อง ถึงจะไม่ค่อยชอบวิธีการทำภารกิจของโซซึเกะแต่ท้ายสุดก็เป็นคนที่ช่วยเหลือทั้งโซซึเกะทั้งคานะเมะ ตัวตนของเธอเป็นปริศนา

 

 

เกาลูน
เป็นทหารรับจ้างมาแล้วหลายที่ จนได้มาเป็นสมาชิกของ Amalgam มีโค้ดเนมว่า Mr.Iron เป็นคนที่มีความคิดอ่านแปลกจากคนทั่วๆไปและสุดโต่ง สามารถทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการแม้แต่การฆ่าคนอย่างเลือดเย็น มองโซซึเกะตอนเด็กๆเสมือน “นักฆ่าในคราบนักบุญ” และยึดติดในตัวโซซึเกะเป็นอย่างมาก หมายที่จะเป็นคนปลิดชีวิตโซซึเกะด้วยตนเอง เป็นคนแรกๆที่ขับ Arm Slave รูปแบบ Codarl หรือ Venom ออกมาปรากฏในเรื่อง มีความสามารถในการใช้ Lambda Driver ได้อย่างเชี่ยวชาญ

 

เกทส์
ชาวอังกฤษ เป็นสมาชิกระดับสูงของ Amalgam มีโค้ดเนมว่า Mr.Kalium เป็นคนที่มีความคิดอ่านและรสนิยมที่ดูวิปลาสเป็นอย่างมาก สามารถฆ่าผู้ใต้บังคับบัญชาได้เพียงเรื่องเล็กๆน้อยๆ ชอบพูดเรื่องแปลกๆออกมาบ่อยๆ แต่กลับเป็นคนที่ฉลาดอย่างมาก มีความสามารถในการวางแผนการรบได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นอีกคนที่สามารถควบคุม Lambda Driver ได้ และบังคับหุ่น Codarl-i แบบเดียวกับเกาลูน

 

เลโอนาร์ด เทสทารอสซ่า
เช่นเดียวกับเทซซ่าน้องสาวฝาแฝดของเขา เขาเป็น Whispered และมีความอัจฉริยะเหนือกว่าเทซซ่ามาก เขาเป็นสมาชิกระดับสูงของ Amalgam มีโค้ดเนมว่า Mr.Silver ด้วยพลัง Whispered ของเขา เขาเป็นผู้สร้าง Arm Slave ระดับสูงหลายๆรุ่นของ Amalgam รวมถึง AS ส่วนตัวของเขาเองอย่าง Belial เขามีความต้องการบางอย่างแอบซ่อนไว้อยู่ และรอเวลาทำให้มันเป็นจริง

 

ซาอี๊ด
เป็นนักบิน Arm Slave และทหารรับจ้างชาวเฮอมาจิสถาน เป็นเพื่อนเก่ากับโซซึเกะตั้งแต่ตอนยังเป็นทหารเด็ก รับงานจากเกาลูนในการคุ้มกันคาราวานขนหัวรบนิวเคลียร์

 

คุกายะมะ ทาคุมะ และ เซนะ
สมาชิกกลุ่ม A-21 ซึ่งเป็นกลุ่มเด็กกำพร้า ทาคุมะมองเซนะเป็นพี่สาว พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เซนะพอใจ ส่วนเซนะก็ใช้งานทาคุมะเพื่อให้ได้ขับ Behemoth และทำการอาละวาดเมือง เพื่อแก้แค้นสังคมที่ทำให้กลุ่ม A-21 ถูกมองเป็นผู้ก่อการร้าย

 

เซี่ย หยูฟาน และ เซี่ย หยูหลัน
พี่น้องฝาแฝดเด็กกำพร้าชาวจีน ถูกเกาลูนเก็บมาเลี้ยงตั้งแต่เด็กให้เป็นนักฆ่า มีความสามารถในการต่อสู้ระดับสูง หยูฟาน(ซ้าย) มีความสามารถในการบังคับ Arm Slave สามารถใช้งาน Shadow และ Codarl ออกรบได้ หยูหลัน(ขวา) มีความสามารถในการรบระยะประชิด ทั้งมือเปล่า การใช้ดาบและมีดบิน ทั้งสองทำตามคำสั่งเกาลูนเป็นหลัก ที่มาทำงานให้กับ Amalgam และเกทส์ ก็เพียงเพราะเป็นคำสั่งเกาลูนเท่านั้น แม้ต้องยอมทนกับพฤติกรรมของเกทส์ที่ปฏิบัติต่อพวกเธอไม่ดีนักก็ตาม

 

บุคคลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับ Amalgam
ด้านบน จากซ้าย คุรามะ, ลี ฟอเลอร์
ด้านล่าง จากซ้าย วิลเฮลม์ แคสเปอร์, ซาบิน่า เรชนิโอ

 

นามิ และ มิเชล เลม่อน
เป็นกลุ่มคนที่ช่วยเหลือโซซึเกะไว้ตอนที่ Mithril โดน Amalgam ตีแตกพ่าย และนามิยังเป็นคนที่ต้องสงสัยว่าเป็น Whispered อีกด้วย

 

ตัวละครภายในโรงเรียนมัธยมปลายจินได
แถวบน จากซ้าย เพื่อนร่วมชั้นของคานะเมะ โทคิวะ เคียวโกะ, คาซามะ ชินจิ, อินาบะ มิซึกิ
แถวล่าง จากซ้าย ครูประจำชั้นของพวกคานะเมะ คากุระซะกะ เอริ , ประธานนักเรียน อะซึโนะบุ ฮะยาชิมิซึ , เลขาประธานนักเรียน มิกิฮาระ เร็น

 

 

 

เครื่องจักรกลภายในเรื่อง

 

M9 Gernsback

เป็น Arm Slave ที่มีใช้ในกองทัพสหรัฐและใช้เป็นกำลังหลักใน Mithril สมรรถนะอยู่ในระดับสูง ระบบควบคุมไม่ซับซ้อน ง่ายต่อการติดตั้งอาวุธหลากหลายรูปแบบ อีกทั้งยังติดตั้งระบบ ECS เพื่อการอำพรางตัว นักบิน AS ที่สังกัดหน่วยปฏิบัติการพิเศษของ Mithril จะใช้ M9 เป็นหลักแทบทุกคน

 

M9 ยังมีรูปแบบของหัวหน้าทีม ซึ่งมีเสาอากาศเสริมบนหัว ใช้ทั้งเสริมประสิทธิภาพการสื่อสารและใช้ในการส่งสัญญาณรบกวนการสื่อสารของศัตรูอีกด้วย

 

 

 

M9D / A4-1 Falke

M9D FALKE เป็นรูปแบบหนึ่งที่พัฒนามาจาก M9 สามารถติดตั้งอุปกรณ์แบบ M9 ได้ทุกประเภท โดยในแผนแรกจะถูกสร้างเป็นเครื่องทดสอบ Lambda Driver เช่นเดียวกับ Arbalest แต่ล้มเลิกไป ภายหลังจึงได้นักบินประจำคือ เบลฟานกัน คลูโซ เน้นการใช้มีดและมือเปล่าผสมผสานกับศิลปะการต่อสู้เป็นหลัก

 

ARX-7 Arbalest

เป็น Arm Slave ติดตั้ง Lambda Driver ของ Mithril พัฒนาจาก M9 และ ARX-6 Halberd มีสมรรถนะในระดับสูง โดยเฉพาะความเร็ว สามารถติดตั้งอุปกรณ์แบบ M9 ได้ มี AI สนับสนุน ชื่อ Al (อัล) โดยระบบได้ล็อค ซางาระ โซซึเกะ ไว้เป็นนักบินเพียงคนเดียวเท่านั้น สไตล์การต่อสู้หลักคือ การใช้ปืนลูกซอง 57mm Boxer ,มีด Anti-tank Dagger , มีด Monomolecular Cutter เมื่อเปิดใช้ Lambda Driver ฟินที่แบ็คแพ็กและไหล่จะกางออกเพื่อระบายความร้อน

 

ARX-8 Laevatein

หลังจาก Arbalest ถูกทำลายลง ระบบ Lambda Driver และ Al ถูกเก็บกู้ไปสร้างใหม่เป็น Laevatein เป็นรูปร่างที่ Al เป็นผู้วิเคราะห์และออกแบบขึ้นมาเอง มันถูกออกแบบมาเพื่อให้เข้ากันและง่ายต่อกับสไตล์การต่อสู้ของโซซึเกะ เป็น AS ที่เกิดมาเพื่อให้โซซึเกะใช้สู้ในศึกสุดท้ายอย่างแท้จริง เมื่อเปิดใช้ Lambda Driver จะมีอนุภาคปล่อยออกมาจากหลังหัวแบบเดียวกับหุ่น Codarl อีกทั้งยังมีระบบ Fairy’s Feather ซึ่งถูกออกแบบโดย จิโดริ คานะเมะ มีความสามารถในการหยุดการทำงานของ Lambda Driver ของ AS ภายในรัศมีเป็นอาวุธลับ อาวุธโดยทั่วไปจะคล้าย Arbalest แต่มีประสิทธิภาพสูงกว่า และยังเพิ่มปืนใหญ่ Demolition Howitzer เข้าไปอีกด้วย

 

 

Rk-92 Savage

Savage เป็น AS รุ่นมาตรฐานที่มีใช้กันมากในสหภาพโซเวียต จีนเหนือ เกาหลีเหนือและกลุ่มก่อการร้ายทั่วๆไป ต้นทุนการผลิตถูก เน้นการผลิตจำนวนมาก และหาอะไหล่เปลี่ยนง่าย เน้นการใช้งานในด้านจำนวน

 

Zy-98 Shadow

Shadow ถูกพัฒนาขึ้นโดยสหภาพโซเวียต เพื่อเป้าประสงค์ที่จะมาแทนที่ Savage มีการติดตั้ง ECS และยังสามารถติดตั้งอุปกรณ์และอาวุธได้หลากหลาย มีสมรรถนะที่สูสีกับ M9 ในช่วงแรกจะถูกใช้ในองค์กร Amalgam เป็นหลัก

 

Plan-1051 Behemoth

เป็น Arm Slave ที่พัฒนาขึ้นโดย Amalgam มีขนาดที่ใหญ่โตถึง 40 เมตร ถ้าตามหลักการ มันจะไม่สามารถยืนได้เลยด้วยซ้ำ แต่เพราะพลังของ Lambda Driver มันจึงใช้งานได้ โดยจะต้องใช้ Lambda Driver ตลอดการเดินเครื่อง ทำให้สร้างภาระหนักอย่างมากแก่นักบิน Amalgam สร้างมันไว้หลายเครื่อง จุดประสงค์เพื่อเป็นอาวุธต่อต้าน AS หนึ่งในจำนวนนั้นถูกส่งไปให้กลุ่ม A-21 ใช้งาน และถูกทำลายไปโดย Arbalest

 

Plan-1056 Codarl

Codarl ถูกพัฒนามาจาก Shadow โดย Amalgam และติดตั้งระบบ Lambda Driver มีสมรรถนะเหนือกว่า M9 ในทุกๆด้าน มีพู่คล้ายผมที่ด้านหลังหัวเป็นอุปกรณ์ระบายความร้อน เน้นการต่อสู้ระยะประชิดเป็นหลัก ในช่วงแรกเกาลูนคือคนที่ขับหุ่นตัวนี้ออกปฏิบัติการ ถูก Mithril เรียกด้วยโค้ดเนม Venom

 

Plan-1058 Codarl-i

เป็นรุ่นพัฒนาต่อจาก Codarl ยังคงติดตั้ง Lambda Driver เช่นเดิม แต่เปลี่ยนรูปแบบของหัว วัสดุทำเกราะ เซนเซอร์ต่างๆ และใช้อุปกรณ์ระบายความร้อนเป็นฟินขนาดใหญ่ที่แบ็คแพ็กแทน มีประสิทธิภาพสูงกว่า Codarl ปกติ แต่ก็ยังคงมีปัญหาเรื่องความร้อนเช่นเดิม นักบินที่ปรากฏว่าเคยใช้งานคือ เกาลูน และ เกทส์ มันถูกเรียกว่า Venom เช่นเดียวกับ Codarl ปกติ

 

Plan-1059 Codarl-m

เป็นรุ่นผลิตจำนวนมากของ Codarl ตัวปกติ มีการติดตั้ง Lambda Driver และอุปกรณ์อื่นๆไว้เช่นเดียวกัน แต่มีสมรรถนะที่ด้อยกว่า

 

Plan-1065 Erigor

เป็นหุ่นที่พัฒนามาจาก Codarl-i เพิ่มจุดเด่น ลดจุดด้อย จนออกมาเป็นรุ่นที่สมบูรณ์ที่สุด ถูกใช้แทน Codarl-i ในช่วงท้ายของเรื่อง

 

Plan-1055 Belial

เป็น Arm Slave ที่เลโอนาร์ด เทสทารอสซ่า พัฒนาขึ้นใช้งานด้วยตนเอง ติดตั้ง Lambda Driver ประสิทธิภาพสูง เน้นใช้งานระยะประชิดและระยะกลาง มีธนูเป็นอาวุธ เมื่อเลโอนาร์ดที่เป็น Whispered อัจฉริยะ บังคับด้วยตนเองนั้น มันจึงเป็นคู่ต่อสู้ที่ยากต่อการต่อกรอย่างยิ่ง

 

TDD-1 Tuatha de Danaan

Tuatha de Danaan เป็นเรือดำน้ำสมรรถนะสูงของ Mithril ที่พัฒนาโดย เทเลซ่า เทสทารอสซ่า และเธอเป็นกัปตันเรือด้วยตนเอง ถูกใช้เป็นเรือธงปฏิบัติการในหลายๆภารกิจของ Mithril ภายในเป็นที่อยู่อาศัยของบรรดาทหาร และมีที่เก็บอาวุธยุทโธปกรณ์ พาหนะต่างๆ หลากหลาย มี AI ประจำเรือคือ Dana ภายในห้องคอมพิวเตอร์หลักมีอุปกรณ์ที่ให้ Whispered สามารถเข้าไปเชื่อมต่อกับระบบของเรือได้

นอกจาก Arm Slave แบบ M9 แล้ว ยังมียานพาหนะทางการทหารที่ประจำการบนเรือดานัง อย่าง เครื่องบินขับไล่ AV-8 Harrier II , เฮลิคอปเตอร์ MH-67 Pave Mare , เฮลิคอปเตอร์ RAH-66 Comanches เป็นต้น

 

Bonta-kun

เป็น Arm Slave ขนาดเล็กที่โซซึเกะดัดแปลงมาจากชุดมาสคอตบอนตะคุง มีความคล่องแคล่วเกินกว่ารูปลักษณ์ภายนอก มีระบบแปลภาษา ที่แปลภาษาต่างๆให้ผู้บังคับเข้าใจได้ แต่ระบบเพี้ยนจึงแปลงเสียงของผู้บังคับกลายเป็นเสียง ฟุมอฟฟุ มีรุ่นผลิตจำนวนมากเป็นสีเทา

 

คำศัพท์ที่น่าสนใจ

Mithril
องค์กรติดอาวุธเอกชนที่คอยเข้าแทรกแซงสงครามตามที่ต่างๆ มีสมาชิกและสาขาอยู่ทั่วโลก มีอาวุธยุทธโธปกรณ์ล้ำสมัย มีความรู้ Black Technology ในครอบครองและคอยอารักขาคนที่เป็น Whispered และช่วยเหลือคนบริสุทธิ์จากสงคราม

Amalgam
องค์กรติดอาวุธที่ทำตรงข้ามกับ Mithril ทั้งสนับสนุนผู้ก่อการร้าย การค้ายา และการกระทำผิดกฎหมายอื่นๆ มีความรู้ Black Technology และ Whispered ในองค์กร เทคโนโลยี Arm Slave ล้ำหน้ากว่า Mithril มาก เป้าหมายหลักของ Amalgam คือการพัฒนาอาวุธ เพื่อการนี้จึงต้องทำการช่วยเหลือผู้ก่อการร้ายและสร้างความขัดแย้งระหว่างประเทศ เพื่อให้ยังคงเกิดสงครามต่อไป

A-21
กลุ่มเด็กกำพร้าที่ถูกตั้งขึ้นโดยทหารรับจ้าง ทาเคจิ เซจิ โดยรวบรวมเด็กกำพร้าจากที่ต่างๆมาสอนวิชาการต่อสู้และเอาตัวรอด แต่เกาะที่พวกเขาอาศัยอยู่ถูกสื่อเปิดโปงและใส่ความว่าเป็นสถานที่ซ่องสุมกำลังของผู้ก่อการร้ายพร้อมตั้งชื่อว่า A-21 เด็กกำพร้าที่เหลือรอดจึงติดต่อขอความช่วยเหลือจาก Amalgam เพื่อการแก้แค้น

Whispered
คือชื่อเรียกผู้ที่มีความรู้ Black Technology อยู่ในหัว คนเหล่านี้จะมีความสามารถในทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ ในระดับสูง และทุกคนเกิดวันที่ 24 ธันวาคม 1981 เวลา 11.50 PM ถึงกระนั้นความรู้ใน Black Technology นี้ Whispered แต่ละคนมีไม่เท่ากัน การรวบรวมข้อมูลจาก Whispered แต่ละคน จึงเป็นเป้าหมายของหลายๆองค์กร นอกจากนี้ในหมู่ Whispered ด้วยกัน ยังสามารถสื่อสารกันผ่านทางกระแสจิตได้อีกด้วย แต่ก็ถือว่าเป็นการกระทำที่เป็นอันตรายอยู่มาก

 

Black Technology
เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำกว่ายุคปัจจุบันเป็นอย่างมาก ที่มาของความรู้เหล่านี้เป็นปริศนา แต่การจะได้มานั้นต้องได้มาจากผู้ที่เป็น Whispered เท่านั้น ความรู้ที่ได้มาทำให้เกิดความก้าวล้ำมากมายแก่โลก

 

Arm Slave

Arm Slave หรือ Armored Mobile Master-Slave System หรือ AS เป็นผลผลิตอย่างหนึ่งของ Black Technology มันคือจักรกลรบรูปแบบมนุษย์ความสูงประมาณ 8-10 เมตร การมาของมันได้เปลี่ยนโฉมหน้าของสงครามอย่างสิ้นเชิง กองทัพของประเทศมหาอำนาจต่างมี AS ประจำการอยู่

 

ECS
ECS หรือ Electronic Conceal System เป็นผลผลิตอย่างหนึ่งของ Black Technology เป็นระบบที่ช่วยอำพรางวัตถุจากเรดาร์ หรือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าอื่นๆ รวมถึงสายตามนุษย์ เหมาะใช้ในสถานที่โล่งแจ้ง มักใช้ใน Arm Slave และ พาหนะใช้ในสงครามอื่นๆ มีระบบตรงข้ามคือ Electronic Conceal Counter System หรือ ECCS เป็นตัวจับสัญญาณการใช้งาน ECS

Lambda Driver
ผลผลิตอย่างหนึ่งของ Black Technology เป็นระบบที่เปลี่ยนความคิดเป็นคลื่นพลังได้ ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งการโจมตีและป้องกัน ความแข็งแกร่งก็ขึ้นกับจิตใจผู้ใช้ การใช้งานจึงต้องตั้งสมาธิให้แน่วแน่อย่างมาก มักติดตั้งใน Arm Slave เป็นระบบที่เหนือเกินกว่าสามัญสำนึกและทฤษฎีทั่วๆไปอย่างมาก

TI-971
คือสารเคมีที่ใช้เพื่อเป็นยากระตุ้นสำหรับผู้ใช้งาน Lambda Driver เนื่องจากการใช้งาน Lambda Driver ต้องใช้สมาธิที่มั่นคงอย่างมาก การใช้ยากระตุ้นจึงเป็นอีกวิธีหนึ่งในการควบคุมสภาพจิตให้เหมาะสมต่อการใช้ Lambda Driver แต่อาจมีผลต่อร่างกายผู้ใช้ในระยะยาวเช่นกัน

 

 

วีดีโอเกม
Full Metal Panic! ได้เข้าร่วมสมรภูมิเกม Super Robot Taisen ทั้งสิ้น 7 ภาค ดังนี้

- Super Robot Taisen J (GBA)
- Super Robot Taisen W (NDS)
- Super Robot Gakuen (NDS)
- Dai-3-ji Super Robot Taisen Z – Jigoku-hen (PS3/PSVita)
- Dai-3-ji Super Robot Taisen Z – Tengoku-hen (PS3/PSVita)
- Super Robot Taisen X-ω (IOS/Android)
- Super Robot Taisen V (PS4/PSVita)

 

 

เนื่องจากในช่วงที่เกมดังกล่าวออกมา อนิเมะออกมามากสุดเพียง The Second Raid เท่านั้น ทำให้เกมภาคหลังๆได้นำเนื้อหาในนิยายที่ยังไม่ได้เป็นอนิเมะเข้ามาใส่เอาไว้ในเกมจนจบเรื่องอีกด้วย นอกจากนี้ Full Metal Panic! มีเกมของตัวเอง 1 เกมกำลังจะลงใน PS4 ภายในปี 2018 นั่นคือ

Full Metal Panic! Fight! Who Dares Wins

ซึ่งเป็นแนว Turn Base , Simulation RPG โดยทีมงานจากเกม Super Robot Taisen
จากตัวอย่าง เนื้อหาในเกมน่าจะครอบคลุมเนื้อหาตั้งแต่ต้นจนจบเลยทีเดียว

รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.metalbridges.com/full-metal-panic-fight-who-dares-wins/

 

ขอบคุณข้อมูลจาก
http://fullmetal-panic.jp/
http://fullmetalpanic.wikia.com/wiki/Full_Metal_Panic!_Wiki

 

 

 

บทความโดย PigNumber9