ชื่อภาษาญี่ปุ่น : 烈火の炎
แต่งโดย : Nobuyuki Anzai
จำนวนตอน : 33 เล่มจบ, อนิเมชั่นทีวีซี่รี่ย 42 ตอนจบ
ถือลิขสิทธิ์หนังสือการ์ตูนฉบับภาษาไทยโดย : Siam Inter Comic
Flame of Recca หรือในชื่อภาษาญี่ปุ่นคือ “烈火の炎” เป็นผลงานมังงะแนวต่อสู้สุดมันส์ ที่คนอ่านหลายท่านต้องเคยอ่านกันบ้างล่ะ ผลงานเรื่องนี้แต่งโดยอ. Nobuyuki Anzai เขียนลงในนิยาสารWeekly Shōnen Sundayรายสัปดาห์ในเครือของ Shogakukanตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อเดือน เมษายน ปี 1995 จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2002 ออกมาเป็นฉบับรวมเล่มทั้งสิ้น 33 เล่มจบ
ซึ่งผลงานการ์ตูนเรื่องนี้ได้พิมพ์เป็นฉบับภาษาไทยโดยทาง สำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมิกส์ ในชื่อ “เปลวฟ้าผ่าปฐพี”
ทั้งยังได้เป็นอนิเมชั่นทีวีซี่รี่ย์ที่สร้างโดยทางStudio Pierrotฉายทางช่อง Fuji TV, Animax ที่ประเทศญี่ปุ่นจำนวน 42 ตอนจบ และเคยฉายในประเทศไทยทางช่อง 7 สีอีกด้วย
หากมีใครถามว่า “มีการ์ตูนต่อสู้มันส์ๆ ให้แนะนำสักเรื่อง” ล่ะก็ “เปลวฟ้าผ่าปฐพี” คือหนึ่งในตัวเลือกที่คนอ่านหลายๆ คนต้องไม่ปฏิเสธอย่างแน่นอนที่สุด !!
เรื่องย่อ
นินจา คือกลุ่มคนที่ทำภารกิจในเงามืด มีบันทึกในประวัติศาสตร์ได้บอกเล่าถึงเรื่องราวของกลุ่มคนเหล่านี้ ซึ่งทำให้เด็กหนุ่มที่ชื่อ“ฮานาบิชิ เรกกะ” หลงใหลและคลั่งใคร่อยากที่จะเป็นนินจาอย่างมาก มีความสามารถในการใช้เปลวไฟที่แขนขวาได้ กระทั่งตัวเขาได้ตัดสินใจที่จะเป็นนินจาเพื่อคุ้มครองเจ้านายคนแรกอย่าง “ซาโคชิตะ ยานางิ” สาวน้อยวัยใส ซึ่งนั่นกลายเป็นว่าโชคชะตาของทั้งคู่ที่เกี่ยวข้องกันกับอดีตชาติ และการต่อสู้ที่ต้องเดิมพันด้วยชีวิตจึงได้เริ่มต้นขึ้น
เมื่อฮานาบิชิ เรกกะได้ตัดสินใจเลือกที่จะเป็นนินจาแล้ว ตัวเขาได้เข้าสู่วังวนของการต่อสู้ โดยจุดเริ่มต้นคือการได้มาพบกับ “คาเงะโฮชิ” หญิงสาวปริศนาที่ไม่มีวันตาย เธอได้นำพาคู่ต่อสู้ที่เป็นคนรู้จักของตัวเรกกะเอง ไม่ว่าจะเป็น “อิชิจิม่า โดม่อน”เด็กหนุ่มร่างยักษ์ “คิริซาว่า ฟูโกะ” เด็กสาวเพื่อนสนิทวัยเด็ก “มิคางามิ โทคิยะ” ชายหนุ่มสุดสำอาง รวมไปถึง “โคงาเนอิ คาโอรุ” เด็กผู้ชายที่แสนชน โดยทุกๆ คนนั้นใช้อาวุธของนินจาที่เรียกว่า “อาวุธอสูร” ที่มีพลังสถิตในการต่อสู้
แต่ศัตรูที่น่ากลัวสุดก็ได้ปรากฏตัวขึ้นภายใต้หน้ากากผู้มีชื่อว่า “คุเร” ที่ต้องการชิงเอาตัวของยานางิที่มี “พลังแห่งการรักษา” ที่ได้ทำตามความต้องการอันแสนละโมบของ “โมริ โครัน” มหาเศรษฐีผู้ต้องการ “ความเป็นอมตะ”
ซึ่งการเผชิญหน้าคุเรนั้น ทำให้ตัวเขาได้ล่วงรู้ถึงความลับในชาติกำเนิดของตัวเองว่า “คือผู้มาจากต่างมิติของเวลา” ที่ถูกส่งมาจากยุคสงครามเซ็นโกกุ ทายาทผู้สืบทอด “แปดมังกรเพลิง”และเป็นผู้สืบทอดสายเลือดนินจาที่มีนามว่า “เงาอัคคี”
แล้วการต่อสู้สุดท้าทายก็มาเยือน เมื่อฝ่ายโมริ โครันได้ท้าทายให้พวกกเรกกะเข้าร่วมการแข่งขัน “งานประลองแห่งโลกมืด” โดยมีเงื่อนไขคือยานางิเป็นเดิมพัน ในการต่อสู้ครั้งนั้น… เรกกะที่ได้ร่วมทีมกับโดม่อน, ฟูโกะ, มิคางามิและโคงาเนอิในชื่อทีมว่า “ทีมเงาอัคคี” ได้เผชิญหน้ากับทีมที่เข้าร่วม ไม่ว่าจะเป็นทีมคู ในรอบแรก รวมไปถึง “ทีมอุรุฮะ” ที่มีทั้ง อุรุฮะมายา, อุรุฮะคีตะ, อุรุฮะอสูรและอุรุฮะคุเนไร ผ่านการต่อสู้อย่างหนักหน่วงที่ประสบการณ์ในการต่อสู้ของแต่ละคนมีเพียงน้อยนิด จนสามารถผ่านมาถึงรอบชิงชนะเลิศได้ โดยในรอบชิงนั้น พวกเรกกะจะต้องสู้กับทีมอุรุฮะคุเนไร ที่มีคุเรเป็นหัวหน้าทีม
ซึ่งการต่อสู้ระหว่างสองทีมนั้นดุเดือด แต่สุดท้าย… ทีมเงาอัคคีก็สามารถค้าชัยชนะในการแข่งขันมาได้เป็นผลสำเร็จ
แต่ชัยชนะครั้งนั้นไม่ใช่จุดสิ้นสุดของการต่อสู้ เมื่อคุเรได้ถูกโมริ โครันหักหลัง และยังมีความต้องการที่จะชิงเอาตัวของยานางิมาอีกครั้ง โดยครั้งนี้โมริ โครันได้ให้กลุ่ม “อุรุฮะเบื้องหลัง” ที่คอยทำงานรับใช้อยู่เข้าจัดการพวกเรกกะ รวมไปถึงได้ออกค้นหาสุดยอดอาวุธอสูรอย่าง “สวรรค์มิคสัญญี”
พวกเรกกะต้องต่อสู้กับศัตรูสุดแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม แต่ด้วยประสบการณ์การต่อสู้ที่ผ่านมา มันช่วยให้สามารถฟันฝ่าศัตรูเหล่านั้นมาได้ รวมไปถึงการกลับมาของคุเรที่ได้แปรผันตัวเองไปเป็น “กลุ่มเงาอัคคีเบื้องหลัง” จนได้มาเจอกับโมริ โครันที่กำลังหมายตาสวรรค์มิคสัญญี ซึ่งอาวุธอสูรชิ้นนี้มีจิตวิญญาณในตัวเอง พวกเรกกะต้องทำลายมันให้ได้
แต่ว่าพลาด… มันได้เลือกโมริ โครันให้ได้ใช้พลังของตัวมัน หลอมรวมร่างกายจนกลายเป็นหนึ่งเดียวไม่ต่างอะไรจาก “ปิศาจ” เช่นนั้น
สวรรค์มิคสัญญีจะสมบูรณ์ได้ก็ต่อเมื่อมีพลังในการศักดิ์สิทธิ์ของยานางิ โมริ โครันจึงได้วางแผนลักพาตัวยานางิในช่วงที่ทีมเงาอัคคีเว้นว่างจากการต่อสู้ และสถานที่มั่นสุดท้ายของโมริ โครันก็คือ “S.O.D.O.M” ซึ่งหมายถึงนี่เป็น “ศึกสุดท้าย”
พวกเรกกะได้เตรียมความพร้อมเสร็จสรรพจึงได้เข้าบุก S.O.D.O.M รวมไปถึงฝ่ายคุเรที่ได้ตามมาล้างแค้น สามารถจัดการกับเหล่าอุรุฮะเบื้องหลังที่ทำงานให้กับโมริ โครัน ทว่าทางโมริ โครันที่กำลังจะเริ่มเข้าสู่การเป็นดักแด้ เพื่อให้วิวัฒนาการเป็น “เทนโดจิโกคุ” ซึ่งเป็นร่างสุดยอดของสวรรค์มิคสัญญี โดยมีพลังศักดิ์สิทธิ์ของยานางิเป็นกุญแจ
ทว่าเรกกะได้ตัดสินใจที่จะใช้พลัง “เรกชิน” ซึ่งเป็นพลังของมังกรทั้งแปด โดยแลกกับการสูญเสียพลังเพลิงในตัวเอง
และพลังเรกชินได้สมบูรณ์ขึ้นเพราะมีพลังศักดิ์สิทธิ์ของยานางิเข้ามารวมเป็นหนึ่งเดียวด้วย จนสามารถเอาชนะเทนโดจิโกคุได้ในที่สุด…
ตัวละคร
กลุ่มเงาอัคคี (Hokage =火影)
ฮานาบิชิ เรกกะ
Recca Hanabishi (花菱烈火)
เด็กหนุ่มตัวเอกของเรื่องเป็นเด็กหนุ่มผู้มีหลงใหลและคลั่งใคร่อยากที่จะเป็นนินจาอย่าง เขาอาศัยอยู่กับพ่อบุญธรรม แต่จริงๆ แล้วนั้นเขาคือ “ทายาทคนสุดท้ายของตระกูลนินจาเงาอัคคี” ที่มาจากยุคสงครามเซ็นโกคุ การต่อสู้ของตัวเขาได้เริ่มขึ้นเมื่อได้มาเจอกับซาโคชิตะ ยานางิ ซึ่งเป็นโชคชะตาที่ทายาทแห่งเงาอัคคีที่ต้องเผชิญ
การต่อสู้นำพาให้ตัวเขาได้มาพบกับศัตรูที่น่ากลัวอย่าง “คุเร” ทายาทของตระกูลนินจาเงาอัคคีอีกคนหนึ่ง และความจริงที่ว่าจุดสิ้นสุดของตระกูลนินจาเงาอัคคีนั้นอยู่ที่ตัวของเรกกะ ตัวเขานั้นเองที่ถูกกำหนดให้เป็น “ตัวกาลกิณี” ผู้สิ้นสุดคำสาปแห่งเปลวเพลิงคนสุดท้ายของตระกูลนินจาเงาอัคคีนั่นเอง…
มีความสามารถในการใช้เพลิงและควบคุมไฟได้ โดยในร่ายกายของเขามี “แปดมังกรเพลิง” สิงสถิตอยู่
ซาโคชิตะ ยานางิ
Yanagi Sakoshita (佐古下柳)
เด็กสาวผู้เป็นนางเอกของเรื่องนี้ เธอมีพลังในการรักษาได้ แท้จริงนั้นเธอคือ “เจ้าหญิงซากุระแห่งแคว้นไร้ชื่อ” ที่ได้กลับชาติมาเกิดในยุดเดียวกับเรกกะ พลังของเธอเป็นที่หมายตาของโมริ โครัน ที่ต้องการมาซึ่งความอมตะ เป็นกุญแจดอกสำคัญที่จะปลุกพลังของอาวุธอสูรอย่างสวรรค์มิคสัญญีให้กลายเป็นเทนโดจิโกคุได้
มีนิสัยเป็นคนเรียบร้อย อ่อนหวาน ทั้งยังชอบวาดรูปและการ์ตูนเป็นเรื่องเป็นราวมากๆ อีกด้วย
อิชิจิม่า โดม่อน
Domon Ishijima (石島土門)
เด็กหนุ่มร่างกายกำยำตัวใหญ่ หนึ่งในทีมเงาอัคคี ผู้มีพลังความอึดที่สูง แม้ว่าจะเป็นคนที่มีประสบการณ์ในการต่อสู้ที่น้อยกว่าคนอื่นๆ แต่การเอาตัวรอดและความมุ่งมั่นในการต่อสู้จากหลายๆ เหตุการณ์ที่ผ่านมา ทำให้ตัวเขาได้ฝึกปรือทักษะการต่อสู้จนเก่งขึ้น
ในช่วงแรกๆ ตัวเขาเป็นไม่เบื่อไม้เมากับเรกกะ ทั้งยังแอบชอบฟูโกะ แถมยังเนื้อหอมในหมู่เด็กๆ อีกต่างหาก มีอาวุธอสูรประจำตัวคือ “แหวนพสุธา” ที่สามารถเพิ่มพละกำลังได้ “คุจิบาชิโอ” ที่มีความสามารถในการจับเป้าหมายและ “ลูกเหล็ก” ที่สามารถเปลี่ยนร่างกายให้กลายเป็นเหล็กได้
คิริซาว่า ฟูโกะ
Fūko Kirisawa (霧沢風子)
เด็กสาวที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กๆ ของเรกกะ ที่เป็นไม่เบื่อไม้เมากันมานาน ในตอนแรกเธอได้ถูกคาเงโฮชิชักพาให้เข้าไปสู่สังเวียนการต่อสู้ ซึ่งถูกเป็นจุดเริ่มของการเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ในงานประลองโลกมืด และนำไปสู่การต่อสู้กับสวรรค์มิคสัญญีที่กลายเป็นเทนโดจิโกคุในศึกสุดท้าย
เธอมีนิสัยเป็นสาวห้าว มีความมั่นใจในตัวเองสูง รวมไปถึงยังมีส่วนที่อ่อนหวานและน่ารักอยู่ไม่น้อย มีอาวุธอสูรประจำตัวคือ “ฟูจิน” กำไลที่ใช้พลังแห่งเทพวายุ และ “ชินเรียวชินโต” (ดาบเทวะชะตาเทพ) ที่มาความสามารถในการยืดความยาวของตัวดาบได้
มิคางามิ โทคิยะ
Tokiya Mikagami (水鏡凍季也)
เด็กหนุ่มผมยาวหน้าสวย ในอดีตเขาได้สูญเสียพี่สาวที่ถูกกลุ่มคนลึกลับ (กลุ่มอุรุฮะของคุเร) ฆ่าตายไปต่อหน้าต่อตา คราวแรกตัวเขาก็ได้ถูกคาเงโฮชิชักพาให้เข้าไปสู่สังเวียนการต่อสู้ด้วยเช่นเดียวกัน ตัวเขาได้ต่อสู้กับเรกกะเพราะต้องการที่จะแยกยานางิที่มีใบหน้าที่เหมือนกับพี่สาวของตัวเองที่ตายไปให้ห่างจากการต่อสู้ ซึ่งจนกระทั่งได้เขามาเป็นส่วนหนึ่งของทีมเงาอัคคีเข้าร่วมในงานประลองโลกมืด เพื่อออกตามหา “คนที่ฆ่าพี่สาวของตนเอง” จนได้ล่วงรู้ว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังนั้นเป็น “เมงูริ เคียวสะ” อาจารย์ของตัวเขาเอง ตัวเขาได้ร่วมในการต่อสู้กับพวกเรกกะเพื่อยับยั้งโมริ โครันที่ได้ปลุกสวรรค์มิคสัญญีที่กลายเป็นเทนโดจิโกคุในศึกสุดท้าย
เขามีนิสัยเป็นที่เย็นชา แต่ก็มีความรักพวกพ้องอย่างมาก อาวุธอสูรประจำตัวคือ “เอ็นซุย” ดาบที่สามารถเปลี่ยนน้ำให้กลายเป็นดาบได้ ทีท่าไม้ตายคือดาบน้ำแข็ง “เฮียวมง”
โคงาเนอิ คาโอรุ
Kaoru Koganei (小金井 薰)
เด็กผู้ชายที่ตอนแรกเขาเป็นกลุ่มอุรุฮะที่ทำงานให้กับคุเรในตอนแรก แต่กลับผิดใจกันจนได้เข้ามาร่วมกับพวกเรกกะและเข้าทีมเงาอัคคีในงานประลองโลกมืด ได้ร่วมในการต่อสู้กับพวกเรกกะเพื่อยับยั้งโมริ โครันที่ได้ปลุกสวรรค์มิคสัญญีที่กลายเป็นเทนโดจิโกคุในศึกสุดท้าย ซึ่งในตอนจบเขาได้ตามคุเรไปในโลกอดีตด้วยกัน
เขามีนิสัยร่าเริงเหมือนเด็กซน อาวุธอสูรประจำตัวคือ “อาวุธปริศนา” ที่สามารถเปลี่ยนรูปร่างได้ถึง 6 แบบด้วยกัน
คาเงะโฮชิ
Kage Hōshi (影子)
ผู้หญิงปริศนา เธอมีชื่อจริงว่า “คาเงโร่” (Kagerō =陽炎) ความจริงนั้นเธอคือแม่แท้ๆ ของเรกกะ ซึ่งเธอเองมีร่างกายที่เป็นอมตะ อันเป็นผลจากการใช้คาถา “แยกห้วงเวลา” ทำให้เธอคงทั้งอายุรวมถึงหน้าตายังคงเดิมเหมือนเมื่อช่วงสี่ร้อยปีก่อน และที่สำคัญตัวเธอไม่สามารถที่ตายได้ เธอได้ร่วมกับพวกเรกกะต่อสู้กับเทนโดจิโกคุในศึกสุดท้าย และสามารถถอนคำสาปที่ติดตัวเธอได้สำเร็จ (ผลมาจากการต่อสู้กับราเซ็นในศึกที่โซด้อม)
คุเร
Kurei (紅麗)
ชายสวมหน้ากาก ผู้นำกลุ่มของอุรุฮะ ซึ่งเขาคือ “ผู้เดินทางมาจากอดีตเมื่อสี่ร้อยก่อน” เช่นเดียวกันกับคาเงะโฮชิ ทั้งยังเป็นพี่ชายต่างแม่ของเรกกะ ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็น “ตัวกาลกิณี” ของตระกูลนินจาเงาอัคคี ในยุคนี้เขาถูกโมริ โครันรับเลี้ยงตนเองเป็นลูกบุญธรรม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ตัวเขาต้องทุกระทมอย่างมาก ทว่าสิ่งที่คอยยึดเหนี่ยวจิตใจของเขาในเวลานี้มีเพียงแค่สองคนคือ “สึกิโนะ” ผู้เป็นแม่เลี้ยง และ “คุเรไน” หญิงสาวที่เป็นลูกบุญธรรมของโมริ โครันอีกหนึ่งคน ความสัมพันธ์อระหว่างคุเรและคุเรไนได้มีมากขึ้นจนคุเรเริ่มที่จะเปิดใจให้ ทว่าโมริ โครันสังหารคุเรไน ก่อนที่คุเรจะใช้พลังไฟของตนเองจุติให้เธอกลายเป็นเปลวเพลิง
เขาได้จัดการประลองโลกมืดเพื่อวางแผนชิงเอาตัวยานางิมา ตามคำสั่งของโมริ โครัน นำทีมอุรุฮะต่อสู้จนมาเจอกับทีมเงาอัคคีในรอบสุดท้าย และก็พ่ายแพ้ไปในที่สุด แต่หลังจากจบศึกประลองโลกมืด เขาถูกโมริ โครันหักหลัง ด้วยความแค้นที่มี ทำให้เขาได้ออกตามล่าโมริ โครันที่กำลังออกตามหาสวรรค์มิคสัญญีและได้ต่อสู้กับเทนโดจิโกคุในศึกสุดท้าย ก่อนที่จะตัดสินใจใช้วิชาแยกห้วงเวลา เพื่อกลับไปทำหน้าที่ของตระกูลนินจาเงาอัคคีครั้งสุดท้าย
มีความสามารถในการใช้เพลิงและควบคุมไฟได้เหมือนกับเรกกะ และนำวิญญาณของคนตายมาสร้างเป็นเปลวไฟได้
โมริ โครัน
Koran Mori (森光蘭)
ชายผู้เป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยอย่างมาก ทั้งยังประกอบธุรกิจมืด เขาเป็นพ่อบุญธรรมของคุเร ผู้มีความละโมบอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เพื่อต้องการพลังแห่งความเป็นอมตะ จึงได้พยายามลักพาตัวยานางิ และออกตามหาอาวุธอสูรอย่างสวรรค์มิคสัญญี ก่อนจะได้รวมร่างเข้ากับสวรรค์มิคสัญญีและปลุกเทนโดจิโกคุ แต่สุดท้ายความหวังอันแสนโลบนั้นก็มลายหายสิ้นลงไปในศึกสุดท้าย
แปดมังกรเพลิง
คือพลังแห่งเปลวไฟที่สืบทอดได้เฉพาะในสายเลือดของตระกูลนินจาเงาอัคคี โดยตัวตนดั่งเดิมของมังกรเพลิงนั้นเป็น “มนุษย์” มาก่อน… ซึ่งได้ทำสัญญากับมังกรไฟเอาไว้เมื่อครั้งมีชีวิต ทว่าหากทำตามสัญญาไม่ได้แล้ว คำสาปของมังกรจะทำให้บุุคคคลนั้นเมื่อตายไปวิญญาณจะกลายเป็นมังกรเพลิงในที่สุด
ตามเนื้อหาแล้วมังกรเพลิงอยู่ในร่างกายของเรกกะมีทั้งหมด 8 ตน ดังนี้…
นาดาเระ
Nadare (崩)
หนึ่งในแปดมังกรไฟ ที่เรกกะได้นำมาใช้เป็นตนแรก มีรูปร่างแท้จริงเป็นนินจาหญิงสาว ความสามารถคือสร้างลูกไฟโจมตีใส่ศัตรูได้
ไซฮะ
Saiha (砕羽)
หนึ่งในแปดมังกรไฟ ที่เรกกะได้นำมาใช้เป็นตนที่สอง มีรูปร่างแท้จริงเป็นนินจาผู้ชาย ความสามารถคือสร้างดาบเพลิงได้
โฮมุระ
Homura (焔群)
หนึ่งในแปดมังกรไฟ ที่เรกกะได้นำมาใช้เป็นตนที่สาม มีรูปร่างแท้จริงเป็นนินจาผู้ชาย ความสามารถคือสร้างไฟรูปร่างที่เป็นแส้หรือกงจักร เสริมพลังในการต่อสู้ได้
เซสึนะ
Setsuna (刹那)
หนึ่งในแปดมังกรไฟ ที่เรกกะได้นำมาใช้เป็นตนที่สี่ มีรูปร่างแท้จริงเป็นนินจาผู้ชาย ซึ่งมังกรไฟตนนี้เป็นตัวที่ดุร้ายและควบคุมได้ยากมาก ความสามารถคือสร้างเปลวไฟเผาผลาญผู้ที่ได้มองจ้องที่ดวงตาของมัน
มาโดกะ
Madoka (円)
หนึ่งในแปดมังกรไฟ ที่เรกกะได้นำมาใช้เป็นตนที่ห้า มีรูปร่างแท้จริงเป็นนินจาผู้ชายอ้วนท้วม ความสามารถคือสร้างไฟที่เหมือนเกราะป้องกันการโจมตีทุกๆ รูปแบบได้
รุย
Rui (塁)
หนึ่งในแปดมังกรไฟ ที่เรกกะได้นำมาใช้เป็นตนที่หก มีรูปร่างแท้จริงเป็นนินจาหญิงสาวที่ดูพราวเสน่ห์และยั่วยวน ความสามารถคือสร้างภาพลวงตา แล้วตั้งคำถามเพื่อหลอกล่อให้หลงกล ก่อนที่จะถูกเปลวไฟแผดเผา
โคคู
Kokū (虚空)
หนึ่งในแปดมังกรไฟ ที่เรกกะได้นำมาใช้เป็นตนที่เจ็ด มีรูปร่างแท้จริงเป็นผู้เฒ่าตัณหากลับ ที่ชอบลวนลามสาวๆ ซึ่งในอดีตที่แท้จริงนั้น… เขาเป็นหนึ่งในผู้ที่สร้างอาวุธอสูรขึ้นมา ความสามารถคือการยิงเปลวไฟที่มีพลังทำลายที่สูงมาก
เรสึชิน หรือ เรกชิน
Resshin (裂神)
หนึ่งในแปดมังกรไฟที่เป็นตัวหัวหน้าในหมู่มังกรทั้งหมด ที่เรกกะได้นำมาใช้เป็นตนที่แปด มีรูปร่างแท้จริงเป็นนินจาผู้ชาย อดีตแท้จริงนั้นเขาเป็นผู้นำตระกูลนินจาเงาอัคคีรุ่นสุดท้าย ผู้เป็นพ่อของเรกกะ ที่ไม่อาจทำหน้าที่ปกป้องคนสำคัญอย่าง “เจ้าหญิงซากุระ” หรือก็คือยานางิในชาติก่อนได้สำเร็จ ก่อนที่ตนเองจะตายในการต่อสู้ ในศึกที่กองทัพของ “โอดะ โนบุนากะ” บุกเข้าตีหมู่บ้านตระกูลนินจาเงาอัคคี จนพินาศลงและหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์
ความสามารถคือการสร้างวิญญาณให้กลายเป็นเปลวไฟมีชีวิตได้
สวรรค์มิคสัญญี
คือสุดยอดอาวุธอสูรที่ฝ่ายนินจาเงาอัคคีไม่ยอมรับ สร้างโดย “ไคมะ” ผู้สร้างอาวุธอสูรสายมืด โดยสวรรค์มิคสัญญีนั้นเป็นอาวุธอสูรที่มีพลังวิญญาณในตนเอง หากรวมร่างกับผู้ที่เหมาะสมจะสร้างร่างที่เป็นสัตว์ประหลาดที่ไม่มีวันตาย และหากได้รวมร่างกับยานางิที่มีพลังศักดิ์สิทธิ์ด้วยแล้ว พลังจะยิ่งสมบูรณ์แบบมากขึ้น ซึ่งร่างอันเป็นการวิวัฒนาการที่แท้จริงนั้นมีชื่อเรียกว่า “เทนโดจิโกคุ”
ว่างๆ จะมาเขียนเพิ่มเติมนะครับ
miraclesaven
-
Blokees Saint Seiya – Star Edition : 1st [กล่องสุ่ม / ราคา / วันวางขาย / สั่งซื้อ]
#Blokees #SaintSeiya #Toys #Model #กล่องสุ่ม
-
ทำความรู้จักม้ามืดของปี 2024 Balatro: เกมไพ่ผสมกลยุทธ์สุดมันส์
#เกมส์ #เกมไพ่ #เกมกลยุทธ์ #เกมมือถือ
-
Dynasty Warriors: Origins [สั่งซื้อเกมถูก , PS5, Xbox Series,PC]
วีรบุรุษไร้นาม จะลุกขึ้นต่อสู้ในโลกของสามก๊ก