ทำความรู้จักเหล่า “Flagship” จากอนิเมะกันดั้มจักรวาล Universal Century Part 1
09 ธันวาคม 2564 01:01 น.
Share on FacebookTweet about this on TwitterShare on Google+

 

flagship-universal-century-part-1 (1)

“Flagship” หรือ เรือธง เป็นเรือรบ (ยานรบ) ที่เป็นเหมือนหัวใจของกองทัพในยามสงคราม นอกจากจะเป็นเรือรบที่เต็มไปด้วยอาวุธ กำลัง เทคโนโลยีที่จะล้ำหน้ากว่าเรือลำอื่นๆแล้ว ยังเป็นเรือที่จะได้รับการปกป้องคุ้มครองอย่างหนาแน่นมากที่สุด

 

สำหรับบทความในวันนี้ ผมจะพามาทำความรู้จักเหล่าเรือธง แห่งจักรวาล UC ที่ได้ออกมาโชว์ตัวให้พวกเราเห็นกันในอนิเมะกันดั้มในช่วง UC.0079 – UC.0088

 flagship-universal-century-part-1 (2)

ในอนิเมะกันดั้ม เราอาจจะมองว่า เรือธงประจำภาค จะมีบทบาทสำคัญ และโดดเด่นที่สุดในสงครามครั้งนั้นด้วย

 

 

 

 

flagship-universal-century-part-1 (3)

SCV-70 White Base

เรือธงแห่งสหพันธ์โลกในช่วงสงคราม 1 ปี อันแสนจะคลาสสิคจากภาค Mobile Suit Gundam … “ไวท์ เบส” เป็นยานรบชั้น Pegasus (Pegasus-class) ที่ได้รับฉายา หรือชื่อเล่นจากฝั่ง Zeon ว่า “ม้าโทรจัน” เนื่องจากว่ายานลำนี้ไม่ถูกบันทึกเอาไว้ในฐานข้อมูลของฝั่งซีออนมาก่อน และมีรูปร่างที่มีขายื่นออกมาอย่างน่าประหลาด

 

flagship-universal-century-part-1 (4)

เอกลักษณ์อันแสนน่าจดจำของไวท์เบสก็คือการที่ยานลำนี้เป็น เรือธง หรือยานหลักสำหรับการบรรทุกเหล่าโมบิลสูท และไฟท์เตอร์แห่ง “Project V” อันได้แก่ RX-75 Guntank, RX-77 Guncannon และ RX-78 Gundam รวมไปถึงยานไวท์เบสด้วย เรียกได้ว่านี่เป็นโปรเจ็กต์ที่ฝั่งสหพันธ์ตั้งขึ้นมาเพื่อหวังเอาชนะเทคโนโลยีโมบิลสูทที่ฝั่ง Zeon ทำขึ้นมาได้ก่อนนั่นเอง

 

 

 flagship-universal-century-part-1 (6)

สำหรับอาวุธของยาน White Base เรียกได้ว่าครบเครื่อง พร้อมรบแทบทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น 2 Barrel-Main Gun ที่ติดตั้งอยู่ด้านหน้าของสะพานเดินเรือ (Bridge), Twin Mega Particle Cannon ที่ติดตั้งด้านข้างของยานทั้งสองข้าง , Missile Launcher รวมไปถึงปืนกลต่อต้านอากาศยาน

 

 

flagship-universal-century-part-1 (1)flagship-universal-century-part-1 (7)

นี่คือภาพลายเส้นรายละเอียดภายในสะพานเดินเรือของ White Base ซึ่งผมว่านี่คือยานลำหนึ่งที่มีพื้นที่ภายในสะพานเดินเรือที่กว้างเอามากๆ จากมุมมองของผมที่ได้เห็นมาจากในอนิเมะ

flagship-universal-century-part-1 (2)

นอกจากเรื่องของความกว้างแล้ว ก็มีเรื่องของการออกแบบ ลักษณะโครงสร้างของสะพานเดินเรือ ที่เรียกได้ว่าไม่ซ้ำใคร และไม่มีใครซ้ำเลย

 

ยาน White Base ต้องมาถึงจุดจบในช่วงสิ้นสุดของสงคราม 1 ปี ยานลำนี้ทำหน้าที่ของเธอได้ดีที่สุดจนต้องยกย่องให้เป็นหนึ่งในตำนานแห่งศักราชอวกาศ ด้วยผลงานการฝ่าฟันสนามรบต่างๆทั้งบนโลก และอวกาศ

flagship-universal-century-part-1 (3)

White Base ได้รับความเสียหายอย่างหนัก และระเบิดภายในฐานทัพ A Baoa Qu ซึ่งเป็นสนามรบด่านสุดท้ายของสงคราม 1 ปี

 

flagship-universal-century-part-1 (8)

โดยในตอนที่ 7 ของ Mobile Suit Gundam Unicorn (OVA) บานาจ และ ฟูล ฟรอนทัล ก็ได้พาผู้ชมทุกท่านเดินทางข้ามกาลเวลามาเห็นวาระสุดท้ายของยาน White Base อีกครั้งหนึ่ง

 

 

สายกันพลา และของสะสมต้องหยุดดูตรงนี้นิดนึง เพราะอยากจะบอกว่า White Base ก็ได้มีสินค้าพลาสติกโมเดลผลิตออกมาเหมือนกันนะ

 

flagship-universal-century-part-1 (9)

1/1200 White Base (1980): box art

 

 

flagship-universal-century-part-1 (10)

Gundam Collection 1/400 SCV-70 White Base (2003): box art

 

 

flagship-universal-century-part-1 (4)

1/1700 SCV-70 White Base (2006): box art

 

 

 

flagship-universal-century-part-1 (11)

Great Degwin

ตัดภาพมาที่อีกฝั่งของสงคราม 1 ปีกันบ้าง “Great Degwin” เรือธงแห่ง Zeon ถูกบรรจุอยู่ในเรือชั้น Gwazine (Gwazine-class) ที่มีบทบาทในสนามรบคล้ายกับยานชั้น Megallan ของฝั่งสหพันธ์ แต่บอกเลยว่ายานใน Gwazine-class นั้นมีสเป็คที่สูงกว่าหลายด้านเลย

 

 

flagship-universal-century-part-1 (12)

ยานชั้น Megallan ของฝั่งสหพันธ์

 

Great Degwin นั้นถูกตั้งชื่อตามผู้นำสูงสุดของ Zeon ในช่วงสงคราม 1 ปี“เดกวิ้น ซาบี้” นั่นเอง หากว่ากันตามสเป็คแล้ว ยานชั้น Gwazine นั้นถือเป็นยานรบที่อยู่ใน Tier สูงที่สุดในช่วงสงคราม 1 เลย สูงเกินกว่ายานชั้น Pegasus (White Base) ของฝั่งสหพันธ์ไปอีกด้วยซ้ำ

 

flagship-universal-century-part-1 (13)

ในเรื่องอาวุธก็จัดใหญ่ มีทั้ง Double-barreled mega particle cannon ขนาดใหญ่ที่ถูกติดตั้งอยู่บริเวณด้านบนของตัวยาน พ่วงมากับการติดตั้ง Double-barreled mega particle cannon ขนาดเล็กอีกกว่า 10 กระบอกรอบตัวยาน รวมไปถึง Machine Gun ที่ขาดไม่ได้เลย

 flagship-universal-century-part-1 (5)

แต่อีกหนึ่งจุดที่โดดเด่นไม่น้อยไปกว่าเรื่องอาวุธของยาน Gwazine-Class ก็คือเรื่องของ การบรรทุกโมบิลสูทนั่นเอง ยานรบในชั้นนี้สามารถแบกโมบิลสูทได้ทีเดียวถึง 20 เครื่อง

 

flagship-universal-century-part-1 (14)

ยานใหญ่และขนของหนักขนาดนี้ก็ต้องมีผลเสียกันบ้าง    ด้วยความที่ต้องการพลังงานที่สูง Gwazine-class นั้นจำเป็นต้องมีการติดตั้ง “ถังพลังงานเสริม” วัตถุทรงกลมที่ติดตั้งอยู่บริเวณท้ายยานนั่นแหละครับ 

 

flagship-universal-century-part-1 (15) flagship-universal-century-part-1 (17)

ภาพ Sketch ของยานชั้น Gwazine จากภายนอก และภายในสะพานเดินเรือ

 

flagship-universal-century-part-1 (18)

ยาน Great Degwin ที่มีท่านผู้นำอย่าง Degwin Zabi เดินทางไปด้วย ถูกทำลายล้างโดยอาวุธ “Solar Ray” ไปพร้อมๆกับยานของ General Revil ที่กำลังเจรจาสงบศึกกันอยู่ ซึ่งคนที่สั่งยิงกลับเป็นลูกชายแท้ๆของ เดกวิ้น อย่าง “กิเรน ซาบี้”

 

 

ในส่วนของพลาสติกโมเดล แน่นอนว่าเคยถูกผลิตออกมาแล้ว ถูกผลิตออกมาตั้งแต่ปี 1983 เรียกว่าเป็นของเก่าที่แทบจะหาซื้อไม่ได้แล้ว

 

flagship-universal-century-part-1 (19)

1/2400 Original Degwin (1983): box art

 

 

 

 

 

flagship-universal-century-part-1 (20)

Argama-class

Argama หรือ ยานชั้น Argama (Argama-Class) เป็นยานรบที่ถูกพัฒนาอย่างลับๆที่โคโลนี่ Sweetwater ด้วยความร่วมมือกันของ Anaheim Electronics และ AEUG ออกปฏิบัติการครั้งแรกในปี UC 0087 ( ภาค Z นั่นเอง )

 

flagship-universal-century-part-1 (21)

จุดเด่นของยาน Argama ก็คือ “Rotating Module”  ส่วนของยานที่สามารถยื่นออกไปด้านข้างได้ และหมุนรอบตัวยานในแนวตั้ง ซึ่งใช้สำหรับการจำลองแรงโน้มถ่วงภายในยาน คนเคยดูภาค Zeta ต้องเคยเห็นมาก่อนแน่นอน

 

 

ในเรื่องอาวุธก็ประกอบไปด้วย Single Barrelled Cannon จำนวน 4 กระบอก, Mega Particle Cannon, Missile Launcher และที่เจ๋งสุดคือ “Hyper Mega Particle Cannon” ซึ่งถูกติดตั้งเพิ่มเข้ามาในช่วงสงคราม Neo Zeon ครั้งที่ 1 (ภาค ZZ)

 

flagship-universal-century-part-1 (22)

ภาพ Sketch บริเวณภายในสะพานเดินเรือของยาน Argama

 flagship-universal-century-part-1 (23)

 

Mobile Suit Deck หรือพื้นที่จอดโมบิลสูท

 

 

flagship-universal-century-part-1 (6)

Argama มาพร้อมกับการติดตั้งระบบ “Ballute” ที่จะปลดปล่อยร่มสำหรับการป้องกันความร้อน ใช้สำหรับการเข้าสู่ชั้นบรรยากาศเพื่อลงไปสู่โลก ความหมายอีกอย่างก็คือ ยาน Argama ก็เป็นยานอีกลำหนึ่งที่ปฏิบัติการได้ทั้งบนโลก และอวกาศ

 

flagship-universal-century-part-1 (24) 

ในด้านของพลาสติกโมเดล ยาน Argama ก็ได้มีของสะสมมาขายกับเขาตั้งแต่ปี 1985 นู้นเหมือนกัน

 

flagship-universal-century-part-1 (25)

และถัดมาก็ถูกผลิตในไลน์  EX Model ในปี 2006

 

 

 

flagship-universal-century-part-1 (26)

Dogosse Giar-class

ยานชั้นโดโกสเกียร์ หรือ Dogosse Giar-class นั้นถูกผลิตออกมาเพียงแค่ 2 ลำเท่านั้น ลำแรกก็คือ “โดโกสเกียร์” ยานที่ถูกใช้งานเป็นเรือธงของ “Titans” ในภาค Zeta และ “General Revil”  ยานอันเลื่องชื่อของสหพันธ์ ก็เป็นยานรบในชั้นโดโกสเกียร์นี้อีกด้วย

 

flagship-universal-century-part-1 (7)

General Revil

 

ยาน General Revil ยังปรากฏในเห็นยาวไปถึงภาค Unicorn รวมถึง Narrative เลย ซึ่งนี่สะท้อนให้เห็นว่ายานรุ่นนี้เป็นรุ่น Top Tier ชั้นนึงเลยก็ว่าได้

 

 flagship-universal-century-part-1 (8)

 

สิ่งที่บ้าคลั่งมากๆสำหรับยานชั้นนี้ก็คือ การที่มีจำนวนคาตาพัลท์ (Catapult) สำหรับปล่อยโมบิลสูทเยอะมาก แถมจำนวนโมบิลสูทที่บรรทุกได้ก็เหลือล้น

 

ยาน โดโกสเกียร์นั้นมีคาตาพัลท์จำนวน 12 ช่อง และบรรจุโมบิลสูทได้ที่ 20 ตัว

ยาน เจเนรัล เรวิล มีคาตาพัลท์จำนวน 16 ช่อง และสามารถบรรจุโมบิลสูทได้ถึง 48 ตัว !!

 

flagship-universal-century-part-1 (27)

เรื่องอาวุธ ใครเคยดูภาค Unicorn และ Narrative มาแล้วอาจจะจำภาพการระดมยิงของยานลำนี้ได้ ปืนแต่ละอย่างนี่จัดมาเต็มไม่น้อยหน้าใคร Long Range Mega Particle Gun 4 กระบอก, Twin Mega Particle Gun 2 กระบอก, Secondary Mega Particle Gun อีก 4 กระบอก, Anti-Air Machine Gun 32 กระบอก และ Missile Launcher อีกมหาศาล

 

flagship-universal-century-part-1 (9) flagship-universal-century-part-1 (10)

flagship-universal-century-part-1 (28)

ภาพ Sketch ภายในสะพานเดินเรือของยานชั้น Dogosse Giar

 

 

 

 

 

 

 

flagship-universal-century-part-1 (29)

Gwanban-class

เรือธงของฝั่ง Axis Zeon ที่ปรากฏครั้งแรกในภาค Zeta หลังจากที่ Gwadan-class นั้นถูกทำลายลงไป ยานลำนี้ถูกพัฒนาต่อมาจาก Gwazine-class (ยาน Great Degwin) โดยที่ตัวยานนั้นมีขนาดที่เล็กลง แต่ถึงอย่างนั้นก็มีช่วงท้ายของยานที่ใหญ่ ทำให้พื้นที่ของโรงเก็บโมบิลสูทนั้นใหญ่พอที่จะบรรยุ Queen Mansa หรือ Neue Ziel ได้เลย

 

flagship-universal-century-part-1 (11)

สำหรับเรื่องอาวุธ ยานชั้น Gwaban นั้นประกอบด้วย Mega Particle Cannon จำนวน 3 กระบอก และ Single Barreled Cannon อีก 6 กระบอก

 

 

 

 

 

flagship-universal-century-part-1 (30)

SCVA-76 Nahel Argama

Nahel Argama (เนล อาร์กามา) ปรากฏตัวครั้งแรกในภาค ZZ ในฐานะยานของ AEUG และภายหลังได้อยู่ภายใต้สังกัดของ “Londo Bell” ตามที่เราได้เห็นกันในภาค Mobile Suit Gundam Unicorn  

 

 

flagship-universal-century-part-1 (31)

Nahel Argama เป็นยานที่ Anaheim Electronics และ AEUG สร้างขึ้นโดยพัฒนาจาก Argama และตั้งใจให้ยานลำนี้ได้ขึ้นเป็นเรือธงแทนที่ของ Argama  ซึ่งแน่นอนว่ายานลำนี้มีทั้งอาวุธที่หนักแน่นยิ่งขึ้น ความจุโมบิลสูทที่สูงขึ้น แถมยังมีการติดตั้งแผงโซลาร์สำหรับการสร้างพลังงานสำรองอีกด้วย

 

flagship-universal-century-part-1 (12)

อาวุธของยานลำนี้ ได้แก่ Twin Beam Cannon, Single-Barrel Beam Cannon, Secondary Beam Cannon, Sub Mega Particle Cannon, Anti-Air Machine Gun และปืนพลังทำลายล้างสูงอย่าง Hyper Mega Particle Cannon ซึ่งถ้าใครได้ดูภาค ZZ และ Unicorn ไปแล้วคงได้เห็นพลังของปืนใหญ่กระบอกนี้แล้ว เพียงแต่ว่ามันก็มีข้อเสียของมันก็คือการชาร์จพลังงานที่กินเวลาพอสมควร

 flagship-universal-century-part-1 (13)

ขอเสริมนิดนึงว่า หลังจากที่ Nahel Argama นั้นได้มาอยู่ภายใต้สังกัดของ Londo Bell ก็ได้ถูกอัพเกรดด้วยนะ หลักๆก็คือการเปลี่ยน-เพิ่มอาวุธ และการที่สามารถบรรจุโมบิลสูทได้เพิ่มขึ้น 4 เครื่อง (จาก 12 เป็น 16)

 

 flagship-universal-century-part-1 (14)

Hyper Mega Particle Cannon ของยาน Nahel Argama จากภาค Unicorn

 

 

 

 

 

 

 flagship-universal-century-part-1 (32)

Sadalahn-class

เรือธงของฝั่ง Neo Zeon ในช่วงเวลาของสงคราม Neo Zeon ครั้งที่ 1 (ภาค ZZ) มาพร้อมกับ twin Mega Particle Cannons 6 กระบอก, large mega particle cannons 2 กระบอก, missile launchers และ anti-air laser guns อีกจำนวนมาก พูดได้ว่ายานชั้น Sadalahn นั้นเป็นหนึ่งในยานที่กำลังรบแกร่งที่สุดในช่วงเวลาภาค ZZ เลย

 

และด้วยการติดตั้งระบบ Minovsky Craft สำหรับใช้ขับเคลื่อน รวมถึง Ballute ที่ใช้กันความร้อนขณะลงสู่โลก ทำให้ยาน Sadalahn นั้นมีความสามารถที่จะลงไปสู่โลก และปฏิบัติการบนโลกได้อย่างไม่มีปัญหา

 

flagship-universal-century-part-1 (33)

ภาพ Sketch ภายในสะพานเดินเรือของยานชั้น Sadalahn

 

flagship-universal-century-part-1 (34)

ภาพ Sketch ภายในโรงเก็บโมบิลสูทของยานชั้น Sadalahn

 

สำหรับบทความ “Flagship เรือธงสงคราม แห่งจักรวาล UC Part 1” ก็ขอจบลงเพียงเท่านี้ก่อน Part ต่อไปเราจะเริ่มขยับไปดูเหล่าเรือธงในช่วงเวลา สงคราม Neo Zeon ครั้งที่ 2 เป็นต้นไป (UC.0093  – )

 

ในความเป็นจริงแล้ว ช่วงเวลาระหว่าง 0079 – 0088 นั้นยังมีเรือธงที่น่าสนใจเหลืออยู่อีก

 

 

เช่น ยานชั้น Birmingham จากภาค 0083 Stardust Memory, Gwaden และ Jupitris จากภาค Zeta

 

แต่หยิบมาเท่านี้บทความก็ยาวมากๆแล้ว

 

ถ้ามีโอกาสจะเก็บตกให้ในภายหลัง ขอบคุณที่ติดตามอ่านบทความนี้ครับ

 

 

 

- บทความโดย NuthSWR