Final Fantasy VII Remake

Final Fantasy VII : Remake [Review / เนื้อเรื่องย่อ / ตาราง / Materia / Trophy / Odd Jobs ]
ประเภท : Action / RPG
เครื่อง : PS4
วันวางจำหน่าย  10 เมษายน 2020
พัฒนาโดย : Square Enix

 

 

 

 

 

 อ่าน “Tifa Final Fantasy 7 remake” ถูกค้นหาในเวปไซท์18+ มากถึง 7000% !!!

Battle System Guide / เทคนิคการควบคุม  / ค่า Status / Staggered คืออะไร?  /  Weapon Abilities + Upgrading Weapon

Battle Intel Reports  / Odd Jobs เควสท์เสริมสำหรับคนว่างงาน!

 

ตารางยังไม่สมบูรณ์ 100% ไว้จะมาอัพเดทในภายหลัง

ตารางอาวุธ พลังโจมตี และช่องใส่มาทีเรีย / ตารางกำไลข้อมือ (เครื่องป้องกัน) + ตารางเครื่องประดับ และผลเมื่อสวมใส่ 

ตารางมาเทเรียในเกม / รายชื่อถ้วย Final Fantasy VII Remake Trophies

 

 

 

 

———————————-

 

 

 

 

 

เกมนี้คือ!?

 

Final Fantasy VII (ファイナルファンタジーVII) แต่เดิม เป็นเกมแนว RPG สร้างขึ้นโดยบริษัทสแควร์ (Square Enix ในปัจจุบัน) วางขายในช่วงปี พ.ศ. 2540 โดยถือว่าเกมนี้ จัดเป็นเกมภาคแรกในชุด “ไฟนอลแฟนตาซี บน PS1 ” และ “PC” นอกจากนี้ ยังเป็นภาคแรกที่ทีมงานกระโดดมาจับงานเกมในรูปแบบกราฟิก สามมิติ ทั้งตัวละครและฉาก ทำให้เกมๆนี้สามารถถ่ายทอดเนื้อหา บรรยากาศได้ดีกว่าเกมในยุคเดียวกัน ที่ยังเป็นภาพ2Dแบบเก่าอยู่…

 

 

 

 

 

 

 

เนื้อเรื่อง

ในเมืองใหญ่อันหนาวเหน็บ ที่เต็มไปด้วยเสียงเครื่องจักรทำงานตลอด 24ชม. เมืองที่พร้อมไปด้วยทุกสิ่งอย่าง และเจริญในด้านวัตถุถึงขีดสุด

 

หญิงสาวขายดอกไม้คนหนึ่ง ได้พยายามที่จะทำหน้าที่ขายดอกไม้ …ราวกับย้ำเตือนถึง “ชีวิต” … ในเมืองที่ไร้ซึ่งชีวิตชีวานี้

สายลมที่พัดโหม ได้พาเอาเรื่องราวอันแสนซับซ้อน และน่าค้นหา มารวมกันในเมืองที่ไม่เคยหลับแห่งนี้…เมืองที่มีชื่อว่า “มิดการ์”

 

 

เนื้อหาของเกมนี้จะเล่าถึง “คลาวด์ สไตรฟ์” ทหารรับจ้าง ที่รับงานจากกลุ่ม “อวาลานช์” (AVALANCHE) ที่ต่อสู้กับบริษัทนายทุนยักษ์ใหญ่ “ชินระ คอมปานี” (Shin-Ra Company) ที่ร่ำรวย เติบโตจากการค้นพบ “พลังงานมาโค” (mako energy) ซึ่งเป็นพลังงานที่ได้มาจากการสกัดสสารสีเขียวทีมาจากแกนโลก มาทำ “มาทีเรีย” (Materia) ซึ่งทำให้มนุษย์มีพลังเวทมนตร์ ซึ่งนั่น ก็ทำให้บ.ชินระ สามารถผลิตนักรบเหนือมนุษย์ขึ้นมาเรียกว่า “โซลเยอร์” (SOLDIER) ต่อมาได้มีการส่งกองกำลังทหารนี้ออกมาเพื่อยุติความขัดแย้งระดับโลกที่ยืดเยื้อมากกว่าสองสามปีได้อย่างรวดเร็ว จนทำให้บ.ชินระซึ่งมีทั้งพลังงานมาโกและมาทีเรีย ได้เป็นผู้ครอบครองโลกนี้กลายๆ

 

กลับกัน กลุ่มอวาลานช์ ที่นำโดย “แบร์เรตต์”   นั้นคิดว่า ถ้าบ.ชินระยังคงใช้พลังงานจากแกนโลก คือ “การดูดพลังงานของโลกให้หมดไปอย่างช้าๆ” ผลลัพธ์สุดท้ายจะทำให้ชีวิตทุกชีวิตบนโลกดับสลายลง จึงลงมือทำการขัดขวาง ด้วยการวางระเบิดเตาปฏิกรณ์มาโคหมายเลข 1  พวกเขาวางระเบิดดังกล่าวได้สำเร็จ แต่ทว่าความเสียหายจากเตาระเบิดนั้นมากเกินไป ซึ่งตามแผนเดิมของแบร์เรตต์คือการวางระเบิดแค่ให้เตาหยุดทำงาน แต่กลายเป็นว่า ประธานชินระ สั่งระเบิดเตาทิ้งทั้งหมด จนความเสียหายลุกลามไปถึงตัวเมืองเขต 8 รอบนอก เพราะถือว่าไหนๆก็จะเสียเตาแล้ว ก็เอาให้สุดทางไปเลย พร้อมกับออกข่าวว่าทั้งหมดเป็นฝีมือของกลุ่มก่อการร้าย อวาลานช์ แล้วก็ลอยตัวเหนือปัญหาไป 

 

(ในภาคดั้งเดิมPS1  “เจซซี่” เป็นคนสร้างระเบิดที่ผิดสูตร จนมีความรุนแรงสูง และทำให้เตาระเบิด ความเสียหายลุกลามไปที่บ้านเรือน แต่ในรีเมคเหมือนกับจะลดความผิดให้เจซซี่ และให้ชินระเป็นวายร้ายจริงๆในมุมผู้เล่นนั่นเอง…)

 

 

ระหว่างหลบหนี คลาวด์ได้พบกับภาพหลอนของชายคนหนึ่ง ที่มีลักษณะผมยาว พร้อมความทรงจำที่ขาดหาย ภาพหลอนนี้ได้คอยติดตามคลาวด์ไปทุกที่ จนกระทั่ง เขาได้พบกับ “สาวขายดอกไม้” ที่ถูก “พลังงานบางอย่างติดตามตัวเธอ” แถมยังถูกทางชินระไล่ล่า จนไม่มีเวลาถามถึงเรื่องประหลาดที่เกิดขึ้น ทั้งคู่แยกจากกัน คลาววด์ได้รวมกับทีมอวาลานช์อีกครั้งที่รถไฟขากลับไปยังสลัมเขต 7 …

 

 

เจซซี่ – “ทั้งเมืองของมิดการ์ จะประกอบด้วย “แกนกลาง”และ “เตาปฏิกรณ์” ล้อมทั้งแปดด้าน ทําหน้าที่ผลิตพลังงานให้กับตัวเมือง และผู้คนที่อาศัยในนี้ โดยแต่ละเตาจะมีสิ่งที่เรียกว่า “เพลท” หรือ ส่วนพักอาศัยของชนชั้นกลาง และผู้มีฐานะ ที่สร้างบนแผ่นเหล็กโครงสร้างสูง 300 เมตรครอบทับแต่ละเมือง ในอดีต แต่ละเมืองจะมีชื่อเรียก แต่การมาของชินระ ที่เข้ามาจัดการระบบการปกครองและเศรษฐกิจ เราเลยเรียกเมืองต่างๆเป็นเขต ตามด้วยตัวเลขต่อท้ายแทน…รถไฟที่เรานั่งนี้ ก็จะวิ่งผ่านจุดสแกนรหัสประจำตัวประชาชน ที่สามารถตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคล ข้อมูลต่างๆตามที่ลงทะเบียนไว้ ผู้โดยสานแต่ละครจะมีฐานข้อมูลตรงนี้ในส่วนการจัดเก็บของธนาคาข้อมูลของมิดการ์” 

 

ในที่สุด รถไฟก็มาถึงสลัมเขต 7 ชาวบ้านที่ดูข่าวการระเบิดเตาหมายเลข 1 ต่างก็มีเสียงวิจารณ์ไปต่างๆนาๆ บ้างก็สะใจ บ้างก็วิตกเรื่องไฟฟ้าไม่พอใช้ หลากหลายทางความคิด คลาวด์ได้พบกับ “ทีฟา” เพื่อนสนิทของคลาวด์ เจ้าของบาร์เหล้า Seventh Heaven ที่ตั้งใจกลางสลัมราวกับเป็นแหล่งพักใจของชนชั้นรากหญ้าที่เหน็ดเหนื่อยกับการใช้ชีวิตได้พักผ่อนหย่อนใจ…หลังจากได้รับเงินค่าจ้างที่ไล่ทวงกับแบร์เรตต์หลายครั้ง คลาวตั้งใจจะจากไป แต่ทีฟาพยายามให้คลาวด์เข้ากลุ่มอวาลานช์ โดยยกเรื่องคำสัญญาที่คลาวด์เคยรับปากกับทีฟาเมื่อครั้งยังเป้นเด็กว่า เขาจะต้องปกป้องเธอจากเรื่องร้ายๆ…คลาวด์ตัดสินใจอยู่ต่อ โดยขอขึ้นค่าแรงจาก 1500 gil เป็น 3000 gil ซึ่งคลาวด์ก็ยอมใจอ่อนลดราคาเหลือ 2000 gil เพราะบาร์เรตต์เองก็ใช่ว่าจะมีเงินมากมาย…

 

เจซซี่มีดีลบางอย่างกับคลาวด์ เธอได้มอบ มาธีเรียอัญชิญมนต์อสูร “อีฟริท” ให้เขา โดยแลกกับการที่เขาจะต้องไปยังเพลทของเขต 7 ด้วยกันกับพวกของเธอในคืนนั้น…เจตนาของเจซซี่คือ “กลับไปยังบ้านของเธอ” แล้วไปเอาไอดีการ์ดพนักงานชินระของพ่อเธอที่กำลังป่วยติดเตียงไม่สามารถทำงานได้  โดยให้คลาวด์เข้าไปทางหลังบ้าน เมื่อได้การ์ดแล้ว เจซซี่ บริกซ์ และ เวดจ์ ก็เดินทางไปยังโกดังของชินระ

ทั้งหมดทั้งมวลที่ทำมา ก็เพื่อให้เจซซี่ เข้าไปเอาส่วนประกอบทำระเบิดลูกใหม่ สำหรับการก่อการร้ายครั้งต่อไปนั่นเอง ทั้งหมดสามารถทำภารกิจลุล่วงไปได้ดี และโดดร่มจากเพลท ลงสู่สลัมเขต 7 อย่างปลอดภัย…

 

 

เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากจบงานของเจซซี่  ระหว่างที่คลาวด์หลับพักผ่อน เขาก็ต้องตื่นขึ้นเพราะการบุกของเหล่า “วิสเปอร์” สิ่งลี้ลับที่วนเวียนอยู่รอบๆสลัมเขต 7 พวกมันยกขโยงมากันเป้นกองทัพ พวกของแบร์เรตต้านเอาไว้ได้ แต่เจซซี่ได้รับบาดเจ็บจนไม่สามารถทำภารกิจต่อไปได้ คลาวด์จึงมาแทนเจซซี่ในแผนลอบวางระเบิดเตาปฏิกรณ์มาโคหมายเลข 5…

 

ในคืนก่อเหตุ คลาวด์ , ทีฟา , แบร์เรต สามารถเข้าไปวางระเบิดได้สำเร็จ แต่ขากลับก็ถูกประธานชินระจับได้ เขาส่งหุ่นยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดของชินระ Air Buster เข้าโจมตีทั้งสามคน และยังกดระเบิดเตาทิ้ง พร้อมสร้างข่าวใส่ความอวาลานช์อีกครั้ง การต่อสู้กับ Air Buster จบลง แต่ด้วยแรงระเบิดของเตา คลาวด์ถูกซัดจนตกลงไปยังหลังคาโบสถ์ของสลัมเขต 5 ที่ๆเป็นเหมือนกองขยะเศษซากจากสงครามครั้งก่อน…

 

 

คลาวด์ได้พบกับสาวขายดอกไม้อีกครั้ง คราวนี้เธอแนะนำตัวว่าเธอชื่อ “แอริธ” ทั้งสองคนที่ได้พบกัน ก็ถูกขัดจังหวะโดย “เรโน่” คนของหน่วย “TUSK”(ทัคส์) หน่วงงานลับของชินระที่คอยทำงานสกปรกให้บริษัท รวมไปถึงการตามหาคนที่มีความสามารถในการเป็นโซลเยอร์อีกด้วย… คลาวด์สามารถเอาชนะเรโน่ได้ และหลบหนีการตามล่าออกมายังสลัมเขต 6 คลาวด์ได้เข้าช่วยเหลือผู้คนที่กำลังเดือดร้อนที่นั่นจากเรื่องสัพเพเหระจนใกล้ค่ำ แอริธได้ชวนเขามาที่บ้านเพื่อพักซักคืน แต่คลาวด์ถูกแม่ของแอริธขอร้องให้ออกไปในคืนนั้น คลาวด์ที่ตั้งใจจะกลับสลัมเขต 7 ก็ถูกแอริธที่หนีออกมาจากบ้านตามมาด้วย…ทั้งสองได้มีโอกาสคุยกันมากขึ้น และก็ได้รู้เรื่องราวของแอริธที่เคยมีคนรักเป็นโซลเยอร์มาก่อนด้วย…

 

ในขณะที่กำลังจะแยกย้าย คลาวด์ ก็เห็น ทีฟา ในรถลากโจโคโบะ ที่กำลังมุ่งหน้าไปยัง Wall Market  สถานเริงรมย์แดนเถื่อนไร้กฎหมายที่อยู่จุดกึ่งกลางของเขต 6 และ 7  คลาวด์จึงตัดสินใจตามทีฟาไป และก็พบว่าที่ทีฟายอมเข้าไปในเมืองเพื่อพบกับหัวหน้าแก๊งมาเฟียตัวพ่ออย่าง ดอน คอเนโอ ที่ทีฟาสงสัยว่า เขาคือคนที่อยู่เบื้องหลังการดักจับกลุ่มอวาลานช์หลังจากการระเบิดเตาหมายเลข 5 ซึ่งช่วงที่คลาวด์ไม่อยู่  ในที่สุด ทั้งสามที่ลงทุนปลอมตัวเป็น “เจ้าสาว” ก็ได้เค้นเอาข้อมูลสพคัญว่า ทางชินระ มีแผนที่จะทำลายสลัมเขต 7 ด้วยการปล่อยเพลตร่วงลงมา เพื่อตอบโต้การทำลายเครื่องปฏิกรณ์ของกลุ่มอวาลานช์ แต่ทีฟายังไม่แน่ใจนัก 

 

จนกระทั่งขากลับออกจาก Wall market การต่อสู้ของอวาลานช์ กับชินระ ได้เริ่มขึ้นที่เสาแกนกลางของเพลทเขต 7 บริกส์ กับ เจซซี่ สละชีพตัวเองเพื่อต่อสู้กับทหารของชินระจนวาระสุดท้าย ที่ยอดเสา คลาวด์ , ทีฟา และ แบรเรตต์ก็ได้มารวมตัวกันเพื่อต่อสู้กับทักส์ ที่มาพร้อมกันทั้ง “รู้ด” และ “เรโน” แต่สุดท้ายทั้งสามคนก็ล้มเหลว…เพลทเขต 7 ร่วงลงสู่สลัมอันเป็นบ้านเกิดของพวกเขา

 

 

ทั้งสามคนที่หลบหนีมาได้ ก็ได้ข่าวว่า แอริธถูกทางชินระจับตัวไป แลกกับความปลอดภัยของลูกสาวแบร์เรตต์  ทำให้ตอนนั้นทุกคนได้รู้ความจริงว่า แอริธไม่ใช่ลูกแท้ๆของแม่เธอ แต่เป็นเด็กที่เก็บมาเลี้ยง เพราะแม่แท้ๆของแอริธนอนตายอยู่ข้างสถานีรถไฟเขต 6 และยังเป็น “เผ่าแม่มดโบราณ” คนสุดท้ายที่เหลือรอดที่ทางชินระต้องการตัว ทำให้ชินระไม่กล้าแตะ หรือทำอะไรที่เป็นประสงค์ร้ายต่อแอริธมากนัก เป็นการดีกว่า ถ้าแอริธไปอยู่กับชินระ อีกทั้งหน่วยทักส์ก็ดูแล และรู้จักกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว

 

เมื่อเป็นเช่นนี้ แบร์เรตต์ คลาวด์ และทีฟา จึงตัดสินใจกลับไปยังสลัมเขต 7 ที่กลายเป็นซาก เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิต หรือหาพรรคพวกที่ยังรอดอยู่ ที่สลัมเขต 7 ทีฟาได้เห็นแมวของเวดจ์ที่ได้นำพวกเขาไปยังชั้นใต้ดินของสลัม เป็นห้องปฏิบัติการวิจัยใต้ดินของชินระ สถานที่ๆพวกเขาไม่คิดมาก่อนว่าชินระจะสร้างเอาไว้…และที่นั้นพวกเขาก็ได้พบกับพวกมนุษย์กลายพันธ์ และการทดลองมนุษย์เพื่อกระทำการบางอย่าง ที่คลาวด์เองก็คุ้นกับภาพนั้น…

 

(มันคือการทดลองสร้างโซลเยอร์นั่นเอง ซึ่งตัวประหลาดที่เห็นในนี้ คือความผิดพลาดของการทดลอง รวมไปถึงพวกมนุษย์หัวโล้นมีรอยสักตัวเลขที่แขน ร่างโคลนของเซฟิรอธที่ผิดพลาด)

 

และด้วยห้องทดลองที่พวกเขาค้นพบ ทำให้พวกเขาแทรกซึมเข้าไปในสำนักงานใหญ่ของชินระ และเข้าช่วยเหลือแอริธออกมาได้ และยังได้พบกับฝูงวิสเปอร์ และ  Red XIII ที่ถูก ดร.โฮโจ นักวิทยาศาสตร์ของชินระจับมาทดลอง โดย Red XIII อธิบายว่า ฝูงวิสเปอร์ที่พวกเขาได้เห็นเมื่อไม่นานมานี้  คือ “สิ่งที่ทำหน้าที่ไม่ให้ไทม์ไลน์ผิดเพี้ยน” เส้นทางแห่งโชคชะตาที่โลกได้กำหนดเอาไว้ การมีตัวตนของพวกมัน สำคัญมาก คนที่ตายเมื่อยังไม่ถึงเวลาก็จะกลับมา เพื่อแก้ไขความเบี่ยงเบนของเวลานั่นเอง 

 

 

ในตอนนั้น เซฟีรอธ ชายผมยาวที่คลาวด์เห็นบ่อยๆในภาพหลอน ก็มีตัวตนอีกครั้ง คราวนี้เขาได้มาขโมยการทดลอง “Jenova” (เจโนว่า) จากชินระ โดยตัวของเจโนว่านี้ คาดว่าจะเชื่อมโยงกับการสูญพันธุ์ของแม่มดโบราณ และตัวเจโนว่า ก็ถูกเซฟิรอธกับคลาวเรียกว่า “แม่” ด้วย…

 

 

ในการเผชิญหน้าครั้งใหญ่ที่ด้านบนสุดของสำนักงานใหญ่ชินระ เซฟิรอธ ได้ลงมือสังหารประธานชินระ พร้อมกับลงมือฆ่าแบร์เรตต์ (แต่วิสเปอร์มาชุบชีวิตให้) อาคารชินระถูกเหล่าวิสเปอร์ดูดกลืน พวกของคลาวด์ได้เดินทางหลบหนีด้วยทางหลวงของมิดการ์

 

แต่ที่นั้น เซฟิรอธได้รอต้อนรับ พร้อมบอกกับพวกของคลาวด์ว่า ตัวเขาอาจจะมาจากเส้นทางไทม์ไลน์อื่น หรือจักรวาลที่ขนานกัน เซฟิรอธได้สร้างภาพหลอนบางอย่างของโซลเยอร์นิรนามให้คลาวด์ได้เห็น (แซค จาก Crisis Core: Final Fantasy VII) พร้อมกับเปิดวาร์ป…

 

“ชั้นรอนายอยู่นะ…คลาวด์”

 

แอริธได้เข้าไปย้ำว่า ถ้าคลาวด์เข้าไปยังวาร์ปนั้น มันจะเป็นจุดที่พลิกผันและไม่สามารถกลับมาเป็นดังเดิมได้  แต่ก็จะเป็นการกำหนดชะตาด้วยตัวเองได้ถ้าทำสำเร็จ

 

พวกของคลาวด์ที่เข้าไป ก็ได้พบกับ “วิสเปอร์รีบรัม” “วิสเปอร์เวอร์ดี” และ “วิสเปอร์คอร์ซิโอ” ที่มีอาวุธและรูปลักษณ์ที่พยายามจะคล้ายกับ คลาวด์ , ทีฟา และ แบร์เรตต์  อีกทั้งยังพบกับ “วิสเปอร์ฮาร์บริงเกอร์” วิสเปอร์ขนาดใหญ่ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นเทพที่ควบคุมชะตากรรม กับ “วิสเปอร์บาฮามุท” 

 

สุดสายปลายทางหลังจากเอาชนะเหล่าวิสเปอร์ได้ คลาวด์ได้เข้าปะทะกับเซฟิรอธ และเขาก็หนีไปได้…

 

ในเวลานี้ ไทม์ไลน์ของโลกได้รับการแก้ไข คนที่ตายได้ฟื้นคืนชีพ 

 

“รูฟัส” ลูกชายประธานชินระ ได้ขึ้นมารับช่วงต่อกิจการจากพ่อ

 

แซค แฟลร์ โซลเยอร์ที่เคยตายจากสงครามคั้งก่อน ก็กลับมามีชีวิตในช่วงเวลานั้น 

 

บริกส์ ที่ตาย ก็ฟื้นคืนชีพ อดีตได้รับการแก้ไขแล้ว… 

 

แต่เซฟิรอธยังคงลอยนวล และเป็นภัยต่อโลก พวกของคลาวด์จึงตัดสินใจออกตามล่าเซฟิรอธต่อไป… 

 

“อีกนิด…อดทนอีกนิดน่า คลาวด์ เราเกือบถึงแล้ว…”

 

 

 

 

 

——————————————————

 

 

“Final Fantasy 7 Remake  คืออีกไทม์ไลน์หนึ่งที่ขนานกับภาค PS1″

(เขียนขึ้นตามความเห็นแอดมินเท่านั้นไม่ได้เป็น Fact แต่อย่างใด)

 

ไฟนอลแฟนตาซี 7 รีเมค มาถึจุดที่สามารถสร้างประเด็นใหม่ๆในการนำเสนออีกครั้ง กับการเล่นเรื่อง “ไทม์ไลน์ที่ถูกแก้ไข” ทำให้เหล่าแฟนๆพากันสับสน งุนงง และอาจจะถึงขั้น “อิหยังหวะ?” ในหัวขึ้นมาเลย เพราะตอนจบของเกมนี้มีความคลุมเครือและมีความสับสนให้ได้พูดถึงกันหลังจากเล่นจบ

ถ้าเอาแบบง่ายๆ เหมือนเรากำลังนั่งดู “หนังโรงอีวานเกเลี่ยนฉบับตีความใหม่” ที่ไม่ได้ยึดโยงกับของเดิมเลย เราจะเห็นว่าในช่วงแรก ตัวเกมรักษาบรรยากาศของไฟนอล 7 ดั้งเดิม เพื่อไม่ให้หลุดจากขนบเดิม แต่ในช่วง Chapter สุดท้าย ตัวเกมได้ทวีความพีค และทำในสิ่งที่เหมือนชกเข้าที่ท้องคนเล่นอย่างจัง เมื่อมีตัวละครพยายามนำเสนอว่า “เหตุการณ์ทั้งหมดมันสามารถแก้ไขได้” และ “เลือกที่จะทำลาย” เหล่าผู้คุมโชคชะตาอย่าง “วิสเปอร์” 

วิสเปอร์ เราสามรถพบเจอได้ตลอดทั้งเกม Final Fantasy 7 Remake และเราได้รับรู้แล้วว่าพวกเขามีตัวตนอยู่เพื่อพยายามทำให้เนื้อหาในเกมนั้นตรงกับ Final Fantasy 7 แบบดั้งเดิม ตัวอย่างเช่น พวกเขาช่วยฟื้นคืนชีพแบเรตต์ หลังจากถูกเซฟิรอธฆ่าตาย ซึ่ง เหตุการณ์นั้นมันไม่เคยเกิดขึ้นในเกมเวอร์ชั่นดั้งเดิม…

 

สถานะของพวกเขาในฐานะ “ผู้พิทักษ์ไทม์ไลน์”  ได้รับการยืนยันในภายในเกมเมื่อ Red XIII อ้างถึงพวกเขาในฐานะ “Arbiters of Fate” และแสดงให้เห็นว่าพวกวิสเปอร์นั้นเป็นกลาง ที่พร้อมจะเป็นมิตร และศัตรูได้ทุกเมื่อ เช่นในตอนท้ายเกมที่มาพร้อมกัน 4 ตัว ทั้งวิสเปอร์ยักษ์ และ วิสเปอร์ที่เหมือนจะเป็นตัวแทนของ คลาวด์ , ทีฟา และแบเรตต์ ในจักรวาลแยกย่อยอื่นๆ 

 

 

แม้ว่าเนื้อเรื่องหลายๆจุด จะไม่ถูกหยิบยกมาพูดคุยกันในเกมเวอร์ชั่นรีเมคเลย แต่ “การรอดของแซค” ก็ทำให้ความรู้สึกที่ว่าตัวเกม ได้กำลังจะเดินทางเข้าไปสู่เนื้อหาใหม่ๆที่ไม่เคยเห็นมาก่อนได้ชัดมากขึ้น (ถ้ายังจะสร้างต่อ…)

 

จากฉากเดิมๆของ แซค ปะทะกับ ทหารของชินระ ใน Crisis Core: Final Fantasy VII ในเครื่อง PSP จะเป็นฉากที่โคตรสะเทือนใจ แต่ทว่าเมื่อไทม์ไลน์ได้รับการแก้ไข หลังจากผู้คุมชะตาได้ถูกพวกคลาวด์กำจัดในเวอร์ชั่นรีเมค นั่นก็นำไปสู่คำถามในหัวที่ว่า  ถ้าเป็นเช่นนั้นเขาอยู่ที่ไหน? และ เขาจะกลับมาอยู่กับคลาวด์ในการผจญภัยในอนาคตมั้ย? 

 

 

เป็นอะไรที่น่าติดตามมากๆ และคาดว่า ภาค ต่อที่ทำออกมาหลังจากนี้ (ถ้าทำ)

 

“ก็จะต้องตอบคำถามเหล่านี้ให้ได้ “

 

————————

 

 

 รีวิว 10/10 Rank S

เนื้อเรื่อง 3/3 เกมเพลย์ 3/3 , งานภาพ 3/3 , ความชอบ 1/1

(ถ้าไม่อินกับไฟนอล ไม่เคยเล่นมาก่อน หักในส่วนเนื้อเรื่อง -1 เหลือ 9/10) 

(หลงไหลในทีฟา แอริธ และ เจสซี่ ให้+เพิ่มไปอีก 300 คะแนน 555+)

 นี่คือไฟนอลแฟนตาซี 7 ฉบับเติมเต็มความฝันของเด็กยุค PS1 โดยแท้จริง!

 

 ในยุคที่มีเกมรีเมคสร้างใหม่ด้วยเทคโนโลยิปัจจุบัน กำลังทยอยเข้าสู่ตลาดให้เหล่าหนุ่มน้อยในอดีตได้หวนระลึกถึงเกมในวันวาน และเกมหนึ่งที่หลายคนตั้งความหวังเอาไว้ นั่นก็คือ ไฟนอลแฟนตาซี 7 ฉบับรีเมค ที่หลายคนรอมานานถึง 5 ปีนับตั้งแต่วันประกาศโปรเจคท์ครั้งแรกในปี 2015 วันที่หุ่นค่าย Square Enix พุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์ และทำเอาสื่อโซเชียลในเวลานั้นลุกเป็นไฟ! และหลังจากรอคอยมาอย่างยาวนาน เกมนี้ก็ทำออกมาได้ “สมกับการรอคอย!” และเป็น “สุดยอดเกมไฟนอลแฟนตาซีอันดับ 2″  ที่เป็นรองแค่ “ไฟนอลแฟนตาซีภาค 6 “ ในความรู้สึกของแอดมินเท่านั้น…เพราะอะไร? 

 

ในด้านเนื้อเรื่อง ทุกบทสนทนา ทุกการนำเสนอ ทุกการเล่าเรื่อง ล้วนมีนัยยะสำคัญ มีหลายอย่างที่สอดแทรกเข้ามาให้เหล่าแฟนเดนตายได้ค้นหา ตีความ และนำไปสู่การถกเถียงกันในประเด็นใหม่ๆ เกมนี้แม้ว่าจะมีเนื้อหาเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของ ไฟนอลแฟนตาซี 7 เท่านั้น (วนอยู่ในมิดการ์ทั้งเกม ตีเป็น % ของภาคดั้งเดิมนี้ยังแค่ 10% ของเนื้อเรื่องเองนะ!) การเล่าเรื่องในเวอร์ชั่นนี้ จะค่อนข้างเร็วจุดที่สำคัญ และ ยืดในจุดที่เคยละเลยไปในเวอร์ชั่นต้นฉบับ 

 

เช่นกลุ่ม อวาลันช์ ที่มีสมาชิกตัวประกอบที่หลายคนไม่เคยจำ แต่ในภาคนี้ ตัวละครประกอบที่ทำมาเพื่อให้ถูกลืมในวันนั้น มันมีตัวตน มีเสน่ห์ มีเรื่องราวเชิงลึกถึงชีวิต ลักษณะนิสัย การพูดจาต่างๆถูกถ่ายทอดออกมาให้เหมือนเป็นกลุ่มเพื่อนพระเอกที่มีบทโดดเด่นอย่างมากในช่วงแรกของเกม  เราสามารถยิ้มเมื่อตัวละครมีความสุข และเศร้าจนจุกอก…จนร้องไห้ไปกับตัวละครเหล่านั้น….และตัวเกมยังพยายามจะเอาความเชื่อมโยงไปยังภาคก่อนๆ หรือผลงานเก่าๆที่เคยทำมา เอามาขมวดปมใหม่ให้น่าสนใจยิ่งขึ้น เอาเป็นว่า ขอไม่สปอยล์มากกว่านี้ แต่เชื่อว่า ถ้าใครที่เคยเล่น และอิ่่มกับเรื่องราวของไฟนอล 7 ต้นฉบับ ในเวอร์ชั่นนี้คุณจะรู้สึกเลยว่า “เห้ย ยังไม่อิ่มเลย” และ คิดถูกแล้ว ที่พวกเขา (Square Enix) แบ่งพาร์ทเกมนี้แบบแยกขาย!

 

คือถ้าเป็นอาหาร ก็ต้องบอกว่า เป็นอาหารที่มีหน้าตาดูดี วัตถุดิบเยี่ยม มันดีมากจนเราอยากจะกินอีก เราไม่รู้สึกอิ่มกับการนำเสนอของเกมนี้เลย ทั้งที่มันก็ไม่ได้น้อยนะ มันเยอะ แน่น แต่ไม่พอ เราอยากให้ภาคต่อออกมาวันพรุ่งนี้เลยได้ไหม? 555+

 

เกมเพลย์ในเวอร์ชั่นนี้ถูกปรับให้เป็นเกมแอคชั่นผสมวางแผนคำสั่ง…อืม…ก็ไม่แปลกถ้าคนจะแซวขำๆว่าเป็น Kingdom Heart 7 Remake เพราะองค์ประกอบการปะทะกัน การหยุดเพื่อวางแผนหาทางเอาชนะ และภาพรวมหลายๆอย่างมันชัดเจนมาก ว่าได้ Ref มาพอสมควร ตัวเกมเล่าเรื่องเป็นเส้นตรง ซึ่งแตกต่างจาก FFXV ที่เป็นเกม RPG Openworld (ในช่วงแรก และช่วง 2 …จุดนั้นต้องบอกว่าไฟนอล XV ทำดีโคตร ที่เหลือก็ “ตามนั้น”อะนะ) แต่ตัวเกมก็ยังคงพยายามหาอะไรให้ผู้เล่นได้ออกนอกเส้นทาง หรือเถลไถล ด้วยเควสท์ย่อย ทั้งไอเทมสวมใส่ มาทีเรียบางอย่าง หรือแม้แต่มนต์อสูส ก็อาจจะต้องเสียเวลาเล่นเพื่อเอามาครอบครอง รวมไปถึง Endgame Content ที่มีโหมดความยากระดับ HARD ให้ได้เล่นกัน (มีถ้วยให้ปลดด้วย)

 

 

โดยรวมคือดูดี มีอะไรให้ทำเยอะครับ มินิเกมบางอันก็โคตรติงต๊อง แต่ออกแบบได้ดีมากๆ เพราะมีรางวัลแสนเย้ายวนใจ ให้ผู้เล่นได้เห็นมุม “ตลกหน้าตาย” ของพระเอกเป็นระยะๆ  จริงๆแล้วเราคิดถึงเกม “YAKUZA” มากกว่านะ เควสท์สัพเพเหระมาก…

 

 

 

ส่วนงานภาพ เอาจริงๆก็มีปัญหาด้านเทคนิคประปรายบ้าง เช่นอาการ Texture หยาบไปบ้าง ฉากหลังดูหลอกๆในระยะไกล ที่ชัดสุด คือ สวนดอกไม้ของแอริธ ที่พอเราซูมดูจริงๆ จะพบว่ามันเป็น ดอกไม้ดินน้ำมัน (รายละเอียดหยาบไปหน่อย) แต่ดีที่บรรยากาศ และบทสนทนา เพลงประกอบ พร้อมเทคนิคหลายๆอย่าง ทำให้เรารู้สึก “หยวนๆ” มันไป เพราะมันก็ไม่ได้มีบ่อยๆ หรือหลุดมาเยอะจนน่ารำคาญขนาดนั้น

 

แต่ถ้าดูในส่วนอื่นๆ เช่นการเอามูฟวี่คัตซีน กับเกมเพลย์เนียนเป็นเนื้อเดียวกันได้ แถมเฟรมเรทแทบไม่ร่วงเลย (เล่นบน PS4 Pro) ก็จัดว่าไม่ธรรมดาเหมือนกัน ทุกพลังของ PS4 ถูกใช้อย่างเต็มที่ ใช้ยันรูขุมขนของตัวละครในระยะซูมหน้า  แสงและเงาจัดเต็มมาก ทั้งเรื่องการลอดผ่านของแสง การจัด Contrast การเล่นกับฟิลเตอร์ต่างๆที่แสดงถึงอารมณ์ของซีนนั้นๆ 

 

 

เอาเป็นว่า ถ้าคุณเคยประทับใจกับ ไฟนอลแฟนตาซี 7 เมื่อ 20 ปีที่แล้ว…

หรือคุณคือคนรุ่นใหม่ที่อยากสัมผัสว่าคนสมัยนั้นเขาชอบเกมนี้ยังไง

จัดมาเล่นได้ครับ

เป็นเกมที่ดูทรงแล้วทีมงานคงคิดมาเยอะมาก

จนบางทีรู้สึกว่า 1890 บาทที่จ่ายไปนั้นถูกมาก ถ้าเทียบกับคุณภาพเกมขนาดนี้!

 

 

———————————————————

 

 

 

 

Gameplay

“เทตสึยะ โนมุระ” Director ของเกมนี้เคยได้ให้สัมภาษณ์กับทางนิตยสาร Dengeki ว่า  “เป็นเรื่องของการเก็บรายละเอียดของ Midgar ที่ลงลึกขึ้น พื้นที่ที่สามารถสำรวจก็จะมีมากขึ้น (explorable 3D environment) มันจะเป็นเกมที่มากกว่าการทำให้คนนึกถึงอดีตยุค90 แต่จะเป็นเกมที่มอบประสปการณ์ใหม่ๆให้ผู้เล่น ที่ชัดที่สุดคือ ระบบการต่อสู้ในภาค Remake นี้จะแตกต่างจากของเดิมพอสมควร”

 

 

Battle System Guide 

ระบบการต่อสู้ของ FF7 Remake เป็นการผสมผสานระหว่างการต่อสู้แบบเรียลไทม์และวางแผนผู้เล่นสามารถโจมตี หลบ และป้องกันอย่างรวดเร็วแบบเรียลไทม์ (ผู้เล่นบางคนเล่นเหมือน Dark Soulsเลยก็มี กลิ้งหลบรัวๆ 55+) เมื่อผู้เล่นเปิดหน้าต่างคำสั่ง ก็จะเข้าสู่โหมดวางแผน และการต่อสู้จะช้าลง ในตอนนี้ผู้เล่นก็จะสามารถสั่งให้ตัวละครของใช้ความสามารถและไอเท็มได้ รวมไปถึงการ วิเคราะห์จุดอ่อนและรูปแบบของแอคชั่นศัตรู

 

เกจ ATB  หัวใจของ FF7 

ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไหร่ เกจ  ATB  ยังคงสำคัญเสมอ ตัวเกมเวอร์ชั่นนี้ก็เช่นกัน เกจดังกล่าว จะเป็นตัวกำหนดว่าถึงเวลาที่จะใช้สกิล ไอเทม หรือแอคชั่นอะไรก็ตามแล้วหรือยัง ซึ่งเมื่อเกจ ATB เต็ม เราสามารถกดปุ่ม  เพื่อป้อนคำสั่งได้ ซึ่งเราก็จะพบกับหน้าต่าง Tactical แบบนี้ 

นอกจากนี้ ยังมีคำสั่ง Summon Ablity ซึ่งจะเป็นการสั่งให้มนต์อสูรโจมตีด้วยท่าต่างๆ แต่ก็จะแลกกับการหายไปของเกจมนต์อสูรที่จะลดลงอย่างรวดเร็ว และเมื่อเกจมนต์อสูรหมดลง ก็จะเป็นการให้มนต์อสูรใช้ท่าไม้ตายสุดยอด ก่อนที่จะหายตัวไป…

 

Battle System: Classic Mode

ในโหมดคลาสสิกสมาชิกในปาร์ตี้จะทำหน้าที่อัตโนมัติโดยใช้เกจ ATB ในโหมดนี้ผู้เล่นทำแค่เลือกสกิล เวทมนตร์ และไอเท็ม แต่เอาจริงๆ ไม่แนะนำให้ใช้ เพราะAi ในเกมไม่ได้ฉลาดขนาดหลบหลีก หรือหาจังหวะเข้าโจมตีเหมือนเล่นเอง.. ถ้าไม่พอใจก็สามารถเปลี่ยนกลับไปใช้การควบคุมโดยตรงได้ตลอดเวลา โดยการกดปุ่มบนจอยเกมนั่นเอง

 

***ใครขี้เกียจเล่นตัวละครสลับไปๆมาๆหลายตัว (แบบ FFXV) ก็สามารถเล่นแค่คลาวด์ก็ได้ ซึ่งคลาวด์สามารถ“ โจมตี” ด้วยดาบในระยะใกล้ได้ด้วยปุ่ม  และสร้างคอมโบโดยกดซ้ำๆ เป็นจังหวะ นอกจากนี้ยังกดค้างเพื่อชาร์จจังหวะสั้นๆได้ด้วย …. ในส่วนของปุ่ม   จะเป็นการเปิดใช้งานความสามารถพิเศษของตัวละครแต่ละตัว โดยความสามารถพิเศษของคลาวด์ คือ “การสลับไปมาระหว่างสไตล์การต่อสู้ที่แตกต่างกัน” เขาสามารถสลับระหว่าง “ Operator Mode” ซึ่งมีความสมดุลที่ดีระหว่างการโจมตีและการป้องกันและ “Punisher Mode” ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การโจมตีอย่างรุนแรง แต่ในโหมด Punisher ความเร็วในการเคลื่อนที่ของคลาวด์จะลดลง ซึ่งในระหว่างโหมดนี้การโจมตีด้วยปุ่ม   พื้นฐาน จะได้รับการอัพเกรดเป็นท่าที่ทรงพลังกว่าปกติ

 

 

 

 เทคนิคการควบคุมคลาวด์ 

-กดปุ่ม ค้าง  เพื่อเพิ่มระยะโจมตี เมื่อถูกรุม หรือจำนวนมอนสเตอร์เยอะในฉาก
-พยายามใช้ปุ่ม  เปิด Punisher Mode  เน้นพลังโจมตีเป็นหลัก และเติม เกจ ATB ให้เร็วขึ้น
-ฝึกใช้ Counter Blow ให้คล่อง เมื่อศัตรูโจมตี(กายภาพ) ใส่ ถ้ากด R1 ยกการ์ดเมื่ออยู่ใน Punisher Mode ก็จะเป็นการสวนกลับ และทำให้ Stagger gauge หรือเกจล้มหมดสภาพของศัตรูเต็มเร็วขึ้น

-กลิ้งหลบบ่อยๆ ตีสองสามทีควรโยกหลบได้แล้ว ไม่ควรบวก ลดโอกาสการถูกโจมตี และโดนตีเบาใกล้เคียงกับการยกการ์ด

 

 

เทคนิคการควบคุมแบร์เรต

-กดปุ่ม ค้าง  เพื่อยิงรัวๆ และสลับยิง Overcharge  ด้วยปุ่ม   

-ใช้สกิลบัฟ Steel Skin เสริมพลังป้องกัน และหาจังหวะกลิ้งหลบบ้าง และไม่ควรบวกตรงๆกับตัวที่ใชเวทย์ เพราะพลังป้องกันเวทย์พื้นฐานค่อนข้างต่ำ

-ถ้าเจอตัวบินได้ แบร์เรตควรเป็นตัวละครที่จะจัดการกับพวกมันมากที่สุด

 

 

 เทคนิคการควบคุมทีฟา

-ทีฟาเป็นตัวละครสายความเร็ว ควรเน้นไอเทมสวมใส่ที่พลังป้องกันสูง “เราจะโยกให้ทีฟาเป็นตัวแทงก์ของทีม” เพราะท่าของทีฟา มีระยะโจมตีสั้นกว่าคลาวด์ และท่าคอมโบค่อนข้างต่อเนื่อง ทำให้ต้องวิ่งเข้าหาศัตรูเป็นคนแรกๆ และยังสามารถ Burst ดาเมจในระยะเวลาสั้นๆได้

-พยายามใช้ท่าบัฟเสริมพลัง Unblided Strenght เพราะจะทำให้ท่าคอมโบปุ่ม   เปลี่ยนไป

Unblided Strenght 1 ครั้ง +ปุ่ม   = จะได้ท่า Omnistrike ไหล่กระแทก ดาเมจสูง ศัตรูกระเด็น

Unblided Strenght 2 ครั้ง +ปุ่ม   = จะได้ท่า Rise and Fall ท่ากระโดดเตะสร้างความเสียหายต่อเนื่อง เพิ่มโอกาส Stagged 

 

 

 เทคนิคการควบคุมแอริธ

 -หน้าที่หลักของแอริธ คือการเป็นตัวบัฟ และฮีลให้ทีม วิธีที่จะเร่งเกจ ATB ของแอริธให้เต็มเร็ว ก็จะมีท่า Tempest กดปุ่ม   ค้าง จะชาร์จพลังแล้วยิงกระสุนเวทมนตร์ออกไป รอ2วินาที จะสร้างดาเมจต่อเนื่องได้ เกจ ATB ก็จะเต็ม

-ท่าที่มีประโยชน์มากๆของแอริธก็คือท่าฮีลหมู่ ใช้ 2 เกจ ATB 

-เมื่อปลดล๊อกท่า  Arcane Ward ได้ จะเป็นประโยชน์มาก เพราะจะทำให้คนที่อยู่ในระยะบัฟนี้สามารถร่ายเวทย์ได้สองครั้งโดยไม่ใช้เกจ ATB 

 

 

 

 ค่า Status 

ค่าพวกนี้จะเปลี่ยนแปลงไปตามอาวุธที่ถือ หรือไอเทมที่สวมใส่

 

Attack - ค่าพลังโจมตีกายภาพของอาวุธ

Magic - ค่าพลังโจมตีเวทมนตร์ของอาวุธ ฮีลแรง เวทย์แรงก็ขึ้นกับค่านี้

Defense  - ค่าพลังป้องกันของไอเทม
Magic Defense  - ค่าพลังป้องกันเวทของไอเทม
Strength - เพิ่มพลังโจมตีของตัวละคร
Magic - เพิ่มพลังโจมตีเวทมนตร์ของตัวละคร
Vitality -เพิ่มพลังป้องกันตัวละคร
Spirit -เพิ่มพลังป้องกันเวทตัวละคร
Speed - เพิ่มความเร็วเกจ ATB ของตัวละคร
Luck - เพิ่มค่าคริติคอล และการขโมยไอเทมจากมอนสเตอร์ด้วยสกิล Steal 

 

 

Staggered

“โดนซัดจนล้ม!” นี่คือคำจำกัดความง่ายๆของสถานะนี้ เมื่อผู้เล่นโจมตีศัตรูอย่างหนัก และต่อเนื่อง ก็จะมีเกจสีส้มขึ้นใต้แถบ HP ศัตรู เมื่อตีจนเกจสีส้มเต็ม ก็จะสามารถสร้างความเสียหายเพิ่มขึ้นตามจำนวนเปอร์เซนต์ที่แสดงผล ซึ่งวิธีการเติมเกจที่ว่า นอกจากการโจมตีต่อเนื่องแล้ว “การทำให้ศัตรูกระเด็น” และ”ใช้เวทย์บางอย่างที่แพ้ทางกัน ” ก็สามารถทำให้เกิดสถานะนี้ได้เช่นกัน

ตัวเลขดาเมจก็จะเป็นสีส้มด้วย!

 

 

 

 

Weapon Abilities

อาวุธทุกชิ้น มีสกิลเฉพาะตัวติอดมาให้เสมอ ผู้เล่นที่ต้องการสกิลใหม่ๆเฉพาะตัว ก็ให้สวมใส่อาวุธชิ้นนั้นๆ  ใช้สกิลที่ติดมากับอาวุธบ่อยๆ ค่า “ความชำนาญ” หรือ Procifiency ก็จะเพิ่มชึ้น เมื่อค่าความชำนาญเต็ม สกิลของอาวุธชิ้นนั้นก็จะติดตัวผู้เล่นไป  ทีนี้พอใส่อาวุธอะไร สกิลอาวุธเก่าก็สามารถใช้งานได้ด้วย

 

 

Upgrading Weapon

ระบบอัพเกรดอาวุธในเกมนี้ ไม่ต้องหาวัตถุดิบอะไรให้มากความ แค่คุณถืออาวุธชิ้นนั้นๆ และใช้มันเป็นประจำ ก็จะได้แต้มปลดล็อกความสามารถที่ซ่อนอยู่ใน Core Materia ของอาวุธนั้นๆ ซึ่งผู้เล่นจะสามารถปลดล็อกทักษะใหม่ของอาวุธโดยใช้ SP (แต้มทักษะ) ที่มาจากการอัพเลเวล โดย 1 เลเวล จะได้ 5 Sp 

ตัวอย่างเช่น Sonic Striker ถุงมือของทีฟา 

 

เบื้องต้น จะมี Core Materia ประจำอาวุธ 3 ลูก (แล้วแต่อาวุธด้วย) และจะแตกแยกย่อยไป ซึ่งนั่นก็คือ Option อาวุธนั่นเอง ถ้าอัพหมด ก็จะมีออฟชั่นอาวุธที่ยาวมากๆนั่นเอง

 

Mini Game ปาลูกดอก

ที่บาร์ Seventh Heaven จะมีมุมปาลูกดอก อยู่ ผู้เล่นจะต้องปาลูกดอกให้แต้มลดลงเหลือ 0 คะแนนโดยใช้ลูกดอกให้น้อยที่สุด (แอดมินทำได้ 6 ดอก) เมื่อขึ้นกระดานเป็นอันดับ 1 ได้ ให้ไปคุยกับ Wedge แล้วเขาจะให้ Luck Up Materia เป็นรางวัล 

ทริค กะจังหวะให้วงเล็งบีบแคบให้เล็กที่สุด โดยก่อนหน้าให้ประคองอนาล๊อกซ้ายให้อยู่ใกล้ๆเป้ากลางเอาไว้ เมื่อเป้าหดก็ปาได้เลย ลองเล่นบ่อยๆจะจับจังหวะได้เอง

 

 

 

 

 

 

 

 

Battle Intel Reports

Chadley  เด็กหนุ่มที่ทำการวิจัยด้านการต่อสู้ของเหล่าผู้คนกับมอนสเตอร์ในเมืองรอบๆมิดการ์ และเขาได้มอบเควสท์ให้คลาวด์ และพรรคพวกได้ทำ โดยจะมีมาทีเรียพิเศษมอบให้ รวมไปถึงการวางขายมาทีเรียใหม่ๆ และการปลดล๊อกมาทีเรียมนต์อสูร โดยมนต์อสูรขั้นสุดยอดทีี่แชดลีย์จะมอบให้ก็คือ Bahamut บาฮามุท นั่นเอง ส่วนมากเควสท์ของแชดลีย์จะทำผ่านได้ด้วยการต่อสู้กับมอนสเตอร์ทั่วๆไป หรือการสู้บอส ขอแค่ทำตามเงื่อนไขที่กำหนดเท่านั้น ซึ่งไม่ง่ายอย่างที่เห็นแน่นอน!

 

 Battle Intel Reports 01  Monster Bio Pt 1 

เงื่อนไข: สแกนศัตรู 2 ประเภทด้วยท่า Asset  -  รางวัล: Auto-Cure Materia

 

Battle Intel Reports 02 Magic Elements Pt. 1 

เงื่อนไข: โจมตีศัตรูที่มีธาตุไฟ น้ำแข็ง หรือ สายฟ้า ด้วยเวทมนต์ที่แพ้ทางอย่างละ1ตัว  / รางวัล: Wind Materia

 

 Battle Intel Reports 03 The Stagger Effect Pt 1

เงื่อนไข: ใช้ความสามารถพิเศษ Ability กับศัตรูที่อยู่ในสถานะ  Stagger และชาร์จเกจ ATB 10 ครั้ง / รางวัล: First Strike Materia

 

 Battle Intel Reports 04 The Stagger Effect Pt 2 

เงื่อนไข: Stagger ศัตรู 15 ครั้ง / รางวัล: ATB Boost Materia

 

 Battle Intel Reports 05 Combat Simulation: Shiva 

เงื่อนไข: เอาชนะ Shiva / รางวัล: Shiva  Materia

 

 

Battle Intel Reports 06 Monster Bio Pt 2 

เงื่อนไข : สแกนศัตรู 10 ประเภทด้วยท่า Asset  / รางวัล: Staterfast Block Materia

 

 Battle Intel Reports 07 Magic Elements Pt. 2

 เงื่อนไข: ใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนของศัตรู 15 ชนิด / รางวัล: Steal Materia

 

 

 Battle Intel Reports 08 The Manipulation Technique

 เงื่อนไข: กำจัดศัตรู 2 ตัว หรือมากกว่าด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว / รางวัล: Provoke Materia

 

 Battle Intel Reports 09 Monster Variants Pt. 1 

เงื่อนไข: กำจัดมอนสเตอร์ 3 สายพันธุ์ที่ไม่ซ้ำกัน / รางวัล: Synergy Materia

 

 

 Battle Intel Reports 10  Combat Simulation: Fat Chocobo 

เงื่อนไข: เอาชนะ Fat Chocobo Materia  / รางวัล: Fat Chocobo Materia

 

 

 Battle Intel Reports 11  Monster Bio Pt 3 

เงื่อนไข:  สแกนศัตรู 20 ประเภทด้วยท่า Asset/ รางวัล: Master Item Materia

 

 

 Battle Intel Reports 12 The Stagger Effect Pt 3

 เงื่อนไข: เพิ่มโบนัสความเสียหาย Stagger เป็น 200% / รางวัล: Parry Materia

 

 

 Battle Intel Reports 13 Refocus Analysis

เงื่อนไข: ใช้งาน Refocus 2 ครั้ง / รางวัล: ATB Assist Materia

 

 Battle Intel Reports 14The Stagger Effect Pt 4 

เงื่อนไข: Staggerศัตรู 40 ครั้ง  / รางวัล: ATB Stagger Materia

 

 Battle Intel Reports 15Combat Simulation Leviathan 

เงื่อนไข: เอาชนะ Leviathan / Reward: Leviathan  Materia

 

 

 Battle Intel Reports 16 Monster Bio Pt 4 

เงื่อนไข: สแกนศัตรู 30 ประเภทด้วยท่า Asset / รางวัล: Enemy Skill Materia 

 

 

 Battle Intel Reports 17  Weapon Abilities 

เงื่อนไข: รับความสามารถ Ability จากอาวุธทั้ง 16 แบบ / รางวัล: Skill Master Materia

 

 Battle Intel Reports 18 MP Consumption

เงื่อนไข: เก็บเลเวลมาทีเรียจนเต็ม  12 ชนิด

 

 Battle Intel Reports 19 Monster Variants Pt. 2 

เงื่อนไข: กำจัดมอนสเตอร์   10 สายพันธุ์ที่ไม่ซ้ำกัน / รางวัล: HP Absorption Materia

 

 Battle Intel Reports 20

เงื่อนไข: เอาชนะ Bahamut / รางวัล: Bahamut Materia

 

 

 

 

Odd Jobs เควสท์เสริมสำหรับคนว่างงาน!

ใครที่อยากได้ไอเทม หรือเงิน และค่า SP การทำเควสท์เสริม ก็เป็นตัวเลือกที่สำคัญพอสมควร แถมยังได้บทสนทนาเฉพาะตัวละครนั้นๆอีกด้วย แต่ไม่ได้บังคับว่าจะต้องเล่น เอาเท่าที่ว่าง แต่ทั้งนี้ เควสท์เสริม จะมีให้เล่นเฉพาะเมื่อคุณกำลังเดินเรื่องใน Chapter เท่านั้น ถ้าคุณเล่นผ่านเนื้อเรื่องช่วงนั้นไปแล้ว การจะกลับมาเล่นเควสท์เสริมเหล่านี้ คุณจะต้องเล่นจบเกม 1 รอบ แล้วย้อนกลับมาทำเท่านั้น…Odd Jobs จะปรากฎครั้งแรกให้เล่นคือใน Chapter 3 ผู้เล่นสามารถทำตามคำร้องขอจากเหล่า NPC ในสลัมเขต 7 ได้เลย 

 

 

 

 ตารางอาวุธ พลังโจมตี และช่องใส่มาทีเรีย

ยังไม่ครบ ไว้มาอัพเดท

 

 

 ตารางกำไลข้อมือ (เครื่องป้องกัน)

 

 

 

ตารางเครื่องประดับ และผลเมื่อสวมใส่ (มีผลเฉพาะตัวละครที่ใส่เท่านั้น)

 

 

 

 

 

 

Materia

Materia เป็นไอเท็มพิเศษที่ช่วยให้ผู้เล่น สามารถใช้เวทมนตร์และสกิลต่างๆได้โดยใส่เข้าไปในช่องอาวุธและอุปกรณ์ โดยมาเทเรีย จะอัพเกรดเลเวล และผลของสกิล ด้วย AP ที่ได้มาจากการเอาชนะศัตรู 

 

ตารางมาเทเรียในเกม

 

**สกิล BREACH จะเป็นการสุ่มโอกาสทำให้ศัตรูตายทันที**

 

 

 

รายชื่อถ้วย Final Fantasy VII Remake Trophies

 

ถ้วย “Bond of Friendship” คือ “การช่วยตัวละครในปาร์ตี้ที่ถูกจับล๊อก”

ขออภัยในความสับสน 

 

 

 

 

 อ่าน “Tifa Final Fantasy 7 remake” ถูกค้นหาในเวปไซท์18+ มากถึง 7000% !!! 

 

Trailer