ชื่อยี่ห้อ: FIFINE รุ่น AM8
ตัวแปลงสัญญาณ: ไมโครโฟนแบบไดนามิก
ประเภทชุดไมโครโฟนตั้งโต๊ะ
สำหรับใช้งานในบ้าน และ สตูดิโอ
รูปแบบขั้ว: cardioid
หากสนใจสินค้า สามารถสั่งซื้อได้ที่นี่ คลิกเลย >>>> : www.lazada.co.th/
ในยุคที่ใครๆก็อยากจะเป็นสตรีมเมอร์ ยักพากย์ หรือนักทำพอดแคสท์ และงานที่ใช้เสียงพากย์เป็นจุดขายหลัก นอกจากความสามารถที่ได้มาจากพรสวรรค์ และการฝึกซ้อมแล้ว อุปกรณ์ที่ดี มีคุณภาพ ก็เป็นอีกส่วนที่ทำให้ผลงานออกมายอดเยี่ยม ปัจจุบันอุปกรณ์สตรีมมิ่ง เริ่มเข้าถึงง่าย และมีลูกเล่น มีจุดน่าสนใจในแต่ละแบรนด์ และในบทความนี้เรามีแบรนด์สินค้าจากทาง “ไฟไฟน์” หรือ FIFINE แบรนด์ที่มีจุดเด่นที่เป็นของใช้งานระดับเริ่มต้นคุณภาพดี ในราคาที่จับต้องได้ โดยรุ่นที่เราหยิบมานำเสนอกัน จะมาในรูปแบบการใช้งานของสายเกมเมอร์ นักทำพอดแคสท์ ที่ต้องการไมค์ที่สามารถตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้เป็นอย่างดี นี่คือ…FIFINE รุ่น AM8
รองรับการเชื่อมต่อ PC, เกมคอนโซลด้วยสาย USB C และช่อง XLR สำหรับเชื่อมกับ MIXER หรือ อุปกรณ์สตูดิโอเอเฟกต์ต่างๆ
***รีวิวนี้ เป็นรีวิวที่เกิดจากการใช้งานจริง ดังนั้นผลลัพท์ อาจจะแตกต่างกันไปตามแต่บุคคล สภาพแวดล้อม และปัจจัยอื่นๆ***
แกะกล่อง!
ไมโครโฟน Fifine AM8 มาในรูปทรงที่สวยงาม ทันสมัย ดูแล้วเป็นอุปกรณ์เกมมิ่งเกียร์ที่ดูแพง งานประกอบถือว่าแน่นหนา พลาสติกไม่ก๊องแก๊ง
ในกล่องมีขาตั้งโลหะ ที่มีน้ำหนัก แกนเป็นแกลียวมาตรฐานเครื่องดนตรี พร้อมพื้นยางที่มีแรงยึดเกาะสูง
มีปุ่มปรับเสียงแบบหมุนซ้ายขวา ทั้งปุ่มบน ที่ใช้ในการรับเสียง (Boostไมค์)
และ ปุ่มล่างใช้ปรับเสียงหูฟังที่เสียบเข้าไมค์ สำหรับเช็กเสียงระหว่างพูด
โดยไมโครโฟนมีรูปแบบปิ๊กอัพแบบคาร์ดิออยด์ หุ้มด้วยฟองน้ำหนา และแน่น เป็นรูปแบบของ “ไมโครโฟนไดนามิก” ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการจับเสียงที่อยู่ “ด้านหน้าโดยตรง” ส่งผลให้ไมโครโฟนตัวนี้ มีความสามารถเด่นคือลดเสียงรบกวนรอบข้างให้เหลือน้อยที่สุด ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญสำหรับงานพากย์เสียงพูด บทบรรยายต่างๆ ที่ไม่ต้องการเสียงบรรยากาศรอบข้าง เหมือน “ไมโครโฟนคอนเดนเซอร์” ที่วางตลาดทั่วไป
ใช้งานกันเลย!
ในส่วนของประสิทธิภาพ ไมโครโฟน Fifine AM8 จะมีแคปซูลคอนเดนเซอร์ไดอะแฟรมขนาด 16 มม. ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานสำหรับไมโครโฟนราคาประหยัด แม้ว่าจะไม่สามารถแข่งขันกับไมโครโฟนในสตูดิโอระดับไฮเอนด์ได้ แต่ก็ให้ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมตามช่วงราคาอย่างสมเหตุสมผลครับ
การตอบสนองความถี่ของไมโครโฟนอยู่ในช่วง 50-16kHz ซึ่งจับทั้งโทนเสียงเบสที่ลึก และรายละเอียดความถี่สูงได้อย่างแม่นยำด้วยรูปแบบคาร์ดิออยด์ที่มีประสิทธิภาพในการจับแหล่งกำเนิดเสียงจากด้านหน้าไมโครโฟนโดยตรง ขณะเดียวกันก็ตัดเสียงจากด้านข้างและด้านหลัง ได้เกือบสมบูรณ์แบบ
เชื่อมต่อ PC ง่ายมาก แค่ “เสียบ” แล้ว “จบ” แถมเอาไปใช้ในโปรแกรม Premier Pro ได้ด้วยนะ!
จากการใช้งานจริงๆ ส่วนตัวลงเสียงงานต่างๆในรอบ 2-3 สัปดาห์ ที่ผ่านมาถือว่าน่าพอใจมากๆ เพราะเก็บเสียงจากปากแอดมินด้านหน้าล้วนๆ ทั้งๆที่ห้องแอดมินนั้น ตั้งอยู่ท่ามกลางชุมชนที่มีผู้คนเดินไปมา ส่งเสียง เด็กเล่นโครมคราม และเสียงเครื่องจักรแทรกมาเป็นระยะๆแทบทั้งวัน แม้ว่าเจ้า AM8 จะไม่สามารถตัดทิ้งได้อย่างสมบูรณ์แบบ (ตัดได้ราวๆ 80-90%) แต่มันง่ายต่อการแก้ไขเพิ่มเติมเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าหากได้ห้องดีๆเหมาะๆเงียบๆ จะเป็นการพากย์ที่สมบูรณ์ระดับ “พากย์เสร็จใช้งานได้เลย” นั่นเอง…
ตามภาพตัวอย่าง (ถ่ายมาจากหน้าจอตอนตัดคลิปด้วย Premier Pro) จะเห็นว่าที่แถบสีเขียว ตรงจุดเส้นที่มีกรอบสีขาว จะเป็นเส้นเสียงที่แทรกเข้าไมค์มา (เป็นเสียงเด็กร้อง หมาเห่า และรถมอเตอร์ไซด์วิ่งผ่านหน้าบ้าน) ซึ่งแทบไม่มีการขึ้นเส้นสัญญาณเสียง เมื่อเทียบกับช่องขวามือผู้อ่าน ที่มีเส้นกราฟเป็นภูเขา มันคือเสียงพูดของแอดมินใส่ไมค์ในระยะ 1 คืบนั่นเอง
จุดหนึ่งที่ AM8 โดดเด่นอย่างแท้จริงก็คือความไวของมัน ด้วยระดับเสียงในตัวเองที่ต่ำ จึงบันทึกเสียงได้ชัดเจน ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการบันทึกความแตกต่างเล็กๆ น้อยๆ ในการแสดงเสียงร้องหรือเครื่องดนตรีอคูสติกที่ละเอียดอ่อน นอกจากนี้ยังมีช่วงไดนามิกที่กว้าง ทำให้สามารถรองรับทั้งแหล่งเสียงที่เบาและดังได้โดยไม่ผิดเพี้ยน
คุณสมบัติเด่นอีกประการหนึ่งคือการเชื่อมต่อ USB TYPE-C ของไมโครโฟน ซึ่งทำให้ใช้งานง่ายมากๆสำหรับผู้เริ่มต้น เพียงเสียบ AM8 เข้ากับคอมพิวเตอร์ของคุณ เพียงเท่านี้ก็พร้อมที่จะลุยงานได้เลย และยังมีการเชื่อมต่อแบบ XLR (ช่องกลมบนสุด) ใช้งานกับอุปกรณ์สตูดิโอต่างๆ เช่น MIXER แผงคอนโทรล หรือแอมป์ปรับเสียง
AM8 มีสวิตช์ปิดเสียงแบบสัมผัสบนไมโครโฟน ส่วนตัวพบว่า ไมโครโฟน ค่อนข้างไวต่อการสัมผัส อาจมีบางจังหวะ เผลอไปลูบ ไปแตะสวิทช์จนไมค์ดับ แต่รวมๆแล้วมันทำงานได้อย่างง่ายดายมากๆ
มีความเกมมิ่งเท่ๆ ด้วยแสง RGB แบบไดนามิกที่ไหลผ่านการผสมของสามสีหลัก แดง ฟ้า เขียว เพื่อสร้างสีเหมือนลำแสงไล่ระดับ หรือจะให้วิ่งเป็นสีรุ้งกสามารถทำได้
โดยรวมแล้ว การออกแบบและคุณภาพของ Fifine AM8 นั้นน่าประทับใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงราคาที่เป็นมิตรกับกระเป๋าตังค์ มันมีภาพลักษณ์ของไมโครโฟนที่มีราคาแพงอยู่เหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่เป็นไมโครโฟนไดนามิค ทำให้ผู้ใช้งานต้องรักษาระยะห่างของปาก กับไมค์ ที่ดีที่สุด จากการใช้งานจริง แอดมินพบว่า ควรห่างไม่เกิน 1 คืบ ไม่งั้นเสียงที่พูดจะเบามากๆ…(การหมุนช่องรับเสียงที่ไมค์ ช่วยได้บ้าง แต่ก็จะได้เสียงรอบข้างแถมติดมาด้วยเล็กน้อย)
แต่ถ้าเก้าอี้ใครสูง หรือสายพากย์พอดแคสท์อาจจะโน้มตัวมาพูดใส่ก็ได้ แต่สายเกมที่ต้องใช้สายตาจับจ้อง หรือมีสมาธิในการเล่นสูงๆ อาจจะต้องการลงทุนซื้อแขนจับไมโครโฟนตั้งโต๊ะ หรือขาตั้งบูมแยกต่างหาก เพื่อให้ไมโครโฟนใกล้ปากตลอดเวลาและลดการขยับ หรือพะว้าพะวงระหว่างการเล่นเกม
สรุป
ไมโครโฟน Fifine AM8 ถือเป็นรุ่นที่โดดเด่นในตลาดไมโครโฟนราคาประหยัด คุณภาพงานประกอบที่ดี ประสิทธิภาพที่ส่วนตัวพอใจมากๆ เพราะสามารถทำงานภายใต้สภาวะที่มีความเสียงต่อการเกิดเสียงรบกวนจากเพื่อนบ้าน สภาพแวดล้อม และค่าตัวสมเหตุผลมากๆ ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักพอดแคสต์ และคอนเท้นท์ครีเอเตอร์ทั้งหลาย ไปจนถึงนักดนตรีและนักพากย์เสียง
แม้ว่าจะไม่สามารถแทนที่ไมโครโฟนในสตูดิโอระดับไฮเอนด์ได้
แต่ AM8 ก็มอบความคุ้มค่าที่โดดเด่นในราคาที่คุณจับต้องได้
เพียงแต่ต้องระวังเรื่องระยะห่างในขณะพูดก็พอ…
แอดมิน AK47
หากสนใจสินค้า สามารถสั่งซื้อได้ที่นี่ คลิกเลย >>>> : www.lazada.co.th/
ติดตามข่าวสาร โปรโมชั่น อัพเดทรุ่นใหม่ๆได้ที่
ทวิตเตอร์: @FIFINEMIC
เฟซบุ๊ก: @FifineStore
อินสตาแกรม: @fifinemicrophone
Tik Tok: @fifinemicrophone
ตัวอย่างเสียงจาก AM8