[Review] FIFA 21 เกมฟุตบอลที่ทั่วโลก(อาจจะ)รอคอย!

 

-ขอขอบคุณ ทางบริษัท NGIN ตัวแทนจำหน่ายเกม FIFA 21 อย่างเป็นทางการ สำหรับตัวเกมที่ใช้ทำรีวิวในครั้งนี้…

 

 

 

FIFA 21

ประเภท : Sports – Football / Soccer Simulation

เครื่อง : [ Pc / PS4 / XboxOne  / Switch /  PS5 / Xbox Series X]

พัฒนาโดย : : EA

วันวางจำหน่าย : 9 ตุลาคม 2020

เวปไซท์หลัก https://www.easports.com/fifa

 

 

ซีรี่ยส์เกมฟุตบอลที่ทั่วโลกรอคอย กลับมาแล้ว ด้วยระบบการเล่น และสภาพแวดล้อมที่ดึงเอาศักยภาพของความเป็นเกมยุคใหม่ ออกมาได้มากที่สุดเกมหนึ่ง กับเกมสงครามลูกหนังของบรรดานักเตะซุปเปอร์สตาร์ที่ทุกคนชื่นชอบ มาย่อไว้ที่จอทีวี และจอคอมบ้านท่านแล้ว ในชื่อเรียบง่าย แต่ได้ใจความว่า “FIFA 21″

 

 

ภาพจาก Official FIFA21

ในเกม FIFA 21 สามารถกล่าวได้ว่าเป็นเกมที่ก้าวข้ามยุคปัจจุบัน สู่คอนโซลยุคใหม่ เพราะจะมีการอัพเกรดงานภาพ และระบบภายในเพิ่มเติม (อีกแล้ว) ด้วยพื้นที่ตัวเกมขนาด 50.51 GB ซึ่งจะมีกำหนดลงให้ในระบบ Pc / PS4 / XboxOne  ในวันที่ 9 ตุลาคม 2020

 

โดยผู้ที่ซื้อเวอร์ชั่น PS4 / XboxOne จะสามารถอัพไปเล่นต่อใน  PS5 / Xbox Series X  ที่จะวางขายทีหลังได้เลยโดยไม่ต้องจ่ายเพิ่ม ถ้าซื้อแผ่นเวอร์ชั่น Champion Edition ใส่ PS5 เล่นได้เลย!!

 

 

 

REVIEW  8/10 Rank  B

เนื้อเรื่อง 1/3 , เกมเพลย์ 3/3 , งานภาพ 3/3  , ความชอบ 1/1

ดูเหมือนเปลี่ยนนิดเดียว แต่จริงๆแล้วเชิงเทคนิคคือยกเครื่องใหม่หลายๆอย่าง 

 

ในความคาดหวังของการมีเกมภาคใหม่ๆ ผู้เล่นหวังว่าจะได้ตื่นตาตื่นใจกับคอนเท้นท์ใหม่ๆที่เกมๆนึงจะใส่เข้ามา ทั้งเนื้อหา หรือเกมเพลย์ อาจจะเพิ่มงานภาพเข้ามา แต่กับ FIFA21 นั้น มีทุกอย่าง ยกเว้น ความสดใหม่…

 

 

 

คือเกมฟุตบอลเนี่ย เข้าใจได้ว่ารูปแบบของมัน มีไม่กี่อย่าง การได้เล่นทีมโปรด… นักเตะซุปตาร์คนดัง …งานภาพที่เหมือนดูถ่ายทอดสด… แต่สิ่งที่ภาคนี้นำเสนอนั้นไม่มีอะไรที่ทำให้ถึงขั้นกรีดร้อง แต่เป็นเรื่องของเชิงเทคนิคมากกว่า ที่ต้องเป็นแฟน FIFA จริงๆ จะเข้าใจได้ว่า มันเปลี่ยนไปจริงๆ และบางอันก็ดีขึ้นเสียด้วย

 

 จุดที่น่าสนใจในภาคนี้ ก็คือการเลี้ยงบอลที่เรียกว่า  “Agile Dribbling” (ปุ่ม R1) ที่ให้ผู้เล่นได้สัมผัสประสบการณ์การเลี้ยงบอลที่แม่นยำมากขึ้นจนน่าตกใจ ลื่นไหลและตอบสนองได้เร็วกว่าที่เคย ซึ่งเทคนิคการเลี้ยงบอลในภาคนี้ จะให้ความสำคัญกับปุ่ม R1 เป็นพิเศษกว่าครั้งก่อนๆ ด้วยลูกเล่น ดังกล่าว ที่ทำให้มือใหม่ สามารถล๊อกหลบสวยๆพริ้วๆเหมือนหลุดมาจากสนามฟุตซอลยังไงยังงั้น…อันนี้ขอชมว่ามันดีมากๆ

 

รวมไปถึงการแก้ระบบ AI ให้ใกล้เคียงกับตำแหน่งการยืนของผู้เล่นตามสถิติบอลจริงๆ พร้อมแก้อนิเมชั่นการโหม่งบอล และการหลีบการปะทะ ล๊อกหลบที่โดนแฟนๆตำหนิมาอย่างมากในภาค FIFA 20 ถึงความไม่สมูท ระบบสลับตัวเล่นในสนามอัจฉริยะที่ทำให้ผู้เล่นส่งบอล ต่อบอล หรือประกบคู่ต่อสู้ได้ง่าย เติมเกมบุกได้สมจริงกว่า จังหวะงงๆ จังหวะมั่วๆกองๆกันแถวๆเขตโทษ หรือหน้าประตู ยังพอให้หายใจหายคอได้บ้าง (ฮ่าๆ)

 

สำหรับโหมดที่ดีที่สุดของ FIFA ในรอบ 10ปีที่ผ่านมาก็คือ โหมด FUT  หรือ Fifa Ultimate Team แนวคิดนี้ยังคงเหมือนเดิมตลอดมา ผู้เล่นจะได้สร้างทีมที่กำหนดเองซึ่งประกอบด้วยผู้เล่นที่คุณชอบจากลีกใหญ่ ๆ ทั่วโลก

 

นักเตะคนโปรดขั้นเทพในฝันของคุณ หาได้จากการเปิดแพ็กกาชานรกแตก ที่จัดว่ากินเงินผู้เล่นมาอย่างมากมายในภาคก่อนๆ (555+) หรือจะซื้อขายในตลาดนักเตะก็ได้  

 

ซึ่งภาค 21 นี้ ดีหน่อยตรงที่ “เรทกาชาออกนักเตะดีๆ ขอบทองสวยๆมาบ่อย” สายฟรีอยู่ได้ เพราะ มีภารกิจเควสท์ยิบย่อยให้ทำมากมาย  เมื่อผ่านก็เอามาเปิดแพ็กการ์ดนักเตะ เล่นวนไป ภาคนี้ไม่ต้องไปซีเรียสกับการเติมเงิน รวมไปถึงค่าความเหนื่อยของนักเตะก็ถูกถอดออกแล้ว (ขอแค่ไม่ติดใบแดง เป็นใช้ได้) 

 

รวมไปถึงถ้าจะหาการ์ดดีๆ แค่คุณทำเควสท์วนไป การจับคู่โคตรทีมมหากาฬออนไลน์ในโหมด Rivals ก็ไม่จำเป็นซะทีเดียว

 

 

แต่ถ้าคุณเล่นในโหมดดังกล่าว แล้วชนะติดกันหลายๆนัด “การ์ดที่ดีกว่า” ก็มีโอกาสออกมาให้ได้ตามเก็บเช่นกัน  แต่มีข้อจำกัดอยู่อย่าง คือเกมในโหมดนี้ ไม่น่าจะเป็นสิ่งที่ผู้เล่นหน้าใหม่จะเข้าใจโดยง่ายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง เพราะมีรายละเอียดที่เยอะมากๆ อาจจะต้องใช้เวลากับมันเยอะๆ เกมแฟรนไชส์นี้ไม่เคยให้ผู้เล่นหน้าใหม่ได้เข้าใจอะไรง่ายๆอยู่แล้ว…ค่อยๆเล่น ค่อยๆเสพไป

 

โหมด Carreer ในภาคนี้ ไม่ได้ขายเนื้อเรื่องลึกลับซับซ้อน แต่จะให้ความสำคัญในส่วนของการสวมบทผู้จัดการทีม ทำเกมเป็นกึ่งๆ Simulation และการปั้นนักเตะแบบสมจริงมากขึ้น (แต่โหมดเล่นเป็นนักเตะเองก็ไม่ได้ทิ้งนะ แต่คิดว่าไม่ค่อยหนีจากภาคที่แล้วเท่าไหร่) มันคือสิ่งที่เหล่ายอดกุนเชียง เอ้ย..กุนซือรอคอยมานาน เพราะจะมีความซับซ้อนสูงเอาเรื่อง มันเกินกว่าจะเข้าใจได้เร็วง่ายๆ เหมือนเกมอื่นๆที่เอาชื่อนักเตะ – จัดทีม – ลงสนาม – จบดูกราฟวิ่งตีกัน แล้วบริหารงบสโมสรแบบวนลูป ซึ่งถ้าว่าตามจริงแล้ว ถ้าในโหมด FUT ว่าเราใช้เวลาเยอะ… ในโหมดนี้ก็จะยิ่งกว่านั้น!…

 

 

ภาพจาก Official FIFA21

 

การบริหารทีมเชิงลึกของเกมนี้ เป็นส่วนที่น่าประทับใจพอๆกับความปวดหัว เปลืองสมองสุดๆ โครงสร้างของโหมดนี้ ถ้าใครเคยผ่านการเล่นเกมสไตล์ Football Manager มาก่อน คุณจะรักมัน… การปั้นทีม ปั้นนักเตะ การซื้อขายเจรจาตาอ่วยที่ใช้เวลานาน การไต่จากทีมท้ายตารางไปซัดกับทีมเทพหัวตารางได้ มีการจัดตารางฝึกซ้อมแบบรายบุคคล การดูแลสุขภาพจิต บลาๆๆๆ ยิบย่อยเยอะมากจนแอดมินเองก็ยังรู้สึกเหนื่อยกับการเล่นในโหมดนี้ (ฮ่าๆ) หรือมีการแข่งขันมากขึ้นเท่าไหร่ ความเฉียบคมของนักเตะในทีม ก็จะสูงขึ้น และส่งผลให้คุณลักษณะในเกมของพวกเขาจะได้รับการส่งเสริม  แต่ถ้าขี้เกียจเล่นจริงๆ กด Skip ข้าม เล่นออโต้เองได้นะ แต่ผลงานอาจจะดีบ้างแย่บ้าง อันนี้แล้วแต่ดวง กับทีมที่เซตมา

 

 

กลับกัน ถ้าคุณไม่ใช่สายบริหารจัดการ ชอบเกมเพลย์ไวๆ มันส์ๆ เข้าใจง่ายๆ ไม่คิดเยอะ สัญชาติญาณมาก่อน เราขอแนะนำโหมด “VOLTA Football” โหมดบอลข้างถนนสไตล์อาเคด ที่โคตรสนุกสะใจแอดมินอย่างมาก มันถูกนำเสนอแบบต่อยอดได้ดีจากภาค20 มากๆ เราจะได้เล่น ฟุตบอล 3v3, 4v4 หรือ 5v5 ด้วยเมคานิคเดียวกันกับที่คุณพบในเกมหลักที่เป็น 11v11 แต่ไวกว่า เพราะพื้นที่แคบ ลูกตุกติก และแอคชั่นมันๆในโหมดนี้มีสีสันเร้าใจ ราวกับเป็นอีกเกมนึง ที่ว่า ถ้าแยกขาย ก็ยังได้เลยนะเอาจริงๆ 

 

 

ซึ่งในโหมดนี้มันดันมีเนื้อเรื่องด้วยนะ มันเรียกว่า The Debut ซึ่งเป็นโหมดผู้เล่นคนเดียวสั้น ๆ 2-3 ชั่วโมง โดยจะเล่าถึงตัวละครผู้เล่น กับเพื่อนอีกก๊วนหนึ่ง เป็นนักเตะในชุมชนเล็กๆที่ได้รับข้อเสนอจากสปอนเซอร์ใจดีคนนึง ให้ไปแข่งฟุตซอล VOLTA ที่จัดทั่วโลก เอาชนะทุกทีมที่ขวางหน้า แล้วคว้าตั๋วรอบชิงไปแข่งที่ดูไบ พล๊อตง่ายๆแค่นี้แหละ (เพราะงี้ คะแนนในส่วนเนื้อเรื่องจึงให้น้อยสุดๆเลยไงล่ะ 555 )

 

อ่อ ยิ่งเราเล่นชนะทีมอื่นๆ ก็จะมีตัวนักเตะทีมศัตรู เราสามารถดึงตัวมาเล่นได้ด้วย 1 คน โดยจะเป็นนักเตะที่มีสกิล สเตตัสที่สูงขึ้นเรื่อยๆ

 

ความสนุกของโหมดนี้ คือการสร้างตัวละครแทนผู้เล่น โดยทุกๆแมทช์ทุกๆการเคลียร์ Archivement ที่เกมกำหนด จะได้แต้มสกิลมาอัพความสามารถ จะไปสายรุก สายรับ สายเทคนิค บริหารแต้มสกิลเอาเองเน้อ!

 

เข้าสู่สนามการเล่นบอลเล็กที่รวดเร็ว ฉับไว พร้อมท่าอนิเมชั่นเก๋าเจ๋งสุดแนว ที่ทำให้เรารู้สึกว่า “บอลข้างถนน มันต้องอย่างนี้ดิวะ!” และก็ยังมียังมีโหมดชาเลนจ์ท้าทายความสามารถผู้เล่น ผ่านโจทย์ต่างๆ เช่นการล๊อกหลบเลี้ยงบอล การทำประตูในเวลาจำกัด ซึ่งถ้าทำสำเร็จ ก็จะปลดล๊อกเครื่องแต่งกายสวยๆ หล่อๆ นอกจากโหมดเนื้อเรื่องแล้ว ยังมีโหมดออนไลน์ทั้งเล่นแบบทีมเดียวกัน หรือเล่นสู้กันก็ได้ เป็นโหมดที่ทำให้ FIFA21 ไม่น่าเบื่อ จากสนามใหญ่ สู่สนามเล็กๆ คุณควรลอง แล้วจะไม่อยากเตะบอลสนามใหญ่อีกเลย 

ส่วนงานภาพไม่ต้องพูดถึง มันสวยงาม ได้อารมณ์ นักเตะมีการสะท้อนแสงเงาที่ชัดเจนมากขึ้น ถ้าวันไหนสนามฝนตก ดีเทลตัวละคร เหงื่อ น้ำ โคลน มาเต็ม หรือสนามต่างๆใน VOLTA มีดีเทลที่สวยงาม เซตติ้งต่างๆเหมือนจริง และส่งผลต่อการเล่นด้วย ทั้งสนามลื่น สนามที่เป็นพื้นปูน พื้นไม้ เสียงเอี๊ยดอ๊าดของรองเท้าสีกับพื้น องค์ประกอบเล็กๆน้อยๆ ที่สืบทอดจากภาคก่อนหน้า ทำออกมาดีอยู่แล้วตั้งแต่ 2020

 

แต่ 2021 นั้นมีดีเทลเก็บเล็กๆน้อยๆยิบย่อยมากขึ้น และที่น่าดีใจมากๆคือเกมไม่ได้กินสเปคมาก เสียงพัดลมใน PS4 ไม่ได้หอนหนักเหมือนเล่นเกมอื่นๆที่กินสเปคใกล้เคียงกัน แม้จะมีอาการเฟรมเรทร่วงไปนิดๆหน่อยๆ แต่ไม่ได้ส่งผลเสียเท่าไหร่นัก

 

ส่วนบั๊กตัวละครติดฉาก หรือท่าทางประหลาดๆตอนดีใจในโหมด VOLTA นานๆจะมาที ก็ทำเป็นไม่เห็นไปละกัน 555+

 

 

ถ้าคุณชอบฟุตบอล แต่มีภาค 20 อยู่แล้ว และไม่ได้ชอบดีเทลเล็กๆน้อยๆที่เพิ่มเข้ามา หรือการเล่นเชิง SIM เข้มข้น

ขอให้ผ่านไปได้เลย รอ 2022 เอา น่าจะมีอะไรใหม่กว่านี้ที่จับต้องได้

 

ส่วนใครที่ไม่เคยมีเกมตระกูล FIFA ในไอดี PS4 ของคุณ หรือ “ไม่เคยเล่น จงซื้อมาเล่นซะ!” มันสนุกมากๆใน โหมดบอลเล็ก และสวยงามสมจริงยิ่งใหญ่ในโหมดสนามใหญ่ 11 คน

ซื้อ 1 แผ่นเหมือนได้ 3 เกมเลยนะ เกมบอลถ้วยใหญ่ + เกมสตรีทบอล +  เกม Football Manager ในแผ่นเดียว 

โคตรคุ้ม!!

 

 

 

————————————————–

 

 

 

ภาพจาก Official FIFA21

 

การบังคับ / เทคนิค 

นอกจากปุ่มพื้นฐานการเล่น เคาะบอล ส่งบอล หรือการเข้าชาร์จในแบบต่างๆตามพื้นฐานที่สามารถหาดูได้จากหน้าต่าง Option ของเกม หรือจะเปิดโหมด Training เพื่อแสดงปุ่มต่างๆขึ้นมาเป็นไอคอนบนตัวละคร ซึ่งเบสิค เทคนิคต่างๆ สามารถอ้างอิงจากภาคก่อนๆได้ ไม่ได้เปี่ยนอะไรมากในส่วนนี้นอกจากความละเอียดที่สัมผัสได้มากขึ้น

 

และใน PS5 ยังรองรับการงาน  Haptic Feedback ที่ทาง EA ระบุว่า จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนเลี้ยงบอล ส่งบอลจริงๆ เหมือนคุณกำลังเอามือไปคลึงบอลเล่นเอง หรือแม้แต่การปะทะ ก็ยังให้ความรู้สึกเหมือนโดนปะทะเข้าจริงๆ (ขนาดนั้นเลยเหรอ 55+ ไว้ PS5 ออก เดี๋ยวมาดูกันอีกที) 

 

เลี้ยงบอล+R2 Sprint – กดค้างจะเข้าสู่โหมดวิ่งเร็วแต่จะควบคุมทิศทางหลบหลีกลำบาก ควรเลือกกดให้ถูกจังหวะ ในตอนที่กำลังพลิกหลบออกไป ค่อยกด R2 สั้นๆ เป็นการกระชากให้หลุดแนวรับ และสามารถกด R2+ดันอนาลอคR3 จะเป็นการเคาะบอลออกไปตรงพื้นที่ว่างแล้ววิ่งตามไปเก็บบอล เป็นเทคนิคที่ทำให้เรา สามารถวิ่งเร่งสปีดสลัดกองหลังด้วยความเร็วเต็มที่ได้อย่างดี

 

 

 

R1 - “Agile Dribbling” ไฮไลท์ของภาคนี้ กดค้างไว้ แล้วเลี้ยงบอล จะคอนโทรลบอลได้ติดเท้ามากขึ้น ตามค่าสเตตัสด้านเทคนิคครองบอลของตัวละครนั้นๆ ส่วนมากจะไปอยู่กับพวกกองหน้าค่าตัวโคตรแพง ซึ่งในเกมนี้ละเอียดมากๆ หากคุณวิ่งเลี้ยงบอลมาด้วยความเร็วขั้นสุดของคุณ แล้วนึกอยากจะเอี้ยวตัว ล๊อกหลบ เบรคบอล สามารถทำได้เลยทันที แค่ย้ายจากปุ่ม R2 วิ่งเร็ว มาปุ่ม R1 จะตัดเข้าสู่การครองบอล แบบมีสไตล์ได้ มือใหม่ก็น่าจะเล่นได้ง่ายขึ้น จากการมีอยู่ของระบบนี้

แต่ทั้งหมด ก็จะขึ้นอยู่กับปัจจัย “ค่าเทคนิคของกองหน้า” อย่างที่กล่าว และยังมี “ค่าเทคนิคสายป้องกัน” กับ “ขนาดตัว” ของกองหลังฝ่ายตรงข้าม หรือตัวที่เข้าปะทะด้วย และจะนำมาคิดรวมๆกันว่า จะล๊อกหลบสวยๆผ่านมั้ย หรือจะโดนแซะจิ้มจนเสียบอลไป ยิ่งกองหน้าทีมอ่อนๆ หรือพวกกองกลางที่เผลอหลุดไปเล่นเกมแนวรุก หลายๆครั้งจะเจอกับปัญหาเลี้ยงบอลแล้วไม่ผ่าน เพราะภาคนี้ใช้ระบบนี้เข้ามามีส่วนสำคัญในเกมเพลย์ด้วยนั่นเอง…แม้แต่โหมด VOLTA ก็มีการเลี้ยงบอลแบบนี้ด้วย

 

 

L1 Modifier – ปุ่มนี้ใช้กดคู่กับปุ่ม  เพื่อใช้เล่นเทคนิคพื้นฐานที่ใช้บ่อยเช่น L1+ คือการเล่นชิ่งวันทู แต่สำหรับการเลี้ยงบอลกดค้างพร้อมเลี้ยงบอลจะเป็นการเลี้ยงบอลติดตัวเป็นจังหวะสั้นๆ เหมาะเอาไว้ใช้เลี้ยงวนหนีในช่วงชุนละมุน ใช้เลี้ยงหลบในกรอบเขตโทษได้ดีเช่นกัน

 

 

ภาพจาก Official FIFA21

 

แคมเปญพิเศษสำหรับ PS4 

ตัวเกมภาคนี้ ไม่มีเดโม่ให้เล่น เหมือนปีก่อนๆ ถ้าอยากลองเล่น “ต้องซื้อสถานเดียว” โดยตัวแทน EA Sports ได้อธิบายเหตุผลของการตัดสินใจในครั้งนี้ว่า พวกเขาต้องการทุ่มเทเวลาโฟกัสให้กับกระบวนการพัฒนาเกม เพื่อนำเสนอประสบการณ์เกมที่ยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับเครื่องคอนโซลสองเจเนอเรชัน ทั้งเครื่องรุ่นปัจจุบันและเครื่องรุ่นใหม่ที่กำลังจะมาในอนาคต

ในขณะเดียวกัน ทาง โซนี่ อินเตอร์แอคทีฟ เอนเตอร์เทนเมนต์ สิงคโปร์ (SIES) ก็ได้ประกาศวางจำหน่ายชุดคอนโทรลเลอร์ไร้สาย “DUALSHOCK®4 Wireless Controller EA SPORTS™ FIFA 21 Voucher Bundle” วันเดียวกันกับเกม “EA SPORT™ FIFA 21” ในวันที่ 9 ตุลาคม 2563 ในราคา 2,990 บาท

 

ในชุดจะประกอบด้วย คอนโทรลเลอร์ไร้สาย DUALSHOCK 4 Wireless Controller (สี Jet Black), โค้ดเกม EA SPORT™ FIFA 21*1, โค้ดเกม EA SPORT™ FIFA 21 Ultimate Team (FUT 21)*2 และบัตรสมาชิก PlayStation®Plus (PS Plus) จำนวน 14 วัน 

 

แอดมิน AK47

 

 

 

 

 

เกมเพลย์ 1 แมทช์