ภาคที่ 10 ของตำนาน Fast & Furious เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับบทสุดท้ายของหนึ่งในแฟรนไชส์ระดับโลกที่ได้รับความนิยมและเป็นตำนานเล่าขาน หลังจากที่แฟรนไชส์นี้ได้ก้าวเข้าสู่ศตวรรษที่ 3 และยังคงไม่แผ่วแรงลงเลยด้วยทีมนักแสดงและตัวละครหลักกลุ่มเดิมกับที่ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้น
หลังจากภารกิจมากมายและการฝ่าฟันอุปสรรคนานัปการ ดอม ทอเร็ตโต้ (วิน ดีเซล) และครอบครัวของเขา ก็สามารถเฉือนคม ชนะสงครามประสาทและแซงหน้าศัตรูทุกคนที่อยู่บนเส้นทางของพวกเขาได้ บัดนี้ พวกเขาจะได้เผชิญหน้ากับคู่ปรับที่อันตรายที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยเจอมา : ภัยคุกคามน่าสะพรึงกลัวจากเงาอดีต ที่ถูกเผาผลาญด้วยหนี้เลือด ผู้มุ่งมั่นจะพังครอบครัวนี้ให้แตกเป็นเสี่ยงและทำลายทุกสิ่ง และทุกคนที่ดอมรัก ไปตลอดกาล
ย้อนกลับไปใน Fast Five เมื่อปี 2011 ดอมและลูกทีมของเขาได้โค่น เฮอร์นาน เรเยส ราชันย์ยาเสพติดชาวบราซิลเลียนผู้ฉาวโฉ่และทลายอาณาจักรของเขาบนสะพานในกรุงริโอ เดอ จาไนโรลงได้…
แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้คือ ดันเต้ เรเยส (เจสัน โมมัวจาก Aquaman) ลูกชายของเรเยส เป็นผู้เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างและใช้เวลาตลอด 12 ปีที่ผ่านมาในการวางแผนการที่จะทำให้ดอมชดใช้อย่างสาสม แผนการของดันเต้จะทำให้ครอบครัวของดอมต้องพลัดพรากกระจัดกระจายกันไป จากลอสแองเจลิส สู่สุสานในกรุงโรม จากบราซิลสู่ลอนดอนและจากโปรตุเกสสู่แอนตาร์กติกา
แต่ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงไปเมื่อดอมได้รู้ว่าลูกชายวัย 8 ขวบของเขา (ลีโอ อาเบโล เพอร์รี) เป็นเป้าหมายสุดท้ายในการล้างแค้นของดันเต้
และตอนนี้ ทุกอย่างเกินกว่าที่ดอม จะควบคุมไปแล้ว
Fast & Furious X กำกับโดย หลุยส์ เล็ทเทอร์เรียร์ (Clash of the Titans, The Incredible Hulk) นำแสดงโดยทีมนักแสดงที่กลับมาอีกครั้งอย่าง มิเชลล์ รอดริเกซ, ไทริส กิ๊บสัน, คริส “ลูดาคริส” บริดเจส, นาตาลี เอ็มมานูเอล, จอร์ดานา บรูว์สเตอร์, ซง คัง, เจสัน สเตแธม, จอห์น ซีนา และ สก็อตต์ อีสต์วู้ด ร่วมด้วยนักแสดงรางวัลออสการ์ เฮเลน มิร์เรน และ ชาร์ลิซ เธอรอน
ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังร่วมแสดงโดยทีมนักแสดงกลุ่มใหม่สำหรับแฟรนไชส์นี้ ซึ่งรวมถึงนักแสดงรางวัลออสการ์ บรี ลาร์สัน ในบท เทส ลูกสาวมิสเตอร์โนบอดี้ , อลัน ริชท์สัน (Reacher) ในบท เอมส์ หัวหน้าคนใหม่ของเอเจนซี ผู้ไม่ได้ปลาบปลื้มในตัวลูกทีมของดอมเท่ากับมิสเตอร์โนบอดี้หัวหน้าคนเก่า, แดเนียลา เมลชีเออร์ (The Suicide Squad) ในบทน้องสาวของเอเลน่าเมียคนแรกของดอม ร่วมด้วย นักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์ในตำนาน ริต้า โมริโน ในบทคุณยายทอเร็ตโต้ ของดอมและมีอา
REVIEW
ปฐมบทสุดมันส์ ปิดตำนานครอบครัวตัวแรงทะลุนรก
หลายคนบ่นว่าหนังฟาสท์มันไม่มีอะไรใหม่ๆแล้ว นอกจากฉากแอคชั่นโม้เหม็นบ้าบอคอแตก…ซึ่งภาคล่าสุดนี้ ก็ยังคงมีจุดขายดังกล่าวที่เหนียวแน่น
แต่ภาคนี้กลับมีกิมมิคเล็กๆน้อยๆที่ทำให้หนังภาคนี้ “ดูมีอะไร”ให้ค้นหาพอสมควร บนความอิหยังหวะของตัวละคร และบทนิดๆหน่อยที่พอจะมองข้ามไปได้…
แก่นแท้ของเรื่องราวของ FAST X จะเป็นเหมือน “กรรม” ผลของการกระทำทั้งหมดของ ดอม ทอร์เรตโต้ และชาวคณะ ตั้งแต่ภาคแรก มาจนถึงภาค 9 และส่งผลอะไรต่อตัวเขาบ้าง เมื่อยอดมนุษย์สุดซุย ชอบโชว์แอ็คชั่นขี้โม้อย่างเขา กลับมีจุดอ่อนที่ผู้ชายธรรมดาหลายคนมี นั่นคือ “ความรักที่ให้ลูกเมีย ครอบครัว และเพื่อนฝูง” และจุดอ่อนนี้ จะถูกนำมาสานต่อ เคลือบด้วยหน้าฉากแอคชั่นล่าข้ามโลกตามสไตล์หนัง Blockbuster…
หนังได้ย้อนรอยการกระทำของดอม กับพวกๆ จาก Fast Five เมื่อ10 กว่าปีที่แล้ว และได้มีการแต่งเติมเสริมเรื่องเข้าไปเพื่อทำให้เกิดเหตุการณ์ในภาคนี้ และแน่นอนว่า ตัวละครอย่างดอม ที่วิน ดีเซลแสดง เราไม่พูดถึงซ้ำอะไรมาก รู้ๆกันอยู่ว่า “แอ็คอาร์ต”แค่ไหน…
รวมไปถึงตัวละครที่เยอะมากๆ ราวกับงานรวมญาติ Fast ตัวเด่นๆเอาไว้ในภาคนี้ ซึ่งนั่นเป็นข้อเสียของหนัง ที่บังคับให้หนังต้องเล่าในมุมของตัวละครโน้นที ตัวนี้ที สลับไปมาปรับอารมณ์ไม่ทัน และทำให้หนังหลุดโฟกัสไปบ้างในพาร์ทที่ต้องการเล่า
จากตัวอย่างที่ปล่อยออกมา และได้ถูกเล่าต่อในหน้ง สามารถตีเส้นเรื่องออกมาได้ดังนี้
-เส้นเรื่องของดอม ที่ออกไปช่วยโรมันที่วาติกัน และผลลัพท์
-เส้นเรื่องของดันเต้ ที่ตามล้างแค้นดอม
-เส้นเรื่องของ เจคอบ (น้องชายดอม) + ลูกของดอม ที่ต้องเดินทางตามหาดอมไปที่จุดนัดพบ
-เส้นเรื่องของโรมัน และชาวคณะ ที่ทำภารกิจล่มแล้วต้องหนีตาย
-เส้นเรื่องของเลตตี้+ไซเฟอร์ ที่ต้องเอาตัวรอดจากทางการ
จะเห็นได้ว่า มีเส้นเรื่องที่ต้องเล่ามากถึง 5 เรื่อง ในเวลา 2 ชั่วโมง ทำให้ทุกอย่างในหนังดูรีบเร่งจนรู้สึกว่า ตามไม่ทันก็มี แต่ด้วยความที่ตัวละคร Fast มันถูก Develop มานานนับสิบปี ทำให้เก็ทสิ่งที่เกิดขึ้น และขับเคลื่อนด้วยตัวลครเหล่านี้ได้ไม่ยาก…
แต่สิ่งที่ทำให้หนังมีจุดเด่น และน่าสนใจ คือ คาแรคเตอร์ตัวร้ายอย่าง ดันเต้ เรเยส ที่แสดงโดย เจสัน โมมัว เป็นตัวร้ายที่มีสีสัน ตั้งแต่เสื้อฟ้า หน้าผม บทพูด และแอคติ้ง ที่โคตรฮา รั่ว บ้า ขายขำ และโคตรเหี้ยม พร้อมบทสนทนาจิกกัด ค่อนแคะแซะไปเรื่อย แต่บทจะร้าย ก็ร้ายแบบมีแผน ไม่ได้มาแบบโง่ๆ โดยแรงจูงใจของตัวละครดันเต้นี้ ก็ไม่ได้ซับซ้อน เพราะอย่างที่บอก มันเป็นกรรมของดอม ที่มาในรูปแบบของดันเต้นั่นเอง…ซึ่งดูเหมือนเจ้าตัวที่รับบทดันเต้ คงจะสนุกกับบทนี้มากๆเช่นกัน ถือว่าเป็นคาแรคเตอร์ตัวร้ายอันดับ 1 ในใจแฟนๆหนัง Fast ไม่ยาก อย่างน้อยก็แอดมินละคนนึง…
ส่วนแอคชั่นของหนัง เป็นอีกภาคที่ดูแล้วเหนื่อย เพราะมันแน่น และเต็มระบบมากๆ ถ้าได้ไปดูโรงหนังมี่มีเสียงดีๆซักหน่อย บอกเลยว่า “หูดับ” ไม่รู้ระเบิดอะไรกันเยอะแยะ อ่า ใช่ ถ้าใครคิดถึงซีนแข่งรถ ภาคนี้มีให้คุณด้วยนะ
สรุป ตัวหนังพยายามจะเป็น Avenger Infinity War ของค่าย Universal
เป็น Fast ที่มีความพลิกของเนื้อเรื่อง ดูมีเนื้อมีหนังจับต้องได้มากกว่า Fast ภาคที่ผ่านๆมา
พร้อมบทสรุปของเรื่องที่เชื่อว่า แฟนๆจะต้องเสียงแตก และอดใจรอภาคต่อไม่ไหวแล้ว ค้างคามากๆ…
แต่ถึงอย่างนั้น ก็คุ้มค่าตั๋วมากๆเช่นกัน…และนี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นไตรภาคเท่านั้น…
ยังเหลืออีก 2ภาคให้เล่า หวังว่าจะมีอะไรมันส์ๆ และไขปมที่ทิ้งเอาไว้ เอาแบบ “แถน้อยสุด” ก็แล้วกัน
หนังมี End Credit 1 ตัว…แล้วคุณจะยิ่งอยากดู Part 2 ไวๆ…
แอดมิน AK47