Evangelion [เกร็ดความรู้]

 

Evangelion [ข้อมูล / เกร็ดความรู้]

ชื่อเรื่อง : 新世紀エヴァンゲリオン Shin Seiki Evangelion (มหาสงครามวันพิพากษา)
จำนวนตอน : 26 ตอนจบภาคทีวืซี่รี่ย์+ ภาคหนังโรง Death& Rebirth และ The end of Evangelion
ภาคหนังโรงฉบับสร้างใหม่ในชื่อ “กำเนิดใหม่วันพิพากษา”
Rebuild of Evagelion 1.11 : You are (not) Alone.
Rebuild of Evagelion 2.22 : You are (not) Advance.
Rebuild of Evagelion 3.33 : You are (not) Redo.
ประเภท : Action, Dramatic Sci-FI
ออกฉายครั้งแรก : ปี 1995 (TV), 1997 (The movie), 2011-2013 (Rebuild of Evangelion.)
ผู้ผลิต : GAINAX, © GAINAX / Project Eva. • TV Tokyo
ระยะเวลาในการฉาย : 23 นาที (TV), 1 ชั่วโมง 30 นาที (The Movie)
ลิขสิทธิ์นิเมภาคภาษาไทยโดย : TIGA
ลิขสิทธิ์ฉบับหนังสือการ์ตูนภาคภาษาไทยโดย : Siam Inter Comics (S.I.C)

 

ในส่วนของตอนนี้ แอดมิน และคุณ Miracleseven ได้รวบรวม “คำศัพท์”ต่างๆที่ปรากฎในอนิเม และส่วนนี้นี่เองครับ ที่ทำให้หลายๆคนที่ได้ชมอนิเมเรื่องนี้ “ได้มีเรื่องให้คุยกันตลอด” ดังนั้น นี่เป็นการตีความของแอดมินและ ทีมงานเท่านั้นถ้ามีส่วนที่ผิดพลาดประการใด ก็เชิญชี้แนะเพิ่มเติมที่หน้าเพจ หรือ ใต้โพสท์นี้ได้เลยครับ…

 

สำหรับข้อมูลส่วนอื่นๆสามารถตามไปอ่านได้ที่นี่

เนื้อเรื่องตัวละคร >>> Click

ยูนิต / อาวุธ >>> Click

เทวทูต / ศัตรู >>> Click

เกร็ดความรู้ >>> Click

 

 

การวิวัฒนาการขั้นสูงสุดของมวลมนุษยชาติ (Evolution of Humanity)

 

 

 

“ถ้าหาก “เทวทูต” หรือ “กุญแจแห่งการวิวัฒนาการ”ได้สัมผัสกับร่างผู้ให้กำเนิด(อดัม) ทุกๆ สิ่งจะคืนสู่ตัวตนดั้งเดิม วิญญาณของสรรพชีวิตจะหลั่งไหลไปรวม ณ ดินแดนแห่งความนิรันดร์”
ซึ่งทาง SEELE เชื่อว่านี่คือ “วิวัฒนาการขั้นสูงสุด” ที่ควรจะเป็น พวกเขาเชื่อว่า การไร้ซึ่งร่างกาย การไร้ซึ่งอาวรณ์ จะทำให้มนุษยชาติได้ใกล้เคียงกับพระเจ้า… และพรมแดนระหว่างสรวงสวรรค์กับโลกก็จะกลายเป็นหนึ่งเดียว
แต่นั่นจะหาใช่สัจธรรมอันแท้จริงหรือ??… เพราะในเหตุการณ์ 3rd Impact (อ้างอิงจากในภาค 2.22) ที่เกิดขึ้นกลับกลายเป็น “การสิ้นสุดของมวลมนุษยชาติ” โลกทั้งใบกลายเป็นโลกที่ตายแล้ว ทุกๆ สรรพชีวิตสูญสิ้นลง คงเหลือเพียงเศษซากแห่งความตายของมนุษยชาติสีแดงทิ้งร้างเอาไว้

 

 

SEELE

“องค์กรลับ” ผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทุกๆ อย่างในเรื่อง อีกทั้งยังเป็นเจ้าของเงินทุนให้เนิร์ฟ ใช้ในการสร้างเหล่าอีวา เพื่อแผนการนำพามวลมนุษยชาติให้ไปถึงจุดสูงสุดของวิวัฒนาการ กล่าวกันว่ามีทั้งหมดด้วยกัน 12 คน ซึ่งแต่ละคนไม่มีร่างกาย เหลือเพียงส่วนที่เป็นสมองเพื่อใช้เป็นเพียงภาชนะบรรจุวิญญาณของตนเองเท่านั้น
***SEELE เป็นภาษาเยอรมันที่มีความหมายว่า “วิญญาณ” เช่นเดียวกับคำว่า Soul ในภาษาอังกฤษ***

 

 

Dead Sea Scroll คัมภีร์แห่งทะเลสาบความตาย

เป็นบันทึกลึกลับ ที่กล่าวถึง “จุดกำเนิด” ของสรรพสิ่งบนโลก รวมไปถึงคำพยากรณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อมวลมนุษยชาติ SEELE ได้ใช้บันทึกเล่มนี้ดำเนินแผนการพัฒนามวลมนุษยชาติให้ไปสู่ความเป็นนิรันดร์ ด้วยการทำให้เกิด 3rd Impact ตามที่มีอยู่ในบันทึกเล่มนี้นี่เอง…
สำหรับ “บันทึกแห่งเดดซี” เป็นของที่มอยู่จริงๆในโลกนี้ครับ มันเป็นม้วนคัมภีร์ที่พบในถ้ำถึง 11 แห่ง พบครั้งแรกในปี พ.ศ. 2490 – 2499 ในเมืองคุมราน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของทะเลเดดซี ซึ่งมีเอกสารทั้งหมด 800 รายการ และส่วนใหญ่เป็นคัมภีร์เกี่ยวกับศาสนายูดาห์ที่ไม่เคยพบมาก่อน มีอายุประมาณ 2,000 ปี เอกสารสำคัญที่สุดคือคัมภีร์ไบเบิลภาคพันธสัญญาเก่า และ หนังสือเอสเธอร์
ส่วนใหญ่ถูกเขียนด้วยภาษาฮิบรู บางส่วนเขียนเป็นภาษาแอราเมอิก (ภาษาพูดสมัยนั้น) และภาษากรีก (ภาษาทางการค้าสมัยนั้น) หนังสือบางส่วนกล่าวถึงวิถีชุมชน กฎและข้อลงโทษ ซึ่งแสดงให้เห็นภาพของกลุ่มชาวยิวที่เรียกว่าพวกเอสซีน ซึ่งอยู่ร่วมสมัยกับพระเยซู ที่เชื่อถือในวันสิ้นโลกอย่างมาก ซึ่งอนิเมก็หยิบยกตรงนี้มาใช้แบบเนียนๆเลยครับ (ข้อมูลจากวิกิพีเดีย)

 

 

Geo-Front

แผนภาพนี้ เป็นแผนภาพของ Geo-Front ซึ่งจะแบ่งฐานทัพเนิร์ฟอยู่บนสุด ไล่ลงมาจนถึงใจกลางของ Blackmoon ที่ๆในเรื่อง จะเรียกกันว่า “Central Dogma” สถานที่ๆเก็บ “ ลิลิธ” นั่นเอง

 

Geo-Front เป็นโพรงใต้ดินขนาดใหญ่ซึ่งมีความลึกในหลายๆ ชั้นต่างกันไป โดยหัวใจหลักอยู่ที่ เป็นที่ตั้งขององค์กรเนิร์ฟ รวมถึงเป็นสถานที่เก็บตัวของลิลิธที่ในส่วนที่ลึกที่สุด เป็นสาเหตุสำคัญของเรื่องนี้ที่เหล่าเทวทูตมาบุกยังเนิร์ฟสาขาญี่ปุ่นเพราะต้องการเข้าถึงลิลิธเพื่อคืนสู่จุดเริ่มต้นอันก่อให้เกิด 3nd Impact ได้ คนที่รู้ความลับของ Geo-Front จึงมีไม่กี่คนเท่านั้น และชินจิ เคยมาเดินเล่นที่เซนทรัลด๊อกม่า กับมิซาโตะมาแล้ว (และก็ “อึ้ง”รับประทานกับความจริงที่ได้รู้ จนไม่อยากจะขับอีวาอีกเลย)

 

 

Graveyard of Eva

สุสานของอีวา เป็นโซนขนาดใหญ่ที่อยู่ใต้ Geo-Front ใช้สำหรับทิ้งซากของเอวาที่การทดลองล้มเหลวเป็นจำนวนมาก และเป็นสถานที่ๆทำให้คนดูเรื่องนี้ ได้รู้ว่า “อีวาไม่ใช่หุ่นยนต์ แต่เป็นเพียงร่างจำลองของมนุษย์ขนาดใหญ่”เท่านั้น ซึ่งเป็นความจริงที่สยองมาก

 

 

Longinus Spear

หอกขนาดใหญ่ที่มีส่วนสำคัญในการก่อกำเนิดอณูชีวิตบนโลกใบนี้ เป็นเหมือนดั่งเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตที่ได้จากดวงจันทร์สีดำ ซึ่งคุณMiracleฯแกตีความได้ว่า “เป็นการปฏิสนธิหรือเพศสัมพันธ์” โดยการเจาะลงบนที่ผิวของดวงจันทร์สีดำ อันเป็นไข่ของลิลิธ เพื่อหว่านเหล่าลิลินไปทั่วดวงดาว มีอนุภาคในการหักล้างกำแพงแห่งจิตใจหรือ A.T. Field ของทั้งเหล่าเทวทูตและของเอวาได้

 

นอกจากหอกลองกินุสแล้ว ในภาค 3.33 ยังมีหอกคู่แฝดอีกเล่มที่ชื่อ คาชิอุส ซึ่งได้ตั้งตามชื่อของ ไกอุส คาชิอุส ลองกินุส แม่ทัพสมัยก่อนยุคพระเยซู

 

ส่วนรายละเอียดจริงๆของหอกศักดิ์สิทธิ์เล่มนี้ แอดมินทำไว้น่าจะละเอียดพอสมควรแล้ว ก็ตามไปอ่านกันได้ในลิ้งคืนี้เลยครับ

CLICK

 

 

MAGI (เมไจ)

เมไจ คือ ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ขององค์กรเนิร์ฟสาขาญี่ปุ่น ได้รับการออกแบบและสร้างขึ้นโดย ศ.จ.นาโอโกะ คุณแม่ของริตซึโกะ สามารถแยกการประมวลผลออกเป็น 3 บุคลิกภาพของผู้สร้างเป็นหลักได้แก่ Casper (แคสเปอร์/บุคลิกภาพในความเป็นผู้หญิง), Balthasar(บัลธาซ่า/บุคลิกภาพในความเป็นมารดา), Melchior (เมลคิออร์/บุคลิกภาพในความเป็นนักวิทยาศาสตร์)

 

นอกจากที่เนิร์ฟในญี่ปุ่นแล้วยังมี MAGI อีก 6 เครื่องอยู่ที่สาขาต่างประเทศ เช่น Magi 02 ที่ มัตซึชิโระในญี่ปุ่น Magi 03 ที่ เบอร์ลินในเยอรมัน Magi 04 ที่มลรัฐแมสซาชูเซตส์ในอเมริกา Magi 05 ที่เมืองฮัมบูร์กในเยอรมัน และ Magi 06 ที่เมืองปักกิ่งในประเทศจีน

 

สำหรับชื่อเรียกนั้นได้ตั้งตามนามของนักบุญทั้งสาม ที่เคยไปเข้าเฝ้าพระเยซูช่วงที่ทรงพระประสูติครั้งแรกบนโลก

 

 

Entry Plug

“เอนทรี่ปลั๊ก” ห้องนักบินที่เชื่อมต่อส่วนที่เป็นท้ายทอยของร่างจำลองมนุษย์เทียม รูปทรงดูคล้ายๆ แท่งทรงกระบอก ภายในจะมีที่นั่งของนักบิน ก่อนออกปฏิบัติภารกิจจะมีการบรรจุสารเหลว L.C.L ให้เต็มห้อง เพื่อช่วยเรื่องของระบบการหายใจ นำออกซิเจนเข้าสู่สมองโดยตรง และเพิ่มประสิทธิภาพของระบบการเชื่อมต่อประสาท

 

แต่ต่อมา มีการใช้ระบบ A.I. ที่มีชื่อว่า Dummy Plug System ที่คิดค้นขึ้นเพื่อใช้เป็นกรณีสำรองหากนักบินไม่สามารถปฏิบัติภารกิจได้ โดยจะจำลองข้อมูลของทั้งคาโอรุและเรย์ในการทำงาน แน่นอนว่ามันทำตามคำสั่งที่ได้รับอย่างเดียว โดยไม่สนว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม…

 

 

A.T. Field (Absolute Terror Field)

สนามพลังAT เป็นอนุภาคในรูปแบบของ “เกราะกำบัง” (รูปแบบคล้ายๆ Beam Shield ของกันดั้ม F91 แต่นามธรรมกว่านั้นเยอะครับ)
เป็นของที่เหล่าเทวทูตและอีวาสามารถใช้ได้ คุณสมบัติในการต่อต้านการโจมตีจากอาวุธในทุกๆ รูปแบบ ทั้งการโจมตีในลักษณะกายภาพ เช่น อาวุธมีคม, กระสุนปืนใหญ่, ขีปนาวุธและระเบิดอนุภาพแรงสูงได้ รวมไปถึงการโจมตีด้วยอาวุธอนุภาคลำแสง อย่างปืนโปรซิตรอนไรเฟิลได้อีกด้วย แต่ใช่ว่าจะป้องกันการโจมตีจากอาวุธที่มีคุณสมบัติหักล้างสนามพลังได้ เช่น Progressive Knife มีดสั้นที่เป็นอาวุธพื้นฐานของ อีวา01และ02 หรือ หอกลองกินุส (รวมไปถึงของ “ก๊อป” ที่อีวาซีรี่ยส์ใช้ในอนิเมภาคThe End Of Evangelion ครับ)
ในเรื่องอธิบายรูปแบบของสนามพลังว่าเป็นการสร้าง “กำแพงแห่งจิตใจ” ที่แข็งแกร่งมากพอจะรับมือการโจมตีจากภายนอก แต่จะอ่อนแอมากเมื่อถูกการโจมตีที่จิตใจ ซึ่งเป็นได้ทั้งข้อดีและจุดอ่อนในตัว

 

 

L.C.L (Link Connection Liquid)

เป็นของเหลวที่มีคุณสมบัติในการให้ออกซิเจนภายในห้องนักบิน ทั้งยังเกี่ยวข้องในเรื่องของการทำงานในระบบเชื่อมต่อประสาทสั่งการระหว่างตัวของนักบินกับร่างของเอวาได้ L.C.L ใช้หลักการของ “น้ำคร่ำ” (ในครรภ์ของมารดา) ตอนที่เด็กทารกยังอยู่ในท้อง
ในความเป็นจริงนั้น… L.C.L ก็เปรียบได้คือ “น้ำแห่งชีวิต” เพราะทุกๆ สรรพชีวิตบนโลกถือกำเนิดเกิดจากน้ำ อันเป็นจุดกำเนิดแท้จริงนั่นเอง…

 

 

Gate of Gulf ประตูแห่งดินแดนนิรันดร์

อาณาเขตขนาดใหญ่ที่กล่าวกันว่าเป็นประตูแห่งการก้าวไปสู่การวิวัฒนาการขั้นสูงสุดที่ SEELE ต่างเชื่อถือว่า ดวงวิญญาณของทุกๆ สรรพสิ่งจะถูกหลอมรวมกัน ณ ดินแดนที่อยู่ปลายทางของประตูบานนี้ ปรากฏการณ์นี้จะเกิดขึ้นเมื่อกุญแจแห่งการวิวัฒนาการได้ถูกทำให้ตื่นขึ้นโดยสมบูรณ์ SEELE หวังให้ชินจิพร้อมกับเอวาหมายเลข 01 เป็นกุญแจดอกนั้น

 

 

หรือว่า “โฉมหน้าของเหล่าเทวทูต ที่ปรากฎตัวในเหตุการณ์ 2nd Impact ตัวจริงก็คือ…”
(เป็นอารมณ์ขันของผู้กำกับ ฮิเดอากิ อันโนะ เพราะเขาชอบอุลตร้าแมนแจ็ค ฮีโร่ของซึบุราญ่าโปรดักชั่นมากๆครับ ซึ่งอักษรในวงแหวนที่พื้นห้องประชุมของเซเล่ ก็คือภาษาอุลตร้า ที่บอกชื่อของยอดมนุษย์ของเรานั่นเอง)

 

“เรือรบอุรานามิ” เป็นเรือ ชั้น “อายานามิ” ที่ฮิเดอากิ อันโนะ ชอบมาก จนเอามาตั้งชื่อตัวละคร และแน่นอนว่า ชื่อ “ชิกินามิ” หรือ “มากินามิ” เอง ก็มาจากเรือรบเช่นกันครับ (เล่นง่าย แต่น้อยคนที่จะรู้เนอะ!)
http://en.wikipedia.org/wiki/Ayanami_class_destroyer

 

 

ทิ้งท้าย…

ไม่ว่าจะกี่ยุค กี่สมัย “มนุษย์” ก็คือตัวทำลายล้างโลกที่พวกเขาอาศัยนั่นเอง ไม่ว่าจะทางตรง หรือทางอ้อม แอดมินปฏิเสธไม่ได้ครับ ว่านี่คือ “ความเป็นจริง” ที่แฝงมาในหนังการ์ตูน เป็นแนวคิดที่เสียดสี จิกกัดจิตใจและทำหน้าที่ “สะท้อนมุมมอง” ในด้านต่างๆของผู้ชม กับบทสรุปเรื่องราวต่างๆที่ สลดหดหู่ พร้อมๆกับคำถามที่เสียดแทงจิตใจของผู้รับชม ว่า

 

“สุดท้ายแล้ว สิ่งที่มนุษย์อย่างเราๆทำสิ่งต่างๆที่คิดว่าดีต่อโลก ต่อมนุษยชาติ ลงไปนั้น ทำเพื่ออะไรกันแน่? สนองตัณหา และความทะยานอยาก? หรือ ทำเพื่อโลกใบนี้ให้ก้าวต่อไป อย่างจริงๆจังๆ?”

 

ถ้าใครได้อ่านบทความทั้งสี่ตอนนี้จบ แล้วไปหยิบอนิเมเรื่องนี้มานั่งชม (แบบจริงๆจัง) ก็อาจจะค้นพบคำถามในใจของผู้ชม ที่แตกต่างกันออกไปจากนี้ก็ได้ครับ

 

 

ละอองสีแดง คือ มวลชีวิตทั้งหมดของมนุษยชาติ ที่ลิลิธ กำลังทวงคืนจากโลก และแสงสีเขียวรูปกางเขน คือสัญลักษณ์ของ “การละทิ้งกายหยาบในภพภูมินี้” เพื่อพามนุษย์ชาติไปสู่ความเป็นนิรันดร์ นี่คือภาพความหดหู่ของ 3rd Impact (แต่เพลงประกอบเพราะมาก ทั้งๆที่เนื้อหาเพลงสุดมืดมน…)

 

ถือว่า เป็นอนิเมที่ทิ้งให้คนดูไปคิดต่อ และยังมีอะไรให้ค้นหาอีกเยอะครับ ตอนที่แอดมิน นั่งดูอนิเมเรื่องนี้ กับคุณ Miracleseven ในสมัยนั้น ก็แทบจะเปลี่ยนทัศนคติของการรับสื่อไปเลย ต้อง “คิด วิเคราะห์ แยกแยะ” ให้มากขึ้น มองอะไรๆให้หลากหลายมุมมากขึ้น

 

นี่คือสิ่งที่แอดมิน ได้รับอิทธิพลมาจากการดูอนิเมเรื่องนี้ ก็เลยอยากจะแนะนำอนิเมเรื่องนี้ ให้หลายๆคนได้ดูกัน และยังเป็นอนิเมที่ไม่เก่าเกินไป เพราะยังสามารถหาซื้อ DVDBoxset มานั่งดูได้ครับ

 

บางอย่างในบทความนี้ ถ้ามีการ “ตกหล่น” ไปบ้าง ก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ใครมีอะไรต้องการเสริม ก็แสดงความเห็นกันได้นะครับ
ไม่ต้องเกรงใจ แต่อยากให้เป็นไปในลักษณะ “การนั่ง”ถก”กันด้วยเหตุและผล”นะครับ

 

จนกว่าจะพบกันใหม่ ขอทิ้งท้ายด้วยเพลงและซีนในตำนาน “วันสิ้นโลกอันแสนหดหู่” จากอนิเมะเรื่องนี้ครับ

 

 

Komm, Süsser Tod (Come Sweet Death)
(ภาพในช่วงเหตุการณ์ 2nd Impact จากThe End of Evangelion)

 

 

Tsubasa wo kudasai
(ช่วงท้ายจะเป็น ภาพในช่วงเหตุการณ์ 2nd Impact จาก ภาค2.22)

 

 

 

By Miracleseven
ซัพพอร์ทข้อมูลบางส่วน และเรียบเรียงเพิ่มเติมโดย แอดมิน Ak Fourtyseven