Dragon Ball Super: Super Hero
สร้างจากทีวีซีรีส์ : Dragon Ball Super
ออกแบบตัวละคร : โทริยาม่า อากิระ
Animation Production: TOEI
กำหนดฉาย : 29 กันยายน 2022
ดราก้อนบอล ซูเปอร์: ซูเปอร์ฮีโร่ เป็นภาพยนตร์ดราก้อนบอลเรื่องที่ 21 และเป็น ภาพยนตร์ดราก้อนบอลภาคซูเปอร์เรื่องที่ 2
อ.โทริยาม่า ได้นำเสนอแนวคิด “เนื้อเรื่องออริจินอล” อีกครั้ง ผ่านการเขียนสคริปต์ (รวมถึงทุกรายละเอียดของบทสนทนา) และการออกแบบตัวละครสำหรับเวอร์ชั่นภาพยนตร์ (เปลี่ยนตัวละครที่มีอยู่ก่อน ให้ตรงอิมเมจกับมังงะ มากกว่าที่ใช้ในอนิเมะ) ว่ากันว่าอ.โทริยาม่าเอง ก็มีส่วนในการลงมาทำงาน กับการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้มากกว่า สามเรื่องก่อนหน้านี้
โนริฮิโระ ฮายาชิดะ ผู้อำนวยการสร้างจาก TOEI ANIMATION กล่าวว่า
“ผมคิดว่าหนังเรื่องใหม่นี้มีความดึงดูดที่แตกต่างไปจาก ‘Dragon Ball Super: Broly’ มีฉากที่ใช้ชีวิตอีกมากมายแต่ไม่ได้หมายความว่าหนังเรื่องนี้จะไม่มีฉากที่เข้มข้นนะ!มันเป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างดราก้อนบอลสุดคลาสสิกกับแง่มุมใหม่ๆ นั่นเป็นเหตุผลที่ผมรู้สึกว่ามันอาจจะจบลงด้วยการเป็นอะไรที่แปลกใหม่และแปลกใหม่อย่างแท้จริง!
คิดว่าเราจะสามารถเอาใจแฟน ๆ ทุกคน ด้วยภาพยนตร์เรื่องนี้ การนำเสนอเรื่องราวและการออกแบบที่น่าทึ่งของ โทริยามะ แบบที่เจ๋งที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้คือภารกิจของเราเสมอมา! รออย่างอดทนและตื่นเต้นอีกสักหน่อย!”
เรื่องย่อ
กองทัพเรดริบบ้อน ที่เคยถูก โกคู ทำลายไปเมื่อหลายสิบปีก่อน ถูกลูกชายอย่าง “มาเจนต้า” สืบทอดกิจการในฐานะบริษัทเวชภัณฑ์ แต่ทว่ามาเจนต้า ยังคงหวังครองโลก จึงได้ซุ่มสร้างกองทัพเรดริบบ้อนอีกครั้งในหุ่บเขาแห่งหนึ่ง โดยได้รับความร่วมมือจาก “ดร.เฮโด้” หลายชายของดร.เกโร่ ที่เพิ่งออกจากคุกฐานนำศพไปทำไซบอร์ก
ในตอนนี้ มาเจนต้า และ ดร.เฮโด้ ได้ร่วมมือกัน เพื่อเป้าหมายแรก คือการกำจัดเสี้ยนหนามอย่าง บริษัทแคปซูล คอร์ป และ เหล่านักรบ Z ที่แข็งแกร่งที่สุด และเป้าหมายสุดท้ายคือการกำจัดคนที่เก่งที่สุดอย่าง มิสเตอร์ซาตาน และค่อยก้าวสู่การครองโลกต่อไป…
วันหนึ่ง พิกโกโร่ ที่ใช้ชีวิตอย่างสงบในหุบเขา ก็ได้พบกับมนุษยดัดแปลง แกมม่า หมายเลข 2 ที่มีความสามารถ พลัง เทียบเท่านักรบซูเปอร์ไซย่า!
พิกโกโร่เริ่มรู้สึกได้ว่า เรื่องวุ่นวาย จะตามมาแน่นอน…จึงได้ไปพบโกฮัง แต่ว่าโกฮังในเวลานี้ เป็นนักวิชาการด้านแมลง และดูไม่มีความเป็นนักรบไซย่าเอาเสียเลย
งานนี้พิกโกโร่จะทำยังไง ถ้าไม่ใช่โกฮัง แล้วใครจะกู้โลก? ต้องไปติดตามในโรงภาพยนตร์ซะแล้ว!!
รีวิว 8/10
สนุก ครบรส บู๊น้อยหน่อย แต่ บทสนทนาฮาโบ๊ะบ๊ะ แบบโทริยาม่าสไตล์ที่เราคิดถึง
หลานคนที่เคยดูหนังโรงดราก้อนบอล ก็อาจจะรู้สึกว่า มันไม่มีอะไรใหม่ๆ เป็นการตูนบู๊แอคชั่น เตะต่อยปล่อยพลังสเกลพลังขี้โม้เว่อวัง ดูจบแล้วก็กลับบ้านนอน…
ใช่ครับ ภาคนี้ก็เป็นแบบนั้นแหละ แต่สิ่งที่ต่างอย่างเห็นได้ชัดเลยคือ บาลานซ์ของฉากแอคชั่นที่ถูกปรับให้ไปกองแบบจัดเต็มที่ท้ายๆเรื่อง มากกว่าปล่อยเปะปะเรี่ยราดจนเป็นหนังที่ดูแล้วเหนื่อย…
แล้วเราได้อะไรมาแทน? คำตอบคือ เราได้ “การเล่าเรื่องชีวิตประจำวันของการ์ตูนดราก้อนบอล” แทน จุดนี้เป็นสิ่งที่โดนเส้น โดนใจเรามากๆ เพราะแม้ว่าจะไม่ได้เล่าในองค์รวมของโลกทั้งหมด และเลือกเล่าผ่านเซตติ้งตัวละคร หรือสถานการณ์ช่วงเวลาสั้นๆ แต่นี่คือโลกทัศน์แบบโทริยาม่า ที่ผ่อนคลาย สนุกสนาน
ถ้าไม่มีฉากบู๊บ้าพลังท้ายเรื่อง นี่ก็นึกว่ากำลังดู “อาราเล่” เลยนะ โบ๊ะบ๊ะมาก
เซตติ้งในช่วงแรกของหนัง นำเสนอในโจทย์ ชาวไซย่า /โกฮัง /ปัง/ พิโกโร่ และ คนอื่นๆใช้ชีวิตในโลกนี้ยังไง? กองทัพเรดริบ้อนคืออะไร? ตัวหนังเลือกที่จะเล่าจุดนี้ในช่วงต้น และน่าสนใจมากๆ แถมผู้ชมที่ห่างหายจากดราก้อนบอล ก็สามารถเข้าใจเรื่องราวบางส่วนได้จากบทเกริ่นนำที่เล่ากระชับ และใช้เวลาไม่มากนัก
จุดเด่นที่เราชอบมากๆ คือ “หนังใช้งานบทสนทนาแบบโทริยาม่าจริงๆ” มันเป็นมุกตลกหน้าตาย มุกที่เชือดเฉือนกันด้วยบทสนทนา รับส่งมุก มีตัวชง ตัวตบ ที่ทำเราขำ และเข้าใจมากๆ เพราะคาแรคเตอร์ตัวละครเหล่านี้ เรารู้จักนิสัยใจคอเป็นอย่างดีอยู่แล้ว และการที่ตัวละคร มีท่าทีที่แสดงออกต่อ Scenario นั้นๆ มันสมเหตุผลของตัวละครนั้นๆจริงๆ
เราอย่าเอา Logic ของโลกจริงใส่ลงไปในตัวละคร เพราะโลกของโทริยาม่านั้น จริงๆแล้วมันเป็นโลกที่มีความ “อิหยังหวะ” แบบนี้บ่อยมาก ไม่ต้องไร แค่ “ซีนขอพรจากดราก้อนบอล” ในภาคนี้ “โคตรปั่นจัดๆ” บอกเลย
ในขณะที่ตัวละครหลักๆอย่าง โกคู เบจิต้า เทพบิล โบรลี่ ยังคงมีบทบาท แม้จะมาไม่มาก เหมือนมาแค่เซอร์วิสแฟนๆของตัวละครกลุ่มนี้หลังจบศึกกับจิเร็นแล้ว เหมือนเป็นมุมพักร้อนสบายๆมากกว่า
อีกจุดที่เราชอบ คือการให้เหตุ และ ผลของการที่โกฮังมารับบทเด่น แบบเด่นโคตรๆ และว้าวจัดในช่วงท้ายเรื่องจนนั่งไม่ติดเบาะจริงๆ…เพราะว่า เส้นเรื่องหลัก คือเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะชาวโลก ก็ควรให้ชาวโลกจัดการ พวกเหนือจักรวาลนี่คือ ไปไกลๆเลย ไม่ต้องมาอะดีแล้ว เดี๋ยวหนังจบไว
ส่วนงานภาพ พอมาเป็น 3D เซลเฉดแล้ว รู้สึกว่า ทีมงานจะเล่นกับการแพนกล้อง หมุนกล้องบ่อยมากๆ หรือการเล่นกับภาพในแบบ Landscape โชว์ภาพมุมกว้าง ภาพรวมบ่อยขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งแอดมินที่ได้ดูใน IMAX บอกเลยว่า เต็มตา สุดมากทั้งภาพและเสียง (พากย์ญี่ปุ่น ป้ามาซาโกะโคตรแบกอีกแล้ว 555+) ฉากแอคชั่นทำได้ไหลลื่นต่อเนื่อง แม้ว่าจะสูญเสียตัวตนความเป็นอนิเมะ 2D แต่การเล่นภาพเหวี่ยงๆมันส์ในการดวลกันระหว่าชาวไซย่าในเรื่อง ดูน่าสนใจ และสดใหม่พอสมควร แน่นอน บางทีมันก็ดูไม่รู้เรื่อง ชวนมึนๆเหมือนกัน
สรุป เป็นหนังดราก้อนบอล ที่ตลก บู๊สนุกดี เซอร์วิสก็เยอะดี
อันนี้แฟนๆดราก้อนบอลจะเก็ทฟิลเลย
ส่วนคนทั่วไปที่ไม่ได้ตาม ก็น่าจะสนุกไปกับการนำเสนอเช่นกัน…
แต่ใดๆเลย น้องปังฉามขวบ กับคุณลุงพิกโกโร่ น่ารักมุ้งมิ้งมากๆ!
ไปดูกันได้แล้ววันนี้ ทั้งระบบปกติ และ IMAX ที่โคตรอลังตระการตา 555
**หนังมี END CREDIT ไม่ต้องรีบลุก**
แอดมิน AK47
-
BEYBLADE X : 10 ตัวน่าซื้อ ของมันต้องมีในปี 2024
#beybladex #kctoysbeybladex #beybladexthailand
-
KARATE KID: LEGENDS [เรื่องย่อ / ตัวอย่าง / หนังใหม่ /2025]
#KarateKidMovie #KarateKi #เฉินหลง #JackieChan
-
20 ตัวละครจากเกมยอดนิยมที่ถูกค้นหามากที่สุดในเวปไซต์สำหรับผู้ใหญ่ 2024
#Ranking #website #Games #PC #Console