Dragon Age: The Veilguard

(ชื่อเดิม Dragon Age: Dreadwolf)
ประเภท : RPG
เครื่อง : PS5 / PC
พัฒนาโดย : Bioware
จำหน่ายโดย : Electronics Art (EA)
วันวางจำหน่าย :  31 ตุลาคม 2024

พักหลังๆ เกม RPG จากฝั่งอเมริกาก็เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ด้วยความที่เป็นเกมแนวๆที่อ้างอิงถึงความดุดัน เข้มขลัง ของโลกแฟนตาซีที่แสนจะมืดมน ซึ่งต่างจาก RPG ญี่ปุ่น ที่เป็นโลกที่สีสันฉูดฉาด สวยงามเหมือนในอนิเมชั่นจากประเทศญี่ปุ่น  ด้วยเนื้อหาที่เข้มข้น เปิดกว้าง และเป็นอิสระในการกระทำของผู้เล่น ที่จะส่งผลต่อฉากจบที่มากมาย หลากหลายแนวทาง ทำให้ Dragon Age เป็นที่พูดถึงอย่างมากในยุครุ่งเรืองของเกมนี้ แถมเกมมีรูทให้จบมากมาย เราจะจบแบบผู้กล้า ทรราชย์ คนเถื่อน หรือแม้กระทั่ง เลือกเส้นทางสู่ด้านมืดอย่างเต็มตัวก็สามารถทำได้ เป็นอีกหนึ่ง RPG สไตล์ฝรั่งแท้ๆ ที่ไม่มีผู้กล้าหน้าละอ่อน หรือสาวๆโมเอะให้ดูเลย มีแต่พี่ถึกดาบโต ฆ่ามังกรนี่แหละ คลาสสิค

ด้วยฉากจบที่หลากหลายนี้เอง ที่ทำให้หลายๆคน เริ่มติดใจในเกมซีรีส์ และยังมีภาคต่อของเกม นิยายสารพัดภาคที่ออกมา รวมถึงหนังสือการ์ตูนอีกเพียบ! ซึ่งก็ทำได้ดี ถึงแม้สเกลของเกมจะย่อลงเรื่อยๆ เพื่อให้ผู้เล่น เข้าถึงเนื้อหาใจความของเกมมากขึ้นนั่นเอง  และเกมนี้ ก็เดินทางมาถึง ภาคล่าสุด กับเกมที่มีชื่อว่า Dragon Age: The Veilguard  หรือชื่อเดิมในการพัฒนา Dragon Age: Dreadwolf

เกมนี้คือ!?

 Dragon Age: The Veilguard เป็นผลงานเกมจากทาง Electronics Art (EA) และ พัฒนาโดย Bioware  ซึ่งได้ออกมาเปิดเผยว่า ตัวเกมเต็มมีกำหนดออกในช่วงฤดูร้อนปี 2024  ในระบบ PlayStation  , Microsoft Store และ Steam 

ในDragon Age: The Veilguard ผู้เล่นจะออกเดินทางเพื่อเผชิญหน้ากับเทพเอลฟ์ผู้ทรงพลัง และหยุดยั้งการทำลายล้างโลก คุณเป็นที่รู้จักในชื่อ Rook ซึ่งต่อสู้ในแนวหน้าร่วมกับเพื่อนร่วมทามากมาย ซึ่งมีเนื้อเรื่องและแรงจูงใจที่แตกต่างกัน ตาม สไตล์ ของ Dragon Age เพื่อนร่วมทางคือศูนย์กลางของประสบการณ์ และในฐานะ Rook คุณต้องลุกขึ้นรวมที และสร้างความสัมพันธ์เพื่อเป็นผู้นำกลุ่ม

เรื่องย่อ

“โซลัส” เทพหมาป่าแห่งความหวาดกลัว และเอลฟ์จอมหลอกลวงแห่งตำนาน ต้องการที่จะทำลายม่านที่แยก “ธีดาส” ออกจากโลกแห่งปีศาจ เพื่อคืนความเป็นอมตะ แม้ว่าจะต้องแลกมาด้วยชีวิตนับไม่ถ้วนก็ตาม แต่พิธีกรรมของเขากลับผิดพลาด และความน่ากลัวที่แท้จริงก็เกิดขึ้น เมื่อศัตรูที่เก่าแก่และทรงพลังที่สุดสองรายของเขาได้รับการปล่อยตัว พวกเขามุ่งหวังเพียงเพื่อยุติสิ่งที่พวกเขาเริ่มไว้เมื่อหลายพันปีก่อน นั่นคือการครอบครองโลกอย่างสมบูรณ์

การเดินทางของ Rook เพื่อหยุดยั้งเทพผู้ทรงพลังทั้งสองนี้จะครอบคลุมไปทั่ว ธีดาส ไปจนถึงเมืองที่พลุกพล่าน เขตร้อนอันอุดมสมบูรณ์ ป่าไทกา หนองบึงที่ถูกพันธนาการ และบริเวณที่ลึกที่สุด แต่จงระวังกองกำลังชั่วร้ายตลอดทาง เช่น Dark Spawn, Venatori Cultists และ Demons of the Fade

ระบบเพื่อนร่วมทางใหม่เอี่ยมของ Veilguard มีชีวิตขึ้นมาด้วยเนื้อเรื่องส่วนตัวที่น่าสนใจในประวัติศาสตร์ Dragon Age โดยมีเรื่องราวที่กว้างขวาง และมีชีวิตชีวา ที่มีทั้งความรัก ความสูญเสีย และการตัดสินใจที่ซับซ้อนซึ่งจะส่งผลต่อความสัมพันธ์ของคุณและชะตากรรมของสมาชิกแต่ละคน และบางเส้นเรื่อง จะส่งผลต่อผังสกิลทักษะเฉพาะตัว และอุปกรณ์พิเศษระดับสูงด้วย

Dragon Age: The Veilguard เป็นเกมที่สร้างขึ้นจากรากฐานของการเล่นแบบ Role Play ตามบทบาทที่ล้ำลึกของซีรีส์ โดยนำเสนอเรื่องราวและการสร้างโลกที่พิเศษ บุคลิกที่ลึกซึ้งของเพื่อนร่วมเดินทางแต่ละคน ตัวเลือกที่สำคัญ และผลที่ตามมา พร้อมช่วงเวลาที่น่าประทับใจในแบบภาพยนตร์ ความสัมพันธ์ที่คุณสร้างขึ้นจะได้รับผลกระทบจากการเลือกของผู้เล่นตลอดการเดินทาง

 The Lighthouse เป็นสถานที่ส่วนกลางที่คุณสามารถพักผ่อน เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโลกผ่านบทสนทนา ในขณะที่ระบบ Crossroads ช่วยให้คุณเดินทางข้ามไปยังภูมิภาคต่างๆ ของโลกที่สำรวจได้พร้อมกับเพื่อนร่วมทาง คุณจะได้สัมผัสกับ “ธีดาส” มากกว่าที่เคย โดยแต่ละแห่งจะเมีเรื่องราว เควสท์ และสิ่งต่างๆให้ผู้เล่นได้สำรวจ และค้นพบความลึกลับของดินแดนแห่งนี้

การต่อสู้ที่ลื่นไหลและปรับแต่งได้  พร้อมระบบหยุดเกมเพื่อวางกลยุทธ์ ยังคงอยู่ ผู้เล่นสามารถปรับแต่งประสบการณ์ของตนเองให้เหมาะกับสไตล์การเล่นของตนเองได้อย่างเต็มที่ด้วยผังสกิลที่หลากหลายในสามคลาสที่แตกต่างกัน ได้แก่ นักรบ นักเวทย์ และ โจร ซึ่งแต่ละคลาสจะมีความสามารถและความเชี่ยวชาญเฉพาะตัว เลือกเพื่อนร่วมทางสองคนเพื่อร่วมภารกิจของคุณและปลดปล่อยคอมโบทีมอันทรงพลังที่สามารถเปลี่ยนกระแสของการต่อสู้ใดๆ ก็ได้ หรือจะเลือกกลยุทธ์และสั่งให้เพื่อนร่วมปาร์ตี้ที่เป็นบอท ได้ต่อสู้ รักษา หรืออยู่ห่างจากการต่อสู้ด้วยวงล้อความสามารถที่เพิ่มเข้ามาใหม่

นอกจากนี้ Dragon Age: The Veilguard มีระบบการสร้างตัวละครที่แข็งแกร่งที่ช่วยให้คุณเป็นผู้นำที่คุณอยากเป็นได้พร้อมการปรับแต่งที่หลากหลาย 

ผลงานเกมดังกล่าวนำโดย ‘ทีมงานที่แข็งแกร่ง’ ของ EA  และ ผู้คร่ำหวอดในวงการ Dragon Age อย่าง Mac Walters ผู้อำนวยการฝ่ายผลิต ซึ่งเพิ่งเป็นผู้นำการพัฒนา Mass Effect Legendary Edition และร่วมงานกับ BioWare มาเป็นเวลา 18 ปี ร่วมด้วย ผู้กำกับเกม Corrine Busche ซึ่งทำงานที่ Electronic Arts มาเป็นเวลา 15 ปีและ ‘มีความหลงใหล’ ในแฟรนไชส์นี้ และ  ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ Benoit Houle ซึ่งเคยทำงานใน เกม Dragon Age ทุก เกมจนถึงปัจจุบันหลังจากเริ่มทำงานที่ BioWare เมื่อ 16 ปีที่แล้ว

แต่เดิมเกมดังกล่าว ถูกออกแบบให้เป็นเกมกึ่งๆออนไลน์ เมื่อปี 2018  แต่เนื่องจากความล้มเหลวของ Anthem เกมออนไลน์ของค่าย ทำให้ทีมพัฒนาต้องกลับไปคิดกันใหม่ และได้ข้อสรุปที่การสร้างเกมเล่นคนเดียว มุ่งเน้นให้ผู้เล่นดำดิ่งสู่เนื้อเรื่องที่เข้มข้น มากกว่าความร่วมมือออนไลน์ผ่านภารกิจ และทีมงานยังขอบคุณความสำเร็จของ Star Wars Jedi: Fallen Order  เกมเล่นคนเดียวที่มีผู้เล่นมากกว่า 10 ล้านคนในช่วงสี่เดือนแรกของการเปิดตัว ที่ทำให้ทีมงานตัดสินใจอย่างเด็ดขาดนั่นเอง 

ผู้เล่นจะได้มาเยือนดินแดน “ธีดาส”  อันเป็นหนึ่งในเมืองระดับไอคอนของเกมนี้ และมีหลายครั้งที่เมืองนี้ถูกกล่าวถึงในหนังสือการ์ตูน งานศิลปะ และเรื่องสั้น  แต่คราวนี้ผู้เล่นจะได้ผจญภัยไปยังสถานที่อันลึกลับแห่งนี้ นี่คือโลกที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและตัวละครมากมาย  ชะตากรรมของโลกนี้สั่นคลอนด้วยคมมีด ในเกมภาคที่ผ่านมา ทีมงานแจ้งว่า เป็นเพียงเศษเสี้ยวของโลกที่พวกเขาสร้างขึ้นเท่านั้น มีความเชื่อมโยงกับภาค Origins ในฐานะ Ferelden ดินแดนที่ได้รับความเสียหายจากสงครามและ Dark Spawn ในยุคที่สอง และสถานที่ต่างๆ ที่เต็มไปด้วยความโหดร้าย ฉ้อฉล เหลี่ยมกลโกง และโลกใต้ดินอันมืดมิดพร้อมกับเผชิญกับอุบายทางการเมืองบ่อย พอ ๆ กับการต่อสู้

ใน  Dragon Age: The Veilguard  … พื้นที่รกร้างที่สวยงามและรกร้างของ Anderfels พร้อมด้วยยอดแหลมบนภูเขาที่อยู่ห่างไกล คือฉากเริ่มต้นที่ผู้เล่นจะได้เข้ามาเยือน แม่น้ำลำคลองที่บิดเบี้ยว และหอคอยอันตระหง่านของ Antiva ทะเลสีฟ้าครามของ Rivain ที่มีความเขียวขจีและผู้คนที่รักการเดินเรือ และแน่นอนว่ายังมีอีกมาก ทีมงานระบุว่า จะได้รับการออกแบบจากผู้ที่รักในเกม และผู้คนในคอมมูของเกมนี้มามีส่วนร่วม เป็นภาคที่ผู้เล่นมีส่วนพัฒนาตั้งแต่ปี 2018 กันเลย

ข้อมูลเกมเพลย์ 

-การต่อสู้นั้นสมบูรณ์แบบแบบเรียลไทม์และคล้ายกับการแฮ็กแอนด์สแลช อ้างอิงแนวทางจาก God of War (2018) 

-ผู้เล่นมีการโจมตีแบบคอมโบตามปกติและสกิล รวมถึงแถบพิเศษที่สร้างขึ้นเพื่อให้คุณใช้ท่าพิเศษได้

-อาจจะไม่สามารถควบคุมสมาชิกปาร์ตี้ในเกมได้โดยตรง แต่สามารถสั่งให้แสดงความสามารถบางอย่างได้ 

-สิ่งที่สำคัญที่สุดที่คุณสังเกตเห็นคือคุณภาพของแอนิเมชั่นได้รับการปรับปรุงอย่างมาก เช่นเดียวกับเกม AAA อื่นๆ ไม่มีแอนิเมชั่นที่แข็งอีกต่อไป

-การกระโดดยังคงอยู่ 

-เนื่องจากตัวละครหลักในภาพเป็นคลาสดาบโล่ เขาจึงสามารถปัดป้องการโจมตีจากศัตรูและตามด้วยการตอบโต้ 

แอดมิน AK47