-ขุดกรุเกมเก่า- Dino Crisis 2
ประเภท : Third-Person Action-Adventure game
เครื่อง : PS1(2000), PC(2003-มีแปลไทย)
พัฒนาโดย : Capcom
วันวางจำหน่าย : 13 พฤศจิกายน 2000
จากความสำเร็จอันล้นหลามของเกม Dino Crisis ภาคแรก ก็ทำให้ทางผู้พัฒนาอย่าง Capcom ได้ปล่อยภาค 2 ตามมาติดๆ ทว่าภายในเกมภาคนี้กลับมีความเปลี่ยนแปลงไปหลายอย่าง จนเกิดกระแสของผู้เล่นแตกออกเป็นทิศทางต่างๆนาๆ
อย่างไรก็ตาม Dino Crisis 2 ก็ได้กลายมาเป็นอีกหนึ่งเกมดังที่น่าจดจำอย่างมาก ด้วยความสนุกในแบบฉบับของตัวมันเอง จนสามารถพูดได้เลยว่า ในยุคสมัยนั้นหากได้ลองเล่นเกมนี้ดูซักครั้ง รับรองว่าติดกันงอมแงมแน่นอน
Story
(เนื้อหาในบทความนี้จะเน้นไปที่เนื้อเรื่องสำคัญ ทำให้จะไม่ได้มีรายละเอียดเหตุการณ์ต่างๆที่เป็นช่วงการเอาชีวิตรอดภายในเกมนะครับ)
1ปีหลังจากเหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกาะไอบีส (Ibis Island) งานวิจัยเรื่องพลังงาน Third Energy ได้ถูกรัฐบาลนำข้อมูลต่างๆไปศึกษาต่อ แต่เพียงเวลาไม่นาน ในช่วงเดือนมีนาคม 2010 ก็ได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้ รัศมีของช่องกาลเวลาได้ครอบคลุมพื้นที่ของศูนย์วิจัย, โรงงานเตาปฏิกรณ์, ค่ายทหาร, ฐานยิงขีปนาวุธ(Missile Silo) และ เมืองขนาดเล็กในระแวก เข้าไปด้วย
ในวันที่ 10 พฤษภาคม 2010 ได้มีการเปิดประตูเวลาขึ้นอีกครั้ง สำหรับปฏิบัติการกู้ภัย โดยมีเรือ Hovercraft ติดตั้งประตูข้ามเวลาที่บรรทุกกองกำลังของหน่วย “Tactical Reconnoitering and Acquisition Team” หรือ หน่วย “T.R.A.T.” โดยมีเจ้าหน้าที่พิเศษจากหน่วย SORT อย่างเรจิน่า ที่มีประสบการณ์ในการต่อสู้กับเหล่าไดโนเสาร์ไปสนับสนุนด้วย
แต่ทว่าเมื่อพวกเขามาถึงและกำลังตั้งค่าย ค่ายแห่งนั้นก็ถูกฝูงของพวก แร็พเตอร์บุกโจมตี จนทำให้มีสมาชิกรอดมาได้เพียงแค่ 3คนคือ ดีแลน(Dylan Morton), เรจิน่า และ เดวิด (David Falk พ่อหนุ่มคาวบอย) ที่กระโดดลงหน้าผาเพื่อหนี T-Rex (ที่ตามแร็พเตอร์มา) ซึ่งทั้งสองก็ตัดสินใจ แยกกันสำรวจพื้นที่ในการหาข้อมูลจำเป็นต่อไป
ระหว่างที่ทั้งสองต่อสู้ดิ้นรนเอาตัวรอดท่ามกลางเหล่าไดโนเสาร์และพืชมีพิษ (ในตัวเกมจะสลับตัวละครให้เล่นตามช่วงเวลาของเนื้อเรื่อง) พวกเขาก็ได้พบกับกลุ่มบุคคลลึกลับที่สวมชุดสีดำพร้อมหมวกกันน็อคบิดบังใบหน้าเข้ามาจู่โจมก่อนที่ต่อมาจะได้รู้ว่า หัวหน้าของคนกลุ่มนั้นเป็นเด็กสาวผมบลอน ซึ่งจะค่อยๆกลายมาเป็นพันธมิตรกับพวกเขามากขึ้น จนเธอได้พา ดีแลนเข้าไปยังฐานทัพของพวกเธอ และภายในนั้นดีแลนจะได้พบกับภาพโฮโลแกรมของผู้พัน ดีแลน หรือก็คือ ตัวของเขาในอนาคต (ในระหว่างนี้ประตูเวลาที่ติดมาบนเรือโดนรื้อไปแล้วนะครับ…)
ซึ่งผู้พันดีแลนจะเฉลยเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นว่า การทดลองพลังงาน Third Energy ของมนุษย์ ได้ส่งผลให้เกิดความบิดเบือนของกระแสเวลา จนอาจส่งผลให้เกิดผลกระทบต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตและประวัติศาสตร์ ซึ่งจะมีผลให้เผ่าพันธุ์มนุษย์ไม่อาจดำรงชีวิตอยู่ต่อไปได้
ทำให้ในอนาคตปี 2055 ที่เขาอยู่(ช่วงเวลาของดีแลนวัยชรา) องค์กรระว่างประเทศอย่าง WAPP ได้ตัดสินใจขนส่งสิ่งมีชีวิตทั้งหมดไปยังสภาพแวดล้อมที่สามารถอยู่ได้ในอีก 3ล้านปีข้างหน้า(นับจากเวลาของดีแลนวัยชรา) โดยเรียกว่าโครงการ “Noah’s Ark”
ส่วนพวกไดโนเสาร์ที่นำไปด้วยจะถูกส่งกลับไปยังยุคของพวกมันทีหลัง(ยุค65ล้านปีก่อนมีมนุษย์)
แต่เมื่อข้ามเวลาไปยังอนาคต 3ล้านปีข้างหน้าประตูกาลเวลาของพวกเขาเสียหาย และพวกไดโนเสาร์ที่หลุดออกมาได้สังหารลูกเรือจนหมด รวมไปถึงภรรยาของเขาอย่างจูเลีย (Julia Morton ภรรยาของดีแลนในอนาคต) ส่วนลูกสาวของเขาที่ชื่อ พอลล่า (Paula Morton)ได้รับบาดเจ็บ ตัวของดีแลน(ในวัยชรา) จึงช่วยชีวิตลูกสาวและพวกเด็กๆด้วยแคปซูลช่วยชีวิต
อย่างไรก็ตาม เครื่องพวกนั้นถูกสร้างไว้สำหรับไดโนเสาร์ และการอาศัยอยู่ในเครื่องนั้นเป็นเวลานาน ทำให้พวกเด็กๆสูญเสียความสามารถในการสื่อสารไป(ต้องเรียนรู้ใหม่) แต่ด้วยสัญชาตญาณในการปกป้องไดโนเสาร์พวกนั้น(ตามภารกิจโนอาเดิม) พวกเด็กๆจึงกลายเป็นกลุ่มคนชุดดำที่สวมหมวกกันน็อคตามที่ได้พบ และหัวหน้าของพวกเขา ที่ดีแลนและเรจิน่าได้เจอ ก็คือพอลล่า ลูกสาวของดีแลนนั่นเอง และเขาอยากจะขอให้ดีแลน(ที่ผู้เล่นบังคับอยู่) พาพอลล่ากับเรจิน่า กลับไปยังเวลาปี2010 ด้วยประตูเวลาบานสุดท้ายด้านหลังฐานทัพ (พร้อมกับฝากทักทายเรจิน่าด้วย) แต่เพราะมันเป็นเครื่องที่ไม่สมบูรณ์จึงสามารถเปิดใช้งานได้ครั้งเดียวเท่านั้น
(สรุปก็คือช่วงเวลาที่ผู้เล่นไล่ยิงไดโนเสาร์ในเกมภาคนี้ เป็นอนาคต 3ล้านปีข้างหน้า แต่เป็นช่วงเวลาหลายปีหลังจากพวกดีแลนวัยชราโดนไดโนเสาร์ทำการสังหารลูกเรือนั่นเอง)
แต่แล้วในขณะที่ได้รู้ความจริง 1ในเด็กชุดดำที่คิดว่าดีแลนเป็นผู้บุกรุก(ยังไม่รู้ว่าเขาคือดีแลน) ก็ได้ทำการกดปุ่มทำลายตัวเองของฐานทัพ ก่อนจะถูก Giganotosaurus ที่ปรากฏตัวเข้ามาสังหารเขาไป ซึ่งในการต่อสู้นั้น ดีแลนก็ได้เปิดระบบของดาวเทียม ก่อนจะสั่งให้มันยิงลงมาที่ Giganotosaurus จนไม่เหลือซาก
ทว่าระหว่างกำลังจะเข้าประตูเวลา ด้วยความไม่สมบูรณ์ของมัน ทำให้เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงและตู้ไฟฟ้าในฐานได้หล่นลงมาทัพขาของ พอลล่าไว้ ดีแลนได้รีบเข้าไปช่วยเธอ แต่เมื่อเห็นแล้วว่าไม่สามารถช่วยพอลล่าให้เข้าไปในประตูเวลาได้ทัน(ก่อนที่มันจะปิด) เขาจึงขอร้องให้เรจิน่า นำข้อมูลงานวิจัยThird Energy ทั้งหมดที่ได้ในครั้งนี้กลับไปในปี 2010 เพื่อให้รัฐบาลได้ศึกษาและสร้างประตูเวลาที่สมบูรณ์ก่อนจะกลับมาช่วยพวกเขา
เรจิน่าได้รับปากคำสัญญานั้น ว่าเธอจะกลับมาช่วยพวกเขาอย่างแน่นอน พร้อมกับทำความเคารพเพื่อนร่วมทีมของเธออย่างดีแลน และเข้าไปในประตูกาลเวลาเพียงลำพังก่อนที่มันจะปิดตัวลง พร้อมกับที่ฐานทัพเริ่มพังลงมา และตู้ไฟฟ้าอีกตู้ก็หล่นลงมา ดีแลนจึงเอาตัวเข้าไปปกป้องลูกสาวของเขาเอาไว้ ก่อนที่จะตัดจบเนื้อหาของเกมภาคนี้ไว้ตรงนี้….
ฉากจบ Dino Crisis 2
ซึ่งเรื่องราวที่ค้างคานี้ ก็เป็นความคาดหวังที่ผู้เล่นจะได้รู้ฉากจบในเกมภาคต่ออย่าง Dino Crisis 3 ….
ทว่าความจริงของฉากจบนี้กลับไปปรากฏอยู่ใน Dino Stalker หรือ Gun Survivor 3 : Dino Crisis แทน
และในบทความนี้ผู้เขียนก็จะนำเนื้อหาและบทสรุปส่วนนั้นมาแจ้งให้ผู้อ่านทุกท่านให้ได้หายคาใจถึงฉากจบที่หายไปของ เกมซีรี่ย์ Dino Crisis 1-2 กันครับ
เรื่องราวจะพูดถึงตัวละครที่ชื่อ ไมค์ (Mike Wired) นักบินหนุ่ม จาก ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งกำลังจะตายจากการโดนเครื่องบินศัตรูไล่ยิง แต่แล้วเขาก็ได้ถูกส่งมาในช่วงเวลา 3 ล้านปีข้างหน้า และได้พบกับ พอลล่า หญิงสาวที่พูดได้เพียงคำง่ายๆหรืออย่างมากก็ประโยคสั้นๆ
ทั้ง 2ได้ร่วมมือกันเอาชีวิตรอดจนไมค์ได้รู้ความจริงว่าดีแลนพ่อของพอลล่านั้น ได้ถูก MTHR (Mother Computer) ระบบคอมพิวเตอร์ของโครงการ โนอา ที่ทำงานผิดพลาด ส่งเขาไปยังอีกจักรวาลหนึ่งที่เรียกว่า Hyperspace พร้อมกับ เรจิน่า เพื่อนของเขา
(หน้าตาคร่าวๆใน Hyperspace)
(ดีแลนติดต่อกลับมาในรูปแบบ โฮโลแกรมได้ชั่วครู่จาก อุปกรณ์ชนิดหนึ่งหน้าตาคล้ายสายรัดข้อมือ)
และในระหว่างที่ พวกเขาทั้ง 2 (ดีแลนกับเรจิน่า) กำลังเอาชีวิตรอดในจักรวาลแห่งนั้น ก็ได้ร่วมมือกับพอลล่าในการหาใครซักคนที่เหมาะสม ซึ่งก็คือไมค์(ที่กำลังจะตาย) ข้ามเวลามาช่วยพอลล่าในการเอาชนะเหล่าไดโนเสาร์ที่ถูก MHTR ดัดแปลงให้คุ้มกันระบบคอมพิวเตอร์หลักไว้ เพื่อที่จะได้เดินทางไปซ่อมแซมให้มันกลับมาทำงานตามปกติ จะได้ทำการเปิดประตูส่งพวกเขากลับไปจักนวาลเดิมได้
ในจุดนี้ที่แม้ไมค์จะได้รู้ความจริงว่า ที่เขาได้รับเลือกมาเพราะในเส้นเวลาเดิมของเขา เขากำลังจะเสียชีวิตในอีกเสี้ยววินาทีที่กระสุนจะทะลวงร่างของเขา ซึ่งการทำภารกิจนี้สำเร็จ ก็หมายถึงเขาจะถูกส่งกลับไปยังเวลาเดิมและเสียชีวิตลง แต่เขาก็ยังร่วมมือกับพอลล่าจนบรรลุเป้าหมายได้สำเร็จ ก่อนที่ในตอนจบ พอลล่าได้ช่วยชีวิตไมค์เอาไว้โดยการส่งกระสุนที่จะสังหารเขาไปยังช่วงเวลาอื่น ทำให้ไมค์รอดชีวิตมาได้ พร้อมกับ ดีแลนและเรจิน่าที่สุดท้ายพวกเขาก็ได้เดินทางกลับไปยังปี 2010ของพวกเขาตามเดิม
ฉากสู้บอสและตอนจบของเกม Dino Stalker
สรุปได้ว่า เรจิน่าได้กลับไปช่วยดีแลนและพอลล่าตามสัญญา แต่ระหว่างกำลังจะกลับ ระบบคอมพิวเตอร์ของโครงการโนอา เกิดทำงานผิดปกติ แล้วส่งพวกเขาทั้ง 2 ไปยังจักรวาลอื่นแทน แต่เพราะยังติดต่อกับพอลล่าได้บ้าง จึงวางแผนหามือที่สามเข้ามาช่วยพอลล่าจัดการแก้ปัญหา
ในข้อมูลส่วนหลังนั้น ไม่ได้มีฉากที่เห็นได้ชัดเจนว่า พวกเขาได้กลับมายังไง เพราะพอช่วยไมค์เสร็จภาพก็ตัดจบเลย
แต่คาดว่าหลังจากนั้นดีแลนน่าจะกลับมาจักรวาลเดิมที่พอลล่าอยู่ก่อน แล้วจึงเดินทางกลับไปยังปี 2010 เพื่อที่จะแก้ไขอนาคตที่โครงการโนอาจะเกิดความผิดพลาดซ้ำอีก(แบบที่ดีแลนวัยชราเจอ)
ซึ่ง ณ จุดนี้ก็เป็นไปได้ทั้งหมด ตราบที่ผู้พัฒนา “ยังมีความคิดที่จะทำเกมจักรวาลนี้ออกมาอธิบายเพิ่มในภาคอื่นๆหลังจากนี้” ครับ
Characters
Regina – เจ้าหน้าที่หน่วย SORT ตัวละครหลักจากเกมภาคแรก ที่ถูกส่งมาช่วยทีมของดีแลนในภารกิจกู้ภัยในภาคนี้
Dylan Morton – เจ้าหน้าที่หน่วย TRAT ที่ถูกส่งมากู้ภัยเหล่าผู้รอดชีวิตในอุบัติเหตุ Third Energy ในภาคนี้
David Falk – เจ้าหน้าที่หน่วย TRAT อีกคนที่รอดชีวิตมาได้ เขามักจะสวมหมวกทรงคาวบอยไว้เสมอ เป็นอีกตัวละครที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุน(เรียกช่วยชีวิตเลยก็ได้)ตัวเอกทั้ง 2 หลายต่อหลายครั้งตลอดทั้งเกม ตั้งแต่คัทซีนแรก ไปจนวินาทีสุดท้ายที่เขาได้เสียสละตัวเองโดนไดโนเสาร์เขมือบแทนดีแลน (พระเอกตัวจริงก็พี่แกเนี่ยล่ะครับ… )
Paula Morton – ลูกสาวของ ดีแลน(ในวัยชรา) กับจูเลีย ที่ต้องมาพัวพันกับอุบัติเหตุในโครงการโนอา
Julia Morton – ภรรยาของดีแลน(ในอนาคต) ที่เสียชีวิตจากไดโนเสาร์ในระหว่างเกิดอุบัติเหตุในโครงการโนอา (ไม่ปรากฏรูปนะครับ)
Full Face – กลุ่มคนชุดดำที่สวมหมวกกันน็อค พวกเขาเป็นกลุ่มของเด็กและแอนดรอยที่รอดจากอุบัติเหตุโครงการโนอา
Dino Stalker Character
Mike Wired – นักบินฝีมือดีในสงครามโลกครั้งที่ 2 ของกองทัพสหรัฐ ในระหว่างการต่อสู้และกำลังจะเสียชีวิต เขาได้ถูกส่งข้ามเวลามาด้วยพลังงาน Third Energy เพื่อช่วยเหลือดีแลน, เรจิน่า และพอลล่า
Gameplay
ภายในเกมภาคนี้ทางผู้พัฒนาได้เปลี่ยนแนวทางของเกม จาก Survival Horror มาเป็น Action Adventure แบบเต็มตัวให้ผู้เล่นที่โกรธแค้นเหล่าไดโนเสาร์ในภาคแรก ได้มาระบายแผลใจกันชนิดเล่นเกมไม่หลับไม่นอนกันเลยทีเดียว
ซึ่งก็ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้ผู้เล่นที่ถูกใจความสยองแบบ Survival Horror สุดขีดของภาคแรกนั้นรู้สึกผิดหวัง แต่เพราะได้ความหลากหลายในเกมที่ใส่มาให้แบบล้นหลาม ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบองค์ประกอบของฉาก, เสียงที่ทำออกมาได้ดีมากๆ(ยิ่งฉาก Cutscenes นี่คืออย่างว้าว) รวมไปถึงชนิดของศัตรูที่เยอะกว่าภาคเดิมแป็นเท่าตัว จึงทำให้สามารถกลบกระแสในจุดนั้นไปได้พอสมควร(จริงๆเกมก็ยังมีความ Survival อยู่นะ แต่จะมาในแบบฉบับ ถ้าอีกฝ่ายตายไม่หมดเราก็สลบคาที่อ่ะครับ ฮา)
โดยรวมแล้วระบบการเล่นของเกม จะยังคงเหมือนกับภาคแรก แต่จะลดจำนวนปริศนาที่ต้องแก้ให้น้อยลงและง่ายขึ้น พร้อมกับทำการตัดระบบปุ่มวิ่งให้เป็นการวิ่งอยู่ตลอดเวลาแทน เพื่อให้ผู้เล่นมีความคล่องตัวและสนุกไปกับการต่อสู้กับเหล่าไดโนเสาร์ที่แห่เข้ามาหาในแต่ละฉากได้อย่างเต็มที่
ในส่วนของระบบเลือด ในเวลาปกติหลอดเลือดนั้นจะถูกซ่อนเอาไว้ แต่จะถูกแสดงขึ้นมาให้เห็นทันทีที่มุมขวาบนหน้าจอทุกครั้ง เวลาผู้เล่นได้รับความเสียหายหรือเข้าสู่ฉากใหม่
ทางด้านอาวุธและกระสุนจะควบคู่มากับระบบ “Extinction Point” ซึ่งเป็นเสมือนเงินที่จะนำไปใช้แลกเปลี่ยนไอเทมต่างๆไม่ว่าจะเป็น ยา, กระสุน หรือแม้แต่ซื้อปืนชนิดใหม่ๆ ได้อย่างมากมายที่ตู้ขายของตามจุดต่างๆภายในเกม
(ตู้และหน้าจอซื้อของที่แสนคุ้นเคยและสุดคิดถึงของใครหลายๆคน)
โดยหากผู้เล่นไม่โดนโจมตีเลยในแต่ละฉาก หรือทำการโจมตีศัตรูต่อเนื่องในระยะเวลาสั้นๆก็จะถูกนับว่าเป็นการทำ Combo ซึ่งจะทำให้ได้รับแต้มโบนัสเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมด้วย
(นอกจากนี้ยังมีไอเทมบางชิ้นที่ช่วยเพิ่มแต้มพวกนี้ให้หาง่ายยิ่งขึ้นได้ด้วยคงกะว่าจะให้ผู้เล่นมีเงินใช้ซื้อกระสุนมาสาดกันแบบเท่าไหร่ก็ไม่หมดน่ะ)
และตัวเกมยังได้มีระบบอาวุธหลักและอาวุธรองใส่เข้ามาให้ผู้เล่นเลือกใช้ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ ซึ่งอาวุธต่างๆเหล่านี้ ตัวของเรจิน่าและดีแลนจะมีไม่เหมือนกัน(รวมถึงการแก้ปัญหาบางฉากของทั้ง 2คนก็จะมีความแตกต่างกันด้วย)
อีกหนึ่งอย่างที่ผู้เล่นทุกคนต่างจดจำและยังเป็นอีกระบบที่ผู้พัฒนาใส่มาสร้างภาพจำได้ดีมากๆก็คือ ฉากที่ตัวเกมจะให้ผู้เล่นทำการยิงต่อสู้เอาชีวิตรอดบนยานพาหนะกับเหล่าไดโนเสาร์ที่ไล่ตามมา ไม่ว่าจะเป็นพวกคอยาวตอนอยู่บนเรือและ พวกไทรเซราทอปส์บนรถจิ๊ป ที่เชื่อว่าผู้อ่านที่เคยเล่น ไม่มีทางลืมได้ลงหรอกครับ (เพราะสำหรับผู้เล่นหลายคนมันคือฉากฟาร์มแต้มเลยล่ะ ฮา)
(เผื่อใครไม่ทันสังเกตตอนเล่น ปืนที่ใช้ยิงบนเรือก็กระบอกนี้แหละครับ….)
(ได้ฟีลเล่นเกมตู้ที่บ้านในเกมสนุกๆแบบนี้นี่ สมัยนั้นเป็นอะไรที่ฟินมากเลยนะครับ)
Unlockables
นอกจากการทำให้ผู้เล่นอย่างเราๆเล่นเกมนี้จนติดกันงอมแงมแล้ว ภายในตัวเกมยังได้ซ่อนสิ่งที่เรียกว่า “Dino Files” ที่เป็นข้อมูลและภาพ 3D ของไดโนเสาร์ชนิดต่างๆเอาไว้ให้เราได้ตามสะสม และหากเก็บได้ครบ เมื่อเล่นเกมรอบถัดไป กระสุนของอาวุธทุกชนิดของเราจะไม่มีวันหมด
โดยนอกจากไอเทมเหล่านี้ ตัวเกมจะยังช่วยให้ผู้เล่นรู้จักพวกมันมากขึ้น มากขึ้นขนาดที่ “คุณจะได้ลองเล่นเป็นพวกมัน” หรือ “ปล่อยให้พวกมันสู้กัน” ในโหมดพิเศษของเกมที่เรียกว่า “Extra Crisis”
ที่มีโหมดย่อยอย่าง “Dino Colosseum” และ “Dino Duel” ซึ่งจะปลดล็อคให้เล่นเมื่อทำการเล่นเกมจบอย่างน้อยหนึ่งครั้ง ในระดับความยาก Normal ขึ้นไป
(เป็นระบบเกมที่แหวกแนว และไม่มีใครคาดคิดว่าจะได้เจอในยุคนั้นเลยจริงๆ ฮา)
อยากรู้ตัวไหนเก่งกว่ากันก็ไปลองกันได้แบบจัดเต็ม!
ใครขับรถถังในเนื้อเรื่องไม่อิ่ม ก็มาจัดกันให้หนำใจได้ในโหมดนี้แหละ…
หากเป็นไปได้ใครที่ยังไม่เคยเล่น ก็อยากให้ได้ลองโหลดเกมนี้กลับมาเล่นกันซักครั้งนะครับ ถึงแม้ในยุคนี้จะมีเกมภาพสวยมากมาย แต่เชื่อว่า Dino Crisis 2 จะยังสามารถมอบความสนุกให้กับทุกท่านได้ดีเช่นเดิม
และสำหรับบทความซีรีส์ Dino Crisis จะยังมีอีก 1 บทความก็คือ บทความของ Dino Crisis 3 ที่ธีมเกมเป็นแนว Sci-fi อวกาศ(และหลายคนอยากจะตัดมันออกจากซีรี่ย์นี้มากๆ แต่ผู้เขียนก็อยากใส่มาให้ครบสมบูรณ์ครับ เพราะภาคนั้นก็มีความน่าสนใจในแบบของมันอยู่เหมือนกัน ฮา)
และหากในบทความนี้มีข้อผิดพลาดในข้อมูลส่วนไหนประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
บทความโดย WolfTales