Digimon Adventure: Last Evolution Kizuna
แนว : Action / Drama
กำกับโดย : Taguchi Tomohisa (จากภาพยนตร์ Persona 3 The Movie, Kino No Tabe – The Beautiful World, ทวิดารามหาองเมียวจิ)
เขียนบท : Yamatoya Akatsuki (ผู้เขียนบท Digimon Adventure, Digimon Frontier และ Digimon Savers)
ออกแบบตัวละคร : Nakatsuru Katsuyoshi
ผลิตโดย : Toei Animation
กำหนดฉาย : 16 กรกฎาคม 2020
กำหนดออก Blu-ray & DVD ของ Digimon Adventure: Last Evolution Kizuna ที่ญี่ปุ่น
ในกล่อง Blu-ray ทั้งสามด้าน จะสามารถกางออกเป็นภาพวาดตัวละครของ Katsuyoshi Nakatsuru นักออกแบบตัวละคร ที่ถูกวาดใหม่! นอกจากนี้ยังมี Booklet และสตอรี่บอร์ดสำหรับตอนที่ไม่ได้ฉายในโรง รวมทั้งยังเป็นซีดีละครเสียงพิเศษ ที่เล่าเรื่องราวของเด็กที่ถูกเลือกจาก “Digimon Adventure 02″ ที่แสดงให้เห็นถึงความวุ่นวายในช่วงวันหยุดฤดูร้อนของพวกเขา
นอกจากนี้ยังมี CD บันทึกเสียงสัมภาษณ์ของทีมงานและนักพากย์ สำหรับ Blu-ray & DVD มาให้อีกด้วย
Blu-ray: Digimon Adventure LAST EVOLUTION Kizuna Deluxe Edition 9,800 เยน (ไม่รวมภาษี)
Blu-ray: Digimon Adventure LAST EVOLUTION Kizuna 6,800 เยน (ไม่รวมภาษี)
ดีวีดี: Digimon Adventure LAST EVOLUTION Kizuna 5,800 เยน (ไม่รวมภาษี)
ส่วนในบ้านเรา รอ CARTOON CLUB เจรจาเรื่อง LC
ถ้าพูดถึงชื่อของ “ดิจิมอน แอดเวนเจอร์” เราคงจะนึกถึงเรื่องราวของกลุ่มเด็กที่ออกผจญภัยในโลกดิจิตอล ร่วมกับเหล่ามอนสเตอร์สุดเท่ และได้รับความนิยมอย่างมากในบ้านเรา และที่ญี่ปุ่นเองก็มีการออกภาคต่อมาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่ากระแสจะซาๆลงไปต่างกับ20 ปีก่อนที่บูมสุดๆ…
แต่คราวนี้ เรื่องราวของเหล่าเด็กที่ถูกเลือกรุ่นแรกสุดที่เคยสร้างความทรงจำให้กับเด็กๆ กำลังจะกลับมา และจะเป็นการการผจญภัยครั้งสุดท้าย ปิดตำนานดิจิมอน ใน Digimon Adventure: Last Evolution Kizuna
เรื่องย่อ
เรื่องราวของดิจิมอนภาคสุดท้าย จะเล่าเรื่องราววัยรุ่นตอนปลายของ ไทจิ และ ยามาโตะ ที่กำลังเข้าสู่โลกของผู้ใหญ่ มีชีวิตที่ลุ่มๆดอนๆ ทำงานพิเศษหาเลี้ยงชีพ ควบคู่ไปกับการเป็นนักศึกษา แต่ในอีกมุมหนึ่ง ไทจิ ก็ยังทำหน้าที่ของเด็กที่ถูกเลือกตลอดมา…จนกระทั่งวันหนึ่ง มีเหตุการณ์ประหลาด ที่ทำให้ “เด็กที่ถูกเลือกในอดีต” เริ่มล้มป่วยอยู่ในอาการโคม่าแบบไม่ทราบสาเหตุ ไทจิ / ยามาโตะ / ทาเครุ / ฮิคาริ ต้องรวมตัวกันกับเหล่าดิจิม่อนคู่หูเพื่อหาคำตอบ และนำไปสู่บทสรุปที่เป็นสัจจธรรมของชีวิตที่แท้จริง…
REVIEW แฟนดิจิม่อนร้องไห้หนักมาก 10 /10
คนทั่วไปดู 7/10
“อยู่กับสิ่งที่มี ไม่ใช่สิ่งที่ฝัน และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด!”
ปฏิเสธไม่ได้ว่า เด็กๆยุคนึงสมัยนึง ได้เติบโตมากับช่อง 9 การ์ตูน ที่มีการ์ตูนดังๆมาฉายทุกเช้าเสาร์-อาทิตย์ ยุคที่ไม่มีรีรันย้อนหลัง ไม่มียูทูปให้ได้ดู ต้องตื่นเช้ามาดูจริงๆ
และหนึ่งในตำนานการ์ตูนที่ฮิตจัดๆในตอนนั้น ก็คือ ดิจิม่อน แอดแวนเจอร์ เรื่องราวของเด็กที่ถูกเลือกจากโลกดิจิตอล จับคู่กับดิจิม่อนคู่หู ต่อสู้กับเหล่าร้ายที่รุกรานโลกดิจิตอล และโลกจริง และนี่คือ “บทสรุปที่แท้จริง” ที่เรียล และเข้าถึงจิตใจเด็กๆในวันนั้น ที่โตมาเป็นผู้ใหญ่ในวันนี้ได้กระแทกใจ บีบคั้น และดึงไปถึงสุดทางที่ควรจะเป็น “แบบไม่ฝืน” จริงๆ
ตัวหนังมีจังหวะการเล่าเรื่องเอาองค์ประกอบของ การ์ตูนบู๊ -ดราม่าชีวิตวัยรุ่น-หนังสอบสวนสายลับ (ใครที่เล่นเกมดิจิม่อนภาค Cyber Seluth มาก่อน จะเก็ทแนวทางการสืบสวนของเรื่องพอสมควรว่า Process ของเรื่องนั้นจะใช้แนวทางดังกล่าวเป็นBase เดินเรื่อง) และ ทุกอย่าง ล้วนนำไปสู่บทสรุปเรื่องราวที่ “รู้สึกว่ามันถูกต้องในแนวทางของมันแล้ว“
แต่ถามว่า คนที่ไม่เคยดูดิจิม่อนมาดูเรื่องนี้จะดูรู้เรื่องมั้ย ตอบได้เลยว่ารู้เรื่อง แต่จะไม่อินเอาซะเลย เพราะดูทรงหนังแล้ว เป้าหมายชัดเจนมากๆว่า “ทำให้เด็กในอดีตได้ดู” มากกว่าแฟนปัจจุบัน เพราะหนังเต็มไปด้วยแฟนเซอร์วิสเหล่าแฟนคลับดิจิม่อนตั้งแต่เปิดเรื่อง จนถึงหลัง End Credit
แต่ถ้าใครที่เคยดูดิจิม่อนสมัยเด็กๆ หรือเคยดูภาคแรก-ภาค2 แล้วพอรู้จักตัวละครว่าใครเป็นใคร ก็น่าจะพอเก็ท และสนุกไปกับเรื่องราวที่ขับเคลื่อนด้วยคาแรคเตอร์ตัวละคร ทั้งอุปนิสัย ตรรกะ การกระทำต่างๆ
กลับกัน ในส่วนของแฟนคลับดิจิม่อนแล้ว นี่คือการไปเจอกับเพื่อนเก่าที่เติบโตขึ้น เหมือนงานรวมรุ่น+งานเลี้ยงอำลา คือมาให้เห็นหน้าค่าตา อัพเดทสารทุกข์สุกดิบไม่เจอกันนานนับปีสบายดีไหม เป็นไงมาไงบ้าง…เพื่อนเก่าบางคนชีวิตดี บางคนชีวิตลุ่มๆดอนๆ สับสนตัวเอง บางคนก็เลิกคบค้าสมาคมไปเลยก็มี มันคือความเรียลที่ดิจิม่อนภาคนี้ได้ถ่ายทอดออกมาในแง่ความสัมพันธ์ตัวละครที่จับต้องได้จริงๆ เราได้เห็นมุมมองการใช้ชีวิตของแต่ละตัวละครที่เคยเดินทางร่วมกันมา แต่คนเราเมื่อถึงวันหนึ่งก็ถึงจุดที่ต้องเปลี่ยนแปลง บางคนก็เหมือนเดิม บางคนก็เปลี่ยนไป แต่เวลายังคงเดินหน้าอยู่ นี่คือความจริงของโลก…
หรือแม้แต่ตัวร้ายของภาคนี้ เราก็รู้สึกว่า เกลียดไม่ลง เพราะเหตุผลของการกระทำนั้น มันคือ “กระจกสะท้อนตัวตน” ของชีวิตใครหลายๆคนที่ “ไม่ยอมโต” … “ยังจมปลัก” และ “ยังปล่อยวางไม่เป็น”
มันไม่ใช่เรื่องผิดที่จะยึดติด ในเมื่อสิ่งที่สูญเสีย คือสิ่งที่มีค่าที่สุดชนิดที่ว่า “อะไรมาแทนก็ไม่ได้” เราจึงรู้สึกสงสาร และเห็นใจมากกว่าที่จะทุ่มความเกลียดชังของคนดูใส่ลงไป…ถ้าจะบอกว่าเป็นการต่อสู้ของ “คนที่กำลังจะเติบโต” กับ “คนที่ไม่อยากจะเติบโต” อนิเมชั่นดิจิม่อนภาคนี้ถ่ายทอดประเด็นนี้ออกมาได้ลึก และน่าสนใจมากๆ…
ในส่วนงานภาพ เป็นอนิเมยุคใหม่ที่เน้นงานภาพฉากสวยๆ ซีนต่อเนื่องเรียบเรียงออกมาไม่ค่อยมีจุดสะดุด แต่ตัวละครบางทีก็มีมุมแอบเผาบ้างหน้าเพี้ยนนิดหน่อย แต่มันเป็นซีนที่ไวมากๆ ถ้าไม่สังเกตุก็คงไม่มีอะไร ฉากแอคชั่นดูเอามันส์ได้เลย เล่นใหญ่เว่อวัง อีกนิดก็ดราก้อนบอลแล้ว
ส่วนเรื่องเสียงพากย์ไทยนั้นหายห่วงครับ ดูไม่ขัดคาแรคเตอร์เลย ทั้งนักพากย์มือเก๋า หรือนักพากย์เลือดใหม่ที่คุ้นเคย รวมไปถึงหน้าใหม่ป้ายแดงอย่างคุณ MindaRyn ที่พากย์เสียงตัวละครฮิคาริ และเป็นครั้งแรก คุณสอบผ่านมากๆ เราดูแล้วรู้สึกว่าไม่ค่อยโดด (มีบางจังหวะนิดเดียวจริงๆ) แฟนๆการ์ตูนน่าจะไม่มีใครบ่นนะเรื่องเสียงพากย์ ทำออกมาได้เนียน ดูสนุกไปกับนักพากย์รุ่นใหญ่ๆเลย
สรุปแล้ว ดิจิม่อนหนังโรง คนที่ไม่เคยดู ก็อาจจะไม่ชอบ…ไม่อิน…
แต่ถ้าคุณคือหนึ่งในเด็กที่ตื่นเช้ามาดูช่อง9การ์ตูน มาดูดิจิม่อน “คุณควรไปดูอย่างยิ่ง”
เพราะนี่คืองานรวมรุ่น +งานเลี้ยงส่งที่สมบูรณ์แบบ ไม่ค้างคาใจ
และ สวยงามในคราบน้ำตา…
แอดมิน AK47
OST ตัวนี้สุดจัด ชอบมากๆ
-
BEYBLADE X : 10 ตัวน่าซื้อ ของมันต้องมีในปี 2024
#beybladex #kctoysbeybladex #beybladexthailand
-
KARATE KID: LEGENDS [เรื่องย่อ / ตัวอย่าง / หนังใหม่ /2025]
#KarateKidMovie #KarateKi #เฉินหลง #JackieChan
-
20 ตัวละครจากเกมยอดนิยมที่ถูกค้นหามากที่สุดในเวปไซต์สำหรับผู้ใหญ่ 2024
#Ranking #website #Games #PC #Console