Dawn of the Planet of the Apes [รีวิว/เรื่องย่อ/แนะนำตัวละคร/นักแสดง]

 

 

Dawn of the Planet of the Apes 

ผู้อำนวยการสร้าง : Dylan Clark

ผู้กำกับภาพยนตร์ : Matt Reeves

ผู้เขียนบทภาพยนตร์ : Rick Jaffa / Amanda Silver / Mark Bomback บทประพันธ์ดั้งเดิมโดย : Pierre Boulle

นักแสดงนำ : Jason Clarke , Gary Oldman , Keri Russell , Andy Serkis , Toby Kebbell , Kodi Smit-McPhee

แนว/ประเภท : Action, Drama , Sci-Fi

ความยาว : 2 ชม 10 นาที

เรท : ไทย/ท , USA/PG-13

วันเข้าฉายในประเทศไทย : 10 กรกฎาคม 2557

ผู้ผลิต : 20th Century Fox

 

 

 

 เช่นเคย เอาตั๋วมาให้ดูว่า ไปดูมาจริงๆนะเออ!! เดี๋ยวหาว่านั่งเทียน (อิอิ)

 

 

รุ่งอรุณของ(หนัง)พิภพวานร

สารภาพตามตรงว่า แอดมินได้เดินเข้าไปดูหนังเรื่องนี้ด้วย “ความคาดหวังที่สูงมาก” เพราะการที่หนัง Rise of Planet of the Apes นั้น ทำเนื้อหาออกมาได้ดีมากๆ แต่พอได้ยินชื่อของนาย Matt Reeves ที่เป็นผู้กำกับหนังเอเลี่ยนกล้องสั่นอย่าง Cloverfield และหนังแวมไพร์น่ารัก(?)อย่าง Let me in มาแทนผลงานของ Rupert Wyatt ผู้กำกับภาค Rise ก็ทำให้แอบหวั่นไม่ได้ว่า จะทำได้ดีกว่าภาคที่ออกมาก่อนหน้านี้หรือเปล่า ส่วนตัวค่อนข้างหวาดๆแหยงๆ กับหนังที่เปลี่ยนตัวผู้กำกับกลางคัน เหตุผลคือ ทัศนวิสัยในการทำงาน ที่อาจจะไม่สอดคล้องกับการทำงานก่อนหน้านี้ครับ

 

โทนหนังออกสีทึมๆ เข้ากับบรรยากาศในเรื่องที่เงียบเหงา และตึงเครียด

 

แต่ผิดคาดครับ เพราะอีตา Matt Reeves กลับทำได้ “ดีมากๆ” ทั้งการนำเสนอ และมุมมองของเขา ที่สามารถทำให้หนังยาว 2 ชัวโมงนิดๆ “ไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อเลย” มันแฝงด้วยแนวคิด และมิติของตัวละคร(ลิง) ที่จะทำให้ผู้ชม ลุ้นเอาใจช่วย “ลิง” มากกว่า “มนุษย์” ด้วยซ้ำ…

 

     

ลองนึกเล่นๆว่า ให้ผู้กำกับ4คนนี้มาทำหนังลิงภาคนี้ 5555

 

 

 

พล๊อต และ ภาพที่คุ้นตาเกมเมอร์  

 

จากงานภาพ และ Theme เรื่องเกี่ยวกับไวรัสล้างพันธุ์มนุษย์นี้ มันช่างคุ้นตาเกมเมอร์เหลอเกิน ฉากแรกๆของหนัง มันทำให้แอดมินอุทานออกมาว่า “เฮ้ย…นี่มัน The Last of Us นี่หว่า!?” เพราะบรรยากาศ การนำเสนอในมุมมองของมนุษย์นี่ “มันเป๊ะมาก” ขาดแค่ซอมบี้กลายพันธุ์เท่านั้นเอง และมันก็สมเหตุสมผลดีซะด้วยครับ

 

บรรยากาศของหนังเรื่องนี้ กับเกม Last of Us คงไม่ต่างกันมาก ต่างกันตรงที่ในหนังเป็นลิง และในเกม เป็นคนติดเชื้อ…

 

10 นาทีแรกของหนัง นำเสนอเหตุการณ์ 10 ปีให้หลัง ที่ต่อจากภาคแรกทันที ในรูปแบบ Infographics สลับข่าว ดังนั้น ไม่ต้องดูภาคแรก ก็สามารถเข้าใจเนื้อหาภาพรวมของหนังได้ทันที!!  

 

พล๊อตของภาคนนี้ หลักๆก็คือ เมื่อมนุษย์ กำลังอยู่ในโลกที่กำลังเข้าสู่ยุคล่มสลาย เพราะเชื้อไวรัส แพร่กระจายไปทั่วโลกได้คร่าชีวิตมนุษย์ไปจำนวนมหาศาล

 

เมื่อทุกอย่างหยุดลง ตึกรามบ้านช่องเริ่มถูกแทนที่ด้วยแมกไม้นานาพรรณ ธรรมชาติคืนความเขียวชอุ่มแก่พื้นที่ ที่นั่น เผ่าพันธุ์ลิง ที่มีผู้นำคือ “ซีซ่าร์” ที่ต้องแบกรับหน้าที่ในการพาเผ่าพันธุ์ลิง ให้อยู่รอด และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตามประสาลิงในช่วงเวลาหลายปีที่พวกเขาได้มีอิสรภาพ

 

จนกระทั่งมี “มนุษย์” ได้พลัดหลงเข้ามา และขอเจรจาเพื่อขอเข้าไปในพื้นที่ของเขื่อนที่ซีซ่าร์ครอบครองอยู่ เพื่อสร้างกระแสไฟฟ้า เพราะมนุษย์ที่เหลือเองก็อยู่อย่างลำบาก เพราะไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่สามารถเรียกกำลังเสริมเพื่ออพยพได้

 

แต่ “ซีซ่าร์”เอง ก็ยังไม่อาจไว้ใจมนุษย์ได้ซะทีเดียว นี่เป็นเรื่องที่ซีซ่ารต้องตัดสินใจเอาครับ ว่าจะเอายังไง และจะมีจุดเปลียนที่จะนำไปสู่สงคราม “คน Vs ลิง” ได้ยังไง ตรงนี้ก็ขอให้ไปดูในโรงเอาเองละกัน…

 

 

 

ซึ่งเนื้อเรื่องที่ถ่ายทอดออกมาไม่มีอะไรหวือหวา แต่กลับดูแล้วไม่เบื่อ และ ใส่ “ความฉลาด”ลงไปในการเล่าเรื่อง ที่พยายามหาจังหวะ “บีบ และ ขยี้ หัวใจของคนดู” ด้วยความย้อนแย้ง ลักลั่น และทฤษฎีสมคบคิด ที่ใส่ลงไปในตัวหนังได้ถูกจังหวะ ทำให้คนดู “อิน” กับความดราม่าของหนังที่อีตา Matt Reeves พยายามนำเสนอ และนี่คือความแตกต่างของหนังภาคนี้และภาคก่อนหน้านี้ครับ

 

 

ตัวละครในเรื่อง…

 

Andy Serkis กลับมารับบท Caesar (ซีซ่าร์)

 

จ่าฝูงผู้กล้าหาญและมีความฉลาดในเรื่อง Dawn of the Planet of the Apes จากการแสดงที่สร้างชื่อเสียงให้เขาเมื่อปี 2011 ในเรื่อง Rise of the Apes แอนดี้ เซอร์คิสกลับมารับบท ซีซาร์ วานรผู้กล้าหาญและมีความฉลาดจนนำฝูงลิงไปสู่อิสรภาพในภาคก่อน สำหรับภาคนี้เราจะได้เห็นว่าซีซาร์จะควบคุมโลกของเหล่าวานร ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตามประสาลิงในช่วงเวลาหลายปีที่พวกเขาได้มีอิสรภาพ ตอนนี้เวลาผ่านมา 10 ปีแล้ว เขาพบว่าตัวเองต้องพบกับอุปสรรคต่างๆ ในการคงความเป็นผู้นำที่มีความเมตตาเอาไว้ เขาต้องกลับมาเผชิญหน้ากับเหล่ามนุษย์อีกครั้ง

 

 

Toby Kebbell รับบท Koba (โคบ้า)

 

นักรบโบโนโบที่มีแผลเป็นบนใบหน้าและมีขนรุงรังที่เคยรู้จักในเรื่อง Rise of the Planet of the Apes ศัตรูที่มนุษย์ ยากจะเอาชนะได้คือโคบ้า โบโนโบที่มีแววตาขุ่นมัวและมีแผลเป็นบนใบหน้าซึ่งเคยรู้จักกันแล้วในเรื่อง Rise of the Planet of the Apes ช่วงหลายปีที่โคบ้ายังเป็นเด็กเขาถูกกักตัวอยู่ในห้องทดลอง ซึ่งเขาถูกทำการทดลองในนามวิทยาศาสตร์ ในช่วงเวลานับทศวรรษที่เหล่าวานรได้รับอิสรภาพ โคบ้าได้พัฒนากลายเป็นนักรบ ขนสีเทา มีความเกลียดมนุษย์ฝังอยู่ในใจและเชื่อว่ามนุษย์ที่ดีมีแต่มนุษย์ที่ตายแล้วเท่านั้น

 

 

Karin Konoval กลับมารับบท Maurice (มัวริซ)

 

ที่ปรึกษาอาวุโสผู้ซื่อสัตย์และฉลาดในเรื่อง Dawn of the Planet of the Ape ในภาพยนตร์เรื่อง Rise of the Planet of the Apes มัวริซเป็นลิงอุรังอุตังที่เคยเล่นละครสัตว์ เขาถูกบังคับให้สร้างความบันเทิงเพื่อมนุษย์ที่ควบคุม ตอนนี้เขาฉลาดขึ้นและทำหน้าที่เป็นมือขวาและที่ปรึกษา เขาคอยรับใช้ซีซาร์และถ่ายทอดความรู้ให้กับวานรที่อายุน้อยในอาณาจักร

 

 

Terry Notary กลับมารับบท Rocket (ร๊อคเก็ต)

 

หนึ่งในเพื่อนสนิทของซีซาร์จากเรื่อง Rise of the Planet of the Apes ร็อคเก็ตมีความสามารถด้านการต่อสู้และเป็นหนึ่งในเพื่อนสนิทของซีซาร์

 

 

Judy Greer รับบท Cornelia (คอร์นีเลีย)

 

ลิงสาวผู้เป็นภรรยาและราชินีของซีซาร์ คอร์นีเลีย ตัวละครจาก Rise of the Planet of the Apes ที่ถูกขังไว้ในที่พักสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม San Bruno

 

10 ปีหลังจากที่ซีซาร์ปฏิวัติต่อต้านมนุษย์ ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาได้ก่อตัวขึ้นมา ตอนนี้คอร์นีเลียกลายเป็นภรรยาของซีซาร์ ราชินี และแม่ของลูกน้อยทั้งสอง

 

 

Jason Clarke รับบท Malcolm (มัลคอม)

 

อดีตสถาปนิกและผู้รอดชีวิตจาก Simian Flu เช่นเดียวกับอเล็กซานเดอร์ลูกชายของเขา มัลคอล์มเป็นอดีตสถาปนิกที่สูญเสียภรรยาไปจากเชื้อไวรัสที่แพร่สู่มนุษย์ส่วนใหญ่ เขาต้องเลี้ยงอเล็กซานเดอร์ลูกชายของเขาเพียงลำพัง มัลคอล์มมีความหวังและมั่นใจว่าเขากับอเล็กซานเดอร์ได้ค้นพบในอาณานิคมเล็กๆ ของผู้รอดชีวิตในซานฟรานซิสโก

 

 

  

Gary Oldman รับบท Dreyfus (เดรย์ฟัส)

 

ผู้นำของกลุ่มมนุษย์ที่อยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังของเมืองซานฟรานซิสโก เดรย์ฟัสเหมือนกับคนส่วนใหญ่ที่ต้องสูญเสียครอบครัวและเพื่อนๆไปเพราะ Simian Flu

จากโศกนาฎกรรมครั้งนี้ทำให้ตอนนี้เดรย์ฟัสเป็นหัวหน้ากลุ่มมนุษย์ที่อยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังในเมืองซานฟรานซิสโก เขาไม่ได้ตั้งใจปกป้องเพียงอย่างเดียว แต่ยังสร้างสิ่งที่มนุษย์ยังหลงเหลืออยู่ขึ้นมาใหม่ หลังจากที่ถูก Simian Flu ทำลายประชาชนในท้องถิ่นและโครงสร้างพื้นฐานผ่านไปนาน 10 ปี

 

 

Keri Russell รับบท Ellie (เอลลี่)

 

พยาบาลผู้ให้การช่วยเหลือที่ CDC เมื่อการพยายามยับยั้งเชื้อ Simian Flu เกิดการล้มเหลว เอลลี่เป็นพยาบาลที่คอยช่วยเหลือใน Center for Disease Control เมื่อเกิดความผิดพลาดในการยับยั้งเชื้อไวรัสที่แพร่กระจายอย่างรุนแรง เอลลี่มีความปลอดภัยระดับหนึ่งท่ามกลางกลุ่มผู้รอดชีวิตในซานฟรานซิสโก รวมถึงมัลคอล์มที่เธอเริ่มสานความสัมพันธ์ด้วย

 

 

Kodi Smit-McPhee รับบท Alexander (อเล็กซานเดอร์)

 

ลูกชายของมัลคอล์มและผู้รอดชีวิตจาก Simian Flu อเล็กซานเดอร์เป็นลูกชายของมัลคอล์มตัวละครของเจสัน คลาร์ก แม่ของอเล็กซานเดอร์เสียชีวิตไปแล้ว เธอเป็นหนึ่งในประชากรจำนวนมากที่เป็นเหยื่อของ Simian Flu

 

อเล็กซานเดอร์ต้องปรับตัวอย่างยากลำบากร่วมกับมนุษย์ผู้รอดชีวิตเพียงไม่กี่คน แต่มิตรภาพแบบลับๆ ระหว่างเขากับลิงตัวหนึ่งจะช่วยสร้างความสันติระหว่างสองสายพันธุ์ให้เกิดขึ้นได้… แต่มันจะยาวนานแค่ไหน?

 

 

 

วิถีชีวิตแบบลิงๆ

   เมื่อหนังเรื่องนี้ มีลิงเป็นพระเอก การแสดงทั้งหมด จึงตกไปที่การแสดงอารมณ์ของ “นักแสดงโมชั่นแคปเจอร์” อย่างนาย Andy Serkis , Toby Kebbell และบรรดาผองเพือนในชุดรัดรูป ก็ทำออกมาได้ชนิดที่เรียกว่า “สร้างความเชื่อให้คนดูว่านี่เป็น“ลิง”จริงๆนะ” (เอารางวัลไปเลย คนบ้าอะไรเล่นเป็นลิงได้เนียนมากๆ)

 

นาย Andy Serkis ที่รับบทซีซ่าร์ เอาเครดิตเต็มๆไปเลยครับ เล่นได้ดีมากๆ

 

  วิถีชีวิตของพวกมันเริ่มที่จะเรียนรู้สิ่งต่างๆเกี่ยวกับอารยธรรมมนุษย์ อย่างน้อยที่สุด ก็คือ “การใช้ภาษาใบ้” (ที่ซับยาวมากๆ ทั้งๆที่ขยับนิดเดียวเอง) แถมพวกมันพยายามใช้ “การพูดเป็นคำๆสันๆ” ซึ่งสมเหตุผลมากๆ ที่จะให้พวกมันพูดน้อยๆ และพูดแบบผิดหลักไวยกรณ์ แต่เข้าใจได้เลยว่า มันจะสื่อถึงอะไร “แถมทรงพลังทุกคำพูด” จนแอดมินขนลุกเลยครับ (ก็เล่นทิ้งช่วงเงียบนาน กว่าจะพูดแต่ละคำนี่เนอะ)

 

นี่คือภาพรวมของการทำงานในส่วน “โมชั่นแคปเจอร์”ของทาง Weta Digital ทีมCG ขั้นเมพ ที่ทำให้คนเป็นลิงได้!!

 

  ฟังดูว่าพวกลิงเริ่มมีความคิดก็จริง (ลิงใช้ปืน M4A1ได้ ไม่ธรรมดาแล้ว!!) แต่ว่า เวลาที่พวกมันเข้าฉากแอคชั่นบู๊แหลก ก็ทำได้สมกับเป็น “สัตว์ป่า” พวกมันยังคงความรุนแรง ดุดัน ว่องไว ตามสัญชาติญาณ ทำให้ฉากแอคชั่น ดูสนุก บนความสับสนอลหม่านในสถาณการณ์ที่ถูกเซตไว้

 

โคบา ผู้นำทัพลิงฝ่ายบู๊ เพื่อนสนิทของซีซ่าร์ ก็ต้องออกมาร่วมรบด้วยเหตุผลบางอย่าง

 

  ขอย้ำอีกทีละกันครับว่า “เรื่องนี้เจ๋งตรงที่การสื่อสารกับคนดู” อย่างมากๆครับ พวกลิง สามารถถ่ายทอดอารมณ์ได้ชัดเจนผ่านทางสีหน้า แววตา อย่างตรงไปตรงมา เผลอๆ จะทำได้ดีกว่านักแสดงฝ่ายมนุษย์ซะอีก ทำเอาตัวละครฝ่ายมนุษย์ ที่ควรจะเป็นพระเอก ดูหมองและจืดจางถนัดตา จนกลายเป็นตัวประกอบเลยด้วยซ้ำ

 

      

มีแต่ลิง มีแต่ลิงจริงๆ…

 

 

 

สรุป…ไร้ที่ติ!!

ถ้าอ่านมาทั้งหมด จะดูเหมือนว่า “แอดมินอวยเรื่องนี้ออกหน้าออกตา” แต่เชื่อเถอะครับ แอดมินไม่ได้ค่าจ้างจากค่ายหนัง ให้มาเป้นหน้าม้าไปดูหนังเรื่องนี้ แล้วมาเขียนเชียร์อวย เพราะจ่ายตังไปดูเอง แถมไม่ได้เป้นแฟนบอยหนังแฟรนไชส์นี้ซะด้วย (มาดูภาคนี้ “เป็นภาคแรก” กับช่วงท้ายๆภาคRise ผ่านเคเบิ้ลทีวีนิดเดียว!!)

 

 เวลาที่คุณไปชมจริงๆ จะรู้เลยว่า ทุกอย่าง “สมเหตุสมผล และน่าเชื่อถือทุกการกระทำของตัวละคร” อย่างที่แอดมินว่ามาทั้งหมด

 

 

แกรี่ โอลด์แมน ไม่แก่เลยให้ตายสิ แกกลับดูหนุ่มแน่นกว่าตอนเล่นแบทแมน และมีพลังในการแสดงอย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้ว่าบทของลุงแกจะน้อยไปนิดก็ตาม…

 

  นี่คือหนังที่สะท้อนความเป็นไปในโลกจริงๆครับ สิ่งมีชีวิตย่อมห้ำหั่นกันเพื่อความอยู่รอด บนมุมมองของแต่ละสิ่งมีชีวิต ย่อมไม่เหมือนกันเป็นธรรมดา

 

แต่วิธีการปฏิบัติต่อกันเพื่อสร้างความอยู่รอด มีหลายวิธีครับ อาจจะพยายามทำความเข้าใจ และอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ หรือ เลือกที่จะ “กำจัด” สิ่งที่แตกต่างให้พ้นทาง แล้วเอาความว่า ความอยู่รอดของตน เพื่ออ้าง “ความชอบธรรม”

 

 

ต่างฝ่ายต่างอ้างความชอบธรรมในการคงอยู่ โดยไม่พยายามยอมรับกันและกัน สงคราม จึงเกิดขึ้นด้วยเหตุนี้…

 

 

ถือเป็น แอคชั่น – ดราม่าชั้นดี ที่ควรจะตีตั๋วไปดูอย่างยิ่งยวด!! จนแอดมินยกให้เป็นหนังBlockbuster ชั้นยอดประจำปีนี้เลยครับ

นอกเสียจากว่า คุณจะไม่ชอบหนังดราม่า และหวังว่าจะดูอะไรวินาศสันตะโรล่ะก็ เก็บเงินไว้รอดู Expendible 3 ดีกว่าครับ

 

 

Movie Rank S !! 10/10

 

ข้อดี – หนังดราม่าได้สุดทาง / ลิงแสดงอารมณ์ได้ดีมีพลังมากๆ / นักแสดงฝ่ายมนุษย์ ที่ดูจืดจางในช่วงแรก จะเป็นจุดสำคัญ และเด่นมากๆในช่วงกลาง และท้ายเรื่อง และฝีมือนักแสดงที่ต้องยอมรับเลยว่า เล่นดีมากๆ / มุมกล้องสวยๆมีให้ได้ดูกัน / เนื้อหาสนุก จนทำให้ความยาวหนัง2ชม ผ่านไปอย่างไว / แอคชั่นไวมาก แต่ไม่อลังการเท่าไหร่ แต่ดูเพลิน

 

ข้อเสีย – นั่งหา นั่งพิจารณาแล้วไม่มีเลย! ไร้ทีติจริงๆ ยอมครับ!!

 

มีภาคต่อแน่นอน “ฟันธง”!!

 

By Admin AK Fourtyseven

 

 

ตัวอย่าง

  

 

 

หนังสั้น3ตอน เหตุการณ์ต่อจากภาคที่แล้ว

1 Years Before : Spread of Simian Flu: Before the Dawn of the Apes

 

 

5 Years Before : Struggling to Survive: Before the Dawn of the Apes

 

 

10 Years Before : Story of the Gun: Before the Dawn of the Apes