ในงาน E3 2019 ก็ได้มีหลายเกมดังทยอยเปิดตัว ด้วยลูกล่อลูกชนที่ดึงคนให้เข้ามาสนใจเกมของผู้พัฒนาต่างๆ ไม่ว่าจะค่ายเล็กใหญ่ก็ตาม และเกม Cyberpunk 2077 เกมฟอร์มยักษ์ ที่ใช้เวลาพัฒนามากว่า 5 ปี ก็สามารถสร้างเสียงฮือฮาไม่น้อย เพราะเป็นการเปิดตัวเกมเพลย์ เรื่องราวใหม่ๆ อีกทั้งยังเป็นการประกาศวันวางขายอย่างเป็นทางการ พร้อมกับเปิดตัวนักแสดงคนสำคัญที่เปรียบเสมือนคีย์ของเรื่องอย่าง คีอานู รีฟส์ นักแสดงคนดังจาก The Matrix และ John Wick ไตรภาค
หลายๆคนที่อาจจะไม่ได้ลงลึก หรือติดตามข่าวสาร อาจจะไม่เก็ทว่าทำไมเกมนี้ คนทั้งโลกถึงฮือฮา และพากันเฮลั่นกับเกมๆนี้ เรามาทำความรู้จักกับเกมนี้แบบลงรายละเอียดกันก่อนเลยว่ามันคืออะไรกันแน่!?
ก่อนรู้จักเกม เราต้องมาทำความเข้าใจกับที่มาของคำว่า Cyberpunk เสียก่อน
Cyberpunk คืออะไร?
“Cyber – มีลักษณะที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์หรือ อิเล็กทรอนิกส์”
“Punk – พวกป่วน กวนเมือง หรือพวกเพี้ยนสติแตก”
ถ้าอธิบายภาษาชาวบ้านก็คื “เทคโนโลยีสูงล้ำ จริยธรรมต่ำตม” นั่นละครับ แนวทางของนวนิยายแนวไซเบอร์พังก์ มักมุ่งเน้นไปที่ความขัดแย้งที่มี “ปัญญาประดิษฐ์” (A.I.) ,เหล่าแฮกเกอร์ และ องค์กรขนาดใหญ่ ที่ขับเคลื่อนสังคมอันแสนเสื่อมถอย โลกของอาชญกรรมอันรุนแรง ภายใต้แสงสี และงานออกแบบที่มีความเป็นเมคานิคส์ แต่ดูโทรมๆผุพัง ไม่สมประกอบ พอๆกับสติปัญญา การแต่งกาย พฤติกรรมที่ผิดเพี้ยนของผู้คนในโลกของนิยายแนวไซเบอร์พังก์
ในแง่วรรณกรรม Cyberpunk คืออีกแขนงหนึ่งของนวนิยายวิทยาศาสตร์ ที่ว่าด้วยโลกอันเสื่อมโทรม จริยธรรมถดถอยสวนทางกับเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไปไกล..
ซึ่งจุดเริ่มต้นของคำว่า Cyberpunk คงต้องย้อนกลับไปช่วง ยุค 70 ที่มีนักเขียนนวนิยายแนววิทยาศาสตร์มากขึ้น และยังเป็นยุคที่โลกเพิ่งผ่านสงครามโลกมาได้ราวๆ 10กว่าปี โลกที่ยังตึงเครียดกับสภาวะหลังสงคราม แต่ละประเทศเริ่มฟื้นฟูความสัมพันธ์ การเขียนนิยายในยุคนั้นจึงพยายามสร้างแรงบันดาลใจถึงการสร้างอนาคตที่สวยงาม การเดินทางข้ามอวกาศ หรือดาวดวงใหม่ๆ ซึ่งมันก็ชวนเพ้อฝัน บนความเป็นไปได้ (บ้าง) โดยพ่วงความเป็นวิทยาศาสตร์ลงไป
แต่ก็มีเรื่องราวโลกนิยายวิทยาศาสตร์ที่มาแนวสิ้นหวัง หรือโลกล่มสลายให้เห็นอยู่บ้าง เช่นนิยายของ Philip K. Dick (ผู้แต่งนิยาย Do Androids Dream of Electric Sheep ในปี 1968 ก่อนจะมาแปลงเป็นหนัง Blade Runner), Roger Zelazny (ผู้แต่งThe Doors of His Face, The Lamps of His Mouth, and Other Stories ), John Brunner (ผู้แต่ง The Shockwave Rider) เป็นต้น ที่มีแนวทางการสร้างโลกทัศน์ที่แตกต่าง และเป็นเอกลักษณ์ของนักเขียนแต่ละคน โดยมุ่งไปที่ ประเด็นวัฒนธรรมการใช้ยาเสพติดในวัยรุ่น(ยุคนั้น) , การมีเซ็กซ์ที่ผิดปกติ และ เทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าไว้ด้วยกัน ที่ดังๆและชัดเจนที่สุดก็คือภาพยนตร์เรื่อง MAD MAX ที่ เมล กิ๊บสัน นำแสดงจนโด่งดัง (และเป็นต้นแบบให้การ์ตูนอย่างหมัดเทพเจ้าดาวเหนืออีกด้วย) แต่นั่น ก็ยังเป็นเพียง Distopia ยังไม่ใช่ Cyberpunk เพียงแต่แนวคิดนี้มันคือจุดเริ่มต้นการต่อยอดเท่านั้น…
จนกระทั่งช่วงปี 80 ความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีดิจิตอล ยุคที่หลายๆคนเริ่มเห่อกับสิ่งที่เรียกว่า Personal Computer หรือที่เราเรียกกันในปัจจุบันว่า PC และในสหรัฐอเมริกาเอง ช่วงยุค 80 มีอัตราการก่ออาชญกรรมที่สูงกว่ายุคก่อนๆ เพราะผลพวกของสงครามโลก และอเมริกาเพิ่งผ่านสงครามเวียดนาม บวกกับสภาพเศรษฐกิจที่เอาแน่นอนไม่ได้นั่นเอง ทำให้มีนักเขียนนิยายหลายคนเขียนนิยายเสียดสี สะท้อนปัญหาสังคมผ่านตัวหนังสือ โดยเฉพาะภาพลักษณ์ของภาพยนตร์เรื่อง Blade Runner ใน ปี 1982 และ นวนิยายของ William Gibson เรื่อง Neuromancer (นูโรแมนเซอร์) ในปี 1984 ที่ได้กลายเป็นรากฐาน และแม่แบของโลกทัศน์ที่เสื่อมทราม เต็มไปด้วยอาชญกรรม ในโลกที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย และหลอดไฟนีออกสีสันฉูดฉาด
แต่เอาจริงๆ ในญี่ปุ่น มีการ์ตูนเรื่อง AKIRA คนไม่ใช่คน ที่ออกมาในปี 1982 และ GUNM (ฝรั่งจะเรียกว่า Alita: Battle Angel )ก็สามารถนับว่าเป็น Cyberpunk ได้เช่นกัน
แล้วเรื่องราวของเกม Cyberpunk 2077 ล่ะคืออะไร!?
Cyberpunk 2077 เป็นเกมที่ทาง CD Projekt Red สร้างขึ้นมาเพื่อสานต่อเรื่องราวของแฟรนไชส์เกมกระดานชื่อดังในอดีต “Cyberpunk” ซึ่งมีมาแล้วมากมายหลายเวอร์ชั่น หลายเรื่องราว และได้แรงบันดาลใจจากนิยายของ William Gibson และ Phillip K Dick มาหนักมากๆ มีแฟนคลับทั่วโลกให้การยอมรับว่าเป้นเกมกระดานที่มีจักรวาลเนื้อหาค่อนข้างลึก (แม้จะไม่ลึกเท่า Warhammer แต่ก็จัดว่ามีเยอะสิ่งให้เล่าก็แล้วกัน) ซึ่งถ้าจะให้เล่าเลย ก็คงยาวมาก เอาเป็นว่าจะเล่าพอให้เข้าใจว่าเนื้อหาโดยรวมมันคืออะไร (หยิบเล่ม 2020 มาย่อให้อ่านนะครับ แต่จักรวาลจริงๆคือ 2013 )
เรื่องราวย้อนไปในช่วง ในช่วงปี 1989 เศรษฐกิจตกต่ำ ไม่ใช่แค่ในอเมริกา แต่เป็นกันทั้งทั่วโลก ทำให้เหล่าหน่วยงานที่คอยซัพพอร์ทท่านประธานาธิบดีสหรัฐ ที่เรียกกันว่า “Gang of Four “ ที่ประกอบไปด้วย หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ (CIA) , สภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ (NSC) , หน่วยปราบปรามยาเสพติด (DEA) และ หน่วยสืบสวนกลางสหรัฐ (FBI) ได้รวมตัวกันโดยมีเป้าหมายคือการสร้างอเมริกันให้กลับมาเป็นมหาอำนาจโลกอีกครั้ง แต่กลับไม่เป็นดังคาด เพราะปัญหาอื่นๆเช่นคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ สิ่งแวดล้อมเริ่มเสื่อมถอย แถมเศรษฐกิจก็ย่ำแย่ อเมริกากลายเป็น “ประเทศด้อยพัฒนา” และก็เป็นช่องว่างให้เหล่านายทุนต่างชาติเข้ามาในอเมริกา…
ต่อมา สามองค์กร อย่าง Arasaka Corporation องค์กรค้าอาวุธ และสื่อบันเทิงจากญี่ปุ่น , Euro Business Machines บริษัทไอที ที่มีทหารรับจ้างในสังกัดมากที่สสุดในโลก และ Petrochem บริษัทเคมีภัณฑ์ พลังงาน ก็ได้ระดมทุนในการสร้างเมือง Coronado เมืองในรัฐอิสระแห่งแคลิฟอร์เนียตอนเหนือ ฉากหลังของเกมๆนี้ โดยมี ริชาร์ด ไนท์ (Richard Night) เป็นผู้ริเริ่มโปรเจคท์ แต่เนื่องจากเป็นคนที่เข้าไปเอี่ยวกับการเมือง และการชุมนุม เขาจึงถูกพบเป็นศพในเวลาไม่นานนัก และผู้คนก็ชื่อของเขาไปแปะที่เมือง เพื่อเป็นการระลึกถึง ซึ่งในอนาคตก็คือ Night City นั่นเอง…
และเรื่องราวก็บานปลายเข้าไปอีก เมื่อเหล่าองค์กรที่มีเงิน เข้ามามีอำนาจนั้น ไม่พอใจในสิ่งที่มีอยู่ จนเกิดการทำสงครามกันอีก ในชื่อ “สงครามองค์กร” (Corporate War) ที่มีอีเว้นท์ใหญ่ๆ รบกันมาสามครั้ง โดยเป็นสงครามของการแย่งชิงข้อมูล การจารกรรม ที่มีผลเกี่ยวข้องกับธุรกิจ เงินทอง และเทคโนโลยีของยบริษัทคู่แข่ง…ทั้งใน โลกไซเบอร์ และ ในโลกจริง ล้วนได้รับผลกระทบมามากมาย…อาชีพใหม่ๆถือกำเนิดในยุคนี้ หนึ่งในนั้นก็คือ “เนตรันเนอร์” (Net Runner) เป็นทหารรับจ้างร่างอวตารเข้าสู่โลกของข้อมูลอินเตอร์เนต โดยเชื่อมต่อกับประสาทสัมผัสและจิตวิญญาณ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่มากในสมัยนั้น
จนกระทั่ง สงครามองค์กรครั้งที่ 4 ในปี 2020 เทคโนโลยีรุดหน้าไปไกลมาก มีการสร้างโคโลนี่บนอวกาศ มีการสร้างมนุษย์โคลนนิ่ง การตัดต่อร่างกายเข้ากับเครื่องจักร และสารพัดสิ่งสุดเพี้ยนเท่าที่จะจินตนาการไหว…อเมริกา และฝรั่งเศส ได้เข้าสู้รบกันเพื่อแย่งเอาเทคโนโลยีของบริษัทเยอรมันที่เพิ่งล้มละลาย เนตรันเนอร์ ถูกจ้างมานับร้อยนับพัน เข้าในสงครามครั้งนี้ โดยฝั่งอเมริกาได้ใช้งานบริษัทเก่าแก่ของสหรัฐอย่าง MILITECH และ ฝรั่งเศสได้เลือกใช้ บริษัทArasaka Corporation เป็นกองกำลังของตน ซึ่งสองบริษัทนี้ก็ไม่ได้ชอบขี้หน้ากันอยู่แล้ว จึงตกลงเซนสัญญาเพื่อบดขยี้อีกฝ่ายให้ย่อยยับ…
และครั้งนี้ เนตรันเนอร์สาวฝีมือฉกาจอย่าง “อัล คันนิ่งแฮม” (Alt Cunningham) ได้เข้าร่วมด้วย แต่ว่าเธอทำภารกิจพลาด จนบริษัท Arasaka ลักพาตัวไปดัดแปลงดูดเอาข้อมูล และวิญญาณเข้าไปในโลกไซเบอร์ ดัดแปลงเป็นโปรแกรมต่อต้านการโจรกรรมข้อมูล และทำลายร่างจริงไม่ให้ออกมาชั่วนิรันดร์ ซึ่งก็ทำให้ จอนห์นี่ ซิลเวอร์แฮนด์ (Johnny Silverhand) แฟนหนุ่มของเธอต้องมาล้างแค้นให้ และจะเป็นบทสำคัญ ก่อนจะเข้าสู่เนื้อหาของเกม Cyberpunk 2077
จอนห์นี่ ซิลเวอร์แฮนด์ (Johnny Silverhand) กับ คีอานู รีฟ !?
จอนห์นี่ อดีตทหารที่เคยร่วมรบในศึก “ความขัดแย้งในอเมริกากลาง” (Central American Conflict) สงครามที่รัฐบาลหลอกใช้ทหารในการทดลองตัดต่อร่างกายไซบอร์ก และ อาวุธชีวเคมีกับมนุษย์ จอนห์นี่ เสียแขนซ้ายไป เขาหมดศรัทธาในกองทัพ และผันตัวเองเป้นนักร้องเพลงร๊อคชื่อดัง ฉายา Rockerboy แห่งวง “SAMURAI” เพื่อหวังจะใช้ความดัง แฉเรื่องราวที่ทางกองทัพเคยทำเรื่องเลวร้ายต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน แต่ฟอร์มวงไม่นาน วงก็แตก ค่าย Universal ได้ทำการทาบทามตัวจอนห์นี่ด้วยวิธีแบลีคเมล์ ขุดอดีตสมัยเป็นทหารมาขู่ (คนยุค2020 ไม่ชอบทหาร) และจอนห์นี่ได้ออกซิงเกิ้ล “Sins of your Brother” บทเพลงแฉความชั่วร้ายของรัฐบาล และเหล่าองค์กรนายทุนใหญ่ จากการตายของแฟนสาว ทำให้จอนห์นี่ ต้องกลับไปเข้าร่วมกับทาง MILITECH ฺต่อสู้กับบริษัท Arasaka ถึงหน้าสำนักงานใหญ่ ขั้นแตกหักเพื่อจะปล่อยวิญญาณของคนรักออกไปให้ได้ แต่ทว่า จอนห์นี่ ถูกยิงเสียชีวิต ซ้ำยังถูกระเบิดนิวเคลียร์เผาร่างไปพร้อมกับประชานในเมือง Night City… และเรื่องราวก็ผ่านมาถึงปี 2077 ในตอนนี้ ระบบอินเตอร์เนต World Wide Web ทั่วโลกถูกตัดขาดโดยสมบูรณ์ ทำให้เหล่าเนตรันเนอร์ไม่สามารถเข้าระบบจากที่ไหนบนโลกได้อีกต่อไป…
ปี 2077 นักรับจ้างสารพัดที่ชื่อ “V” (เลือกเพศได้) ได้อาศัยในเมือง Night City ที่ฟื้นฟูหลังถูกนิวเคลียร์ถล่มเมื่อหลายสิบปีก่อน ทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิม องค์กรนายทุนยังคงหากินต่อไป คุณภาพชีวิตผู้คนตกต่ำ ยังฆ่าฟันกันเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง…
วันหนึ่ง V ได้ทำภารกิจพลาด ถูกรุมยำจนเละ หมดสติที่ไซท์งานทิ้งขยะของเมือง…และเสียงของชายที่มีแขนข้างซ้ายเป็นโลหะสีเงินได้ปลุกเขาขึ้นมา…จอนห์นี่ ซิลเวอร์แฮนด์ อยู่ต่อหน้าเขา! พร้อมกับพูดว่า…
“Wake the fuck up Samurai, we have a city to burn.”
“ลุกขึ้น ไอ้ “ซามูไร” หัวกล้วย, เรามีเมืองที่รอให้ไปเผาเล่นอยู่นะ”
จอนห์นี่ ซิลเวอร์แฮนด์ (Johnny Silverhand) เป็นบทบาทที่ คีอานู รีฟ ได้ถูกทางค่ายเกมติดต่อให้มารับบทหนึ่งในตัวละครสำคัญมากๆในจักรวาล Cyberpunk ซึ่งจากบทสัมภาษณ์ ได้มีการระบุว่า ตัวละครจอนห์นี่ ซิลเวอร์แฮนด์ เป็นเพียง “ข้อมูลในโลกไซเบอร์” ที่จะมีตัวตนให้ผู้ที่เขาอยากจะเชื่อมต่อด้วยเท่านั้น ซึ่งในเกมจะเรียกว่า “Ghost Data” และเหมือน คีอานู รีฟ จะชอบบทนี้มากๆ ถือว่าเป็นยุคการกลับมาของดาราฮอลลีวู้ดที่เคยอยู่ในช่วงขาลง เราแทบไม่ได้เห็นผลงานของเขาเลยในช่วงหลังจากหนัง The Matrix ไตรภาค จะมีก็ใช่ว่าหนังจะดัง จนกระทั่ง John Wick กลับมาทำให้เขาโด่งดังมีชื่อเสียง และออกปรากฎตัวไปในหลายๆสื่อ ในช่วง 2019-2020 และหลังจากนี้เราคงจะได้เห็นเขาบ่อยขึ้นให้แฟนๆหนังได้หายคิดถึงกันบ้าง…
หลังจากนี้เรื่องราวจะเป็นอย่างไร คงต้องรอให้วันเกมออกโน่นเลยครับ
แอดมินAK47
ที่มา
https://cyberpunk.fandom.com/wiki/Johnny_Silverhand
https://cyberpunk.fandom.com/wiki/Cyberpunk_Series
https://en.wikipedia.org/wiki/Cyberpunk
Cyberpunk & Cyberculture: Science Fiction and the Work of William Gibson
“The Cyberpunk Movement – Cyberpunk authors“
-
BEYBLADE X : 10 ตัวน่าซื้อ ของมันต้องมีในปี 2024
#beybladex #kctoysbeybladex #beybladexthailand
-
KARATE KID: LEGENDS [เรื่องย่อ / ตัวอย่าง / หนังใหม่ /2025]
#KarateKidMovie #KarateKi #เฉินหลง #JackieChan
-
20 ตัวละครจากเกมยอดนิยมที่ถูกค้นหามากที่สุดในเวปไซต์สำหรับผู้ใหญ่ 2024
#Ranking #website #Games #PC #Console