“ดร.ลิซ่า ซู ซีอีโอ AMD ขึ้นกล่าวเกี่ยวกับอนาคตของ AI PC ที่งาน SXSW”
14 มีนาคม 2567 11:08 น.
Share on FacebookTweet about this on TwitterShare on Google+

AMD_Lisa Su_AI_SXSW

ดร. ลิซ่า ซู CEO ของ Advanced Micro Devices (AMD) ได้กล่าวปาฐกถาสำคัญเกี่ยวกับอนาคตของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในงาน SXSW เมื่อวานนี้

คุณสามารถรับชมการปาฐกถาย้อนหลังได้

 

ในการพูดคุย ลิซ่าได้พูดถึงประเด็นสำคัญ:

 

·       อนาคตของ AI และวิวัฒนาการที่กำลังเกิดขึ้น

o   ลิซ่า กล่าวว่า “AI เป็นเทคโนโลยีที่สำคัญที่สุดที่เกิดขึ้นในรอบ50 ปีที่ผ่านมา”

o   เธอเสริมว่า “บริษัทที่รู้จักใช้ประโยชน์จาก AI จะประสบความสำเร็จมากกว่าบริษัทที่ไม่ใช้ โดย AMD ต้องการเป็นผู้นำในด้านนี้ เราใช้ AI ในทุกแง่มุมไม่ว่าจะเพื่อออกแบบชิปที่ดียิ่งขึ้น สร้างซอฟต์แวร์ที่ดีกว่า และใช้มันเป็นดั่งเครื่องมือเพิ่มผลิตผล

 

 

·       การผสาน AI เข้ากับคอมพิวเตอร์รุ่นต่อไป และผลลัพธ์อันยิ่งใหญ่ที่จะเกิดขึ้น

o   ลิซ่าเน้นย้ำว่า “AI คือวิวัฒนาการครั้งสำคัญของคอมพิวเตอร์ มันช่วยให้เราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

o   เธอเสริมว่า AI PC มีวางจำหน่ายแล้ว และ “คุณสามารถซื้อ AI PC ได้แล้วตั้งแต่วันนี้

 

 

·       คุณค่าของระบบนิเวศแบบโอเพ่นซอร์สสำหรับ AI

o   ลิซ่า กล่าวว่า “ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่าย” และ “ไม่มีบริษัทใดที่ตอบโจท์ได้ทั้งหมด” เมื่อพูดถึงการดึงศักยภาพที่แท้จริงของ AI

·       ในอุตสาหกรรมด้านความบันเทิง เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในการช่วยเสริมพลัง ยกระดับ และเร่งความเร็วกระบวนการสร้างสรรค์อย่างมีนัยสำคัญ

 

o   นอกจาก ลิซ่า ซู แล้ว เดวิด คอนลีย์ ผู้บริหารฝ่ายโปรดักชันวิชชวลเอฟเฟกต์ (VFX) จาก Wētā FX ได้ร่วมพูดคุยบนเวที เพื่อหารือเกี่ยวกับการที่เทคโนโลยีของ AMD เข้ามาช่วยส่งเสริมกระบวนการสร้างสรรค์ของสตูดิโอวิชชวลเอฟเฟกต์สำหรับภาพยนตร์

 

o   Wētā FX มีชื่อเสียงในด้านการผลักดันขีดจำกัดการประมวลผลด้านการเรนเดอร์ฉากต่าง ๆ พร้อมสภาพแวดล้อมที่น่าตื่นตาตื่นใจ มีความละเอียดสูงในภาพยนตร์อย่าง Avatar: The Way of Water, และภาพยนตร์เรื่องต่อไป “Kingdom of the Planet of the Apes” รวมถึงภาพยนตร์แอนิเมชั่นสั้นที่ได้รับรางวัลออสการ์เรื่อง “War is Over! Music Inspired by John and Yoko”

 

o   AMD ได้ร่วมมือกับ Wētā ใช้โปรเซสเซอร์ EPYC เพื่อช่วยให้นักออกแบบและทีม VFX สามารถเรนเดอร์ฉากต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ครบถ้วนสมบูรณ์ รวมถึงการทำงานแบบอินเตอร์แอคทีฟแบบเรียลไทม์ แทนที่จะต้องรอผลลัพธ์จากการเรนเดอร์แบบเดิม ซึ่งช่วยขยายขีดจำกัดด้านความคิดสร้างสรรค์ของทีมงานมากความสามารถของ Wētā ได้อย่างมหาศาล

 

เดวิด กล่าวว่า “เราอาจจะยังเรนเดอร์ภาพยนตร์เรื่อง Avatar อยู่เลย ถ้าไม่มีพันธมิตรอย่าง AMD เข้ามาช่วย เราใช้เทคโนโลยีของ AMD ทุกอย่าง และตั้งตารอที่จะได้ใช้เทคโนโลยีรุ่นใหม่ ๆ ที่มาจาก AMD”