กัปตันสึบาสะ เจ้าหนูนักเตะ [เรื่องย่อ]

 

ชื่อไทย : กัปตันซึบาสะ
ชื่อญี่ปุ่น : キャプテン翼 (Kyaputan Tsubasa – คาปุทัน ซึบาสะ)

ชื่ออังกฤษ : Captain Tsubasa

ผลิตโดย : TV Tokyo

แนว กีฬา

ต้นฉบับเดิมโดย : โยอิจิ ทากาฮาชิ

จำนวนตอนที่ฉาย : ภาคแรก 128 ตอน / ภาค J 46 ตอน / Road to 2002  52 ตอน

 

 

ฟุตบอล หรือ ซอกเกอร์ เป็นกีฬาประเภททีมที่เล่นระหว่างสองทีมโดยแต่ละทีมมีผู้เล่น11คน โดยใช้ลูกบอล เป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลายว่าเป็นกีฬาที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในโลก ในโลกของการ์ตูน ก็มีกีฬาชนิดนี้เข้ามาเป้น Theme หลักของเรื่อง เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ และผลักดันวงการฟุตบอลให้กับคนรุ่นต่อๆไปได้ กับการตูนฟุตบอลสุดโม้ที่ชื่อว่า “กัปตันสึบาสะ”

 

“กัปตันซึบาสะ” (ญี่ปุ่น: キャプテン翼 Kyaputan Tsubasa – คาปุทัน ซึบาสะ) เป็นการ์ตูนแนวกีฬาฟุตบอล ที่จัดได้ว่าเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กๆญี่ปุ่นได้เล่นฟุตบอล และยังเป็นการ์ตูนที่ส่งเสริมวงการฟุตบอลญี่ปุ่นก้าวกระโดดอย่างมหาศาล เพราะมีบุคลากรด้านฟุตบอลญี่ปุ่นหลายต่อหลายคนได้ออกมายอมรับว่า ที่พวกเขามีวันนี้ได้เพราะการ์ตูนเรื่องนี้

โดยหนังสือการ์ตูนเรื่องกัปตันซึบาสะ ปัจจุบันได้มีทั้งหมด 4 ภาค โดยภาคแรกออกมาในช่วง ปี พ.ศ. 2524 – พ.ศ. 2531 มีจำนวน 37 เล่ม, ภาคเยาวชนโลกออกมาในช่วง พ.ศ. 2537 – พ.ศ. 2540 มีจำนวน 18 เล่ม, ภาค Road to 2002 ออกมาในช่วง พ.ศ. 2544 – พ.ศ. 2547 มีจำนวน 15 เล่ม, และ ภาค Golden 23 ซึ่งเป็นภาคล่าสุด

 

 

 

เรื่องย่อ

เรื่องราวจะเล่าถึงเด็กน้อยที่ชื่อ “โอโซระ ซึบาสะ” (โอโซระ – ท้องฟ้าอันกว่างไกล / สึบาสะ – ปีก รวมกันจะได้ความหทายว่า “ปีกที่บินไปบนท้องฟ้าอันกว้างไกล”) เด้กน้อยจากเมืองนันคัตซึ จังหวัดชิสึโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ที่ผูกพันกับฟุตบอลตั้งแต่กำเนิด จากการที่รอดตายจากเหตุรถชน เพราะลูกฟุตบอลรับแรงกระแทกไว้ ซึบาสะจึงนับว่า “ฟุตบอลคือเพื่อนรัก” ของเขานับแต่นั้น

 

จนกระทั่งอายุ 11 ปี สึบาสะได้เข้าเรียนใน “โรงเรียนประถมนันคัตซึ” สึบาสะได้เจอทั้งมิตร และคู่ปรับที่เก่งกาจมากมาย หลากหลายโรงเรียน จากการแข่งขันฟุตบอลโรงเรียนระดับประเทศ เช่น “เฮียวงะ โคจิโร่” ศูนย์หน้าจอมยิงจากโรงเรียนเมวะฮิงาชิ / “มิซากิ ทาโร่” มิดฟิลด์คู่หูของสึบาสะที่มีจินจนาการในการเล่นฟุตบอลสูงมาก / “สองพี่น้องทาจิบานะ” เจ้าของท่าไม้ตายแบบประสาน “สกายเล็ป เฮอร์ริเคน” สามารถเล่นฟุตบอลจากกลางอากาศ

 

รวมไปถึง “วากาบายาชิ เก็นโซ” เจ้าของฉาย SGGK (Super Great Goal Keeper) หรือ “สุดยอดผู้รักษาประตูมือทองคำ” ที่ลั่นวาจาว่าจะไม่ยอมเสียประตูให้กับผู้ใด ถือเป็นคู่แข่งคนแรก (โผล่มาตอนที่1)ของซึบาสะเลยก็ว่าได้  

 

 

 อีกทั้งเมื่อซึบาสะได้รู้จักกับ “โรแบร์โต้ ฮอนโก” อดีตนักฟุตบอลทีมชาติบราซิล ทำให้ซึบาสะเกิดความฝันที่จะไปบราซิลกับโรแบร์โต้ แต่แล้วด้วยเหตุบางอย่าง ทำให้โรแบร์โต้จากเขาไปบราซิลแต่เพียงลำพัง ทิ้งให้ซึบาสะที่เพิ่งนำทีมประถมนันคัตซึชนะเลิศฟุตบอลระดับประเทศมาสดๆร้อนๆ ต้องอยู่ญี่ปุ่นต่อไป อย่างไรก็ตาม ซึบาสะก็ยังตั้งใจว่าสักวัน เขาจะต้องไปบราซิลและได้พบกับโรแบร์โต้อย่างแน่นอน

 

หลังจากนั้นซึบาสะก็ใช้หนังสือที่โรแบร์โต้เขียนทิ้งไว้ให้ ฝึกฝนตนเองอยู่เสมอ เขาได้นำทีมมัธยมนันคัตซึเป็นแชมป์ระดับประเทศ 3 สมัยซ้อน จากนั้นเขาและเพื่อนๆ ทีมชาติ ได้นำชื่อของญี่ปุ่นไปชนะเลิศการแข่งขัน “ฟุตบอลยุวชนนานาชาติ” ที่ฝรั่งเศสอีกด้วย และสุดท้าย ทีมชาติญี่ปุ่นของสึบาสะ ก็พลิกเกมเอาชนะทีมชาติเยอรมันได้ในที่สุด ความฝันที่จะไปบราซิลกับโรแบร์โต้ของซึบาสะก็เป็นจริงในที่สุด

 

 

 

ภาคเยาวชนโลก

เป็นเรื่องราวภาคต่อหลังซึบาสะพาทีมชาติญี่ปุ่นชนะทีมชาติเยอรมนี ในศึกฟุตบอลยุวชนนานาชาติได้แล้ว เขาก็ได้เดินทางไปยังบราซิล เพื่อไปพบกับโค้ชโรแบร์โต้ และนอกจากนั้น ยังได้พบกับนักเตะพรสวรรค์ “คาลอส ซานตาน่า“ทั้งคู่ได้แลกเปลี่ยน และแข่งขันกันหลายต่อหลายครั้ง

 

หลังจากนั้นอีก 3 ปี สึบาสะและพรรคพวกได้มาเตะฟุตบอลเยาวชนโลก (World Youth) โดยมีคู่แข่งในรอบชิงชนะเลิศคือทีมชาติเยาวชนบราซิลซึ่งมี “โรแบร์โต ฮอนโก” อดีตโค้ชของซึบาสะเป็นผู้จัดการทีม และทุกคนในทีมกำลังบาดเจ็บหนัก และไม่สมารถเปลี่ยนตัวเล่นได้ เพราะครบโควต้า ผลสุดท้ายในการดวลตัวต่อตัวกับ “นาทูเรซ่า” เพลย์เมกเกอร์ของทีมชาติบราซิล และในตอนนั้น ซึบาสะได้ใช้ลูกโอเวอร์เฮดคิก ยิงเข้าประตูไป ญี่ปุ่นขึ้นนำ 3-2 ทำให้ทีมชาติญี่ปุ่นชนะบอลเยาวชนโลกด้วยกฎ “โกลเด้นโกล์” และก็คว้าแชมป์ไปในที่สุด

 

และที่สึบาสะมีวันนี้ได้ ก็เพราะกำลังใจจาก “ซานาเอะ” นางเอก(ที่จืดจางมาก) ทำให้เขาสารภาพความในใจ และขอซานาเอะแต่งงานในสนามบอลอันเงียบสงบยามค่ำคืนหลังเสร็จศึก หลังจากนั้นไม่นานนัก สึบาสะก็ได้จากญี่ปุ่น ไปยังสเปน เพื่อเป็นนักเตะให้กับทาง“สโมสร บาเซโลน่า” (ในอนิเมเรียกว่า FC คาตารุญญ่า)

 

 

ไฮไลท์ในภาคนี้ คือการต่อสู้กับ “ชุดเยาวชนทีมชาติไทย” ซึ่งมี “บุนนาค สิงห์ประเสริฐ” เป็นกัปตันทีม และ “สามพี่น้องกรสวัสดิ์” เป็นฝ่ายประสานกำลัง โดยทีมญี่ปุ่นชนะอย่างหวุดหวิดไป 5 ประตูต่อ 4 (แต่ครึ่งแรกโดนนำไป 1-4)

และการมาของ “อาโออิ ชินโง” ฉายา “เจ้าชายสุริยะ” จากสโมสร “อินเตอร์ มิลาน” ที่สร้างสีสัน และจัดเป็นเพลย์เมคเกอร์คนสำคัญของทีมชาติญี่ปุ่น

 

 

 

 

ภาค Road To 2002

 

เมื่อสึบาสะ เล่นให้กับ “สโมสรบาเซโลน่า” ภายใต้การทำทีมของ “หลุยส์ ฟาน กัล” สุดยอดโค้ชในสมัยนั้น ก็มีมากมายหลายทีมสุดโหดในโลกกว้างรอให้เขาไปท้าทาย หนึ่งในนั้นคือนัดที่เจอกับสโมสร “รีล มาดริด” ที่เป็นเหมือนนัดแจ้งเกิดให้กับเขา ซึ่งไม่นานหลังจากนั้น ซานาเอะ ก็ได้ตามสึบาสะมาที่สเปน และกำลังตั้งท้องลูกของสึบาสะซึบาสะ ต้องการที่จะพาทีมชาติญี่ปุ่นคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2002 ที่ญี่ปุ่นกับเกาหลีร่วมกันเป็นเจ้าภาพ และต้องการเป็นนักเตะอันดับ 1 ของโลก แต่ก็มาพบกับความจริงของการค้าแข้ง แต่สึบาสะไม่ยอมแพ้ต่อทุกอุปสรรค ทำให้เขากลายเป็นสุดยอดนักเตะของสเปนในเวลานั้น

 

“เฮียวงะ โคจิโร่” กำลังค้าแข้งให้กับ “สโมสรยูเวนตุส” แต่ไม่ได้รับการยอมรับ เนื่องจากสัดส่วนร่างกายของเฮียวงะไม่ผ่านเกณฑ์ แต่ว่า “คาร์โล มอนเนตติ” โค้ชของยูเวนตุส ก็ตัดสินใจให้เขาเข้าร่วมทีม และจับมายืนคู่กับ “ดาวิด เทรเซเก้” และฝึกฝนเทคนิคการยิงที่ให้ความแรงยิ่งกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา…

 

“วากาบายาชิ เก็นโซ” ได้เข้าร่วมทัพกับทาง“สโมสรฮัมบรูก” ใน “บุนเดสลีก้า เยอรมัน” และนี่คือบททดสอบการขึ้นสู่การเป็น “สุดยอดการเป็นผู้รักษาประตู” ที่มีนักเตะมากมายที่รอถล่มเขา ทั้ง “คาร์ล ไฮน์ ชไนเดอร์” และบรรดาทัพทีมแถวหน้าที่วากาบายาชิจะต้องรับมือด้วย ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดของภาคนี้ จะวนเวียนอยู่กับเวทีระดับสโมสรโลกของสามตัวละครนี้จนจบภาค

 

 

 

 

 

 

 

ภาค Golden-23

เป็นภาคที่แทบจะไม่มีบทของซึบาสะในบทบาทของกัปตันทีมชาติญี่ปุ่น แต่จะเล่าเรื่องราวของการพาทีมชาติญี่ปุ่นเข้ารอบฟุตบอลโอลิมปิก โดยการเข้ามาของสองนักเตะฟุตซอล “คาซามิ” และ “ฟุรุคาว่า” ที่มีเทคนิคสูงตามแบบฉบับบอลโต๊ะเล็ก ได้เข้าร่วมทีมชาติ และเหล่านักเตะรุ่นใหม่ๆที่เดินตามรอยสึบาสะ ก็ได้รวมพลเพื่อคัดเลือกทีมชาติชุด U-20 ที่นำโดยโค้ชขี้เมา “คิระ” ที่ประกาศกร้าวว่า “จะเลิกเหล้า จนกกว่าญี่ปุ่นจะคว้าแชมป์โลก”

“วากาบายาชิ เก็นโซ” หนึ่งในมิตรสหายสุดรักของสึบาสะ กำลังสู้ยิบตากับการเล่นให้กับ “สโมสรฮัมบรูก” ใน “บุนเดสลีก้า เยอรมัน” แถมมีหลายๆทีมสนใจที่จะเอาเขามาร่วทมทัพ ทั้งโรม่า / ฟิออเรนติน่า / บาเยิร์น มิวนิค หรือแม้แต่แวร์เดอร์ เบรเมน ก็ต้องให้ความสนใจ แต่สุดท้าย วากาบายาชิเองก็ระหองระแหงกับฮัมบรูกต้นสังกัด ทำให้วากาบายาชิตัดสินใจกลับญี่ปุ่นเพื่อเล่นทีมชาติก่อน แล้วค่อยว่ากันอีกที

ในที่สุดทีมชาติญี่ปุ่นก็สามารถเอาชนะทีมชาติออสเตเรียในศึกตัดสิน ไปด้วยสกอร์ 4-1 (ตรึ่งแรก 2-1 ครึ่งหลัง 2-0) ทีมชาติญี่ปุ่นได้ไปรอบตัดเชือกในการแข่งขันโอลิมปิก โดยที่สึบาสะเองได้เข้ามาเล่นหลังจากนั้น ในนัดกระชับมิตรกับทีมชาติกรีซ ก่อนการแข่งโอลิมปิกที่กรุงมาดริด ประเทศสเปนจะเริ่มขึ้น…

 

 

 

หลังจากนี้ จะมีภาคที่ไทยไม่ได้ซื้อ LC มาตีพิมพ์ นั่นก็คือภาค 

 

-Kaigai Gekito in Calcio
 เป็นเรื่องสั้นตีพิมพ์เมื่อปี 2008 มีทั้งหมด 24 ตอน เป็นเรื่องราวของ โคจิโร่ ที่ช่วยต้นสังกัด เรจจาน่า ทำศึก เซเรีย ซี โดยพบกับ อัลเบเซ่ ที่มี ชินโง อยู่ในทีม โดย โคจิโร่ทำสองประตูให้เรจจาน่าออกนำก่อน 2-0 แต่ชินโงช่วยยิงสองประตูให้อัลเบเซ่เสมอ 2-2 แต่โคจิโร่เป็นผู้ยิงประตูชัยในช่วงนาทีสุดท้าย ทำให้ เรจจาน่าพิชิตอัลเบเซ่ไป 3-2 คว้าสิทธิ์เลื่อนชั้นไปเล่น เซเรีย บี ได้สำเร็จ ส่วน อัลเบเซ่ ผู้แพ้นั้น ก็ส้มหล่น จากการที่ อัลบิโนเลฟเฟ่ ไปแพ้ ราเวนน่า 2-1 ทำให้ อัลเบเซ ได้เลื่อนชั้นตามเรจจาน่าไป 

-Kaigai Gekito En La Liga
  เป็นเรื่องสั้นฉลองครบรอบ 30 ปีของกัปตันซึบาสะ ตีพิมพ์เมื่อ ก.พ. 2010 เป็นเรื่องราวแมตช์การแข่งขันระหว่าง บาร์เซโลน่า กับ เรอัล มาดริด

- Raising Sun

ภาคตะลุยศึกโอลิมปิก (ภาคใหม่หลังGolden 23 นี่ยังไม่ได้อ่านนะครับ ไว้เก็บข้อมูลเดี๋ยวมาต่อให้จบ)

เครดิตข้อมูลภาคใหม่  http://www.kartoon-discovery.com/

 

 

ตัวละครเด่นในเรื่อง

 

โอโซระ ซึบาสะ
โอโซระ ซึบาสะ (大空 翼 — โอโซระ แปลว่าท้องฟ้า และ ซึบาสะแปลว่า ปีก) เป็นนักเตะเล่นตำแหน่ง มิดฟิลด์มีท่าไม้ตายคือ ‘ไดร์ฟชู๊ต’ ความรักในฟุตบอลที่ทำให้เขากลายเป็นสุดยอดนักเตะ ซึ่งทำให้เขาได้ทำตามความฝันไปที่บราซิลกับโรเบอโต้ และต่อมาก็ไปที่สเปน ไปเจอ รีวาวล์ ที่สโมสร คาตารูเนียร์

 

วากาบายาชิ เก็นโซ

ผู้รักษาประตู มีความสามารถมาก ฉายา SGGK (Super Great Goal Keeper) ไปอยู่เยอรมันตั้งแต่เด็กหลังจากร่วมกับซึบาสะคว้าชัยในการแข่งระดับประถมได้

 

มิซากิ ทาโร่
มิดฟิลด์ เล่นคู่กับซึบาสะได้รับฉายาว่าคู่หูแข้งทอง เดินทางตามพ่อไปทั่วโลกเพราะพ่อเป็นจิตรกร ทำให้มีเพื่อนและทักษะฟุตบอลมากมาย มีท่าไม้ตายคือ บูมเบอรแรง ช็อต

 

เฮียวงะ โคจิโร่
เป็นศูนย์หน้าของ เมวะ ฮิงาชิ FC เป็นนักเตะที่มีพลังในการยิงประตูสูงมาก และเป็นคนแรกที่สามารถเล่นบอลเอาชนะซึบาสะได้ แต่ก็ต้องมาพ่ายแพ้แก่ซึบาสะในภายหลัง เฮียวงะ เกิดในครอบครัวที่ยากจน เป็นลูกคนโตในบรรดาพี่น้องทั้ง 4 คน เพราะต้องช่วยทางบ้านซึ่งพึ่งจะสูญเสีย “พ่อ” ซึ่งเป็นเสาหลักของบ้านไป เฮียวงะจึงต้องทำงานพิเศษทุกงานและเรียนไปด้วย ในต่อมา เฮียวงะได้สามารถคิดค้น ลูกยิง ‘ไทเกอร์ช็อต’ ที่รุนแรงได้ และยังพัฒนาเป็นลูกยิง ‘นีโอ ไทเกอร์ช็อต’ เมื่อได้ไปแข่งฟุตบอลยุวชนนานาชาติที่ ประเทศฝรั่งเศส|ฝรั่งเศส ต่อมาเขาได้ไปเล่นสโมสรที่อิตาลี่ แต่เขามีสภาพร่างกายที่ไม่สมบูรณ์เพราร่างกายข้างซ้ายไม่แข็งแรงเขาจึงได้ฝึกร่างกายให้แข้งแรงขึนเขาจึงเล่นในฤดูกาลที่อิตาลี่ได้แค่36นาที

 

วากาชิมัตสึ เคน
ผู้รักษาประตู ใช้คาราเต้ผสมผสานกับฟุตบอลในการป้องกันประตู มีสไตล์การเล่นแบบบุกตะลุย ผู้รักษาประตูมือสองของญี่ปุ่น มีความสามารถทางคาราเต้ และได้ปรับเข้ามาใช้กับการป้องกันประตูด้วย ทำให้เกิดเป็นท่วงท่าเฉพาะตัว ถนัดการออกมาตัดบอลและเติมเกมรุก

 

 

 

ของเล่น

ของเล่นจากกัปตันสึบาสะ จะมีไม่มาก ส่วนใหญ่ไปทางเกมซะเยอะครับ ซึ่งเชื่อว่ามีหลายๆคนคงเคยได้เล่นกันมาบ้างแล้ว

รายชื่อเกมที่มาจากการ์ตูนเรื่อง กัปตันสึบาสะ

 

 

 

นับว่าเป็นการ์ตูนที่เติมเต็มความฝัน และสร้างกำลังใจในการต่อสู้กับอุปสรรคชีวิต ถึงแม้ว่า สึบาสะ เฮียวงะ หรือ วากาบายาชิ จะเล่นบอลเก่งแค่ไหน ก็ไม่อาจพ้นสัจธรรมที่ว่า “เหนือฟ้า ยังมีฟ้า” และ “อุปสรรคของชีวิตนานนัปการ” ถ้าพวกเขายังคิดว่าตัวเองเก่งแล้วไม่พัฒนาตนเอง ก็จะไม่มีวันประสปความสำเร็จเหมือนทุกวันนี้ ถึงแม้พวกเขาจะเป็นเพียงแค่ตัวการ์ตูน แต่เชื่อว่า ชีวิตของพวกเขา และความสนุกของเกมลูกหนัง ยังคงอยู่ในใจของผู้ที่เคยชม หรืออ่านการ์ตูนเรื่องนี้อย่างแน่นอน

 

และตำนานของการ์ตูน “กัปตันสึบาสะ” ก็ยังไม่ถึงฉากสุดท้าย จนกว่า.อ.โยอิจิ ทากาฮาชิ จะวาดออกมา…

 

 

แอดมิน Ak47

 

เพลงเปิด