ในปีนี้ (2020) วงไอดอลชื่อดังอย่าง BNK48 ก็เตรียมปล่อยสารคดีของวงเรื่องที่สองอย่าง One Take (Real Me) หลังจากเลื่อนวันฉายไปหลายครั้ง และช่วงนี้ก็เจอกับไวรัส COVID-19 ก็ต้องเลื่อนฉายไปอีกครั้ง 

สารคดีเรื่องนี้จะได้ พี่โดนัท-มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล นักแสดงที่ผันตัวมาอยู่เบื้องหลัง รับหน้าที่เป็นผู้กำกับ การันตีจากผลงานการกำกับที่ผ่านมา อาทิ Lovesucks (2558) และ The Journey บันทึกทางไกล..ถึงพ่อ (2560) ซึ่งตัวอย่างก็ได้เผยแพร่ผ่านสู่สายตาเป็นที่เรียบร้อย

แน่นอนว่าเหล่าบรรดาโอตะ ต่างคาดหวังกับสารคดีเรื่องใหม่นี้เป็นอย่างมาก วันนี้เลยจะรวบรวม 5 สิ่งที่แฟนๆคาดหวังว่าอยากจะเห็นจากหนังสารคดีเรื่องนี้ เราไปชมกันได้เลยครับ

1.)เรื่องราวที่สเกลใหญ่ขึ้นกว่า GDC

จากที่ได้เห็นตัวอย่างแบบเต็มๆ คราวนี้ One Take จะพาไปดูเรื่องราวในวันที่บ้านเลขที่48ขยับขยายมากขึ้น หลังการมาของรุ่นที่สองเข้ามาเสริมทัพ เราอาจะได้เห็นมิติเรื่องราวที่หลากหลายมากขึ้น ผ่านเหล่าสมาชิกวงทั้งสองรุ่น ในการที่จะพัฒนาตัวเองไปให้ถึงจุดหมายตามที่ตั้งใจไว้นั่นเอง

2.) สงครามศึกเลือกตั้งครั้งแรกที่กดดัน

หนึ่งในไฮไลต์สำคัญของสารคดี นั่นคือศึกเลือกตั้ง48ครั้งแรกในไทย ที่เหล่าโอตะหรือแฟนคลับพร้อมทุ่มเพื่อจะส่งโอชิไปให้ถึงฝั่งฝัน ขณะที่น้องๆก็พยายามพัฒนาฝีมือและตัวเองเพื่อจะเพิ่มมูลค่าในตัวเอง แล้วสิ่งที่อย่างเห็นที่สุดก็คงจะเป็นความรู้สึกตั้งแต่วันลงสมัครจนถึงวันตัดสิน เราอาจได้เห็นบรรยากาศความสมหวังและความผิดหวัง

 
3.) เรื่องราวของรุ่นสองที่ลึกกว่าที่รู้

อย่างที่ได้เล่าไปในข้อแรกว่าเรื่องราวใน One Take นอกจากเรื่องราวของรุ่น1กับการพัฒนาตัวเองเพื่อรักษาตำแหน่งตัวเอง อีกสิ่งหนึ่งที่อยากเห็น นั่นคือเรื่องราวของรุ่นสอง ที่ต้องพิสูจน์ตัวเองว่าจะต้องทัดเทียมและมีความสามารถไม่แพ้เหล่ารุ่นพี่ ทำให้ต้องพยายามและงัดศักยภาพที่มีออกมาให้มากที่สุด

4.) การแข่งขันในวงเพื่อให้เป็นคนที่ “ถูกเลือก”

“เราต้องแข่งกับทุกคนในวง ถึงแม้เราจะบอกว่าไม่ได้แข่งก็ตาม” ด้วยความที่วงBNK48 เป็นวงน้องสาวของ AKB48 จึงมีทั้งรูปแบบและธรรมเนียมที่ส่งต่อกันมา เป็นสิ่งที่รุ่น1และรุ่น2 ต้องลงชิงชัยทุกศึกตั้งแต่วันฝึกซ้อม, ขึ้นแสดงเธียร์เตอร์, งานจับมือ, งานเลือกตั้ง รวมถึงประกาศเซนบัตสึเพลงใหม่ กิจกรรมที่กล่าวมานี้มันคือการแข่งขันทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งทั้งสองรุ่นต้องเจอแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเป้าหมายคือชัยชนะ ที่เปรียบเสมือนพื้นที่สื่อที่เปรียบดั่งโอกาสทองนั่นเอง

5.) “มันคือความโหดร้ายของระบบ!” (ทุนนิยม)

หนึ่งในวลีที่ เฌอปราง ได้เอ่ยขึ้นพร้อมสีหน้าที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่อัดอั้น ในฐานะกัปตันวงผู้เป็นพี่ใหญ่ของน้องๆ ที่ต้องแบกภาระหน้าที่และแรงกดดันทั้งทางตรงและทางอ้อมกับระบบไอดอลที่ใครหลายคนใฝ่ฝันซึ่งอาจจะมีบางอย่างที่น้องอยากระบายความรู้สึกออกมา คงต้องรอติดตามดูในหนังต่อไป

ทั้งหมดนี้คือ 5 สิ่งที่แฟนๆคาดหวังว่าอยากจะเห็นในหนังสารคดีเรื่องใหม่ One Take ที่ถูกเลื่อนฉายไม่มีกำหนด

@.P.PETTY