“BNK48 : ONE TAKE” 

ประเภท : ภาพยนตร์สารคดี
แนว : ดราม่า / ชีวิต

กำกับ : โดนัท มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล
ฉาย :   18 มิถุนายน  2020 ทาง NETFLIX

 BNK48 : ONE TAKE จะพาทุกท่านย้อนกลับไปในปี 2018-2019 ยุคที่กำลังพีคสุดขั้วของ BNK48 วงไอดอลอันดับ 1 ของประเทศไทย ที่กำลังมาถึงจุดเปลี่ยน เมื่อมีการประกาศรับสมัคร “สมาชิกรุ่นที่สอง”  ที่จะเข้ามาแย่งชิงพื้นที่คะแนนความนิยมของสมาชิกเดิม ทำให้การแข่งขันในวงที่มีอย่างเข้มข้นอยู่แล้ว ก็ยกระดับไปอีกขั้น ทุกคนต้องพ้ฒนาตัวเอง เพื่อคว้าจุดยืนในวงให้ได้ และศึกตัดสินความนิยม “GENERAL ELECTION ครั้งแรก” คือจุดวัดใจของตัวสมาชิกในวง และเหล่าแฟนคลับ ว่าความทุ่มเท ทั้งพลังเงิน และความรักคามศรัทธาที่มีให้นั้น มีมูลค่าเท่าไหร่กันแน่ และจะพาพวกเธอไปถึงฝั่งจริงๆหรือไม่…

REVIEW  6/10 

เนื้อหาดี แต่ไม่น่าจดจำ 

เนื้อเรื่อง และการนำเสนอของสาารคดีชุดนี้ จะมีความแตกต่างกับ Girls Don’t Cry ที่ถือเป็นสารคดีเรื่องแรกที่กำกับโดยคุณ เต๋อ นวพล ทำเอาไว้ ซึ่งทำออกมาแบบเพื่อคนที่ไม่รู้จักกับ BNK48 ได้มองเห็นตัวตน ทัศนคติ และเรื่องราวของวงในภาพรวม แต่กับสารคดีเรื่อง ONE TAKE จะเจาะประเด็นไปที่ “รุ่น 1 กับ รุ่น 2″ และ “งานเลือกตั้ง General Election” มากกว่า และไม่ได้มีการปูพื้นฐาน หรือเกริ่นนำใดๆ ใครที่ไม่เก็ทเรื่องวงการไอดอลมานั่งดูอาจจะงงๆนิดหน่อย แม้ว่าจะมีการอธิบายเอาไว้ในตัวสารคดีแล้วก็ตาม แต่สำหรับเหล่าแฟนคลับ ก็จะเข้าใจในสิ่งที่ตัวสารคิดนำเสนอพอสมควร

ตัวสารคดี พยายามเล่นกับ Mood&Tone ที่มีแต่ความตึงเครียด ความทุกข์ของเมมเบอร์ และสิ่งที่เมมเบอร์หลายๆคนเจอมา ผ่านบทละครสมมติเล็กๆ (ดูออกแหละว่าหลอกด่า 555+หยอกๆ) และ การ Workshop คลาสการแสดงที่ชวนให้คนดูพาลจะประสาทเสียตามน้องๆไปด้วย (จุดนนี้ทำดีนะ อันนี้ชม 555+) อีกทั้งยังมีการเล่าในมุมแฟนคลับด้วย อันนี้ก็ดีอยู่นะ แต่ออกมาน้อยไปนิด เสนอแนะ ถ้าทำรอบหน้า “ลองทำเกี่ยวกับชีวิตโอตะ” แล้วคุณจะอเมซิ่งกว่านี้ 555+

นอกจากนี้ยังมีประเด็นอื่นๆแทรกมาบ้าง เช่น การบูลลี่จากโลกออนไลน์ ความคาดหวังจากแฟนคลับ การแข่งขันของเพื่อนๆในวง และนำไปสู่ไคลแม็กซ์ของเรื่อง คือ  “งานเลือกตั้ง General Election” ซึ่งเราได้รับรู้ทัศนคติ ณ เวลานั้นของเมมเบอร์ต่อการเลือกตั้งครั้งแรก แม้ว่าเรารู้ผลการแข่งครั้งนั้นแล้วก็จริง … แต่เราไม่มีทางรู้เลยว่า ระหว่างทางที่จะไปถึงจุดนั้นต้องเจอกับอะไร ความน่าสนใจของสารคดี คือจุดนี้ และพยายามนำเสนอผ่านเทรลเลอร์ และ MV มาตลอด 

ซึ่งหลังจากที่ได้ดูตัวสารคดีเต็มๆจนจบเรื่องแล้ว เราก็ยังเหมือนถูกทิ้งเอาไว้ท่ามกลางความกดดันของเหล่าเมมเบอร์ตั้งแต่ต้น ยัน End Credit  ตลอด 1.30 ชม. เราแทบไม่เห็นซีนที่เมมเบอร์มีความสุขกับสิ่งที่ทำอยู่ เป็นหนังสารคดีโทนอมทุกข์เสียด้วยซ้ำ จนเกิดคำถามในใจว่า “ที่น้องๆมาเป็นไอดอลเนี่ย มันดีจริงๆหรือเปล่าวะ?”

คือเอาล่ะ ในความเป็นจริงที่ในสารคดีไม่ได้เล่า ก็คือมันก็มีคนที่ไม่โอเคในจุดนี้จริงๆ จนถึงขั้นมีเมมแกรดออกจากวงหลังงานนี้ไม่นาน (ซึ่งก็เรารู้กันอยู่ละนะ) ก็ว่ากันไปตามกรรม ตามวาระ…

จุดดีจริงๆ ของสารคดีเรื่องนี้ นอกจากเรื่องฟุตเทจหลังม่านที่หาดูไม่ได้แล้ว ก็คงจะเป็น “การฟังน้องสาวบ่นเกี่ยวกับชีวิตตัวเอง ช่วงงานเลือกตั้ง General Election ครั้งแรก”  นั่นละ

อย่างน้อย เราก็รู้ว่าน้องที่เรารัก เราเชียร์นั้นคิดอะไรอยู่ (ในเวลานั้น) แต่ก็อีกนั่นละ ด้วยเวลา 1.30 ชม. เป็นไปไม่ได้ที่จะเล่าครบทุกคน แต่จากที่ทราบมาจริงๆแล้ว สารคดีเรื่องนี้ได้รับการแก้ไขบทมาหลายรอบ หลายดราฟท์มาก เพราะฟุตเทจ และความในใจของเมมเบอร์ที่จัดเต็มจริงๆจนต้องตัดออก (อีกแล้ว)…ฟังเหมือนดุดี แต่ก็เป็นสารคดีที่ไม่ได้น่าจดจำเท่าไหร่นัก…ทั้งสตอรี่ และ ซีนเด็ดชนิด “โลกต้องจำ” อันนี้ไม่มี และส่วนตัว จะให้ทาง Girls Don’t Cry ดีกว่า

ในส่วนงานภาพของเรื่อง จะเป้นการเอาฟุตเทจ ตัดสลับกับบทสัมภาษณ์ สไตล์ Girls Don’t Cry  แต่สีสันสดใส ใส่ฟิลเตอร์บางๆฟุ้งๆ และเต็มไปด้วยชีวิตชีวา สวนทางกับเนื้อหาที่ทึมๆ ชวนอึดอัด กดดันไปกับเรื่องราว ก็เป็นความขัดแย้งในผลงานที่ดูแปลกๆดี (อันนี้ชอบ) อารมณ์เหมือนดู MIDSOMMAR หนังสยองขวัญโทนสว่างจากสวีเดน อะไรเทือกๆนั้นเลย

เพลงประกอบในสารคดีชุดนี้ จะเล่นกับแนวดนตรี Synthesizer music ที่ออกโทนทึมๆ กดดัน ฟังแล้วอึดอัดเข้ากับสิ่งที่นำเสนอได้ดี  รวมไปถึง ถ้าใครได้ฟังเพลง  It’s me – Ost.BNK48 Documentary : One Take / BNK48 ที่ น้องจิ๊บBNK48  เป็นคนร้องเอาไว้ นั่นละ “คือเนื้อหาจริงๆของสารคดีชุดนี้นำเสนอ” เหมือนโดนน้องสปอยล์ออกมาผ่านเพลงยังไงไม่รู้

ถ้าถามถึง “ความชอบ” ส่วนตัวแม้ว่าจะเป็นแฟนคลับเดนตายของ BNK48 ก็ตาม ก็ไม่สามารถทำใจให้ชอบสารคดีตัวนี้ได้จริงๆ มันเป็นสารคดีที่เล่าเรื่องโทนเดียว ที่ขยี้แค่ไม่กี่เรื่อง จนรู้สึกว่าเหมือนโดนท่าไม้ตายเดิมๆซ้ำๆ และก็ชินชา แล้วก็พาลจะ “ไม่ว้าว” ในที่สุด…

“ก็เข้าใจนะ ว่าโลกนี้คือการแข่งขัน แต่อย่างน้อย ช่วยนำเสนอความงดงามในโลกอันโหดร้ายซักหน่อยไม่ได้เลยรึไงกันนะ?”

นี่คือสิ่งที่แอดมินคิดหลังดูจบ และเป็นความเห็นส่วนตัว “อย่าเพิ่งเชื่อ” คุณดูจบแล้วอาจจะชอบก็ได้นะ!

แอดมิน AK47

#BNK48 #ONETAKE

แอดมิน AK47