Bloody Roar
ประเภท: Fighting
ผู้พัฒนา: Raizing (Eighting Co., Ltd.), Hudson Soft
ผู้จัดจำหน่าย: Activision, Hudson Soft, Konami, SCEA, Virgin Interactive
ระบบปฏิบัติการ: Arcade, GameCube, PlayStation, PlayStation 2, Xbox
จำหน่ายครั้งแรก: 7 กรกฎาคม 1997

ในช่วงยุค 90’s นั้นอาจเรียกได้ว่าเป็นยุคทองของวีดีโอเกม แล้วถ้าจะหากพูดถึงแนวเกมที่เป็นดั่งเรือธงของวงการแล้วละก็ จะต้องเป็นเกมแนวต่อสู้ ซึ่งมีหลายซีรีส์ที่วันนี้ยังคงโลดแล่น หรือเข้าขั้นเป็นตำนานไปแล้ว อาทิ Street Fighter, Tekken, Fatal Fury เป็นต้น แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงเกมต่อสู้อีกเกมหนึ่งที่แม้จะมีฐานแฟนๆไม่แพ้เกมที่กล่าวมา แต่ครั้งหนึ่งเกมนี้ได้รับความนิยมในบ้านเราพักหนึ่ง มันคือเกมต่อสู้ที่มีความน่าสนใจและสร้างแนวทางในแบบฉบับของตัวเอง โดยเกมที่เราหยิบมาเล่าวันนี้มีชื่อว่า Bloody Roar นั่นเอง

Bloody Roar คือเกมแนวต่อสู้เปิดตัวในฐานะเกมอาร์เคดในปี 1997 (ส่วน ชื่อ Beastorize คือชื่ออเมริกาอย่างเป็นทางการของเกมนี้)

ตัวเกมเป็นเกมต่อสู้อาร์เคดแบบ 3D ตัวเกมได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก หลังจากได้รับความนิยม Raizing ผู้พัฒนาเวอร์ชันอาร์เคดของ Beastorizer จับมือกับ Hudson Soft ซึ่งเป็นผู้พัฒนาเกมที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้น โดยทำเกมเพื่อจะลงให้กับเครื่องเล่น PlayStation ในวันที่ 6 พฤศจิกายน ปี1997 และมีการปรับปรุงรายละเอียดบางจุด ซึ่งหลังจากความสำเร็จภาคแรกก็จะมีภาคต่อรวมทั้งสิ้นอีก 4 ภาค เป็นอีกซีรีส์เกมการต่อสู้ที่มีแฟนคลับไม่แพ้เกมดังเลยทีเดียว

เรื่องราวในเกม (Story)

เรื่องราวของ Bloody Roar บอกเล่าเรื่องราวที่มีฉากหลังคือช่วงท้ายศตวรรษที่ 20 มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งซึ่งตามตำนานเมื่อครั้งอดีตได้กล่าวไว้ว่า มีมนุษย์จำพวกหนึ่ง ตั้งแต่โบราณกาลมาแล้ว ไม่ว่าจะมี เชื้อสายใด หากพรหมลิขิตได้กำหนดมา พวกเขาจะได้รับพลังที่ทำให้เขา เป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งเดรัจฉาน หรือที่เรียกว่า สัตว์สมิง ( Zoanthrope) พวกเขาเหล่านี้สามารถที่จะกลายร่างเป็นสัตว์ได้ ซึ่งจากตำนานที่ได้กล่าวมา ทำให้บริษัทผลิตอาวุธชีวภาพที่ชื่อว่า ไทลอน (Tylon) เกิดไอเดียสุดบรรเจิด โดยการจับคนที่มีพลังพิเศษเหล่านี้ มาทำการทดลองเพื่อสร้างสุดยอดกองทัพทหาร หวังเป็นสุดยอดอาวุธที่พิชิตโลกทั้งใบ

ยูโก โอกามิ ชายหนุ่มที่มีพลังสัตว์สมิงในร่างหมาป่า ได้เดินทางมายังสำนักงานใหญ่ของบริษัทไทลอน เพื่อตามหาพ่อของเขาที่ถูกจับมาส่วนหนึ่งของการทดลองที่นี่ ซึ่งเบาะแสส่วนหนึ่งเขาได้รับความช่วยเหลือมาจาก กาโด้ ทหารรับจ้างที่เป็นเพื่อนสนิทพ่อของยูโก ในการสืบหาความจริงขององค์กรชั่วร้ายนี้ ซึ่งระหว่างตามหาเบาะแสนั้นพวกเขาต้องเผชิญกับเหล่าสัตว์สมิงที่ถูกล้างสมองโดยไทลอน ซึ่งทั้งสองสามารถจัดการได้ จนทำให้ได้รู้ลึกเบื้องหลังอันชั่วร้ายของบริษัทไทลอน

ในตอนจบของภาคแรก ยูโก ได้มีโอกาสประมือกับ ยูริโกะ หนึ่งในกลุ่มคนที่ถูกจับทดลองที่เธอสามารถแปลงร่างเป็น คิเมร่า จนนำไปสู่การต่อสู้ที่แสนจะดุเดือด ก่อนที่พระเอกของเราจะจัดการลงได้สำเร็จ ก่อนที่เขาจะได้พบความจริงเกี่ยวกับการทดลองที่สุดแสนจะชั่วร้ายและเรื่องราวเกี่ยวกับพ่อของยูโกอีกด้วย หลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้ บริษัทไทลอนก็ถูกกระแสสังคมจมตีกับการทดลองที่ผิดหลักมนุษยชน พร้อมกับที่สาธารณะชนได้รับรู้การมีอยู่ของเหล่าผู้คนที่มีพลังสัตว์สมิง

ส่วนทางด้านยูริโกะได้สูญเสียพลังคิเมร่าเหลือเพียงแค่พลังแมวที่มีอยู่

Bloody Roar 2

นี่คือหนึ่งในภาคที่น่าจดจำที่สุดของเกมชุดนี้ แม้ทางฝั่งต่างประเทศจะไม่โด่งดังเปรี้ยงปร้าง แต่กลับกันในเมืองไทยนี่คือหนึ่งในเกมต่อสู้ยอดฮิตเข้าขั้นคลั่งไคล้อยู่พักใหญ่ โดยเรื่องราวจะเล่าเหตุการณ์ในอีก 5ปีต่อมา หลังจากเหตุการณ์ในภาคแรกเมื่อบริษัทไทลอนล่มสลาย แม้ว่าทุกอย่างจะดูสงบสุขแต่ก็ไม่นาน เพราะจากเหตุการณ์ในภาคแรก เมื่อกลุ่มคนที่มีพลังพิเศษสัตว์สมิงอย่าง Zoanthrope เป็นที่หวาดระแวงในสังคม ขณะเดียวกันก็มีกลุ่มนักสู้สัตว์สมิงส่วนหนึ่งที่เชื่อว่าพวกเขาเหนือกว่ามนุษย์ธรรมดา จึงรวบรวมสมัครพรรคพวกจัดตั้งกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า The Zoanthrope Liberation Front (ZLF) หวังจะก่อการร้ายเพื่อยึดครองโลกใบนี้ ซึ่งหนึ่งในสมาชิกของ ZLF อย่าง เชนหลง เ ขาคือนักสู้ที่ถือกำเนิดจาก DNA ของ หลง เขาก้าวขึ้นมาเป็นขาใหญ่ของกลุ่มแล้วยังได้ชื่อว่าคือคนที่อันตรายที่สุด

ทางด้าน ยูโก ที่ภายหลังเอาผันตัวเป็นนักมวย โดยเขาได้รับอุปการะเลี้ยงดูเด็กชายที่เจอกันตอนที่ศูนย์วิจัยบริษัทไทลอนถล่ม ก่อนที่เขาจะได้ชื่อว่า เคนจิ แต่แล้ว เคนจิก็ถูกคนจากกลุ่ม ZLF ลักพาตัวก่อนที่ บูซุชิม่า อดีตนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องของไทลอนได้ทำการรื้อฟื้นความทรงจำ ทำให้ผู้เล่นได้รู้ว่า เคนจิ เป็นทายาทของตระกูลนินจา ซึ่งได้สูญเสียครอบครัวไปเมื่อยังเล็ก บาคุริว นักสู้ที่มีพลังตัวตุ่นจึงเก็บมาเลี้ยงและถ่ายทอดวิชานินจาให้ ภายหลังบาคุริวเสียชีวิตจากการทดลอง เคนจิ จึงกลายเป็นบาคุริวรุ่นที่2 ไปโดยปริยาย

เหตุการณ์ทีเคนจิถูกลักพาตัว ทำให้ยูโกตัดสินใจออกตามหาเคนจิ แต่ทว่าเขาได้เจอกับ สตัน อดีตนักวิทยาศาสตร์ที่ถูกดลองจนกลายเป็นตัวประหลาดแต่มีความสามารถในการแปลงร่างเป็น ด้วง การเจอกันทำให้อีกฝ่ายเข้าใจผิดคิดว่าพระเอกทำงานให้กลับกลุ่ม ZLF จนเกิดการต่อสู้กันทันที ท้ายสุดพระเอกชนะ ก่อนที่สตันจะเข้าใจผิดก่อนจะบอกเกี่ยวกับ เคนจิ ยิ่งทำให้ยูโกเริ่มเป็นห่วงเคนจิมากขึ้น

ทางด้าน บูซุชิม่า ที่ล้างสมองเคนจิจนกลายเป็นมือขวาให้กับเขา เมื่อยูโกมาถึงก็ทำให้พี่น้องต่างสายเลือดต้องต่อสู้กัน ก่อนที่ยูโกจะสามารถเอาชนะและทำให้ เคนจิ กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกครั้ง แต่ทว่า บูซุชิม่า ที่ยังเหลือไม้เด็ดคือ เชนหลง จึงทำให้เกิดศึกที่สองตามมาทันที

ยูโกรู้สึกได้ว่า เชนหลง แตกต่างจากหลงที่เขาได้ประมือกันมา เพราะว่า เขามีสัญชาตญาณดิบและความโหดเหี้ยมที่ไม่ปราณีใคร เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น เชนหลงได้แสดงพลังอันร้ายกาจหวังจะกำจัดยูโกไปให้พ้นทาง แต่ยูโกก็รวบรวมพลังใจรวมถึงพลังจากสัตว์สมิงในตัวเขา สยบเฉินหลงลงได้พร้อมกับพาเคนจิหนีออกจากฐานลับที่กำลังจะถล่มลงมา

ทว่ากาโด้ได้มาเจอพวกเขา และขอให้ยูโกทำหน้าที่เป็นเหมือนผู้นำกลุ่มของ Zoanthrope เพื่อนำมาสู่ความสันติสุข แต่ทว่ายูโกนั้นเขาอยากจะใช้ชีวิตเหมือนคนธรรมดาทั่วไป สุดท้ายจนนำไปสู่การต่อสู้ของทั้งคู่ เมื่อยูโกชนะกาโด้ได้ อีกฝ่ายยังยืนกรานว่ายูโกเหมาะสมทีจะเป็นแกนนำของเหล่า Zoantrope แทนที่เขา ซึ่งเคนจิก็เห็นด้วย ทำให้ยูโกยอมรับข้อเสนอแล้วหวังนำสันติสุขกลับคืนมาอีกครั้งให้ได้

Bloody Roar 3

หลังเหตุการณ์ภาคที่แล้ว ยูโกก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าของเหล่า Zoantrope ในนามกลุ่มที่ชื่อว่า World of Coexistence (WOC) เพื่อมุ่งเน้นสร้างสัมพันธ์อย่างสันติของเหล่า Zoantrope และ มนุษย์ อยู่ด้วยกันอย่างผาสุก แต่แล้วยูโกก็ได้รู้เรื่องราวของ X-Genome Code (XGC) ซึ่งอยู่ในร่างของเหล่า Zoantrope อยู่หลายคน ซึ่งมีผลข้างเคียงที่แตกต่างกันไป แต่มีผลลัพธ์เหมือนกันคือความตายนั่นเอง ทำให้ยูโกจึงออกตามสืบที่มาของ XGC ครั้งนี้

ในที่สุดยูโกก็ได้เผชิญหน้ากับ ซิออน ชายผู้มีพลังของสิ่งที่เรียกว่า “อันบอร์น” อยู่ในร่างกาย และยังมีฝีมือร้ายกาจ ซึ่งการเจอกันทำให้ยูโกได้รู้เกี่ยวกับศิลาที่ชื่อว่า The Tabula of a Thousand Beasts หรือ ผนึกทาบูล่า ซึ่งมันคือขุมลังที่ ไกอา ศัตรูของอันบอร์นได้กักขังพลังชั่วร้ายด้วยการผนึกทาบูล่าเป็นประตูเชื่อม ทำให้ยูโกต้องสู้กับซิออนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งท้ายสุดเป็นอีกครั้งที่ยูโกเอาชนะ และ XCG ก็ได้หายไปในที่สุด พร้อมกับทำลายผนึกทาบูล่าเพื่อไม่ให้อันบอร์นกลับมาได้

Bloody Roar Extreme / Primal Fury

เรื่องราวในภาคนี้จะเล่าถึง “ในยุคของการต่อสู้ระหว่างมนุษย์กับ Zoanthrope” ซึ่งแม้ว่าจะมีกลุ่ม W.O.C ค่อยสร้างความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับ Zoanthrope แต่ทว่าพวกเขายังไม่รู้สึกว่ามันสงบสุข จึงทำให้พวกเขาสร้างอาณาจักรเป็นของตัวเอง เพื่อมุ่งเน้นสร้างสันติ แท่ทว่าก็มีข่าวว่าอาณาจักรแห่งนี้แอบมีการทดลองลับ ซึ่งไม่อาจหาหลักฐานได้ชัดเจน ทำให้ราชาของอาณาจักรเหล่า Zoanthrope นามว่า โอไลอ้อน ที่อยากแสดงให้คนทั้งโลกได้เห็นพลังที่แท้จริง จึงจัดการต่อสู้ที่มีเงินรางวัลมูลค่าสูง ทำให้ยูโกและทุกคนมุ่งหน้าสู่อาณาจักรเพื่อสืบเรื่องราวที่แท้จริงของอาณาจักร

ภายหลังได้มีการเผยว่าอาณาจักรแห่งนี้ได้มีการทดลอง โดยจุดประสงค์ของ ราชาโอไลอ้อน คือจัดการประลองต่อสู้เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจเรื่องการทดลอง ก่อนที่ภาพจะตัดกลับมาเมื่อมีการเซ็นสัญญาสันติ ซึ่งกาโด้เป็นตัวแทนเซ็นพร้อมกับราชาโอไลอ้อน ก่อนที่อีกฝ่ายจะบอกว่า ถึงแม้มนุษย์จะไม่ได้ชั่วร้ายแต่พวกเขาก็ยังหวาดกลัวพลังของ Zoanthrope จึงขอให้กาโด้ระวังให้ดี

Bloody Roar 4

เรื่องราวในภาคนี้จะเล่าตอนช่วงเหตุการณ์ผนึก ทาบูล่า ตัวละครหลักในคราวนี้คือเด็กสาวที่ชื่อ นากิ ซึ่งถูก ไซออน ทำร้ายอย่างสาหัส ก่อนที่ ไกอา จะมอบพลังที่สร้างเลียนแบบอันบอร์น เพื่อให้เธอกลับมามีพลังในการกำจัดเหล่าอันบอร์น ซึ่งทำให้เธอมีพลังเช่นเดียวกับไซออน เธอจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อนำร่างของตนเองกลับมา จนเกิดการต่อสู้กันแต่เมื่อเธอจัดการแทงไซออน มันทำให้เธอกลับมีพลังมากขึ้น จนถูกไซออนทำการเชื่อมพลังควบคุม

ทั้งสองคนจึงร่วมมือเพื่อกำจัดไกอา โดยมีเป้าหมายคือ เรียวโฮ ซึ่งเป็นอาวุธที่ทรงพลังที่สุดของไกอา ซึ่งนากิเกือบจะจัดการได้สำเร็จ แต่ก็ถูกพระเอกอย่างยูโกเข้ามาขวางแผนการ แต่ตอนจบของภาคนี้ไม่สามารถสรุปได้ว่าตอนจบที่แท้จริงจะเป็นเช่นไร จึงถูกทิ้งไว้เป็นปริศนาต่อไป!?

ระบบการเล่น

เสน่ห์ของเกม Bloody Roar นั้น แม้ภาพรวมจะเป็นเกมต่อสู้เหมือนเกมอื่นๆ แต่สิ่ที่ทำให้เกมนี้มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากเกมอื่นๆนั่นคือ ระหว่างการต่อสู้ เราสามารถแปลงร่างเป็นสัตว์ หรือ Beast Mode ของตัวละครจากมนุษย์ ไปสู่ร่างครึ่งคนครึ่งสัตว์ กลายเป็นจุดขายของเกม

นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงจากระบบอาเขต ด้วยการใส่ การนำระบบ Rave และ Cancel Animation มาใช้ จนเมื่อมาถึงภาคสุดฮิตอย่างภาคสองที่คราวนี้ผู้สร้างได้เพิ่มความยากและความตื่นเต้น ด้วยการนำ ระบบ Beast Drive ใส่เข้าไปเหมือนท่าไม้ตาย ทำระบบ Heavy Guard เอาไว้ให้กดเพื่อป้องกันท่า Guard Break มีการใส่ Beast Meter เพื่อทำให้การแปลงร่างมีระยะเวลา แทนที่ระบบอย่าง Rave ในภาคแรก

พอมาถึงภาคที่ 3 คราวนี้มีการปรับปรุงระบบ เพื่อให้เข้าถึงผู้เล่นด้วยสโลแกนว่า เล่นง่ายแต่ยากที่จะเก่ง และยังมีการปรับปรุงระบบ Beast Mode จะใช้ได้เร็วเมื่อค่าพลังเรามีน้อย รวมถึง ปรุงระบบป้องกันให้เป็นการ “หลบ” แทนที่จะเป็น Heavy Guard เรียกว่าพร้อมสวนกลับได้ทุกนาที จนมาถึงภาค 4 ที่เป็นภาคสุดท้าย มีการปรับปรุงระบบการเล่นครั้งใหญ่ ด้วยการปรับ Beast Gauge ให้กลายเป็นพลังชีวิตเพิ่ม

ความทรงจำและก้าวต่อไป

Bloody Roar ถือเป็นหนึ่งในเกมแนวต่อสู้ที่ได้รับความนิยม แม้จะไม่ได้โด่งดังเหมือนเกมต่อสู้อื่นๆ แต่มันก็กลายเป็นเกมต่อสู้ที่น่าจดจำ ซึ่งในบ้านเรานั้นเรียกว่าฮิตมากโดยเฉพาะภาค 2 ที่หลายคนเคยได้เล่นและสัมผัสมาแล้ว

ซึ่งหลังจบภาค 4 เราก็ไม่ได้เห็นเกมชุดนี้อีกเลย เพราะว่า เกมชุดนี้ ทาง Konami ได้ถือสิทธิ์ครอบครอง ซึ่งก็ทำให้มีข่าวหลายครั้งว่าทางค่ายจะนำมาปลุกชีพอีกครั้ง แต่จนแล้วจนรอดก็ยังเป็นเพียงความหวังที่แฟนๆต่างต้องรอกันต่อไป

ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของเกมศึกเทพสัตว์สมิง Bloody Roar ที่นำมาฝากกัน หากมีตกหล่นหรือผิดพลาดต้องขอ อภัยมา ณ ที่นี้ ด้วยครับ แล้วทุกคนมีความทรงจำดีๆเกี่ยวกับเกมนี้ก็สามารถแชร์เล่าสู่กันฟังได้ครับ

@P.PETTY

ข้อมูลอ้างอิง
https://en.wikipedia.org/wiki/Bloody_Roar_(video_game)
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=5675936265836502&id=321677037929145&set=a.651886924908153
https://waterfieldtower.com/archives/3582
https://www.blockdit.com/posts/6027bcb248cea80bb70d9ebb
https://www.online-station.net/pc-console-game/236710/
https://www.youtube.com/watch?v=hpt7t6cve6c