Bishojo Senshi Sailor Moon [เรื่องย่อ/ตัวละคร/ทุกภาค]

 

Bishojo Senshi Sailor Moon
(美少女戦士 セーラームーン)

ประเภท : Action / Romance
จำนวนตอนฉายอยู่ที่ : 200 ตอน
สถานะ : ออกอากาศจบไปนานเป็นชาติแล้ว! (แต่กำลังจะมีการรีเมคใหม่ฉายในปี2014)
ออกอากาศครั้งแรก : ออกฉายฉายที่ญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 1992
ระยะเวลาในการฉาย : 20-25 นาที ต่อสัปดาห์

 

หากย้อนไป20กว่าปีก่อน นี่คือ อนิเมเรื่องที่มีดีกรีความดัง เทียบชั้น “ดราก้อนบอล”ที่เด็กผู้ชายไทยต้องดูในยุคนั้น กับ”อนิเมสาวนักสู้เกิร์ลกรุ๊ป” ที่ชื่อว่า…

“เซเลอร์มูน”

(กรุณาเปิดเพลงนี้ประกอบเพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่านบทความ)
Op 1 Moonlight Densetsu

 

 

ทางเว็บได้เพิ่มเติมเนื้อหา และเรียบเรียงข้อมูลอย่างเป็นทางการของ เซเลอร์มูน จากวิกิครับ

 

เซเลอร์มูน (อังกฤษ: Sailor Moon) (ญี่ปุ่น: 美少女戦士セーラームーン Bishojo Senshi Sailor Moon) เป็นชื่อของการ์ตูนญี่ปุ่นสำหรับเด็กผู้หญิง ผลงานของ นาโอโกะ ทาเคอุจิ (ภรรยาผู้วาด Hunter x Hunter) ซึ่งลงตีพิมพ์ในนิตยสารนาคาโยชิ ของสำนักพิมพ์โคดันฉะ ฉบับรวมเล่มมีความยาว 18 เล่มจบ อีกทั้งยังมีการ์ตูนที่แตกยอด ออกจากเรื่องนี้อีกมากมาย รวมทั้งนำเสนอในสื่อหลายประเภท เช่น อนิเมะ, ละครเวที, เกม
ออกฉายครั้งแรกที่ญี่ปุ่นในวันที่ 7 มีนาคม 1992 (พศ.2535) และออกอากาศตอนจบ ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 1997 (ปี พ.ศ. 2540 นับจากภาคเซเลอร์สตาร์) รวมทั้งหมด 200 ตอนพอดีเป๊ะ (ปัจจุบัน บ.ไรท์บิยอนด์ จัดจำหน่ายอยู่) และมีหนังโรงอีก 3 ภาค สำหรับอนิเมเรื่องนี้ ฉายในไทยครั้งแรกทางช่อง 9 ประมาณปี 2536 ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 9.00 และจะเป็นเวลานี้เสมอ เมื่อมีเซเลอร์มูนภาคใหม่มาฉาย ยกเว้นภาคเซเลอร์สตาร์ที่ฉายตอน 10.00 ครับ

 

 

เนื้อเรื่อง
เรื่องราวหลักๆ โดยรวมแล้ว จะเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบตัวร่างจุติของ “เจ้าหญิงผู้พิทักษ์อาณาจักรบนดวงจันทร์” และ การต่อสู้กับอำนาจชั่วร้ายจากมิติต่างๆ ของเหล่าผู้พิทักษ์ในชุดนักเรียนกะลาสี (ชุดนักเรียนมัธยม โรงเรียนรัฐบาลของญี่ปุ่น) ซึ่งเป็นการผสมผสานกันระหว่างเนื้อเรื่องที่เน้นหนักไปทางความรักที่โรแมนติก แบบการ์ตูนผู้หญิง กับ ฉากการต่อสู้กับเหล่าร้าย สไตล์หนังฮีโร่ จึงทำให้เซเลอร์มูนได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่เด็กผู้หญิง (ที่เด็กผู้ชายบางคนก็อยากดู)

 

โดย เซเลอร์มูน มีด้วยกันทั้งหมด 5 ภาค ถ้าให้เล่ายาวๆในแต่ละภาคแบบครบถ้วนทุกกระบวนความ คงจะยาวในระดับ “สามก๊ก”แน่ๆ จึงขออนุญาติเล่าสรุป เรื่องราวของอัศวินสาวเหล่านี้ โดยย่อสรุปจากบทความในเวปไซท์ sailormoon-thailand.blogspot.com ซึ่งละเอียดมากจริงๆ

 

 

 

Sailor Moon (1992 Ep. 1 – 46 ฉายในไทยครั้งแรกทางช่อง 9 ประมาณปี 2536)

 

 

เซเลอร์มูนภาคแรก ว่าด้วยเรื่องราวการต่อสู้เพื่อปกป้องโลกจากเงื้อมมือของอาณาจักร “ดาร์คคิงด้อม” ที่นำโดย“ควีนเมดาเลีย” กับสมุน (หนุ่มหล่อ) ทั้ง 4 ที่คืนชีพจากอำนาจสะกดของผลึกเงินมายานั่นเอง
เรื่องเริ่มขึ้นหลังจากอาณาจักรซิลเวอร์มิเลเนี่ยมแห่งดวงจันทร์…ถูกพวกดาร์คคิงด้อมทำลายจนพินาศ วิญญาณของเหล่าอัศวินเซเลอร์ จึงถูกส่งมาเกิดใหม่ยังโลกมนุษย์ในฐานะเด็กสาวธรรมดา จนกระทั่งวันเวลาผ่านไป นานจนคนเขียนก็ไม่รู้ได้

 

 

“สึคิโนะ อุซางิ” นักเรียนสาวชั้น ม.2 ที่แสนจะธรรมดาๆ ทั้งงุ่มง่าม เฟอะฟะ เรียนไม่ดี กีฬาก็ไม่ได้เรื่อง ที่วันหนึ่งอุซางิได้พบกับ “ลูนาร์” แมวดำประหลาดซึ่งมีรูปจันทร์เสี้ยวที่หน้าผาก ลูนาร์ได้มอบปากกาและเข็มกลัดวิเศษให้แก่อุซางิ ทำให้เธอสามารถแปลงร่างเป็นเซเลอร์มูน เข้าต่อสู้กับดาร์คคิงด้อม ที่กลับมาอาละวาดในยุคปัจจุบัน ลูนาร์ และ อาเทมิสแมวพูดได้จากดวงจันทร์ จึงปลดผนึกควมทรงจำเหล่าอัศวินเซเลอร์ให้กลับมาทำหน้าที่ของพวกเธออีกครั้ง
พวกเธอมีภารกิจต้องตามหา”เจ้าหญิงเซเรนิตี้” เจ้าหญิงแห่งดวงจันทร์ที่จุติมาบนโลก ที่เป็นกุญแจสำคัญของชัยชนะในครั้งนี้ กับ “ผลึกเงินมายา” ผลึกแห่งขุมพลังที่ ถ้าหากพวกดาร์คคิงด้อมได้ไป โลกก็จะถึงคราวพินาศ ดังเช่นอาณาจักรซิลเวอร์มิเลนเนียมประสปมาแล้ว…

 

 

และมี “หน้ากากทักซิโด้” (Tuxido Kamen)หนุ่มหล่อใต้หน้ากาก ผู้สวมชุดทักซิโด้สีดำ ที่มักจะออกมาช่วยเหล่าสาวๆเวลาพลาดท่า (พร้อมบทพูดแบบ “พระเอ๊กพระเอก… และดอกกุหลาบสีแดงปักลงพื้น”) จนมามีการเฉลยทีหลังว่าหน้ากากทักซิโด้ หรือ “จิบะ มาโมรุ” (คนดูไม่รู้เลยเนอะพ่อคุณ!!) ที่ในเวลาปกติ ก็จะทะเลาะกับอุซางิ “สไตล์พ่อแง่แม่งอน ละครหลังข่าว” ทุกครั้งที่เจอกัน
ความจริง เขาคือร่างจุติของ“เจ้าชายเอ็นดิเมียนแห่งอาณาจักรโลก”(โกลเด้น คิงด้อม)คนรักของเจ้าหญิงเซเรนิตี้ และเซเลอร์มูนก็คือเจ้าหญิงเซเรนิตี้ ที่ทุกคนกำลังตามหานั่นเอง
”เจ้าหญิงเซเรนิตี้เจ้าหญิงของอาณาจักรซิลเวอร์มิเลเนี่ยมแห่งดวงจันทร์” และ “เจ้าชายเอนดิเมียนของอาณาจักรโกลเด้นคิงด้อมแห่งโลก”
เหล่าวายร้ายสุดหล่อ ลูกสมุนของควีน เมดาเลีย (แอดมินเชื่อว่า สาวๆหลายคนไม่อยากเป็นศัตรูกับพวกนี้แน่ๆ)

 

ในศึกสุดท้าย ที่ตัดสินกันในมิติแห่งความมืดของพวก ดาร์คคิงด้อม ทำให้อัศวินเซเลอร์เสียชีวิตไปทีละคน…ทีละคน… รวมทั้งหน้ากากทักซิโด้ด้วย เซเลอร์มูน สามารถกำจัดควีนเมดาเลียลงได้สำเร็จ (ด้วยพลังของเจ้าหญิงเซเรนิตี้ ที่ตื่นขึ้นจากวิญญาณความผูกพันของอัศวินเซเลอร์ที่มีต่ออุซางิ) สุดท้ายแล้ว “ด้วยอำนาจแห่งผลึกเงินมายา” ก็ได้ชุบชีวิตเหล่าอัศวินซเลอร์ ให้กลับไปเป็นคนธรรมดาที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลยอีกครั้งหนึ่ง เหมือนกับตอนแรกของเรื่องนั่นเอง…(จบแบบ “มาสก์ไรเดอร์ ริวคิ”เป๊ะ!!)

 

 

 

Sailor Moon R (1993 ep.47- 88ฉายในไทยครั้งแรกทางช่อง 9 ประมาณปี2538)

 

เซเลอร์มูนภาค R จะเล่าถึงชีวิตอันแสนสงบของพวกอุซางิ ที่ไม่มีความทรงจำตอนเป็นอัศวินเซเลอร์แล้ว

 

 

แต่ทว่า อยู่มาวันหนึ่ง มีปีศาจลักษณะเหมือน “พืช”ออกมาดูดพลังชีวิตของผู้คน ลูนาร์และอาเทมิส…จึงจำใจต้องปลดผนึก คืนความทรงจำของเหล่าอัศวินเซเลอร์ทั้ง 5 อีกครั้ง แต่ศัตรูคราวนี้แข็งแกร่งเกินกว่าที่พลังของเซเลอร์มูนจะทำลายได้ ควีนเซเลนิตี้จึงมอบผลึกเงินมายาไว้ให้ POWER UP (ครั้งที่ 1) โดยในการต่อสู้กับ “เอล”และ “แอน”สองหนุ่มสาวจากอวกาศที่ถือกำเนิดมาจากต้นไม้แห่งโลกปีศาจ ผู้ไม่รู้จักความรักที่แท้จริง แต่สุดท้ายก็ถูกกำจัดลงด้วยพลังใหม่ดังกล่าวของเหล่าอัศวินเซเลอร์นั่นแหละครับ

 

พวกเซเลอร์มูนมักได้รับความช่วยเหลือจาก “อัศวินเงาพระจันทร์” ในยามเพลี่ยงพล้ำ (ที่มาในท่าทีที่เยือกเย็น และ ลึกลับ พร้อมมีดดาบทรงอาหรับ) ซึ่งที่แท้จริงแล้วเขาก็คือ “จิตใต้สำนึกของ จิบะ มาโมรุ” ที่ต้องการปกป้องอุซางิ คนรักของเขาในช่วงที่ความทรงจำของมาโมรุยังไม่กลับมา เขามักจะมีอาการปวดหัวรุนแรงอยู่เสมอๆ หลังจากที่ไปช่วยเหล่าอัศวินเซเลอร์ทุกครั้ง
วายร้ายตัวจริงของภาคนี้ “เผ่าจันทราสีดำแบล็คมูน” ที่อิมพอร์ทมาจากอนาคต

 

 

แต่ศัตรูที่แท้จริงของเหล่าอัศวินเซเลอร์ในภาคนี้ คือ “เผ่าพระจันทร์เสี้ยวสีดำแบล็คมูน” พวกมันมาจากดาวเคราะห์ดวงที่ 10 เนเมซิส ที่ย้อนเวลามาปรากฏตัวขึ้น(พวกนี้มาจากศตวรรษที่30) พวกมันมาเพื่อทำลายโลกในยุคศตวรรษที่ 20 ซึ่งการกระทำนี้จะส่งผลไปยังอนาคตที่ “เนโอควีนเซเลนิตี้” (เซเลอร์มูนในอนาคต) ปกครองอยู่ โดยใช้อำนาจของผลึกนิล และ “อุซางิน้อย” …เป็นเครื่องมือ ซึ่งแผนการทั้งหมดเป็นฝีมือของไวซ์แมนหรือเดธแฟนท่อม…ที่ต้องการทำให้โลก กลายเป็นโลกแห่งความมืด…ด้วยจิตใจอันเคียดแค้นของตน
อุซางิน้อย เด็กผู้หญิงที่เดินทางมาจากอนาคต และเป็นลูกสาวของ อุซางิ กับ มาโมรุ

 

 

“อุซางิน้อย” (หรือ“จิบิอุสะ”) ลูกสาวที่น้อยใจในตัวอุซางิ และ มาโมรุที่เป็นพ่อและแม่ในอนาคต เธอจึงหนีด้วยการย้อนกาลเวลามาขอความช่วยเหลือจากเซเลอร์มูน(อุซางิน้อยไม่รู้ว่าอุซางิเป็นแม่ตัวเองในอนาคต จึงทะเลาะกันบ่อยมาก) สิ่งที่เพิ่มเข้ามาในภาคนี้ก็คือ อัศวินเซเลอร์ ที่เพิ่มสมาชิก (แบบไม่เป็นทางการ) นับรวมๆแล้วได้ 9 คน แถมยังได้รับการอัพเกรดท่าไว้สู้กับพวกแบล็คมูน

 

 

 

Sailor Moon S (1994 ep.89-127ฉายในไทยครั้งแรกทางช่อง 9 ประมาณปี2539)
เซเลอร์มูนภาค S ภาคนี้ว่าด้วยเรื่องการตามหา“เครื่องรางทาริสแมน” เครื่องรางจากมนุษย์ผู้มีดวงใจบริสุทธิ์ ที่มีทั้งหมด 3 ชิ้น เมื่อครบแล้ว มันจะนำไปหาที่ซ่อน“จอกศักดิ์สิทธิ์”…จอกที่มีพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ และเป็นที่ต้องการของอาณาจักร “เดธบัสเตอร์”…ศัตรูจากระบบสุริยะทาโอ ที่ต้องการนำพลังของจอกไปเสริมอำนาจมืดให้แก่“ผู้ช่วยโลกแห่งความมืด” เพื่อเปลี่ยนโลกให้เป็นดาวของพวกมัน ร้อนถึงเหล่าอัศวินเซเลอร์ ที่ต้องหาเครื่องรางดังกล่าวให้ครบก่อนพวกเดธบัสเตอร์จะเป็นฝ่ายเจอเสียก่อน

 

 

ร่ายมายาวจนใกล้จะจบภาค หากันแทบตาย สุดท้าย เครื่องรางทาริสแมนที่ว่า “อยู่ภายในจิตใจของเซเลอร์ยูเรนัส และเซเลอร์เนปจูน” (ใกล้แค่นี้เอง) ส่วนชิ้นสุดท้าย เป็นคริสตัลที่อยู่บนปลายยอด “ง้าวแห่งการทำลาย” ของเซเลอร์แซทเทิร์นนั่นเอง…
ด้วยพลังของจอกศักดิ์สิทธิ์ ทำให้ “เซเลอร์มูน” กลายเป็น “ซุปเปอร์เซเลอร์มูน” แต่ภาระกิจของพวกเธอก็ใช่ว่าจะหมดเพียงเท่านี้ หากแต่ว่าพวกเธอยังคอยยับยั้งการตื่นของอัศวินดาวเสาร์แห่งการทำลาย “เซเลอร์แซทเทิร์น” ผู้มีพลังถึงขั้น “ทำลายโลกได้ทั้งใบ” อีกด้วย
ท้ายสุดหลังจากเซเลอร์แซทเทิร์นได้สละชีวิตตนเข้าไปทำลายผู้ช่วยโลกแห่งความมืดจากข้างในตัวมัน และเธอก็กลับไปเกิดเป็นทารกอีกครั้ง ซึ่งยูเรนัสกับเนปจูนเป็นคนเอาไปเลี้ยงดู(เป็นพ่อกะแม่เด็ก?) แล้วพวกเธอทั้งสอง ก็แยกไปใช้ชีวิตของพวกเธอ(ในแบบสามีภรรยา??)

 

 

 

Sailor Moon SS (อ่านว่า SUPER S) (1995 ep.128 – 166ฉายในไทยครั้งแรกทางช่อง 9 ประมาณปี2541)
เซเลอร์มูนภาค SS ภาคนี้ เรื่องราวเริ่มที่วายร้ายกลุ่มใหม่มาปรากฎตัวใจกลางเมือง ฐานะคณะละครสัตว์ แต่ที่จริงแล้วพวกมันมาจากโลกด้านมืดของดาวบริวารดวงใหม่…ดวงจันทร์แห่งความตาย… “เดธมูน”…นั่นเอง

พวกมันมีเป้าหมายจะกำจัดแสงสว่าง และนำความมืดมิดมาสู่โลก ซึ่งทั้งหมดเป็นความต้องการของ “ราชินีเนเลเนีย” …ราชินีแห่งพระจันทร์เสี้ยว…ผู้ถูกกักขังอยู่ในความมืดด้านหลังกระจก ซึ่งการกระทำดังกล่าวให้บรรลุเป้าหมายได้นั้น พวกมันก็ต้องมี “โกลเด้นคริสตัล” จากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ “เอริเชียน” ดินแดนที่อยู่ได้ด้วยความฝันอันงดงามของผู้คนบนโลกมาครอบครองให้ได้
เพื่อเป็นการปกป้องโกลเด้นคริสตัล… “เอริออส” ผู้ดูแลความฝันของทุกคนบนโลก…ได้นำโกลเด้นคริสตัลไปซ่อนอยู่ในโลกความฝันอันงดงาม และนั่นก็เป็นสาเหตุให้เอริออสในร่าง

 

 

“ม้าเปกาซัส”…ได้พบกับอุซางิน้อยเข้า เรื่องราวรักครั้งแรกของอุซางิน้อย ก็ได้เริ่มขึ้น…
“เอริออส” ผู้ดูแลความฝัน ที่กลายร่างเป็นม้าเปกาซัส…
ภาคนี้คนที่ซวยที่สุดก็คงเป็นมาโมรุ เพราะมาโมรุเป็น “ตัวแทนของโลก” (อาณาจักรโกลเด้นคิงด้อม) จึงโดนคำสาปของราชินีเนเลเนียที่สาปดินแดนศักดิ์สิทธิ์เอริเชียน …ซึ่งเคยเป็นของมาโมรุมาก่อนเข้าไปเต็มๆเลย

 

 

ภาคนี้เซเลอร์มูน Power up เป็น SUPER SAILORMOON ได้ โดยไม่พึ่งพลังของจอกศักดิ์สิทธิ์อีกต่อไปแล้ว ส่วนอัศวินเซเลอร์ทั้ง 4 รวมทั้งอุซางิน้อย…ก็พลอยได้รับอานิสงฆ์ “อัพเกรดร่างเป็นขั้น Super” ตามไปด้วย

 

 

Sailor Moon Sailor stars (1996 ep.167 – 200ฉายในไทยครั้งแรกทางช่อง 9 ประมาณปี2543)

 เซเลอร์มูนภาค เซเลอร์สตาร์ หลังจากถูกกำจัดไปแล้วในภาคSS “ราชินีเนเลเนียแห่งเดธมูน”…ได้กลับมาจากความมืดอีกครั้ง…โดยการชักนำจากเสียงลึกลับจากฟากฟ้า…ด้วยพลังที่ร้ายกาจกว่าเดิม และด้วยการรวมพลังจากระบบสุริยะรอบนอกทั้ง 4 (ยูเรนัส เนปจูน พลูโต และแซเทิร์น) ก็กลับมารวมกับพวกเซเลอร์มูนอีกครั้ง

 

 

ด้วยการรวมพลังของทุกคนก็ช่วยให้เซเลอร์มูนเปลี่ยนร่างเป็น “อีเทอร์นอลเซเลอร์มูน” (ร่างสุดยอดมีปีกอยู่ข้างหลัง)ได้ในที่สุด และศึกชิงตัวมาโมรุที่ถูกดึงเข้าไปอยู่ในกระจกคืนมาจึงเริ่มขึ้น (ไม่อย่างนั้นอุซางิน้อยจะต้องหายตัวไป..เพราะอนาคตจะเกิดการเปลี่ยนเแปลง) หลังจัดการกับราชินีเนเลเนียได้ การต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ครั้งสุดท้ายจึงได้เริ่มขึ้น
เหล่าร้ายของภาคสุดท้าย… เป็นเหล่าอัศวินเซเลอร์ที่แยกร่างมาจากกาแล็กเซีย…

 

เมื่ออัศวินเซเลอร์ในตำนาน “กาแลคเซีย” ปรากฏตัว เธอต้องการจะครอบครองจักรวาลและกาแลคซี่ทั้งหมด…เธอจึงทำลายดวงดาวต่างๆ เพื่อรวบรวม“สตาร์ซีด”ไว้ ขาดมีอยู่เพียง“สตาร์ซีดที่แท้จริง”อีกอันเดียว (กาแลคเซียนี่แหละที่เป็นเจ้าของเสียงลึกลับชักนำให้เนเลเนียกลับมาอาละวาดอีก และยังปลุกให้พลังของเซเลอร์แซทเทิร์นตื่นขึ้นด้วย)

 

 

แต่ทั้งหมดนี่ก็ใช่ว่าความต้องการของเธอเองไม่…แต่เป็นเพราะเธอถูก คาออส วิญญาณชั่วร้ายที่เธอสะกดไว้ในร่างครอบงำอยู่นั่นเอง การต่อสู้ครั้งนี้เหล่าอัศวินเซเลอร์แห่งระบบสุริยะต้องสูญเสียสตาร์ซีดของ ตนไป รวมทั้งมาโมรุแห่งโลกด้วย และผู้ที่เหลืออยู่ร่วมต่อสู้กับเซเลอร์มูนคือพวก“เซเลอร์สตาร์ไลท์”ทั้ง 3 จากดาวเคราะห์รอบนอก แล้วก็“จิบิจิบิ”ประกายแสงแห่งความหวังที่กาแลคเซียปล่อยออกมาจากร่าง หลังจากรู้ตัวว่าสะกดคาออสไม่ไหวแล้ว ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยทุกคนเอาไว้
คาออสถูกทำลาย กาแลคเซียถูกปลดปล่อย โลกก็กลับมาสงบสุขอีกครั้ง ทุกคนก็กลับมาใช้ชีวิตวัยรุ่นตามปกติ…อุซางิ กับ มาโมรุ ก็ทำสัญญารักใต้แสงจันทร์ ว่าจะรักกันตลอดไป…

 

จบทั้ง 5 ภาค …

 

 

ตัวละครหลัก

 

สึกิโนะ อุซางิ
ปรากฏตัวตั้งแต่ตอนที่ : 1
อายุ : 14 ปี (ภาคแรก, R) / 15 ปี (ภาค S, SuperS) / 16 ปี (ภาค Salior Stars)
ตัวเอกของเรื่อง กับทรงผมลูกซาลาเปาคู่บนศีรษะ ปกติแล้วอุซางิจะเป็นเด็กซุ่มซ่าม ขี้แย ผลการเรียนไม่เอาไหน กีฬาก็ไม่ได้เรื่อง แต่เธอก็เป็นคนร่าเริงแจ่มใส จริงใจ และรักเพื่อนมากๆ ซึ่งจริงๆแล้วในอดีตชาติ อุซางิคือเจ้าหญิงเซเลนิตี้ แห่งอาณาจักรซิลเวอร์มิเลนเนียมที่อยู่บนดวงจันทร์ ส่วนในอนาคต เธอได้กลายเป็นนีโอควีนเซเลนิตี้ หรือแม่ของอุซางิน้อยนั่นเอง
โดยตัวเซเลอร์มูน จะเป็นอัศวินตัวแทนแห่งดวงจันทร์ผู้พิทักษ์ความรักและความยุติธรรม และปกปักษ์รักษา “ผลึกเงินมายา” สีประจำตัวคือ สีเงิน ในเวลาต่อสู้ เซเลอร์มูน มักจะกลัวศัตรูและเอาแต่หนีอยู่เสมอ แต่เธอก็มีคทาวิเศษเป็นอาวุธสำคัญที่สามารถกำราบศัตรูได้แทบทุกชนิด แถมยังสามารถปลดรัดเกล้าที่หน้าผากออกมาใช้เป็นอาวุธได้ โดยมีชื่อท่าว่า “มูน เทียร่า แอคชั่น” ส่วนที่ประดับผมก็สามารถปล่อยคลื่นเสียงความถี่สูงได้ด้วย

 

คำพูดติดปากที่เซเลอร์มูนมักจะพูดกับศัตรู และท่าสุดคลาสสิคเสมอก็คือ “ฉันคือนักสู้สาวน้อยน่ารักผู้พิทักษ์ความรักและยุติธรรม เซเลอร์มูน”
***เกร็ดเล็กน้อย ชื่อของ “ซึกิโนะ อุซางิ” นั้นผู้แต่งตั้งใจเล่นคำว่า “ซึกิ” ที่แปลว่าดวงจันทร์ และ “อุซางิ” ที่แปลว่า กระต่าย เอามารวมๆกันก็คือ “กระต่ายบนดวงจันทร์” นั่นเอง***

 

 

จิบะ มาโมรุ

หรือ หน้ากากทักซิโด หรือ เจ้าชายเอ็นดิเมียน
แฟนหนุ่มของอุซางิ และยังเป็น “เอ็นดิเมียน” เจ้าชายแห่งโลกมนุษย์ที่กลับชาติมาเกิดใหม่ เขาแปลงร่างเป็น หน้ากากทักซิโด เพื่อช่วยเหล่านักรบสาวต่อสู้กับเหล่าร้าย
ในภาค R ส่วนของความทรงจำของเขาครึ่งหนึ่งได้แบ่งภาคออกมาเป็น “อัศวินเงาพระจันทร์” ซึ่ง ตอนหลังก็ได้รวมกับมาโมรุ และได้ความทรงจำกลับมาเหมือนเดิม

 

 

ฮิโนะ เร
ปรากฏตัวตั้งแต่ตอนที่ : 10

อายุ : 14 ปี (ภาคแรก, R) / 15 ปี (ภาค S, SuperS) / 16 ปี (ภาค เซเลอร์สตาร์)
สาวน้อยผู้แปลงร่างเป็น เซเลอร์มาร์ส เรเป็นเด็กสาว ผมยาวสีดำขลับ ปัจจุบันเรียนอยู่ที่โรงเรียนสตรีเอกชน T.A แม่ของเรเสียชีวิตไปตั้งแต่ตอนเธอยังเด็ก ส่วนพ่อเป็นนักการเมืองท้องถิ่น มักจะเอาแต่ทำงาน ไม่เคยมีเวลาให้กับลูกสาวเรจึงมีภาพลักษณ์ของ “ลูกคุณหนู”อยู่บ้าง (และภาพลักษณ์ที่ว่า ก็พังทลายลงตั้งแต่เจอกับอุซางินั่นเอง กรั่กๆๆ)
เร อาศัยอยู่กับปู่ ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสของศาลเจ้าฮิคาวะ (ซึ่งจริงๆแล้ว ได้ต้นแบบมาจาก ศาลเจ้าฮิคาวะ ที่มีอยู่จริงในเมืองอาซาบุจูบัง ของญี่ปุ่น) โดยที่เรจะทำหน้าที่เป็นมิโกะ (คนทรงเจ้า) คนหนึ่งของศาลเจ้า มีสัตว์เลี้ยงเป็นอีกา 2 ตัว ชื่อโฟบอส กับ ดีมอส (นำชื่อมาจากดาวบริวารของดาวอังคาร) ในบรรดาอัศวินเซเลอร์ เรเป็นคนที่ห่วงใยและเข้าใจในตัว อุซางิ มากที่สุด แม้ปกติแล้วจะปากร้ายและชอบหาเรื่องทะเลาะกันเป็นประจำก็ตาม

 

ในบรรดาอัศวินเซเลอร์ เรก็เป็นคนที่ถูกเปลี่ยนบุคลิกไปจากต้นฉบับเดิม (หนังสือการ์ตูน) มากที่สุด เพราะในต้นฉบับเดิม เรจะเป็นคนที่ดูเคร่งเครียดมากๆ แถมดูเก็บกด ไม่ค่อยพูดมาก ไม่ชอบดูรายการทีวี เกลียดผู้ชาย แต่ในฉบับอนิเม เร กลับกลายเป็นคนสนุกสนาน ร่าเริง ติงต๊องพอๆกับอุซางิ ชอบดูการ์ตูน และในช่วงครึ่งแรกของอนิเมภาคแรก เธอก็แสดงความรู้สึกชอบ มาโมรุ อย่างออกนอกหน้า ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ตัวผู้เขียนอย่าง นาโอโกะ ทาเคอุจิ รู้สึกไม่พอใจทางทีมงานผู้สร้างฉบับอะนิเมะอยู่เหมือนกัน แต่หลังจากภาค SuperS เป็นต้นมา นิสัยของเร จึงเริ่มนิ่งขึ้น และเคร่งขรึมมาบ้าง เพื่อให้ใกล้เคียงกับต้นฉบับ

 

เซเลอร์มาร์สอัศวินผู้ร้อนแรง ตัวแทนแห่งดาวอังคาร ใช้พลังแห่งไฟ โจมตีศัตรู สีประจำตัวคือ สีแดง ในเวลาต่อสู้สามารถใช้ยันต์สะกดให้ศัตรูหยุดเคลื่อนไหวได้

 

 

มิสึโนะ อามิ

ปรากฏตัวตั้งแต่ตอนที่ : 8

อายุ : 14 ปี (ภาคแรก, R) / 15 ปี (ภาค S, SuperS) / 16 ปี (ภาค เซเลอร์สตาร์)
สาวน้อยผู้แปลงร่างเป็น เซเลอร์เมอร์คิวรี่ อามิเรียนอยู่ที่โรงเรียนจูบัง เหมือนกับอุซางิ เธอมีไอคิวถึง 300 จนถูกขนานนามว่าเป็น “สาวน้อยอัจฉริยะ” แต่อามิไม่ค่อยจะมีเพื่อนเท่าไหร่นัก เพราะนักเรียนหลายๆ คนต่างมองเธอเป็นศัตรูคู่แข่งทางการเรียน แถมพ่อแม่ของเธอก็แยกทางกัน แม้ปัจจุบัน อามิจะอาศัยอยู่กับแม่ แต่แม่ของเธอซึ่งเป็นหมอ ก็มักจะติดงานจนไม่ค่อยได้กลับบ้านเท่าไหร่ อามิจึงต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยวมาตลอด แต่เมื่อได้พบกับอุซางิ และเพื่อนๆ เซเลอร์คนอื่น เธอก็เริ่มร่าเริง มีชีวิตชีวา และเปิดใจให้กับผู้อื่นมากขึ้น แถมมีจุดอ่อนน่ารักๆอย่างการไม่ชอบจดหมายรัก เมื่อใดที่สัมผัสจดหมายรัก ผื่นจะขึ้นทันที

 

ในบรรดาอัศวินเซเลอร์ประจำดาวเคราะห์วงในทั้ง 5 คน อามิเป็นคนที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เธอได้รับการโหวตเป็น “ตัวละครหญิงยอดนิยมอันดับ 1” ในการประกาศผลรางวัล “อนิเมกรังปรีซ์ ครั้งที่ 15” (ลงตีพิมพ์ในนิตยสารอนิเมจ ฉบับประจำเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1993) ซึ่งคะแนนโหวตของเธอ ทิ้งห่างตัวละครตัวอื่นและเพื่อนร่วมทีมเซเลอร์คนอื่นๆ อย่างขาดลอย

 

เซเลอร์เมอร์คิวรี่ เป็นอัศวินผู้รอบรู้ ตัวแทนแห่งดาวพุธ ใช้พลัง น้ำ โจมตีศัตรู สีประจำตัวคือ สีฟ้า อุปกรณ์สำคัญของเซเลอร์เมอร์คิวรี่ คือ “คอมพิวเตอร์เครื่องเล็ก” ขนาดประมาณเครื่องคิดเลข และ “แว่นแบบพิเศษ” ที่คอยวิเคราะห์ข้อมูล (ที่ทำหน้าที่คล้ายๆ“สเคาท์เตอร์ ของเบจิต้า”)ที่จะปรากฏออกมาเมื่อสัมผัสต่างหูครับ

 

 

คิโนะ มาโกโตะ

ปรากฏตัวตั้งแต่ตอนที่ : 25 (อะนิเมะภาคแรก)
อายุ : 14 ปี (ภาคแรก, R) / 15 ปี (ภาค S, SuperS) / 16 ปี (ภาค เซเลอร์สตาร์)

สาวน้อยผู้แปลงร่างเป็นเซเลอร์จูปิเตอร์ ย้ายมาเรียนที่โรงเรียนเดียวกับอุซางิและอามิตอนกลางเทอม ม.2 เป็นคนตัวสูง นิสัยออกห้าวๆ และแข็งแกร่ง มาโกโตะก็เป็นคนอ่อนโยนและเสียสละได้ทุกอย่าง เธอมักพูดถึงรุ่นพี่ที่เธอเคยหลงรักและโดนหักอกอยู่บ่อยๆ และบอกว่าสักวันจะเป็นผู้หญิงเท่ๆแบบฮารุกะ (เซเลอร์ยูเรนัส) ให้ได้!!

 

เพราะอยู่ตัวคนเดียว มาโกโตะจึงทำอาหารเก่ง เป็นงานบ้านงานเรือนแทบทุกอย่าง และรักการปลูกต้นไม้เป็นชีวิตจิตใจ ทำให้อพาร์ตเมต์ที่เธออยู่เต็มไปด้วยไม้ดอกไม้ประดับแปลกๆ(คงไม่มีดอกไม้กินคนแบบในเกมมาริโอ้หรอกนะ!!) นอกจากนี้ ตั้งแต่เธอเข้ามาอยู่ในชมรมพฤกษศาสตร์ของโรงเรียน ก็ช่วยทำให้ชมรมนี้มีต้นไม้พันธุ์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ

 

เซเลอร์จูปิเตอร์ เป็นอัศวินผู้กล้าแกร่ง ตัวแทนแห่งดาวพฤหัส ใช้พลัง สายฟ้า โจมตีศัตรู สีประจำตัวคือ สีเขียว และสีกุหลาบ
**เกร็ดเล็กน้อย นอกจากมาโกโตะ จะมีส่วนสูงที่สูงที่สุดในกลุ่มแล้ว ยังพ่วงตำแหน่ง “ขนาดหน้าอกใหญ่ที่สุดในกลุ่ม” ด้วย ส่วนใครจะเป็นรองต่อจากมาโกโตะนั้น “ยังเป็นเรื่องที่สาวๆของเราต้องถกเถียงกันต่อไป” ครับ**

 

 

ไอโนะ มินาโกะ
อายุ : 13 (เซเลอร์-V),14 (ภาคแรก), 15 (ภาคS-SuperS), 16 (เซเลอร์สตาร์)
ดูรวมๆมินาโกะจะคล้ายๆอุซางิทุกๆเรื่องทั้งด้านการเรียน พฤติกรรม แต่เรื่องเดียวที่ไม่เหมือนคือ เธออยากเป็นนักร้อง และ เธอก็เป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลของโรงเรียนมัธยมจูบังด้วย มีคุณแม่ที่จู้จี้เรื่องการเรียนกับนิสัยคล้ายกับอิคุโกะ คุณแม่ของอุซางิ

 

เซเลอร์วีนัส เป็นอัศวินเซเลอร์แห่งดาวศุกร์ ผู้เป็นหัวหน้าองครักษ์ของเจ้าหญิงเซเลนิตี้ เป็นที่กล่าวขานกันว่า “สามารถเป็นตัวตายตัวแทนของเจ้าหญิงเซเลนิตี้” เนื่องจากมีใบหน้าที่งดงามและใกล้เคียงกับเจ้าหญิงเซเลนิตี้ จึงทำให้วีนัสต้องรับหน้าที่แทนเจ้าหญิงเซเลนิตี้ในบางเรื่อง โดยเฉพาะยามที่เจ้าหญิงเซเลนิตี้แอบนัดเจอกับเจ้าชายเอ็นดิเมี่ยน

 

วีนัส ถือว่าเป็นอัศวินเซเลอร์ที่ยึดมั่นในหน้าที่คนหนึ่ง โดยเฉพาะหน้าที่ในฐานะหัวหน้าองครักษ์ แต่ความยึดมั่นในหน้าที่นั้น วีนัสในอดีตชาติมีความยึดมั่นและมุ่งมั่นมากกว่าปัจจุบัน นอกจากนั้น เธอมีแมวสีขาวที่ชื่อ “อาร์เตมิส” เป็นคู่หู และเป็นอัศวินเซเลอร์ที่สวยที่สุดอีกด้วย
สีชุดของวีนัส คือ สีส้ม โดยสีส้มของชุดนั้นแทนสีทองในความหมายของคำว่าดาวศุกร์ ถนัดการโจมตีโดยใช้โซ่และลำแสง เป็นหลัก

 

 

อัศวินเซเลอร์ ประจำดาวเคราะห์วงนอก

 

เทนโอ ฮารุกะ

เธอเป็นนักเรียนในโรงเรียนแห่งกาลเวลา และเป็นแฟนของ มิจิรุ (เจ้าตัวว่างั้นอะนะ -*-) ชอบการแข่งรถเป็นชีวิตจิตใจ แถมเป็นนักแข่งรถ F1 ซะด้วย แต่เกลียดผู้ชายเอามากๆ มีรสนิยมเป็นประเภท “ชอบผู้หญิง”น่ารักๆ โดยที่ฮารุกะจะแสดงตนเองเป็นหนุ่มเพลย์บอย เสมอๆ
แต่เมื่อแปลงร่างเป็นเซเลอร์ยูเรนัส ฮารุกะจะใช้พลังธาตุปฐพี เป็นพลังหลักในการโจมตี คือท่า พลังพสุธากัมปนาถ (World Shaking) และมีเครื่องรางทาลิสแมน Space Sword เป็นอาวุธ

 

ไคโอ มิจิรุ

เธอเป็นนักเรียนในโรงเรียนแห่งกาลเวลา และเป็นแสดงตัวเป็นคนรักของ ฮารุกะ (นี่ก็เล่นไปตามน้ำเลยซะงั้น!?) เป็นนักไวโอลินฝีมือฉกาจ และนักว่ายน้ำชั้นเยี่ยม(เก่งกว่าอามิด้วยซ้ำ) มีนิสัยที่คอนข้างจะติดหรู ไฮโซ ใช้ของแบรนด์เนมเป็นบางครั้ง
เมื่อแปลงร่างเป็นเซเลอร์เนปจูน มิจิรุจะใช้พลังแห่งมหาสมุทร ซึ่งตรงกันข้ามกับยูเรนัสโดยสิ้นเชิง คือท่า พลังคลื่นใต้ทะเลลึก (Deep Submerge) เป็นพลังหลักในการโจมตี และมีเครื่องรางทาลิสแมน Deep Aqua Mirror

 

 

เมโอ เซตสึนะ

อัศวินเซเลอร์แห่งกาลเวลา สาวผิวสีสุดเซ็กซี่รายนี้ คือผู้ถือ “กุญแจไขอวกาศและกาลเวลา” เธอใช้กุญแจของเธอเป็นอาวุธประจำตัว และปกป้องประตูสู่นรกที่สุดขอบกาลเวลา(โคตรนามธรรมสุดๆ) และ ได้รับหน้าที่มาปกป้องดูแลอุซางิน้อย (เซเลอร์มูนน้อย) ในภาคเอส
มีท่าไม้ตายชื่อว่า พลังเสียงมฤตยู (Death Scream) โดยอาวุธที่ถืออยู่ตลอดเวลาคือ คทาการ์เน็ต รูปทรงกุญแจ ด้านบนของคทามีเครื่องรางทาลิสแมนชื่อว่า Garnet Orb

 

 

โทโมเอะ โฮตารุ

เธอคือหนึ่งในอัศวินเซเลอร์ระบบสุริยะรอบนอกที่แอดมินถือว่า เป็นตัวละคร ที่ “ตายซ้ำตายซาก” ตายบ่อยสุดในเรื่อง แล้วก็เกิดใหม่ได้เรื่อยๆ(ยังกะ โทมิเอะ นางเอกการ์ตูนผีใน “คลังสยองขวัญฯ” ของจุนจิ อิโต้) การตายของโฮตารุ มีขึ้นเพื่อให้สงครามยุติลง แต่เมื่อเกิดลางร้ายถึงหายนะโลก เธอก็จะกลับเกิดใหม่ในฐานะของโฮตารุที่เป็นเด็กทารก

 

ที่สยองไปกว่านั้นคือ “เธอสามารถฟื้นความทรงจำในฐานะเซเลอร์แซทเทิร์นได้ในระยะเวลาสั้นๆ” และ “มีพลังพิเศษที่สามารถปลุกพลังให้กับนักรบเซเลอร์นอกระบบสุริยะจักรวาลได้”

 

โฮตารุเคยเป็นตัวร้ายในภาคS เพราะพ่อเธอถูกปีศาจของกลุ่มเดธบัสเตอร์สิง เมื่อเธอยังเด็ก ร่างร้ายของเธอคือ มิสเทรส 9 ในภาคสตาร์ เธอจะมีโอกาสได้ร่วมกลุ่มกับเซเลอร์มูนหลังถูกพลังของกาแล็คซี่ทำให้โตขึ้น จนมีอายุ 10 ขวบ (ในภาคเอสอายุ 13ขวบ และก็ตายไป) อาวุธซึ่งน่าเกรงขามของเธอคือ “ง้าวแห่งความเงียบงัน” เป็นโคตรอาวุธที่ร้ายกาจที่สุดในเรื่อง

 

 

กลุ่มเซเลอร์สตาร์ไลท์

แสงสว่างที่แทรกผ่านความมืดมิดยามค่ำคืน พุ่งผ่านรัตติกาลอย่างอิสระ ดาวตกอันศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 3 …

 

กลุ่มอัศวินเซเลอร์จากดาวเคราะห์คินโมคุเพื่อตามหาองค์หญิงคาคิว เขา(หรือเธอ??) สามาร “สลับเพศได้” (WTF??) โดยในยามปกติที่ยังไม่แปลงร่าง พวกเขาจะเป็นนักร้องบอยแบนด์สุดเท่ “ทรีไลท์” แต่เวลาเกิดเรื่อง พวกเขาจะทำการ “สลับเพศ”(นี่มันมันเหนือกว่าการ “แปลงร่าง”ไปหลายขุมแล้วล่ะนะ) เพื่อเป็น เซเลอร์สตาร์ไลท์นั่นเอง

 

เซย์ย่า โค

หรือ เซเลอร์สตาร์ไฟท์เตอร์ ในภาคอนิเม เซย์ย่าก็คือพระเอกของภาคเซเลอร์สตาร์ เป็นอัศวินที่หลบหนีจากดาวคินโมคุเพื่อตามหาองค์หญิงคะคิว มาในภาพลักษณ์ของนักร้องบอยแบนด์ และแอบหลงรักอุซางิมากๆ ปกติมีนิสัยกวนๆ แต่ก็มีมุมที่อ่อนโยน ซึงแอดมินคิดว่า นักเขียนเอง คงอยากจะเปลี่ยนพระเอก เลยวางบทไว้คอยทำให้อุซางิหวั่นไหวกับนาย(และนาง)คนนี้…
ท่าไม้ตายคือ “พลังเลเซอร์ดาวตก”

 

ไทคิ โค

หรือ เซเลอร์สตาร์เมคเกอร์ หนึ่งในกลุ่มเซเลอร์สตาร์ไลท์ ที่ปกติก็เป็นนักร้องหนุ่มหล่อเช่นเดียวกับเซย์ย่า แต่ตัวเขากลับไม่ชอบกลุ่มของพวกอุซางิซักเท่าไหร่ เป็นคนเงียบๆ สุขุมมาก มีความเป็นผู้ใหญ่สูง เรียนเก่งที่สุด แถมชอบอะไรที่เป็นวิชาการมากกว่า
ท่าไม้ตายคือ “พลังดาวผีพุ่งใต้”

 

ยะเทน โค

หรือเซเลอร์สตาร์ฮีลเลอร์ หนึ่งในกลุ่มเซเลอร์สตาร์ไลท์ เป็นนักร้องเช่นกันกับเซย์ย่า และไทคิ เป็นคนเข้าถึงยาก แลดูหยิงๆชอบกล ทำตัวลึกลับ ชอบพูดอะไรแปลกๆให้คิด โลกส่วนตัวสูงพอๆกันกับสองคนในกลุ่ม (เผลอๆจะมากกว่าด้วย)
ท่าไม้ตายคือ “พลังแม่เหล็กดาวตก”

 

 

 

วิดิโอเกม และ ของเล่น

 

ตุ๊กตาออกมาสไตล์ “บาร์บี้”เลยครับ มีคนเก็บครบทุกตัวด้วย

 

ผลึกเงินมายา ก็ทำออกมาขายด้วย….

 

นี่คือปากกาแปลงร่าง

 

ของสะสมที่ออกมาจริงๆจัง และออกมาสวยเช่น Shfiguarts ซีรี่ยส์ครับ

 

ภาพภายในวันงานเปิดตัวครับมีเซเลอร์มูนมาขายเองเลย

 

ส่วนของวิดิโอเกม ก็มีมากมายหลายภาค ทั้งเกมตู้ และ เครื่อง Super Famicom (ตามสมัยละนะ) เอาเป็นว่า ไปดูคลิปเกมเพลย์เอาละกนครับ ยังพอหา EMU และ Rom มาเล่นในคอมได้ไม่ยากครับ ในยุคนี้ สำหรับคนที่อยากเล่นจริงๆ…ส่วนตัวแอดมินเคยเล่นของเครื่องซุปเปอร์ครับ สนุกดีเล่นเพลินๆ แต่ยังไม่สุดๆเหมือนพวก final fight หรือ สตรีทไฟเตอร์ (คนละแนวเลยที่พูดๆน่ะ แหม่…)
ซึ่งนอกจากแนวๆเดินลุยแล้ว ก็มีแนวมินิเกม เดินกระดาน ทอยเต๋าบ้างไรบ้าง ที่แอดมินไม่คยเล่น เพราะเกมพวกนี้ “ภาษาญี่ปุ่นล้วนๆ” ทำเอาเล่นไม่รู้เรื่องเลยครับ!!

 

 

 

และสุดท้ายครับ ข่าวที่ทุกคนรอคอย ปี2014 นี้ก็ครบรอบ20ปีของอนิเมเรื่องนี้ บ.Toei เจ้าของแฟรนไชน์หนังไรเดอร์ และ เหล่าขบวนการทั้งหลาย ได้ประกาศว่าจะนำอนิเมชั่นเซเลอร์มูนกลับมาทำใหม่แบบHDกันเลยทีเดียว ในชื่อว่า “เซเลอร์มูน ภาค คริสตัล” ที่แว่วๆว่า จะอิงเนื้อเรื่องของหนังสือการ์ตูนที่มความดราม่าเข้มข้น หดหู่ ตึงเครียด อย่างที่ อ.นาโอโกะวาดไว้ในหนังสือครับ

 

 

ใบปิดของอนิเมภาคล่าสุดครับ เตรียมชมแบบ HD ได้เลย…

 

ก็ถือเป็นอนิเมอีกเรื่องที่อยู่ในความทรงจำของใครหลายๆคนครับเนื้อหาที่ชัดเจนในเรื่องของความรักที่บริสุทธิ์ บทพิสูจน์ความรักของอุซางิ และมาโมรุ ที่ต้องฝ่าฟันทั้ง “อดีตอันขมขื่น” “ปัจจุบันที่วุ่นวาย” เพื่อ “สร้างอนาคตด้วยกัน” ที่ยังคงติดตราตรึงใจคนที่ได้ชมอนิเมเรื่องนี้ รวมไปถึงการต่อสู้กับสิ่งที่ชั่วร้าย ที่ถึงแม้ว่าจะเป็นเด็กผู้หญิง แต่พวกเธอเองก็เติบโตขึ้น จากสาวน้อยที่มีความกลัวในจิตใจ ก็ค่อยๆพัฒนามาเป็นความกล้าที่จะต่อสู้กับสิ่งเหล่านี้อย่างเข้มแข็งไม่แพ้ชายชาตรีเลยทีเดียว…

 

“ไม่มีสิ่งใดจะต้องกลัว

จะดีกว่าไหม ถ้าเรารู้สึกสดชื่นกับทุกๆวัน

ในเมื่อคุณมีความฝันที่ยิ่งใหญ่แล้วล่ะก็…

ดังนั้น จงตั้งใจทำมันออกมา!!”

 

====

 

แอดมิน Ak47