ชื่อภาษาญี่ปุ่น : ベルセルク
แต่งโดย : Kentaro Miura
จำนวนเล่ม : 38 เล่ม
ถือลิขสิทธิ์หนังสือการ์ตูนฉบับภาษาไทยโดย : Vibulkij Comic
ถือลิขสิทธิ์อนิเมชั่นภาคภาษาไทยโดย : TIGA
Berserk หรือในชื่อภาษาญี่ปุ่นคือ ベルセルク เป็นผลงานระดับตำนานของปรมอาจารย์ Kentaro Miura ที่วาดขึ้นเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ปี 1989 มาจนถึงปัจจุบัน ออกเป็นฉบับรวมเล่มแล้ว 38 เล่มยังไม่จบ ถือเป็นหนังสือการ์ตูนที่เขียนมาอย่างยาวนานต่อเนื่องกว่า 27 ปี ตีพิมพ์เป็นภาษามากกว่า 10 ภาษาทั่วโลก รวมถึงภาษาไทยซึ่งได้รับลิขสิทธิ์โดยสำนักพิมพ์วิบูลกิจ คอมิก
ภาพปกหนังสือการ์ตูนเรื่อง Berserk ฉบับภาษาญี่ปุ่น ปัจจุบันออกมาแล้ว 38 เล่ม
ภาพปกหนังสือการ์ตูนเรื่อง Berserk ฉบับภาษาไทย ตีพิมพ์โดยทางสำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ
นอกจากมีผลงานฉบับที่เป็นหนังสือการ์ตูนแล้ว Berserk ยังถูกนำไปสร้างเป็นอนิเมชั่นทีวีซี่รี่ย์เป็นครั้งแรก โดยสตูดิโอ OLM, Inc. ออกฉายเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 1997 จนถึง วันที่ 31 มีนาคม 1998 ในจำนวน 25 ตอนจบ ถือลิขสิทธิ์โดยทาง Tiga ในชื่อ “เบอร์เซิร์ก นักรบวิปลาส”
Berserk ภาค TV Series ออกฉายครั้งแรกวันที่ 7 ตุลาคม 1997 จนถึง วันที่ 31 มีนาคม 1998 จำนวน 25 ตอนจบ
ในปี 2012 ได้ถูกนำมาสร้างเป็นอนิเมชั่นฉายในโรงภาพยนตร์ โดยสตูดิโอ Studio 4°C เป็นการนำเอาเนื้อหาในช่วงภาคสุวรรณยุคของเล่มที่ 3 จนถึง เล่มที่13 มาเล่าเนื้อหาขึ้นใหม่ และแบ่งฉายออกเป็นสามภาค คือ
Berserk : The Golden Age Arc – The Egg of the King
Berserk : The Golden Age ArcII – The Battle for Doldrey
Berserk : The Golden Age ArcIII – The Advent
Berserk : The Golden Age Arc – The Egg of the King ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ปี 2012
Berserk : The Golden Age ArcII – The Battle for Doldrey ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 23 มิถุนายนปี 2012
Berserk : The Golden Age ArcIII – The Advent ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ปี 2013
ล่าสุด Berserk จะกลับมาฉายอีกครั้งในรูปแบบของอนิเมะทีวีซี่รี่ย์ จำนวน 24 ตอนจบ โดยได้ทางสตูดิโอ Liden Films เป็นผู้อำนวยการสร้าง กำหนดวันฉายคือ 1 กรกฏาคม ปี 2016
Berserk 2016 มีกำหนดวันออกฉายในวันที่ 1 กรกฎาคมปี 2016
ทั้งยังมีผลงานในรูปแบบของวีดีโอเกมครั้งแรกในชื่อ Berserk Millennium Falcon Arc : Chapter of the Flowers of Oblivion (ベルセルク 千年帝国の鷹篇 喪失花の章 = Beruseruku Sennnen Teikoku No Taka Hen Wasurebana no Shō) หรือในอีกชื่อที่เป็นภาคภาษาอังกฤษว่า Sword of the Berserk: Guts’ Rage เป็นเครื่อง Dreamcast เมื่อวันที่ 16 ธันวาคมปี 1999 ผลิตโดยค่าย Sammy
ภาพหน้าปกเกม Sword of the Berserk: Guts’ Rage ที่วางจำหน่ายเครื่อง Dreamcast
ส่วนอีกหนึ่งภาคในชื่อ Berserk : Millennium Falcon Hen Seima Senki no Shō (ベルセルク千年帝国の鷹篇聖魔戦記の章) พัฒนาลงให้กับเครื่อง PS2เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ปี 2004 ผลิตโดยค่าย Sammy เช่นเดียวกัน
ภาพหน้าปกเกม Berserk : Millennium Falcon Hen Seima Senki no Shō ที่วางจำหน่ายเครื่อง PS2
ล่าสุดการ์ตูนเรื่องนี้ได้ถูกนำมาสร้างเป็นวีดีโอเกมอีกครั้งโดยค่าย Koei Tecmo ในชื่อชั่วคราวว่า “Berserk Musou (ベルセルク無双)”
ภาพบางส่วนของเกม Berserk Musou ที่พัฒนาโดยค่าย Koei Tecmo มีกำหนดลงใ้ห้กับเครื่อง PS4, Ps3, PC และ PS VITA
เรื่องย่อ
Dark side Fairy tale (ด้านมืดของเทพนิยาย)
เนื้อหาหลักได้เล่าถึงภาพบรรยากาศในยุคมืดของดินแดนอันกว้างใหญ่ที่ชื่อ “มิดแลนด์” (Midland) ดินแดนแห่งนี้เต็มไปด้วยสงครามการแย่งชิงอำนาจระหว่างแคว้นต่างๆ ระบบศักดิ์นาและชนชั้นทางสังคมถูกแบ่งแยกอย่างชัดเจน เป็นยุคแห่งความสับสน ผู้คนที่ตกต่ำกว่าอยู่กันอย่างหวาดกลัว การฆ่าฟัน ความตาย และความทารุณมีให้เห็นอยู่ทุกย่อมหญ้า…
แต่ทว่าจิตใจของผู้คนเหล่านั้นมีความหวังบางอย่างอยู่… พวกเขาเฝ้ารอการมาของ “เหยี่ยวขาว” ตามคำทำนาย ที่จะทำพายุคใหม่มาสู่มิดแลนด์ โลกใบใหม่ที่ผู้คนเชื่อว่าสามารถจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างปลอดภัย
การ์ตูนเรื่องนี้ได้ถูกแบ่งออกเป็นแต่ภาคได้ทั้งหมด 5 ภาคใหญ่ ซึ่งมี…
ภาคอัศวินดำ (The Black Swordsman Arc)
เป็นเรื่องราวในการ์ตูนที่ได้เปิดตัวละครที่ชื่อ “กัส” ในฐานะ “อัศวินดำ” ที่ออกตามล่า “ก็อดแฮนด์”ภาพลักษณ์ที่ดูโหดเหี้ยมที่มีปมหลังมาจากอดีตที่เลวร้าย อันคอยตามมาหลอกหลอนตัวเขา
ภาคสุวรรณยุค (The Golden Age Arc)
ได้โฟกัสไปที่มีชื่อกัส ที่ได้มาเข้าร่วมกับกองทหารรับจ้าง “กองพันเหยี่ยว” ที่ตระเวนรับงานการทำสงครามไปทั่วอาณาจักร ซึ่งถูกชักชวนจาก “กรีฟีส” ซึ่งแม้ว่าการมาของตัวเขาจะไม่ค่อยได้รับการยอมรับจากสมาชิกในกองพันเหยี่ยวสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะกับ “แคสก้า” จนกระทั่ง ในสุดท้ายแล้ว… ด้วยฝีมือและความรักในพวกพ้อง ทำให้กัสเป็นที่ยอมรับจากทุกๆ คนในกองพันเหยี่ยวได้สำเร็จ
สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างกัสและกรีฟีสด้วยแล้ว ทั้งสองคนมีบางสิ่งบางอย่างที่เชื่อมโยงกัน กัสรู้สึกเทิดทูนกรีฟีสที่มีความฝันใหญ่ในใจ นั่นคือ “การสร้างประเทศของตนเองขึ้นมา” ซึ่งผิดกับตัวเขาที่ไม่เคยมีความฝันใดๆ นอกเหนือจากการต่อสู้ฆ่าฟันเพื่อแลกกับเงินเลี้ยงปากท้องไปวันๆ เท่านั้น การที่กัสได้มาเป็นส่วนหนึ่งของกองพันเหยี่ยวคือการสร้างฐานเพื่อต่อยอดไปสู่ความฝันของกรีฟีส และกัสเองก็เป็นหนึ่งในคนสำคัญต่อกรีฟีสอย่างมาก
กัสกับกรีฟีสร่วมกันออกต่อสู้เพื่อสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับกองพันเหยี่ยว จนกระทั่งได้มาเจอกับศัตรูที่แข็งแกร่งอย่าง “นอสเฟอราตู ซ๊อดด์” จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด และก่อนที่ซ๊อตจะสังหารกรีฟีส มันได้เหลือบไปเห็น “เบเฮลิต” สีแดง ซ๊อตเรียกชื่อมันว่า “ไข่แห่งจักรพรรดิ” รวมถึงได้กล่าวบางสิ่งบางอย่างกับกัสก่อนที่จะจากไปว่า หากยังข้องเกี่ยวกับกรีฟีสต่อไปเจ้าต้องตายอย่างแน่นอน
เมื่อผ่านช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยยาก… กองพันเหยี่ยวได้เริ่มแกร่งกล้าและใหญ่ขึ้น กรีฟีสได้รับการแต่งตั้งเป็นขุนนางจากราชาแห่งอาณาจักรมิดแลนด์ และบรรดาทหารรับจ้างของเขาได้ถูกเลื่อนยศเป็นกองอัศวินแห่งอาณาจักรมิดแลนด์ จนกระทั่งเวลาแห่งการตัดสินใจก็มาถึง เมื่อกัสได้ตัดสินใจที่จะขอแยกตัวออกไปจากกองพันเหยี่ยว ซึ่งนั่นเท่ากับเป็นการหันหลังให้กับกรีฟีส ทั้งคู่ประลองกันก่อนที่จะจบลงด้วยการแยกตัวไปของกัส
กรีฟีสที่ราวกับสูญเสียสิ่งสำคัญที่สุดไปในชีวิต ทำให้เกิดความแปรปรวนในจิตใจอย่างคาดเดาไม่ได้ เขาได้ล่วงประเวณีกับ “เจ้าหญิงชาร์ล็อต” แห่งอาณาจักรมิดแลนด์ จนเรื่องนี้ไปรู้ไปถึงราชาแห่งอาณาจักรมิดแลนด์ ทำให้เขาถูกคุมขังและโดนทรมานร่างกายอย่างทารุณ กองพันเหยี่ยวโดนตั้งข้อหาเป็นกบฏจนถูกไล่ล่า
เมื่อกัสได้รู้ว่ากองพันเหยี่ยวกำลังตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ เขาได้หวนกับคืนมาอีกครั้ง ซึ่งแม้ว่าแคสก้าในเวลานั้นจะขึ้นเป็นผู้นำของกองพันเหยี่ยว และไม่ยอมรับการกลับมาของกัส แต่สุดท้ายเธอก็พ่ายแพ้ต่อความเป็นผู้หญิงของตนเองไปจนสิ้น
กัสได้ทำพรรคพวกกองพันเหยี่ยวเข้าไปทำการช่วยเหลือกรีฟีสออกมาได้สำเร็จ แม้ว่าตัวของกรีฟีสเองจะไม่เหลือสภาพที่จะทำอะไรได้แม้แต่กระทั่งจะเดินด้วยตัวเอง หรือพูดออกมาก็ตาม เขามองว่าตอนนี้ตนเองไม่อาจที่จะสามารถทำตามความฝันด้วยร่างกายแบบนี้ได้อีกต่อไป จึงคิดจะฆ่าตัวตาย… ซึ่งก็ยังทำไม่ได้
ในเวลานั้นเอง… เบเฮลิตสีแดงได้ปรากฏให้เห็น มันสามารถสร้างความปรารถนาให้กับกรีฟีสได้ โดยที่กรีฟีสนั้น “ต้องยอมถวายเครื่องสังเวย” ด้วย “ชีวิตของทุกคนในกองพันเหยี่ยว” และกรีฟีสก็เลือกที่จะแลกเปลี่ยนด้วยชีวิตของกองพันเหยี่ยวทุกคน
พลันที่กรีฟีสได้ตัดสินใจ งานเลี้ยงฉลองก็ได้เริ่มต้นขึ้น ท่ามกลางในคืนแห่งสุริยคราส เหล่าปิศาจที่เรียกกันว่า “สาวก” ได้ปรากฏตัวขึ้นตามการเชิญชวนของกรีฟีสที่ได้เรียกมา รวมไปถึงการมาของ “ก็อดแฮนด์” ที่มีสมยานามว่า “หัตถ์พระเจ้า” ทั้งสี่ เหล่าก็อดแฮนด์ได้มอบความหวังใหม่ให้กับกรีฟีส พร้อมๆ กับแต่งตั้งให้เป็นก็อดแฮนด์องค์ใหม่ เติมเต็มที่ว่างให้ครบตามตำแหน่งด้วยนามใหม่ว่า “เฟมุโต้”
กองพันเหยี่ยวที่ได้กลายเป็นเครื่องสังเวยในคืนงานเลี้ยงเฉลิมฉลองก็อดแฮนด์องค์ใหม่ ทุกๆ คนถูกเหล่าสาวกกัดกินอย่างโหดเหี้ยม กัสสูญเสียแขนซ้ายกับตาข้างขวา แคสก้าถูกข่มขืนต่อหน้ากัส ในช่วงที่สิ้นหวังนั้นเอง “อัศวินหัวกระโหลก” ได้เข้าขัดขวางคืนงานเลี้ยงเฉลิมฉลองจนมีอันต้องล่มลงในที่สุด
แม้ว่ากัสกับแคสก้าจะเป็นผู้ที่เหลือรอดจากคืนงานเลี้ยงไปได้การถูกตีตราประทับว่าเป็นเครื่องสังเวยแล้ว ทำให้ไม่อาจจะหนีพ้นจากการถูกตามล่าจากเหล่าสาวกไปได้ กัสกลายเป็นคนพิการ ส่วนแคสก้ากลายเป็นคนเสียสติไปจนสิ้น
นี่คือจุดเริ่มต้นของการออกเดินทางของชายที่เรียกว่าเป็น “นักรบดำ” เพื่อทวงความแค้น
ภาคมหาศรัทธา (The Conviction Arc)
ภาคนี้ได้แบ่งออกเป็นบทย่อยๆ ได้ สามบทด้วยกันคือ
บทแห่งผู้สาบสูญ (Chapter of the Lost Children) เรื่องราวของเด็กสาวที่ชื่อ “จิลล์” กับเรื่องเล่าของตำนานเอลฟ์ที่แสนน่าเศร้า
บทแห่งโซ่ตรวน (Chapter of the Binding Chain) เป็นเรื่องราวของเหล่ากองอัศวินโซ่ศักดิ์สิทธิ์แห่งศาสนจักรที่คอยออกตามล่าพวกนอกรีต
บทแห่งพิธีก่อกำเนิด (Chapter of the Birth Ceremony) เป็นเรื่องราวต่อเนื่องจากบทแห่งโซ่ตรวน ที่มีศาสนจักรอันเป็นจุดยึดเหนี่ยวจิตใจของผู้คนในยุคมืดและคอยออกไล่ล่าพวกนอกรีต ซึ่งจุดสิ้นสุดของบทนี้การถือกำเนิด “ร่างกายเนื้อ” ของเฟมุโต้ เกิดเป็นกรีฟีสอีกครั้ง เพื่อสร้างยุคทองตามความฝันของตนเอง
ภาคมิลเลนเนียมฟอลคอน (The Millennium Falcon Arc)
ภาคนี้ได้แบ่งออกเป็นบทย่อยๆ ได้ สองบทใหญ่ๆ ด้วยกันคือ
บทแห่งพงศาวดารปิศาจศักดิ์สิทธิ์ (Chapter of The Holy Demon War) เป็นเรื่องราวที่กัสได้ไปพบกับแม่มดชราคนหนึ่งและลูกศิษย์ของเธอ รวมไปถึงศึกใหญ่คือการบุกของอมนุษย์อย่างทรอลล์ ออร์ก ปิศาจในเทพนิยาย รวมไปถึงเผชิญหน้ากันกับหนึ่งในก็อดแฮนด์
บทแห่งฟอลโคเนีย (Chapter of Falconia) เป็นเรื่องราวของการกอบกู้ดินแดนอาณาจักรมิดแลนด์จาก “กองทัพคูชาน”และการเข้ามาช่วยเหลือของกรีฟีส ที่เป็นเหยี่ยวแห่งแสงตามตำนานของ “ฟาลโคเนีย” นครในตำนานที่จะปรากฏขึ้นในยุคใหม่
ภาคแฟนตาเซีย (Fantasia Arc)
ภาคนี้เป็นภาคล่าสุดที่กำลังดำเนินเรื่องอยู่ โดยยังมีเพียงแค่หนึ่งบทเท่านั้น
บทแห่งเกาะภูตพราย (Elf Island Chapter)เป็นเรื่องราวที่กล่าวถึงยุคใหม่ได้มาเยือนโลกมนุษย์ ที่ซึ่งมนุษย์ ภูต ปิศาจ และเทพต่างอยู่ในโลกใบเดียวกัน ราวมไปถึงการผจญภัยครั้งใหม่ของกัสที่ได้ไปต่อสู้ร่วมกับเหล่านางเงือก ต่อกรกับอสูรแห่งท้องทะเลและการมุงไปสู่เกาะแห่งเอลฟ์
ตัวละครที่สำคัญตามท้องเรื่อง
กัส
Guts (ガッツ)
ตัวเอกของเรื่อง ชายผู้ได้รับสมยานามว่า “นักรบดำ” ตามประวัติของเขานั้น เกิดมาจากศพของหญิงท้องแก่ที่ถูกแขวนคอตาย จนถูกภรรยาที่เสียสติของ “กัลวีโน่” ทหารรับจ้างคนหนึ่งที่ชื่อ “ชีส” เอาไปเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ ฝึกฝีมือการต่อสู้จนได้กลายเป็นทหารรับจ้าง แต่ชีวิตในวัยเด็กของเขานั้นช่างโชคร้าย ถูกคนในกองทหารรับจ้างข่มขืนจนได้มารู้ว่าพ่อเลี้ยงได้ขายตัวเขา กระทั่งตัวเขาได้พลั้งมือสังหารกัลวีโน่ตาย จนถูกตามล่าต้องหนีอย่างหัวซุกหัวซุน ต่อมากัสได้มาเข้ามาเป็นสมาชิกของกองพันเหยี่ยว จากการชักชวนของกรีฟีส ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปกัสจึงตัดสินใจแยกตัวออกไปจากกองพันเหยี่ยว แต่นั่นกลับเป็นจุดเริ่มต้นที่จะพาให้ตัวเขาได้พบกับเรื่องราวอันเลวร้ายนับจากนั้น ตัวเขาถูกใช้เป็นเครื่องสังเวยในการตื่นขึ้นของเฟมุโต้ สูญเสียร่างกายและความเชื่อใจในตัวของกรีฟีสไปจนหมดสิ้น นั่นจึงทำให้ตัวเขาได้กลายมาเป็น “นักรบดำ”เพื่อออกตามล่าเหล่าก็อดแฮนด์ นับจากนั้น…
มีอาวุธประจำตัวคือ “ดาบฆ่ามังกร”ขนาดใหญ่ที่เกินกว่าคนทั่วไปจะยกได้, มือกล ที่ใช้แทนที่มือซ้ายที่พิการไป ใช้มีส่วนประกอบของแม่เหล็กใช้ยึดจับด้ามดาบที่เป็นเหล็กได้ มีดสั้น ที่สามารถปาใส่ศัตรูได้, เครื่องยิงหน้าไม้ที่ติดตั้งเอาไว้ที่มือกล, ปืนใหญ่ขนาดเล็กที่ติดตั้งเอาไว้ที่มือกล และเกราะนักรบคลั่ง ที่เป็นเกราะต้องสาปที่สร้างโดยพวกดวาร์ฟ (คนแคระ) มีความสามารถในการเพิ่มพละกำลังและความเร็วให้กับผู้ใช้ แต่จะสูญเสียจิตใจจนกลายเป็นความบ้าคลั่งไปได้
กัสเป็นตัวละครที่มีแรงบันดาลใจมาจากนักรบรับจ้างชาวเยอรมันที่ชื่อ “เกิตซ์ ฟอน เบอร์ลีชินเก้น” (Götz von Berlichingen) ที่มีตัวตนอยู่จริงในปี ค.ศ. 1480-1562 มีแขนขวาเป็นแขนปลอมที่ทำจากเหล็ก ในปัจจุบันนี้แขนปลอมนชิ้นนี้ถูกเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์เนิร์นแบร์ก ในประเทศเยอรมัน
กรีฟีส
Griffith (グリフィス)
ชายหนุ่มที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นผู้นำของกองทหารรับจ้างกองพันเหยี่ยว ด้วยภาพลักษณ์ที่งดงามราวกับเทพบุตรและมีฝีมือในการต่อสู้ที่เก่งกาจ จึงทำให้มีผู้ติดตามเข้ามาร่วมเป็นพรรคพวกของเขาอยู่มากมาย ตัวเขาหมายตากัสตั้งแต่เห็น จึงได้ขอให้กัสมาเข้าร่วมกองพันเหยี่ยวด้วย กรีฟีสมีความฝันใหญ่ที่อยากจะสร้างประเทศของตัวเองขึ้นมา แต่เมื่อเวลาที่ผ่านไป กองพันเหยี่ยวใหญ่ขึ้น กัสเองก้ได้ตัดสินใจจะแยกตัวออกไป ทำให้ตัวเขาเสียใจอย่างมาก ความรู้สึกสับสนนั้นนำพาให้ตัวเองถลำลึกจนก่อเรื่องล่วงเกินเจ้าหญิงชาร์ล็อต และถูกจับตัวไปทรมานร่างกายจนกลายเป็นคนพิการ ไม่หลงเหลือรูปเค้าของกรีฟีสผู้งดงาม
กระทั่งเขาตัดสินใจจะละทิ้งชีวิตของมนุษย์และกลายเป็นหนึ่งในห้าก็อดแฮนด์ ในชื่อเฟมุโต้ โดยแลกกับชีวิตของของกองพันเหยี่ยวทุกคน ก่อนจะได้มาถือกำเนิดใหม่ในร่างมนุษย์อีกครั้ง เพื่อทำตามความฝันของตนเอง โดยที่ไม่สนใจอดีตที่เคยกระทำลงไปต่อพรรคพวกกองพันเหยี่ยวที่ตายไป
แคสก้า
Casca (キャスカ)
สาวผิวเข้ม เธอเคยเป็นหนึ่งในสมาชิกของกองพันเหยี่ยวที่เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในหมู่ผู้ชาย เธอมาเข้าร่วมด้วยเพราะติดหนี้บุญคุณของกรีฟีสที่เคยได้ช่วยเธอจากการถูกข่มขืนจากขุนนางมาก่อนในช่วงวัยเด็ก ทำให้เธอรู้สึกเทิดทูนกรีฟีสอย่างมาก ซึ่งภายหลังจากที่กัสได้แยกตัวออกไป แล้วกรีฟีสได้ถูกคุมขังเพราะได้ไปล่วงเกินเจ้าหญิงแห่งอาณาจักรมิดแลนด์ จนกองพันเหยี่ยวถูกหมายหัวเป็นกบฏและโดนตามไล่ล่า เธอจึงได้ขึ้นมาเป็นผู้นำของกองพันเหยี่ยว ก่อนที่เธอกับกัสจะได้ลงเอยกัน
ตัวเธอถูกใช้เป็นเครื่องสังเวยในการตื่นขึ้นของเฟมุโต้ แม้จะรอดมาได้แต่นั่นกับทำให้เธอกลายเป็นคนเสียสติไปจนสิ้น
แพ็ค
Puck (パック)
เอลฟ์ภูติแห่งลม เป็นตัวละครที่ได้ร่วมเดินทางกับกัสในช่วงเล่มแรกเริ่มจนถึงปัจจุบัน มีรูปร่างเหมือนกับเด็กผู้ชาย มีความสามารถในการรักษาบาดแผลได้ นิสัยออกจะเป็นเด็กซนที่ชอบยุ่งเรื่องของกัสไปเรื่อย แม้จะน่ารำคาญอยู่บ้างแต่ก็เป็นสีสันหนึ่งในการ์ตูนเรื่องนี้เลยทีเดียว
ฟาลเนเซ่ เดอ วาลดิเมี่ยน
Farnese do Vandimion (ファルネーゼ・ド・ヴァンディミオン)
สาวน้อยผมทอง ลูกสาวตระกูลวาลดิเมี่ยน ขุนนางแห่งอาณาจักรมิดแลนด์ ทั้งเธอเคยยังเป็นหัวหน้าของกองอัศวินโซ่ศักดิ์สิทธิ์แห่งศาสนจักร ผู้ศรัทธาในพระเจ้ายิ่งกว่าความถูกต้องใดๆ ในตอนแรกเธอได้รับมอบหมายให้มาตามล่ากัสที่เป็นนักรบดำ แต่ความเชื่อในพระเจ้าของเธอได้สูญเสียลงเพราะได้มาเจอกับความลึกลับที่ไม่น่ามีอยู่จริง… ที่คอยตามล่าตัวกัสอยู่ รวมไปถึงได้เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์การถือกำเนิดใหม่ของกรีฟีส ในบทแห่งพิธีก่อกำเนิด เธอจึงได้ตัดสินใจละทิ้งศรัทธาที่คอยครอบงำความคิดตัวเอง และร่วมเดินทางไปกับกัส
เซอร์ปิโก้
Serpico (セルピコ)
ชายตาตี่ที่เป็นคนติดตามของฟาลเนเซ่ ทั้งยังเคยเป็นสมาชิกในกองอัศวินโซ่ศักดิ์สิทธิ์แห่งศาสนจักร ในวัยเด็กเขาอาศัยอยู่กับแม่ที่นอนป่วย ก่อนจะได้ฟาลเนเซ่เป็นคนพามาทำงานที่คฤหาสน์ตระกูลวาลดิเมี่ยน คอยทำหน้าที่รับใช้ฟาลเนเซ่ ด้วยความที่เป็นเด็กในวัยเดียวกัน ทั้งฟาลเนเซ่เองก็ไม่มีเพื่อนเล่นด้วย ทำให้ทั้งคู่สนิทกันมาแม้ว่าฟาลเนเซ่ มักจะเอาแต่ใจก็ตาม ซึ่งในภายหลังได้มารู้ว่าตัวเองเป็นลูกที่เกิดจากพ่อของฟาลเนเซ่ กับแม่ของตนเอง โดยเรื่องนี้ตัวเขาไม่เคยคิดจะบอกฟาลเนเซ่ให้รับรู้ จวบจบฟาลเนเซ่เริ่มมีใจให้ตัวเขา ซึ่งมันไม่อาจจะเป็นไปได้ และที่น่าเศร้าที่สุดก็คือ แม่ของเขาถูกตั้งข้อหาว่าเป็นแม่มด ต้องถูกเผาทั้งเป็น แม้แต่เรื่องนี้ฟาลเนเซ่ไม่เคยได้รับรู้ เวลานั้นเองคำมั่นสัญญาหน้ากองเพลิงระหว่างเซอร์ปิโก้และฟาลเนเซ่ว่าจะอยู่เคียงข้างกันตลอดไป เขาจึงได้ร่วมทางกับฟาลเนเซ่ติดตามกัสไปด้วย
อิชโดร
Isidro (イシドロ)
เด็กผู้ชายที่มีความฝันว่าอย่างที่จะเป็นสุดยอดนักดาบ เพราะความหัวดื้อจึงได้ทะลึ่งหนีออกจากบ้าน จนกระทั่งมาพบกับกัส เขาถูกดึงดูดด้วยความบางสิ่งบางอย่างจึงได้ติดตามกัสไปได้
ชีลเก้
Schierke (シールケ)
เด็กผู้หญิงที่เป็นแม่มดฝึกหัด เธอเป็นลูกศิษย์คนเดียวของฟลอร่าแม่มดชราที่อาศัยอยู่ในป่า หลังจากที่บ้านพักกลางป่าที่เธอกับอาจารย์ฟลอร่าอาศัยอยู่ถูกกองพันเหยี่ยวใหม่ของกรีฟิสเข้าทำลาย และอาจารย์ของเธอได้หายไปในกองไฟ เธอได้ออกติดตามกัสเดินทางไปด้วย นับจากนั้น… เธอมีคู่หูที่เป็นเอลฟ์แบบเดียวกับแพ็คมีชื่อว่า อีวาเรล่า
ซ็อด
Zodd (ゾッド)
ชายร่างกายสูงใหญ่ ที่กล่าวกันว่าเป็นตำนานของนักรบกระหายเลือด กัสกับกรีฟีสเคยได้ต่อสู้ด้วย แล้วได้มารู้ตัวตนที่แท้จริงว่าเป็นปิศาจอมอมตะนามว่า นอสเฟอราตู ซ็อด ที่อยู่มานานกว่าสามร้อยปี ที่มันเฝ้ามองหาผู้ที่แข็งแกร่งกว่ามาสยบตน มีความสามารถในการกลายร่างเป็นปิศาจขนาดใหญ่
ภายหลังจากที่กรีฟีสได้กลับมาเกิดใหม่ เขาได้ยอมรับใช้กรีฟีสที่เป็นนายคนใหม่ และเข้าเป็นหนึ่งในสาวกแห่งกองพันเหยี่ยวใหม่
God Hand
คือเหล่าปิศาจผู้อยู่เหนือกฎเกณฑ์สามัญความเป็นจริงของโลกใบนี้ ซึ่งแต่เดิมทีแล้วมีความเป็นไปได้เหล่าก็อดแฮนด์อาจจะเคยเป็น “มนุษย์” มาก่อน ซึ่งข้ออ้างอิงจากการที่กรีฟีสได้เป็นหนึ่งในก็อตแฮนด์นั่นเอง ดังนั้นการเข้าสู่เงื่อนไขในการก้าวไปสู่ตัวตนอันอยู่เหนือสามัญความเป็นจริงได้นั้น จำเป็นต้องมี “แรงปรารถนา” อันแรงกล้ามากพออที่จะก้าวข้าวความเป็นมนุษย์ไปได้ รวมไปถึงสื่อตัวกลางอย่าง “ไข่แห่งจักรพรรดิ” และที่ขาดไม่ได้คือ “เครื่องเซ่นสังเวย” เป็นการแลกเปลี่ยน
ก็อตแฮนด์ตามท้องเรื่องมีอยู่ด้วยกันห้าตน คือ…
วอยด์
Void (ボイド)
หนึ่งในห้าก็อดแฮนด์ที่ปรากฏตามเนื้อเรื่อง มีรูปลักษณ์เป็นมนุษย์ที่มีสมองขนาดใหญ่และใบหน้าที่ดูน่ากลัว สำหรับในหมู่ก็อดแฮนด์ทั้งห้าแล้ว วอยด์ถือเป็นผู้นำมากกว่าทุกๆ ตน เพราะดูมีความสุขุม มองความจริงของกระแสโชคชะตาได้ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง
ตามประวัติภูมิหลังแล้ว… วอยด์ยังไม่ปรากฏเรื่องราวในช่วงที่เป็นมนุษย์ให้เห็น ซึ่งอาจมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นคนสนิทหรือนักปราชญ์ที่ถูกต้องโทษจำคุกใน หอคอยแห่งมหาศรัทธา (Tower of Conviction) ในช่วงสมัยของ “กษัตริย์ไกเซริก” มีความสามารถในการควบคุมและบิดเบือนโชคชะตาได้ในระดับหนึ่ง, ควบคุมห้วงกาลเวลาได้ รวมถึงยังสามารถล่วงรู้อนาคตได้อีกด้วย มีคู่ปรับคือ “อัศวินหัวกระโหลก” ที่ดูคล้ายว่าทั้งคู่จะมีโชคชะตาบางอย่างที่สัมพันธ์กันอยู่
ชื่อของวอยด์นั้นมีแรงบันดาลในมาจากนวนิยายวิทยาศาสตร์เรื่อง Destination: Void ของ แฟรงก์ เฮอร์เบิร์ต (Frank Herbert)
สรัน
Slan (スラン)
หนึ่งในห้าก็อดแฮนด์ที่ปรากฏตามเนื้อเรื่อง มีรูปลักษณ์เป็นปิศาจผู้หญิงที่ดูงดงาม มีเรือนผมที่ดูคล้ายเส้นหนวด มีปีกที่ดูคล้ายกับค้างคาวขนาดใหญ่ ซึ่งตามท้องเรื่องแล้ว… สรันเป็นก็อดแฮนด์ที่นิยมชมชอบความรุนแรงเป็นที่สุด มักมากในความใคร่ มีความป่าเถื่อนในตัณหาอย่างมาก
ชื่อของสรันนั้นมีแรงบันดาลใจมาจากนวนิยายวิทยาศาสตร์เรื่อง Slan ของ A. E. van Vogt
ยูบิค
Ubik (ユービック)
หนึ่งในห้าก็อดแฮนด์ที่ปรากฏตามเนื้อเรื่อง มีรูปลักษณ์ดูเล็กที่สุดในหมู่ก็อดแฮนด์ด้วยกัน มีขาเป็นครีบปลา ซึ่งตามท้องเรื่องแล้ว… ยูบิคเป็นก็อดแฮนด์ที่มีความสามารถในการสร้างภาพหลอนและคอยโน้มน้าวจิตใจของผู้อื่นได้ เสมือนเป็นตัวแทนของสิ่งหลอกลวงและการโป้ปด
ชื่อของยูบิคนั้นมีแรงบันดาลใจมาจากนวนิยายวิทยาศาสตร์เรื่อง Ubik ของ Philip K. Dick
คอนรัทด์
Conrad (コンラッド)
หนึ่งในห้าก็อดแฮนด์ที่ปรากฏตามเนื้อเรื่อง มีรูปลักษณ์คล้ายกับมนุษย์อ้วนท้วม ที่มีด้านหลังคล้ายกับแมลงปีกแข็ง ซึ่งตามท้องเรื่องแล้ว…คอนรัทด์เป็นก็อดแฮนด์มีความสามารถในการโรคระบาดได้ โดยผ่านพาหนะนำโรคต่างได้อย่างเช่นหนู
ชื่อของคอนรัทด์นั้นมีแรงบันดาลใจมาจากนวนิยายวิทยาศาสตร์เรื่อง…And Call Me Conrad ซึ่งผลงานนิยายเรื่องแรกของ Roger Zelazny
เฟมุโต้
Femto (フェムト)
หนึ่งในห้าก็อดแฮนด์ที่ปรากฏตามเนื้อเรื่อง มีรูปลักษณ์คล้ายมนุษย์ในชุดคลุมสีดำภายใต้หน้ากากเหล็กรูปเหยี่ยว ซึ่งตัวตนแท้จริงของก็อดแฮนด์คนนี้ก็คือ “กรีฟีส” ที่ได้กลายมาเป็นหนึ่งในห้าก็อดแฮนด์ เติมเต็มส่วนที่ว่างของพระหัตถ์แห่งพระเจ้าจนสมบูรณ์
เฟมุโต้ มีความชัดเจนในเรื่องของแรงปรารถนาของตนเอง เพราะแต่เดิมนั้นตอนที่ยังเป็นมนุษย์ กรีฟีสมีความปรารถนาต้องการจะสร้างประเทศของตนเองขึ้น แต่เมื่อตอนที่ช่วงชีวิตในครั้งหนึ่งเคยตกอยู่ในจุดที่ตกต่ำที่สุด ไม่หลงเหลือความหวังใดๆ ทันทีที่มีผู้หยิบยื่นโอกาสที่เคยได้พลาดหวังไป เขาจึงไม่รีรอที่จะคว้ามันมา… แม้ต้องแลกหรือละทิ้งสิ่งสำคัญมากๆ ไปก็ตาม
เฟมุโต้เป็นก็อดแฮนด์ที่มีความสามารถในการพลิกพันและบิดเบือนห้วงเวลาระหว่างมิติได้ รวมถึงสามารถสร้างกำแพงป้องการการโจมตีทางกายภาพในทุกๆ รูปแบบได้
อัศวินหัวกะโหลก
Skull Knight (髑髏の騎士 =Dokuro no Kishi)
อัศวินลึกลับที่มีรูปร่างเหมือนอัศวินในชุดเกราะสีขาวสวมหัวกะโหลกที่ขี่ม้าโครงกระดูก ครั้งหนึ่งเคยได้ช่วยเหลือกัสกับแคสก้าจากคืนสังเวยก็อดแฮนด์องค์ใหม่ รวมถึงมักจะปรากฏตัวในช่วงเวลาที่สำคัญๆ ตามท้องเรื่อง ว่ากันว่าตัวตนของอัศวินลึกลับตนนี้น่าจะเป็น “กษัตริย์ไกเซริก” (GaisericThe Great)
ที่มารูปภาพจาก : wikipedia, anime new network, Randomc.net
ตามไปดูบทความของเกม Berserk ภาคใหม่ได้ที่ ลิงค์นี้
Berserk ถือเป็นผลงานอมตะอีกหนึ่งเรื่องของวงการการ์ตูนญี่ปุ่น ที่ยังคงสืบสานเรื่องราวมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งในปีนี้ แฟนที่ติดตามผลงานเรื่องนี้อยู่แล้วจะได้ข่าวดีที่ว่า Berserk กำลังจะมีอนิเมะทีวีซี่รี่ย์ภาคใหม่และเกมภาคใหม่ ยังไงก็อย่างลืมติดตามกันนะครับ^^
Miraclesaven
-
BEYBLADE X : 10 ตัวน่าซื้อ ของมันต้องมีในปี 2024
#beybladex #kctoysbeybladex #beybladexthailand
-
KARATE KID: LEGENDS [เรื่องย่อ / ตัวอย่าง / หนังใหม่ /2025]
#KarateKidMovie #KarateKi #เฉินหลง #JackieChan
-
20 ตัวละครจากเกมยอดนิยมที่ถูกค้นหามากที่สุดในเวปไซต์สำหรับผู้ใหญ่ 2024
#Ranking #website #Games #PC #Console