Atelier Escha & Logy ~ Alchemists of the Dusk Sky
ชื่อภาษาญี่ปุ่น : エスカ&ロジーのアトリエ ~黄昏の空の錬金術士~ (Escha & Logy no Atelier: Tasogare no Sora no Renkinjutsushi)
ประเภท : Fantasy
จำนวนตอน : 12 ตอนจบ
ออกอากาศครั้งแรก : 10 เมษายน ปี 2014 ทางช่อง Tokyo MX
ระยะเวลาในการฉาย : 24 นาทีต่อตอน
ผู้ผลิต : Studio Gokumi
Official website : http://atelier-ps3.jp/escha-logy/anime/
“จากเรื่องราวในเกม J-RPG บนเครื่อง PS3 ได้มาโลดแล่นสู่โลกอนิเมะ ในโลกแห่งแฟนตาซีที่การเล่นแร่แปรธาตุจะนำพาความสุขมาให้ผู้คน พบกับอนิเมะเรื่องใหม่ได้ใน Atelier Escha & Logy: Alchemists of the Dusk Sky”
Atelier Series เป็นเกมแนว J-RPG ที่พัฒนาโดยค่าย Gust มาตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม ปี 1997 ซึ่งภาค Atelier Marie: The Alchemist of Salburg (マリーのアトリエ ~ザールブルグの錬金術士 ~ Marī no Atorie ~Zāruburugu no Renkinjutsushi~) คือภาคแรกที่วางจำหน่ายบนเครื่อง PS1 และ Sega Saturn
โดยเนื้อหาหลักของเกมนี้จะโลดแล่นเรื่องราวอยู่ในโลกแห่งแฟนตาซี และจุดเด่นเกมนี้จะเป็นการผจญภัยในดินแดนที่ยังไม่ได้ทำการสำรวจ เพื่อออกค้นหาวัตถุดิบมาทำการสร้างไอเท็ม โดยพล็อตเรื่องของเกมซี่รี่ย์นี้มีเนื้อหาที่ดูสบายๆ จะไม่ค่อยดำเนินเรื่องจนซีเรียสเกินไปนัก…
ในส่วนของระบบการต่อสู้ในเกมนี้จะเป็นรูปแบบของแนว Turn-Base ออกคำสั่งในเทิร์นตัวเอง ไม่ว่าจะทำการจู่โจม, ใช้ไอเท็มและหนีออกจากฉากต่อสู้
สำหรับระบบการต่อสู้ในภาคล่าสุดคือ Atelier Escha & Logy: Alchemists of the Dusk Sky บนเครื่อง PS3 (อยู่ในบทเนื้อหาของภาค Dusk) นั้นยังคงยึดแนวทางพื้นฐานเดิมของเกมซี่รี่ย์ Atelier แต่เพิ่มจำนวนของทีมต่อสู้จากเดิม 3 คนต่อปาร์ตี้ เป็น 6 คน โดยสามารถสลับปรับเปลี่ยนทีมได้ตามแต่รูปแบบกลยุทธ์การวางของผู้เล่นเอง ตัวเกมในภาคนี้ได้นำเอา LTGL engine มาสร้างสรรค์ความวิจิตรแฟนตาซีในโลกของเกมนี้ (Engine ตัวนี้พัฒนาโดยค่าย Tecmo Koei ซึ่งใช้ในเกมดังอย่าง Dynasty Warriors 8: Xtreme Legends อีกด้วย)
จุดเด่นอีกอย่างที่ชวนน่าจดจำก็คือ การออกแบบตัวละครในเกม ที่ดูน่ารักสดใสมากมายตามสไตล์ J-RPG ซึ่งถูกใจสำหรับแฟนๆ ที่ติดตามเกมซี่รี่ย์นี้อยู่มากมาย
จนตอนนี้ได้มีอนิเมะออกมาให้ได้รับชมกัน ในชื่อเดียวกันกับเวอร์ชั่นเกม โดยเนื้อหาจะดำเนินเรื่องตามแนวทางที่ตัวเกมเขียนเอาไว้ เรื่องราวเริ่มต้นที่เมืองเล็กทาง อย่าง คอร์เซ็ท เมื่อ เอสก้าได้เข้าทำงานที่ศูนย์วิจัยพิเศษ ในฐานะนักเล่นแร่แปรธาตุของทางการ ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ โลจี้ หนุ่มรูปงามที่มาเข้างานที่นี่ด้วยเช่นกัน ทั้งเอสช่าและโลจี้ได้เป็นส่วนหนึ่งในทีมวิจัยและพัฒนาการเล่นแร่แปรธาตุ นี่คือเรื่องราวการเรียนรู้ และการผจญภัยร่วมทางกัน เพื่อไขความลับของซากอารยธรรมเหนือท้องฟ้า สถานที่ที่ยังไม่มีใครได้ไปเยือนมาก่อน…
แนะนำตัวละครที่ปรากฏในเรื่อง :
เอสก้า (พากย์โดย : Rie Murakawa)
Escha Malier (エスカ メーリエ)
สาวน้อยตัวเอกของเรื่องนี้ เธอเพิ่งได้เข้าทำงานเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุของทางการในสาขาคอร์เซ็ท (อยู่ชนบท) เป็นคนที่อัธยาศัยดี น่ารักสดใสสมวัย เข้ากับคนอื่นได้ง่าย มีความตั้งใจสูง เป็นที่รู้จักของคนทั่วหมู่บ้าน เธออาศัยอยู่กับโคลน์เพียงสองคน ส่วนวิชาการเล่นแร่แปรธาตุนั้น เธอได้เรียนรู้มาจากคุณแม่ที่เสียไปแล้ว จะออกปฏิบัติงานร่วมกันกับโลจี้อยู่เสมอ
โลจิส “โลจี้” ฟิซคาริโอ้ (พากย์โดย : Kaito Ishikawa)
Logix “Logy” Fiscario (ロジックス フィクサリオ)
ชายหนุ่มจากเมืองหลวงที่ได้มีโอกาสเข้ามาทำงานเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุของทางการ ในสาขาเมืองคอร์เซ็ท เขารู้สึกตื่นตากับชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในเมืองเล็กๆ แห่งนี้อย่างมาก นี่จึงเป็นประสบการณ์การเรียนรู้ครั้งใหม่ก็ว่าได้ ในอดีตมาเรื่องราวบางอย่างที่ดูเจ็บปวดอยู่ภายใต้แขนเสื้อข้างขวา มีวิชาการใช้ดาบในการต่อสู้อยู่บ้างจึงพอจะพึงพาได้ และได้มาร่วมงานกันกับเอสก้า
มาเรี่ยน ควินน์ (พากย์โดย : Kana Ueda)
Marion Quinn (マリオン•クイン)
สาวผมดำ เธอเป็นหัวหน้าทีมวิจัยและพัฒนาของศูนย์วิจัยพิเศษสาขาคอร์เซ็ท เป็นคนคอยจัดการเรื่องเอกสารและคอยป้อนงานให้กับเอสก้าและโลจี้ นิสัยถึงจะดูเป็นคนคุยง่ายและเป็นกันเอง แต่ก็เข้มงวดไม่น้อย รู้จักกับนิโอะและวินเบลมาก่อน
ลินก้า (พากย์โดย : Ami Koshimizu)
Linca (リンカ)
สาวผมยาวเป็นนักดาบที่ทำงานในสำนักงานวิจัยและพัฒนาสาขาคอร์เซ็ท เธอจะออกปฏิบัติงานเป็นคนคุ้มกันในเขตที่มีความอันตรายเพื่อค้นหาวัตถุดิบร่วมกับทีมสำรวจ มีฝีมือในการใช้ดาบที่สูง นิสัยกินเก่งแถมท้องไส้เป็นโรคหิวง่ายอีกต่างหาก รู้จักกับนิโอะและวินเบลมาก่อน ความจริงแล้วเธอมีพี่น้องผู้หญิงที่หน้าตาเหมือนกันหมดอยู่อีกทั้งหมด 7 คน และใช้ชื่อว่า “ลินก้า” อีกต่างหาก (ใครเป็นใครนี่เล่นเอามึนเลย)
นิโอะ อันทูเกิ้ล (พากย์โดย : Mariya Ise)
Nio Altugle (ニオ・アルトゥール)
สาวน้อยผมสั้นที่ได้บังเอิญมาเจอกับเอสก้าและโลจี้ ในระหว่างออกเดินทางเพื่อออกตามหาน้องสาวที่หายไปของตนที่ชื่ออาเจช่า (Ayesha เป็นตัวละครหลักในเกมภาค Atelier Ayesha: The Alchemist of Dusk ซึ่งเป็นเกมภาคต่อ) เธอมีสัมผัสพิเศษที่สามารถรับรู้ถึงจิตวิญญาณที่สิงสู่อยู่ตามสถานที่โบราณได้ เป็นเพื่อนกับวิลเบล ก่อนได้มาอาศัยอยู่ในเมืองคอร์เซ็ท
วิลเบล โวล แอสลีด (พากย์โดย : Takahiro Sakurai)
Wilbell voll Erslied (ウィルベル・ヴォル エルスリート)
จอมเวทย์สาวที่ได้บังเอิญมาเจอกับเอสก้าและโลจี้ในระหว่างออกเดินทาง เรียกตัวเองว่าเป็นจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ สามารถใช้เวทย์ได้หลายรูปแบบที่เรียนรู้มาจากครอบครัวที่เป็นจอมเวทย์ นิสัยออกจะโอ้อวดขี้คุยอยู่บ้างแต่พึ่งพาได้มากเลยทีเดียว (แต่ก็ชอบสร้างปัญหาอยู่บ่อยๆ ) เธอเป็นเพื่อนของนิโอะที่ได้เดินทางร่วมกันเพื่อตามหาอาเจช่า ก่อนจะได้มาอาศัยอยู่ที่เมืองคอร์เซ็ท
คาทล้า ลาร์ชิก้า (พากย์โดย : Chihiro Uno)
Katla Larchica (カトラ・ラーチカ)
สาวน้อยตัวเล็กๆ เธอเป็นเจ้าของร้านแผงลอยขายของแปลกๆ เธอจะมีสไตล์การพูดแบบคนค้าขายเพื่อเรียกลูกค้าเข้าร้าน มีความฝันว่าอยากจะเปิดกิจการที่ใหญ่โตกว่านี้
ลูซิลล์ เอลเนลล่า (พากย์โดย : Mariko Honda)
Lucille Ernella (ルシル・エルネラ)
สาวน้อยตัวเล็ก ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการรักษา เธอเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุของทางการที่ถูกทางเมืองหลวงส่งมายังเมืองคอร์เซ็ท มีความมุ่งมั่นและจริงจังต่องานไม่น้อยกว่าใครๆ แต่ด้วยความที่ยังเป็นเด็กจึงไม่ค่อยที่จะมีความประสาอะไรมากมายนัก เอสก้ามักจะคอยดูแลเสมอจนเธอเคารพเอสก้าเหมือนพี่สาวคนหนึ่งเลยทีเดียว
โคลน์ (พากย์โดย : Yamamura Hibiku)
Clone (クローン)
หญิงสาวผมเขียว เธอเป็นหุ่นกล (Automaton) ที่คอยรับใช้ตระกูลมาเลี่ยนมาหลายต่อหลายรุ่น ทั้งยังคอยดูแลสวนแอ๊ปเปิ้ลที่บ้านของเอสก้า เวลาสนทนานั้น เธอจะพูดน้ำเสียงโทนเดียวตลอด และมีมักคำพูดติดปากว่า “แหม~~” อยู่ด้วยเสมอ มีอายุโดยประมาณอยู่ที่ 930 ปี
ฟลาโม
Flameu (フラメウ)
สาวน้อยลึกลับที่หลับใหลอยู่ภายในซากอารยธรรมเหนือท้องฟ้ามานับตั้งแต่สมัยโบราณ และยังปรากฏอยู่ในหนังสือภาพที่โคลน์ชอบอ่านให้เอสก้าฟังในสมัยเด็กๆ เธอไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นนักเดินทางของ Geosis ที่จำลองเอารูปร่างของเด็กสาวมนุษย์ มีความสามารถในการเล่นแร่แปรธาตุด้วย (ในเกมเธอเป็น Final Boss ของฉากสุดท้ายเลยนะ)
และยังมีตัวละครจากในเกมที่ได้มาโลดแล่นในภาคอนิเมะอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น โซล, มิเซล, อาวิน, เรย์เฟอร์ หรือ เทียร์
ภาพจากในอนิเมะบางส่วน :
วันนี้พวกเราจะไปจับโปเกม่อน ที่ซากโบราณสถานกัน จะไปด้วยกันไหมคะ
อืมๆ น่าสนุกดีนี่ เอาเป็นว่าใครจับได้ก่อน โปเกม่อนเป็นของคนนั้นนะ ตกลงตามนี้…
หน้าดันเจี๊ยนโบราณสถาน เหมาะสำหรับมาเป็นปาร์ตี้ (เลเวลแนะนำ 15-20 LV)
มันโผล่มาแล้วค่ะ นี่… นี่มันมนต์อสูร Alexander ไม่ใช่หรอคะ? (หลุดมาจากเกม Final Fantasy นี่หว่า?)
อ่าฮ่า! แบบนี้ก็แจ๋วซิ โปเกม่อนระดับหายากสินะ งั้นฉันจะจับมันเอง (นี่เธอคิดว่ามันยังเป็นโปเกม่อนอีกหรอ?)
เอาล่ะนะ นี่คือโปเกม่อนของฉัน!
Element Call ฉันเลือกนาย!
ยำมันให้หงายแล้วจับมันซะเลย!
วู้ม.. (ดูเหมือนว่ามันจะโมโหสุดๆ )
วู้ม… (ดูเหมือนจะพูดว่า ข้าจะขยี้ให้หมดทุกคน เจ้าพวกมนุษย์!)
งั้นฉันขอจัดการมันเองนะคะ ด้วยโปเกบอลอันนี้เอง
นั่นโปเกบอลเหรอ รูปร่างดูแปลกๆ อยู่นะเธอ
จะขว้างล่ะนะคะ ฮุ๊ย!
แวบ! บรึ้ม!!
เอ่อ… ดูเหมือนว่านั่นจะเป็นระเบิดมากกว่านะ ว่าแต่… จริงๆ แล้วเรามาจับมันไม่ใช่หรอ?
ตายล่ะ… นั่นไม่ใช่บอลจับโปเกม่อนนี่นา… พื้นถึงกับเป็นหลุมเลย (จบแต่เพียงเท่านี้… )
Anime RANK : B คะแนน : 7/10
ข้อดี : ตัวละครออกแบบได้น่ารักและคงรูปแบบตามต้นฉบับของเกมส์, เนื้อเรื่องดูใสๆ มีเสน่ห์น่าติดตามดี
จุดด้อย : เนื้อหาบางอย่างก็รู้สึกดูเรียบง่ายไปหน่อยนะ… ผมว่า
ผลงานอนิเมะที่สร้างจากเกมคอนโซลที่ลงให้กับเครื่อง PS3 ภายใต้รหัส “A15” โปรเจ็คท์ หรือก็คือ Atelier ภาคที่ 15 อย่างเป็นทางการนั่นเอง ซึ่งเป็นหนึ่งในการตลาดที่ทั้งตัวเกมและอนิเมะวางจำหน่ายควบคู่กัน ตัวอนิเมะนั้นได้ทาง Studio Gokumi ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่เกมจากซี่รี่ย์ Atelier ได้เป็นอนิเมชั่นทีวีซี่รี่ย์อีกด้วย…
งานภาพสดใสแนวแฟนตาซีจ้าไม่น้อย บรรยากาศในเนื้อเรื่องดูไม่เคร่งเครียดจนเกินไปนัก รู้สึกทึ้งเหมือนกันนะว่าหม้อปรุงนั่นสามารถสร้างอะไรก็ได้ ทำอาหารก็ได้ และยังซ่อมแซมของได้อีกต่างหาก ถ้าวิชาเล่นแร่แปรธาตุสามารถทำได้ขนาดนั้นจริงๆ นี่คงจะสะดวกน่าดู (มีจริงๆ ผมว่าต้องมีคนสร้างทองคำออกมาจนล้นตลาดแน่ๆ ) งานออกแบบในอนิเมะยึดแบบตามตัวเกมทุกระเบียบ ทั้งดูดีและน่ารัก ผมอวยคู่พระนางในอนิเมะเรื่องนี้นะ ดูเหมาะสมกันดี เสียงพากย์ของบรรดาตัวละครในอนิเมะยังคงใช้บรรดานักพากย์ที่ให้เสียงตัวละครตัวนั้นอยู่เช่นเดิม
ตัวเกมนั้นวางจัดจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้วบนเครื่อง PS3 (ซึ่งตอนนี้มีภาคล่าสุดของซี่รี่ย์ Atelier ออกมาแล้วคือ Atelier Ayesha: The Alchemist of Dusk บน PS3 และ PS VITA) หากใครที่เป็นแฟนประจำที่ติดตามเกมซี่รี่ย์นี้ ชื่นชอบเกมอยู่แล้ว คงต้องหาอนิเมะมารับชมแล้วล่ะครับ
Staff :
Director : Yoshiaki Iwasaki
Series Composition : Tatsuhiko Urahata
Screenplay : Tatsuhiko Urahata, Tatsuya Takahashi, Yoriko Tomita
Character Design : Keiya Nakano
Art Director : Chikako Shibata
Producer : Akira Watanabe, Junzo Hosoi, Ryōichi Ishihara (Pony Canyon), Shūichi Takashino (Sotsu)
Color design: Tamae Matsuoka
Editing : Masahiro Goto
Monster Design: Etsunobu Iwanaga
Theme Song Performance : Haruka Shimotsuki (ED) Rie Murakawa (OP)
Opening Theme : “Asuiro” by Rie Murakawa
Ending Theme : “Fuyumidori” by Haruka Shimotsuki
Trailer :
By miraclesaven
-
BEYBLADE X : 10 ตัวน่าซื้อ ของมันต้องมีในปี 2024
#beybladex #kctoysbeybladex #beybladexthailand
-
KARATE KID: LEGENDS [เรื่องย่อ / ตัวอย่าง / หนังใหม่ /2025]
#KarateKidMovie #KarateKi #เฉินหลง #JackieChan
-
20 ตัวละครจากเกมยอดนิยมที่ถูกค้นหามากที่สุดในเวปไซต์สำหรับผู้ใหญ่ 2024
#Ranking #website #Games #PC #Console