Assassin’s Creed Valhalla

ประเภท : Action 

ผู้ผลิต:  UBISOFT

ระบบ Xbox One, PlayStation®4, Epic Games, Uplay Stadia , Xbox Series X และ PlayStation®5

วางจำหน่าย  17 พฤศจิกายน

TRAILER

Assassin’s Creed^® Valhalla,  ภาคนี้พัฒนาโดยทีมงานเบื้องหลัง Assassin’s Creed Black Flag และ Assassin’s Creed Origins จาก Ubisoft Montreal, โดย Assassin’s Creed Valhalla จะเชื้อเชิญให้ผู้เล่นได้รับรู้มหากาพย์ของ เอโวร์ (Eivor), ขุนศึกไวกิ้งแสนดุดันผู้เติบโตมาท่ามกลางเรื่องเล่าขานแห่งการศึกและเกียรติยศ ภาคนี้จะนำเสนอประสบการณ์ในแบบไวกิ้งอันตราตรึงใจ มอบโลกโอเพนเวิลด์อันงดงามและเปี่ยมพลวัตให้แก่ผู้เล่นซึ่งมีฉากหลังเป็นยุคมืดแห่งอังกฤษ ผู้เล่นจะได้สัมผัสฟีเจอร์ใหม่อันประกอบไปด้วยการบุกปล้น, การสร้างชุมชนให้เติบโต รวมถึงการสร้างอำนาจและอิทธิพลของตนขึ้นมา 

ผู้เล่นจะสามารถเลือกได้ว่าจะเป็น  เอโวร์ เพศชายหรือเพศหญิง และจะยังได้เข้าถึงเครื่องมือปรับแต่งมากมาย รวมถึงความสามารถในการปรับแต่งทรงผม, รอยสัก, สีทาหน้าออกศึกและอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะพันธมิตรทางการเมือง, การตัดสินใจในการศึกหรือตัวเลือกบทสนทนา ต่างสามารถส่งผลต่อโลกใน Assassin’s Creed Valhalla ได้ทั้งสิ้น ดังนั้นผู้เล่นจะต้องตัดสินใจให้ดีเพื่อปกป้องบ้านและอนาคตของชนเผ่าของตน หลังจากรอนแรมมาจากนอร์เวย์ที่เต็มไปด้วยศึกสงครามไม่จบสิ้นและทรัพยากรที่ร่อยหรอในช่วงศตวรรษที่เก้า การได้รับบทบาทเป็น  เอโวร์ ทั้งในฐานะขุนศึกไวกิ้งและผู้นำแห่งชนเผ่านั้น ผู้เล่นจะได้เผชิญกับความขัดแย้งจากการสร้างรกรากแห่งใหม่ท่ามกลางการแย่งชิงอำนาจเพื่อปกครองอังกฤษด้วย

ผู้เล่นจะต้องสร้างอนาคตใหม่ให้แก่ชนเผ่า พลิกฟื้นรูปแบบการต่อสู้สุดอำมหิตของไวกิ้งกลับมาอีกครั้ง ด้วยระบบการต่อสู้ที่ถูกยกเครื่องใหม่ที่รวมถึงความสามารถในการใช้อาวุธแบบคู่เพื่อปะทะกับศัตรูที่หลากหลายที่สุดเท่าที่เคยมีมา เพื่อแย่งชิงทรัพยากร ผู้เล่นจะสามารถนำทัพออกปล้นในสถานที่ที่เลือกไว้โดยใช้ longship เพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพยากรและสมบัติล้ำค่า

ในยามที่เหล่าไวกิ้งเริ่มลงหลักปักฐานในบ้านใหม่นี่เอง พวกเขาต้องเผชิญกับการต่อต้านจากทัพแซกซอนซึ่งก็รวมถึง King Alfred แห่ง Wessex ด้วยนั่นเอง เขาได้ประณามไวกิ้งเป็นพวกนอกรีตและมุ่งที่จะเป็นผู้ปกครองเพียงหนึ่งเดียวแห่งอังกฤษอันอารยะให้จงได้ Eivor จะต้องเผชิญกับความท้าทายทุกแบบและต้องทำในสิ่งที่จำเป็นเพื่อมุ่งสู่ Valhalla อย่างที่หวังไว้

REVIEW  7/10 RANK C

เนื้อเรื่อง 2 /3

เกมเพลย์ 2 / 3

งานภาพ 2 / 3

ความชอบ 1 / 1

0= ห่วย  / 1=แย่ / 2=กลางๆ /3=ดีเยี่ยม

**ขอขอบคุณ UBISOFT Entertainment ที่เอื้อเฟื้อและสนับสนุนเกมเวอร์ชั่นดิจิตอลมาให้เราได้รีวิวกันในครั้งนี้**

 รีวิวนี้เขียนในแพทช์สำหรับสื่อมวลชน ยังมีจุดต่างจากแพทช์ขายจริงเล็กน้อย

แม้ว่าจะเป็นเกมที่สร้างดราม่าตั้งแต่วันเปิดตัว ที่เคยระบุว่า “จะทำซับไทย” แล้วก็กลับลำไม่ทำให้ รวมถึง “การเซนเซอร์” ที่ยึดตามหลักญี่ปุ่น แต่เอามาใช้ทั่วทั้งเอเชีย ก็ไม่ได้ทำให้ความเจ๋งของเกมนี้ลดลงเท่าไหร่หากเรามองด้วยใจที่ไม่อคติกันเกินไปนัก 

ในส่วนของเนื้อเรื่อง จะเล่าเรื่องราวต่อจากภาค Odyssey ที่ในยุคปัจจุบัน เลย์ลา (Layla)  อดีตนักวิจัยของบริษัทแอบสเตอร์โกอินดัสทรี ที่ต้องการตามหาเบาะแสของ ISU ไอเทมที่มีมาก่อนกาล เป็นไอเทมสำคัญในการใช้คานอำนาจเหล่าTemplars  ซึ่งจุดนี้ ถ้าใครไม่ใช่แฟนๆ Assassin Creed มีมึนงงแน่นอน ว่ามันเกิดอะไรขึ้น และเชื่อมโยงกับภาคเก่าๆได้ไง? ตรงนี้หัก 1 แต้มจริงๆ พวกเล่นโพล่งมาแบบงงๆเลยว่า นี่ใครวะ มันอะไรยังไง แถมโยงกับเหตุการณ์ในภาคเก่าๆ ช่วงเวลาที่ เดสมอนด์ พระเอกจากภาคก่อนๆยังอยู่ ต้องไล่ดูคลิปสรุปเนื้อเรื่อง หรือทำการบ้านภาคเก่าๆก่อนเล่น…แต่ถ้าเก๊ทในสิ่งที่ผ่านมาแล้วจะค่อนข้างโอเคเลยทีเดียว

แต่เนื้อหาในเกมหลักๆที่เล่าดี และไม่น่าปวดหัวเท่าไหร่ ก็คือ ช่วงเวลาการใช้ชีวิตของ “เอโวร์” ชาวไวกิ้งที่พามิตรสหาย “ซิกเกิร์ด” (Siggurd) พร้อมชาวคณะ ไปแสวงหาอนาคต ลงหลักปักฐานในอังกฤษ แต่ว่าการขยายตัวไปยังอังกฤษนั้นมีความซับซ้อน เพราะสงครามความขัดแย้งของพวกแซกซอน และลากยาวไปถึงประวัติศาสตร์ของแฟรนไชส์การต่อสู้ระหว่าง Templars และ Assassins ซึ่งเป็นองค์กรที่ทรงพลังสององค์กรที่ควบคุมส่วนใหญ่ของโลกซึ่งทั้งสองมีวิสัยทัศน์ที่แตกต่างมาจนถึงปัจจุบัน คุณสามารถสโคปเอาแค่ตรงนี้ก็ได้

ถ้าว่ากันจริงๆ ช่วงแรกเต็มไปด้วยความน่าเบื่อชวนหลับ การมีแผนที่กว้างๆในเขตหนาว ไร้ชีวิตชีวา ไร้แก่นสารใดๆในการสำรวจ กว่าจะเข้าถึงคอนเท้นท์เกมจริงๆ ก็ใช้เวลาอย่างมาก จนแทบไม่อยากเล่นแล้ว (ตรงนี้เป็นข้อเสียเลย) แต่เมื่อมาถึงเกาะอังกฤษแล้ว ความรู้สึกของคุณอาจจะเปลี่ยนไป ความสนุกที่แท้จริง ในส่วนของเกมเพลย์ได้เริ่มต้นขึ้น 

พวกบอทเวลสูง ถ้าเราของไม่พร้อม อย่าหาทำ โดนตบทีแทบหมดหลอด

ระบบต่อสู้ในเกมภาคนี้ มีอาวุธเถื่อนๆมันส์ๆให้ใช้เยอะ และศัตรูแต่ละตัวก็มีความหลากหลาย ทั้งด้านเครื่องแต่งกายที่แข็งแกร่งกว่า และเลเวลที่ค่อยๆไต่เพดานความยาก เกมจึงบังคับให้ผู้เล่น ได้ฟาร์มไอเทมก่อนจะมาเจอกับพกเวลสูง อันนี้ ก็จะมีความเป็นเกม RPG เข้ามาใช้ ซึ่งภาคก่อนๆเป็นไงไม่รู้ เพราะไม่ได้เล่น แต่ภาคนี้ทำออกมาเข้าท่าดี มีเหตุผลที่พอจะฟังขึ้น เพราะยิ่งเวลเสลสูง ทหารศัตรูก็จะมีเกราะที่หนาจนอาวุธเราไม่สามารถทำอะไรมันได้เลย แม้แต่การลอบฆ่า 1 Hit Kill ก็ทำไม่ได้

และนอกจากนั้น ยังจะมี เกจ Stamina ที่ชวนให้นึกถึงเกมตระกูลโซลทั้งหลายแหล่เข้ามากำหนดแอคชั่นผู้เล่นแบบหลวมๆ (กันอาการสแปมปุ่มแบบ Dynasty Warrior 55+)ทำให้ทุกมูฟเม้น ล้วนต้องคิดเยอะขึ้นเล็กน้อย (แต่ด้วยความที่เป็นไวกิ้ง พลังชีวิต ความเหนื่อย ฟื้นฟูไว) 

แม้จะมีกิมมิคบางอย่างที่เป็นข้อบังคับใช้ แต่เกมเพลย์การตะบันหน้าเหล่าคนเถื่อนด้วยความถ่อยนั้น มันสนุก ต่อเนื่อง แม้ว่า จะขาดความสะใจในแบบเลือดท่วมจอ อย่างที่โซนอเมริกาวางขาย “จนเหมือนสงครามไวกิ้งตบตุ๊กตายางมากกว่า”  (จากการที่แอดมินนั่งเล่น และเปิดคลิปของเวอร์ชั่น US มันต่างกันอย่างเห็นได้ชัดมากๆ)  ศพเกลื่อนฉาก ไม่มีเลือดซักหยด บ้าบอ!

ระบบสกิล จะมีทั้งแต้ม Passive Skills ที่สามารถอัพได้เมื่ออัพเลเวล (สามารถรีเซตทิ้งเพื่อลองข้ามสายได้ตลอดเวลา) และ สกิลกดใช้ Abilities  ที่ได้มาจากการตามหาสมุด Artifact ที่ซ่อนอยู่ในจุดต่างๆของเกม จำนวน 20 สกิล (ติดตั้งสูงสุดได้8สกิล)  

จุดขาวๆเล็กๆที่เห็น นั่นแหละ สกิล Passive ที่เยอะจัดๆ 

ไซด์เควสท์ในเกม จัดหนักจัดเต็ม ของรางวัลมากมาย โดยเฉพาะภาคนี้ มีระบบผังสกิลที่โคตรเยอะ ตาลาย รอให้คุณปลดล๊อก ทำให้เงื่อนไขในการได้ EXP ในเกมนี้ จะผ่านเควสท์ซะเยอะ เกมเลยจัดช่องทางในการปั๊มให้เก่งได้…

รวมไปถึงระบบล่าค่าหัวสมาคมมือสังหาร ที่มีการกำหนดระดับเป้าหมายในการฆ่าตามใบสั่ง และส่งผลต่อเนื้อหาในเกมพอสมควร แต่กว่าจะไปถึงตรงนั้น คุณควรหาทรัพยากรต่างๆทีได้มาจากการออกปล้นหมู่บ้าน มาอัพเกรดหมู่บ้านตัวเองเสียก่อน…

แต่ถ้าว่ากันตามจริง ผู้เล่นส่วนมาก เล่นเอาเนื้อเรื่องหลัก เอาให้จบ แล้วค่อยมาลุยทีหลัง ทำแบบ End Game Content ก็ได้ เพราะถ้าเราปรับความยากระดับปานกลาง การต่อสู้ก็ไม่ได้ยากถึงขั้นที่จะต้องมีสกิลติดตัวเยอะขนาดนั้น เล่นจบเกมรวดเดียวยังได้ ขอแค่รู้จัก กดบล๊อก กดหลบ สวน แทงเบาหนักอย่างถูกจังหวะก็พอ

จากวรรคที่ผ่านๆมาที่ได้อ่านกันนั้น ก็สามารถบอกได้เลยว่า Assassin ภาคนี้ เอาเข้าจริงๆ ไม่ค่อยได้ลอบฆ่าแบบภาคก่อนๆนัก เพราะตัวเกมพยายามผลักดันให้ผู้เล่นได้เข้าปะทะตรงๆมากกว่า แต่การลอบฆ่าในเกมก็ไม่ได้หายไปไหนนะ มันยังอยู่ดี แต่การบวกตรงๆนั้น มันส์กว่าเยอะเลย!

นอกจากความเถื่อน บ้าพลังของเหล่าไวกิ้งแล้ว ระบบเดินทางในเกมนี้ สามารถทำได้ทั้งทางบก และทางเรือ ซึ่งการเดินทางบนเรือนั้น มีกิมมิคอย่างการ Raid หรือพุ่งเข้าเทียบท่าแล้วโดดลงมาปล้นข้าวของ เป็นอะไรที่ฮึกเหิมมากๆ (ตัดระบบการรบบนเรือทิ้งไป เพราะไวกิ้งในเกมนี้ใช้เรือในการเคลื่อนพลมากกว่า)   อย่างที่บอก ถ้าเกมไม่ติดเซนเซอร์ เชื่อว่า คะแนนจะดีกว่านี้มากๆเลย 

ใครที่เบื่อการฆ่าฟัน อยากพักผ่อนหย่อนใจ ตัวเกมมีมินิเกมให้เล่น ทั้ง “เกมกระดาน” ที่เข้าใจยากโคตรๆในช่วงแรก แต่ถ้าเล่นไปซัก 4-5 เกม น่าจะเข้าใจกฎของมัน และยังมีระบบ “โต้วาที” เชือดเฉือนวิวาทะใส่กัน ใครที่เก่ง Eng เกมนี้คุณจะรักมันมากๆ และเกมเพลย์สายเมา “แข่งดื่ม” อันนี้สนุกกับการกดปุ่มเข้าจังหวะ ชนะได้ตังค์ด้วย อันนี้ดี เล่นง่าย ท้าทายสูง 

ส่วนงานภาพ แอดมินได้ทำการเล่นบน PS4 Pro ซึ่งมีการโหลดเข้าเกมที่ใช้เวลานานพอสมควร อีกทั้งยังมีปัญหาเรื่องการโหลดวัตถุต่างๆที่ไม่ทันใจ มีอาการวัตถุดินน้ำมันอยู่บ้าง รวมไปถึงเฟรมเรทที่ร่วงยับในฉากที่มี NPC หรือ ศัตรูเยอะๆในฉาก รวมไปถึง AI เอ๋อๆเบลอๆในหลายๆตัว แม้ว่ามันจะใส่เกราะหนาเตอะ เก่งกว่าผู้เล่น และมีดาเมจที่รุนแรง แต่พวกมันไม่ฉลาดเท่าไหร่ บางจังกวะก็สายตาสั้นมากๆด้วย หรือแม้แต่ NPC ฝั่งผู้เล่น ก็มีอาการนี้ด้วยในจังหวะพุ่งเข้าบวก  และยิ่งถ้าเราปล่อยเรือให้พวกมันพาเราไปแบบอัตโนมัต เรือจะพุ่งชน NPC เรือชาวบ้าน วิ่งวนไปจนเสียเวลาพอสมควร 

แต่ความสวยงามของดีเทล งานภาพต่างๆ ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่ที่หักก็เนื่องด้วยปัญหาจุกจิก และการดึงอารมณ์ร่วม ที่ทำไม่สุดนักเพราะติดเซนเซอร์  รวมไปถึงแผนที่กว้างมากๆ แต่รายทางกลับไม่มีจุดน่าสนใจ มันเวิ้งว้างว่างเปล่าจนดูไม่น่าเดินทัวร์เล่น  ซึ่งถ้าให้เทียบกับ Ghost of Tsushima ยังมีอะไรให้ทำเยอะกว่า ในระหว่างออกสำรวจนั่นละ…

โดยรวม เป็นเกมแอคชั่นมันส์ๆที่ดีเกมนึงเลย

แต่ไม่ได้น่าซื้อแบบ Day 1 เท่าไหร่นัก

รอลดราคาแล้วซื้อละกัน!!

แอดมิน AK47